|
ปฏิเสธไม่ได้ว่า ศาสนาพุทธไทยระยะหลังอิงการเมืองเต็มหน้าตัก
มองในมุมศาสนา(เฉพาะแก่น)อย่างเดียวคงไม่ได้แล้ว
จากเดิมศาสนาอิงสังคม ประเพณี ค่านิยม เชื้อชาติ
ข้อดี อย่างที่คนศึกษาอ้างเสมอ ว่า พุทธไม่มีคำว่าเสื่อม ข้อเสีย ก็ยังเป็นตัวนักศึกษาเอง ที่ขาดการศึกษาจริงจัง บางที่ก่อกำแพงขวางพระนิพพาน บางที่ก็ทุบสะพานไปพระนิพพาน
ถ้า พุทธมี เปลือก ,กระพี้ ,แก่น เปรียบกับ ,ทะเล ,พื้นดิน ,เมืองหลวงของไทย
เปลือกที่คนมักอยู่และสนุกกับมัน คือ "ทะเล" ผู้ซึ่งศึกษาพุทธ มักมุ่งหน้าเข้า "กรุงเทพ"
คนกลุ่มนึง เอาสะเก็ด(บุญ)มาตีฆ้องร้องป่าว พร้อมคำพูดเรื่องภาำพลักษณ์ความดี ไส้ในคนกลุ่มนี้ ใช้อำนาจการเืมือง ,เงิน เีขียนตำราใหม่ ว่า เมืองหลวงของไทยอยู่ "บุรีรัมย์"
เขียนใหม่ให้สอดคล้องกับหลักทุนนิยม และความสบายในชาติเดียว
เวลาล่วงไป ชาวพุทธซึ่งมักอ้างว่า พุทธแท้กันหมด ไม่มีพุทธเทียม ใครจริตหนักอะไร ก็เอาคำสอนเสริมตรงที่อ่อนนั้น ถึงเวลาบารมีเต็ม มุ่งเดินหน้าเ้ข้าหาแก่น กลับต้องไปเจอแก่นที่ถูกโจรเอามาัตั้งไว้
ถ้าอยู่ผิดที่แล้วรู้ตัวคงดี แต่หลงทางอยู่ในแก่นปลอม หาทางออกไม่เจอ วนเวียนอยู่ภายใน จนโลกภายนอกข้ามพุทธันดรหลายสมัย ก็ยังไม่รู้ตัวนี่สิ
สาเหตุที่หลายท่านพยายามปกป้อง ทักกัน เตือนกัน ---------------
ถ้านิทานเรื่องนี้ยังไ่ม่มีอะไรเทียบเคียง ให้ลองอ่านกรณีศึกษาวิชชาธรรมกายสายตรง ซึ่งผู้ฝึกหลงไปอยู่กับวิชาธรรมกายสายปัดระเบิดอยู่นาน กว่าจะสามารถหาทางออกได้
ปล. การฝึกสมาธิ เป็นแค่เพียงการปอกเปลือกในหลักพุทธเท่่านั้น
แก้ไขเมื่อ 31 ม.ค. 55 22:54:51
จากคุณ |
:
Zim-MorLuth-
|
เขียนเมื่อ |
:
31 ม.ค. 55 22:52:19
|
|
|
|
|