ความคิดเห็นที่ 1 ทั้งนี้ ก่อนการตั้งกระทู้ ข้าพเจ้า ได้ทำการอ่าน กฏ กติกา มารยาท  และ หนทางติดต่อ อย่างถี่ถ้วนแล้ว  ขออนุญาตหยิบยกมาอีกครั้ง เพื่อทวนสอบว่า  ข้าพเจ้า หรือ ท่านใด ทำตามกฏกติกา แล้วหรือยัง   ขอคืน.. ความถูกต้อง สู่ห้องศาสนา... ขอบคุณค่ะ :) ก่อนตั้งกระทู้ กรุณาอ่าน กติกามารยาท และ Help ซึ่งถือเป็นข้อตกลง ในการใช้บริการก่อน และเพื่อเป็นการใช้เนื้อที่ ให้เป็นประโยชน์ต่อส่วนรวมสูงสุด  Pantip.com จึงจำเป็นต้องสงวนสิทธิ์ ในการลบข้อความหรือกระทู้  นอกเหนือจากข้อปฎิบัติดังกล่าว อันได้แก่ กระทู้ที่มีผู้แจ้งความให้ลบ โดยที่ทีมงาน Pantip.com ขอสงวนสิทธิ์พิจารณาก่อนดำเนินการ และถือว่าการตัดสินนั้นเป็นอันสิ้นสุด กระทู้ที่นำเสนอผิดกลุ่ม หรือซ้ำซ้อนในกลุ่มเดียวกัน,ในกลุ่มต่างๆ หลายกลุ่มโดยไม่จำเป็น กระทู้ที่มีเจตนาในเชิงการค้า ซึ่งควรจะอยู่ในกลุ่มที่จัดไว้ให้คือ PantipMarket.com ที่ได้เตรียมพื้นที่ไว้ให้แล้วเท่านั้น กระทู้จัดกิจกรรมต่างๆ ที่ยังไม่ได้ผ่านการแจ้งขออนุมัติต่อทีมงาน จากคุณ : เลื้อย เขียนเมื่อ : 20 ม.ค. 55 14:20:03

ความคิดเห็นที่ 2 เด็ดกลีบกุหลาบวันละ...1ล้าน...ดอก ต้องใช้เงินซื้อกุหลาบเท่าไร!! แก้ไขเมื่อ 20 ม.ค. 55 14:55:04 จากคุณ : chinatown เขียนเมื่อ : 20 ม.ค. 55 14:54:04

ความคิดเห็นที่ 3 ถ้าจะโดนโหวตลบ คงจะเป็นที่ชื่อกระทู้ จากคุณ : venture เขียนเมื่อ : 20 ม.ค. 55 15:21:33

ความคิดเห็นที่ 4 เบื่อมากเหมือนกันค่ะ จากคุณ : แมวเก้าแต้ม เขียนเมื่อ : 20 ม.ค. 55 15:26:35

ความคิดเห็นที่ 5 เบื่อด้วย จากคุณ : ปทุมฉัตรสหัสรังษี เขียนเมื่อ : 20 ม.ค. 55 15:36:57

ความคิดเห็นที่ 6 แบบนี้ เรียก ธุดงค์ หรือ ธรรมยาตรา เท้าเปล่า บนพื้น ไร้การเกณฑ์คนมาโปรยกลีบกุหลาบ... จึงจะเรียกว่า ทำจริง ธรรมจริง มิได้สร้างภาพ จากคุณ : ปทุมฉัตรสหัสรังษี เขียนเมื่อ : 20 ม.ค. 55 15:43:06

ความคิดเห็นที่ 7 ไม่เบื่อ  เพราะเข้าไปดูผ่านๆแล้ว  ไม่มีไรที่ตัวเองสนใจ  ก็ไม่เคยเข้าอีกเลย สบายใจ ครับ จากคุณ : Panda-baker เขียนเมื่อ : 20 ม.ค. 55 15:55:52

ความคิดเห็นที่ 8 คนมาก  ฟุ้งมาก จากคุณ : ไม่คิดมาก เขียนเมื่อ : 20 ม.ค. 55 16:04:33

ความคิดเห็นที่ 10 เป็นภาพที่งดงามมากนะ สีของดอกกุหลาบแดงๆเวลาถ่ายรูปออกมาน่ะมันสวยมาก ขึ้นกล้อง เป็นการสร้างความปลาบปลื้มแก่สาธุชนที่ไม่ค่อยได้ศึกษาพระธรรมพระวินัย หรือแม้เเต่เฉียดกรายเข้าใกล้พระไตรปิฎก...แม้เเต่นิด หรือ แม้แต่ศึกษาธรรมมาบ้าง แต่ด้วยความสวยงามของกิจกรรมนี้ ก็ยังสร้างความปลาบปลื้มในจิตให้คนที่พบเห็นอยู่ดี ... เอาเป็นว่า ใกล้เเล้วล่ะ .... จากคุณ : บุษกรจันทร์ เขียนเมื่อ : 20 ม.ค. 55 18:02:14

ความคิดเห็นที่ 11 ชื่อกระทู้โหด ครับ : ] จากคุณ : OnceWakeUp เขียนเมื่อ : 20 ม.ค. 55 19:16:22

ความคิดเห็นที่ 12 อย่างที่เจ้าของกระทู้บอกค่ะ..เบื่อ ถ้าไม่อยากเบื่อ ก็ต้องปล่อยวาง..ค่ะ ไม่ดู ไม่รู้ ไม่สน ไม่สัมผัส ไม่รับเข้ามา ทุกอย่างก็จบ...ค่ะ จากคุณ : ปลาซาบะสีทอง เขียนเมื่อ : 20 ม.ค. 55 19:56:31

ความคิดเห็นที่ 13 แค่นี้ก็ทนไม่ได้.... ผมเบื่อกระทู้ ติดอาวุธฯ อะไรของคุณต่อ ICU ผมยังต้องทำใจเลย... คุณหัดปล่อยวางบางนะ ...กระดานสังคมก็งี้แหละ.... มีทั้งคนชอบ และไม่ชอบ... จากคุณ : ร่มธรรม เขียนเมื่อ : 20 ม.ค. 55 20:14:22

ความคิดเห็นที่ 14 ผมเคยฟังไฟล์เทศน์ของท่าน ว.วชิรเมธี ท่านเคยบอกว่า "ถึงแม้ว่ามันจะเป็นการสร้างภาพ...แต่ถ้าหากว่าการสร้างภาพของเค้ามันทำให้อะไรๆดีขึ้นได้จริงๆ เราจะไม่ให้โอกาสเค้าได้ทำอะไรๆกันเลยเหรอ...?" ซึ่งผมก็เห็นด้วยกันกับท่านนะ...แต่สำหรับเคสต์ "โปรยกลีบกุหลาบ" นี้...มันคงไม่เข้าแก๊กหรอก เพราะว่า ลิ่วล้อของนายไชยบูลย์ทั้งหลาย...จะปฏิเสธมั้ย? ว่าเคสต์นี้มีผลทำให้...พุทธศาสนิกชน "เข้าใจผิด" ต่อ "แก่นสารสาระ" ของ "การธุดงค์" นะครับ...จะปฏิเสธมั้ย? เคสต์นี้มันไม่ใช่การสร้างภาพที่ก่อให้เกิดผลดีอะไรเลย...แต่ว่ามันเป็นการสร้างภาพที่ก่อให้เกิดความเข้าใจผิดไปจากแก่นสารสาระดั้งเดิม ผิดไปจากแก่นสารสาระ ของ "การธุดงค์" นะครับ...ถ้าหากว่ามองเข้าไปลึกๆมันไม่ใช่อะไรที่น่าปลาบปลื้มเลยแม้แต่น้อย หากแต่...มันคือ "ภัยร้ายภายใน" ต่างหาก ปล. เราๆท่านๆจะรู้สึกอย่างไรถ้าหากว่าต่อไปชาวบ้านจะเข้าใจไปว่า "การธุดงค์ของพระป่า" มันก็คือๆกันกับ "มหกรรมมาราธอนห่มเหลืองบนกลีบกุหลาบ" นี้ สำหรับผม...ผมว่ามันคง"น่าสังเวช" น่าดูเลยล่ะ จากคุณ : นักศึกษาธรรมมะฝึกหัด (Arltenis) เขียนเมื่อ : 20 ม.ค. 55 21:17:34

ความคิดเห็นที่ 15 ทีด่าเขาเป็นหน้าๆ อยู่เป็นปีๆ ตรบมือชอบใจ พอเขามาตอบมั่งก็หาว่าเขาโง่เง่าเต่าสถุล พอเขามาโพสแล้วช่วยกันปั๊มมั่ง กลับด่าว่าไม่เป็นธรรม นี่หรือชาวพุทธในยุคกึ่งพุทธกาล!!! จากคุณ : alone beneath the moon เขียนเมื่อ : 20 ม.ค. 55 21:17:37

ความคิดเห็นที่ 16 เอาล่ะ ตอบทีละข้อ 1. หัวกระทู้  "ตั้งใจ" ใช้แบบนี้.. จะใช้ ข้าพเจ้าเบื่อ ฉันเบื่อ ตรูเบื่อ I bored  .. อย่างไร ใจความ คงเดิม เอาตรงๆ ห้วนๆ นี่แหละ ตรง กับ ความรู้สึก ที่มีในใจ.. เหตุผล ตามที่ชี้แจง ต้องขออภัย หาก บาดต่อมสุภาพท่านใด ด้วยคำบางคำ ขอรับไว้พิจารณา วาระต่อไปค่ะ 2. ซีรี่ส์กระทู้ "ติดอาวุธทางปัญญา กรณีธรรมกาย.." สาระ แก่นสาร เนื้อความ ของกระทู้ที่พาดพิง กล่าวถึง เรื่อง อะไร เนื้อหา เจตนาแบบไหน เข้าข่ายข้อใด ตรงกลุ่มไหนหรือ ? ก. กระทู้ศาสนา ข. กระทู้นอกเรื่อง ค. ข่าวประชาสัมพันธ์ ง. ซื้อ-ขาย-แจก-แลก จ. กระดานชนวน ฉ. มีตติ้ง เที่ยววัด ทำบุญ เขากล่าวไว้ ด้วยเรื่อง อะไร เพราะอะไร ?? เขาแสดงไว้หน้าหลัก ผิดตรงไหน ?? โต้ตอบได้ ก็แสดงความเห็นไปสิ กระทู้ต้นเรื่อง ก็มี เหตุผล ข้อมูล ก็แสดงไว้อย่างชัดเจน เม็ดเงินและอำนาจน่ะ มันกลบความจริง ความถูกต้อง ไปไม่ได้หรอกนะ คุณค่า ศีลธรรม ก็ไม่อาจแลกด้วย ตำแหน่ง และสมณศักดิ์หรอก สิ่งที่ผิด มันก็ผิดอยู่วันยังค่ำ .. สิ่งที่ถูก ก็สมควร ส่งเสริม สนับสนุน บุญ - บาป มันก็ติดตัว ผู้กระทำนั้นเอง .. หาก คิดว่า เห็นถูก เห็นควร ก็แสดงออกในหนทาง ที่เหมาะสมสิ   ... ย้อนเข้าประเด็น "กระทู้ กิจกรรม มาราธอน โปรยกลีบกุหลาบ " เนื้อหา สาระ เข้ากับ หัวข้อใดล่ะ แล้ว พื้นที่ ที่เขาจัดเป็น หมวดหมู่ มีอยู่แล้ว ทำไม ไม่ไปตั้งในบริเวณ ที่สมควร ?? ตั้งหน้าหลัก แบบกระหน่ำจัด เหมาะสมหรืออย่างไร ?? 3. เรื่องปล่อยวาง น่าจะเห็นตัวอย่าง ชัดเจน อยู่แล้วนะ จากหน้ากระดานหลัก การ "ปล่อยวาง" ของ ท่าน ผู้มีอำนาจ.. ส่งผลอย่างไร ใครจะ ทำบุญ ทำทาน ฝังลูกนิมิต ปิดทอง ที่ไหน เมื่อไหร่ ก็ อยากจะตั้งหน้าหลักด้วย ภาพกิจกรรม ที่ยังไม่สิ้นสุด ที่ยังสามารถเรียกเม็ดเงิน เรียกศรัทธา ได้อยู่ เป็นไปได้ไหม หลายสายตาเห็น เม็ดเงิน ก็อาจจะเพิ่มพูน ไปด้วย ตามศรัทธา และปัญญา ที่แตกต่างกัน เมื่อกระรอก ตัวหนึ่ง วิ่งเข้าโพรง ตัวอื่น จะมองไม่เห็นรึ แล้วสิ่งที่ตามมา คืออะไร ?? "สังคม มีกฏ กติกา ไม่ช่วยกันรักษา ก็อย่าทำลาย" คน จะชอบ/ไม่ชอบ ขอบเขต ก็ต้องรู้และรักษา ใช่ไหม เมื่อ กฏพันทิป ก็ประกาศหรา รู้แก่ใจ แล้วยังทำลงไป  ... คำรณรงค์ ของ พันทิป ก็ประกาศอยู่ "ช่วยกัน รักษา บรรยากาศ ในหน้ากระทู้ เพื่อการแลกเปลี่ยนความรู้" แล้วก็ดูไว้ อะไรที่ ข้างนอก สุกใส ข้างในต๊ะติ๊งโหน่ง น่ะ.. มันปิดไม่มิด   อะไรหอม อะไรเน่า มันก็ย่อมส่งกลิ่น ... เมื่อริจะประชาสัมพันธ์ ด้วยวิธีแบบนี้ ก็ย่อมต้องรับมือ กับ Feedback ที่ชาวประชา พบเจอและรับรู้ คำถาม ข้อสงสัย ปมปัญหา ต่างๆ รอบด้าน และ ให้คำตอบ ได้ไหม   ภาพแบบนี้ สร้างแล้ว ผลดี คืออะไร ผลเสีย จะปฏิเสธไหม กล้าสร้าง.. ก็ต้องรับสิ ภาพ เมื่อสร้าง อยากให้อลังการ เวลาพังทลายล่ะ เป็นไง ?? ผลกระทบวงกว้าง เสียงลือ เสียงเล่าอ้าง กับ ผลตอบรับ  คุ้มกันหรือ ?? 1st พฤติกรรม ที่ เข้าสู่ อบายภูมิ ไปทุกที ก็ยังไม่มีวี่แววจะหยุด 2nd ยังจะฉุด ชาวประชา เข้าไปร่วม ลง... ด้วย   ควรแล้ว ล่ะหรือ 3rd ผู้คนต่อต้าน คัดค้านสารพัด.. หาเหตุผล ตอบโจทย์ สังคม.. ได้ไหมล่ะ ว่า สิ่งที่ "ทำ" อยู่น่ะ ถูกต้อง ตรงตามหลักคำสอน ของพระพุทธศาสนา แบบเถรวาท กล้าพูดไหม ว่า ซื่อสัตย์ เคารพ ต่อศาสนาพุทธ อย่างแท้จริง ยังไม่นับ พฤติกรรม การตลาด การชักจูงผู้คน รูปแบบต่างๆ นานา ที่กระทำ มากี่ยุค กี่สมัย 4. คำว่า โง่เง่า เต่าสถุล มีใครกล่าวไหม ในกระทู้นี้ มีโผล่มาซักคำไหม เกิดกระทู้ไหน ก็แสดงความเห็นใน รายละเอียดนั้นๆ สิ ประเด็นคำถาม "เหล่านี้" ถ้ามีคำตอบ ก็ว่ามา.. ขอบเขต กฏกติกา สังคม รู้นะ ว่า สิ่งใด ควร ไม่ควร ขอย้ำอีกครั้ง .. - "พื้นที่ ประชาสัมพันธ์" มี จัดตั้งอยู่แล้ว แสดงความเห็น ตาม "บริเวณ" อันสมควร - ถ้า เข้ามา ตอบคำถาม ก็ดี จะได้ชี้แจงกันเป็นข้อๆ ไป - ถ้า ตอบเหตุผล ตามคำถาม ที่กล่าวไว้ไม่ได้ หรือ ตอบได้ไม่ชัดเจน .. ไม่ต้องตีวัวกระทบคราด .. ทองแท้ จะกลัวใย เมื่อไฟลน . จากคุณ : เลื้อย เขียนเมื่อ : 20 ม.ค. 55 23:23:47

ความคิดเห็นที่ 17 ขออนุโมทนาบุญกับพี่ๆ ทุกๆ คนเลยนะครับ  พี่ๆ มาโฆษณา ประชาสัมพันธ์วัดฯ สู่สาธารณะชนอีกแล้ว " .. การที่เขานำไปพูดเช่นนั้น เท่ากับเอาสำนักไปเผยแพร่  ดีเสียกว่าการโฆษณาทางหนังสือพิมพ์  เพราะการที่เขานำไปพูดนั้นเป็นการกระทำของผู้พูดเอง  เราไม่ได้จ้างไม่ได้วานใคร  เมื่อพูดทางไม่ดีได้ ก็ต้องมีคนพูดทางดีได้เหมือนกัน   ธรรมจะต้องชนะอธรรมเสมอ เราไม่ต้องเดือดร้อนใจ ... "  ความตอนหนึ่งจากโอวาทพระเดชพระคุณพระมงคลเทพมุนี หลวงปู่ฯ วัดปากน้ำฯ ผมเชื่อหลวงปู่ฯ ครับ..   วันนี้ไปต้อนรับพระธุดงค์ ที่ พุทธมณฑล ศาลายา มาครับ  พระธุดงค์ท่านเดินผ่านเข้ามหาวิทยาลัยฯ ของผมด้วยหละครับ ปลื้มๆๆ  ก็เอาบุญมาฝากพี่ๆ ทุกคนเลยนะครับ  พรุ่งนี้ !! 21 มกราคม 2555 จาก พุทธมณฑล - มหาวิทยาลัยสยาม ขอเชิญไปร่วมโปรยกลีบกุหลาบต้อนรับคณะพระธุดงค์กันด้วยนะครับ  ปล. ถึงพี่ จขกท.ครับ อย่าเพิ่งเบื่อเลยครับพี่ อีกแค่ 5 วันเองครับ ก็จะจบโครงการแล้ว  ขอเชิญไปร่วมโปรยด้วยนะครับ.. เดี๋ยวจะคิดถึง.. ไม่รู้ด้วยนะครับ 55 จากคุณ : สาธุๆๆ (รักษาบรรยากาศ) เขียนเมื่อ : 20 ม.ค. 55 23:30:48

ความคิดเห็นที่ 18 เฮ้อ คห ด้านบน ยั่วยวนกัน ท้าทายกันแบบนี้ น่าสมเพชกว่าไปโปรยดอกไม้ให้พระเดินเหยียบอีก จากคุณ : บ่าวบ้านบาก เขียนเมื่อ : 21 ม.ค. 55 01:40:34

ความคิดเห็นที่ 19 ไม่กลัวพระเหยียบมือเอาเหรอ จากคุณ : บ่าวบ้านบาก เขียนเมื่อ : 21 ม.ค. 55 01:45:52

ความคิดเห็นที่ 20 อ่านเจ้าของกระทู้พิมพ์แล้วทำให้ได้ยิ้มครับ เว้นวรรคได้น่ารักดี ถ้าเปิดททบ.5ช่วงนี้ รายการข่าวตอนสายๆ จะเชิญศิษย์สำนักนี้มาโปรโมทพิธีกรรมกันทุกอาทิตย์ แปลว่า เขากำลังจะกวาดต้อน ลูกค้าหน้าใหม่ เข้าไปลอกคราบในสำนักครับ เรื่อง "ปริมาณกระทู้" ที่สำนักจานบิน ระดมตั้งกันมา ทำให้เข้าใจได้ว่า เขาเอาจริงครับรอบนี้ หวังจะกลับมามีหน้ามีตาในสังคมอีกครั้ง การเข้าเกียร์ว่างของทีวีหลายช่องในการสกรีนข่าว หรือกระทั่งเว็บ pantip แปลความหมายไม่ยาก ว่า โดนคาถาสะกดเกียร์เข้าไปหลายใบ แค่หยุดทำหน้าที่ซัก 2 อาทิตย์เพื่อแช่ข่าวโปรโมท ดักมวลชนที่เสพติดความวิจิตร สวยงาม เ้ข้าสำนัก วันนึง ได้ปริมาณคนหน้าใหม่เพิ่มหลายพันคน ก็ได้เงินบริจาคหลายแสนบาทล่ะครับ เอาปริมาณ ดัก ปริมาณ เป็นการตลาดที่แยบยลมาก... จากคุณ : Zim-MorLuth- เขียนเมื่อ : 21 ม.ค. 55 02:21:07

ความคิดเห็นที่ 21 โรยกันเข้าไปครับพี่น้อง ให้มันแดงทั่วแผ่นดิน จากคุณ : Nine Cats เขียนเมื่อ : 21 ม.ค. 55 04:03:30

ความคิดเห็นที่ 22 นักบวชสำนักนี้ เป็นสมณแกลบ ?? ไม่มีสำนึก ในพระธรรมวินัย  จากคุณ : ยามประจำวัน เขียนเมื่อ : 21 ม.ค. 55 06:53:16

ความคิดเห็นที่ 23 ช่วยกันลบ กระทู้โฆษณา...นักบวชเดินเหยียบกลีบกุหลาบด้วยครับ     http://www.pantip.com/cafe/religious/topic/Y11590860/Y11590860.html http://www.pantip.com/cafe/religious/topic/Y11584764/Y11584764.html http://www.pantip.com/cafe/religious/topic/Y11576699/Y11576699.html http://www.pantip.com/cafe/religious/topic/Y11576511/Y11576511.html http://www.pantip.com/cafe/religious/topic/Y11565562/Y11565562.html http://www.pantip.com/cafe/religious/topic/Y11536609/Y11536609.html http://www.pantip.com/cafe/religious/topic/Y11572621/Y11572621.html http://www.pantip.com/cafe/religious/topic/Y11565083/Y11565083.html http://www.pantip.com/cafe/religious/topic/Y11564598/Y11564598.html http://www.pantip.com/cafe/religious/topic/Y11520553/Y11520553.html http://www.pantip.com/cafe/religious/topic/Y11571052/Y11571052.html คห.3 และ คห.10 จากคุณ : ซามูไรหมูตอน เขียนเมื่อ : 21 ม.ค. 55 07:05:35

ความคิดเห็นที่ 25 รู้แต่ว่า งานนี้คนขายกุหลาบรวย ซึ่งก็คงจะฮั้วกับ ธัมมี่อีกเช่นเคย :-) จากคุณ : transformation (TRANSFORMATION) เขียนเมื่อ : 21 ม.ค. 55 10:38:16

ความคิดเห็นที่ 26 กรรมใครก็กรรมมันละครับงานนี้ จากคุณ : นักฆ่าดาบเดียว เขียนเมื่อ : 21 ม.ค. 55 12:20:52

ความคิดเห็นที่ 27 พระภิกษุ ผู้มีจิตที่ยินดีในการเดินธุดงค์ในระยะทางกว่า 365 กิโลเมตร กับ สาธุชน ผู้ยินดีในการต้อนรับพระธุดงค์ด้วยจิตที่เลื่อมใส แค่นี้ก็เพียงพอแล้วไม่ใช่หรือ จุดประสงค์ในการเดินธุดงค์ก็เพื่อให้สาธุชนได้มีโอกาสในการสั่งสมบุญ ได้อานิสงส์ในการต้อนรับพระด้วยจิตที่เลื่อมใส ความสุขก็เกิดภายในใจ ทำให้จิตมีความบริสุทธิ์มากขึ้น หลังจากที่ประสบทุกข์ภัยต่างๆ มาเป็นเวลานาน ส่วนพระธุดงค์ก็ได้สั่งสมบารมี 10 ทัศ ท่านเดินธุดงค์โดยการเปลี่ยนสถานที่ไปเรื่อย ๆ เพื่อไม่ให้ติดในสถานที่นั้น บางทีการเปลี่ยนบรรยากาศจะทำให้การทำสมาธิได้ดีขึ้นกว่าเดิม และก็ถือโอกาสได้โปรดญาติโยม (เมตตาบารมี)  ให้ญาติโยมได้บำเพ็ญ....ทานบารมี และได้ปฏิบัติธรรมกับพระธุดงค์ไปด้วย เสร็จแล้วก็จาริกต่อไป เปลี่ยนสถานที่ปฏิบัติธรรมไปเรื่อย ๆ  ซึ่งพอเปลี่ยนสถานที่ ทำให้มีสติอยู่กับเนื้อกับตัว คือใจจะอยู่กับเนื้อกับตัวไม่วอกแวกไปไหน  (อุเบกขาบารมี) การเดินธุดงค์ต้องไปกันเป็นทีม ถ้าจะเดินคนเดียวหากตั้งใจจริงก็คงไม่ยากที่จะไปถึง เพราะสามารถเดินเรื่อย ๆ เหนื่อยก็พักได้ แต่ถ้าเดิน ไปพร้อม ๆ กันหลายรูปถือว่ายากกว่า เพราะจะเอา อารมณ์หรือถือเอาสภาพสังขารตนเองเป็นหลักไม่ได้ แม้เหนื่อยก็ต้องรอพักพร้อมกัน และต้องออกเดินไป พร้อม ๆ กัน (ขันติบารมี) การออกธุดงค์นั้น ต้องใช้บารมีมากหน่อย ดังนั้นผู้ที่จะออกธุดงค์ต้องพร้อมทั้งร่างกาย และจิตใจ พร้อมที่จะถูกทดสอบต่าง ๆ ต้องเป็นประเภทกินอยู่ง่าย (เนกขัมมบารมี)  รู้ข้อวัตร ศีลต่าง ๆ อย่างดีแล้ว มีปฏิปทาที่แน่วแน่ มั่นคง (สัจจบารมี, อธิษฐานบารมี) ไม่หวั่นไหวง่าย ๆ  ศีลนั้นเป็นสิ่งที่สำคัญมากในการออกธุดงค์ เป็นประเภทแบบยอมเสียชีวิตได้ เพื่อไม่ล่วงละเมินศีลที่สมาทานไว้ ก่อนไปทุกครั้ง (ศีลบารมี) ส่วนข้อปฏิบัติในระหว่างธุดงค์นั้น  การทำวัตรใช้เวลาน้อยมาก ใช้เวลาฉันน้อยมาก ทานน้อย นอนน้อย แต่ทำความเพียรมาก (วิริยะบารมี) เพื่อให้มีเวลากับการเจริญสมถะและวิปัสสนา (ปัญญาบารมี) พระภิกษุออกเดินธุดงค์เพื่อไม่ได้ยึดติดกับสิ่งใด เป็นการฝึกสติและสมาธิไม่ให้หวั่นไหวกับสิ่งภายนอกตัว พร้อมทั้งยังสั่งสมบารมี 10 ทัศ แล้วทำไมทุกท่านต้องมาสนใจยึดติดกับสิ่งที่อยู่รอบตัวของพระ สาธุชนได้มีส่วนร่วมในบุญของพระธุดงค์  โดยการ โปรยกลีบกุหลาบต้อนรับพระธุดงค์ด้วยจิตที่เลื่อมใส มีอานิสงส์มาก เพราะพระธุดงค์ชุดนี้ ได้สั่งสมบารมี 10 ทัศ ในการออกเดินธุดงค์ ถ้าแค่เห็นพระเดินธุดงค์ แล้วก็ปล่อยผ่านเลย เราก็จะไม่มีส่วนร่วมในบุญนี้ด้วย นี่คือ อุปนิสัยในการสั่งสมบุญของพุทธศาสนิกชนอย่างแท้จริง เห็นบุญอยู่ตรงหน้าก็ไม่ปล่อยผ่านเลยไป จากคุณ : gleaming เขียนเมื่อ : 21 ม.ค. 55 18:17:41

ความคิดเห็นที่ 28 ^ ^ ^ ถ้าหากว่าล๊อกอิน gleaming จะบอกว่า "มหกรรมมาราธอนบนกลีบกุหลาบ" ของสำนักพระธรรมกายครั้งนี้...เป็น "การธุดงค์" ดังนั้น... - ล็อกอิน gleaming จะบอกว่า "การธุดงค์โดยมีชาวบ้านร่ายล้อมอยู่ตลอดเวลา" นั้น...ถูกต้องตรงตามหลักการ "ธุดงค์วัตร" อย่างนั้นเหรอครับ...? - ล็อกอิน gleaming จะบอกว่า "การธุดงค์ผ่านย่านชุมชน" นั้น...ถูกต้องตรงตามหลักการ "ธุดงค์วัตร" อย่างนั้นเหรอครับ...? - ล็อกอิน gleaming จะบอกว่า "การปูเสื่อให้ตลอดทาง" และ "การโปรยกลีบกุหลาบให้ตลอดทาง" เป็นการปฏิบัติที่ถูกต้องดีแล้ว...สำหรับ พุทธศาสนิกชนที่จะปฏิบัติต่อพระธุดงค์อย่างนั้นเหรอครับ...? - ล๊อกอิน gleaming จะบอกว่า "การไปเที่ยวเดินเรี่ยไรเงินจากชาวบ้านในท้องที่...เพื่อนำเมาซื้อดอกกุกลาบ...แล้วเด็ดกลีบโปรยตามทางให้กับ พระธุดงค์" เป็นการกระทำที่ถูกต้องแล้วสมควรแล้วอย่างนั้นเหรอครับ...? จากคุณ : นักศึกษาธรรมมะฝึกหัด (Arltenis) เขียนเมื่อ : 21 ม.ค. 55 21:34:45

ความคิดเห็นที่ 29 สวัสดี วันตรุษจีนค่ะ  อื้มมม ก่อนอื่น ขอบคุณนะ ที่เห็น action.. อย่างน้อยก็ สำหรับวันนี้ ..  หวังว่า จะได้รับความร่วมมือ ร่วมใจกันสร้าง ชุมชน ออนไลน์ คุณภาพ "ด้วยกฏ ด้วยกัน"  สำหรับประเด็นกระทู้ .. เป็นอันว่า ไม่มีผู้ตอบคำถาม ใช่ไหม  ไม่เป็นไร .. ขอ อย่าทำลาย กฏ มากไปกว่านี้ ก็ขอบคุณ ..  หากเล่นซิกแซก ใครดูก็รุหรอก แล้วผลของกรรม ก็จะเป็นไปตามเหตุปัจจัยเอง  งานไหน เรื่องใด ทำอะไร กรรมของใคร ก็ย่อมเป็นของคนนั้นอยู่แล้ว... ไม่เห็นต้องกลัว  เห็นข้อสันนิษฐาน แสดงทัศนะ บางท่าน .. ทำให้เกิดไอเดีย .. ขอเสนอไว้หน่อยค่ะ.. ขอบคุณสำหรับคำวินิจฉัย อาการแท้จริง ไม่ทราบชัดได้ เพราะใจมนุษย์ สุดจะหยั่ง เรื่องการเข้าเกียร์ว่าง ว่าจะเขียน ความเห็นไว้สักหน่อยเช่นกัน ..  แต่เกรงว่า เข้าข่ายหมิ่น... เหม่  เลยวาง อุเบรคขา ก่อน.. ค่อยว่ากัน   _/* _/* _/* _/* _/* _/* _/* _/* _/* _/* _/* _/* _/* _/* _/* _/* _/* _/*  ต่อสำหรับ บางประเด็น .. 1. อย่าเพิ่งดึงกีฬาสีมาเกี่ยวเลย งานวัดยังไม่เรียบร้อย อย่าเพิ่งชวนออกเหงื่อนะโยม 2. ขอบคุณสำหรับ คำเชิญ บังเอิญ ไม่อยู่ในวงโคจร เส้นทางเราคนละสายกันนะ  คุณพี่ไม่มีความคิด จะไปร่วม "พิธี" สำนักที่คุณน้องกล่าวไว้ แม้แต่น้อย ...  ขอให้ความลำบาก ที่มีต่อผู้ต้องใช้เส้นทางสัญจร เบียดเบียนผู้คนน้อยที่สุด  เสียงร่ำลือ จะได้ไม่กระพือ ..หึ่งไปมากกว่านี้..  :)   _/* _/* _/* _/* _/* _/* _/* _/* _/* _/* _/* _/* _/* _/* _/* _/* _/* _/* 3. คำว่า "ธุดงค์" .. ใช่หรือ ควรหรือ จะมอบกริยา "ธุดงค์" ให้  สมมติสงฆ์ กับการรวมหมู่เดินย่ำบนเสื่อ  โปรยกลีบกุหลาบ ตามเส้นทางที่จัดไว้ เบียดเส้นทางจราจร เกณฑ์ผู้คนสารพัดอาชีพ มานั่งเรียง  มีอุบาสก อุบาสิกา มานั่งแตะ ลูบ ข้อเท้านักบวช  เนี่ยน่ะหรือ ธุดงค์ ??   ไม่ไหวนะ ไม่ไหวจะเคลียร์ ... อายมั่งไหม พูดมาได้.. ธุดงค์ ไม่แปลกที่ต้องถูกจี้ถามต่อว่า ธุดงควัตร เป็นอย่างนี้หรอกหรือ ??  ตอบได้ไหมล่ะ คำถาม ร่ายเรียง ที่โดนประดังเข้าน่ะ  ก็ริจัด ก็ริคิดว่า ประชาสัมพันธ์ ยิ่งจะดึงคนได้.. คำถาม รูโหว่ ที่เกิดขึ้น อุดได้ไหม  ช่วยบอกเต็มปาก เต็มคำได้มั้ย ว่า หากเรียกว่า การธุดงค์ แล้ว  เป็นไป เพื่อการ ลด ละ กิเลสข้อไหน อย่างไร ?? สิ่งที่อยู่รอบตัวพระ บริบทกิจกรรม ไม่สนใจ ได้หรือ ?? บริสุทธิ์ใจหรือเปล่า ??  _/* _/* _/* _/* _/* _/* _/* _/* _/* _/* _/* _/* _/* _/* _/* _/* _/* _/* 4. เส้นทางที่เดิน พื้นที่หลังประสบภัยน้ำท่วม มาหมาดๆ  ที่ว่า ช่วยขจัด ให้ชาวบ้าน ที่ถูกน้ำท่วม ให้เกิดความสุข จิตบริสุทธิ์... ใช่เหรอ ?? เอาอย่างนี้ดีกว่ามั้ย ..  หากตั้งใจ ช่วยเหลือ ชาวบ้าน จริงๆ  เงินน่ะ ให้หมุนไป ไม่ต้องดึงเข้าสำนัก   แจกจ่าย ทรัพย์ ที่ ได้มาทั้งทางตรง ทางอ้อม สุจริต ชอบ มิชอบ ทั้งหลาย เอามาช่วยเหลือ จุนเจือ ซับน้ำตา ให้ ชาวประชา จะได้ บรรเทา ความเดือดร้อน  กิจกรรม หรือ การหมุนเวียนของเงิน ให้ผู้ประสบภัย อย่างเป็นระบบน่ะ มีไหม ?? ไม่ต้องมองแคบๆ เพียงว่า งานนี้ มีแต่คนขายดอกกุหลาบ ได้กำไรนะ .. ตื้นไปไหม ?? ..  เฮ้.. การตลาด สำนักนี้ ร่ำลือว่าดี ไม่ใช่หรอ ..  ช่วยเหลือ ชาวประชา คนไทยด้วยกันหน่อยสิ คืนกำไรสู่สังคมหน่อย  จะแก้ภัยน้ำท่วม จะเสริมสร้างกำลังใจ แก้ให้ถูกจุด เกาให้ถูกที่คัน...  คนที่เขา ต้องสูญเสียทรัพย์สินจากน้ำท่วมอยู่แล้ว ยังต้องมาเสียสละ ทั้งเวลา และเงินทอง มากองให้.. โดยนโยบาย ที่แยบยล  ในการโปรโมต "กิจกรรม" อย่างนี้อีก เรียกอะไร ??  สงสารชาวบ้านที่เขาเดือดร้อน ไม่รู้อิโหน่อิเหน่มั่งไหม ?? ...  การตลาดดีๆ เนี่ย จะช่วยให้ได้.. ทั้งใหญ่ ทั้งยาว เชียวนะ.. บุญน่ะ  บุญง่ายๆ อย่างนี้ ปัจจัย ก็มีพร้อมอยู่ แล้วนี่ ..ลองซักหน่อยสิ  บุญก็อยู่ตรงนี้ไง ไม่ปล่อย.. เล้ยยย ;)  เงิน กำลังจะหมุนไป กำลังจะหมุนไป .. สู่มือใคร ?? จากคุณ : เลื้อย เขียนเมื่อ : 21 ม.ค. 55 22:50:25

ความคิดเห็นที่ 30 เขาคงอยากแชร์น่ะ Sharing is great จากคุณ : ครุฑแดง เขียนเมื่อ : 21 ม.ค. 55 23:44:46

ความคิดเห็นที่ 31 ใจสงบคงพบคำตอบ จากคุณ : This Will be Better เขียนเมื่อ : 22 ม.ค. 55 02:28:03

ความคิดเห็นที่ 32 แน่ใจหรือศาสนาพาสงบ จากคุณ : ไม่สวยแต่เลือกค่ะ เขียนเมื่อ : 22 ม.ค. 55 20:06:00

ความคิดเห็นที่ 33 บ้านอยู่พุทธมณฑลสายสี่ ไปธุระ รถติดม๊าากก  ตอนแรกคิดว่าเกิดอุบัติเหตุ พอมาประสบจุดเกิดเหตุก็อ้อ งานนี้นี่เอง  ก็ไม่ได้ว่าอะไร ทำกันไป ตกเย็นไปกินข้าว  กำลังซื้อขนมปังสังขยา เห็นพ่อค้ากับลูกชาย คุยอะไรกันซักอย่าง  ที่แท้  เด็กจะเอากลีบดอกกุหลาบมาวาง แล้วบอกพ่อว่า เป็นสิริมงคลน่ะพ่อ  พ่อนี่ไม่รู้อะไร นี่เป็นบุญใหญ่เลยน่ะ พ่อก็พูดว่า เอ้า สิริมงคลก็สิริมงคล โปรยเลย นึกภาพดอกกุหลาบมีเท้าพระ (พระหรือคนห่มผ้าเหลืองก็มิอาจรู้ได้) ย่ำ เหยียบ แล้วมาวางบนของกินเนี่ยน่ะ  เอ้อ....อะไรไม่เท่ากับเด็ก ที่จะเข้าใจคำว่าบุญ สิริมงคล ไปผูกกับพิธีกรรม เมื่อหลายวันก่อนฟัง จส 100 มีผู้หญิงคนหนึ่ง ไปโรยแบบนี้แหละแถวบางใหญ่ แต่ทำกระเป๋าสตางค์ซึ่งมีเงินหลายหมื่นบาทตก  ไปแจ้งประชาสัมพันธ์ในงาน แล้วป้าเค้าก็คิดว่า มีแต่คนไปทำบุญ คิดว่าจะไม่หาย.....งง คิดได้ไงว่าคนที่ไปงานแบบนี้เป็นคนดีทั้งหมด   เฮ้อ กรรม ไม่ได้ขัดแย้งหรือต่อต้านวัดนี้น่ะค่ะ  แต่รู้สึกว่าบางอย่าง บางความคิด มันค่อนข้างปรุงแต่งมากเกินไป  จนคิดว่ามันไม่ใช่วิถีพุทธน่ะค่ะ จากคุณ : anindita เขียนเมื่อ : 22 ม.ค. 55 20:22:22

ความคิดเห็นที่ 34 "จุดประสงค์ในการเดินธุดงค์ก็เพื่อให้สาธุชนได้มีโอกาสในการสั่งสมบุญ ได้อานิสงส์ในการต้อนรับพระด้วยจิตที่เลื่อมใส" คิดว่าไม่ใช่นะคะ  ธุดงค์ แปลว่า องค์คุณเป็นเครื่องกำจัดกิเลส, องค์คุณของผู้กำจัดกิเลส หมายถึง เจตนาความตั้งใจขัดเกลากิเลส, เจตจำนงความจงใจที่ทำให้ละกิเลสได้ของพระท่าน ธุดงค์วัตร หมายถึงกิจวัตรของการธุดงค์ที่พระพุทธเจ้าทรงอนุญาตมี 13 วิธี ซึ่งจะขอยกบางข้อมา ณ ที่นี้ ข้อ 4 .สปทานจาริปังคะ ละเว้นการโลเล (ยึดติด) เที่ยวจาริก (ภิกขาจาร) (เพื่อมิให้ผูกพันกับญาติโยม) สมาทานบิณฑบาตรตามลำดับ ข้อ  8 . อารัญญิกังคะ ละเว้นการอยู่ในเสนาสนะใกล้บ้าน สมาทานการอยู่ในป่าไกล 500 ชั่วคันธนู หรือ ราว 1 กิโลเมต ข้อ 11. โสสานิกังคะ ละเว้นการอยู่ในสถานที่ไม่เปลี่ยว สมาทานอยู่ป่าช้า ดังนั้นที่บอกว่า "การเดินธุดงค์ต้องไปกันเป็นทีม ถ้าจะเดินคนเดียวหากตั้งใจจริงก็คงไม่ยากที่จะไปถึง เพราะสามารถเดินเรื่อย ๆ เหนื่อยก็พักได้ แต่ถ้าเดิน ไปพร้อม ๆ กันหลายรูปถือว่ายากกว่า" คงไม่น่าใช่ จากคุณ : flower fairy เขียนเมื่อ : 23 ม.ค. 55 08:52:23

ความคิดเห็นที่ 35   ความคิดเห็นที่ 13 MsgStatus(Msv[13], 13); แค่นี้ก็ทนไม่ได้.... ผมเบื่อกระทู้ ติดอาวุธฯ อะไรของคุณต่อ ICU ผมยังต้องทำใจเลย... คุณหัดปล่อยวางบางนะ ...กระดานสังคมก็งี้แหละ.... มีทั้งคนชอบ และไม่ชอบ... ^^^^ เออหว่ะ....จริงด้วย... จากคุณ : โลกมันก็น่าเบื่อเงี๊ยแหละ... (pa-o-toi-uan) เขียนเมื่อ : 23 ม.ค. 55 11:22:31

ความคิดเห็นที่ 37 ตอนแรกเฉยๆ กับกิจกรรมนี้  ก็มองในแง่ดีไว้ก่อน  แต่พอมาเห็น รูป สีกา เอามือไปล้างเท้าพระ ไป จับ สัมผัส ราวกับว่า เจตนาดี เจตนากุศล แล้วพระท่านไม่ต้องอาบัติ??? บ้างก็แก้ต่างว่าคนเยอะ   ดูแลไม่ไหว   บ้างก็แก้ต่างว่าโยมแม่  บ้างก็ว่า มีแต่ผู้ชายทั้งนั้นที่ล้างเท้าพระได้ สงสัย ปนขุ่นเคืองใจ  ว่าทำไม พระท่านไม่ห้าม ไม่ปราม   โยมสีกาที่โลภในบุญ ทั้งล้าง ทั้งขัด ทั้งถู ,,,  เห้ออออออออ จากคุณ : OnceWakeUp เขียนเมื่อ : 23 ม.ค. 55 13:42:34

ความคิดเห็นที่ 38 จานบินอีกแล้ว ทำไมต้องบิดเบือนคำสอน จากคุณ : pagoda555 เขียนเมื่อ : 23 ม.ค. 55 14:43:26

ความคิดเห็นที่ 39 ถ้าสงสัยอะไรเกี่ยวกับการเดินธุดงค์วัดพระธรรมกาย ให้โทรถามได้โดยตรง ไม่ต้องเสียเวลาโพสต์ เพราะไม่อยากให้เป็นประเด็นว่า ชาวพุทธไม่สามัคคีหรือว่าร้ายกันเอง ขอยืนยันว่ากิจกรรมของวัดพระธรรมกาย อาจมีความแปลกใหม่ แต่เป็นความตั้งใจดี ใครไม่เข้าใจหรืออยากจะเสนอแนะอะไร ให้โทร.มาได้ที่ 02-831-1234, 02-831-1000 หรือโทร.โดยตรงที่ พระสนิทวงศ์ 083-5404744 รับ (ทุกสายจนกว่าแบตหมด) จากคุณ : มองตาม เขียนเมื่อ : 23 ม.ค. 55 15:03:56

ความคิดเห็นที่ 40 #39 ถ้ามีคนโทรไปบอกธรรมกาย แล้วสมาชิกในห้องศาสนาจะทำตามกฎดีขึ้นรึไง? มึนอะไรรึเปล่า จากคุณ : โอ่อี๊โอ (oiooo) เขียนเมื่อ : 23 ม.ค. 55 18:02:39

ความคิดเห็นที่ 42 ธรรม+กลาย อีกไม่นาน พระธรรม คำสั่งสอนที่แท้จริงของพระพุทธเจ้า คงสูญหายหมด น่าเศร้าจริงๆ หว่ะ... จากคุณ : ComUser เขียนเมื่อ : 23 ม.ค. 55 19:30:38

ความคิดเห็นที่ 43 สวัสดีค่ะ  อ่าา หลากหลายความคิดเห็น และมุมมอง ว่ากันไป ..  คุณ #41 ตรรกะ น่าคิดนะ .. ใครเป็นอย่างที่คุณว่าไว้วู้ .. ชูจั๊กกะแร้นนด้วนน หันซ้าย หันขวา ... เอ ไม่เห็นใคร จุ๊กกรูแร้นด้วน นะ.. บ๊าย บาย :)  - ว่ากันถึง บางประเด็น - ก็เห็น เอาไปแปะไว้หลายกระทู้  จะตั้งใจ เพื่อกิจใด มิอาจทราบ.. โดน ก็คงประเด็นเดิมๆ    1. ความสงสัย กังขา ไม่จำเป็นต้องโทรถามกระมัง  สังคมมีเสียงตอบรับ ตอบโจทย์เขาได้ไหม ??   (บรรยากาศวังเวง เงียบเป็นอมสาก เอ้ย เป่าสาก  ) ทำไม ต้องให้ไปถามทางต้นสังกัดเอง ?? สิ่งดีๆ ทำที่ไหน ก็ดี ที่ลับ ที่แจ้ง ย่อมมีผู้สรรเสริญ กุศล ก็เกิดก่อ ต่อผู้กระทำเอง สิ่งเลวๆ ทำที่ไหน ก็เลว ที่ลับ ที่แจ้ง กรรม ก็ย่อมตกแก่ผู้นั้นเช่นกัน.. กลัวอะไร ท่านใด ใกล้ชิด เป็นศิษย์ผู้ศรัทธา หาคำตอบได้.. ก็ชี้แจงกันมา ณ ที่แจ้ง ข้อกังขา เหล่านี้ ถ้ามีคำตอบ สังคมส่วนใหญ่ จะได้รับรู้.. หากดีงาม จะได้เห็นชอบด้วย  แต่หากเคลือบแฝง "สิ่งไม่ชอบมาพากล" "กลยุทธ์" "เบื้องหลัง" อันส่อเจตนาไม่บริสุทธิ์  "การกระทำ" "กิจกรรม" "พฤติกรรม" ย่อมต้อง ถูกทวนสอบ..  ในหลากหลายรูปแบบ วิธี ตามแต่ แต่ละคนจะกระทำ จะเป็นอะไร.. หาก คำถาม รุมกระหน่ำ ก็ย่อมต้องเจอเป็นธรรมดา กล้าทำ กล้าโชว์ กล้าโปรโมต กล้าจัด กล้าแสดง ผลกระทบ ก็มีต่อสังคม ก็รับผิดชอบ การกระทำด้วยสิ ..  การธุดงค์ กับ สิ่งที่ทางสำนัก.. พยายาม จัด "สร้างภาพ" บรรยากาศ.. เช่นนั้นอยู่ ..  ถูกต้อง สมควร หรือ ??  ไม่สมควร อย่างไร ?? (หลายท่านชี้แจงไว้แล้วนะ)  กล้าทำเช่นนั้น ระดมและเบียดเบียน ทั้งทุน ทรัพยากร ธรรมชาติ และ บุคคล ฯลฯ แล้วยังเผยแพร่สิ่ง คลาดเคลื่อน จาก ความถูกต้อง ของพระพุทธศาสนา ให้แก่ชาวประชา ผู้ยัง ศรัทธาในบุญ มาก ... ใจทำด้วยอะไร จึงไม่ละอายบาป   2. ความแปลกใหม่ ที่สร้างสรรค์ และ เป็น "บุญกุศล" ยังมีอีกมาก ความตั้งใจดี ตั้งอยู่บนพื้นฐานดี การกระทำย่อมแสดงออกให้เห็น  รู้กันอยู่แล้ว ว่า อะไรเป็นอะไร ตามเนื้อผ้า สิ่งที่โชว์อยู่ และพยายามออก "สื่อ"   3. ข้อแนะนำ ที่ สาธุชน พุทธศาสนิกชน ได้มอบให้  รวมทั้ง หนทางปิด อบายภูมิ อีกหลากหลาย ความปรารถนาดีทั้งนั้น หากมองจากมุมกว้าง ทางสังคม.. กลับละเลย เมื่อประมวล จากหลากหลาย มุมต่าง  ย่อมนำไปปรับพิจารณ์ และ น้อมรับให้เกิดกุศลได้ มิใช่เพียง เอาความ "แปลกใหม่" มาเป็นจุดขาย ตื้นๆ ..  4. เรื่องความเข้าใจ  ถามสำนักเดียวกันก่อนเถิด เข้าใจพุทธศาสนาดีแค่ไหน ?? เข้าใจแล้ว ปฏิบัติตามพระพุทธศาสนา พระธรรมวินัย หรือเปล่า ?? 5. เรื่อง ความสามัคคี  คน ควรต้องสมาคม กับโจร พระพุทธศาสนา ไหม..  การกระทำหลายอย่าง พิเคราะห์ได้ ว่า "สมควร" หรือไม่ อย่างไร ... แล้วยัง "ทำ"   ดีเท่าไหร่ ที่ Headquarters อยู่สยามประเทศ แผ่นดินที่เงิน ง้าง อะไรๆ ไม่ยากนัก  จะเปิดตา ปิดตา เปิดหู ปิดหู .. กับเรื่องใด ผู้ใด       ความจริง ก็ยัง เป็น ความจริง อยู่วันยังค่ำ ไม่อาจปิด จะกล้ากล่าวว่า ตนหรือใคร เป็น "ชาวพุทธ"  ก็ให้การกระทำ มโนกรรม วจีกรรม กายกรรม เป็น พุทธบริษัท ที่ถูกต้องสิ  กล้าพูดได้ยังไง เมื่อรู้ว่าสิ่งที่ทำ ไม่ตรง..  หลายคนก็มองรู้ ว่า "ทำมันกลาย.. ทำมันกลวง.. ธรรมไม่จริง" . จากคุณ : เลื้อย เขียนเมื่อ : 23 ม.ค. 55 19:47:08

ความคิดเห็นที่ 45 ผ่านมาหน้าบ้านเลยค่ะ พระท่านบอกว่าใครอยากรวยนั่งลง ตะโกนใหญ่เลย คนที่มารีบนั่งลงกันแทบไม่ทัน นี่ล๊ะคนไทย - -'' จากคุณ : เขียวหวานไก่ใส่มะเขือ เขียนเมื่อ : 24 ม.ค. 55 14:48:45

ความคิดเห็นที่ 46 ความเห็นที่ 41 กับ 44 หายไปน่ะ จากคุณ : หอมทวนลม เขียนเมื่อ : 24 ม.ค. 55 19:13:39

ความคิดเห็นที่ 47 สวัสดีค่ะ ความเห็น 41 เป็น ของ คุณ a... ข้อความในลักษณะเดียวกันกับ Y11614588 ต้นกระทู้ ค่ะ ความเห็น 44 เป็นของคุณ ต.. แสดงทัศนะถึง ข้อความ ความเห็น 41 ค่ะ - - - - - - - - - ฮ !  ก . ล . บ   -*-' จากคุณ : เลื้อย เขียนเมื่อ : 24 ม.ค. 55 20:52:28

ความคิดเห็นที่ 48 บริษัท ธรรมโกย จำกัด จากคุณ : love is3 เขียนเมื่อ : 25 ม.ค. 55 02:35:05

ความคิดเห็นที่ 49 ^ ^ ลืมคำว่า >> (มหาชน) จากคุณ : msdossys เขียนเมื่อ : 25 ม.ค. 55 11:15:30

ความคิดเห็นที่ 50 ยังจิ่มสามไฟแดงได้อยู่นะ ซะทีมะ  3 ก็จบคนพวกนี่หน้าหนาตั้งกระทู้ด่าเท่าไหร่ไม่เจ็บหรอก แก้ไขเมื่อ 25 ม.ค. 55 18:33:34 จากคุณ : Yogi Playgirl เขียนเมื่อ : 25 ม.ค. 55 11:28:36

ความคิดเห็นที่ 51 ไม่เข้าห้องนี้มานานเลยงงๆ กับ "โรยดอกกุหลาบ" สงสัยเหมือนกันว่าเหตุใดของโรยกุหลาบ ส่วนตัวผมคิดว่าการบูชาดอกไม้นี้มาจากแนวคิดของศาสนาพราหมณ์-ฮินดู ไม่ใช่พุทธศาสนา เนื่องจากแม้แต่ศีล 8 ยังห้ามการใช้เครื่องหอมของหอม ...ความหอมที่แท้น่าจะมาจากการล้างของเหม็น(กิเลส)ออกจากจิตใจมากกว่านะฮะ ...ผมเองเมื่อเห็นพระธุดงค์ก็มักยินดีที่จะใส่บาตรหรืออุปัฏฐากท่านไม่ทางใดก็ทางหนึ่ง ซึ่งก็เชื่อว่าพวกเราส่วนใหญ่มักเป็นแบบนี้เหมือนกัน แต่ยังคงไม่เข้าใจว่าทำไมต้องเป็นดอกกุหลาบอยู่ดี ??? ปล.อีกอย่างหนึ่งเห็นอุบาสิกาได้จับ (เข้าใจว่าล้าง) เท้าพระ ซึ่งขอเตือนนะฮะว่าท่านกำลังทำสิ่งไม่สมควร และจะทำให้เกิดบาปต่อพระและตัวท่านเองซะเปล่าๆ ...กลายเป็นแทนที่จะได้บุญกลับได้บาปด้วย จากคุณ : Jeja เขียนเมื่อ : 25 ม.ค. 55 20:17:08

ความคิดเห็นที่ 52 สวัสดีค่ะ เฮ้อ.. บางที ไม่มีน้ำมันหล่อลื่น เครื่องก็ไม่เดิน ตาชั่งอาจเอียงบ้าง ไรบ้าง.. รึใช้น้ำมันเวรโรยย.. ลื่นเหลือโล้น ทนเหลือหลาย ก็ว่าไปอย่าง.. อาจจะทนทายาดก็ได้ รู้ๆ ทัน.. บริษัท บริจาค ไม่จำกัด มหาชน.. เร่เข้ามา ถ้าอยากได้ บุญ  . . ง่าย ง่าย ร่วมด้วย ช่วยกัน เท่าที่ทำได้ ละกันค่ะ :) 8--   8--   8--   8--   8--   8--   8--   8--   8--    --8   --8   --8   --8   --8   --8   --8   --8   --8 . จากคุณ : เลื้อย เขียนเมื่อ : 26 ม.ค. 55 18:38:02

ความคิดเห็นที่ 53 วัดนี้เขา คงช่วยชาวสวนกุหลายมั่งครับ เพื่อให้มีรายได้จากการขายกุหลาบ แต่ผมเห็นแล้ว เกะกะ จริง ๆ ทำไมไม่ไปเดินรอบ ๆ จานบิน ก็ไม่รู้ จากคุณ : หัวใจขี้แย เขียนเมื่อ : 27 ม.ค. 55 11:41:29

ความคิดเห็นที่ 54 หลักการตลาด ต้องนำเสนอ ในสิ่งที่คนอื่นยังไม่มีให้ การกระทำเช่นนี้ ก็แค่การใช้หลักการตลาด ขายของใหม่ๆ เพื่อดึงลูกค้า อย่างไรก็ตาม ส่วนดีของวัดนี้ ก็ยังมีบ้าง เช่น ส่งของมาช่วยชาวบ้านตอนน้ำท่วมทั้งภาคกลางและภาคใต้ แต่นั่นก็ไม่เกี่ยวกันกับเรื่องนี้ จากคุณ : มิ้วน้อยน่ารัก เขียนเมื่อ : 29 ม.ค. 55 01:49:46

ความคิดเห็นที่ 55 ในฐานะ เจ้าของกระทู้ ขออนุญาตปิดประเด็น เรื่อง Walk Rally บนกลีบกุหลาบไว้เพียงเท่านี้ - ขอบคุณทุกความคิดเห็นที่ร่วมแสดงค่ะ - ----------------------------------------------- อนึ่ง ขอใช้พื้นที่ เก็บความเห็น ระลึก บรรยากาศ มิตรภาพอะไรหน่อย นับจากข้อความนี้ จากคุณ : เลื้อย เขียนเมื่อ : 12 ก.พ. 55 21:00:54

ความคิดเห็นที่ 56 กระทู้ คุณแมทท์ มีบรรยากาศ ที่น่าจดจำ ความสัมพันธ์ มิตรภาพ แห่ง ห้องศาสนา .. ขออนุญาตคุณแมทท์ ทำการเก็บข้อความไว้ ณ ที่นี้ด้วยค่ะ :) "มิตรภาพเป็นสิ่งที่สวยงามถึงแม้ว่าจะต้องแลกด้วยการนอบน้อมและถ่อมตัวบ้างก็ตาม"     ผมขอนำท่านสมาชิกทั้งหลายกลับเข้าสู่ห้องศาสนาอีกครั้งหนึ่งครับเนื่องจากบางครั้งเรามีการสนทนาในเรื่องศาสนากันอย่างเป็นมิตรและบางครั้งก็รุนแรง จนเกือบจะขาดมิตรภาพ ต่อกัน     แต่เมื่อมาถึงจุดนั้น เรา,รวมทั้งผมเองด้วย จะต้องหยุดคิดดูว่า เราทำตามวัตถุประสงค์ของการชุมนุมในห้องศาสนานี้หรือยัง และเราเข้ามาคุยกันเรื่องอะไร,ถึงแม้ว่าจะมีทั้งทาง ลบ และทางบวก เราก็ควรจะมีความสามารถที่จะยอมรับความเห็นของกันและกันได้ โดยที่เราไม่จำเป็นจะต้อง เห็นด้วย และไม่ติดใจในสิ่งที่ไม่เห็นด้วย  การกระเซ้าเย้าแหย่ถือเป็น เรื่องผ่อนคลายอารมณ์เครียด     แต่อย่างไรก็ตาม สมาชิกทุกๆท่านที่สนใจเข้ามาในห้องศาสนานี้ จะต้องอย่างน้อยก็เป็นผู้ที่รักและใฝ่ใจในสิ่งที่ดีงามตามหลักการสอนของทุกๆความศรัทธา        ผมจะเสนอในแนวของอิสลามเท่านั้น สำหรับท่านผู้อื่นขอเชิญร่วมในแนวตามความศรัทธาของท่านเพื่อให้ห้องศาสนา เป็นศูนย์กลางของการแลกเปลี่ยนความรู้และความคิดเห็นที่ต่างกันอย่างมีมิตรภาพซึ่งกันและกันของผู้มีศรัทธา        อัลลอฮ์ตะอาลาได้ทรงสอนมวลมุสลิม ในกรณีที่ ตัดสินกรณีพิพาทใดๆ ก็ตามให้กระทำด้วยใจยุติธรรม โดยไม่ีมีการลำเอียงเข้าข้างผู้ผิด ถ้าเรามองเห็นอย่างชัดเจนยิ่งแล้ว  การทำชั่วของคนสองคนที่เหมือนกัน ไม่ทำให้กลายเป็นความดีขึ้นมาได้     ด้วยเหตนี้ อัลลออ์ตะอาลาจึง ห้ามมุสลิม โดยทั่วไป ไม่ให้ใช้ คำกล่าว ที่หยาบคาย, ในรูปแบบใดๆก็ตาม ถ้าการนิ่งเฉยของเรา จะสร้าง ความพากภูมิใจให้กับผู้ที่ใช้ความหยาบคายต่อเราก็ตาม     มุสลิมจะต้องอยู่ห่างจากความหยาบคายและความอยุติธรรมเสมอ, ผู้ที่อยู่ในบรรดาผู้ที่ใช้คำหยาบคายและมีความอยุติธรรม, เขาก็คือบุคคลที่มาจากกลุ่มเดียวกัน, แต่เมื่อเราแสดงความหยาบคายและความอยุติธรรมต่อผู้อื่น แล้วสำนึกตัวกลับตัวได้ได้จะเป็นชัยชนะที่ยิ่งใหญ่ของเรา และเป็นที่สรรเสริญของปวงชน และเป็นที่ทรงโปรดปราณของอัลลออ์ตะอาลา แต่ถ้าเรายังมีความพากภูมิใจในความหยาบคายของตนเองแล้ว ถือว่าเป็นชัยชนะของความชั่ว, เราจะได้รับการลงโทษที่รุนแรงจาก พระองค์อัลลอฮ์อย่างแน่นอน (คำอธิบายนี้จากความหมาย จาก อัลกุรอาน 6:68, 23:3, 28:55, 70:42,  74:45) And when you see those who enter into false discourses about Our  communications, withdraw from them until they enter into some other  discourse, and if the Shaitan causes you to forget, then do not sit after  recollection with the unjust people. [Shakir 6:68] And who keep aloof from what is vain, [Shakir 23:3] And when they hear idle talk they turn aside from it and say: We shall  have our deeds and you shall have your deeds; peace be on you, we do  not desire the ignorant. [Shakir 28:55] Therefore leave them alone to go on with the false discourses and to  sport until they come face to face with that day of theirs with which they  are threatened; [Shakir 70:42] And we used to enter into vain discourse with those who entered into  vain discourses. [Shakir 74:45]  ............... คุณ  YAMAMANG  ได้นำบทความที่ดีมาโพสต์ไว้ผมขอเชิญชวนให้ท่านสมาชิกกลับไปอ่านกันอีกครั้ง  จะเป็นประโยชน์ แก่ทุกๆท่านที่จะเข้าใจ อิสลามได้เป็นอย่างดีในทาง บวก   มีผู้สนใจน้อยมาก  โดยเฉพาะสมาชิกมุสลิมควรร่วมออกความเห็นเพื่อเป็นการส่งเสริม มิตรภาพของสมาชิกทุกๆท่านในห้องนี้   "มิตรภาพเป็นสิ่งที่สวยงามถึงแม้ว่าจะต้องแลกด้วยการนอบน้อมและถ่อมตัวบ้างก็ตาม,ทั้งนี้เพื่อให้เขารู้จักเราตัวเราที่แท้จริงเพื่อที่จะได้ยอมรับเราอย่างที่เราเป็นตัวของเราโดยไม่มีการเสแสร้งใดๆทั้งสิ้น"              "การบริหารความขัดแย้งตามแนวทางของอิสลาม"  http://www.pantip.com/cafe/religious/topic/Y11586695/Y11586695.html แก้ไขเมื่อ 11 ก.พ. 55 10:34:33 แก้ไขเมื่อ 11 ก.พ. 55 03:52:55 จากคุณ : แมทท์    เขียนเมื่อ : 11 ก.พ. 55 03:27:17  ถูกใจ : Jimbovy, เลื้อย, SURAWISH, สายลมเหงาแห่งขุนเขา, คืนวันอันแสนดี จากคุณ : เลื้อย เขียนเมื่อ : 12 ก.พ. 55 21:03:24

ความคิดเห็นที่ 57 สำรอง .. "มิตรภาพเป็นสิ่งที่สวยงามถึงแม้ว่าจะต้องแลกด้วยการนอบน้อมและถ่อมตัวบ้างก็ตาม"     ผมขอนำท่านสมาชิกทั้งหลายกลับเข้าสู่ห้องศาสนาอีกครั้งหนึ่งครับเนื่องจากบางครั้งเรามีการสนทนาในเรื่องศาสนากันอย่างเป็นมิตรและบางครั้งก็รุนแรง จนเกือบจะขาดมิตรภาพ ต่อกัน   แต่เมื่อมาถึงจุดนั้น เรา,รวมทั้งผมเองด้วย จะต้องหยุดคิดดูว่า เราทำตามวัตถุประสงค์ของการชุมนุมในห้องศาสนานี้หรือยัง และเราเข้ามาคุยกันเรื่องอะไร,ถึงแม้ว่าจะมีทั้งทาง ลบ และทางบวก เราก็ควรจะมีความสามารถที่จะยอมรับความเห็นของกันและกันได้ โดยที่เราไม่จำเป็นจะต้อง เห็นด้วย และไม่ติดใจในสิ่งที่ไม่เห็นด้วย  การกระเซ้าเย้าแหย่ถือเป็น เรื่องผ่อนคลายอารมณ์เครียด   แต่อย่างไรก็ตาม สมาชิกทุกๆท่านที่สนใจเข้ามาในห้องศาสนานี้ จะต้องอย่างน้อยก็เป็นผู้ที่รักและใฝ่ใจในสิ่งที่ดีงามตามหลักการสอนของทุกๆความศรัทธา      ผมจะเสนอในแนวของอิสลามเท่านั้น สำหรับท่านผู้อื่นขอเชิญร่วมในแนวตามความศรัทธาของท่านเพื่อให้ห้องศาสนา เป็นศูนย์กลางของการแลกเปลี่ยนความรู้และความคิดเห็นที่ต่างกันอย่างมีมิตรภาพซึ่งกันและกันของผู้มีศรัทธา       อัลลอฮ์ตะอาลาได้ทรงสอนมวลมุสลิม ในกรณีที่ ตัดสินกรณีพิพาทใดๆ ก็ตามให้กระทำด้วยใจยุติธรรม โดยไม่ีมีการลำเอียงเข้าข้างผู้ผิด ถ้าเรามองเห็นอย่างชัดเจนยิ่งแล้ว  การทำชั่วของคนสองคนที่เหมือนกัน ไม่ทำให้กลายเป็นความดีขึ้นมาได้   ด้วยเหตนี้ อัลลออ์ตะอาลาจึง ห้ามมุสลิม โดยทั่วไป ไม่ให้ใช้ คำกล่าว ที่หยาบคาย, ในรูปแบบใดๆก็ตาม ถ้าการนิ่งเฉยของเรา จะสร้าง ความพากภูมิใจให้กับผู้ที่ใช้ความหยาบคายต่อเราก็ตาม    มุสลิมจะต้องอยู่ห่างจากความหยาบคายและความอยุติธรรมเสมอ, ผู้ที่อยู่ในบรรดาผู้ที่ใช้คำหยาบคายและมีความอยุติธรรม, เขาก็คือบุคคลที่มาจากกลุ่มเดียวกัน, แต่เมื่อเราแสดงความหยาบคายและความอยุติธรรมต่อผู้อื่น แล้วสำนึกตัวกลับตัวได้ได้จะเป็นชัยชนะที่ยิ่งใหญ่ของเรา และเป็นที่สรรเสริญของปวงชน และเป็นที่ทรงโปรดปราณของอัลลออ์ตะอาลา แต่ถ้าเรายังมีความพากภูมิใจในความหยาบคายของตนเองแล้ว ถือว่าเป็นชัยชนะของความชั่ว, เราจะได้รับการลงโทษที่รุนแรงจาก พระองค์อัลลอฮ์อย่างแน่นอน (คำอธิบายนี้จากความหมาย จาก อัลกุรอาน 6:68, 23:3, 28:55, 70:42, 74:45) And when you see those who enter into false discourses about Our communications, withdraw from them until they enter into some other discourse, and if the Shaitan causes you to forget, then do not sit after recollection with the unjust people. [Shakir 6:68] And who keep aloof from what is vain, [Shakir 23:3] And when they hear idle talk they turn aside from it and say: We shall have our deeds and you shall have your deeds; peace be on you, we do not desire the ignorant. [Shakir 28:55] Therefore leave them alone to go on with the false discourses and to sport until they come face to face with that day of theirs with which they are threatened; [Shakir 70:42] And we used to enter into vain discourse with those who entered into vain discourses. [Shakir 74:45] ............... คุณ  YAMAMANG ได้นำบทความที่ดีมาโพสต์ไว้ผมขอเชิญชวนให้ท่านสมาชิกกลับไปอ่านกันอีกครั้ง  จะเป็นประโยชน์ แก่ทุกๆท่านที่จะเข้าใจ อิสลามได้เป็นอย่างดีในทาง บวก   มีผู้สนใจน้อยมาก  โดยเฉพาะสมาชิกมุสลิมควรร่วมออกความเห็นเพื่อเป็นการส่งเสริม มิตรภาพของสมาชิกทุกๆท่านในห้องนี้ "มิตรภาพเป็นสิ่งที่สวยงามถึงแม้ว่าจะต้องแลกด้วยการนอบน้อมและถ่อมตัวบ้างก็ตาม,ทั้งนี้เพื่อให้เขารู้จักเราตัวเราที่แท้จริงเพื่อที่จะได้ยอมรับเราอย่างที่เราเป็นตัวของเราโดยไม่มีการเสแสร้งใดๆทั้งสิ้น"             "การบริหารความขัดแย้งตามแนวทางของอิสลาม" http://www.pantip.com/cafe/religious/topic/Y11586695/Y11586695.html แก้ไขเมื่อ 11 ก.พ. 55 10:34:33 แก้ไขเมื่อ 11 ก.พ. 55 03:52:55 จากคุณ : แมทท์   เขียนเมื่อ : 11 ก.พ. 55 03:27:17   ถูกใจ : Jimbovy, เลื้อย, SURAWISH, สายลมเหงาแห่งขุนเขา, คืนวันอันแสนดี http://www.pantip.com/cafe/religious/topic/Y11692787/Y11692787.html จากคุณ : เลื้อย เขียนเมื่อ : 12 ก.พ. 55 21:05:18

ความคิดเห็นที่ 58 #1 ความคิดเห็นที่ 1    อัซซาลามมุอาลัยกุม ครับ คุณอาแมท ขออัลลอฮ์โปรดประทานความสุขแก่คุณอาด้วย ผมมีบทกลอนมาฝากครับ มิตรภาพคิดสร้างสันตื์นั้นยากยิ่ง อย่างให้สิ่งเล็กน้อยคอยประหาร แม้นสัมพันธ์ฉันท์เราต้องร้าวราน ยากประสานก่อใหม่ให้เหมือนเดิม สิ่งใดที่ผมเคยล่วงเกิน พูดแรงกับคุณอาแมท กระผมขอมาอัฟ (ขออภัย) มา ณ ที่นี้ด้วย ขอบคุณครับคุณอาแมท สำหรับไมตรี นาย จิม แก้ไขเมื่อ 11 ก.พ. 55 06:42:59 จากคุณ : พี่จิม (Jimbovy)    เขียนเมื่อ : 11 ก.พ. 55 06:41:07  ถูกใจ : SURAWISH, แมทท์, ฮูฮง จากคุณ : เลื้อย เขียนเมื่อ : 12 ก.พ. 55 21:06:23

ความคิดเห็นที่ 59 #2 ความคิดเห็นที่ 2    คุณ : พี่จิม (Jimbovy) ค่ะ สำหรับ ความเป็นมิตรภาพ ที่คุณ พี่จิม เป็นผู้เริ่ม หยิบยื่น ให้กับผู้อื่นก่อน ( อย่างที่คุณแสดงมากับหลายๆคนอยู่ใน ตอนนี้)  แล้วถ้าสมมุติว่า ใครคนนั้น ไม่แสดงออกถึงการกระทำ คำพูด  ที่ชี้ให้เห็นถึง การตอบรับในความเป็นมิตรไมตรี กลับไปหาคุณพี่จิม  คุณ พี่จิม จะทำอย่างไร หรือ รู้สึกอย่างไรคะ จากคุณ : Ms.Kohlanta    เขียนเมื่อ : 11 ก.พ. 55 09:47:33  จากคุณ : เลื้อย เขียนเมื่อ : 12 ก.พ. 55 21:07:35

ความคิดเห็นที่ 60 #3  ความคิดเห็นที่ 3    ไม่รู้จะเกี่ยวกับกระทู้หรือเปล่านะคะ แต่อยากแชร์ประสบการณ์ ตอนเข้ามาในห้องนี้ใหม่ๆเรามีเรื่่องถกเถียงกับทางคริสต์เป็นประจำ  เพราะเรามีข้อข้องใจหลายเรื่องที่เราไม่เห็นด้วย เขาก็พยายามตอบเราทุกคำถามแบบไม่ปิดบัง ไม่เบี่ยงประเด็น  และไม่หยาบคาย ไม่มีโวยวายใส่  ทั้งที่คำถามเราบางทีก็กวนน่าดูเหมือนกัน แต่มันเกิดจากความสงสัย จนถึงจุดที่เราคิดว่า เราเข้าใจว่าเขาคิดอย่างไร มีทัศนคติอย่างไร ซึ่งทำให้เราอ่านบทความและคำสอนของคริสต์ได้เข้าใจมากขึ้น และเห็นสิ่งดีๆมากมายในคำสอนเหล่านั้น จนเราอดที่จะสรรเสริญพระเจ้าของเขาไม่ได้ และเป็นจุดเริ่มต้นของมิตรภาพ และความนับถือ ที่มีให้กับความอดทน และความจริงใจของเขา  มิตรภาพ เริ่มและรักษาไว้ได้ด้วยความจริงใจที่ให้กัน ไม่ใช่ด้วยคำหวานที่หลอกลวง เราคิดอย่างนี้นะคะ จากคุณ : แมวเก้าแต้ม   เขียนเมื่อ : 11 ก.พ. 55 09:52:10  ถูกใจ : SURAWISH, แมทท์, สายลมเหงาแห่งขุนเขา จากคุณ : เลื้อย เขียนเมื่อ : 12 ก.พ. 55 21:08:08

ความคิดเห็นที่ 61 #4 ความคิดเห็นที่ 4    ให้ผมใส่หน้ากาก พูดหวานๆ พูดสุภาพ พูดเอาใจคน ผมก็ทำได้ครับ แต่ใบหน้าลึกๆจริงๆ ผมสามารถก้าวล่วงได้ถึง สิ่งเคารพบูชาผู้อื่น โดยไม่แคร์ความรู้สึกว่า คนอื่นจะรู้สึกเช่นไร  (จุดนี้ถ้าอายุ10ขวบ คงไม่มีใครถือสา) ไม่แคร์เป็นเรื่องนึง พอจับประเด็นมาถาม กลับใส่อารมณ์ตอบ ด่าทอ ท้าตีท้าต่อย ยียวน ยั่วโทสะ ยกสรรพคุณตัวเองเพื่อสร้างความยิ่งใหญ่ ใช้ภาษาหลงตัวเองข่มอีกฝ่่ายนึง ไม่มีแม้แต่อาการสำนึกในสิ่งที่ทำ แต่พร้อมจะใช้ประสบการณ์อายุ ควบคุมอารมณ์เบี่ยงประเด็นได้ตลอด (จุดนี้ถ้าเป็นเด็กช่างกล คงไม่มีใครถือสา) เรื่องจริงซึ่งสามารถพิสูจน์ได้ จะลงให้ลึกถึงอักษร ก็ย่อมได้  ไม่ทำ ไม่เคลียร์ ถ้าอยากสงบวิธีมี  ถ้าอยากสร้างจุดสนใจกลบปมด้อย เป็นผมๆอ้างได้ถึงปู่ของปู่พระเจ้าก็ได้ครับ เพื่อจะมีเรื่อง  อิ่มใจไปบนความรู้สึกเหยียบย่ำจิตใจคนอื่น (จุดนี้ประสบการณ์สังคม ผู้ปกครอง ,คนรัก ,เพื่อนที่ดีจะเตือนกันเอง) -ตี 2 หน้า 3 หน้า 4 หน้าไปวันๆเรื่องนึง -เอาเรื่องเล่า มาบิดเบือนคัมภีร์ซึ่งมีคนเคารพบูชาเรื่องนึง -เรื่องไม่ให้เกียรติเพื่อนต่างศาสนา จากเบื้องลึกของจิตใจเรื่องนึง -โกหกทุกวัน ว่าให้เกียรติ แต่ไม่มีแม้แต่คำขอโทษ อีกเรื่องนึง -พอตัวเองถูกตั้งกระทู้แขวะ ดิ้นจะเป็นจะตาย แขวะคืนตอบโต้ทุกเม็ด ย้อนทุกดอกอีกเรื่องนึง -ไม่เคยคิดย้อน กลับไปถึงสาเหตุซึ่งเป็นจุดเริ่มต้น เยี่ยงผู้เจริญแล้วคิดกันอีกเรื่องนึง -ต่างอะไรกับคนสร้างภาพแต่งตัวดี เสแสร้งยิ้ม แต่พร้อมจะตีท้ายครัว เพื่อนได้ทุกเวลา ----------- อ่านข้อความจบ เดี๋ยวก็ดิ้น เดือดพลั่กๆ แบบที่เคยโดนมาเฟียห้องศาสนาเขากระทุ้งจิตเอาอีก น่าแปลกนะครับ คนที่คุณเรียกมาเฟียในห้องนี้ กลับเป็นคนห้ามแล้วห้ามอีก ไม่ให้ผมลงความเห็นแรงๆ กับ"เพื่อนมุสลิม"คนนี้ ----------- แก้ไขเมื่อ 11 ก.พ. 55 10:29:52 จากคุณ : Zim-MorLuth-  เขียนเมื่อ : 11 ก.พ. 55 10:23:27  จากคุณ : เลื้อย เขียนเมื่อ : 12 ก.พ. 55 21:08:46

ความคิดเห็นที่ 62 #5 ความคิดเห็นที่ 5    คุณ Zim-MorLuth:  Please accept my apology as a Muslim. We both were offended and became angry and bitter as the offense grew based on misinformation.  I would like to reason with you later on.  I cannot do it now. Please be patient.  According to an article from Harvard Health, forgiving others may actually improve your overall health by reducing stress levels and improving your heart health.  I'll catch up with you later. ^-^ จากคุณ : แมทท์    เขียนเมื่อ : 11 ก.พ. 55 11:03:54  จากคุณ : เลื้อย เขียนเมื่อ : 12 ก.พ. 55 21:09:13

ความคิดเห็นที่ 63 #6 ความคิดเห็นที่ 6    การพึ่งในพระราชบัญญัติก็ทำให้ขาดจากพระคริสต์และหลุดไปจากพระคุณ (กาลาเทีย) 5:1 เพื่อเสรีภาพนั้นเองพระคริสต์จึงได้ทรงโปรดให้เราเป็นไท  เหตุฉะนั้นจงตั้งมั่นและอย่าเข้าเทียมแอกเป็นทาสอีกเลย 5:2 ดูเถิด ข้าพเจ้าเปาโลขอบอกท่านว่า ถ้าท่านเข้าสุหนัตพระคริสต์จะทรงทำประโยชน์อะไรให้แก่ท่านไม่ได้เลย 5:3 ข้าพเจ้าเป็นพยานให้ทุกคนที่เข้าสุหนัตทราบอีกว่า เขาถูกผูกมัดให้ประพฤติตามพระราชบัญญัติทั้งสิ้น 5:4 ผู้ใดในหมู่พวกท่านที่เห็นว่าตัวเองเป็นคนชอบธรรมโดยพระราชบัญญัติ ท่านก็หล่นจากพระคุณไปเสียแล้ว พระคริสต์ย่อมไม่ได้มีผลอันใดต่อท่านเลย 5:5 เพราะว่า โดยพระวิญญาณและความเชื่อ เราก็รอคอยความชอบธรรมที่เราหวังว่าจะได้รับ 5:6 เพราะว่าในพระเยซูคริสต์นั้น การเข้าสุหนัตหรือไม่เข้าสุหนัต ก็หาเกิดประโยชน์อันใดไม่ แต่ความเชื่อต่างหากซึ่งกระทำกิจด้วยความรัก 5:7 ท่านวิ่งแข่งดีอยู่แล้ว ใครเล่าขัดขวางท่านไม่ให้เชื่อฟังความจริง 5:8 การเกลี้ยกล่อมอย่างนี้ไม่ได้มาจากพระองค์ผู้ทรงเรียกท่านทั้งหลาย 5:9 เชื้อขนมเพียงนิดหน่อยย่อมทำให้แป้งดิบฟูขึ้นได้ทั้งก้อน 5:10 ข้าพเจ้าไว้ใจท่านในองค์พระผู้เป็นเจ้าว่า ท่านจะไม่เชื่อถืออย่างอื่นเลย ฝ่ายผู้ที่มารบกวนท่านนั้น จะเป็นใครก็ตามจะต้องได้รับโทษ 5:11 พี่น้องทั้งหลาย ถ้าข้าพเจ้ายังเทศนาชักชวนให้เข้าสุหนัต เหตุใดข้าพเจ้าจึงยังถูกข่มเหงอยู่อีกเล่า ถ้าเช่นนั้นเสาทรมานก็ไม่ใช่สิ่งที่ให้สะดุดแล้ว 5:12 ข้าพเจ้าอยากให้คนเหล่านั้นที่รบกวนท่านถูกตัดออกเสียเลย 5:13 พี่น้องทั้งหลาย ที่ทรงเรียกท่านก็เพื่อให้มีเสรีภาพ อย่าเอาเสรีภาพของท่านเป็นช่องทางที่จะปล่อยตัวไปตามเนื้อหนัง แต่จงรับใช้ซึ่งกันและกันด้วยความรักเถิด 5:15 แต่ถ้าท่านกัดและกินเนื้อกันและกัน จงระวังให้ดีเกรงว่าท่านจะทำให้กันและกันย่อยยับไป การดำเนินชีวิตตามพระวิญญาณ สงครามระหว่างเนื้อหนังกับพระวิญญาณ 5:16 แต่ข้าพเจ้าขอบอกว่า จงดำเนินชีวิตตามพระวิญญาณและท่านจะไม่สนองความต้องการของเนื้อหนัง 5:17 เพราะว่าความต้องการของเนื้อหนังต่อสู้พระวิญญาณ และพระวิญญาณก็ต่อสู้เนื้อหนัง เพราะทั้งสองฝ่ายเป็นศัตรูกัน ดังนั้นสิ่งที่ท่านทั้งหลายปรารถนาทำจึงกระทำไม่ได้ 5:18 แต่ถ้าพระวิญญาณทรงนำท่าน ท่านก็ไม่อยู่ใต้พระราชบัญญัติ 5:19 แล้วการงานของเนื้อหนังนั้นเห็นได้ชัด คือการเล่นชู้ การล่วงประเวณี การโสโครก การลามก 5:20 การนับถือรูปเคารพ การนับถือพ่อมดหมอผี การเป็นศัตรูกัน การวิวาทกัน การอิจฉาริษยากัน การโกรธกัน การทุ่มเถียงกัน การใฝ่สูง การแตกก๊กกัน 5:21 การอิจฉากัน การฆาตกรรม การเมาเหล้า การเล่นเป็นพาลเกเร และการอื่นๆในทำนองนี้อีก เหมือนที่ข้าพเจ้าได้เตือนท่านมาก่อน บัดนี้ข้าพเจ้าขอเตือนท่านเหมือนกับที่เคยเตือนมาแล้วว่า คนที่ประพฤติเช่นนั้นจะไม่ได้รับอาณาจักรของพระเจ้าเป็นมรดก ผลของพระวิญญาณ 5:22 ฝ่ายผลของพระวิญญาณนั้นคือ ความรัก ความปลาบปลื้มใจ สันติสุข ความอดกลั้นใจ ความปรานี ความดี ความเชื่อ 5:23 ความสุภาพอ่อนน้อม การรู้จักบังคับตน เรื่องอย่างนี้ไม่มีพระราชบัญญัติห้ามไว้เลย 5:24 ผู้ที่เป็นของพระคริสต์ได้เอาเนื้อหนังกับความอยากและราคะตัณหาของเนื้อหนังตรึงไว้ที่เสาทรมานเสียแล้ว 5:25 ถ้าเรามีชีวิตอยู่โดยพระวิญญาณ ก็จงดำเนินชีวิตตามพระวิญญาณด้วย 5:26 เราอย่าถือตัว อย่ายั่วโทสะกัน และอย่าอิจฉาริษยากันเลย จากคุณ : SURAWISH    เขียนเมื่อ : 11 ก.พ. 55 11:14:55  จากคุณ : เลื้อย เขียนเมื่อ : 12 ก.พ. 55 21:09:52

ความคิดเห็นที่ 64 #7 ความคิดเห็นที่ 7    ท่านแมทท์ทำแบบนี้แทนคนผิดมากี่ครั้งแล้วครับ ต้องทำอีกกี่ครั้งครับ ?? ขนาดขอโทษแทน เขายังด่าท่านแมทท์ว่าบิดเบือนคัมภีร์ ตีความไม่แตก วันดีคืนดี ก็มาหวานใส่ท่าน อีกวันก็ด่าทอ เฉดหัวออกจากศาสนา ขนาดผมไม่ใช่เพื่อนท่านผมยัง ตะหงิดๆใจ ผมเข้าใจว่า เป็นเรื่องภายในพวกท่านครับ ผมไม่ยุ่งครับ ----------------- พุทธมีศาสตร์ควบคุมอารมณ์ ปัญญา สติ อยู่ครับ ขอบคุณที่เป็นห่วงครับ ----------------- การให้"คนอื่น"ขอโทษแทน ชี้แจงแทน มันยิ่งแสดงถึงความจริงใจตัวตนผู้ก่อปัญหา หนักกว่าเดิม ไม่ใช่หรือครับ? จากคุณ : Zim-MorLuth-  เขียนเมื่อ : 11 ก.พ. 55 11:28:28  จากคุณ : เลื้อย เขียนเมื่อ : 12 ก.พ. 55 21:10:24

ความคิดเห็นที่ 65 #8 ความคิดเห็นที่ 8    มองแต่แง่ดีเถิด       ๏ เขามีส่วนเลวบ้างช่างหัวเขา จงเลือกเอาสิ่งที่ดีเขามีอยู่ เป็นประโยชน์โลกบ้างยังน่าดู เรื่องที่ชั่วอย่าไปรู้ของเขาเลย จะหาคนที่มีดีเพียงส่วนเดียว อย่าได้เที่ยวเสาะหาสหายเอ๋ย เหมือนเที่ยวหาหนวดเต่าตายเปล่าเอย ฝึกให้เคยมองแต่ดีมีคุณจริง ๛ แก้ไขเมื่อ 11 ก.พ. 55 11:44:28 จากคุณ : สู่ฝัน...อันยิ่งใหญ่  เขียนเมื่อ : 11 ก.พ. 55 11:28:35  จากคุณ : เลื้อย เขียนเมื่อ : 12 ก.พ. 55 21:10:58

ความคิดเห็นที่ 66 #9 ความคิดเห็นที่ 9    จะมีสันติสุขจากพระเจ้าได้อย่างไร (ฟิลิบปี) 4:8 พี่น้องทั้งหลาย ในที่สุดนี้ สิ่งใดที่จริง สิ่งใดที่น่านับถือ สิ่งใดที่ยุติธรรม สิ่งใดที่บริสุทธิ์ สิ่งใดที่น่ารัก สิ่งใดที่น่าฟัง คือถ้ามีสิ่งใดที่ล้ำเลิศ สิ่งใดที่ควรแก่การสรรเสริญ ก็ขอจงใคร่ครวญดูสิ่งเหล่านี้ 4:9 จงกระทำทุกสิ่งที่ท่านได้เรียนรู้ และได้รับไว้ ได้ยินและได้เห็นในข้าพเจ้าแล้ว และพระเจ้าแห่งสันติสุขจะทรงสถิตกับท่าน *********** จากคุณ : SURAWISH    เขียนเมื่อ : 11 ก.พ. 55 11:31:03  ถูกใจ : แมทท์, แมวเก้าแต้ม จากคุณ : เลื้อย เขียนเมื่อ : 12 ก.พ. 55 21:11:29

ความคิดเห็นที่ 67 #10 ความคิดเห็นที่ 10    จงทิ้งมนุษย์เก่าและสวมมนุษย์ใหม่ทุกวัน (เอเฟซัส) 4:17 เหตุฉะนั้นข้าพเจ้าจึงขอยืนยันและเป็นพยานในองค์พระผู้เป็นเจ้าว่า ตั้งแต่บัดนี้ เป็นต้นไป ท่านอย่าดำเนินตามอย่างคนต่างชาติ ที่เขาดำเนินกันนั้นคือมีใจจดจ่ออยู่กับสิ่งที่ไม่มีสาระ 4:18 โดยที่ความเข้าใจของเขามืดมนไปและเขาอยู่ห่างจากชีวิตซึ่งมาจากพระเจ้า เพราะเหตุความโง่ซึ่งอยู่ในตัวเขา อันเนื่องจากใจที่แข็งกระด้างของเขา 4:19 เขามีใจปราศจากความสะดุ้งต่อบาป ปล่อยตัวทำการลามก ทำการโสโครกทุกอย่างด้วยความละโมบ 4:20 แต่ว่าท่านไม่ได้เรียนรู้จักพระคริสต์อย่างนั้น 4:21 ถ้าแม้ท่านได้ฟังเรื่องพระองค์ และได้รับการสอนโดยพระองค์ตามความจริงซึ่งมีอยู่ในพระเยซูแล้ว 4:22 ท่านจงทิ้งมนุษย์เก่าของท่านซึ่งคู่กับวิถีชีวิตเดิมนั้นเสีย อันจะเสื่อมเสียไปตามตัณหาอันเป็นที่หลอกลวง 4:23 และจงให้จิตใจของท่านเปลี่ยนใหม่ 4:24 และให้ท่านสวมมนุษย์ใหม่ซึ่งทรงสร้างขึ้นใหม่ตามแบบอย่างของพระเจ้า ในความชอบธรรมและความบริสุทธิ์ที่แท้จริง 4:26 โกรธก็โกรธเถิด แต่อย่าทำบาป อย่าให้ถึงตะวันตกท่านยังโกรธอยู่ 4:27 และอย่าให้โอกาสแก่พญามาร 4:28 คนที่เคยขโมยก็อย่าขโมยอีก แต่จงใช้มือทำงานที่ดีๆกว่า เพื่อจะได้มีอะไรๆแจกให้แก่คนที่ขัดสน 4:29 อย่าให้คำหยาบคายออกมาจากปากท่านเลย แต่จงกล่าวคำที่ดี และเป็นประโยชน์ให้เกิดความจำเริญเพื่อจะได้เป็นคุณแก่คนที่ได้ยินได้ฟัง ******* จากคุณ : SURAWISH    เขียนเมื่อ : 11 ก.พ. 55 11:39:20  จากคุณ : เลื้อย เขียนเมื่อ : 12 ก.พ. 55 21:11:56

ความคิดเห็นที่ 68 #11  ความคิดเห็นที่ 11    คุณ : Zim-MorLuth  ต้องแยกให้ออกระหว่าง เรื่องที่ คุณแมทท์บิดเบือนอิสลาม กับ เรื่องส่วนตัวอื่นๆ ที่ไม่เกี่ยวกับ ศาสนา ถ้าคุณแมทท์ ไม่บิดเบือน อัลกุรอ่าน และ ด่า ท่าน นบี มูฮำหมัด แบบหยาบคาย (แถมไม่ให้เกียรติในความเป็น ศาสนทูตของอัลลอฮฺ)    ก็แทบจะไม่มีความจำเป็นอะไรเลย ที่มุสลิม จะสนทนาด้วย คนนอกศาสนา อย่างคุณ Zim-MorLuth อาจจะเข้าใจได้ยาก ว่า สิ่งที่คุณแมทท์กระทำ กับ อิสลาม นั้นบิดเบือน มากขนาดใหน ( ก็เหมือนที่พุทธศาสนิกชนไม่ชอบใจ เรื่อง ธรรมกาย นั้นแหล่ะ เพราะหาว่าบิดเบือนพระธรรมคำสอน และ คัมภีร์พระไตรปิฏก )  แก้ไขเมื่อ 11 ก.พ. 55 11:46:22 จากคุณ : Ms.Kohlanta    เขียนเมื่อ : 11 ก.พ. 55 11:42:23  จากคุณ : เลื้อย เขียนเมื่อ : 12 ก.พ. 55 21:12:27

ความคิดเห็นที่ 69 #12 ความคิดเห็นที่ 12    จงสวมมนุษย์ใหม่ทุกวัน (โกโลสี) 3:5 เหตุฉะนั้นจงประหารอวัยวะของท่านซึ่งอยู่ฝ่ายโลกนี้ คือการล่วงประเวณี การโสโครก ราคะตัณหา ความปรารถนาชั่ว และความโลภ ซึ่งเป็นการนับถือรูปเคารพ 3:6 เพราะสิ่งเหล่านี้ พระอาชญาของพระเจ้าก็ลงมาแก่บุตรแห่งการไม่เชื่อฟัง 3:7 ครั้งหนึ่งท่านเคยดำเนินตามสิ่งเหล่านี้ด้วย ครั้งเมื่อท่านยังดำรงชีวิตอยู่กับสิ่งเหล่านี้ 3:8 แต่บัดนี้สารพัดสิ่งเหล่านี้ท่านจงเปลื้องทิ้งเสียด้วย คือความโกรธ ความขัดเคือง การคิดปองร้าย การหมิ่นประมาท คำพูดหยาบโลนจากปากของท่าน 3:9 อย่าพูดมุสาต่อกันเพราะว่าท่านได้ถอดทิ้งมนุษย์เก่ากับการปฏิบัติของมนุษย์นั้นเสียแล้ว 3:10 และได้สวมมนุษย์ใหม่ที่กำลังทรงสร้างขึ้นใหม่ในความรู้ตามแบบพระฉายของพระองค์ผู้ได้ทรงสร้างขึ้นนั้น 3:11 อย่างนี้ไม่เป็นพวกกรีกหรือพวกยิว ไม่เป็นผู้ที่เข้าสุหนัตหรือไม่ได้เข้าสุหนัต พวกคนต่างชาติหรือชาวสิเธีย ทาสหรือไทก็ไม่เป็น แต่ว่าพระคริสต์ทรงเป็นสารพัดและทรงดำรงอยู่ในสารพัด 3:12 เหตุฉะนั้นในฐานะที่เป็นพวกซึ่งพระเจ้าทรงเลือกไว้ เป็นพวกที่บริสุทธิ์และเป็นพวกที่ทรงรัก จงสวมใจเมตตา ใจปรานี ใจถ่อม ใจอ่อนสุภาพ ใจอดทนไว้นาน 3:13 จงผ่อนหนักผ่อนเบาซึ่งกันและกัน และถ้าแม้ว่าผู้ใดมีเรื่องราวต่อกันก็จงยกโทษให้กันและกัน พระคริสต์ได้ทรงโปรดยกโทษให้ท่านฉันใด ท่านจงกระทำอย่างนั้นเหมือนกัน 3:14 แล้วจงสวมความรักทับสิ่งเหล่านี้ทั้งหมด เพราะความรักย่อมผูกพันทุกสิ่งไว้ให้ถึงซึ่งความสมบูรณ์ 3:15 และจงให้สันติสุขแห่งพระเจ้าครอบครองอยู่ในใจของท่านทั้งหลาย ในสันติสุขนั้นทรงเรียกท่านทั้งหลายไว้ให้เป็นกายอันเดียวด้วย และท่านทั้งหลายจงขอบพระคุณ 3:16 จงให้พระวาทะของพระคริสต์ดำรงอยู่ในตัวท่านอย่างบริบูรณ์ด้วยปัญญาทั้งสิ้น จงสั่งสอนและเตือนสติกันด้วยเพลงสดุดี เพลงสรรเสริญและเพลงฝ่ายจิตวิญญาณด้วย จงร้องเพลงด้วยพระคุณจากใจของท่านถวายองค์พระผู้เป็นเจ้า 3:17 และเมื่อท่านจะกระทำสิ่งใดด้วยวาจาหรือด้วยการประพฤติก็ตาม จงกระทำทุกสิ่งในพระนามของพระเยซูเจ้าและขอบพระคุณพระเจ้าพระบิดาโดยพระองค์นั้น จากคุณ : SURAWISH    เขียนเมื่อ : 11 ก.พ. 55 11:43:52  ถูกใจ : แมวเก้าแต้ม จากคุณ : เลื้อย เขียนเมื่อ : 12 ก.พ. 55 21:12:58

ความคิดเห็นที่ 70 #13 ความคิดเห็นที่ 13    ผมควรต้องแยกให้ออก? หรือ ทำหน้ามึนๆ มั่วเรื่อง ตีหน้าตลก แยกไม่ออก จับไม่ประเด็นไม่ถูก เพื่อแถต่อ ดีครับ? ทราบนะครับว่า ผมหมายถึงอะไร ไม่ต้องพิมพ์ต่อมาแล้วล่ะ สำหรับคุณ จากคุณ : Zim-MorLuth-  เขียนเมื่อ : 11 ก.พ. 55 11:46:25  จากคุณ : เลื้อย เขียนเมื่อ : 12 ก.พ. 55 21:13:24

ความคิดเห็นที่ 71 #14 ความคิดเห็นที่ 14    บางท่านก็ถือว่า ศัตรูของศัตรู คือมิตร จิตมนุษย์ยากแท้ หยั่งถึง จากคุณ : สู่ฝัน...อันยิ่งใหญ่  เขียนเมื่อ : 11 ก.พ. 55 11:46:43  จากคุณ : เลื้อย เขียนเมื่อ : 12 ก.พ. 55 21:13:54

ความคิดเห็นที่ 72 #15 ความคิดเห็นที่ 15    ผมเองไม่ค่อยปักธงว่าใครเป็นมิตรหรือศัตรูอะไรหรอกครับ แต่เมื่อไหร่มีคนอ้าง(ไม่ว่าจะใครก็ตาม) อ้างอะไรเพี้ยนๆ ไม่ตรงกับข้อเท็จจริง นำไปสู่การบิดเบือนที่เกี่ยวข้องกับศาสนาพุทธ เช่น ในอัลกุรอานมีกล่าวถึงพระพุทธเจ้าและองคุลีมาล หรือ พระศรีอาริย์คือนบีขี่อูฐกำพร้าพ่อแม่ล่อแล่อยู่กลางทะเลทราย ผมจะมาเสมอครับ จากคุณ : สายลมเหงาแห่งขุนเขา    เขียนเมื่อ : 11 ก.พ. 55 11:55:49  จากคุณ : เลื้อย เขียนเมื่อ : 12 ก.พ. 55 21:15:52

ความคิดเห็นที่ 73 #16 ความคิดเห็นที่ 16    สวัสดีครับ คุณแมทท์และเพื่อนๆทุกคนที่นับถือ   ผมคงต้องขออนุญาตคุณแมทท์เพื่อใช้พื้นที่ในการแสดงคำเตือนจากพระเจ้าซึ่งผมได้คัดมาจากไบเบิล   ผมเองไม่ชำนาญในการสื่อข้อความในงานเขียน  จึงหลีกเลี่ยงในการแสดงความเห็นในกระทู้ต่างๆ  แต่ก็ได้พยามจัดหาข้อความดีๆมาแนะนำให้ชาวห้องศาสนาได้ศึกษากัน  บางครั้งอาจจะกระทบความรู้สึกลึกๆของใครบางคน ซึ่งผมต้องกราบขออภัยมาล่วงหน้าครับ.............  จากคุณ : SURAWISH    เขียนเมื่อ : 11 ก.พ. 55 11:57:24  ถูกใจ : แมทท์ จากคุณ : เลื้อย เขียนเมื่อ : 12 ก.พ. 55 21:16:29

ความคิดเห็นที่ 74 #17  ความคิดเห็นที่ 17    ไม่ติดๆ โฮ่ๆๆ จากคุณ : สายลมเหงาแห่งขุนเขา    เขียนเมื่อ : 11 ก.พ. 55 11:57:58  จากคุณ : เลื้อย เขียนเมื่อ : 12 ก.พ. 55 21:18:15

ความคิดเห็นที่ 75 #18 ความคิดเห็นที่ 18    Ms.Kohlanta  You really need to brush your teeth. จากคุณ : แมทท์    เขียนเมื่อ : 11 ก.พ. 55 11:58:13  จากคุณ : เลื้อย เขียนเมื่อ : 12 ก.พ. 55 21:18:50

ความคิดเห็นที่ 76 #19 ความคิดเห็นที่ 19    ^ ดิฉันเพียงแค่ทำหน้าที่ชี้แจง  คุณ Zim-MorLuth ใน คห.7 ค่ะ และพูดไปตามความเป็นจริงที่เกิดขึ้น  อาจจะไม่ถูกใจคุณแมทท์ ตรงนี้ ดิฉันเข้าใจคุณค่ะ จากคุณ : Ms.Kohlanta    เขียนเมื่อ : 11 ก.พ. 55 12:15:02  จากคุณ : เลื้อย เขียนเมื่อ : 12 ก.พ. 55 21:19:23

ความคิดเห็นที่ 77 #20 ความคิดเห็นที่ 20    Ms.Kohlanta  You have nothing to do with me. You like to create problem.  Can anyone see from ความคิดเห็นที่ 2  ? You really have no business here. ** จากคุณ : แมทท์    เขียนเมื่อ : 11 ก.พ. 55 12:27:55  จากคุณ : เลื้อย เขียนเมื่อ : 12 ก.พ. 55 21:19:57