เรื่องการตีความนั้น ที่ว่าผู้ก่อการร้ายตีความต่างออกไป จริงๆ ผมก็ยังไม่เคยเจอว่าจะมีผู้ก่อการร้ายคนไหนจะตีความกุรอ่านไปในทางที่จะให้ก่อการร้าย หรือตีความไปแล้วจะมีคนยอมรับนะครับ
แต่เท่าที่ผมคือ "การจงใจหลอกลวงหรือโกหก" ใส่กุรอ่านมากกว่า เพราะในกุรอ่านไม่มีช่องทางใดครับที่จะตีความให้ก่อการร้ายได้
เพราะจริงๆ แล้วกุรอ่านเป็นภาษาอาหรับซึ่งปัจจุบันคนก็ยังใช้กันอยู่ดังนั้นการจะมาตีความ เดาความหมายโดยไม่รู้ หรือไม่ทราบว่า ประโยคบางประโยค สำนวนบางสำนวนหมายถึงอะไรนั้น มันไม่มีอ่ะครับ
ผู้ที่จะอรรถาธิบายกุรอ่านได้ เขาต้องแตกฉานใน15วิชานี้ครับ
1. ภาษาอาหรับ
2. ไวยากรณ์ภาษาอาหรับ
3. วิชาว่าด้วยการผันคำกิริยา(Morphology)
4. วิชาว่าด้วยการใช้คำศัพท์ให้เหมาะสมกับประโยค
5. วิชาว่าด้วยการใช้ประโยคให้เหมาะสมกับสถานการณ์
6. วิชาว่าด้วยความสวยงามของประโยคเมื่อเรียบเรียงขึ้นโดยคำที่มีมีความหมายใกล้เคียงกัน(สามวิชาสุดท้ายเรียกว่า บาลาเฆาะฮ์)
7. วิชาว่าด้วย โองการที่ถูกยกเลิก และโองการที่มาแทนที่
8. วิชาว่าด้วย สาเหตุการประทานโองการ
9. วิชานิติศาสตร์อิสลาม
10. วิชาว่าด้วยหลักศรัทธา
11. วิชาวจนะศาสดา ว่าด้วยการอรรถาธิบายโองการต่าๆ
12. วิชาประวัติศาสตร์
13. วิชาการอ่านกุรอ่าน
14. วิชาการอ่านโคลงกลอน
15. การดลใจจากพระเจ้า
ดังนั้นการจะตีความต่างกันชนิดก่อการร้ายได้ กับก่อการร้ายไม่ได้มันไม่มีหรอกครับ
เพราะการจะตีความเอาตามใจ หรืออธิบายเอาตามใจนั้นสุดท้ายจะถูกจับได้ว่ามั่ว และไม่เป็นที่ยอมรับ เหมือนที่มุสลิมในนี้ และที่ไหนๆ ไม่เคยให้การยอมรับการบิดเบือน และมั่วนิ่ม กุรอ่าน แบบที่ login แมทท์ ได้กระทำนั่นแหละครับ
แต่การมีสำนักคิดทางกฎหมายของอิสลามแยกย่อยไปนั้น ลองไปอ่านจากกระทู้ผมได้ครับว่าเกิดจากอะไร แต่ไม่ใช่การตีความกุรอ่านที่ต่างกันลิบลับ แบบที่คุณ ยองเจียงใหม่ตั้งข้อสังเกตุหรอกนะครับ
เพราะถ้าคิดว่ามี ผมอยากลองอ่านการตีความของผู้ก่อการร้ายว่าโองการใดที่เอามาใช้ก่อการร้ายได้ เพราะได้มีนักวิชาการศาสนาออกมาประณาม และไม่ยอมรับการก่อการร้าย ตั้งแต่ผู้นำสถาบันทางศาสนาของอียิปต์ ไปจนถึงซาอุ ที่ออกมาไม่ยอมรับ
แต่เราไม่เคยพบการโต้แย้งนี้จากฝั่งผู้ก่อการร้ายเลย ว่าก่อการร้ายนั้นถูกต้อง และนักวิชาการที่ออกมาต่อต้านการก่อการร้ายนั้น ผิด
เรื่องของการก่อการร้ายมันจึงเป็นเรื่องการของ "กระทำผิดหลักศาสนา" น่ะครับ ไม่ใช่ "การตีความที่ต่างกัน"
หรือแม้แต่ฮะดีษเองก็ยังลงชัดเจนว่าในการทำสงครามนั้น ห้ามทำร้ายผู้ไม่เกี่ยวข้องกับสงคราม นักบวชต่างศาสนาก็ห้ามทำร้าย ผมก็ไม่รู้ว่า มันจะเกิดจากการตีความที่ต่างกันได้อย่างไร เพราะที่ผมทราบคือ มันไม่ใช่การตีความที่แตกต่าง แต่มันเป็นการบิดเบือน และหลอกลวงให้คนทำเลยล่ะครับ