Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com  


 
ฌาน ก็สามารถดับทุกข์ ลดทุกข์ที่เกิดในปัจจุบันทันด่วนให้บรรเทาลงได้ แม้อยู่ในทางตันมืดแปดด้าน ติดต่อทีมงาน

ผมได้ตั้งกระทู้ใหม่ตามที่เปรย ในกระทู้หนึ่งไว้ครับ  

      ประมาณเดือน ตุลาคม  2535 ไปแล้วผมได้งานใหม่ จากการแนะนำของรุ่นน้องมหาลัยเดียวกัน ในตำแห่ง เจ้าหน้าที่ซับพอร์ตโปรแกรมพื้นฐานได้แก่   ดอส 5. วินโดส์ 3.1 เวิลด์จุฬา โลตัส และ ดีเบส  ก็มีพนักงานที่ทำงานอยู่ก่อนคอยแนะนำและสอนในการทำงานคือคุณเจี๊ยบ  ตอนที่ผมกำลังเข้าไปสองสามวันแรก ก็มีพนักงานรุ่นเก่าออกไปหนึ่งคน ก็คิดว่าผมคงมาแทนคนนั้น  อีกประมาณสามเดือนกว่าต่อมา พนักงานคนหนึ่งในตำแห่งเดียวกับผมโดนไล่ออก ทั้งที่ผมเห็นเขาเก่งมากจบจุฬา พูดจาดี มีมนุษย์สัมพันธ์ดี ทำงานดี  โดนไล่ออกผมก็ไม่คิดอะไรมาก  และบริษัทก็รับพนักงานมาอีกคนหนึ่งในตำแหน่งนี้ เป็นผู้หญิงจบจากมศว.  ซึ่งผมต้องเป็นคนแนะนำและสอนในการทำงาน  แล้วหลังจากนั้นคุณเจี๊ยบ ก็โดนไล่ออก แล้วเดินมาหาผม บอกผมว่า

       “พี่เซียม เจี๊ยบโดนไล่ออก หาว่า ลูกค้าโทรมาว่าเจี๊ยบพูดไม่ดีกับลูกค้า”  

        ผม งง เลยครับ เพราะคุณเจี๊ยบทำงานเก่งมาก ผมสู้คุณเจี๊ยบไม่ได้เลยในการบริการหลังกายขายอย่างคุณเจี๊ยบ ทั้งการพูดจาก็ดีกว่าผมเสียอีก แต่ผมก็ยังไม่รู้ต้นสายปลายเหตุ จึงไม่คิดอะไรมาก

       หลังจากนั้นบริษัท รับพนักงานตำแห่งผมมาอีก 1 คน ให้เด็ก มสว. สอน  ประมานตุลาคม 2536 ก็รับมาอีก 1 คนให้ผมสอน พอเด็กคนนั้นทำงานได้ ออกหาลูกค้าได้

         ผมทำงานที่บริษัทนี้ประมาณ 1 ปีกว่านิดๆ  ซึ่งเงินเดือนรายได้ของภรรยา ยังไม่พอกับค่าเลี้ยงลูกบวกค่านมที่เรียนอยู่ชั้นอนุบาล  กับค่าเช้าห้องพักเลย และต้องผ่อนดาวบ้านการเคหะที่จองไว้ อีกเดือนละ 5,800 บาท

       เพราะคิดว่างานที่ผมทำอยู่พอมั่นคงพอประมาณ จึงกัดฟันกระเม็ดกระแหม ประหยัดเต็มกำลัง  แต่ผมเป็นประเภทคนที่ไม่สามารถหางานได้ง่าย เพราะถ้ายื่นใบสมัครงานที่ไหนตรงๆ  เพียงเห็นหลักฐานผมเขาก็ไม่รับแล้วครับ นอกจากคนรู้จักจริงๆ ที่อยู่ในบริษัทนั้นและรู้จักกับเจ้าของบริษัทแนะนำจริงๆ เจ้าของบริษัทจึงกล้ารับผมเข้าทำงานได้ เพราะผมเป็นเสมือนแรงงานเถื่อนในสมัยนั้น  และในสมัยนั้นกฎหมายแรงงานก็ยังไม่ชัดเจนเหมือนสมัยนี้ เจ้าของบริษัทจึงสามารถไล่พนักงานออกได้ ตามต้องการทันทีและไม่ต้องเสียอะไร .

          ดังนั้นเหมือนผมเดินอยู่บนเส้นเชือกห้ามพลาด เพราะถ้าพลาดความเป็นอยู่ของครอบครัวที่กำลังก่อตั้งอยู่ล้มไม่เป็นท่าเลยครับ(ผมล้มมาแล้วเมื่อปี 2530 ซึ่งลำบากอยู่แล้วก็ต้องทุกข์ซ้ำเข้าไปอีกเป็นเวลา ประมาณ 1 ปี ) ผมเป็นผู้นำครอบครัวย่อมรู้อยู่เต็มอก  และผมก็กำหนดสติภาวนาอยู่เนื่องๆ (ใจผมไม่เคยพรากขาดหายไปจากการปฏิบัติธรรมเลย ตั้งแต่ปี 2526 มาแล้ว แม้จะล้มลุกคุกคลานอย่างไร จนถึง ณ. ปีนั้น ).
       
         แต่แล้วประมาณกลางเดือนธันวาคม 2536 สิ่งที่ไม่คาดฝันได้เกิดกับผม ดังนี้.
-------------------------------------------------------------
       เจ้าของบริษัทเรียกข้าพเจ้าไปพบบนชั้นสองในห้องแล้วพูดว่า

     “ลูกค้าโทรมาตำหนิ ว่าคุณพูดว่าเขาโง่”

       ข้าพเจ้าได้ยินแล้วข้าพเจ้างงเลยครับ ข้าพเจ้านี้หรือพูดกับลูกค้าแล้วว่าเขาโง่ เป็นไปไม่ได้ยกเว้นจะพูดด้วยความขัดใจมีอารมณ์บ้างเมื่อลูกค้าทำไม่ได้เพราะไม่ย่อมจำคำสั่งผิดช่ำในกรณีเดิมหลายครั้งว่า “คุณต้องหัดจำคำสั่งบ้างนะ ไม่เช่นนั้นจะทำไม่ได้” (ต้องวิ่งไปสอนลูกค้าที่บริษัทลูกค้า แม้จะอยู่ไกลมาก)  เป็นข้ออ้างเดียวกับคนก่อนๆ ที่โดนบีบให้ออกแต่สำหรับข้าพเจ้านั้นง่ายกว่า บอกว่าให้เวลา สิ้นเดือนแล้วออกไป

        เมื่อข้าพเจ้าได้ยินคำว่าให้ออกภายในสิ้นเดือนนี้ ทั้งที่ข้าพเจ้าเป็นคนกำหนดภาวนากรรมฐานอยู่โดยตลอด ใจของข้าพเจ้าหายวูบเมื่อคิดถึงลูกและแฟนและภาระหนี้ที่จะต้องจ่าย เงินเดือนแฟนคนเดียวต้องล้มละลายแน่นอน เพราะข้าพเจ้าคงหางานทำได้อยาก หน้าข้าพเจ้าจึงสีดเผือกทันทีใจวิว ถ้าอาการเป็นมากกว่านี้อีกสักนิดโดยไม่มีสติสมาธิอยู่ สามารถเป็นลมได้ทันที ข้าพเจ้าได้ขอร้องเจ้าของบริษัทว่า ให้ข้าพเจ้าได้งานใหม่ก่อนได้ไหม เพราะข้าพเจ้าต้องรับผิดชอบครอบครัว เขาจะอยู่กันอย่างไร

       เจ้าของบริษัทสายหน้า แล้วเปรยๆ ว่า

     “คุณทำตัวคุณเอง” แล้วบอกให้ผมลงไป

      แล้วข้าพเจ้าก็ค่อยๆ เดินออกจากห้องของเจ้าของบริษัทอย่างช้าๆ ประคองตัวและใจเหมือนหมดทุกอย่าง การกำหนดภาวนาหลุดหายไปหมดเอาไม่อยู่

      เมื่อลงมาด้านล่าง น้องใหม่ผู้ชายเห็นหน้าข้าพเจ้าคนแรก แล้วพูดว่า

      “พี่ทำไมหน้าพี่ซีดขาวเผือกอย่างนี้ เหมือนจะเป็นลม”  

        ข้าพเจ้าก็พูดกับน้องว่าไม่เป็นไร เพราะน้องๆ เหล่านั้นไฟแรงพยายามแสดงความเหนือกว่ากัน ความอื้ออาธรระหว่างกันมีน้อยไม่เหมือนข้าพเจ้ากับคนรุ่นก่อนๆ  ข้าพเจ้าจึงไม่ได้บอกเล่ห์กลเหล่านั้นให้ฟัง แล้วข้าพเจ้าไปนั่งที่โต๊ะข้าพเจ้าเมื่อจิตเป็นทุกข์ยิ่งอย่างนี้ สติปัญญาก็บังเกิดให้เริ่มหาคำภาวนาที่เหมาะสม ก็นึกถึงคำภาวนาว่า

      “สัพเพสัตตา กัมมะสกา  อหัง กัมมะสะโก สัตว์ทั้งหลายมีกรรมเป็นของตนเองมีกรรมเป็นเผ่าพันธุ์  ข้าพเจ้าก็มีกรรมเป็นของตนเองมีกรรมเป็นเผ่าพันธุ์”

         หลังจากนั้นข้าพเจ้าก็ดูใจที่ทุกข์และภาวนาตลอดไปเรื่อยๆ  จนเลิกงานข้าพเจ้าก็ขึ้นรถเมล์สาย 13 กลับที่พัก ซ.อุดมสุข ต้องขึ้นทางด่าน แต่ต้องใช้เวลาอีกประมาณ 1 ชั่วโมงกว่าจึงจะถึงที่พัก ข้าพเจ้าก็ดูใจตนเองและภาวนาไปตลอด แต่ความทุกข์ยิ่งด้วยความน้อยใจความรู้สึกตกต่ำ ต่ำต้อยนั้นมีมาก กระตุ้นให้นึกถึงฐานะอันต่ำต้อยในเรื่องสิทธิ์เสรีภาพทางสังคมแทรกมาเป็นระยะเป็นช่วงๆ  เมื่อใกล้ที่จะลงทางด่วน

          จิตก็เริ่มเหมือนจะโดนบล็อกให้แคบลงๆ แล้วกระจายออกความทุกข์ใจต่างๆ เหมือนกับบรรเทาลง แต่สักระยะหนึ่งความรู้สึกให้ต้องทุกข์ยิ่งเรื่องต่ำต้อยต่างๆ ก็เข้ามาทุกข์เหมือนเดิม ข้าพเจ้าก็ยังกำหนดภาวนาไปเรื่อยๆ  

          แต่คราวนี้จิตเริ่มแคบลงๆ ๆ แล้ววูบหายไปเลย รู้อีกที่อารมณ์เปลี่ยนไปหมดแล้ว  ความทุกข์ใจต่างๆ โดนขุดทิ้งหมดไปเกินครึ่งและคงอยู่เพียงนิดหน่อย จนถึงที่พัก

           ส่วนแฟนถึงที่พักก่อน เมื่อข้าพเจ้าเปิดประตูเข้าห้อง แฟนเห็นหน้าข้าพเจ้าที่ซีดอยู่ก็ทำหน้าแปลกใจ แต่ไม่พูดอะไร  ข้าพเจ้านั่งลง แล้วข้าพเจ้าบอกแฟนว่า ข้าพเจ้าโดนให้ออกสิ้นเดือนนี้ แต่ใจข้าพเจ้าตอนนี้วางไม่ได้ทุกข์เหมือนตอนขณะถูกให้ออกได้แล้ว  แฟนจึงไม่พูดอะไรต่อ รุ่งเช้าก็ไปทำงานตามปกติ และเจ้าของบริษัทไม่จ่ายงานให้ข้าพเจ้าทำเลยคือให้เตรียมตัวออกอย่างเดียว เมื่อสิ้นปี.
-----------------------------------------------------------------

    ข้างบนนั้นเป็นการภาวนากรรมฐาน ในหมวดของ พรหมวิหารสี ข้อ อุเบกขาสมาธิ อันประกอบด้วยการเห็นทุกข์ทางใจยิ่ง  จนเข้าสู่ฌาน  ก็สามารถบรรเทาความทุกข์ยิ่งทางใจได้อย่างชะงักที่เดียว ไม่เช่นนั้นความทุกข์นั้นจะลากยาวไปนานแค่ไหน ก็ไม่รู้จนกว่าจะคลายไปเอง
   
  ส่วนท่านผู้อ่านจะสนทนา หรือมีเหตุผลต่างๆ ก็สนทนาได้นะครับ.

แก้ไขเมื่อ 19 ม.ค. 55 20:25:44

จากคุณ : P_vicha
เขียนเมื่อ : 19 ม.ค. 55 16:31:35




ข้อความหรือรูปภาพที่ปรากฏในกระทู้ที่ท่านเห็นอยู่นี้ เกิดจากการตั้งกระทู้และถูกส่งขึ้นกระดานข่าวโดยอัตโนมัติจากบุคคลทั่วไป ซึ่ง PANTIP.COM มิได้มีส่วนร่วมรู้เห็น ตรวจสอบ หรือพิสูจน์ข้อเท็จจริงใดๆ ทั้งสิ้น หากท่านพบเห็นข้อความ หรือรูปภาพในกระทู้ที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งทีมงานทราบ เพื่อดำเนินการต่อไป



Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com