{{อิสลาม}}เมื่อเพื่อนต่างศาสนิกถามผมว่า.....อยู่เมืองไทยทำไมต้องพูดภาษาอิสลาม ?
|
|
{อิสลาม}เมื่อเพื่อนต่างศาสนิกถามผมว่า.....อยู่เมืองไทยทำไมต้องพูดภาษาอิสลาม ?
อยู่เมืองไทยทำไมต้องพูดภาษาอิสลาม ครับ/ค่ะ ? เรื่องนี้ไม่ใช่เรื่องใหม่แต่อย่างใด แต่ในรอบสัปดาห์ที่ผ่านนี้ ผมถูกถามคำถามนี้ถึง 4 ครั้งด้วยกัน ในขณะที่คุยโทรศัพท์กับเพื่อนหรือได้พบปะกับเพื่อนเก่าเป็นภาษามลายู และเพื่อนต่างศาสนิกเกิดความสงสัย ทำให้ผมสึกว่ายังมีเพื่อนต่างศาสนิกอีกหลายท่านที่ยังไม่เข้าใจ กระทู้นี้จึงขออธิบายความเข้าใจที่ถูกต้อง โดยนำเอาบทความที่เคยตีพิมพ์ ใน วารสารโรตีมะตะบะ มาประกอบครับ
ทำไมอยู่เมืองไทยต้องพูดภาษาอิสลาม ? คำพูดตรงนี้มีข้อเข้าใจที่คลาดเคลื่อนอยู่หลายประเด็นด้วยกัน ประเด็นแรกคือเรื่องของคำพูดที่ว่า "อยู่เมืองไทย " ซึ่งก็เป็นความคลาดเคลื่อนเกี่ยวกับเรื่องของเชื้อชาติกับท้องถิ่น คนไทยจำนวนมากมักผูกเรื่องศาสนากับเชื้อชาติเข้าไว้ด้วยกัน ว่าถ้าเป็นคนไทยก็ต้องเป็นพุทธถ้าเป็นมุสลิมก็คือคนแขก จึงเข้าใจว่ามุสลิมในเมืองไทยทั้งหมดก็คือคนอาหรับหรือคนอินเดียที่เข้ามาอาศัยอยู่ในประเทศไทย และมีอยู่เยอะในภาคใต้
ข้อเท็จจริงคือ เรื่องของศาสนากับเชื้อชาตินั้นคนละส่วน ในเมืองไทยเรามีคนไทยแท้ที่เป็นมุสลิม เรามีคนจีนที่เป็นมุสลิม เรามีม้งหรือชาวเผ่าอื่นๆที่เป็นมุสลิม แต่ส่วนหนึ่งก็เป็นความจริงว่ามุสลิมในเมืองไทยจำนวนหนึ่งมีบรรพบุรุษมาจากต่างประเทศเช่นอิหร่าน อินเดีย ปากีสถาน ฯลฯ
แต่หากกล่าวถึงมุสลิม 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้แล้ว ต้องเรียกว่าชาว มลายู ซึ่งมีเชื้อสายเดียวกับมุสลิมจำนวนมากในเมืองไทยภาคอื่นด้วย ซึ่งชาวมาลายูนี้เดิมทีก็นับถือศาสนาพุทธ ,พราหมณ์ เช่นเดียวกับคนภาคอื่นๆของไทย แต่ว่าเมื่อครั้งอิสลามเข้ามาเผยแพร่ เขาก็ได้เปลี่ยนไปนับถือศาสนาอิสลาม และปัจจุบัน 100% ของคนมลายูนั้นนับถือศาสนาอิสลาม ชาวมลายูมีภาษาเป็นของตนเอง เช่นเดียวกับชนกลุ่มน้อยอื่นๆในเมืองไทยอย่างชาวเขาเผ่าต่างๆ ฉะนั้นเขาพูดภาษามลายูมาช้านาน แล้วก็อยู่ในท้องถิ่นของเขามายาวนาน ไม่ได้อพยพมาจากไหน จึงไม่มีความจำเป็นต้องเปลี่ยนภาษาพูดแต่อย่างใด หากแต่ใช้ภาษาไทยเป็นภาษากลางในการสื่อสารกับเพื่อนในชาติหรือติดต่อราชการ จึงมีความแตกต่างจากชาวจีนยูนานหรือจีนฮ่อ หรือคนไทยเชื้อสายอินเดียหรือปากีสถานที่อพยพมาจากประเทศอื่น จึงต้องเปลี่ยนภาษาพูดเป็นภาษาไทย จากการที่ชาวมลายูเป็นมุสลิม 100 % นี้เองจึงทำให้มีความคลาดเคลื่อนจากชาวมลายูบางส่วนที่ขาดความรู้ทางศาสนา จึงเข้าใจว่าภาษามลายูเป็นภาษาอิสลาม แล้วก็ไปบอกต่อกับคนทั่วไปแบบนั้น จึงทำให้คนต่างศาสนิกเข้าใจผิดในประเด็นของ ภาษาอิสลาม ขึ้นมา
จริงๆแล้วหากจะเอ๋ยถึงภาษาแห่งศาสนาอิสลามจริงๆ ต้องระบุว่าเป็น ภาษาอาหรับ เท่านั้น เพราะท่านศาสนทูตมุฮัมหมัดเป็นชาวอาหรับ และพระเจ้าได้ประทานคัมภีร์อัลกรุอานมาให้เป็นภาษาอาหรับ ฉะนั้นภาษาอาหรับจึงเป็นภาสากลสำหรับมุสลิม เป็นภาษาทางการ เป็นภาษาที่ใช้ในตำราวิชาการศาสนา การเรียนรู้ศาสนาในระดับสูงขึ้นไปต้องศึกษาเป็นภาษาอาหรับเท่านั้น และภาษาอาหรับยังใช้ในส่วน ของการปฏิบัติศาสนกิจอีกด้วย จึงไม่แปลกที่หนังสืออิสลามนั้น มักมีการใช้ทับศัพท์ในบางคำ เพื่อสร้างความรู้ความเข้าใจในศาสนา เหล่านี้เกิดจากความจำเป็นต้องใช้ ไม่ได้เกิดจากการอนุรักษ์หรือชาตินิยมแต่อย่างใด ฉะนั้นในส่วนของชาวมลายูนั้น คำถามที่ว่า ทำไมอยู่เมืองไทยจึงไม่พูดภาษาไทย ? จึงเป็นคำถามในลักษณะเดียวกันกับที่ถามชนกลุ่มน้อยหรือภาคอีกๆว่า ทำไมอยู่เมืองไทยจึงพูดภาษาอีก้อ ภาษาเหนือ ฯลฯ ภาษาเหล่านี้เป็นส่วนหนึ่งของวัฒนธรรมที่อยู่ในประเทศไทยนั่นเอง คนไทยทุกๆศาสนาจึงต้องยอมรับในความหลากหลายทางวัฒนธรรมนี้...
บทความจาก วารสารโรตีมะตะบะ โดย อับดุล อะซีซ กลุ่มอัซซาบิกูน
จากคุณ |
:
A.TheRipper94
|
เขียนเมื่อ |
:
22 ม.ค. 55 11:35:02
|
|
|
|