ความคิดเห็นที่ 1 ไม่อายครับ และนึกขอบคุณคนที่มาแก้ให้ด้วย จากคุณ : น้องแนนแฟนคลับลำดับที่หนึ่ง เขียนเมื่อ : 24 ม.ค. 55 16:17:32

ความคิดเห็นที่ 2 ก็คงกระดาก แต่รู้สึกดีใจมากกว่านะ จากคุณ : KONICHIWA เขียนเมื่อ : 24 ม.ค. 55 16:18:59

ความคิดเห็นที่ 3 กระดาก/อายบ้างครับ และรู้สึกขอบคุณคนที่มาแก้ไขความเข้าใจผิดของเรา แต่ไม่ได้อยากลบคำตอบทิ้งครับ ถ้าลบคำตอบทิ้งเดี๋ยวคนมาอ่านทีหลังเข้าใจผิด/ไม่รู้ที่มาที่ไป จากคุณ : จันทร์สะท้อนเงา เขียนเมื่อ : 24 ม.ค. 55 16:25:01

ความคิดเห็นที่ 4 ลึกๆแล้วคงกระดากใจอยู่ แต่ด้วยเหตุผล ต้องยอมรับแหละครับว่าเขามาแก้ให้เสริมให้ละเอียดขึ้นน่ะดีแล้ว ตัวเราเองและคนอื่นจะได้แก้จากผิดเป็นถูกและรู้มากๆขึ้นไปอีก ไอ้ที่กระดากนี่คงต้องเป็นหน้าที่ของเราเองที่จะต้องลดละเลิกเพื่อพัฒนาจิตใจให้มีคุณภาพมากขึ้น จากคุณ : bozopop เขียนเมื่อ : 24 ม.ค. 55 16:29:29

ความคิดเห็นที่ 5 อายสิ แต่คิดว่าผิดเป็นครู ก็ ดีกว่า ให้คนอื่น เข้าใจผิดๆไป จากคุณ : ก้นกบ เขียนเมื่อ : 24 ม.ค. 55 16:32:55

ความคิดเห็นที่ 6 อ่านแล้วขำจัง  ตอบตามตรงว่า "ไม่อาย" ค่ะ   เพราะต้นทุนต่ำ  ไม่ได้ถูกคาดหมายให้เป็น "กูรู้" ประจำห้อง   มันก็เลยชิวๆ แต่หากมีผู้มาแก้ความเห็นผิดให้  ก็ขอบคุณท่านนั้นๆ มากเลย และสิ่งที่จะทำก็คือ  หากไม่ลบคคห. ของตัวเอง ก็จะแก้ไข อันนี้หมายถึงหากได้กลับเข้าไปดูกระทู้นั้นๆ นะคะ ที่ลบ/แก้ไข นั้น  เพราะไม่ต้องการให้ผู้อื่นมาอ่านเจอและอาจจดจำข้อผิดๆ นั้นไป ค่อนข้างจะ "แคร์" พอควร กับการให้ข้อธรรมหรือความเห็นผิดๆ ออกไป จากคุณ : Smiling-girl เขียนเมื่อ : 24 ม.ค. 55 16:33:40

ความคิดเห็นที่ 7 เรื่องธรรมดา ไม่มีใครเป็นสัพพัญญูไปทุกคนหรอกครับ ตอบผิดมั่งถูกมั่ง แต่ถือว่าตั้งใจตอบ มีความจริงใจที่จะตอบครับ จากคุณ : phahurat เขียนเมื่อ : 24 ม.ค. 55 16:36:34

ความคิดเห็นที่ 8 ก็มีกระดากบ้างเป็นธรรมดา แต่ก็ยอมรับได้ ถ้าของเราผิดก็แก้ซะให้ถูกต้อง ไม่ใช่แก้เพราะเสียหน้า แล้วก็ขอบคุณคนที่เขามาแก้ให้เสียด้วย คนเราผิดได้ โง่ได้ แต่อย่าด้าน จากคุณ : ชาล้นถ้วย เขียนเมื่อ : 24 ม.ค. 55 16:39:41

ความคิดเห็นที่ 9 ผิดบ่อยค่ะ กระดากไปพักนึง ไม่เข็ด จากคุณ : คำเภา1 เขียนเมื่อ : 24 ม.ค. 55 16:49:17

ความคิดเห็นที่ 10 เขินมากกว่า แต่เป็นคนมีน้ำใจ มีอะไรช่วยๆกัน มันก็ไม่ใช่เรื่องร้ายแรงอะไร จากคุณ : Neoy- Kaeng เขียนเมื่อ : 24 ม.ค. 55 17:00:07

ความคิดเห็นที่ 11 จริงๆแล้วรู้แค่ไหนก็ควรจะตอบแค่นั้น เช่น เรื่องสมาธิ สมาธินี่มันไต่ไปถึงสิ่งที่เรียกว่าิิอจิณไตยได้ ถ้าเราไม่แน่น อย่าไปตอบ ตอบผิดก็ลงนรกไปอีกชั้นหนึ่ง กรรมฐานกองใดที่เราไม่เคยปฏิบัติ อย่าไปตอบ ถ้าปฏิบัติแล้วยังไม่จบ ก็ต้องกำหนดจิตให้ดีว่าจะตอบได้แค่ไหน ตำรากับการปฏิบัตินั้นจะแตกต่างกัน นั่นคือ สิ่งที่ได้จากการปฏิบัติจะแตกต่างจากสิ่งที่รู้จากการอ่านจากตำรา แต่เมื่อนำผลจากการปฏิบัติไปเทียบเคียงกับตำราแล้วจะตรงกัน วิปัสสนาญาณเป็นของสูงมาก ไม่ได้ใช้สุตตมยปัญญากับจินตนามยปัญญาในการอธิบาย ถ้าจะตอบเรื่องนี้ แนะนำตำราให้เขาศึกษาเองเลยจะดีกว่า นอกเสียจากว่าเราจะเป็นพระอริยะ นั่นแหละุถึงพอจะแนะนำได้ จากคุณ : kiarati เขียนเมื่อ : 24 ม.ค. 55 17:23:13

ความคิดเห็นที่ 12 เจตนาดี +ปราถนาดี ย่อมได้รับแต่สิ่งดีๆ อย่าได้กังวลเลย จากคุณ : วันนี้กอดแม่ยังอ่ะ เขียนเมื่อ : 24 ม.ค. 55 17:35:14

ความคิดเห็นที่ 13 ที่เล่นพันทิปทุกวันนี้ เพราะมีคนแก้โง่ให้น้อยลงนี่แหละ ไม่งั้นจะเข้ามาโชว์โง่ทำไมละ เวลาได้ความรู้ไปแบบนี้ มันจำไม่ลืมใช่ไหมล๊ะ!! จากคุณ : น้องต๋าว เขียนเมื่อ : 24 ม.ค. 55 18:28:02

ความคิดเห็นที่ 14 ตามธรรม อายและกระดาก ตามโลก ไม่เป็นไรให้อภัยตัวเองเสมอ จากคุณ : chiwat เขียนเมื่อ : 24 ม.ค. 55 18:55:34

ความคิดเห็นที่ 15 เหตุการณ์แบบนี้ก็มีบ้างนะครับ.....แต่ในจิตและการแสดงกรรมออกไปกับเป็นการ...ขอบคุณอย่างยิ่งยวด...ที่ได้ทำให้เกิดปัญญาเพิ่มขึ้นครับ....ไม่ได้เกิดจิตเป็นอกุศลแต่อย่างใดครับ จากคุณ : โกวิทย์ (โกวิทย์) เขียนเมื่อ : 24 ม.ค. 55 18:57:19

ความคิดเห็นที่ 16 ชอบ คคห. ที่ 11 ของ คุณ kiarati  จัง  ตอบได้แบบ...ถูกใจ ใช่เลย ! แต่กิ๊ฟหมดแล่ววว     จากคุณ : Smiling-girl เขียนเมื่อ : 24 ม.ค. 55 19:00:13

ความคิดเห็นที่ 17 นิสัยคนไทยส่วนใหญ่ อัตตาสูง อีโก้สูง จึงมักทึกทักเอาประสบการณ์ใดๆก็ตามของตน เป็นบทสรุป ภิกษุหลายๆรูปก็เป็นแบบนี้ ที่เป็นประเด็น ถูกฆราวาสดูแคลนกันบ่อยๆนั่นแหละ ก็เพราะชอบเอาผลการปฏิบัติของตนมาสรุปเป็นคำตอบสุดท้าย แต่ครั้นพอปฏิบัติก้าวหน้าไปอีกขั้น ก็กลับมาเปลี่ยนคำพูดที่เคยพูดไว้ แล้วซ้ำร้ายก็ไม่ยอมรับว่าเคยสอนผิด คนที่ละอัตตาได้ จะไม่ผลีผลามทะเล่อทะล่าพูดอะไรออกมาอย่างมั่นใจเกินไปหรอก จนกว่าภูมิธรรมของตนจะถึงที่สุดแล้วจริงๆ จากคุณ : transformation (TRANSFORMATION) เขียนเมื่อ : 24 ม.ค. 55 19:02:49

ความคิดเห็นที่ 18 เอาแบบดูดี "ชอบฟังผู้รู้ มาอธิบายเพิ่มครับ" เอาแบบลึกๆในใจ "ก็คิดแบบนี้ล่ะ นึกศัพท์ไม่ออก เรียบเรียงไม่ถูก" ฮิ๊ววว จากคุณ : Zim-MorLuth- เขียนเมื่อ : 24 ม.ค. 55 19:10:43

ความคิดเห็นที่ 19 11  16 เคยนึกว่า ที่ตอบๆกันในเรื่องปฎิบัติ คือ รู้เท่าที่ตนเองได้มีประสบการณ์มาเสียอีก :P เท่าที่เห็น ความผิดพลาด มีสองกรณี อย่างแรก เขาเข้าใจจริงๆว่าตนเองไปถึงตรงนั้นๆ ได้ธรรมขั้นนั้นๆ แต่เขาเข้าใจผิด หรือ เคลื่อน เลยออกความเห็นออกมาผิดตามไป ไม่ว่าจะเห็นถูก แต่เรียกผิด หรือเห็นผิด แล้วเรียกให้เป็นถูกต้อง เลิศเลอ ตรงนี้ ปล่อยไก่ไปมากๆดี มีคนแก้ให้ เห็นถูก ได้ประโยชน์แก่ตนเองไป อย่างที่สอง รู้อยู่แก่ใจ ว่าไม่ได้รู้จริง อ่านมาก ฟังมาก แต่อยากมีตัวตน เลยสอนสิ่งที่ตนไม่รู้ด้วยตนเอง  อันนี้ลำบาก ใครไปเชื่อก็ซวยไป ดังนั้นเรื่องปฎิบัติ จริงๆแล้ว ส่งกับครูบาอาจารย์ ปลอดภัยสุด แต่เข้าใจว่า คนที่เข้ามา เพราะอยากคุยกันในหมู่เพื่อนธรรมสบายๆ ยอมรับได้อยู่แล้ว ว่าคนที่มาตอบ อาจเป็นอาบัง อาอึ้ม ที่ไม่รู้จริงเหมือนตนเองนั่นแหละ แต่   ถ้าคัดกรองเป็น  ย่อมได้ประโยชน์กลับไปนะ  ;) จากคุณ : น้องต๋าว เขียนเมื่อ : 24 ม.ค. 55 19:27:01

ความคิดเห็นที่ 20 ตามกระทู้...ที่ว่า   หากมีคนรู้จริง  รู้ลึกในเรื่องที่เราได้ตอบไปแล้ว และเขาได้มาตอบให้ถูก....นั้น มีความเห็นเรื่องนี้ ในมุมกว้าง  ดังต่อไปนี้ 1.  การเข้ามาเล่นในห้องต่างๆ  ของพันทิพ   แห่งนี้.......มีข้อแตกต่างกันในพฤติกรรมของสมาชิกที่เข้าร่วมในแต่ละกระทู้  ชัดเจนดังนี้ 1.1  บางกระทู้ต้องการคำตอบโดยต้องใช้ความรู้แท้จริงอันสามารถพิสูจน์ได้  เช่นกระทู้  ถามว่า   5  +  5  เป็นเท่าใด.........คำตอบที่ถูกต้อง  คือ  10   ดังนี้  หากใครตอบว่า  11  หรือ  8...เป็นผิดแน่ๆ  ...เพราะเป็นสิ่งที่พิสูจน์ได้ชัดเจน  ......อย่างนี้หากมีผู้เข้ามาทีหลังได้ให้คำตอบที่ถูกต้อง....ผู้ตอบผิด  จึงควรต้องขอบคุณ  และขายหน้า  ที่สำคัญ  ให้ระวังตัว  อย่าทำอีก 1.2 อย่างไรก็ตาม  บางกระทู้ มีผู้เข้ามาเพื่อแสดงความเห็นมากมาย....อันนี้สำคัญมาก...เช่น  กระทู้ถามว่า   พระภิกษุสงฆ์ปัจจุบัน  สมควรสูบบุหรี่  หรือไม่  ? ? ? กระทู้ดังนี้.....ต้องการความเห็นหลากหลาย....เพื่อกระจายสติปัญญาของผู้คนให้มีการรับทราบในสังคมกว้าง * * *  ไม่มีกฎหมาย  หรือมีข้อบังคับใด  หรือมีวินัยใด ๆ   เคยบัญญัติชัดเจนห้ามพระภิกษุสูบบุหรี่......หรือบอกว่า  พระสูบบุหรี่มีความผิด   * * *  แต่กระแสสังคมในปัจจุบัน   ยกเอาการสูบบุหรี่เป็นการทำลายสุขภาพของตนเองและผู้อื่น อย่างนี้   ใครจะให้ความเห็น  โดยจะเขียน ( ตอบ ) อย่างไรก็ได้ ...... ไม่มีถูก  และไม่มีผิด  ...เพราะนี่เป็นการแสดงความคิดเห็น ซึ่งการแสดงความคิดเห็นในพันทิพ  ที่สาธารณะแห่งนี้  เป็นสิ่งที่ดีต่อสังคมในระบอบประชาธิปไตย   เพื่อพัฒนาสติปัญญา    โดยต้องฟังความเห็นผู้อื่นที่คิดไม่เหมือนตน     ..........  นี้คือเจตนาชัดเจนของ  พันทิพ  และกำลังกระทำอยู่ตลอดไป  ก็ขอให้ดูในช่องล่างสุด  สีฟ้า  ที่ท่านต้องพิมพ์ตอนแสดงความคิดเห็น  ดูซิ....... เขาเขียนไว้ชัดเจนว่า .......  ความคิดเห็น.  :  Rich   Mode............. เขามิได้เขียนว่า  "  คำตอบ "   แต่อย่างใด ดังนั้น  ขอให้ตระหนักในข้อเขียนของสมาชิกในแต่ละท่าน  และในแต่ละกระทู้ด้วย  ว่า  เป็นคำตอบ  หรือเป็นการแสดงความคิดเห็น 2.  อย่างไรก็ตาม  ไม่ว่าจะเป็นการตอบที่เป็นคำตอบจริงๆ  หรือเป็นการแสดงความคิดเห็นใด  ๆ ก็ตาม....สมควรที่ผู้เข้ามาในพันทิพแห่งนี้  ต้องตระหนัก  และให้เกียรติต่อผู้อื่น....เช่น - ไม่มุ่งหยิบเอาความเห็นผู้อื่นที่ตนไม่เห็นด้วย  หรือที่ตนไม่ถูกใจ ..... นำมาวิจารณ์ให้เขาเสียหาย - ตอบ  หรือแสดงความคิดเห็นบนความบริสุทธิใจ  โดยไม่มีเจตนาดูหมิ่นเหยียดหยามผู้อื่น - ตอบ  หรือแสดงความเห็นต่อกระทู้ถามด้วยความสุภาพ  มีเหตุ  มีผล 3. อาจจะล้ำประเด็นของท่านเจ้าของกระทู้ไปสักนิดหนึ่ง    แต่ทั้งหมดทั้งปวง  อยากจะเน้นว่า......... เข้ามาเล่นในพันทิพ....ก็โปรดใช้ความรู้ของท่าน  ( เท่าที่มีอยู่ ) แสดงความคิดเห็นในส่วนของตนไปเฉพาะตามกระทู้ที่เขาตั้งมา.... โดยโปรดอย่าไปก้าว( ร้าว) ก่ายความคิดเห็นของผู้อื่นที่ตนไม่ถูกใจ จะไม่มีเรื่อง.........จะมีแต่ไมตรี  และทั้งจะเป็นมารยาทอันดียิ่งในระบอบประชาธิปไตย( ศาสนาไหนก็มี ) ด้วยความเคารพ จากคุณ : Detente เขียนเมื่อ : 24 ม.ค. 55 19:30:01

ความคิดเห็นที่ 21 ไม่อาย และ ไม่กระดากใจด้วย เพราะก่อนจะตอบอะไรจะคิดแล้วคิดอีกถึงตอบ และจะตอบแต่สิ่งที่เป็นประโยชน์ ตอบด้วยความเมตตา ไม่ถือตัวว่าคำตอบของตัวเองจะต้องถูกที่สุด แต่ถ้าสุดท้ายแล้วถ้าสิ่งที่ตอบมันยังผิดอยู่ก็ยินดีรับฟังคนอื่นที่เขามาแก้ผิดให้เป็นถูกด้วยความเต็มใจ ผมกลับรู้สึกขอบคุณเขามากกว่านะที่มาแก้ให้เรา ไม่งั้นเราคงรู้แบบผิดๆ ไปอีกนาน จากคุณ : IT Boys เขียนเมื่อ : 24 ม.ค. 55 19:48:20

ความคิดเห็นที่ 22 ทำดีแล้วโดนด่า ดีกว่า ไม่ทำห่าแล้วด่าคน จากคุณ : Kenlive เขียนเมื่อ : 24 ม.ค. 55 20:02:54

ความคิดเห็นที่ 23 ไม่ค่ะ  เพราะจะได้รู้ว่าเราเ้ข้าใจผิดตรงไหน  เป็นการได้ประโยชน์ทั้งผู้ถามและเราด้วย จากคุณ : nuch_tre เขียนเมื่อ : 24 ม.ค. 55 20:08:56

ความคิดเห็นที่ 24 ความคิดเห็นที่ 11     จริงๆแล้วรู้แค่ไหนก็ควรจะตอบแค่นั้น เช่น เรื่องสมาธิ สมาธินี่มันไต่ไปถึงสิ่งที่เรียกว่าิิอจิณไตยได้ ถ้าเราไม่แน่น อย่าไปตอบ ตอบผิดก็ลงนรกไปอีกชั้นหนึ่ง กรรมฐานกองใดที่เราไม่เคยปฏิบัติ อย่าไปตอบ ถ้าปฏิบัติแล้วยังไม่จบ ก็ต้องกำหนดจิตให้ดีว่าจะตอบได้แค่ไหน ตำรากับการปฏิบัตินั้นจะแตกต่างกัน นั่นคือ สิ่งที่ได้จากการปฏิบัติจะแตกต่างจากสิ่งที่รู้จากการอ่านจากตำรา แต่เมื่อนำผลจากการปฏิบัติไปเทียบเคียงกับตำราแล้วจะตรงกัน วิปัสสนาญาณเป็นของสูงมาก ไม่ได้ใช้สุตตมยปัญญากับจินตนามยปัญญาในการอธิบาย ถ้าจะตอบเรื่องนี้ แนะนำตำราให้เขาศึกษาเองเลยจะดีกว่า นอกเสียจากว่าเราจะเป็นพระอริยะ นั่นแหละุถึงพอจะแนะนำได้ จากคุณ : kiarat เห็นด้วยกับข้อความนี้มากที่สุด   หลายครั้งที่มีการเผลอ พูดในสิ่งที่ตัวเองไม่รู้่  เหตุผลเดียวก็เพราะอยากให้คนรู้ว่าตนเองรู้  บางครั้ง คำชม เป็นเหมือนหลังเสือ  ขึ้นแล้วลงยาก  พอใครถามมา  ถึงจะไม่รู้ก็จะทำเป็นนัย ๆ และตอบจนได้  แบบนี้มีผลเสียกับทุกคน การอธิบายฌานหรือมรรคผลได้เป็นขั้น ๆ คนคนนั้นต้่องได้ฌาน หรือบรรลุมรรคผลแล้วจริง ๆ แต่น่าแปลกที่คำอธิบายนั้นกลับได้รับความเชื่อถืออย่างมาก ทั้งที่ปรกติ สภาวะของผู้ที่บรรลุธรรมแล้ว แม้อย่างน้อยได้ฌาน จิตใจจะสงบและมีความอ่อนโยนมาก  แต่สิ่งที่พบเห็นก็คือการเอาชนะ หรือการใช้ถ้อยคำที่ไม่ก่อให้เกิดสมาธิเลย   ผู้ที่บรรลุธรรมจริง  สิ่งแรก ที่เค้าจะปฏิบัติ แม้ว่าจะเห็นคนพูดผิด หรือทำผิด  ไม่ใ่ช่การถากถาง  แต่จะเป็นความเอ็นดู  และมองเห็นตัวเองในอดีต  ว่าก่อนที่ตนเองจะบรรลุอย่างวันนี้  ก่อนหน้านั้นก็เคยเป็นแบบเค้ามาก่อน ความอ่อนโยน ขันติ และเมตตา จะสูงมาก   จะไม่ใช้ถ้อยคำแข่งกับใครเลย จากคุณ : Serene_Angelic เขียนเมื่อ : 24 ม.ค. 55 20:12:10

ความคิดเห็นที่ 25 จริงๆแล้วเราก็เป็นคนชอบตอบคำถามเรื่องการปฏิบัตินะคะ ยิ่งโดยเฉพาะเวลาสอบ อารมณ์กับพระอาจารย์ หรือเวลาพระอาจารย์แสดงธรรม ไม่ใช่ว่าเพราะเรารู้คำตอบค่ะ แต่เพราะจะได้รู้ว่าสิ่งที่เราคิดว่าเข้าใจนั้น ถูกหรือไม่ ผิดบ้างถูกบ้าง ไม่ค่อยกระดากค่ะ หลังๆไม่ค่อยจะตอบแล้วค่ะ (นอกเสียจากว่า สอบอารมณ์เป็นกลุ่มเล็กๆ) ฟังเสียเป็น ส่วนใหญ่ ส่วนในเวปนี้ น้อยลงเยอะเลยค่ะ นานๆจะตอบซักครั้ง เข้ามาอ่านเอาความรู้จาก เพื่อนๆมากกว่า ไม่ใช่เพราะกระดากกลัวผิด แต่เพราะมีคนรู้มากกว่าเราเยอะ แก้ไขเมื่อ 24 ม.ค. 55 20:21:44 จากคุณ : คุณป้าจำเป็น เขียนเมื่อ : 24 ม.ค. 55 20:18:43

ความคิดเห็นที่ 26 ถามได้โดนใจ และก็มีตอบไปแล้วแบบถูกใจหลายๆคำตอบ โดนส่วนตัวน้อมรับคำแนะนำ  จึงบอกว่าไม่อายน่ะ  แต่รู้สึกสำนึกผิดในข้อมูลที่เรานำมาลงนั้นมันผิด ถ้าตอบผิดก็ขอให้ชี้แจงกัน และก็จะได้จำได้แม่นยำขึ้น และก็อย่างที่คุณ Smiling-girl ว่าไว้  ถ้าแก้ข้อมูลได้ทัน ก็อยากกลับเข้าไปแก้ไขให้ถูกต้อง  เพราะมีผลต่อผู้ที่มาอ่านพบในภายหลัง โดยส่วนตัวมักจะแยก ประเด็นในการตอบคำถามที่ปรากฏในกระทู้ คือที่เป็นส่วนข้อมูล ก็ต้องนำมาแสดงกันว่าข้อมูลที่ได้มานั้น  หรือที่นำมาแย้งเรานั้นได้มาจากไหน เชื่อถือได้แค่ไหน ถ้าเราลงไว้ไม่ครบ เขาเอามาลงให้ครบ  นี้ก็ต้องขอบคุณคนที่นำมาลงเพิ่มเติม และก็บ่อยครั้งที่ผมนำมาลงเพิ่มเติมให้ท่านอื่น  ก็มักจะกล่าวขออนุญาตท่านเจ้าของข้อมูลเดิมก่อน แล้วก็ลงเพิ่มเติมให้ แต่ถ้าประเภทข้อมูลที่เรานำมาลงนั้นผิดไปเลย 100%  อันนี้ยิ่งต้องรีบขอบคุณคนที่เข้ามาแก้ไขให้   ก็มักจะต้องกล่าวคำขอโทษลงไปว่าเรานำลงนั้นมันผิด  ประเภทเขียนตกหล่น สะกดคำผิด นี้เป็นธรรมดา  ถ้าไม่ทำให้ความหมายเพี้ยนไป ก็ไม่เป็นไร ประเภทความเห็น  แสดงความเห็นตามข้อมูล  ถ้าข้อมูลถูก มักจะแสดงความเห็นถูกต้อง  ถ้าข้อมูลผิด มักมีความเห็นออกทะเลออกมหาสมุทร  ข้อนี้ผมว่าผมไม่ค่อยมีน่ะ เรื่องรายละเอียด สภาวะที่เกิดจากวิปัสสนาเป็นเรื่องละเอียดอ่อน โดยส่วนตัวก็เพียรปฏิบัติอยู่ ต่อเนื่องบ้าง ขาดช่วงบ้าง ตามเวลาอันควร ผมยังไม่เคยแสดงความเห็น ได้แต่ติดตามอ่าน สรุปคือ คุณซามูไรหมูตอน  ถามได้ถูกใจ  ผมโหวตให้ครับ และในฐานะที่คุณซามูไร ฯ ก็เป็นผู้หนึ่งที่ติดตามอ่านข้อความที่ผมเขียนในกระทู้บ่อยๆ  และผมก็เข้ามารายงาน คร้าบ. จากคุณ : ยามประจำวัน เขียนเมื่อ : 24 ม.ค. 55 20:22:23

ความคิดเห็นที่ 27 รู้สึกว่า "ดีแล้ว คนอื่นเขาจะได้ไม่เข้าใจผิด แล้วเราจะได้เข้าใจถูกมากขึ้นด้วย" ไม่มีอะไรต้องรู้สึกอาย  แต่รู้สึกผิดที่เรารู้ไม่เต็มที่ แล้วก็ขอบคุณที่เขามาช่วยเสริมให้สมบูรณ์มากขึ้น จากคุณ : chohokun เขียนเมื่อ : 24 ม.ค. 55 21:38:14

ความคิดเห็นที่ 28 ไม่กระดากหรืออายครับ แต่รู้สึกขอบคุณผู้ที่มาให้ข้อมูลที่ถูกต้อง เพราะว่าทุกคนจะได้รับข้อมูลที่ถูกต้องและมีความรู้เพิ่มขึ้นอีกหนึ่งอย่าง ไม่มีใครรู้จริงทุกเรื่องหรอกครับ จากคุณ : นิแรน เขียนเมื่อ : 24 ม.ค. 55 21:54:15

ความคิดเห็นที่ 29 ไม่ต้องกระดากหรอก   เราเป็นนักศึกษากันทั้งนั้น ช่วยกัน เอื้อเฟื้อกัน นะคะ โหวตให้นะคะ :) จากคุณ : เอิงเอย เขียนเมื่อ : 24 ม.ค. 55 22:05:39

ความคิดเห็นที่ 30 ลึกๆ เป็นใครก็คงจะรู้สึกกระดาก เสียหน้า อายนิดหน่อย แต่ที่สุดแล้ว ก็จะนึกขอบคุณท่านที่เมตตามาแก้ให้ เพราะเราเอง ก็ได้ความรู้มากขึ้น และคนอื่นๆที่มาอ่าน ก็จะได้ไม่เข้าใจผิดด้วยค่ะ จากคุณ : ธารน้ำ เขียนเมื่อ : 24 ม.ค. 55 22:43:42

ความคิดเห็นที่ 31 ถ้ามีแต่คนอาย ก็คงมีแต่คนตั้งกระทู้คล้ายๆ แบบห้องราชดำเนินมั้งครับ จากคุณ : nisas เขียนเมื่อ : 24 ม.ค. 55 23:51:26

ความคิดเห็นที่ 32 คิดว่าตัวเองตอบแต่สิ่งที่รู้จริง ก็เลยไม่หน้าแตก ถ้ามีใครมาแย้งก็ชี้แจงได้ ก็รู้เองเห็นเองนี่ จากคุณ : ไฟไฟ เขียนเมื่อ : 25 ม.ค. 55 00:45:45

ความคิดเห็นที่ 33 ยิ่งตอบเยอะยิ่งผิดเยอะ จากคุณ : ชลิโต เขียนเมื่อ : 25 ม.ค. 55 01:19:42

ความคิดเห็นที่ 34 อายสิครับ  แต่ไม่ถึงกับสู้หน้าฟ้าดินไม่ได้    ผมตอบผิดไปตั้งหลายครั้ง แต่ผมไม่กลัวที่จะตอบผิด  เพราะถ้าผิดก็มีคนแก้ให้ถูก   ผมว่าผมได้ประโยชน์มากกว่าเลือกที่จะเงียบเสียอีก จากคุณ : Panda-baker เขียนเมื่อ : 25 ม.ค. 55 01:38:18

ความคิดเห็นที่ 35 รู้ลึกรู้จรึงไม่สำคัญ สำคัญที่คนอ่านเข้าใจและปฎิบัติตามหรือป่าว คนที่เข้ามาตอบมีมากมาย ทั้งเจตนาดี ปฎิบัติผิดๆ หรือมีอัตตา ทางมีหลายทางเหลือเกิน จงเลือกทางที่เหมาะกับตัวเองที่สุดเถอะครับ เพราะสุดท้ายปลายทางที่เราต้องการก็มาจบที่เดียวกัน จากคุณ : ZGPM เขียนเมื่อ : 25 ม.ค. 55 03:00:38

ความคิดเห็นที่ 36 ดิฉันเข้ามาเพราะหัวข้อกระทู้ เพราะกระทู้แบบนี้ช่วยให้เราเข้าใจผู้คนมากขึ้น เข้ามาแล้ว รู้สึกว่าชาวห้องศาสนาน่ารักกันดี และเห็นความงามในความหลากหลายของบุคคลิกต่างๆ เลยแจกกิ๊ฟแทน สำหรับคุณ kiarati แจกไป 2 ดวง เพราะคุณ Smiling-girl ถูกใจ แต่กิ๊ฟหมด ส่วนดิฉันเหลือเยอะ เลยทำการแทนค่ะ ป.ล. เกือบลืมประเด็นของกระทู้ ดิฉันไม่ค่อยมีปัญหาตามประเด็นกระทู้ค่ะ อืม...คิดว่าไม่ใช่รู้จริงหรือรู้ลึกอะไรนะคะ แต่คงเป็นเพราะตนเองไม่ค่อยรู้อะไรหนึ่ง อีกอย่างหนึ่งก็แก่แล้ว เลยทำอะไร เขียนอะไรไม่หวือหวา อย่างไรก็ตาม ดิฉันว่า ดีออก เวลาเห็นคนรุ่นใหม่ กล้าคิด กล้าทำ กล้าแสดงความคิดเห็น รู้ว่าผิดเป็นครู รู้จักสรุปบทเรียน พลาดพลั้งก็ขออภัยกัน น่ารักดีค่ะ เราคนแก่เห็นแล้ว ก็หมดห่วง รู้สึกว่า ต่อไปเราก็ตายตาหลับได้ จากคุณ : oDaineo เขียนเมื่อ : 25 ม.ค. 55 07:30:49

ความคิดเห็นที่ 37 อืมมส์...คำว่ากระดากกับเสียฟอร์ม...นี่ความรู้สึกอันเดียวกันหรือไม่....สำหรับผมเวลาจะโพสอะไรนี่ก็ไตร่ตรองรอบคอบแล้วตรวจแล้วจึงโพส....แต่ถ้ามารู้ทีหลังว่าสิ่งที่ตนโพสไปนั้นมันผิด.....ก็รู้สึกเสียฟอร์ม....ความเป็นตัวกูของกูความคิดกู....มันพุ่งปี๊ดขึ้นมาทันที.... บางรายถึงกับไม่ยอมรับความเห็นที่ถูกอันนั้น.....เถียงและบิดเบือน.....ยกประเดนอื่นที่ใกล้เคียงมา....แถ....เพื่อที่จะเอาตัวรอดให้ได้....อย่างนี้ก็มีนะครับในห้องนี้..... ยิ่งถ้าล็อกอินที่บังอาจมาขัดมาแย้งเป็นล็อกอินหน้าใหม่นี่....ไม่ได้เด็ดขาด...ต้องไล่ให้ไปศึกษาใหม่.....ผมเจอมาแล้วหลายครั้ง....ใช่ว่าจะผิดแล้วกระดากเฉยๆ ปล...ชอบคห/ที่22ครับ..... จากคุณ : คนนวมินทร์ เขียนเมื่อ : 25 ม.ค. 55 07:56:10

ความคิดเห็นที่ 38 ไม่อายครับ เพราะส่วนใหญ่ไม่ค่อยสอนใครครับ  ออกความเห็นคือความเห็นของเราไม่มีถูกไม่มีผิดก็เราเห็นอย่างนี้จริงๆ จากคุณ : มันตรัย2009 เขียนเมื่อ : 25 ม.ค. 55 08:03:07

ความคิดเห็นที่ 39 ดีใจ ได้เห็นความโง่ของตนเอง(เป็นเรื่องน่ายินดีจริงๆ ค่ะ) มีคนมาชี้จุดที่เราพลาด ดีมากเลยค่ะ ต่อไปนี้ จากที่รู้ไม่หมด รู้ไม่ลึก รู้ไม่จริง ก็ได้รู้กันทีนี้ ต้องขอบคุณคนที่ตอบเลยค่ะ จากคุณ : ที่นี่ดาวสวย เขียนเมื่อ : 25 ม.ค. 55 08:57:20

ความคิดเห็นที่ 40 แอบเขินๆอายๆบ้างเหมือนกันจ้า แต่ความถูกต้องสำคัญที่สุด  .......... ถ้ามีคนอื่นเขาเข้าใจผิดแล้วแสดงความเห็นผิดออกไป   ถ้าเรารู้และเข้าใจเรื่องดี  ก็จะชี้แจงแถลงไขเช่นกัน ปล. เสียแต่  ไม่ทราบว่าระบบของพันทิพเป็นอะไร   ....บางครั้งเข้ามาแก้เรื่องที่เข้าใจผิดๆ  ให้มันตรงแล้ว   แต่ความเห็นหายหมด?????? โดยเฉพาะ   ความเห็นที่เข้าใจผิดๆ  ( แต่เรื่องมัน เกือบจะเกี่ยวกะการเมืองเนี้ยสิ.....แต่พยายามโพสต์ให้ไม่เกี่ยวแล้วก็ยังหายอยู่ดี ) จากคุณ : annyfatgirl เขียนเมื่อ : 25 ม.ค. 55 09:13:27

ความคิดเห็นที่ 41 เราควรขอบคุณเขาด้วยซ้ำ ที่ไม่ทำให้คนอื่นๆได้ความรู้ผิดๆไปจากเรา แถมเราก้ได้เรียนรู้สิ่งที่ถูกต้องมากขึ้น เป็นผู้ใหม่นี่ดีค่ะ  เรียนรู้ได้ตลอด เรื่องเสียหน้านี่ธรรมดาแล้วค่ะ ถูกครูบาอาจารย์ด่าจนชิน จากคุณ : ป้ามีมี่ เขียนเมื่อ : 25 ม.ค. 55 09:15:26

ความคิดเห็นที่ 42 ในฐานะของผู้อ่าน ขอขอบคุณผู้ที่ตอบค่ะ ไม่ว่าจะ....ผิด ถูก รู้น้อยกว่า มากกว่า แต่เข้ามาตอบก็ต้องขอบคุณค่ะ จากคุณ : ต้นสนซ้ายมือ เขียนเมื่อ : 25 ม.ค. 55 09:38:45

ความคิดเห็นที่ 43 พยายามนึกว่ามีความเห็นใดของเราในห้องต่าง ๆ ของพันทิพ  มีที่เราตอบผิดแล้วคนอื่นมาแก้ให้แบบถูกรึเปล่า  ก็จำไม่ค่อยได้ แต่คิดว่าคงต้องมีแน่ ๆ ( 555 ดูสิ สมองเริ่มจะแสดงความชราภาพให้เห็น หรือไม่เราคงตอบไปอย่างขาดสติ  เลยจำไม่ได้ซะงั้น )    ลองนึกคิดเอาดู  ถ้าเป็นอย่าง จขกท บอก    ความรู้สึกเรา  คงปนอาย ปนกระดากใจ  ที่ไปแสดงความโง่แบบโจ่งแจ้งซะแล้ว  และก็กลายมาเป็นครูแก่ตัวเอง  ว่าที่แสดงความรู้ ความเห็นที่ผิดไปนั้น เพราะมีกิเลสตัวไหนกันมาทำให้สะเพร่า เลินเล่อไปขนาดนั้น  ขาดสติ ขาดปัญญาตรงไหนไป  เป็นสัจจธรรมให้เห็น ให้เรามานั่งคิดพิจารณาตัวเจ้าของ     ส่วนผู้ที่ตอบถูกนั้น ก็ขอบคุณเขา ใจก็นึกยินดีกับเขา  ว่าช่างเป็นผู้รู้  เป็นผู้ที่ศึกษามาดี ( ทำไมเก่งและรอบรู้แบบนี้เนี่ย  ประมาณนั้น )   ไม่ได้นึกตำหนิ ติเตียนที่มาทำให้เราขายหน้าเลย     การฟังความเห็นใด ๆ นั้นตัวเองก็ยึดตามหลักกาลามสูตร 10 ประการ เพื่อระวังความเห็นที่ผิด  แล้วเราหลงไปกับทางนั้น  จะกลายเป็นเสียเวลาเปล่า  ฟังแล้วต้องนำมาตรึกตรอง คิด พิจารณา คิดว่าน่าจะเกิดปัญญา ความเห็นที่ถูกต้องได้และไม่ลืมเลือนง่ายด้วยน่ะค่ะ จากคุณ : ใบไม้และขุนเขา เขียนเมื่อ : 25 ม.ค. 55 11:04:27

ความคิดเห็นที่ 44 ผมว่าทุกคน ที่ยังเป้นผู้ศึกษาอยุ่มีสิทธิผิดพลาดได้ เราไม่ควรที่จะไปซ้าเติมว่ากล่าว เช่น อายไหม ตอบผิด อายไหม รู้น้อย ถ้าการตอบนั้นเป้นการตอบด้วยคำที่ไม่หวังดี เป็นคำพูดผิดศีล   เช่น อายไหม ตอบผิด อายไหม รู้น้อยอย่างนี้จึงน่าอาย เราควรตั้งความเมตตาก่อนตอบการตอบนั้นจึงไม่เป็นเรื่องน่าอาย การที่เราเมตตาเข้าไปตอบเพราะเห็นว่าบอร์ดนี้เป้นบอร์ดสาธารณะไม่ใช่หรือ เมื่อเราเห้นว่าอาจมีคนเข้าใจผิด เราก็ช่วยชี้แจง ไม่ใช่ช่วยกันแข่งขันว่าตนดี คนอื่นเลว หรือจขก ว่ายังไงครับ จากคุณ : aunemaek2 เขียนเมื่อ : 25 ม.ค. 55 11:21:46

ความคิดเห็นที่ 45 อยากให้rich mode สามารถpreview และแก้ไขได้ จากคุณ : เอิงเอย เขียนเมื่อ : 25 ม.ค. 55 11:23:19

ความคิดเห็นที่ 46 เวลามีคนมาตอบแก้ จะรู้สึกขอบคุณมาก เพราะผู้ชี้โทษ คือผู้ชี้ขุมทรัพย์ แต่บางที คนตอบแก้ก็แก้ตามความรู้ความเข้าใจส่วนตน ซึ่งแต่ละคนทั้งผู้โพส และผู้โพสแก้ต่างก็มั่นใจว่าคำตอบของตนเองนั้นถูก ผู้อ่าน ก็อ่านโดยใช้ประสบการณ์และวิจารณญาณของตนเองตัดสิน อาจมีการแบ่งข้าง แบ่งความเห็นกันไป กลายเป็นดราม่าย่อมๆ ซึ่งกรณีเหล่านี้ควรนำหลักกาลามสูตรมาเทียบเคียง ไม่ควรอ้างหรือเอ่ยนามอาจารย์ของตนเอง เพราะท่านก็ไม่ได้มาร่วมยืนยันกับเราด้วย เราไปลากท่านมาอ้างเอง สำหรับดราม่า เรื่องการถกกันเกี่ยวกับฌานในกระทู้ก่อนๆนั้น ผมไม่ทราบเช่นกันว่าท่านใดได้ฌานหรือไม่ได้ฌาน แต่ตามหลักแล้วท่านใดได้ ท่านนั้นก็ต้องเป็นฝ่ายยืนยัน สำหรับท่านที่เห็นค้าน ถ้าตนเองได้ฌาน ก็ต้องเป็นฝ่ายยืนยันเช่นกันว่าตนเองก็ได้ฌาน แต่เห็นต่าง เท่าที่อ่านๆดู ฝ่ายหนึ่งพูดถึงหลักอภิธรรม อีกฝ่ายหนึ่งพูดถึงประสบการณ์ เรื่องจึงดูอลหม่าน ควรกำหนดประเด็นว่า กำลังถกกันในประเด็นของพระอภิธรรม หรือถกกันในเรื่องของประสบการณ์ร่วม เพราะผู้ที่ได้ฌาน แต่ไม่รู้เรื่องวิถีจิตหรือหลักอภิธรรมก็มี หรือผู้ที่รู้เรื่องวิถีจิตแต่ไม่ได้ฌานก็มี หรือผู้ที่ได้ฌานแต่ไม่แตกฉานในพระสูตรและพระอภิธรรมก็มี หรือไม่ได้ฌาน และรู้ / ไม่รู้เรื่องพระอภิธรรมก็มี ถ้ากล่าวถึงเรื่องวิถีจิต ฌานจิต เมื่อเกิดขึ้นครั้งแรก ย่อมเกิดเพียงครั้งเดียวแล้วจึงมีภวังคจิตมาคั่น เรียกว่า อาทิกัมมิกฌานวิถี ถ้าจะให้ฌานจิตเกิดติดต่อกันไปไม่ขาดสาย กรณีนี้ต้องเป็นผู้ที่มีวสีมีความชำนาญ ซึ่งเรียกว่าฌานกีฬา หรือ ฌานสมาบัติ ผู้ที่บรรลุมรรคผล ผลจิตก็ไม่ได้เกิดมากมาย หากอยากให้ผลจิต เกิดติดต่อกันไปไม่ขาดสายเหมือนอย่างฌานสมาบัติ ก็ต้องเข้าผลสมาบัติ แต่ถ้าไม่เข้าผลสมาบัติ ผลจิตก็เกิดเพียงเท่าที่เคยได้ ไม่เกิดซ้ำอีกเป็นวิถียาวๆแบบต่อเนื่อง ชั่วขณะจิตเพียงดวงเดียว หรือสอง สามดวงนั้น สั้นมาก ช้างกระดิกหู งูแลบลิ้น ยังเร็วเสียกว่า ดังนั้นจึงใช้วัดอะไรไม่ได้ว่าใครได้ฌาน ใครได้มรรคผล ต้องดูที่กิเลส นิวรณ์ และอาสวะที่ละได้ การวัดแบบนี้จะได้ประโยชน์มากกว่า ถ้าเผลอปล่อยไก่ในคำตอบครั้งนี้ไปขออภัยด้วยนะครับ จากคุณ : คืนวันอันแสนดี เขียนเมื่อ : 25 ม.ค. 55 11:59:45

ความคิดเห็นที่ 47 คุณซามูไรหมูตอนไม่ต้องหลังไมค์นะครับเจตนาเปิดเผยในกระทุ้ดีกว่าไม่มีลับลมคมในกับใคร จากคุณ : aunemaek2 เขียนเมื่อ : 25 ม.ค. 55 12:33:24

ความคิดเห็นที่ 48 คุณ aunemaek2  ทุกอย่างมันมีจังหวะเวลาของมันครับ บางอย่างก็ต้องชี้แจงไปเป็นรายบุคคล  เพื่อไม่ให้รบกวนการตอบของท่านอื่นๆ จากคุณ : ซามูไรหมูตอน เขียนเมื่อ : 25 ม.ค. 55 14:52:04

ความคิดเห็นที่ 49 คงรู้สึกกระดากอายอยู่บ้างเมื่อรู้ว่าตัวเองตอบผิดเพราะความสะเพร่าเลิ่นเล่อ คงรู้สึกกระดากอายอยู่บ้างเมื่อสำนึกว่าตนตอบผิดไปด้วยอารมณ์โกรธ คงรู้สึกกระดากอายอยู่บ้างเมื่อสำนึกว่าตนตอบผิดไปอย่างเย่อหยิ่งทะนงตน แต่คงไม่รู้สึกอะไร ถ้าเราไม่รู้จริงๆ และคงรู้สึกขอบคุณคนที่มาช่วยให้ข้อมูลที่ถูกต้อง จากคุณ : bharot เขียนเมื่อ : 25 ม.ค. 55 17:39:21

ความคิดเห็นที่ 50 ไม่มีใครสมบูรณ์แบบนะจ๊ะ   เหนือฟ้ายังมีฟ้า ศักดิ์ศรีมีราคาแพง   ความถ่อมตน  ดีใจกับคนที่เก่งกว่า เปิดทางให้เราได้เรียนรู้มากขึ้น ผ่านไปหนึ่งวัน จขกท ไม่ออกมาแสดงความคิดเห็นในที่เปิดเผย แค่กลับใช้การชี้แจงในทางลับ  ไม่ทราบว่ามีเจตนาอะไรแฝงอยู่   (  #47  ,  #48  ) จากคุณ : มาอีกแล้ว เขียนเมื่อ : 25 ม.ค. 55 18:50:08

ความคิดเห็นที่ 51 ปรกติคำตอบจะมาจากประสบการณ์ของตัวเอง ถ้าไม่ใช่ไม่รู้จริงก็จะไม่กล้าตอบ ไม่ได้กลัวว่าจะโชว์โง่แต่กลัวว่าตอบไปแล้วไม่ถูกต้อง คนอ่านเอาไปใช้ผิดๆในชีวิต ก็จะกลายเป็นกรรมติดตัวไปเสีย และคิดว่าคำตอบของตัวเองคงไม่มีสาระสำหรับคนอื่นๆ คนเก่งๆที่เขารู้จริงมีเยอะอยู่แล้วในห้องนี้ จากคุณ : Rinta เขียนเมื่อ : 25 ม.ค. 55 19:51:00

ความคิดเห็นที่ 52 จะรู้สึกไม่ดี ตอนที่ คห ของผม มี คนไม่ชอบ+แล้วตำหนิ + แล้วสักพีัก คห ผมก็หาย ถ้า แค่ ไม่ชอบ คหผม ผมเฉยๆ ครับ ตำหนิ ผม ก็ เฉย ครับ กระทู้หายไปเลย ก็ เฉยๆ ครับ แต่ ถ้า มีครบ ทั้ง 3 อย่าง ผมว่า มี สองประเด็น ครับ 1 ผม ผิดอย่างไม่น่าให้อภัย จริงๆ 2 ผมทำให้เขา โกรธได้อย่างสุดๆ จริงๆ ถ้า ข้อ 1 ผม เสียใจ + อาย ถ้า ข้อ 2 สะใจ + สงสารท่านเหล่านั้น จากคุณ : a235 เขียนเมื่อ : 25 ม.ค. 55 19:58:41

ความคิดเห็นที่ 53 คุณกระดากกันมั่งไหม ตอนตอบกระทู้ไปแล้ว...มีคนรู้จริง-รู้ลึก กว่าคุณ มาตอบแก้ให้ทีหลัง ถ้าเกี่ยวเรื่องทั่ว ๆไป คงไม่มีปัญหาอะไร ถ้าคำถามเกี่ยวกับการปฏิบัติเพื่อหลุดพ้น   อย่าทำเป็นเรื่องเล่น ๆ ตอบตามความรู้สึกของตัวเอง เสี่ยงนรก พาผู้อื่นหลงทางเสียเวลา ไม่แน่ใจจริง ๆ อย่าขยันตอบดีกว่า จากคุณ : Mr.DoubleK เขียนเมื่อ : 25 ม.ค. 55 20:55:02

ความคิดเห็นที่ 54 ตอนนี้ก็พูดแบบนี้กันทุกคน จากคุณ : ไม่คิดมาก เขียนเมื่อ : 25 ม.ค. 55 21:15:21

ความคิดเห็นที่ 55 ไม่กระดากแฮะ แต่รู้สึกว่าได้ความรู้ใหม่อีกแล้ว จากคุณ : โอ่อี๊โอ (oiooo) เขียนเมื่อ : 25 ม.ค. 55 22:37:38

ความคิดเห็นที่ 56 ถ้าตอบผิดแล้วมีคนมาตอบให้ใหม่  ถือว่าธรรมดาค่ะ แต่ถ้าตอบให้ดูดีหวังผล หวังคำชม  น่ากลัวนะ จากคุณ : Serene_Angelic เขียนเมื่อ : 26 ม.ค. 55 22:25:44

ความคิดเห็นที่ 57 การแลกเปลี่ยนทัศนคติ ต้องกระดากหรืออาย ด้วยเหรอครับ? ไม่ห็นจำเป็นเลย .. อะไรที่ได้รับความรู้ หรือแลกเปลี่ยนมุมมองกับท่านอื่น ๆ แม้ว่าเราจะพลาดบ้าง แต่มีท่านอื่นมาแก้ไขให้ และมอบความรู้ให้เพิ่มเติม นั้นคือสิ่งที่ดีครับ ผมไม่ได้ไปฆ่าใคร หรือโกงใครนิครับ จะอายทำไม? จากคุณ : tothza_one เขียนเมื่อ : 27 ม.ค. 55 09:49:14

ความคิดเห็นที่ 58 ผมไม่เคยตอบแบบผู้รู้ เพราะตัวเราไม่รู้เยอะ ก็เลยไม่คิดกระดาก เพราะส่วนตัวเป็นคนหน้าด้านครับ จากคุณ : ซุปเปอร์เดปอร์ เขียนเมื่อ : 27 ม.ค. 55 10:53:36

ความคิดเห็นที่ 59 ไม่ต้องอายหรอก คนบางคน เขา เก้อยาก กันอยู่แล้วนิ จากคุณ : ลัดเลาะ เขียนเมื่อ : 27 ม.ค. 55 11:32:36

ความคิดเห็นที่ 60 ดราม่าเกี่ยวกับฌานในกระทู้ก่อน?? ดราม่า?? หมายถึงไอ้ที่คุณเมิงไปยก กถาวัตถุ สมาปันโน สัททัง สุณาตีติกถา เอามาแบบชุ่ยๆ นั่นใช่ไหม ที่ทำให้โขตานหน้าแหก!! เมื่อมีผู้ยกมาแสดงอย่างครบถ้วน ก็ไม่มี "คำขอโทษ" ใดๆ ทั้งจาก "ท่านชุ่ย" กับ "ท่านแหก" ดราม่า จึงเริ่มจาก "ความเป็นผู้ไร้ซึ่งความกระดาก" อย่างนี้เอง ใช่มั้ยวะ?! แล้วไอ้ที่ว่า ผมไม่ทราบเช่นกันว่าท่านใดได้ฌานหรือไม่ได้ฌาน แต่ตามหลักแล้ว ท่านใดได้ ท่านนั้นก็ต้องเป็นฝ่ายยืนยัน สำหรับท่านที่เห็นค้าน ถ้าตนเองได้ฌาน ก็ต้องเป็นฝ่ายยืนยันเช่นกันว่าตนเองก็ได้ฌาน แต่เห็นต่าง ตกลงว่าเรื่องได้ฌานเนี่ย.. "หลักการ" คือ ใครจะบอกว่าตนได้ฌาน คนนั้นต้องยืนยันตนเอง ข้อพิสูจน์หรือหลักตัดสินที่พระพุทธเจ้าแสดงไว้ มีอย่างไรก็ไม่รู้หละ ยืนยันก็แล้วกัน "หลักการ" คือ ถ้าใครจะค้าน ไอ้ค้านก็ต้องยืนยันว่าตนนี่แหละได้ฌาน เมื่อกูได้ฌาน กูก็ค้านได้ ได้ฌานมาอีท่าไหนยังไงก็ไม่รู้หละ ได้ฌานก็แล้วกัน ข้อพิสูจน์หรือหลักตัดสินที่พระพุทธเจ้าแสดงไว้อยู่ที่ไหนอะไรยังไง ก็ไม่รู้ไม่สนหละ ยืนยันก็แล้วกัน เนี่ยนะ "หลักการ" ?!?! คุณรู้สึกคันดากกันมั่งไหม ตอนเห็นคนมันตอบกระทู้แบบไม่กระดากกันเลยน่ะ...!! จากคุณ : เกาตูดทุกครั้งหลังล้างมือ (ระนาดเอก) เขียนเมื่อ : 27 ม.ค. 55 11:58:43

ความคิดเห็นที่ 61 รู้สึกดีใจ เพราะเค้ามาช่วยทำให้เราเข้าใจ"พระพุทธศาสนา" มากยิ่งขึ้น เราเองก็ภูมิใจในตัวเอง ที่เรายัง"ยอมรับ"ว่าเรายัง "มีปัญญาเบา" ในธรรมและวินัยนี้อยู่ หากผิดก็ต้องลบ เพราะอย่างน้อยก็ได้สืบทอดพระพุทธศาสนา ไม่บั่นทอนพุทธศาสนา และถ้าผู้อ่านมีปัญญาอยู่บ้าง ก็จะเข้าใจความหมายของผู้ตอบทุกๆคนว่า นี่เป็น"ความคิดเห็น" ดังที่หัวกรอบของทุกๆข้อความได้แสดงไว้ จะทึกทักเหมาว่าเป็นคำตอบ นั้นยังไม่ได้ เพราะผู้ตอบเองส่วนมาก ก็ตอบในฐานะเป็นผู้แสดงความคิดเห็น มิใช่ในฐานะ"ผู้แจ้ง"ในปัญหาทั้งหมดนั้นแล้ว จากคุณ : ใจพรานธรรม เขียนเมื่อ : 28 ม.ค. 55 00:53:43

ความคิดเห็นที่ 62 อาจกระดากอยู่ แต่มันก็ดีไม่ใช่หรือ เพราะต่อจากนี้เราจะได้เข้าใจให้ถูกต้อง และลึกซึ้งกว่าเดิม จากคุณ : NMR เขียนเมื่อ : 28 ม.ค. 55 05:02:30

ความคิดเห็นที่ 63 รู้สึกหน้าชาครับ ร้อนผ่าวๆ แต๋ก็ต้องยมอรับความจริง ว่าเขาตอบได้แน่นกว่า  ตอบผิดไม่เป็นไรนะ ดีกว่าไม่กล้า แสดงความคิดเห็น เขาจึงชอบพูดกันว่า คำว่าโง่ ย่อมมาก่อนฉลาด จากคุณ : แล้วทำไม12 เขียนเมื่อ : 28 ม.ค. 55 12:39:27

ความคิดเห็นที่ 64 กระดากเล็กน้อย แต่ก็ขอบคุณคนที่รู้จริงที่มาทำให้เรากระจ่างในเรื่องนั้นมากขึ้นคับ จากคุณ : ความจำผมมันสั้น เขียนเมื่อ : 28 ม.ค. 55 14:53:00

ความคิดเห็นที่ 65 มาให้กำลังใจคนตอบคนแรกๆ ครับ หลายครั้งที่อ่านคำตอบแล้วรู้สึกว่าคนหลังตอบดีกว่า ละเอียดกว่า ชัดเจนกว่า เข้าใจว่าอาจเกิดจากรู้จริง หรือเห็นแนวจากคนตอบคนแรกๆ แล้วว่ายังไม่ครบ ไม่สมบูรร์ เลยไปค้นหาคำตอบมาเพิ่มเติมให้ คนตอบคนแรกๆ จึงไม่ควรขวยอายครับ แต่ในฐานะที่เป็นผู้อ่านผู้ฟังมากกว่า มักจะนึกสงสารคนบางจำพวกอยู่เสมอที่รีบร้อนตอบ อ่านคำตอบแล้วรู้เลยว่าไม่ได้อ่านคำถาม ไม่เข้าใจเหมือนกันว่าในเมื่อไม่อ่านคำถามให้เข้าใจแล้วตอบทำไม หรือบางคนที่ฟาดหัวฟาดหางใช้อารมณ์นำหน้า ยังสงสารว่าไม่น่ามาเสียเวลาตอบคำถามคนอื่น น่าจะเอาเวลาไปฝึกอบรมใจตัวเองให้สงบ มีสติ มากกว่าครับ จากคุณ : oddy.freebird เขียนเมื่อ : 29 ม.ค. 55 11:38:08

ความคิดเห็นที่ 66 ดราม่าเกี่ยวกับฌานในกระทู้ก่อน?? ดราม่า?? หมายถึงไอ้ที่คุณเมิงไปยก กถาวัตถุ สมาปันโน สัททัง สุณาตีติกถา เอามาแบบชุ่ยๆ นั่นใช่ไหม ที่ทำให้โขตานหน้าแหก!! เมื่อมีผู้ยกมาแสดงอย่างครบถ้วน ก็ไม่มี "คำขอโทษ" ใดๆ ทั้งจาก "ท่านชุ่ย" กับ "ท่านแหก" ดราม่า จึงเริ่มจาก "ความเป็นผู้ไร้ซึ่งความกระดาก" อย่างนี้เอง ใช่มั้ยวะ?! ในกระทู้นั้นผมได้ขอโทษไปแล้วครับคุณระนาดเอก ที่คุณชาล้นถ้วยมาตำหนิผมน่ะครับ จากคุณ : คืนวันอันแสนดี เขียนเมื่อ : 29 ม.ค. 55 13:47:10

ความคิดเห็นที่ 67 ผมขอโทษคุณชาล้นถ้วยและทุกๆคน ในความเห็นที่ 178 เนื่องจากคุณชาล้นถ้วยได้ตำหนิผมไว้ในความคิดเห็นที่ 159 ดังนี้ครับ จากคุณ : คืนวันอันแสนดี เขียนเมื่อ : 29 ม.ค. 55 13:56:30

ความคิดเห็นที่ 68 Smiling-girl ช่วยหลังไมค์ให้ผมกลับมาดูกระทู้นี้ ที่ คคห #66 คคห #179 ในกระทู้นั้น มันของผม เห็นอยู่ชัดๆ ว่ามันอยู่ถัดจาก #178 แน่นอนว่าผมเห็น #178 นี่ป่านนี้ ยังกล้าพูดได้อีกรึ ว่าไอ้นั่นน่ะ เรียกว่า "คำขอโทษ" ? คุณธรรมพื้นฐานที่คนเราต้องมี คืออะไร รู้มั้ย ? ความซื่อสัตย์ต่อตนเอง รู้จักไหม !? จากคุณ : ระนาดเอก เขียนเมื่อ : 30 ม.ค. 55 23:24:48

ความคิดเห็นที่ 69 คุณคืนวันอันแสนดีนำรูป คห.178 กระทู้ฌานฯ มาลงไว้ใน คห.66 กระทู้นี้ ว่าได้กล่าวขอโทษข้าพเจ้าและทุกๆ คน แล้ว ในฐานะที่อยู่ร่วมเหตุการณ์ในกระทู้นั้นมาตลอด และเป็นผู้กล่าวท้วงติงคุณคืนวันฯ ไว้ ในกระทู้นั้น ข้าพเจ้าเห็นว่า คุณคืนวันฯ ยังแสดงหลักฐานเพียงแค่ครึ่งเดียว เมื่อแสดงหลักฐานครึ่งเดียวแบบนี้ จึงกลายเป็นว่า ระนาดเอก เจอข้อหา กล่าวหาคุณคืนวันฯ แบบไม่มีมูลไปเต็มๆ ตามคำกล่าวนี้ของระนาดเอก ดราม่าเกี่ยวกับฌานในกระทู้ก่อน?? ดราม่า?? หมายถึงไอ้ที่คุณเมิงไปยก กถาวัตถุ สมาปันโน สัททัง สุณาตีติกถา เอามาแบบชุ่ยๆ นั่นใช่ไหม ที่ทำให้โขตานหน้าแหก!! เมื่อมีผู้ยกมาแสดงอย่างครบถ้วน ก็ไม่มี "คำขอโทษ" ใดๆ ทั้งจาก "ท่านชุ่ย" กับ "ท่านแหก" ดราม่า จึงเริ่มจาก "ความเป็นผู้ไร้ซึ่งความกระดาก" อย่างนี้เอง ใช่มั้ยวะ?! คงต้องย้อนกลับไปไล่เหตุการณ์ของกระทู้นั้นเพื่อความเป็นธรรมต่อทุกคน (คุณคืนวันฯ มีสำเนากระทู้อยู่ในมือแล้ว อ่านแล้วก็ลองดูตามไปด้วย) เริ่มจาก คห.139 ที่คุณคืนวันยกกถาวัตถุ สมาปันโน สัททัง สุณาตีติกถา มาแค่เพียงบางส่วน แล้วทำให้เกิดผลคือ ใน คห.142 โขตานหยิบเอาข้อความของคุณมาใช้สนับสนุนความเห็นของเขาว่าในปฐมฌานยังได้ยินเสียง พร้อมกล่าวหาว่า คนที่เข้าใจผิดแบบเต็มๆ คือ ระนาดเอก ต่อมาใน คห.145 ระนาดเอก จึงเอาลิ้งค์กถาวัตถุตอนนั้นมาลงไว้ (ซึ่งตามไปอ่านเนื้อความเต็มๆ ได้) และได้ยกข้อความอธิบายจากอรรกถาซึ่งอธิบายว่า การกล่าวว่าในปฐมฌานฟังเสียงได้นั้นเป็นความเห็นผิดของพวกนิกายปุพพเสลิยะ มาลงไว้ให้เห็นชัดเจน พร้อมกล่าวตำหนิโขตาน เรื่องการไปยกถ้อยคำของผู้อื่นมาแบบไม่ดูที่มาที่ไป แล้วยังมาว่ากล่าวผู้อื่นว่าเข้าใจผิดอีก ที่จริงคุณคืนวันฯ ควรจะกล่าวขอโทษระนาดเอกตั้งแต่ได้อ่าน คห.145 นี้แล้ว แต่คุณก็เขียนใน คห.155 และ 156 เพียงเท่านี้เอง (ยก 156 มา แล้วกันเนื้อความคล้ายๆ กัน แต่ 156 เขียนยาวกว่า) ความคิดเห็นที่ 156     เป็นเช่นที่คุณระนาดเอก คุณโขตาน คุณหนูยิ้มกล่าวครับ สำหรับคุณรักน้ำมันกับคุณสองนิ้วชี้ก็ไม่ต้องเป็นกังวลไปนะครับ เดี๋ยวเกิดนิวรณ์จนเป็นอุปสรรคสำหรับการเจริญสมถกัมมัฏฐานและวิปัสสนากัมมัฏฐาน เป็นกำลังใจให้ครับ จะฝ่าวัฏฏะนี้ไปด้วยกัน จะปิดอบายภูมินี้ไปด้วยกัน จากคุณ : คืนวันอันแสนดี     เขียนเมื่อ : 4 ม.ค. 55 13:07:30 ทำไมข้าพเจ้าจึงว่าคุณคืนวันฯ ควรจะกล่าวขอโทษระนาดเอก ก็เพราะว่า การยกข้อความมาบางส่วนของคุณทำให้โขตานไปนำข้อความนั้นมาใช้กล่าวหาระนาดเอกว่าเป็นฝ่ายเข้าใจผิด พูดง่ายๆ ก็คือคุณเป็นสาเหตุให้ผู้อื่นถูกพาดพิงในทางไม่ดี แต่คุณก็กลับไม่รู้สึกถึงการกระทำของตนเองที่ทำให้คนอื่นต้องโดนพาดพิง แล้วก็เฉยเสีย กล่าวแต่เพียงสั้นๆ ว่า "เป็นเช่นที่คุณระนาดเอก คุณโขตาน คุณหนูยิ้มกล่าวครับ" นอกจากควรขอโทษระนาดเอกที่ทำให้เขาโดนพาดพิงแล้ว คุณควรจะต้องขอบคุณระนาดเอกเขาด้วยที่ยกข้อความทั้งหมดมาอธิบาย ซึ่งทำให้คนอ่านอื่นๆ จะไม่เข้าใจไปตามการยกมาเพียงบางส่วนของคุณคืนวันฯ แต่ว่าก็ไม่มีทั้งคำขอโทษหรือคำขอบคุณจากคุณคืนวันอันแสนดีต่อระนาดเอกหลังจากอ่าน คห.145 (กับการปรากฏตัวครั้งแรกหลัง คห.145 ใน คห.156) จนกระทั่งข้าพเจ้าออกมาท้วงติงคุณคืนวันฯ ใน คห.159 ในเรื่องการยกข้อความมาไม่ครบ ซึ่งจะทำให้คนอ่านเข้าใจผิดๆ ไปได้ คุณจึงได้กล่าวขอโทษไว้ใน คห.178 ซึ่งข้าพเจ้าเองก็ยังอดสงสัยไม่ได้ว่า ถ้าข้าพเจ้าไม่ท้วงติงโดยเอ่ยชื่อคุณตรงๆ คุณจะขอโทษหรือไม่ (และการเขียนขอโทษของคุณก็สั้นเสียจนแอบคิดว่า ขอโทษแบบเสียไม่ได้หรือเปล่า) และจริงๆ แล้วที่ข้าพเจ้าเขียนท้วงติงคุณตรงๆ ก็เพราะได้อ่าน คห.145 ของระนาดเอก และอ่านต่อๆ มา ก็ไม่เห็นทั้งโขตานและคุณคืนวันฯ จะขอโทษหรือขอบคุณระนาดเอกที่นำข้อมูลที่ครบถ้วนและอธิบายความผิดพลาดของทั้งสองคนมาลงไว้เลยสักคำ ก็งงๆ อยู่นั่นแหละว่าทำไมถึงเป็นกันอย่างนี้ สำหรับโขตานนั้นไม่อยากจะพูด ไปว่ากล่าวคนอื่นเขาว่าเข้าใจผิด ทั้งๆ ที่ตนเองรีบร้อนยกคำพูดไม่ครบมาสนับสนุนทิฏฐิของตนโดยไม่กลับไปดูที่มาที่ไปนี่ยอดแย่จริงๆ เมื่อเจ้าตัวเขาแสดงหลักฐานที่ครบถ้วน ก็ไม่ขอโทษที่ไปกล่าวหาเขาผิดๆ ทำเฉยไม่รู้ไม่ชี้เสียงั้นแหละ คำว่า "ขอบคุณ" จึงไม่ต้องพูดถึงในกรณีของโขตาน ส่วนถ้าโขตานจะแย้งว่า ตนเองเห็นว่าพวกนิกายปุพพเสลิยะพูดถูกแล้ว ตนเองจึงไม่จำเป็นต้องขอโทษ ถ้าคิดอย่างนี้ก็คนละเรื่อง คือ ต้องไปถกเถียงกันอีกช็อตหนึ่งยาวๆ เลย แต่ตามหลักฐานในอภิธรรมปิฎกเรื่องกถาวัตถุนั้นก็รู้กันอยู่ว่า เป็นการชำระความเห็นผิดของพวกลัทธิมิจฉาทิฏฐิต่างๆ ในสมัยสังคายนาครั้งที่สาม --------------------- ไล่เหตุการณ์มาให้ทบทวนกันแล้ว ดังนั้นคำพูดของระนาดเอก ใน คห.60 ว่า เมื่อมีผู้ยกมาแสดงอย่างครบถ้วน ก็ไม่มี "คำขอโทษ" ใดๆ ทั้งจาก "ท่านชุ่ย" กับ "ท่านแหก" ดราม่า จึงเริ่มจาก "ความเป็นผู้ไร้ซึ่งความกระดาก" อย่างนี้เอง ใช่มั้ยวะ?! แม้จะแรง แต่ก็ไม่เกินความจริงแต่อย่างใด !!! ---------------------- ที่จริงกระทู้นี้ คุณคืนวันฯ ไม่ควรยกเรื่องนี้มาพูดเจาะจงเลยด้วยซ้ำ คุณควรจะเขียนตั้งแต่การถกเถียงกันในกระทู้นั้น หรือกระทู้ต่อเนื่องของคุณ P_vicha เพราะกระทู้นี้เขาก็ตอบกันแบบกว้างๆ ทั่วๆ ไป เมื่อคุณไปยกเคสเจาะจงมา ผู้ที่เขารู้สึกว่าถูกกระทบก็ย่อมจะต้องออกมาโต้แย้ง และก็จะมีการแย้งกลับกันไปมา ซึ่งกระทู้เริ่มแรกนั้นก็ไม่มีปรากฏแล้วในขณะนี้ ถ้าไม่มีคนเกี่ยวข้องในเหตุการณ์มาอ่าน ก็อาจทำให้เกิดความไม่ยุติธรรมขึ้นมาได้ แก้ไขเมื่อ 31 ม.ค. 55 15:21:20 จากคุณ : ชาล้นถ้วย เขียนเมื่อ : 31 ม.ค. 55 15:08:26

ความคิดเห็นที่ 70 เราตั้งกระทู้เราดีๆ  มาดราม่ากันซะงั้น เฮ้อออออ จากคุณ : ซามูไรหมูตอน เขียนเมื่อ : 31 ม.ค. 55 19:25:57

ความคิดเห็นที่ 71 ขอโทษคุณระนาดเอกกับคุณชาล้นถ้วยตลอดจนทุกๆคนใบบอร์ดด้วยครับ จากคุณ : คืนวันอันแสนดี เขียนเมื่อ : 1 ก.พ. 55 00:14:05

ความคิดเห็นที่ 72 ขอโทษคุณโขตานด้วยอีกท่านหนึ่งครับ จากคุณ : คืนวันอันแสนดี เขียนเมื่อ : 1 ก.พ. 55 05:47:23

ความคิดเห็นที่ 73        ใครเคยเห็นภาพฝูงสุนัขจิ้งจอกรุมกัดลูกแกะไหมละ ?  ... ช่วยหาภาพมาหน่อย สักภาพสองภาพ ....   จากคุณ : โขตาน เขียนเมื่อ : 1 ก.พ. 55 09:07:47

ความคิดเห็นที่ 74 ทดลองโพสต์ภาพ ครั้งแรก  ฮ่าๆๆ... จากคุณ : โขตาน เขียนเมื่อ : 1 ก.พ. 55 09:22:09

ความคิดเห็นที่ 75 โขตาน จะพูดอะไรก็พูดมาเลยดีกว่า ขี้เกียจแปล จากคุณ : ชาล้นถ้วย เขียนเมื่อ : 1 ก.พ. 55 15:00:39

ความคิดเห็นที่ 76 ขอสื่อสารกับ คุณคืนวันอันแสนดี นะคะ   เมื่อตั้งใจใฝ่ศึกษาโดยมีพระธรรมขององค์พระศาสดาเป็นเครื่องนำทางแล้ว ก็ขอให้มีความซื่อตรงทั้งต่อพระธรรมและต่อตนเอง  พึงระลึกไว้ว่า  พระศาสดาท่านทรงรู้แจ้งเห็นจริงในสิ่งต่างๆ มาแล้ว และท่านได้เมตตาถ่ายทอดไว้กับพระสาวกผ่านมาทางพระไตรปิฎก ไม่ว่าจะปฎิบัติแนวไหน สุดท้ายหลักสภาวะธรรมจะต้องสอดคล้องลงกันได้กับตำรา ผู้ที่ยึดมั่นใตอัตตาของตน เมื่อผลการปฎิบัติไม่สอดคล้องกับพระไตรปิฎกก็จะหันมาแว้งกัดตำรา ส่อเสียดด้วยสารพัดคำ นักปริยัติจับผิดบ้างหละ พวกบ้าตำราบ้างหละ พวกไม่ปฎิบัติบ้างหละ หัวเราะแค่นๆ เหอ เหอ ฮ่า ฮ่า เย้ยใส่บ้างหละ ฯลฯ  สิ่งเหล่านี้ขอให้พิจารณาดีๆ ว่ามีเหตุมาจากสิ่งใดกันแน่ ...  และคนประเภทนี้ก็จะก้าวหน้าไปไหนได้ยากเพราะยึดติดอยู่ักับภาพความสำเร็จที่ตนเองวาดไว้หลอกตัวเอง ... วิบากกรรมของเขาเป็นเช่นนั้นเอง.... เมื่อไม่ตรงกับคำสอนของพระพุทธเจ้า ควรใช้ปัญญาฉุกคิดว่าเรายังไม่ถูกทาง หรือยังไม่ใช่ ...  แต่มิใช่จะมาตะแบงสร้างลัทธิ "ฌานอุ๋มอิ๋ม" ขึ้นมา เพื่อจะบอกว่าใช่ เพื่อจะเถียงกับคำสอนขององค์พระศาสดา ... พวกนอกรีต ผิดเพี้ยน เหล่านี้ล้วนมาจากมูลเหตุทำนองนี้ทั้งสิ้น ... อรหันต์จะไม่มาเล่นเนตหรอก ฉะนั้นบนเน็ตนี้สามารถผิดกันได้ทุกคน ไม่ใช่เรื่องน่าอับอายขายหน้าแต่อย่างใด ทุกคนอยู่ในช่วงเรียนรู้จากผิดไปถูกด้วยกันทั้งสิ้นค่ะ ... อย่าลังเลสงสัยในคำสอนขององค์พระศาสดาเลยค่ะ เมื่อไม่สอดคล้องตรงกันกับหลักการ ก็ขอให้พึงหันไปลังเลสงสัยในการปฎิบัติของตนเองจะประเสริฐและก้าวผ่านไปได้นะคะ คุณคืนวันฯ เป็นมิตรที่ดีต่อเรามาโดยตลอด เราเชื่อว่าคุณเป็นผู้หนึ่งที่ได้น้อมหลักธรรมเข้ามาพัฒนาจิตใจของตน มิใช่ศึกษาปฎิบัติเพื่อจะนำมาคุยอวดข่มผู้ใด คำกล่าวใดๆ ของคุณที่มีต่อเรา เราไม่มีเจโตหรอกค่ะ แต่ก็สัมผัสได้ถึงกระแสเย็นแห่งจิตที่ผ่านมาทางตัวอักษร... ในฐานะ "มิตร" เราจึงขอส่งข้อความข้างต้นนี้มายังคุณค่ะ จากคุณ : Smiling-girl เขียนเมื่อ : 2 ก.พ. 55 10:30:26

ความคิดเห็นที่ 77 คุณคืนวันฯ  คงไม่คิดหาแนวร่วมโดยการไปยกยอคนนั้นคนนี้นะ  ใช่ไหมละ ? ใจคนเราทั่วๆไปจะเอนเอียงง่าย  แค่โดนหยอดลูกยอสักหน่อยก็เอียงกระเท่เร่แล้ว   ผิดเป็นถูก  ถูกเป็นผิด  ฮ่าๆๆ.. แก้ไขเมื่อ 03 ก.พ. 55 09:34:42 จากคุณ : โขตาน เขียนเมื่อ : 3 ก.พ. 55 09:33:54

ความคิดเห็นที่ 78 เพ้อเจ้อ จากคุณ : ชาล้นถ้วย เขียนเมื่อ : 4 ก.พ. 55 14:39:38