Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com  


 
***********************พระซน 15 *********************** ติดต่อทีมงาน

พระซน 15 วัดสนามใน

วัดสนามในอยู่ที่บางกรวย  แต่พระซนบอกว่าอยู่บางอ้อครับ
จะถามกี่ทีๆ พระซนก็ยืนยันว่าอยู่บางอ้อ ....ทำไมเป็นอย่างนั้น....

.......วันแรกที่พระซนเดินกระเพลกๆ เข้าไที่วัดสนามใน......
หลังจากที่เดินทางไปแทบจะทั่วประเทศ เพื่อค้นหาสัจธรรม
สุดท้ายก็กลับมา กทม ที่เดิม ที่ออกเดินทาง...เหมือนเป็นปริศนธรรม
...หลังจากที่ค้นหาในสิ่งที่ไกลตัว กลับมาค้นในสิ่งที่ใกล้ตัวแทน...

ด้วยเดชะบุญที่มีอยู่หรืออย่างไรไม่ทราบ พระซนจำเป็นต้องกลับ กทม
ทั้งๆ ที่ไม่ชอบการอยู่ในเมืองหลวงนี้ มันวุ่นวาย ....แต่ด้วยเหตุการณ์บังคับ
เนื่องจาก ข้อเท้าแตก จากการตกหลังคา....มาเข้าเฝือกรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลสงฆ์เกือบเดือน
เรื่องตกหลังคา จะเล่าให้ฟัง (จริงๆ อ่าน) วันหลังนะครับ...สมชื่อพระซนมะ ....ตกหลังคา
ต้องกลับมาพำนักที่วัดต้นสังกัดที่พระซนบวช...วัดสระเกศฯ
พอถอดเฝือก พระซนก็รีบหาวัดปฏิบัติไปอยู่ทันที ด้วยปณิธานมั่น ยังไงๆ ต้องค้นสัจธรรมให้พบให้ได้

.......วันแรกที่พระซนเดินกระเพลกๆ เข้าไที่วัดสนามใน......
บรรยากาศที่นี่ ถ้าใครเคยมาแล้ว ก็คงอุทานเล็กๆ เป็นเสียงเดียวกัน เมื่อก้าวแรกสัมผัสพื้นดินวัด
ไม่เหมือนกรุงเทพเลย เหมือนวัดต่างจังหวัดอ่ะ....(จริงๆ วัดสนามใน อยู่นนทบุรีนะ)
จากภายนอกวัดที่ต็มไปด้วยตึกรามบ้านช่อง, ห้าง, โรงหนัง เข้ามาสู่สถานที่ครึ้มไปด้วยต้นไม้
เหมือนออกจากกรุงเทพมาสู่ต่างจังหวัดในชั่วเคี้ยวหมากแหลก (ภาษาโบราณจัง)
เมื่อ 20 ปีก่อน วัดสนามในยิ่งครึ้มมาก มากจนแดดแทบจะส่องลอดใบไม้ลงมาถึงพื้นยากเต็มที
บรรยากาศดีมาก เย็นสบาย เหมาะแก่การเป็นสถานที่ปฏิบัติธรรม พระซนคิด.
.....แต่........

ทำไมๆๆๆๆ ผู้ปฏิบัติที่นี่ ทำไมนั่งโบกมือแบบน้านนนน
คือนั่งแบบนั่งสมาธิแต่ไม่หลับตา แถมโบกมือไปมาเป็นจังหวะๆ ยกมือขึ้นลง แถมมีท่าแปลกๆ
เอาละซิ.... ปฏิบัติแบบนี้ ผิดทางพระพุทธเจ้าแน่ๆ ที่ถูกต้อง ต้องนั่งหลับตาดิ...มานั่งลืมตาแบบนี้ได้ไง
นั่งโบกมือแบบนี้ จะมีสมาธิได้ยังไงเนี๊ยะ....
เอาๆๆ ยังไงไม่มีทางเลือก ขายังไม่ดีแบบนี้ ไปต่างจังหวัดก็คงลำบาก อยู่ที่นี่ไปก่อน
เค้าให้ทำอะไรก็ทำ... เดี๋ยวกลางคืน เข้ากุฏิ เราค่อยไปนั่งสมาธิเอา...พระซนวางแผนเสร็จสรรพ อย่างรวดเร็ว

" ที่นี่มีกฏระเบียบการปฏิบัติเป็นเวลา ใครมาอยู่ต้องปฏิบัติตามอย่างเคร่งครัด ไม่งั้นก็ไม่รับ"
หลวงพ่อทองเจ้าอาวาสบอกกะพระซน หลังจากที่แจ้งความจำนงว่าจะมาจำพรรษาที่นี่
"ต้องตื่นปฏิบัติตั้งแต่ตีสี่ นั่งสร้างจังหวะ และเดินจงกรมทั้งวัน ท่านจะทำได้ไม๊" หลวงพ่อทอง ถาม
พระซนแอบยิ้มในใจ เนื่องจากผ่านหนักๆ มาเยอะ... "ได้ครับ"
"ก่อนเข้าพรรษามาลองดูเสียก่อนนะ ว่าไหวหรือเปล่า ถ้าไม่ไหว ท่านก็จะได้หาวัดจำพรรษาใหม่"
"ครับ" ...เกือบจะตอบว่า บายมาก แต่ก็เกรงใจท่านอยู่...เอาละพรรษานี้ (พรรษาที่ 4) ได้มีที่อยู่ที่อยู่แล้ว
ที่ๆ ไม่ใช่วัดแบบวัดทั่วๆ ไป เช้าเอน เพลนอน บ่ายพักผ่อน ค่ำจำวัด แบบนั้น...

"ทุกข์เกิดเพราะคิด"....เสียงตามสาย เป็นเสียงบันทึกของหลวงพ่อเทียน ผู้ก่อตั้งวัดสนามใน
อมตะวาจาของท่านยังคงอยู่ หลังจากมรณะภาพไปก่อนพระซนมาที่นี่ราว 10 ปี
"เราไม่ต้องห้ามความคิด ปล่อยให้มันคิด ให้กลับมารู้สึกตัว".....ต่อมเอ๊ะของพระซนทำงานทันที
3 ปี ที่ผ่านมา เราห้ามความคิดมาตลอดนี่(หว่า) พยายามจะสะกดข่มมัน ต้องการให้เป็นสมาธิ
ใช้วิธีต่างๆ บริกรรม, ดูลมหายใจ, แม้กระทั่งเจริญสติ ก็เป็นไปเพื่อกดข่มความคิดทั้งนั้นเลย
กด ข่ม บังคับ จนเกิดอาการ "ติดเพ่ง" เครียดไปร่วมปี ....(เรื่องติดเพ่งจะเล่าวันหลังครับ)
หลวงพ่อเทียนจะกล่าวถูกหรือไม่.....ต่อมเอ๊ะทำงานต่อเนื่อง........"อย่าไปห้ามความคิด"

"ปล่อยให้มันคิด ยิ่งคิดยิ่งรู้ อย่าไปตามมัน กลับมาอยู่กับความรู้สึกตัว
คิดก็ให้รู้ ...ให้รู้ในอริยาบททั้งหลาย ยืน เดิน นั่ง นอน
รู้ในอริยาบทย่อย ลืมตา อ้าปาก กลืนน้ำลาย หายใจ
เมื่อรู้สึกตัว ความคิดมันจะดับ" ......
"เรามาเคลื่อนไหวมือไปมา เคลื่อนก็ให้รู้ หยุดก็ให้รู้ อยู่กับความรู้สึกตัว อย่าไปอยู่กับความคิด"

เอาละซิ ที่พระซนไปปรามาสในใจ ว่าที่นี่นั่งโบกมืออะไรแปลกๆ ถึงเวลาต้องขอขมาต่อท่านแล้ว
อุบายที่แยบยลให้สตืตื่นแต่ดูประหลาดในสายตาคนนอก...เป็นอัจฉริยภาพอันล้ำลึกของหลวงพ่อเทียน
ท่านเรียกว่า นั่งสร้างจังหวะ คือการเจริญสติด้วยการเคลื่อนไหว เพื่อให้รู้สึกตัวนั่นเอง...
การเคลื่อนไหว ทำให้ความรู้สึกตัว ตื่น ขึ้นทีละน้อยๆ จึงต้องไม่นั่งนิ่งๆ

คำที่ออกมาจากหลวงพ่อที่ไม่ได้เรียนหนังสือ กล่าวอะไรอย่างซื่อๆ ตรงไปตรงมา
...แต่มันตรงเข้ากลางหัวใจของพระซน...เต็มๆ
ที่ติดค้างในใจมาตลอด ...ทำอย่างไรจะจัดการกับเจ้าความคิดฟุ้งซ่าน ให้จิตสงบลงได้
ทำอย่างไรจะหยุดซึ่ง ความปรุงแต่ง ทั้งปวงได้....
ที่แท้ การไปห้ามความคิด ก็เป็นความคิดอย่างหนึ่ง
....คิดว่าจะพยายามหยุดคิด.....มันจึงยังอยู่ในวังวนของความคิด
จึงพยายามคิดที่จะกดข่ม บังคับ เป็น "ความคิดซ้อนความคิด" มันช่างซับซ้อนซ่อนเงื่อนเสียนี่กระไร

สิ่งที่จะควบคุมความคิดได้ก็คือความรู้สึตัว ซึ่งเป็นคนละสิ่งกับความคิด
เป็นสิ่งที่เรามีมาแต่กำเนิด แต่เราไม่รู้จัก....สิ่งนี้แหละที่ทำให้เรารอดมาถึงทุกวันนี้
เพราะความรู้สึกตัว เป็นธรรมชาติที่ "แอบ" คอยดูแล และป้องกันภัยให้กับเรามาตลอด
เวลาคับขัน ความรู้สึกตัวจะบังเกิด ทำให้เราตื่นตัว  และพาเราออกจากเหตุการณ์คับขันได้
ความรู้สึกตัวไม่ใช่ความคิด แต่เป็นสิ่งที่สามารถควบคุมความคิดได้
โดยการที่รู้สึกตัวแล้วจะ "เห็นความคิด" เมื่อเห็นแล้ว เราจะกลายเป็นผู้เห็นความคิด ไม่ใช่ผู้คิดเสียเอง
ความคิดปรุงแต่งทั้งปวงจะดับลง....

"ความคิดเหมือนหนู ถ้าเราต้องการจะจับหนู เราก็เอาแมวมาเลี้ยง
คอยให้อาหารแมวเรื่อยๆ แมวยังเล็กยังจับหนูไม่คล่อง เราก็ให้อาหารมัน เลี้ยงมันไป
พอแมวโตแล้ว ทีนี่เจอหนูมันจับมั๊บเลย หนูก็เสร็จมันเลย"....เสียงหลวงพ่อเทียนตามสาย

วัดสนามในอยู่บางอ้อครับ ยังไงๆ พระซนก็ยืนยันว่าอยู่บางอ้อ.....สาธุ

จากคุณ : ทางนี้
เขียนเมื่อ : 26 ม.ค. 55 03:54:28




ข้อความหรือรูปภาพที่ปรากฏในกระทู้ที่ท่านเห็นอยู่นี้ เกิดจากการตั้งกระทู้และถูกส่งขึ้นกระดานข่าวโดยอัตโนมัติจากบุคคลทั่วไป ซึ่ง PANTIP.COM มิได้มีส่วนร่วมรู้เห็น ตรวจสอบ หรือพิสูจน์ข้อเท็จจริงใดๆ ทั้งสิ้น หากท่านพบเห็นข้อความ หรือรูปภาพในกระทู้ที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งทีมงานทราบ เพื่อดำเนินการต่อไป



Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com