ความคิดเห็นที่ 1 สาธุ สาธุ สาธุ ชาวพุทธแท้ ควรอธิฏฐานในการประพฤติธรรม และมุ่งเจริญกุศล มากกว่าจะไปขอโชคขอลาภโน่นนี่ จากคุณ : chohokun เขียนเมื่อ : 23 ม.ค. 55 17:13:40

ความคิดเห็นที่ 2 น่ารักมากครับ ^_^ จากคุณ : solo 356 เขียนเมื่อ : 23 ม.ค. 55 17:15:04

ความคิดเห็นที่ 3 เราควรมีศีลห้าเป็นปกติ แต่เดี๋ยวนี้การรักษาศีลห้าเป็นเรื่องยากมาก จากคุณ : มองตาม เขียนเมื่อ : 23 ม.ค. 55 17:19:54

ความคิดเห็นที่ 4 ไม่เคยได้ยินก็ไม่ใช่ว่าจะไม่มีคนขอพรแบบนั้นนิครับ อย่างผม ผมก็ไม่เคยบอกใครนะว่าผมขอพรว่าไง (เพราะไม่เคยมีใครถาม) เวลาผมไปไหว้พระ หรือ สิ่งศักสิทธิ์ที่ไหน พรที่ขอก็จะขอแค่ ... "ขอให้ลูกอย่าได้ตกไปสู่อบายภูมิ ขอให้มีพระธรรมเป็นเครื่องนำพาชีวิต ให้อยู่ในศีลในธรรมตลอดจนหมดชาตินี้ และ หากชาติหน้าได้เกิดมาเป็นมนุษย์ ก็ขอให้ได้พบกับพระธรรมก่อนพบกับอบายภูมิ" นั่นแหละคือสิ่งที่ผมขอพร.... คราวอื่นก็เหมือนกัน เมื่อครั้งที่เพื่อนๆ ชวนไปไหว้เทพของพวกพราหมณ์อย่าง พระพิฆเนศ พระแม่อุมา ฯลฯ พรที่ผมขอก็คล้ายๆ แบบที่ขอประจำ คือ... "ขอเทพทั้งหลายผู้ปฏิบัติดีแล้ว ปฏิบัติชอบแล้ว โปรดเกื้อหนุนให้ลูก ได้เดินอยู่บนทางสายกลางขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า อย่าให้มีมาร หรือ จิตอกุศลใด มาขัดขวางเลย" ผมไม่ได้นับถือเทพ แต่ผมก็ให้ความเคารพในฐานะผู้ที่มีบารมีสูงกว่า นับถือในฐานะที่เขามีความดีเหนือกว่าตัวผม สุดท้ายแล้วสิ่งที่ผมนับถือ ก็มีแค่ "พระพุทธ พระธรรม พระอริยสงฆ์" แค่นั้นแหละ จะเห็นว่ามันก็ไม่ใช่เรื่องแปลกอะไรที่ผู้หญิงชราคนนั้นเขาจะขอพรแบบนั้น คนที่ขอพรคล้ายๆ แบบนี้ยังมีอีกเยอะครับ แต่เขาไม่ได้มานั่งบอกก็เท่านั้น ส่วนใหญ่จะได้ยินแบบขอพรประเภท ขอให้ได้โน่น ขอให้ได้นี่มากกว่า นั่นก็เพราะส่วนใหญ่เหล่าคนที่ขอพรแบบให้ได้ลาภพอสมหวังก็มักจะไปแก้บน ก็เป็นธรรมดาที่จะมีการโพนทะนาออกมาให้คนอื่นรู้ว่าขอไร ก็เป็นจุดเด่นเป็นธรรมดา ส่วนคนที่เขาขอแบบไม่ได้ขอลาภก็เป็นธรรมดาที่ไม่ค่อยเป็นจุดเด่นอะไร จากคุณ : IT Boys เขียนเมื่อ : 23 ม.ค. 55 17:32:57

ความคิดเห็นที่ 5 อีกนิด การถือศีล 5 ไม่ใช่เรื่องง่ายอย่างที่หญิงชราคนนั้นบอก เป็นเรื่องจริง สมัยนี้ด้วยความที่คนห่างไกลจากศีลกันมาก ปล่อยตัวทำตัวไปตามกิเลส ทำกันจนเป็นเรื่องธรรมดา เช่น วัฒนธรรมการสังสรรค์ ไปงานเลี้ยงทีไรไม่พ้นเหล้าเบียร์ทุกที นั่นก็พาผิดศีลข้อสุราเมระยะมัชชะฯ แล้ว ไหนจะเรื่องรสนิยมมีกิ๊กอีก (เรียกซะสวยหรู จริงๆ ก็ชู้แหละ) มีแฟนอยู่แล้วต้องแอบมีกิ๊กใน Facebook ด้วย นั่นก็พากันผิดศีลข้อกาเมฯ แล้ว แถมเรื่องพวกนี้ทำกันเป็นเหมือนเรื่องปกติ ที่ชอบอ้างว่าใครๆ ก็ทำกัน ถึงได้บอกว่าแค่การจะรักษาศีล 5 ให้ได้ครบมันก็ต้องใช้พลังจิต (จิตที่แน่วแน่) เยอะเหมือนกันนะ ไหนจะต้องทนต่อสิ่งเล้าทั้งหลายที่ต้องเจอในชีวิตประจำวัน การขอพรเลยเหมือนเป็นเครื่องย้ำจิตให้แน่วแน่อยู่ที่การรักษาศีล ถึงจะมีสิ่งศักสิทธิ์จริงหรือเปล่าไม่รู้ แต่มันก็เป็นสิ่งที่ช่วยให้เรามีสติ และดึงตัวเองกลับมาอยู่กับการรักษาศีลได้ จากคุณ : IT Boys เขียนเมื่อ : 23 ม.ค. 55 17:42:09

ความคิดเห็นที่ 6 ^ ขอแบบคห.4 ยังจะน่าปกติกว่า แต่แบบจขกท.ถ้าขอแค่นั้นจริงๆก็คงส่วนน้อย แต่ก็นั่นแหละ..เวลาคนอธิษฐานอะไร ส่วนใหญ่อยู่ในใจ  มันก็เป็นไปได้ว่า อธิษฐานจริงอย่างหนึ่ง  แต่บอกกับคนอื่นอีกอย่างหนึ่ง ...ให้ตัวเองดูดี...ก็น่าจะมีเหมือนกัน จากคุณ : พรีมาวารี เขียนเมื่อ : 23 ม.ค. 55 17:45:16

ความคิดเห็นที่ 7 อ่านแล้วชื่นใจ ปิติในใจครับ :D จากคุณ : OnceWakeUp เขียนเมื่อ : 23 ม.ค. 55 19:05:56

ความคิดเห็นที่ 8 " รักษาศีลห้าให้ครบถ้วน " สั้นๆๆปิติ จากคุณ : chiwat เขียนเมื่อ : 23 ม.ค. 55 19:28:26

ความคิดเห็นที่ 9 คนไทยใหญ่ น่ารักครับ เคยพบที่เป็นเด็กมาช่วยงานแต่งสวน มีคราวนึง แกขี่จักรยานเห็นพระเดินสวนมา แกหยุด พระก็เห็นว่าแกไปก่อนได้ก็หยุดจะให้ไปก่อน แกว่า มีเงาพระอยู่ ขี่จักรยานไปเดี๋ยวจะทับเงาไม่ดี... จากคุณ : STL เขียนเมื่อ : 23 ม.ค. 55 19:42:02

ความคิดเห็นที่ 10 ... จากคุณ : pisity เขียนเมื่อ : 23 ม.ค. 55 21:30:32

ความคิดเห็นที่ 11 ถ้าถือศีลที่ใจแล้ว  ต่อไปศีลจะรักษาเรา จำจากครูบาอาจารย์มาครับ จากคุณ : neap (neap) เขียนเมื่อ : 23 ม.ค. 55 21:52:23

ความคิดเห็นที่ 12 ปกติคนพม่า  จะยึดมั่นในพระพุทธศาสนามาก มีการศึกษาปริยัติกันอย่างกว้างขวาง  การสวดพระอภิธรรมที่เราสวดในงานศพ แต่สำหรับคนที่นั่น  การสวดอภิธรรมจะทำในงานมงคลต่างๆ  เพราะถือว่าเนื้อหา เป็นส่วนสุดยอดของพระพุทธศาสนา  และเยาวชนก็รู้เนื้อหาในธรรมเป็นอย่างดี บางครั้งหากเรามองดูให้ดีแล้ว  ศาสนาพุทธที่ไปตั้งอยู่ในดินแดนต่างๆ มีเอกลักษณ์  และจุดแข็งไปกันไปคนละด้าน  แต่สำหรับการศึกษา ทางธรรมด้านปริยัติแล้วของเขารุ่งเรื่องกว่าเรามาก  แม้แต่การเรียนอภิธรรม ในไทยปัจจุบัน  ก็ได้พระมาจากพม่าเป็นผู้วางรากฐาน ในส่วนตัวนับถือชาวพุทธพม่า  ไม่น้อยในด้านการฝังรากลึกในพระพุทธศาสนา และความสนใจในธรรม  แม้แต่ปัจจุบันก็มีเพื่อนร่วมเรียนปริยัติ  มาเรียนร่วมด้วย เธอมาทำงานในไทย  แล้วดั้นด้นหาที่เรียนทางพุทธศาสนา  เริ่มจากพูดไทยไม่ได้ ไม่คล่อง  เขียนภาษาไทยไม่ได้  แต่เพราะอยากเรียน  อยากสอบกับเขา ก็นั่งคัดไทย  อ่านไทย  ตัวหนังสือแบบเด็ก ป. 1 แต่ก็สอบกับเขามาได้   ตอนนี้เข้าปีที่ 6 ของการเรียนแล้ว  ความพยายามเป็นเลิศจริงๆ   คิดกลับกัน  เราอยากไปเรียนปริยัติที่พม่า  ยังอ่อนใจแม้จะพูดอังกฤษได้ แต่เธอเล่าว่าส่วนใหญ่ใช้ภาษาพม่า  ถ้าเราต้องเริ่มเรียนรู้ภาษาเขาด้วยตนเอง เพื่อเรียนธรรมะเราจะทำหรือไม่  ขนาดภาษาไทยเราก็ยังไม่อยากจะท่องเลย เราได้ยินครูอาจารย์พูดถึงความศรัทธา ในพระพุทธศาสนาของชาวพม่า แล้วปลื้มใจ  คนที่นั่นศรัทธาในศาสนา เข้มแข็งมาก  น่าอนุโมทนา  ใครที่อยากไปเที่ยวอินเดีย  พม่าก็เป็นอีกประเทศ ที่มีวัด และความรุ่งเรื่องทางศาสนาให้กราบไหว้  น่าไปอีกประเทศคะ อนุโมทนากับเรื่องที่เล่าให้ฟังด้วยคะ  เป็นอีกเรื่องหนึ่งที่ตอกย้ำว่า ยังมีชาวพุทธที่ยึดมั่นในศีล ในธรรมอยู่ทุกมุมโลก  มีคนที่ใฝ่ศึกษาในธรรม ปฏิบัติตนอีกมากมาย  จะได้ระลึกว่า  กำลังมีคนตั้งหน้าทำความดีไม่ย่อท้อ แล้วเราทำอะไรอยู่  ส่วนเรื่องศีลเรารักษาไว้ดีแล้ว  แต่จะพัฒนาตนเอง ด้านอื่นต่อไป  แต่อย่างไร  ก็อดปลื้มใจแบบ จขกท ไม่ได้ เราชอบนะ  กินใจ  เป็นเรื่องที่น่ายินดี  ดีใจที่ได้รับฟัง  คนที่มีจิตใจเช่นนี้ ต้องเป็นผู้ระวังในศีลอยู่เป็นอันมาก  ผิดกับชาวพุทธเรามักดูถูกศีล 5 พยายามก้าวข้ามขั้นไป ศีล 8  ไปสมถะ วิปัสสนา  แต่รากฐานไม่มั่นคง   การก้าวหน้าทางธรรมเป็นไปได้ยากถ้าขาดศีล  แม้แต่ฌาน ญาณ การได้มาว่ายาก  การรักษายากกว่ามากมาย  หากไม่มีพื้นฐานทางศีล ใดๆก็เสื่อม  การไม่เป็นพระอริยะ  ฌานและญาน ไม่แน่นอนเสื่อมง่าย ในสังคมคนเมืองที่ปกคลุมด้วยกามคุณอารมณ์  ถ้าไม่เก็บตัว เสื่อมได้ หากรักษาศีลจนสมบูรณ์เป็นผู้เรียนจบในเรื่องศีล  อย่างนน้อยศีล 5 เป็นพระโสดาบัน  ศีลก็บริสุทธิ์  สมาธิก็ถึงพร้อม องค์มรรคก็ดำเนินอยู่ในหนทาง เป็นผู้ที่ไม่เสื่อมในหนทางแห่งพระนิพานโดยแน่นอน ผู้มีศีลนี้ดีแท้หนอ  อนุโมทนาคะ  หวังในใจลึกๆว่าสักวันหนึ่งคุณป้าท่านนี้ จะเป็นผู้ถึงพร้อมใด้วยศีล  โดยไม่ต้องอธิษฐาน  และไว้ใจตนเองว่าตนเองมีศีล ที่บริสุทธิ์  เจริญในธรรมคะ  ผู้มีศีลทั้งหลาย เ จากคุณ : goodsthailand เขียนเมื่อ : 23 ม.ค. 55 22:21:23

ความคิดเห็นที่ 13 สาธุ ขออนุโมทนากับคุณแม่ท่านนั้น และเจ้าของกระทู้ด้วย ขอบคุณครับที่นำเรื่องดีๆมาเล่า จากคุณ : กายใจ เขียนเมื่อ : 23 ม.ค. 55 22:41:39

ความคิดเห็นที่ 14 อ่านแล้วชื่นใจ จากคุณ : ซามูไรหมูตอน เขียนเมื่อ : 23 ม.ค. 55 22:53:29

ความคิดเห็นที่ 15 ขอบคุณที่นำเรื่องดีๆมาแบ่งปันค่ะ ตอนไปเป็นเพื่อนเพื่อนนมัสการรอยพระพุทธบาทที่เขาคิฌกูฏ จันทบุรี เพื่อนบอกว่าให้อธิษฐานได้ข้อเดียว แล้วจะสมปรารถนา เราอธิษฐานและเขียนใส่ผ้าแดงว่า ขอให้เราคิดดีพูดดีทำดี แต่สงสัยกิเลสจะแรงกว่ามาก เลยยังไม่สมปรารถนาเท่าไหร่^^ (อ่านเรื่องจขกท.เลยนึกถึงตัวเอง ขอshareหน่อยนะ) จากคุณ : ฟ้าอิงจันทร์ เขียนเมื่อ : 23 ม.ค. 55 23:55:16

ความคิดเห็นที่ 16 เห็นด้วยค่ะ ใจเรา หู ตา อวัยวะรับสัมผัสของเรา จะรับเอาสิ่งที่อยู่ภายนอกมาทำให้ใจเราหวั่นไหวไปกับกิเลสต่างๆมากมาย ดิฉันเอง เวลาอธิฐานจะขอให้คนเองมีปัญญาที่ดีในการดำเนินชีวิต มีกำลังใจที่เข้มแข็งที่จะเอาชนะความชั่ว และมุ่งทำความดีในช่วงชีวิตที่เหลืออยู่ให้มากที่สุด เพราะชีวิตเป็นของไม่แน่ จากคุณ : มด2002 เขียนเมื่อ : 24 ม.ค. 55 00:46:57

ความคิดเห็นที่ 17 ออกจะไม่ตามเนื้อเรื่องซักหน่อย แต่พุทธต่างกับคริสต์ตรง การอธิษฐาน -คริสต์อธิษฐาน เป็นการสนทนากับพระเจ้า -พุทธอธิษฐานตามกันมา ประสงค์สิ่งที่ต้องการจากเทพ เทวดา พรหมณ์ (สอนกันในครอบครัว) -พุทธในหลักศาสนา จัด อธิษฐานเป็นบารมีขั้นหนึ่ง(จากบารมี 10 ทัศ เรียก อธิษฐานบารมี) คือ ขอแล้วต้องรู้วิธีทำ แล้วต้องทำให้ได้อย่างที่ขอ ขออภัย ถ้าพิมพ์ขัดหูขัดตาหลายท่าน ส่วนตัวก็ถูกสอนมาข้อ 2 มาตั้งแต่เด็กเหมือนกัน เวลาไหว้พระ แต่พิมพ์ไว้ก่อน เดี๋ยวจะมีคนกระโดดลงมา ขวางคลองว่า อธิษฐานกับเทพ ไม่ใช่พุทธแท้อีก --------------- ปล. สะกด คำว่า "อธิษฐาน" ใหม่ครับ ผิดเยอะนะ คนห้องนี้ :P จากคุณ : Zim-MorLuth- เขียนเมื่อ : 24 ม.ค. 55 05:23:30

ความคิดเห็นที่ 18 ผมอธิษฐานด้วยครับ  ขอให้สัตย์อธิษฐานในที่สาธารณะแห่งนี้ว่า ข้าพเข้าจะรักษาศิล๕ให้ได้ตลอดไป หมู่มารใดที่คอยชวนให้ข้าพเจ้าทำผิดศิลขอให้มีอันมอดสลายกลายเป็นเถ้า ข้าพเจ้าจะไม่คิดไปทำเรื่องใดที่ผิดศิล๕ตลอดไป...สาธุ     ขอผลบุญนี้จงเป็นกุศลปัจจัย แก่เพื่อนผู้ปฎิบัติดีทุกท่าน และสรรพสัตว์ที่เป็นเพื่อนเกิดแก่เจ็บตายทุกท่าน ให้สามารถเข้าถึงกระแสแห่งธรรมได้ทุกท่านเทอญ จากคุณ : มันตรัย2009 เขียนเมื่อ : 24 ม.ค. 55 05:33:17

ความคิดเห็นที่ 19 อนุโมทนาครับ จากคุณ : ต่อmcu เขียนเมื่อ : 24 ม.ค. 55 08:12:18

ความคิดเห็นที่ 20 ผมขอให้มีศีล สมาธิ ปัญญา เจริญยิ่ง ๆ ขึ้นไปครับ จากคุณ : เป็นตับ เขียนเมื่อ : 24 ม.ค. 55 08:15:40

ความคิดเห็นที่ 21 การอธิษฐานขอโน่นขอนี่ ถ้าจะคิดอีกแง่หนึ่ง ว่าเป็นการแผ่เมตตาให้ตัวเองจะได้ไหมอะครับ เช่น ทำบุญกุศลเสร็จก็ขอว่า ...ขอให้ข้าพเจ้าจงมี ความสุข ความเจริญ ปราศจากทุกข์โศกโรคภัย เรื่องทุกข์ร้อนกายใจทั้งหลายทั้งปวง ทั้งที่กำลังประสบพบเจออยู่และที่กำลังะเกิดขึ้นก็ขอให้บรรเทาเบาบางระงับดับไปสิ้นอย่าได้เกิดมีขึ้น  ขอให้ข้าพเจ้าได้ประสบสมหวังในสิ่งที่รักที่ปรารถนาทุกประการ อย่าได้พลัดพรากจากสิ่งอันที่รักที่ชอบ ได้ประสบพบเจอแต่สิ่งที่ดีงาม มีชีวิตจิตใจที่ดียิ่ง ๆ ขึ้น ... อะไรทำนองนี้นะครับ อธิษฐานแบบนี้ กลายเป็นการขอตามใจกิเลส ไปเสียแล้วหรือเปล่าอะครับ เพราะเหมือนเคยได้ยินมาว่า การฝึกแผ่เมตตานั้น อ้ันดับแรกต้องฝึกแผ่เมตตาให้แก่ตนเองก่อน   ทีนี้เวลาเราไปทำบุญไหว้พระบำเพ็ญศลที่ไหน แล้วเราขอแบบนี้มันแย่ไหมครับ แก้ไขเมื่อ 24 ม.ค. 55 08:28:54 จากคุณ : time wait for no one เขียนเมื่อ : 24 ม.ค. 55 08:26:17

ความคิดเห็นที่ 22 เข้าใจว่าคุณป้าท่านนั้น ถ้าอธิษฐานขอขนาดนี้  แปลว่าปกติท่านก็รักษาศีลห้าด้วยตนเองได้อยู่แล้ว  เพราะคนปกติ  ถ้าใจไม่สะอาด บริสุทธิ์ ตั้งมั่นที่จะรักษาศีลอย่างเคร่งครัด คงไม่ขอพรแบบนี้   เข้าใจเองว่า  เพียงแต่ท่านอธิษฐานขอให้อย่ามีเหตุให้ต้องผิดศีลโดยไม่เจตนาเท่านั้น ตัวเอง เคยไปอยู่วัด  ก็พบว่า การรักษาศีลห้า  ก็ไม่ใช่ง่าย  เช่นข้อหนึ่ง  แม้เราไม่ต้องการฆ่า หรือ เบียดเบียนต่อสัตว์ อาจมีเหตุให้เกิดประมาท พลั้งเผลอ ให้ทำไปได้ เช่น  กวาดลานวัด  อาจไม่เห็นมด หรือ สัตว์เล็กๆ  ที่อยู่ใต้ใบไม้ หรือ  ล้างห้องน้ำ ก็อาจเปิดน้ำไปกวาดเอาแมลงลงท่อไปโดยไม่เจตนาได้    แม้ข้อห้าก็เช่นกัน บางทีอาจพลาดเผลอไปรับประทานอาหารที่มีส่วนผสมโดยไม่รู้ตัว     แม้จะไม่ถือว่าผิดศีล ด้วยขาดเจตนา แต่เมื่อคิดขึ้นมา ก็อาจทำให้รู้สึกศีลบกพร่องไปได้ จากคุณ : แม่น้องปัน เขียนเมื่อ : 24 ม.ค. 55 10:09:45

ความคิดเห็นที่ 23 ขอขอบพระคุณ ทุกความคิดเห็น และขออนุโมทนาบุญ ทุกท่านด้วยครับ ที่แสดงความคิดเห็นเป็นวิทยาทานให้แก่ผู้อื่น ส่วนตัวผมเองก็มิได้มิเจตนาในทางร้ายแต่อย่างใด แต่้อาจจะเป็นเพราะความไม่รู้และขาดประสบการณ์ไปบ้าง ผิดพลาดประการใด ฝากพี่ๆช่วยแนะนำด้วย ด้วยประสบการณ์ฺนี้ผมยังเชื่อว่า ถ้าหญิงคนนั้นโกหก ผลกรรมก็จะเกิดเอง หรือแม้ผมโกหก ผลก็จักเกิดเช่นกัน แต่สิงแรกที่ผมได้รับรู้คือ ผมมีความปิติมาก เมื่อได้ฟังสิ่งที่แก่พูด จากคุณ : siambc031 เขียนเมื่อ : 24 ม.ค. 55 10:18:50

ความคิดเห็นที่ 24 อ่านแล้วชอบมากเลยค่ะ รักษาศีลห้า สำหรับตัวดิฉันเองดิฉันว่ามันยากนะคะ ข้ออื่นยังได้อยู่ แต่เฉพาะข้อหนึ่งทำไม่ได้ซักทียุงบินมากัดทีไรตบตายตลอดๆเลย จากคุณ : แสงสีขาว เขียนเมื่อ : 24 ม.ค. 55 11:20:02

ความคิดเห็นที่ 25 สาธุ อนุโมทนาด้วยคนค่ะ  จริงของแกศีลห้าถ้าไม่ตั้งใจรักษาก็ยากที่จะครบถ้วนจริงๆ จากคุณ : หยิน wu เขียนเมื่อ : 24 ม.ค. 55 11:21:08

ความคิดเห็นที่ 26 ขออนุญาต คุณแสงสีขาว   ท่านพอจ.สุชาติ เจ้าอาวาสวัดญาณสังวร ท่านเคยสอนลูกชายดิฉันว่า  เวลาถูกยุงกัด  ก็ปัดมันไป  หรือ ถ้ามันไม่ไป ก็คิดซะว่าให้ทานเลือดแก่มัน  มันกัดเราแค่นี้ เราไม่ตาย แต่ถ้าเราตบมันตาย ลองคิดว่า  มันหาอาหารกินแค่นี้  โทษถึงตายเชียวหรือ  อย่าลงโทษมันขนาดนั้นเลย   แต่หากเรากลัว ว่าเราจะได้รับโรคร้ายจากมัน ก็ให้คิดซะว่า ถ้าเป็นกรรมของเราก็ช่างเถิด  คนเราเกิดมามีกรรมเป็นของตัว หากต้องเจ็บป่วย ก็ช่างมันเถิด   ดิฉันเอง เมื่อก่อนก็มือไวมาก  ตบตายตลอด  หลังๆ  ตั้งสติใหม่ ไม่ตบเลย จะปัดๆ ไป หรือ หาที่นั่งใหม่  ก็ไม่ได้ตบมันอีกแล้วค่ะ ยุงก็กัดเราน้อยลงด้วย ไม่เบียดเบียนกันและกัน เหมือนเมื่อก่อนค่ะ จากคุณ : แม่น้องปัน เขียนเมื่อ : 24 ม.ค. 55 11:51:27

ความคิดเห็นที่ 27 ขอบคุณค่ะ คุณแม่น้องปัน แหะๆ บางครั้งถ้าสำนึกได้ก็ปัดๆเอาน่ะค่ะ แต่ก็เผลอตบประจำ คงเพราะความเคยชิน มือมันไวกว่าความคิดค่ะ คงต้องค่อยๆฝึกไปเรื่อยๆค่ะ จากคุณ : แสงสีขาว เขียนเมื่อ : 24 ม.ค. 55 12:39:48

ความคิดเห็นที่ 28 ชื่นใจ ผมเองก็ขอแนวเดียวกับยายท่านนี้เหมือนกัน จากคุณ : V_Accy เขียนเมื่อ : 24 ม.ค. 55 13:51:05

ความคิดเห็นที่ 29 สาธุ ขอให้เป็นไปตามนั้นด้วยเถิด จากคุณ : rangsi2mant เขียนเมื่อ : 24 ม.ค. 55 15:22:02

ความคิดเห็นที่ 30 ลองตั้งใจจริงๆ ดูครับ ผมก็เป็นปุถุชน คนกิเลสหนา สมาทานศีล 5 ทุกวัน(ประมาณ1ปีและจะทำไปเรื่อยๆ) แม้ในบางวันบกพร่องไป เราก็ตั้งใจใหม่ครับ ผมเชื่อว่าผมทำได้ครับ อนุโมทนากับกุศลของทุกท่านครับ จากคุณ : view2306 เขียนเมื่อ : 24 ม.ค. 55 21:36:26

ความคิดเห็นที่ 31 สนับสนุน คห. 12 ชาวพุทธพม่านั้น มีความศรัทธาในพระพุทธศาสนา และแม้แต่ที่เป็นฆราวาส ก็ชอบศึกษาพระปริยัติธรรมกันมาก ได้ทราบจากพระอาจารย์ผู้จบหลักสูตรขั้นอาจริยะ ของพม่า ว่าบางหมู่บ้าน ตั้งชื่อหมู๋บ้านว่า "หมู่บ้านวิสุทธิมรรค"  เพราะคนในหมู๋บ้านนั้นศึกษาวิสุทธิมรรคกันทุกครัวเรือน ที่หมู่บ้านนี้จะมีวัดประจำหมู่บ้าน แต่พระน้อยมาก  เพราะพระท่านไม่ค่อยกล้าอยู่กัน เนื่องจากเวลาไปบิณฑบาต ชาวบ้านใส่บาตรแล้วจะถามถึงเนื้อความในวิสุทธิมรรค  ถ้าพระตอบไม่ได้ ก็จะถูกชาวบ้านเพ่งเล็ง (ทำนองว่า ทำไมพระคุณเจ้าไม่ศึกษาปริยัติธรรมให้ดีเล่า)  จนพระต้องศึกษาคัมภีร์ปริยัติธรรม เดี๋ยวจะต้องอายชาวบ้านเวลาถูกถามแล้วตอบไม่ได้ ป.ล. เสริมเล็กน้อย  คุณ Zim-MorLuth- ได้ทักท้วงเรื่องการสะกดคำว่า "อธิษฐาน"  ให้ถูกต้อง  ซึ่งผมน่าจะเป็นผู้มีส่วนใช้คำนี้ผิดด้วยเหมือนกัน  โดยผมใช้คำว่า "อธิฏฐาน" แต่มีสาเหตุอยู่ว่า  ที่ผมใช้คำว่า "อธิฏฐาน" นี้ ไม่ใช่เพราะสะกดผิด  แต่เพราะศัพท์นี้ เดิมในภาษาบาลีอักษรไทย สะกดด้วย "ฏ" ไม่ใช่ ษ   เพียงแต่มีการปรับคำเพื่อให้คุ้นลิ้นคนไทย หรือเพื่อเหตุผลอย่างอื่น จึงเปลี่ยนจาก ฏ เป็น ษ ในภายหลัง ถ้าไปดูในพจนานุกรมฉบับราชบัณฑิตยสถาน ปี ๒๕๔๒ จะเห็นว่า พจนานุกรมฯ  ได้เก็บคำว่า "อธิฏฐาน" เอาไว้ด้วย  ดังข้อความว่า ------------------------ อธิษฐาน [อะทิดถาน, อะทิดสะถาน] ก. ตั้งใจมุ่งผลอย่างใดอย่างหนึ่ง, ตั้งจิตปรารถนา, ตั้งจิตขอร้องต่อสิ่งที่ตนถือว่าศักดิ์สิทธิ์เพื่อผลอย่างใดอย่างหนึ่ง, อธิฏฐาน ก็ว่า. (ส.; ป. อธิฏฺาน). ------------------------ ผมก็เลยสะกดคำนี้เป็น  "อธิฏฐาน" เพราะคุ้นกับการใช้ภาษาบาลีมากกว่า และพจนานุกรมก็ให้ใช้ได้ทั้งสองคำ จากคุณ : chohokun เขียนเมื่อ : 25 ม.ค. 55 02:28:24

ความคิดเห็นที่ 32 คห 12 พระ กรุ ไหนครับ สวยมาก ความหมาย ว่าอย่างไร คือ  นั่งอยู่ในหอย   และมือ จกเข้าไปในบาตร จากคุณ : supersub เขียนเมื่อ : 25 ม.ค. 55 07:30:08

ความคิดเห็นที่ 33 อนุโมทนาค่ะ จากคุณ : พิพิม เขียนเมื่อ : 25 ม.ค. 55 11:06:55

ความคิดเห็นที่ 34 อนุโมทนาสาธุครับ ........ สนับสนุนข้อมูล เรื่องที่ คุณ  chohokun กล่าวถึงพระในพม่านั้นต้องเรียนธรรม และเคร่งครัดในพระธรรมวินัย ผมมีโอกาสได้รู้จักกับพระเถระชาวไทยใหญ่(จากรัฐฉาน พม่า) รูปหนึ่ง ท่านกล่าวไว้ ทำนองเดียวกับที่ คุณ  chohokun เขียนใว้ใน #31 ท่านมีความแม่นยำในพระธรรมวินัยมาก รวมถึงอภิธรรมด้วย ท่านสอนให้ขอพรคือ ให้ดวงตาเห็นธรรม ให้ก้าวสู่โสดาบัน เวลาท่านให้พร ก็บอกให้เราเพียรเพื่อพ้นไปจากวัฏ ผมยังไม่เคยได้ยินท่านบอกให้รวย ให้ได้ลาภ ฯ .......... จากคุณ : ยามประจำวัน เขียนเมื่อ : 25 ม.ค. 55 17:17:52

ความคิดเห็นที่ 35 คำอธิษฐานของเทวดา สาธุ.. จากคุณ : ทุกวินาที เขียนเมื่อ : 25 ม.ค. 55 17:39:56

ความคิดเห็นที่ 36 อนุโมทนาค่ะ จากคุณ : หนูน้ำหวาน เขียนเมื่อ : 25 ม.ค. 55 19:53:31

ความคิดเห็นที่ 37 น่าชื่นชมคุณป้าจริง ๆเลยครับ... แต่ผมไม่เคยอธิษฐานแบบนี้เหมือนกัน อาจจะเป็นเพราะคิดเองว่าการถือศีลเป็นความประพฤติ ที่มีแรงเจตนาเป็นตัวผลักดันอยู่แล้ว ถ้าจะขอก็คงหมายถึงให้สิ่งศักดิ์สิทธิ์เป็นพยานให้สำรวมระวังไม่ให้ด่างพร้อย ส่วนการปฏิบัติเป็นหน้าที่ของเรานะ ทุกวันนี้มันก็เป็นอัติโนมัติดี เลยแทบไม่ได้สมาทานสิกขาบทซักเท่าไหร่ ------------------------------------------------- ส่วนคำขอต่อหน้าพระปฏิมาของผม โดยส่วนตัว ถ้ามีคนถามก็จะบอกเขาไปแบบนี้ครับ "ด้วยผลบุญจากทาน ศีลและการเจริญสติภาวนาที่เคยได้ทำไว้แต่กาลก่อนมาจนถึงบัดนี้ ขอจงเป็นปัจจัยเกื้อหนุนให้เกิดชาติหน้าฉันใด ได้เกิดเป็นมนุษย์ พบพุทธศาสนา ศรัทธาการเจริญสติปัฏฐาน4 ลงมือปฏิบัติให้ถึงพร้อมด้วยโยนิโสมนสิการ ได้พบเจอกัลยาณมิตร ผู้ชี้ทางตรงสู่มรรคผล อย่างลัดสั้นและตรงจริตด้วยเทอญ" แก้ไขเมื่อ 25 ม.ค. 55 23:41:41 จากคุณ : Up_To_You เขียนเมื่อ : 25 ม.ค. 55 23:38:14

ความคิดเห็นที่ 38 ตอนเด็กๆ เวลาไปไหว้พระทำบุญ แม่จะบอกให้อธิษฐานขอสิ่งที่อยากได้.. ทุกๆครั้งที่ยกมือขึ้นจะอธิษฐาน เราจะนึกไม่ออกเลยว่า อยากได้อะไร? o.O บางทีก็นั่งนึกนานๆ.. เพราะไม่รู้ว่าจะอธิษฐานขออะไรดี.. แล้วเราก็ไม่เข้าใจขอบเขตของการอธิษฐาน ว่าเราขอได้กี่ข้อ หลายๆข้อ หรือข้อเดียว ?? พ่อกับแม่เราบอกว่า เวลาอธิษฐาน ถ้าอธิษฐานแค่ข้อเดียว มันถึงจะเป็นจริง เราก็นั่งนึกต่อ.. ถ้าอธิษฐานได้แค่ข้อเดียว.. แล้วจะอธิษฐานอะไร?? o.O สุดท้าย เราก็เลย.. นึกคำอธิษฐานที่ดีที่สุดได้.. ทุกๆครั้ง ที่ไปไหว้พระ ทำบุญ เราจะอธิษฐานกับสิ่งศักดิ์สิทธิ์เสมอว่า.. "ขอให้ทุกคนบนโลกนี้ มีความสุข" เป็นคำอธิษฐานเดียว ที่ครอบคลุมมนุษย์ทุกๆคนบนโลก อิอิ ^^ เราอธิษฐานแบบนี้ตลอด ตั้งแต่เด็ก จนกระทั่ง เราเข้ามหาวิทยาลัยปี 2 ที่ผ่านมา ชีวิตเรา ไม่เคยขาดอะไรเลย.. เราเป็นคนที่.. แทบไม่รู้จักคำว่า "ความสุข" เพราะเรา "ไม่เคยมีความทุกข์" เลย ถ้าใครเคยอ่านเรื่องของเรา (เคยเล่าไว้ห้องศาลาฯ) เราเป็นเด็กที่.. แทบไม่ต้องอ่านหนังสือ ก็สอบได้ที่ 1 ที่บ้านเรา ไม่ได้มีฐานะร่ำรวย แต่ตอนที่เราเป็นเด็ก เราก็ไม่รู้หรอกว่า รวยคืออะไร(ไม่ได้สนใจ ยังเด็กอยู่) รู้แต่ว่า เราไม่เคยขาด เรามีกิน มีใช้ มีของเล่น เรามักจะโดนเพื่อนๆบอกเสมอๆว่า เราเป็นคนคิดแปลก ทำอะไรไม่เหมือนใคร และเป็นคนที่ "จริงใจ" เราชอบทำเซอร์ไพร้ส์คนรอบข้างเรา เวลาที่เราช่วยใคร เพื่อน หรือ ญาติ หรือคนรู้จัก เราจะช่วยถึงที่สุด ราวกับว่าปัญหานั้น เป็นของเราเอง ^_^ เราชอบ ช่วยให้คนที่กำลังมีเรื่องกลุ้มใจ ให้เขาผ่านวิกฤติไปได้.. ชีวิตเรา ไม่เคยมีความทุกข์เลย.. ดังนั้น เราจึงมีความสุขกับการได้มองเห็นคนที่กำลังกลุ้มใจได้มีความสุข เราช่วยคน ช่วยถึงที่สุด เราเรียนเก่ง สอบได้ที่ 1 ตลอด เรียนได้ 4.00 ตลอด เรียนบ้าง ไม่เรียนบ้าง สอบเข้ามหาลัยรัฐอันดับต้นๆได้ตั้งแต่ จุฬาฯ ลาดกระบัง ม.ขอนแก่น ฯลฯ ชีวิตเรา ไม่เคยมีความทุกข์เลย!! เวลาที่พ่อกับแม่ชวนไปเที่ยวต่างจังหวัด เราก็ไม่ได้รู้สึก อยากไป หรือ ไม่อยากไป เรารู้สึกเฉยๆ ไปก็ได้ ไม่ไปก็ได้.. ยังไงก็ได้.. เราชอบดูท้องฟ้า มองดวงดาว.. พิจารณาสิ่งของต่างๆ เราเป็นที่รักของทุกๆคน ทำอะไรก็ประสบความสำเร็จทุกอย่าง แถมยังเป็นคนที่ "ชอบหัวเราะ" มากๆอีกด้วย ^^ จนกระทั่ง.. เราขึ้น ปี 2 เราเลือกเรียน คณะที่เกี่ยวกับ Computer.. (ชอบดาราศาสตร์ แต่มาเรียน programming) จากที่เรา มักจะอธิษฐานกับสิ่งศักดิ์สิทธิ์ตลอดว่า "ขอให้ทุกคนบนโลก มีความสุข" พอขึ้นปี 2 ของมหาวิทยาลัย.. เราก็เริ่มเพิ่มคำอธิษฐาน มาอีก 1 ข้อ คือ "ขอให้สอบวิชานี้ผ่านด้วยเถิด สาธุ" แล้วหลังจากนั้น.. เราขึ้น ปี 3 ปี 4 ปี 5 จนเราเรียนจบมหาวิทยาลัยและทำงาน .. คำอธิษฐาน เริ่มมีเพิ่มขึ้น ตอนนี้ เราไม่ได้อธิษฐานให้ทุกคนบนโลกมีความสุขอีกต่อไปแล้ว แต่เราอธิษฐานให้ตัวเองหลายๆเรื่อง... เรื่องราวชีวิตของเรา มันทำให้เรารู้ว่า.. คนเรา ยิ่งโต ก็ยิ่งมีพันธะมาก ยิ่งโต ก็ยิ่งเห็นแก่ตัวมาก ยิ่งโต ก็ยิ่งโลภมาก .. เรามีเรื่องเล่าในชีวิตเยอะมากเลยอ่ะนะ --' คงเป็นเพราะ ชีวิตมีหลายด้าน มีด้านที่รุ่งที่สุด ร่วงที่สุด ปกติที่สุด เราเคยคบเพื่อนดีๆ(เมื่อก่อนจะเลือกคบเพื่อนมากๆ ต้องคนจริงใจและใสซื่อเท่านั้น) แต่หลังๆมา พอโตมา เราก็จำเป็นต้องคบเพื่อนไม่ดี (มันเลือกไม่ค่อยได้แระ เพราะเราเปลี่ยนที่พักบ่อย) เราเคยเป็นคนมองโลกในแง่ดีมากๆ คิดว่าคนเลวๆไม่มีในโลกความเป็นจริงหรอก .. แต่พอโตมา เรากลับต้องเจอกับเหตุการณ์ที่ทำให้เรามองเห็นว่า.. พวกตัวละครเลวๆในละครอ่ะ มันมีอยู่เกลื่อนกลาดโลกนี้เต็มไปหมดเลย เรามีเพื่อนเป็นทั้งเศรษฐี (พูดจริงนะ ระดับพันล้านเลย) ระดับร้อยล้าน สิบล้าน แล้วเราก็มีแม้กระทั่ง เพื่อนที่จนมากๆ ยากจนมากๆ เราเคยไปต่างประเทศมาหลายๆประเทศ เราเคยใช้ชีวิตในเมืองกรุงฯ และต่างจังหวัดฯ เท่าๆกัน เราเคยไปตามบ้านนอก และเราเคยไปนอกประเทศไทย.. ฯลฯ สิ่งเหล่านี้ ทำให้เรา มองเห็นความเป็นจริงหลายๆอย่างของชีวิต ของมนุษย์ โทษที เพ้อไปหน่อย --' ไปนอนแระ สวัสดีค่ะ ^_^ จากคุณ : mooesha เขียนเมื่อ : 26 ม.ค. 55 02:41:12

ความคิดเห็นที่ 39 อนุโมทนา กับเรื่องเล่า ดี ดี จาก เจ้าของกระทู้ค่ะ สำหรับดิฉัน ในชีวิต พบเจอเหตุการณ์อันเหลือเชื่อ หลายครั้งหลายหน (อาทิเช่น เกิดเหตุการณ์ไฟไหม้ โดยไม่ได้เกิดจากความประมาท 3-4 ครั้ง และไหม้เฉพาะตรงหิ้งพระ หรือห้องพระทุกครั้ง ข้าวของอย่างอื่นไม่เสียหายเลย ครั้งหลังสุดเจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐาน ได้แจ้งว่าสาเหตุเกิดจากบัลลาสท์ระเบิด ซึ่งบ้านเดินไฟฟ้าใหม่ จะเป็นไปได้อย่างไรกัน) ทุกครั้งที่ไหว้พระ ตั้งจิตอธิษฐานว่า "ขออำนาจคุณพระพุทธ พระธรรม และพระสงฆ์ ได้โปรดดลบันดาลให้สิ่งที่ลูกจะกระทำ ขอให้ลูกกระทำโดยตั้งมั่นอยู่บนความดีงาม ลูกจะทำการสิ่งใด ขอให้สำเร็จ ขอให้อัศจรรย์เหนือมนุษย์ทั้งปวง" จากคุณ : ไอยรินมาทวงถาม เขียนเมื่อ : 26 ม.ค. 55 08:13:13

ความคิดเห็นที่ 40 เวลาอธิฐาน ปรกติ ชอบขอประมาณว่า ขอให้เป็นคนคิดดี ทำดี พูดดีอ่ะ ค่ะ จากคุณ : แอปเปิ้ลเชอรี่ เขียนเมื่อ : 26 ม.ค. 55 15:25:58

ความคิดเห็นที่ 41 อนุโมทนาค่ะ จากคุณ : LittleSister เขียนเมื่อ : 26 ม.ค. 55 15:57:18

ความคิดเห็นที่ 42 อนุโมทนาสาธุด้วยครับ จากคุณ : GeigerU เขียนเมื่อ : 27 ม.ค. 55 11:21:13

ความคิดเห็นที่ 43 อนุโมทนานะคะ อ่านแล้วรู้สึกสบายใจ เมื่อคิดดี ย่อมอธิษฐานดีดี ผลดีตามมาเพราะการกระทำดี สิ่งที่ดีย่อมตามมา จากคุณ : จิตรพร เขียนเมื่อ : 27 ม.ค. 55 12:09:24

ความคิดเห็นที่ 44 สาธุ สาธุ สาธุ  -/l\- จากคุณ : ความจำผมมันสั้น เขียนเมื่อ : 28 ม.ค. 55 14:51:33

ความคิดเห็นที่ 45 อนุโมทนาครับ ดีใจ ที่ยังเห็นคนมีศรัทธาในศีล ดีใจ ที่ยังมีสถานที่ที่ให้พระพุทธศาสนาประดิษฐสถาน ได้อย่างมั่นคง จากคุณ : คลอโรพลาสต์ เขียนเมื่อ : 28 ม.ค. 55 21:56:42

ความคิดเห็นที่ 46 ผมเองทุกวันนี้เวลาไหว้พระผมก็พรตลอด ผมอธิษฐานว่า "หากยังนิพพาน ขอให้ได้เกิดมาเจอพระธรรมและได้ฟังธรรม ปฏิบัติธรรมทุกชาติไป จนกว่าจะเข้าสู่นิพพาน" จากคุณ : ซาตานกลับใจ เขียนเมื่อ : 29 ม.ค. 55 00:06:06

ความคิดเห็นที่ 47 อนุโมทนาค่ะ อ่านแล้วรู้สึกดีมากๆคะ ขอบคุณเจ้าของกระทู้นะคะที่นำประสบการณ์มาเล่าให้ฟัง ^_^ จากคุณ : งาม แสนหลวง ในดินแดนแสนโสภา เขียนเมื่อ : 29 ม.ค. 55 22:32:59

ความคิดเห็นที่ 48 ส่วนของผมเวลาทำบุญจะอธิฐานว่า ข้าพเจ้าขอตั้งจิตอุทิศผล บุญกุศลนี้แผ่ให้ไพศาล ถึงบิดร-มารดา คูรอาจารย์ อีกลูกหลายญาติมิตรสนิทกัน คนเคยร่วมงานการกันทั้งหลาย จงมีส่วนได้ในกุศลผลของฉัน ทั้งเจ้ากรรมนายเวรและเทวัญ จงได้ในกุศลผลนี้เทอญ จากคุณ : เฉาก็วย เขียนเมื่อ : 30 ม.ค. 55 10:55:47

ความคิดเห็นที่ 49 แหะๆ หนึ่งข้อที่เราอธิษฐานเสมอคือ ขอให้เราและคนที่เรารักมีสัมมาทิฐิ มีทิฐิที่ถูกต้องดีงามในการดำเนินชีวิตค่ะ มาคอนเฟิร์มว่าคนพม่าศรัทธาและเคารพในพระพุทธศาสนามากมายจริงๆ ไปแล้วรู้สึกดีมากๆ ค่ะ ไปแล้วเพิ่มพูนพลังด้านบวกได้ดีขึ้นเยอะเลย ประทับใจมาก จากคุณ : สาวไกด์ใจซื่อ เขียนเมื่อ : 30 ม.ค. 55 18:53:01

ความคิดเห็นที่ 50 อนุโมทนาค่ะ นอกจากขอให้พ่อแม่สบายดี และครอบครัวสบยดีแล้ว เราก็อธิฐานไปในแนวขอเจ้าพระนิพพานไวๆนะคะ ศีลห้าครบละตอนนี้ แต่กำลังใจยังอยู่ในระหว่างขอเผชิญหน้ากับ ทุกขเวทนาดีไหม เพราะกลัวเจ็บจริงๆ เราทนเวทนาไม่ค่อยได้เลยค่ะ จากคุณ : Janur เขียนเมื่อ : 30 ม.ค. 55 22:40:41

ความคิดเห็นที่ 51 เวลาทำบุญดิชั้นก็ขอให้ กิเลสน้อยลง เช่นกันค่ะ จากคุณ : Ms.Browneyes เขียนเมื่อ : 31 ม.ค. 55 14:53:48

ความคิดเห็นที่ 52 อยากได้แบบนั้นบ้างจัง จากคุณ : Daimon in the rough เขียนเมื่อ : 31 ม.ค. 55 20:28:35

ความคิดเห็นที่ 53 อ่านแล้วดีจัง รู้สึกชอบลักษณะวิถีแนวคิดของคนไทยใหญ่ที่เปี่ยมด้วยศีลธรรม เราเองเวลาอธิษฐานจะขอว่า "ขอให้ข้าพเจ้ามีดวงตาเห็นธรรม มีปัญญาบรรลุธรรมได้โดยง่าย สามารถเอาชนะอุปสรรค มาร กิเลส นิวรณ์ทั้งหลาย เพื่อบำเพ็ญเพียรธรรมต่อไปได้อย่างก้าวหน้าและถูกทาง ตลอดจนเข้าสู่กระแสมรรค ผล นิพพาน หากข้าพเจ้ายังไม่ถึงซึ่งนิพพานชาตินี้ ไม่ว่าจะจุติในภพภูมิใด ขอได้ครองเพศเป็นบุรุษผู้มีสัมมาทิฐิบริสุทธิ์ ยึดมั่นในศีลในธรรมอย่างมั่นคง มีความเพียรและขันติในการปฏิบัติธรรมเพื่อจุดมุ่งหมายหลักคือ หลุดพ้นจากสังสารวัฎ ไปทุกภพทุกชาติ หากเป็นมนุษย์ ขอให้ได้อยู่ใต้ร่มกาสาวพัตร์ตั้งแต่ยังวัยเยาว์ ดำรงตนอยู่ห่างไกลกิเลส มีความเพียรปฏิบัติธรรมอย่างอุกฤกษ์ไปเรื่อยๆ จนก้าวเข้าสู่มรรค ผล นิพพาน เทอญ ปล - ยาวไปหน่อย ฮ่าๆ แต่เกิดสมาธิดีนะตอนอธิษฐานน่ะ จากคุณ : snoopy21 เขียนเมื่อ : 1 ก.พ. 55 11:44:51

ความคิดเห็นที่ 54 ของผมขอว่า ขอให้ข้าพเจ้ายินดีในการให้ทาน ในการรักษาศีล ในการเจริญภาวนาอ่ะครับ จากคุณ : are2000 เขียนเมื่อ : 1 ก.พ. 55 12:49:25

ความคิดเห็นที่ 55 เราไม่เคยขอเลย ไม่เคยเลย ไม่รู้จะขอไปทำไม อยากได้ก็ทำเอง และถึงขอได้ ก็ไม่รู้จะขออะไร จากคุณ : kugkik_kugkik เขียนเมื่อ : 1 ก.พ. 55 16:28:24

ความคิดเห็นที่ 56 เวลาไหว้พระเราจะขอให้ตัวเรามีสติ ไม่เชิงขอพรท่าน แต่เป็นการเตือนตัวเอง ให้มีสมาธิ มีสติ จะได้ไม่คิดทำอะไรแย่ๆ ค่ะ จากคุณ : CutieAngel เขียนเมื่อ : 1 ก.พ. 55 21:24:19

ความคิดเห็นที่ 57 อ่านแล้วประทับใจมากๆครับ เวลาผมขอ ผมจะขอก่อนนอนทุกคืนว่าขอให้ผมมีสติ มีความอดทน สู้ชีวิต ทำมาหากินสำเร็จ ครอบครัวพ่อแม่จะได้พักผ่อนเสียทีครับ จากคุณ : ถึก (west wing) เขียนเมื่อ : 2 ก.พ. 55 07:25:41

ความคิดเห็นที่ 58 คุณแม่ท่านอาจจะพูดว่า " ขอหื้อจ๊าดภพนี้ ขะเจ้าได๋ตั้งมั่นอยู่ในศีล 5 บะขาดต๊ก สักข้อเดียว และเจริญในทางธรรม สาตุ " จากคุณ : run to me เขียนเมื่อ : 2 ก.พ. 55 14:41:07

ความคิดเห็นที่ 59 รักษาสติให้ดีครับ ศีลจะสมบูรณ์ขึ้นเรื่อยๆ จากคุณ : สติ เขียนเมื่อ : 2 ก.พ. 55 16:41:26