ความคิดเห็นที่ 1 ..... จากคุณ : พี่จิม (Jimbovy) เขียนเมื่อ : 31 ม.ค. 55 08:48:51

ความคิดเห็นที่ 3 .....003 จากคุณ : พี่จิม (Jimbovy) เขียนเมื่อ : 31 ม.ค. 55 08:50:03

ความคิดเห็นที่ 4 004 จากคุณ : พี่จิม (Jimbovy) เขียนเมื่อ : 31 ม.ค. 55 08:51:17

ความคิดเห็นที่ 5 005 จากคุณ : พี่จิม (Jimbovy) เขียนเมื่อ : 31 ม.ค. 55 08:52:14

ความคิดเห็นที่ 6 มีบทความของน้องคนนึงเขียนเอาไว้ น่าอ่านเลยเอามาฝากกัน ดังนี้ @@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@ โลกมีพัฒนาการก้าวหน้าไปมาก ทั้งด้านข้อมูลข่าวสาร ทุกบ้านมีทีวี วิทยุ มีเครื่องมือสื่อสาร มีข้อมูลข่าวสาร โฆษณาสินค้าที่มีเด็กและเยาวชนเป็นกลุ่มเป้าหมาย ในช่วงวาเลนไทน์มีกิจกรรมมากมาย เช่นรับจดทะเบียนสมรส จัดงานเทศกาลแห่งความรัก ตามสถานบันเทิง มีการโฆษณาประชาสัมพันธ์ เพื่อให้คนออกมาใช้บริการ ควักเงิน ซื้อของที่ระลึกให้กับคนรัก เมื่อเปรียบเทียบวันวาเลนไทน์กับวันอื่น ๆ ที่มีความเป็นตะวันออกในสังคมไทย เช่นวันสำคัญทางศาสนา วันรัฐธรรมนูญ ฯลฯ วันเหล่านี้ มีการรณรงค์ให้หยุด อยู่บ้าน เข้าวัด ทบทวนชีวิต ความคิด อุดมการณ์ งดดื่มเหล้า หรือขอให้ปิดสถานบริการเพื่อเป็นพุทธบูชา ซึ่งสอดคล้องกับความคาดหวังของสังคมไทย แต่กลับไม่คึกคัก จะเห็นว่าวันวาเลนไทน์ เป็นเรื่องจับต้องได้ โดนใจวัยรุ่น ผู้ใหญ่ก็ทำหรือใคร ๆ ก็ทำ ทำแล้วได้รับการยอมรับ นอกจากวันวาเลนไทน์ก็มีวันอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้องกะวัฒนธรรมไทย เช่นวันลอยกระทง วันสงกรานต์ ที่มีผลต่อเศรษฐกิจ ไม่มีใครบอกว่ามันเป็นวัฒนธรรมตะวันไหน แต่ที่สำคัญวันวาเลนไทน์ที่ทำให้มีเงินสะพัด คนได้เงินกันถ้วนทั่ว ตั้งแต่เจ้าของธุรกิจการสื่อสารระดับโลก จนถึงลุงนวลชาวสวนกุหลาบ คนขายเหล้าตองข้างทาง คนต้มเหล้าพื้นบ้าน ทุกคนชอบเงินแต่ไม่ชอบวัฒนธรรมตะวันตันวันตก ส่วนผลที่ตามมากับวันวาเลนไทน์นั้นก็การเสียตัวของวัยรุ่น วันวาเลนไทน์เป็นเงื่อนไขให้วัยรุ่นได้อยู่ด้วยกัน เป็นโอกาสให้ชายได้ขอมีอะไรกับหญิง โดยอ้างความรักให้เกิดความชอบธรรมซึ่งผู้ชายก็ใช้วิธีนี้ในวันอื่น ๆ ด้วย และผู้หญิงก็ยอมเพราะความรักเพราะวิธีคิดของชายหญิงก็ยังต่างกันสังคมไทยไม่สอนให้ชายมีความรับผิดชอบ แต่สอนให้หญิงต้องรับผิดชอบมีเพศสัมพันธ์กันผู้ชายได้ผู้หญิงเสียตัววันวาเลนไทน์นี้เด็กผู้หญิงก็ถูกตราหน้ามากกว่าเด็กผู้ชาย เคยถามไหมว่าทำไม แต่คำตอบที่ได้ก็คือ เพราะผู้หญิงรักผู้ชายมากก็เลยต้องยอมที่จะมีอะไรกับผู้ชายนั้นเอง เพราะผู้ชายจะอ้างเหตุผลมากมายจนกว่าผู้หญิงจะมีอะไรด้วย ส่วนกิจกรรมในช่วงวาเลนไทน์ มีที่ขาดไม่ได้คือการรณรงค์แจกถุงยางอนามัย และการ รณรงค์ “ไม่เสียตัว” สองแนวคิดกิจกรรมรณรงค์ป้องกันเอดส์ ที่เป็นไม้เบื่อไม้เมากันมาตลอด มีผู้ใหญ่หลายคนบอกว่าการแจกถุงยางเป็นการชี้โพรงให้กระรอกและสนับสนุนการมีเพศสัมพันธ์ของวัยรุ่น คนทำงานก็มีเหตุผลว่าห้ามวัยรุ่นไม่ได้ สิ่งที่เป็นปัญหาคือการมีเพศสัมพันธ์ ที่ไม่ปลอดภัยและไม่รับผิดชอบ และเราไม่ได้เตรียมเด็กให้มีความรู้ ความเข้าใจเรื่องเพศ ไม่ได้ฝึกให้คิดใคร่ครวญ จัดการหาทางออกที่ปลอดภัย ให้ทันกับยุคสมัย การแจกถุงยางเป็นเรื่องที่จำเป็นต้องทำเฉพาะหน้าเพื่อให้คนปลอดภัย ส่วนการรณรงค์ให้เยาวชนไม่มีเพศสัมพันธ์เป็นเรื่องสวนทางธรรมชาติและต้องทำระยะยาว สิ่งที่เกิดขึ้นกับวัยรุ่นในยุคนี้ ตอนนี้ เป็นผลพวงของปัญหาสังคมที่สะสมมายาวนาน คำว่า   ”ยุคนี้คนมีความเจริญทางวัตถุแต่มีจิตใจเสื่อมลง”มีความชัดเจนมากขึ้น ไม่ใช่เด็กยุคนี้จิตใจเสื่อม แต่สังคมมันเสื่อมมานาน และเห็นผลชัดเจนในยุคสมัยนี้ ดังนั้นในวันวาเลนไทน์นี้ ไม่ใช่เด็กไทยหลงไหลวัฒธรรมตะวันตก แต่เป็นเพราะวันวาเลนไทน์สอดรับกับกระแสทุนนิยมที่มาจากตะวันตก อย่างแนบเนียน ทุนนิยมมุ่งเป้ามาที่วัยรุ่น วัยรุ่นไทยเป็นเพียงเหยื่อของทุนนิยม และเป็นเหยื่ออารมณ์ความขัดแย้งของสองอุดมการณ์ ที่ไม่เคยลงรอยกัน ถ้าเราที่เป็นผู้ใหญ่หวังดีกับวัยรุ่นจริง ๆ เราน่าจะต้องปรึกษาหารือกันมากขึ้น เราคงต้องทำความเข้าใจพื้นฐาน ธรรมชาติของวัยรุ่น เข้าใจวิธีคิดสถานการณ์และความขัดแย้งในสังคมไทยและสังคมโลก ร่วมกันหาวิธีการสร้างทางเลือก สร้างความปลอดภัยแก่วัยรุ่นที่หลากหลายอย่างต่อเนื่องและจริงจัง หรือว่าเราจะปล่อยให้ ไอ้เด็กน้อยทั้งหลาย ตกเป็นเหยื่ออารมณ์ของสังคมต่อไป แก้ไขเมื่อ 31 ม.ค. 55 09:08:35 จากคุณ : พี่จิม (Jimbovy) เขียนเมื่อ : 31 ม.ค. 55 08:58:05

ความคิดเห็นที่ 7 และมีข้อเสนอแนะ จากน้องเขานั้นแหละ  เด้กคนนี้เยี่ยมยอด ผมให้ 100 คะแนน เต็มเลยในระบบการคิด พวกผู้ใหญ่เซงเครงคิดไม่เป้น @@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@ หากจะพูดว่า “วัน วาเลนไทน์” เป็นจุดเริ่มต้นสำคัญอันหนึ่งที่ทำให้วัยรุ่นมีพฤติกรรม  “ชิงสุกก่อนห่าม” กันมากขึ้นก็คงไม่ผิด การแสดงความรักกับเพื่อนและกับคู่รักนั้นเป็นสิ่งที่ดี แต่ควรมีการปฏิบัติอย่างเหมาะสม ไม่ควรเลยเถิดไปถึงขั้นมีเพศสัมพันธ์ ดังนั้น สังคมควรกระตุ้นให้เด็กและเยาวชนตระหนักถึงค่านิยมอันดีงามของหญิงไทยในเรื่องความ “รักนวลสงวนตัว”  เพราะปัจจุบันไม่มีการให้ความสำคัญกับเรื่องนี้ ทำให้เทศกาลวาเลนไทน์กลายเป็นกระแสที่วัยรุ่นนิยมมีเพศสัมพันธ์กับคู่รัก เพื่อแสดงความ รักแก่กัน ซึ่งจะเป็นพฤติกรรมที่น่าเป็น ห่วงเหมือนทุกปี เนื่องจากสังคมไทยรับ  “อารยธรรมตะวันตก” มาโดยไม่กลั่นกรองว่าเป็นสิ่งที่เหมาะสมกับสังคมและวัฒนธรรมไทยหรือไม่ นำไปสู่ปัญหาของวัยรุ่นทั้งเรื่องการแต่งกาย เพศสัมพันธ์ การแสดงที่ไม่เหมาะสม เป็นต้น จึงเป็นตัวอย่างของการ   “บริโภคนิยม”โดยไม่เลือก ครอบครัว วัด และโรงเรียน ต้องมีส่วนช่วยกันดูแลอบรม ปลูกฝังค่านิยมที่ดีให้กับ เด็กและเยาวชน เพื่อไม่ให้หลงใหลไปกับการใช้เทคโนโลยีสมัยใหม่ ที่นำไปสู่การหมกมุ่นเรื่องลามก อนาจาร อย่างไรก็ตาม กระทรวงวัฒน ธรรมทำได้เพียงแค่การรณรงค์ ซึ่งเป็นการแก้ที่ปลายเหตุเท่านั้น แต่กระบวนการอบรมสั่งสอนเด็ก จะต้องกระตุ้นให้เด็กมีจิตสำนึกถึงสิ่งที่ควรทำและไม่ควรทำ ทั้งหมดนี้จะเป็นการแก้ปัญหาอย่างแท้จริง แก้ไขเมื่อ 31 ม.ค. 55 09:05:17 จากคุณ : พี่จิม (Jimbovy) เขียนเมื่อ : 31 ม.ค. 55 09:02:01

ความคิดเห็นที่ 8 จริงๆเสรีภาพของเขาทำไมเราต้องไป ล้ำเส้นคนอื่นด้วยเนอะ ทั้งๆที่มันมีกฏหมายบังคับอยู่แล้ว โชคดีที่เกิดในประเทศเสรี จากคุณ : ฉันมันตัวเปล่า เขียนเมื่อ : 31 ม.ค. 55 09:36:30

ความคิดเห็นที่ 9 ลอง Serch หา คำว่า ""  วันเสียตัวแห่งชาติ"  หรือ "เดือนเสียตัวแห่งชาติ " ใน www.google.co.th  จะพบคนที่เริ่มรนณรงค์ เรื่องนี้กันมากขึ้น ให้ความสำคัญมากขึ้น  มีทั้งในแง่อนุรักษ์นิยม และ แง่ตามอารยะชน ตะวันตก ในประเทศแถบตะวันตก เมื่อถึงยุค ที่ความเสื่อมสูงสุด ก็ย้อนมากลับมามองตนเองบ้างแล้ว เลยมีการสร้างกลุ่ม อนุรักษ์นิยมกัน แต่เด้กไทยละ มิได้มองข้อนี้เลย แก้ไขเมื่อ 31 ม.ค. 55 09:50:57 จากคุณ : พี่จิม (Jimbovy) เขียนเมื่อ : 31 ม.ค. 55 09:50:02

ความคิดเห็นที่ 10 เอาวันทางศาสนาอื่นๆ ไปใช้ในทางที่ผิดๆ ก็แบบนี้แหละครับ ลองถามชาวคริสต์ในประเทศไทยดูซิครับ ว่าเค้าใช้วันวาเลนไทน์ กันอย่างไร เค้าไปโบสถ์กัน ไปนมัสการพระเจ้า  มอบความรัก ความห่วงใย ต่อพี่น้อง ในพระคริสต์  ตั้งแต่เด็ก  วัยรุ่น  วัยผู้ใหญ่   นี่คือคนเนื้อแท้ในศาสนาที่เค้าปฏิบัติกันครับ ส่วนคนนอกศาสนา  เอาไปประพฤติแบบผิดๆ  ใช้ความหมายแบบผิดๆ   ก็ยังไม่รู้สึกระอายแก่ใจเลย   ความหมายที่แท้จริงของ วันวาเลนไทน์  กลับไม่นำไปปฏิบัติ   ฉะนั้นอย่าไปโทษ  วันวาเลนไทน์  หรือวันแห่งความรัก หรือเดือนแห่งความรักเลยครับ ถ้าจะโทษ ก็ควรจะโทษพฤติกรรมของสังคมตนเองครับ ว่ามุ่งเน้นไปเรื่องใด ถ้าจะเสียตัวกัน  ก็เป็นเรื่องของพฤติกรรม ของสัมคมนั้นๆ  ครับ อย่ากลาก  เอาวันสำคัญที่ดีๆ  ของศาสนาอื่นๆ  มาอ้างกันเลยครับ   วันวาเลนไทน์  เป็นที่แสดงถึง ความรัก ความห่วงใย ความเสียสละ ไม่ใช่วันผสมพันธ์กัน   ถ้าจะเสียตัวกัน  ก็เพราะกิเลส ตัณหาของคนเอง  ก็อย่าโทษอย่างอื่นเลยครับ สังคม ครอบครัว ได้เลี้ยงดูมาดีหรือยัง   เลี้ยงมาแบบไหน ก็ได้แบบนั้น ถ้าจะมีอะไรกัน มันไม่จำเป็นต้องเป็นช่วงวันวาเลนไทน์หรอกครับ ก็เห็นจะเสียตัวกันอยู่ร่ำไป   1 ปี มี 12 เดือน  ก็เห็นเสียตัวกันทุกเดือน อยู่แล้ว อย่าเอาความหมายของวันวาเลนไทน์ ไปบิดเบือนในทางที่ผิดเลยครับ เพราะสิ่งที่เกิดขึ้นนั้น เป็นสิ่งที่คนนอกศาสนาทำแทบทั้งนั้นครับ   ฝากไว้เป็นอุทาหรณ์นะครับ   ขอบคุณครับ จากคุณ : ศรัทธาพลัง เขียนเมื่อ : 31 ม.ค. 55 10:37:46

ความคิดเห็นที่ 11 วันที่น่าจะเป็นวันเสียตัวกันจริงๆ น่าจะวันลอยกระทงมากกว่า เพราะผู้ปกครองอนุญาตให้กลับดึกได้ ส่วนวาเลนไทนั้นไม่ได้เปิดโอกาสในการกลับดึกได้ แต่ก็มีการยกเว้นสำหรับกรณีเด็กหอพัก หรือ กลุ่มที่ผู้ปกครองปล่อยให้กลับบ้านไม่ตรงเวลาได้ ถ้านับกลุ่มนี้คงมีโอกาสทุกวัน จากคุณ : Lamelez เขียนเมื่อ : 31 ม.ค. 55 11:07:44

ความคิดเห็นที่ 12 เรียนท่าน ศรัทธาแห่งพลัง  ด้วยความเคารพและขอบคุณ ที่ช่วยมาแถลงใข ก่อนอื่นต้องเรียนขออภัยด้วย เนื้อหาและหัวใจของกระทู้ ไม่ใช่ดึงศาสนามาเกี่ยวข้อง ผมเรียนด้วยความสัจจริง ผมไม่ได้ลาก ศาสนาอื่นใดมาเกี่ยวข้อง แต่ผมโทษสังคม และการเข้าใจอะไรผิดๆ ต่างหากนะครับ เพราะตอนนี้กระแสวันวาเลนไทน์แบบผิดๆ จนกลายเป้นกระแสวันที่ดีแห่งความรัก คือการให้ ใช่การครอบครอง  กลายเป็นกระแส ความรักคือการมีเซกส์ กระแสผิด บิดเบือนเหล่านี้ เป็นกระแส ที่เราต้องช่วยกัน ดึงกลับมาและทำความเข้าใจ อย่างลึกซึ่ง ว่า รากจริงๆของวันนั้นคืออะไร ท่านและผม คริสตชน อิสลามิกชน พุทธศาสนิกชน และศาสนาอื่นๆ  มีหน้าที่ต้องช่วยกัน ชี้แจงครับ ว่าให้เด็กเยาวชน ของเรา นั้น รักนวลสงวนตัว   ท่านเห็นด้วยไหมครับ ผมเอง3/4 ของระบบการศึกษาของผมนั้นเรียนใน โรงเรียน คาทอลิค ผมทราบดีครับ แก้ไขเมื่อ 31 ม.ค. 55 11:13:22 แก้ไขเมื่อ 31 ม.ค. 55 11:11:57 จากคุณ : พี่จิม (Jimbovy) เขียนเมื่อ : 31 ม.ค. 55 11:10:11

ความคิดเห็นที่ 13 ท่าน Lamelez   สำหรับวันลอยกระทง เป็นเป็นประเพณีไทย ที่ขัดกับหลักการศาสนา อิสลามไปเกี่ยวด้วยไม่ได้ สำหรับในแง่ อิสลาม วันใดๆ ก็กลับบ้านดึกไม่ได้ครับ นอกจากมีผู้ปกครองไปด้วย เลยไม่ค่อยมีปัญหาเท่าไหร่กับเรื่องนี้ แต่ตอนนี้ชักไม่แน่ใจ เยาวชนของอิสลาม เริ่มคล้อยตามกระแสนิยม เริ่มออกไปเที่ยวเตร่มีบ้างแล้วละ แต่พวกเราชนรุ่นเก่าก็พยายามดึง เด็กของเรามาอยู่ในแนวทางที่ถูกต้อง ด้วยความเคารพ พี่จิม จากคุณ : พี่จิม (Jimbovy) เขียนเมื่อ : 31 ม.ค. 55 11:17:21

ความคิดเห็นที่ 14 จากกระทู้หมอแมว แห่งหว้ากอ จะเห็นได้ว่า สถิติการเสียตัวที่มากที่สุดนั้นคือ วันไหนก็ได้ http://topicstock.pantip.com/wahkor/topicstock/2011/06/X10675613/X10675613.html ผมว่าการรณงค์จะต้องทำเป็นประจำ โดยไม่จำกัดในเทศการใดเทศการหนึึ่ง ตอนนี้เยาวชนมุสลิมเริ่มที่จะห่างไกลจากการเรี้ยนรู้ศาสนาเข้าไปทุกที รวมทั้งผู้ปกครองที่ไม่สนใจที่จะส่งลูกเข้าเรียนศาสนาได้ หลายคนแค่ลูก เคาะตัมกุรอ่านจบ ก็คิดว่าเก่งแล้วแจ๋วแล้ว ทำบุญกันใหญ่โต บอกลูกของฉัน ตัมมัตกุรอ่านแล้วนะ แต่เรื่องฟัรดูอีน เรื่องหลัีกการปฏิบัติ หัลาล หะรอม กลับไม่คิดที่จะสนใจ พอลูกไม่อยากเรียนก็ตามใจ เพราะถือว่าลูกได้ตัมมัตกุรอานแล้ว แถวบ้านผมมีเยอะครับ ไปๆ มาๆ ลูกสาวท้องกลับมา ส่วนพ่อเด็กเป็นใครก็ไม่รู้ ก็เอาหลานมาหาอิหม่ามบอกให้โกนผมไฟให้หน่อย (ความจริงโกนผมไฟไม่ใช่ซุนนะฮของท่านเราะซูล) พออิหม่ามไม่ทำให้ขอต่อว่าต่อขานอิหม่ามเละเลย ทั้งที่ก่อนหน้าก็เคยเตือนว่าให้ส่งลูกให้เรียนศาสนานะ แต่ก็ไม่เคยสนใจ ไม่เคยคิดจนปัญหาเกิดขึ้นมาก็ไม่คิดว่าตัวเองผิดที่ปล่อยปละละเลยลูกตัวเอง แต่กลับโทษอิหม่ามที่ไม่โกนผมไฟให้ซะงั้น จากคุณ : YAMAMANG เขียนเมื่อ : 31 ม.ค. 55 11:46:06

ความคิดเห็นที่ 15 นั้นแหละครับ  การปลูกฝังที่ดี  คือการปลูกฝังตั้งแต่เริ่มรู้ภาษา อ้อแอ้แล้ว  ระบบการเรียนรู้ของอิสลาม เริ่มตั้งแต่การอาซาน เมื่อคลอดออกมา  อาซานที่ใบหูของเด็ก การอบรมสั่งสอนของผู้ปกครอง การส่งเสริมให้ลูกหลานเรียนรู้ศาสนา ตั้งแต่ ปฐมวัย ฟัรดูอีน จนถึงหลุมฝังศพ พยายามดึงใบหน้าของบุตรหลานให้ตามแนวทางของอัลอิสลาม ตลอดเวลา นี่ก็เท่ากับเป็นการป้องกัน ได้ในระดับหนึ่งแล้วละ จากการละเมิดบทบัญญัติของศาสนา ครูอาจารย์ทั้งหลาย ให้หลักคิดปรัชญาง่ายๆเกี่ยวกับอิสลามว่า ถ้ามีหลักศาสนาครอบเอาไว้ อย่างเคร่งครัดอะไร อะไรๆ ก็ไม่มีออกนอกลู่นอกทาง แก้ไขเมื่อ 31 ม.ค. 55 12:02:50 จากคุณ : พี่จิม (Jimbovy) เขียนเมื่อ : 31 ม.ค. 55 12:02:08

ความคิดเห็นที่ 16 ปีไหม่ = กินเหล้า -เสียตัว ลอยกะทง = กินเหล้า - เสียตัว สงกรานต์ = กินเหล้า - เสียตัว เค้าดาว วาเลนไทน์ วันเกิด วันตาย ตกงาน ได้งานไหม่ รับปริญญา สอบเสร็จ สอบตก... เหล้าทั้งนั้น พอกินเหล้าแล้ว จะทำอะไรต่อก็ง่ายละ จากคุณ : Sleeping เขียนเมื่อ : 31 ม.ค. 55 15:26:57

ความคิดเห็นที่ 17 5555 ท่าน Sleeping ก้ที่เค้าบอกไงครับ วันหยุดวันตรุษไหนพี่ไทยก้มาววว ศาสนาเราเลยมีเรื่อง 3 เรื่อง -  กินหมู อาการแทรกซ้อนน้อย ผิดต่อบทบัญญัติของศาสนา ขออัลเลาะห์ไป -  ซีนาร์  อาการแทรกซ้อน เพิ่มมาอีกนิด   นอกจากผิดบทบัญัติเรื่องอาหารเพิ่มมาอีก 1 กระทง ถ้าคู่สวาท พึ่งกินหมูมาแหมบๆ   โดนข้อหา กินหมู พ่วงไปด้วย -ดื่มเหล้า มาวแล้ว ฟาดเรียบทั้งหมู ทั้งสาว กี่กระทง เอาไปหมด ไปยืนฉี่เอาฟองเบียร์ออกในที่สาธารณะ  2 กระทง ฯลฯ มาอีกเพียบ จากคุณ : พี่จิม (Jimbovy) เขียนเมื่อ : 31 ม.ค. 55 15:49:59

ความคิดเห็นที่ 18 ผมว่านะ คนที่ไปสำรวจ นะ  ไปสำรวจตามผับ รัชดาซอย 4 ทองหล่อย ซอย 10หรือป่าว ถึงว่า เสียตัวเพราะกินเหล้านะน้อย สงสัยเจอ บริษัท เหล้าเอาตังค์อุดปาก โพล เอาไว้แน่ๆ บอกว่าวันไหนก็เสียตัวมาก ไม่ใช่เฉพาะวันนี้ โดนอุดปากอีกน้านแหละ กลัวไม่ได้จัดอีเว้นท์กัน  โรงแรมม่านรูด เต็ม เหยียด เข้าคิวเชียวละ บางคนมันหื่นเสียไม่มี โรงแรมม่านรูดเต็ม จองล่วงหน้า วางแผนล่วงหน้าเชียวละ หรือไม่ไปจอง4 ดาว อัพ ยอมจ่ายมากหน่อย หรือเปิดปาร์ตี้กันสะด้วย ทั้งเหล้า ทั้งยา เคล้านารีพร้อม เห้นแล้วหน่ายกับสังคมนรก ดูที่เต้น อวดกันในผับ เหมือน พวกที่อยู่ในนรกเลย ตื่นๆๆๆๆ  จินตนาการไปนั่นแหละ แก้ไขเมื่อ 31 ม.ค. 55 15:56:54 จากคุณ : พี่จิม (Jimbovy) เขียนเมื่อ : 31 ม.ค. 55 15:52:39

ความคิดเห็นที่ 19 เรื่องความรักชายหญิงนี่เป็นปัญหาจริง ๆ สำหรับวัยรุ่นมุสลิม พอมันเกิดขึ้นแล้วก็ยาก ทุกวันนี้จึงต้องพยายามตัดใจ  ขอดุอาอต่อไป จากคุณ : เดอะลิง เขียนเมื่อ : 31 ม.ค. 55 16:58:09

ความคิดเห็นที่ 20 กระทู้นี้ดีค่ะ ช่วยกัน เตือนสติกันไว้ และเห็นด้วยกับคุณศรัทธาพลัง ว่าทางคริสต์นั้นสอนเรื่องความรักเอาไว้ดีมากๆ และวันวาเลนไทน์ เป็นวันที่ดี มีความหมายลึกซึ้ง และเป็นโอกาสให้จัดกิจกรรมดีๆได้ อย่าไปคิดเรื่องเซ็กซ์เพียงอย่างเดียว ทางมุสลิมน่าจะสอนให้เด็กมุสลิมเข้าใจถึงความหมายที่ดีๆของวันวาเลนไทน์อย่างถูกต้องด้วยนะคะ #14 คุณ YAMAMANG ขอบคุณสำหรับ link ค่ะ เพิ่งเคยอ่าน ฮามาก ^^ สิ่งหนึ่งที่เราชอบเกี่ยวกับห้องหว้ากอก็คือ เค้าคุยกันด้วยเหตุผลและหลักฐานค่ะ ไม่มั่ว นี่หมอแมวลงทุนทำวิจัยเองเลย สุดยอด #18 คุณจิมไม่ควรไปใส่ความหมอแมวอย่างนั้นนะคะ เค้าเป็นขาประจำห้องสวนลุม หว้ากอ มีอะไรสงสัยเกี่ยวกับโพล ไปถามเค้าได้เลยค่ะ หลังไมค์ไปเลย ความรู้สึกส่วนตัวนะ ไม่ค่อยสนเรื่องวัยรุ่นจะมีอะไรก่อนแต่งงานหรือเปล่า แต่ช่วยฉลาดหน่อย ใช้ถุงยางให้เป็นก็พอ ถ้าไม่ติดเอดส์ ไม่ติดโรค ไม่ท้อง ชีวิตก็ไม่สะดุด แต่เด็กไทยมักปล่อยให้ท้องแล้วไปทำแท้งเอา เฮ้อ.... จากคุณ : แมวเก้าแต้ม เขียนเมื่อ : 31 ม.ค. 55 17:56:47

ความคิดเห็นที่ 21 คุณแมว  ครับ ว่าผมอีกแล้ว ผมไม่ได้อ่านด้วยซ้ำ ไม่รู้ด้วยหมอแมวเป็นใครเขียนอะไร มารู้ก็ จากปาก คุณแมวนี่แหละ ไม่ได้เข้าไปดู แต่ที่ผมว่า เพราะผมจับมากับมือเห็นมากับตา และผมรู้ว่าวงการโพลเป้นเช่นไร ใช้สำนักโพลทำงานมาหลายงานแล้ว และนี่คืออาชีพผมเลยครับ Business Consultant ผมเป็นนักธุรกิจ ไม่ใช่โตะครู ผมจะเป็นครูต่อเมื่อผมอยู่บ้าน สอนลูกสอนหลาน แต่ลูกหลาน หลายคนหน่อย ทุกวันเสาร์เราค่ำ เราจะมานังล้อมวงกัน ใครมีอะไรก้งัดกันออกมา ตัฟซีรในบ้าน ก้ดึงเอามาเปิดกันหรือเค้ามีบรรยายมูอัลลัฟ ที่ไหน ผมไปเป็นวิทยากร เสริมให้ในบางครา เท่านั้น และตอนนี้ก็ยังเป็นนักเรียนศาสนาอยู่ประจำ ว่างเมื่อไหร่ไปมัสยิดไปฟังบรรยาย มีโอกาส จับไม่จับมือ อาจารย์ศาสนาทั้งหลาย ถามเรื่องศาสนาแค่นั้นเอง ส่วนเรื่องทางโลก ผมไม่จำเป็นต้องไปถามสำนักโพลไหน เพราะผมทำเอง ทำ SWOT  เป็นอาชีพ ผมบอกบ่อยๆว่า ผมไม่ใช่พระ และผมก็ไม่ใช่ โจร แต่ผมรู้เรื่องโจรดี พอๆกับเป็นโจร และรู้เรื่องพระดีพอๆกับพระนั้นแหละครับ สังคมที่ผมอยู่ทุกวันนี้ มัน ผสมทั้งพระทั้งโจร ตัวเบ้ง ระดับชาติ ไม่ต้องให้ผมพูดอะไรมาก เอาเป็นว่าผมรู้ ก็พอ  ไม่อยากไปทุบหม้อข้าวใคร ปล  คำว่าพระ ของผม ไม่ได้หมายถึงพระสงฆ์นะครับ ห้องนี้ชอบมี พวกหูหนูหูหมา ชอบจับผิดผม แก้ไขเมื่อ 31 ม.ค. 55 18:48:02 แก้ไขเมื่อ 31 ม.ค. 55 18:30:17 จากคุณ : พี่จิม (Jimbovy) เขียนเมื่อ : 31 ม.ค. 55 18:27:18

ความคิดเห็นที่ 22 สำหรับดิฉันแล้วเรื่องมีอะไรก่อนแต่งเป็นอะไรที่ซีเรียสมากๆ มันไม่ได้เป็นเรื่องธรรมดาเลย ยิ่งดิฉันนับถือ อิสลามด้วยแล้ว ยิ่งไม่ต้องพูดถึงว่า คนที่มีอะไรก่อนแต่ง บาปที่จะได้รับมันรุนแรงขนาดใหน ถ้าอยู่ในปรเทศที่ใช้กฏหมายอิสลาม ในกรณีที่มีเพศสัมพันธ์ โดยยังไม่ได้แต่งงาน คือ ลงโทษด้วยการโบย 100 ครั้ง นี่คือ บทลงโทษในอิสลาม สังคมไทยดูๆแล้วไม่ค่อยตระนักในต้นเหตุสักเท่าไหร่  แต่มักจะชอบแก้กันที่ปลายเหตุ มัวแต่ไปให้ความใส่ใจ ในเรื่องปลายเหตุ มากกว่า เช่น จะมีก็มีไป แค่ให้รู้จักป้องกัน ไม่ติดเอดส์ ไม่ท้องก็เป็นพอ ค่านิยมช่นนี้ ก็แปลกดีนะ แก้ไขเมื่อ 31 ม.ค. 55 19:34:44 จากคุณ : Ms.Kohlanta เขียนเมื่อ : 31 ม.ค. 55 19:32:50

ความคิดเห็นที่ 23 ชายบังกลาเทศ ถูกเฆี่ยน 100 ครั้ง หลังมีเซ็กส์กับแรงงานสาวชาวฟิลิปปินส์ ในยูเออี Mthai news: ซึ่งหลังจากที่ถูกจับได้ ทั้งคู่ ยอมรับว่ามีเพศสัมพันธ์กันในยูเออี หรือ อาหรับเอมิเรต อยู่บ่อยครั้ง โดยศาลตัดสินลงโทษ เฆี่ยนชายคนดังกล่าว เป็นจำนวน 100 ครั้ง ฐานละเมิดข้อต้องห้ามตามที่กำหนดในกฎหมายอิสลาม ที่ถูกรู้จักในฐานะกฎหมายชารีอะฮ์ (Sharia law) เนื่องจากทั้งคู่เป็นชาวมุสลิม และยังไม่ได้แต่งงานกันตามกฎหมาย นอกจากนี้ ทั้งคู่ ถูกสั่งเนรเทศออกจากประเทศ ด้วย จากคุณ : Ms.Kohlanta เขียนเมื่อ : 31 ม.ค. 55 19:41:15

ความคิดเห็นที่ 24 ครับพี่จิม ลอยกระทงมุสลิมร่วมไม่ได้เพราะเป็นพิธีบูชาเจ้าแม่คงคา ตกลงเป็นเรื่องวัยรุ่นมุสลิมหรือวัยรุ่นไทยแบบรวมๆ ผมหลงประเด็นละ จากคุณ : Lamelez เขียนเมื่อ : 31 ม.ค. 55 19:43:42

ความคิดเห็นที่ 25 ความรุนแรงในบทลงโทษนี้ นับว่า ยังน้อยกว่า ความรุนแรงของการทำแท้งยิ่งหนัก ก่อนมองไปที่บทลงโทษ ดิฉันว่าควรมองตั้งแต่ ซินา (การร่วมประเวณีนอกสมรส ) ก่อปัญหาให้กับสังคมยังไง ถ้ามองในจุดนี้แตก ก็จะเข้าใจได้เลยว่า "โดนแค่นี้มันยังน้อยไป" แต่สำหรับคนที่ไม่มีปัญญาคิด บทลงโทษแบบนี้ก็สมควรแล้ว สำหรับผู้ละเมิดศีลธรรม จากคุณ : Ms.Kohlanta เขียนเมื่อ : 31 ม.ค. 55 19:48:26

ความคิดเห็นที่ 26 ถ้าคุณจิมไม่ได้หมายถึงหมอแมว เราก็ต้องขอโทษด้วยค่ะ ที่เข้าใจผิดไปเอง เห็นผลจากโพลที่คุณจิมพูด เหมือนกันกับโพลที่หมอแมวทำ เลยเข้าใจผิด ต้องขอโทษด้วยจริงๆ อืม..... แต่ก็แสดงให้เห็นว่า โพลทั่วไป ผลก็ไม่ต่างจากโพลหมอแมวเลยสินะ น่าคิดๆ อืม.... คุณเกาะ คือเรารู้สึกว่า ธรรมชาติให้ผู้หญิงมีประจำเดือนเมื่อใหร่ ก็คือวัยที่เหมาะจะมีลูกนั่นแหละ แต่สังคมสมัยนี้ เด็กมันโตแต่ตัว รับผิดชอบอะไรไม่ค่อยได้ เลยต้องจำกัดให้อยู่ในกรอบก่อน อ้อ ขอถามนิดนึง อิสลามให้แต่งานตอนอายุเท่าไหร่คะ มีบอกไว้ไหม จากคุณ : แมวเก้าแต้ม เขียนเมื่อ : 31 ม.ค. 55 19:51:01

ความคิดเห็นที่ 27 ท่าน Lamelez  ก้วน เด็กแว้น กับ สก้อย นะครับ เด็กวัยรุ่นอิสลามก็มีเยอะ ผมถึงได้ห่วงหนักหนา ไม่ใช่คำหยาบ นะครับ กับ คำว่า  พ่อแม่ไม่สั่งสอน ของเด็กพวกนี้ แต่บางพวกนี้มันเกินแกง ไล่ปาบ้านชาวบ้านเพราะความมันส์ ผมยังว่าเป็นเด็กนรก มาเกิด สมัยผมวัยรุ่น ผมก้แว้นๆๆ  ที่ถนนรัชดาสร้างใหม่ๆ ใช้ ดีเอกซ์ กระเทย ลงเครื่อง 4 A  ทวินแคม เวลาเหยียเบรค ต้องเอาฝ่าเท้าไขว้ไว้กับคันเร่งเดี๋ยวเครืองดับ ผมแข่งแต่ไม่นรก แบบสมัยนี้งะ ผมถึงเข้าใจปัญหา ไม่อยากให้เด็กเหล่านี้ ใช้ เซกส์ แบบฟุ่มเฟือย ไม่มีประโยชน์อันใด จากคุณ : พี่จิม (Jimbovy) เขียนเมื่อ : 31 ม.ค. 55 19:57:12

ความคิดเห็นที่ 28 สมัยก่อนคนแต่งงานอายุน้อย สิบห้าสิบหกก็แต่งละ ทุกอย่างมันเลยเป็นไปตามธรรมชาติ สมัยนี้กว่าจะเรียนจบ กว่าจะบรรลุนิติภาวะ กว่าจะพร้อมแต่งงาน มันตั้งเท่าไหร่ เราก็พอเข้าใจความต้องการตรงนี้อยู่บ้าง แต่ก็ไม่ได้สนับสนุน เพียงแต่เห็นว่าสิ่งที่จะก่อปัญหาให้จริงๆ ก็คือการมีเพศสัมพันธุ์โดยไม่ป้องกันค่ะ จากคุณ : แมวเก้าแต้ม เขียนเมื่อ : 31 ม.ค. 55 19:57:26

ความคิดเห็นที่ 29 อิสลามไม่ได้กำหนดครับว่าให้แต่งตอนอายุเท่าไหร่ ดังนั้นถ้าถึงวัยที่มีประจำเดือนแล้วก็สามารถแต่งงานได้แล้วครับ แต่สิ่งที่อิสลามสอนก็คือ แต่งก่อนแล้วค่อยจีบทีหลัง จากคุณ : YAMAMANG เขียนเมื่อ : 31 ม.ค. 55 19:59:15

ความคิดเห็นที่ 30 คุณแมวครับ  โพล ที่ออกมา ตามสื่อ ตามสถานศึกษานะ ส่วนใหญ่ไม่ตรงกับความเป็นจริง เพราะโพล จะถูกชี้นำโดยกลุ่ม ผู้จ้างทำ ครับ ต้องการชี้นำให้เป้นทางใด และอีกอย่างผู้ตอบ ก้ตอบไม่ตรง อ้อมแอ้ม  รักษาภาพลักษณ์ ยิ่งคำถามประเภทนี้ด้วย อารายอาราย ก้ต้องตอบดีๆไปหมดครับ โพลเมืองไทยเลยไม่แม่น เพราะมีคำว่าภาพลักษณ์มาเกี่ยวข้อง โพล ที่แม่น ต้องเป้นโพล องค์กรภายในของธุรกิจ หรืออาชีพ อย่างเช่นพวกผม เพราะเราต้องเอาข้อมูลดิบ ไปวิเคราะห์ SWOT นะครับ ส่วนหมอเค้าคงไม่ได้ทำโพลเอาเอง กราฟที่ผมเอามาให้ดูนี่ก็ของน้องเจ้าของ บทความ ของผมเองมีแต่ขี้เกียจไปค้นเสียเวลา ครับ แก้ไขเมื่อ 31 ม.ค. 55 20:08:30 จากคุณ : พี่จิม (Jimbovy) เขียนเมื่อ : 31 ม.ค. 55 20:00:42

ความคิดเห็นที่ 31 คุณแมว ครับ อิสลาม แต่งงานอายุน้อยได้ นิกะห์ตามหลักศาสนา แล้วเรียนไป มีผู้ใหญ่รับรู้ทั้งสองฝ่าย  ดีกว่าไป บึ้ม อะไร กะใคร ไม่รู้เรื่องนะครับ เป็นสามีภรรยาถุกต้องตามกฎหมายอิสลาม  เค้าจะได้ดูแลกันเวลาเรียน ขอโทษนะครับที่ใช้คำว่า บึ้ม เพราะผมถือว่า บึ้ม ไม่ใช่คำหยาบ คนไทยเราดัดจริตไปเองนะครับ ไม่ค่อยยอมรับความเป็นจริง อธิบายชัดๆเคลียร์ดีกว่า จากคุณ : พี่จิม (Jimbovy) เขียนเมื่อ : 31 ม.ค. 55 20:04:47

ความคิดเห็นที่ 32 ไหนจะเตือนทั้งทีเตือนให้ครบวงจรไปเลย สาวๆที่ไปเที่ยวผับ เที่ยวเทค บอกว่าฉันไม่ได้ดื่ม ทำไมอยากโยกย้าย บางผับมันนรกชัดๆ เอาหนม ละลายน้ำใส่ฟร้อกี้ฉีดในช่องแอร์ พอมึน ต้องเอาหัวไปขวิดลำโพง แล้วหันมาดื่มอั้กๆๆๆ  ยิ่งหนักเลยครานี้ ส่วนเบียร์เหยือกเดียว หลอด หลายหลอด  นั้นเค้าเรียกว่า ซุปเปอร์ ผสมอะไรต่อมิอะไรเข้าไปดูด จ้วบ สองจ้วบ ลืมโลก ส่วนยาปลุกก็ขายกันให้เกลื่อนเมือง เกร็ดเดียว รู้เรื่อง ถ้าแบบอ่อน ก้ยอมกับคนที่รัก ถ้ามีโดมีคุม เข้าไปด้วย ใครก็ได้ตรงหน้า ผู้หญิงลองให้ชายจับมือได้ ถ้าเจอเสือ จับมือได้ ก็ถูกรุกคืบไปจนมี เซกส์ ระวังไว้ให้ดีนะสาวๆ   ไม่มีอะไรมันก็วิ่งหา มีแล้วมันก็แจว  ตัวใครตัวมัน พี่จิม เตือนได้แค่นี้ อยากเตือนมากกว่านี้ เดวพวกจ้องพี่จิม มันจะถล่มเอา เบื่อพวกดีแต่ปาก แต่ไม่เคยทำอะไรให้สังคม  รักษาภาพเลิกสะทีเหอะ ถ้าอยากแก้ปัญหาสังคมจริงๆ เอาเรื่องจริงมาพูดกัน แก้ไขเมื่อ 31 ม.ค. 55 20:25:26 แก้ไขเมื่อ 31 ม.ค. 55 20:20:41 จากคุณ : พี่จิม (Jimbovy) เขียนเมื่อ : 31 ม.ค. 55 20:19:28

ความคิดเห็นที่ 33 เพื่อนเราแต่งไปเรียนไปค่ะ คุณแมวเก้าแต้ม อายุประมาณ 18-19 นะคะ  การเรียนก็ไม่ตกค่ะ ได้ที่หนึ่ง(ของม.เอกชน) คนรู้จักก็มีหลายคนค่ะ มีคนนึงมีลูกแล้วเรียนอยู่ ม.รัฐในกรุงเทพนี่เองด้วย แต่แต่งงานแล้วเหมือนกัน แก้ไขเมื่อ 31 ม.ค. 55 21:09:25 จากคุณ : เดอะลิง เขียนเมื่อ : 31 ม.ค. 55 21:07:56

ความคิดเห็นที่ 34 บางคนยังแต่งไม่ได้ก็ต้องขอดุอาอกันไป อดทนให้ได้ ไม่มีอะไรก่อนแต่ง  น่ารักดีออกนะคะ มันจะมีค่ามาก :) ดีกว่ามีอะไรกัน แล้วสุดท้ายก็ไม่ได้คู่กันจริง ๆ แก้ไขเมื่อ 31 ม.ค. 55 21:19:30 จากคุณ : เดอะลิง เขียนเมื่อ : 31 ม.ค. 55 21:10:29

ความคิดเห็นที่ 35 ^ คุณ เดอะลิง เข้ามากลุ่มนี้ก็ได้ค่ะ  คิดว่าน่าจะเหมาะสำหรับพวกเรา ^^ http://th-th.facebook.com/pages/%E0%B8%A1%E0%B8%B1%E0%B9%88%E0%B8%99%E0%B9%83%E0%B8%88%E0%B8%A1%E0%B8%B8%E0%B8%AA%E0%B8%A5%E0%B8%B4%E0%B8%A1%E0%B9%80%E0%B8%81%E0%B8%B4%E0%B8%99%E0%B8%AB%E0%B8%99%E0%B8%B6%E0%B9%88%E0%B8%87%E0%B8%A5%E0%B9%89%E0%B8%B2%E0%B8%99%E0%B8%84%E0%B8%99%E0%B8%A1%E0%B8%B5%E0%B8%84%E0%B8%99%E0%B9%83%E0%B8%99%E0%B8%94%E0%B8%B8%E0%B8%AD%E0%B8%B2%E0%B8%AD%E0%B8%BA%E0%B9%81%E0%B8%A5%E0%B9%89%E0%B8%A7/192658224144397 จากคุณ : Ms.Kohlanta เขียนเมื่อ : 31 ม.ค. 55 21:57:12

ความคิดเห็นที่ 36 ลันตา  ขอพี่จิมเอี่ยวด้วย ได้มะแต่ถ้าเฉพาะ สาวๆไม่ไปก็ได้ จากคุณ : พี่จิม (Jimbovy) เขียนเมื่อ : 31 ม.ค. 55 22:17:39

ความคิดเห็นที่ 37 #29, 30, 31 ขอบคุณสำหรับข้อมูลค่ะ #33, 34  เห็นด้วยค่ะคุณเดอะลิง :) แก้ไขเมื่อ 31 ม.ค. 55 22:28:52 จากคุณ : แมวเก้าแต้ม เขียนเมื่อ : 31 ม.ค. 55 22:28:30

ความคิดเห็นที่ 38 ต่อจากคห.34...ผมก็อดใจ ไม่มีอะไรก่อนแต่ง(เต็มที่แค่กอดจูบ) สุดท้ายพ่อแม่ฝ่ายหญิงจับผู้หญิงแต่งงานกับชายอื่นซะดื้อๆ เราทั้งรักทั้งทะนุถนอม ไม่ทำลายเธอก่อนแต่ง(เพราะเรายังไม่พร้อม) อยู่ๆใครที่ไหนไม่รู้มาชุบมือเปิบซะงั้น จากคุณ : acekiller เขียนเมื่อ : 4 ก.พ. 55 00:47:45

ความคิดเห็นที่ 39 ก็ถือซะว่า คุณกับเค้าไม่ใช่เนื้อคู่กันอ่ะค่ะ ปล. เอ่อ ไม่รู้จะปลอบอย่างไรดี :) จากคุณ : Ms.Kohlanta เขียนเมื่อ : 4 ก.พ. 55 20:36:57