ความคิดเห็นที่ 1 สวัสดีครับผม มาโหวตลบครับผม จากคุณ : สายลมเหงาแห่งขุนเขา เขียนเมื่อ : 1 ก.พ. 55 17:51:02

ความคิดเห็นที่ 2 อยากถามเจ้าของกระทู้ครับ ช่วยตอบด้วย   ถ้าบุคคลที่ที่เคารพและศรัทธาในคาถา ชินบัญชร ประพฤติปฏิบัติตัวดี ตั้งตนอยู่ในศิลในธรรม                                                       กับ คนที่มีปัญญาเยอะ ๆ แต่ทำตัวไม่เหมาะสมกับสาวกขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า (คนไม่ต้องบอกว่าทำอย่างไร)   เช่น มัวแต่มองโทษโจทย์คนอื่น ลืมมองกระทั่งความเลวในตัวเอง อันไหนมันดีกว่ากันครับ จากคุณ : เด็กวัด (boss11589) เขียนเมื่อ : 1 ก.พ. 55 18:07:52

ความคิดเห็นที่ 3 คุณ...azazelzx  ทำอะไรอีกล่ะเนี่ย  สุภาษิตจีนเขาเรียกว่า( เจี่ยะป้าบ่อสี่อ คือพะปอลิบน่ะจ้ะ) หาเรี่องใส่ตัวจริงๆ  แล้วอีก 2 เดีอนเป็นเทศกาล เชงเม้ง คงไม่มาป่วนประเพณีของดิฉันน่ะจ้ะ จากคุณ : มะลิร้อยมาลัย เขียนเมื่อ : 1 ก.พ. 55 18:12:56

ความคิดเห็นที่ 4 5555+ เข้ามาขำ คห 1 ค่ะ จากคุณ : แมวเก้าแต้ม เขียนเมื่อ : 1 ก.พ. 55 18:38:16

ความคิดเห็นที่ 5 เข้ามาแจ้งลบครับ ^_______^ จากคุณ : จิ้งจอกสามหาว เขียนเมื่อ : 1 ก.พ. 55 18:38:41

ความคิดเห็นที่ 6 ช่วยลบด้วยคน จากคุณ : ซามูไรหมูตอน เขียนเมื่อ : 1 ก.พ. 55 18:52:15

ความคิดเห็นที่ 7 แจ้งลบอย่างไรสอนหน่อยครับ  : ) จากคุณ : OnceWakeUp เขียนเมื่อ : 1 ก.พ. 55 18:58:36

ความคิดเห็นที่ 8 กดลบตรงถังขยะ บนขวาของหัวกระทู้ครับ จากคุณ : ซามูไรหมูตอน เขียนเมื่อ : 1 ก.พ. 55 19:17:42

ความคิดเห็นที่ 9 การสวดมนต์ถือเป็นพุทธานุสติ ธรรมานุสติ สังฆนุสติ  ที่เหลือเป็นอานิสงส์ผลพลอยได้ หากไม่เกินวิบากกรรม ส่วนคำแปลคาถาเป็นการอัญเชิญ อาราธนามาประดิษฐาน เพื่อขอบารมีองค์ท่านได้โปรดคุ้มครองจากสิ่งไม่ดีทั้งหลาย นึกง่ายๆคราวใดทีอยู่คนเดียวกลางป่า จิตใจหวาดกลัว พระคาถาบทนี้จะช่วยให้มีกำลังใจดีขึ้น ไม่มีใครสวดด้วยเจตนาอกุศลหรอกครับ คุณฝากไว้คิดมา ผมก็ฝากไว้คิดไป คำที่คุณโพสว่าคาถามีไว้สำหรับคนงมงาย ผมว่าคุณจะสร้างกรรมใหญ่แล้ว  เพราะการใช้คำโพสไม่เหมาะสมมากๆ พระสงฆ์ /ผู้ปฎิบัติดีปฏิบัติชอบหลายๆท่านก็สวดคาถาบทนี้กันเยอะ ท่านโพสแบบนี้ขอให้ดูแบบอย่างของปลาที่ชื่อกปิละ ว่าเป็นอย่างไร ลองให้กูเกิ้ลค้นหาดู ปลาทองที่ชื่อกปิละ แก้ไขเมื่อ 01 ก.พ. 55 19:46:36 จากคุณ : ดำดง เขียนเมื่อ : 1 ก.พ. 55 19:45:47

ความคิดเห็นที่ 10 จขกท. เข้าใจอะไรผิดไปรึเปล่า บทสวดมนต์ทุกบทไม่ได้สวดให้เป็นไปเพื่อสนองกิเลสที่มีที่เกิด แต่การสวดมนต์ หรือสวดคาถาใดๆที่มี จะทำให้ช่วงขณะที่สวดจิตใจเราเป็นสมาธิไม่วอกแวก คาถาชินบัญชรโดยตัวคาถาเองไม่ศักดิ์สิทธฺิหรอก แต่คาถานี้เป็นคาถาที่ยาวและจำยาก จึงทำให้คนสวดต้องมีสมาธิมาก  ด้วยสมาธิและปัญญาของคนสวดนั้นเองที่จะทำให้การแก้ปัญหาต่างๆลุล่วงไปได้ เพราะหากจิตใจไม่สงบจะเอากำลังจิตที่ไหนไปแก้ปัญหา หากจะคิดในแง่อื่นการท่องจำคาถาต่างๆ เท่ากับเป็นการฝึกสมองให้มีการบริหารอยู่ตลอดเวลาเหมือนกับเราออกกำลังกาย เราไม่เชื่อก็อย่าทำลายจิตใจของคนที่เชื่อและศรัทธาเลยค่ะ จากคุณ : เจ้ากก เขียนเมื่อ : 1 ก.พ. 55 19:55:48

ความคิดเห็นที่ 11 จขกท ปฏิบัติบ้างนะครับ  จะได้เลิกยึด ละมานะอัตตาลงซะบ้าง ผมเชื่อว่าท่านไม่สวดมนต์  เพราะท่านทำเหมือนไม่ยึด แต่จริงๆแล้วท่านยึดติดกับทิฐิตนมากไปครับ คราวที่แล้วท่านโพสกระทู้ดี ติดกระทู้แนะนำ  อนุโมทนาครับ แล้วทำไมเดือนนี้มา ปัญญาอ่อนแต่ต้นเดือนเลยละครับ แนะนำว่าคำตอบที่ท่านถามตาม คห 10เลยครับ  สวัสดี จากคุณ : goodfriday เขียนเมื่อ : 1 ก.พ. 55 20:03:37

ความคิดเห็นที่ 12 มีพระบ้า พระวิปลาส แถว ๆ อ.น้ำหนาว จ.เพชรบูรณ์  เทศน์สอนไม่ให้สวดมนต์  เพราะว่าพวกผีสางนางไม้ เทวดาทั้งหลายได้ยินเสียงสวดมนต์แล้ว  เดือดร้อน  อยู่ไม่เป็นสุข เอออออออออออออ ก็ถ้าผี  ถ้าเทวดาพวกนั้นมันได้ยินเสียงสวดมนต์สรรเสริญคุณพระรัตนตรัย  คุณพระพุทธ พระธรรม  พระสงฆ์แล้ว มันอยู่ไม่เป็นสุข  ก็แสดงว่ามันเป็นมิจฉาทิฎฐิ  ไม่ได้นับถือพระพุทธศาสนา ถ้างั้นก็ช่างผี  ช่างเทวดามันเถอะ นี่ก็คงมาในแนวเดียวกันกระมัง จากคุณ : คอแก้ง เขียนเมื่อ : 1 ก.พ. 55 20:29:59

ความคิดเห็นที่ 13 เท่าที่อ่านมา  รู้สึกว่า จขกท ไม่เข้าใจศาสนาพุทธอย่างถ่องแท้ ชินบัญชรไม่ได้มีไว้ให้คนงมงาน แต่เหมือนบทสวดพระทั่วไป คือ เป็นเครื่องยึุดเหนี่ยวจิตใจ ใครศรัทธาอย่างไร ก็ได้อย่างนั้น ถ้าเราคิดดี พูดดี  ทำดี ก็ได้ดี เช่นเดียวกับจขกทค่ะ  การสวดมนต์เป็นการทดสอบสติปัญญาส่วนหนึ่งค่ะ สิ่งที่ได้มาคือสมาธิ  ผลที่ตามมากับสมาธิก็คือปัญญาค่ะ  ปัญญากลั่นออกมาเป็นความคิด ทำให้คนเราสามารถใช้ชีวิตอยู่บนโลกนี้อย่างมีความสุขค่ะ - ถ้าชินบัญชรศักดิ์สิทธิ์จริง ทำไมถึงยังมีคนจน คนเจ็บ คนป่วย - ถ้าถึงคราวตาย ชินบัญชรช่วยให้รอดตายไหม - ถ้าถึงคราวลำบาก ชินบัญชรช่วยให้สบายไหม - ศาสนาพุทธสอนไว้ชัดเจนว่า ชีวิตเป็นไปตามกรรม ชินบัญชรแก้กรรมได้หรือ - ถ้าไม่ละชั่ว ชินบัญชรจะช่วยให้พ้นนรกได้ไหม - ถ้าไม่ละกิเลส ชินบัญชรจะช่วยให้พ้นทุกข์ไหม --------------------------------------------------------------- เป็นคำถามที่ไร้สาระมากๆ  เพ้อเจ้อค่ะ จากคุณ : Js.Rungroj เขียนเมื่อ : 1 ก.พ. 55 20:45:51

ความคิดเห็นที่ 14 มาแปลกๆๆ ทำไมคิดแบบนี้ล่ะ ไม่เข้าใจ ไปพบหรือเจออะไรเข้าหรือเปล่า ถึงได้คิดแบบนี้ สงสัยสวดแล้วไม่ได้ดังที่ตั้งใจหรือหวังไว้ล่ะมั่ง จากคุณ : sivaree เขียนเมื่อ : 1 ก.พ. 55 20:48:41

ความคิดเห็นที่ 15 ผมสวดพระคาถาชินบัญชรแล้วได้พระสมเด็จวัดระฆังมาหนึ่งองค์ครับ ยังไงผมก็จะสวดต่อไป จากคุณ : พรเทพ (wslnw) เขียนเมื่อ : 1 ก.พ. 55 21:02:27

ความคิดเห็นที่ 16 ชินบัญชร+มโนมยิทธิ ก็ไปได้ดีนะครับ จากคุณ : ชลิโต เขียนเมื่อ : 1 ก.พ. 55 21:14:39

ความคิดเห็นที่ 17 การสวดมนต์ไม่ว่าบทไหนก็ช่วยเรื่องสมาธิ ให้จิตใจสงบ เป็นหนึ่งในบุญกิริยาวัตถุ 10 ส่วนเรื่องตายเจ็บ เป็นเรื่องวัฎจักร มีเิกิด ก็ต้องมีเปลี่ยนแปลง แตกดับ เป็นธรรมดาของไตรลักษณ์ ส่วนตัวก็สวดบทนี้อยู่ เห็นว่าเมื่อสวดเป็นประจำแล้วทำให้ใจสงบ คิดอะไรได้ตลอดแนวมากขึ้น จากที่แต่ก่อน คิดนั้นคิดนี้ฟุ้งไปเรื่อยจนจับประเด็นไม่ได้ว่าคิดเรื่องอะไรอยู่ แต่หลังจากสวดได้แล้ว เหมือนโฟกัสความคิดตัวเองได้ ความคิดคมชัดขึ้น ซึ่งนั้นก็น่าจะบรรลุวัตถุประสงค์ของการสวดมนต์แล้ว ส่วนเรื่องความศักดิ์สิทธิ์ปาฏิหาริย์นั้น คิดว่าเป็นเรื่องของการที่ผู้สวดมีสมาธิดี จึงมีจิตที่เข้มแข็ง มีความคิดเห็นเฉียบคม ทำให้เมื่อเกิดปัญหาก็แก้ไขได้มีกว่าคนที่ไม่มีสิ่งเหล่านี้ หรือแม้แก้ไขไม่ได้ก็มีกำลังใจยอมรับการเปลี่ยนแปลง เข้าใจว่ามันเป็นเช่นนั้นเองมากกว่า คงไม่ได้สวดเพื่อช่วยปัดเป่าปัญหาหรอกค่ะ จากคุณ : flower fairy เขียนเมื่อ : 1 ก.พ. 55 21:21:23

ความคิดเห็นที่ 18 เห็นชื่อแล้วไม่เข้ามาอ่านดีไหมครับ จากคุณ : neap เขียนเมื่อ : 1 ก.พ. 55 21:37:12

ความคิดเห็นที่ 19 อย่าเพิกลบ ครับ อยากรู้ว่า ลบหลู่ศาสดาทีเขียนกระทู้ ยังไง ครับ จากคุณ : พรานดง เขียนเมื่อ : 1 ก.พ. 55 21:53:13

ความคิดเห็นที่ 20 ก็เป้นการเจริญสติ สรรเสริญ ระลึกถึงคุณของพระอรหันตสาวก เป็นอุบายธรรม ที่ท่านสอนสำหรับคนที่ อินทรีย์ยังอ่อน การเจริญสติดีทั้งนั้น พวกอ่านตำราแล้วตีความ พวกนี้เหมือนพวกหุ่นยนต์จริงๆ วิเคราะห์เทียบเคียงไม่เป็น แล้วพยายามยัดเยียด คนนั้นผิดๆๆๆๆ จากคุณ : venture เขียนเมื่อ : 1 ก.พ. 55 22:03:01

ความคิดเห็นที่ 21 ยูหู้ ลบหลู ยังไง เจ้าของกระทู้ บอกเป็นวิทยาทาน คนไกลวัด หน่อยครับ จากคุณ : พรานดง เขียนเมื่อ : 1 ก.พ. 55 22:20:23

ความคิดเห็นที่ 22 มาโหวตลบอีกเสียงค่ะ เห็นด้วยกับ คห.10 ค่ะ บทสวดนี้ช่วยฝึกสมาธิได้ค่ะ แสดงว่า จขกท ไม่เคยท่องใช่มั้ยคะ จากคุณ : Zbee เขียนเมื่อ : 1 ก.พ. 55 22:38:56

ความคิดเห็นที่ 23 จขกท   จะเรียกร้องความสนใจไปไหน???????   น่าจะหันไปตั้งกระทู้ที่สร้างสรรค์กว่านี้จะดีกว่านะ   เพื่อนๆในห้องศาสนาจะได้เข้ามาช่วยกันอนุโมทนาด้วย   ไม่ใช่ตั้งกระทู้  ปัดตุปัดตุเป่อย่างนี้   โพสไปโพสมาชักจะไม่เป็นผู้เป็นคนเสียแล้ว     ลามปามได้อีกเยอะเลยนะ จากคุณ : annyfatgirl เขียนเมื่อ : 1 ก.พ. 55 22:41:32

ความคิดเห็นที่ 24 โง่โดยไม่รู้ตัว.......ใครบอก ชินปัญชรไม่มีในพระไตรปิฏก     ในชินปัญชรประกอบด้วยชื่อพระพุทธเจ้า 28 พระองค์ พระอรหันต์ที่เป็นเอกทัตคะเฉพาะทาง 80 รูป และชื่อพระสูตรต่างๆที่เด่นๆ.......ถามว่าทั้งหมดนี้ไม่ใช่มาจากในพระไตรปิฏกหรือ นั่นคือเขารวบรวมเอาแต่หัวกระทิในพระไตรปิฏกมารวมกัน ในที่เดียวกันแล้วตั้งชื่อบทนี้ใหม่ว่า ชินปัญชรก็แค่นั้นเอง.....ยิ่งเรียน ยิ่งโง่  ปล่อยไก่ตัวเบ้อเร่อ คิดได้ชั้นเดียวเองหรือ   ข้อสำคัญรู้กันใหมว่า ประเทศไทยรอดจากการเป็นเมืองขึ้นฝรั่ง เพราะชินปัญชรอยู่เบื่องหลัง ขณะนั้น ฝรั่งกำลังล่าเมืองขึ้น ร.4 ท่านให้พวกหม่อมในวังช่วยกันสวดชินปัญชรอยู่ประจำ ทำให้มีอันเป็นไปที่ประเทศแคล้วคลาดจากเป็นเมืองขึ้น ทั้งๆที่ประเทศเพื่อนบ้านรอบๆเราเป็นเมืองขึ้นกันหมด ที่แตกต่างกันชัดเจนคือ เราสวดชินปัญชร(ตอนนั้นยังไม่แพร่หลายออกมาสู่ชาวบ้าน) แต่ประเทศอื่นๆไม่ได้สวด    เป็นไปได้ยากที่ฝรั่งมายึดเมืองไหนแล้ว จะปล่อยให้รอดไปได้ มิฉนั้นกลับไปอาจถูกทำโทษจากกษัตริย์ของเขา ประเทศอื่นเขายึดได้หมดแต่ไทยกลับยึดไม่ได้......นี่คือความอัศจรรย์ของพระคาถาชินปัญชร ที่ยากจะมีคาถาใดเสมอเหมือน    ไทยจึงไม่เป็นทาส และได้มาทะเลาะกันจนบัดนี้   ต้องขอบคุณมหาศาลที่ สมเด็จโตเอาคาถานี้มาเผยแผ่                      นาคีมีพิษเพี๊ยง        สุริโย                เลื้อยบ่ทำเดโช              แช่มช้า                พิษน้อยหยิ่งยะโส          แมลงป่อง                ชูแต่หางเองอ้า              อวดอ้าง ฤทธี จากคุณ : ไม่คิดมาก เขียนเมื่อ : 1 ก.พ. 55 23:30:09

ความคิดเห็นที่ 25 การที่เราทำอะไรแล้วให้คนวิจารย์เราในทางที่ดีหรือไม่ดีก็เป็นความอยากทั้งสิ้น มองคิดพิจารณาตัวเองสักนิด ถ้าอยากให้ธรรมมะผู้อื่น หรือเปลี่ยนมุมมองผู้อื่นก็แนะดีดี. อย่าใช้วิธีกระแทก ถ้ากำลังไม่พอจะถูกตีกลับ. พิมพ์ดูว่าเรารู้สึกไงขณะพิมพ์ อารมณ์ยังไง ถ้าไม่มีอารมณ์ใด ก็รู้ด้วยตนเอง แต่ทำให้คนอื่นว่าเราดูถูกเราก็เป็นกรรม บางทีไม่พูดดีกว่าพูด บางครั้งดูแล้วไม่โพสดีกว่าโพส และดูว่าเรามีความอยากในเรื่องใดที่ได้โพสอย่างนี้ บางเรื่องรู้เฉพาะตนใครเล่าจะมารู้ได้เหมือนเราหมด ภูมิธรรมเราก็อยู่กับเราและรู้เฉพาะตน ดีกว่าบอกหรือเปิดเผยออกมา บอกไปคนเชื่อก็คือเชื่อ. ไม่เชื่อก็เหมือนเราทำกรรมเพิ่มไม่รู้ตัว จากคุณ : Nong_Ray เขียนเมื่อ : 1 ก.พ. 55 23:52:53

ความคิดเห็นที่ 26 ช้าก่อนๆใจเย็นๆกันสักนิดครับ.... ความเห็นผมเท่าที่ตามอ่านกระทู้ของจขกท.ท่านนี้มาหลายกระทู้ก็พบว่าธรรมที่ท่าน จขกท.นำมาแสดงนั้นล้วนเป็นสิ่งที่พยายามสื่อถึงสภาวะธรรมที่ตรงไปตรงมาไม่ผิดเพี้ยน...แต่บังเอิญท่านจขกท.มักจะนำสิ่งที่เป็นสิ่งเคารพหรือความเชื่อของคนส่วนใหญ่มาเปรียปเทียบหรือมาเทียบเคียงกับธรรมที่นำมาแสดง....จึงมักจะเป็นประเดนทำให้ท่านทั้งหลายรู้สึกขัดเคืองใจ....อย่างเช่นกระทู้นี้ถ้าท่าน จขกท.ไม่ยกบทสวดพระคาถาชินบันชรมาแสดง....แต่ยกบทสวดอื่นๆมาแสดง....กระทู้ก็ไม่มีนำหนักและขาดรสชาดิ....ทันที ดังนั้นเราควรเห็นสิ่งที่เขาต้องการนำเสนอซึ่งเป็นประเดนหลักเป็นเนื้อหาธรรมที่จขกท.ต้องการนำเสนอ....ส่วนประเดนรองๆลงมานั้นผมอยากให้คิดว่าเป็นแค่ประเดนเสริมเพื่อให้กระทู้มีนำหนักดูน่าสนใจครับ..... จริงอยู่ที่พระคาถาอะไรก็ไม่สามารถทำให้เรารอดจากกรรมได้...แต่ผมคิดว่าการสวดมนต์ทำให้เรารอดจากภยันตรายได้ครับ...หากว่ายังไม่ถึงคราวของเรา....อย่างเช่นในกรณีที่เรานั่งอยู่บนรถเมล์ที่วัยรุ่นตีกัน....ถ้าเรามีบทสวดคุ้มภัยเราก็จะไม่โดนลูกหลง....ทำนองนี้ครับ....แต่ถ้ามันเป็นเวรกรรมของเรา...พระคาถาใดๆก็ไม่อาจช่วยได้ครับ... จากคุณ : คนนวมินทร์ เขียนเมื่อ : 2 ก.พ. 55 00:14:57

ความคิดเห็นที่ 27 ความเห็นส่วนตัวนะครับ โดยเนื้อหาถือว่า คาถานี้ค่อนข้างแปลกจากคาถา อื่น โดยคำแปล มีการเชิญพระพุทธเจ้า พระสาวกองค์สำคัญมาปกปักรักษา อันนี้ผมคิดว่าน่าจะได้รับอีธีพลของมหายานมา ไม่มากก็น้อย และตามประวัติ สมเด็จโต ท่านก็ไม่ได้ แต่งเองทั้งหมด เหมือนว่าท่านจะไปค้นพบจากคัมภีร์โบราณ นั้นหมายถึงว่าคัมภีร์ที่ท่านค้นพบอาจจะเป็นคัมภีร์ของฝ่ายมหายานโบราณก็ได้ จากคุณ : ยองเจียงใหม่ เขียนเมื่อ : 2 ก.พ. 55 00:49:49

ความคิดเห็นที่ 28 อย่างน้อย บทสวดนี้ก็ทำให้รู้ว่ามนุษย์ก็เหมือนบัว 4 เหล่า บางคนอาจได้อะไรจากบทสวด บางคนอาจไม่ได้อะไรเลย เป็นธรรมชาติของมนุษย์โดยแท้ ส่วนผมเวลาสวดก็ไม่ได้หวังอภินิหารอะไร แต่รู้สึกว่าเวลาสวดจิตใจดี ทำให้ผมมีสมาธิมากกว่าปกติ ไม่ฟุ้งซ่านนึกเรื่องอื่นไปทั่ว เชื่อว่าบางคนอาจได้มากกว่าสมาธิก็อาจจะมี จากคุณ : หว่างฮั่น2011 เขียนเมื่อ : 2 ก.พ. 55 01:31:10

ความคิดเห็นที่ 29 #24 ชินบัญชรแต่งขึ้นภายหลัง ไม่ีมีในพระไตรปิฎกจริงๆครับ มีคำกล่าวอ้างถึงชื่อพระพุทธเจ้าจริง แต่ความหมายตามบทสวดมนต์ิชินบัญชรนั้นไม่ใช่คำสอนของพระพุทธเจ้าครับ ที่เป็นคำสอนของพระพุทธเจ้าจะเป็นมนต์ปริตครับ (เจ็ดตำนาน, สิบสองตำนาน) จากคุณ : โอ่อี๊โอ (oiooo) เขียนเมื่อ : 2 ก.พ. 55 01:32:59

ความคิดเห็นที่ 30 azazelzx เขามาโพสแล้วเขาก็ปล่อยไป เห็นกันไหมหละนั่น?? ... แต่พวกเรานี่ซิยังติดอยู่ในอารมณ์ขุนเคือง อยากด่า อยากตำหนิตา azazelzx เขาน่ะ ธรรมของ azazelzx จะถูกหรือผิดเราก็พิจารณากันได้อยู่แล้ว ถ้าผิดก็เสนอความที่ถูกมา ให้เป็นไปตามเหตุผล คนอื่นที่ไม่รู้จริงๆ จะได้มีข้อมูลที่ถูกไว้พิจารณา ... แบบนี้ซิถึงเรียกว่าผู้ที่เข้าถึงธรรมแล้วจริงๆ แต่ถ้าเห็นเขาผิดแล้วยิ่งไปแสดงอารมณ์ออกมา ก็ตกหลุมพรางของตา azazelzx น่ะซิ ที่เจ้าตัวเขาอยากจะทำให้เราหัวเสีย เขาคงสนุกกับการทำให้คนอื่นหงุดหงิด ยิ่งเราไปหงุดหงิดตามมันก็เข้าทาง สู้ทำเฉยไปเสีย เดี๋ยวเจ้าตัวก็เบื่อไปเองแหละ ยิ่งไปแสดงความเห็นแบบเททับตา azazelzx ให้จมดิน มันก็คงไม่ต่างอะไร จากที่ตา azazelzx เททับคนอื่นให้จมดินเท่าไรหรอก จริงไหม? บอร์ดนี้เป็นบอร์ดห้องศาสนา ฉะนั้นเวลาแสดงธรรมอะไรออกมาการมีอารมณ์ขุ่นมัวในข้อความ มันจะทำให้ความน่าเชื่อถือ หรือ ใจความของธรรมนั้นคลาดเคลื่อนไป เลยต้องระวังเรื่องอารมณ์เป็นพิเศษ แต่ถ้าบอร์ดนี้เป็นห้องตลาดสด อันนี้ก็จะสาดอารมณ์กันยังไงก็จัดมา แรงได้เต็มที่ ...แต่ตอนนี้นี่คือห้องศาสนาครับ :) ปล. ผมว่าตา azazelzx เขาตลกดีออก มีพฤติกรรมแปลกๆ ดี แก้ไขเมื่อ 02 ก.พ. 55 01:46:45 จากคุณ : IT Boys เขียนเมื่อ : 2 ก.พ. 55 01:39:12

ความคิดเห็นที่ 31 ถ้าคาถา"ชินบัญชร"ไม่มีดีจริง สวรรค์ชั้นฟ้าคงไม่สวดกันอยู่หรอก (เอามาจากเรื่องพันเอกเสนาะ จินตรัตน์ที่ตายแล้วฟื้นมาหลายรอบ รอบที่วิญญาณท่านได้ขึ้นสวรรค์ท่านได้ยินบทสวดคุ้นๆว่า ชะยาสะนากะตา......... ท่านว่าคุ้นๆ พอได้กลับลงมาในร่างอีกครั้งถึงได้รู้ว่าเป็นบทชินบัญชรนั่นเอง ) ก็บนสวรรค์เค้ายังสวดกัน แล้วจขกทจะมัวสงสัยอยู่ใย??? จากคุณ : niwatpuniw เขียนเมื่อ : 2 ก.พ. 55 02:06:16

ความคิดเห็นที่ 32 ถือซะว่าพิมพ์ให้เด็กอย่างผมอ่านละกันครับ พี่ ๆ ------------- แก้ไขเมื่อ 02 ก.พ. 55 03:36:04 จากคุณ : Zim-MorLuth- เขียนเมื่อ : 2 ก.พ. 55 03:33:54

ความคิดเห็นที่ 33 เอาอีกแล้ว......ไปคิดว่าพระไตรปิฏกเหมือนห้างสรรพสินค้า มีตั้งแต่สากกะเบือยันเรือรบ หรือเป็นยาวิเศษรักษาได้ทุกโรค ต้องตรงกันทุกคำทุกตัวอักษร และไม่มีใครเกิดทัน จะมายืนยันได้อย่างไร ธรรมของพระพุทธเจ้า มีทั้งสอนให้ทำและห้ามไม่ให้ทำ ท่านก็ไม่เคยห้ามสวดบทสวดมนต์ใด คิดอะไรจุกๆจิกๆอย่างนั้น จะกลายเป็นกระพี้ไปหมด ท่านพุทธทาสกล่าวไว้ จำไม่ได้ว่าอยู่ในหนังสือไหน.......มีความหมายว่า              การใดๆวัดกันที่ว่าเป็นประโยชน์หรือไม่ ทั้งโลกนี้หรือโลกหน้า ป.ล. อันนี้ค่อยชัดเจนหน่อย เพราะปกติท่านชอบพูดกำกวมตีความได้หลายแบบ จนนักธรรมที่หลักไม่แม่นเถียงกันหน้าดำหน้าแดงไม่จบสิ้น จากคุณ : ไม่คิดมาก เขียนเมื่อ : 2 ก.พ. 55 08:18:17

ความคิดเห็นที่ 34 พวกที่คิดว่า สวดแล้วต้องช่วยได้ทุกครั้ง นั่นมันศร๊ธนญชัยแล้ว แค่ช่วยได้บางครั้งก็ยังดีกว่าช่วยไม่ได้เลยมิใช่หรือ มันไม่มีอะไรที่ช่วยได้ทุกครั้งหรอก อ้างอย่างนี้ใครๆก็พูดได้เพราะไม่ต้องคิด ทุกอย่างมีส่วนประกอบหลายอย่าง  หรือว่ามีอะไรช่วยได้ทุกครั้งบอกมาได้ใหมล่ะ ข้อสำคัญ ไปว่าคนที่เขาสวดโง่......ที่จริงแล้วคนที่ไปว่าเขานั่นแหละ โง่กว่า เพราะอะไร....      ก็คิดไม่เป็นหรือว่า ไอ้ที่เขาสวดกันมันต้องมีประโยชน์อะไรเกิดแก่เขา ไม่งั้นไม่มีใครบ้าสวดไปทำไมในเมื่อมันไม่ได้ผลอะไรเลย เขารู้ของเขา ตนเองจะไปรู้แทนเขาได้ไง โง่ใหมล่ะ .......อะไรที่ไม่ได้ผลเลย   แล้วยังมีใครทำอยู่ ไม่มีในโลก......นี่คือสัจธรรมจริงหรือไม่? จากคุณ : ไม่คิดมาก เขียนเมื่อ : 2 ก.พ. 55 08:33:31

ความคิดเห็นที่ 35 ผม 1 เสียง ไม่เห็นด้วยที่จะให้ลบกระทู้นี้นะครับ เพราะผมว่า บอร์ดนี้เป็นบอร์ดอิสระ ที่ใครก็สามารถโพสต์ได้นะครับ จะเป็นคนดี หรือ คนบ้าก็โพสต์ได้หมด ตราบเท่าที่ไม่ไปหมิ่นประมาทผู้ใด และกระทู้นี้เป็นกระทู้โปรโมตนิสัย และลักษณะของเจ้าของกระทู้ได้เด่นชัดที่สุด เขาเป็นคนชอบกระตุก  แบบคลิปกังฟูของหลวงพ่อเกษม กระตุกยังไง เป็นสัมมาหรือมิจฉา ไม่รู้ ไม่ต้องไตร่ตรองอะไรเลยก่อนกระตุก สไตล์เดียวกันเลย ปล่อยให้คนเขามาโมทนากับกระทู้นี้เยอะๆก็ดีครับ ผมเองเห็นแล้วขำแทบตกเก้าอี้ คนอย่างนี้ก็ยังมีในโลกนะครับ จากคุณ : ลวงตา เขียนเมื่อ : 2 ก.พ. 55 09:33:02

ความคิดเห็นที่ 36 ขอเสนอไม่ลบ ตรรกะของคุณอ้าซ่าซีเล็ค มีอะไรแปลกๆที่ดูแล้ว ไม่ควรเป็นผู้ปฏิบัติธรรม   เหมือนเป็นคนชอบขัดแย้ง  ชอบความหยาบของคำพูด ตัวอย่างที่ยกมาในกระทู้นี้  ไม่ใช่เรื่องที่ควรจะพูดในแนวนี้ การที่เราจะสวดมนต์บทไหนก็แล้วแต่  โดยเฉพาะบทที่ยก ตย.มา มันไม่ได้ช่วยให้ไม่เจ็บ ไม่ป่วย ไม่ได้ทำให้รอดตาย  ไม่ได้แก้กรรม  หรืออะไรทั้งนั้นที่ จขกท.ยกตย.มา ไม่รู้ว่า คุณอ้าซ่าซีเล็ค   ถึงมีปัญญาความคิดเช่นนี้ มันไม่ได้เกี่ยวกันเลยสักนิด   แถมยังชอบสร้างศัตรู โดยไปบอกว่า คนสวดมนต์ (บทนี้) เป็นคน งมงาย ไร้เหตุผล ไร้ปัญญา.. ทั้งหมดนี้ น่าเป็นของ จขกท.มากกว่า  ที่ไร้เหตุผล  ไร้ปัญญา จากคุณ : พรีมาวารี เขียนเมื่อ : 2 ก.พ. 55 09:51:14

ความคิดเห็นที่ 37 การที่คุณอ้าซ่าซีเล็ค จะมีแนวคิดประการใด ย่อมทำได้ และไม่ผิด..คิดไป ทำไปเถิด ตามแต่อยากทำ แต่ที่คุณอ้าซ่าซีเล็ค ทำไม่ถูกคือ ชอบไปด่าคนอื่น ที่กระทำการอันใดที่คุณอ้าซ่าซีเล็คไม่เห็นด้วย   ถ้าคุณอ้าซ่าซีเล็คไม่เห็นด้วยกับการกระทำอันใดของบุคคลอื่น แล้วท้วงติงมาโดยสุภาพ คงได้รับการต้อนรับอย่างดี จากผู้อื่นเช่นกัน แต่นี่ทุกกระทู้ของคุณอ้าซ่าซีเล็ค  จะต้องมีการด่าว่าคนอื่นทุกกระทู้ไป ทำอย่างนี้ทำไม... จากคุณ : พรีมาวารี เขียนเมื่อ : 2 ก.พ. 55 09:59:29

ความคิดเห็นที่ 38 ทำไมเห็นแต่โทสะ อัตตาเต็มไปหมดเลย...ไปดีกว่า จากคุณ : สวรรค์รำไร เขียนเมื่อ : 2 ก.พ. 55 10:34:27

ความคิดเห็นที่ 39 #33 เอาอีกแล้ว......ไปคิดว่าพระไตรปิฏกเหมือนห้างสรรพสินค้า มีตั้งแต่สากกะเบือยันเรือรบ หรือเป็นยาวิเศษรักษาได้ทุกโรค ต้องตรงกันทุกคำทุกตัวอักษร และไม่มีใครเกิดทัน จะมายืนยันได้อย่างไร ธรรมของพระพุทธเจ้า มีทั้งสอนให้ทำและห้ามไม่ให้ทำ ท่านก็ไม่เคยห้ามสวดบทสวดมนต์ใด คิดอะไรจุกๆจิกๆอย่างนั้น จะกลายเป็นกระพี้ไปหมด -------- ผมคิดว่า พระไตรปิฏกเป็นยาวิเศษรักษาได้ทุกโรคครับ ถึงผมจะเกิดไม่ทันแต่ผมก็ยังขอยืนยันว่าพระไตรปิฏกเถรวาทที่ท่านครูบาอาจารย์ที่รักษาคำสั่งสอนสืบต่อกันมา 2,500 ปี เป็นของจริง ถ้าศึกษาพระไตรปิฎกหลายๆฉบับแล้วจะเห็นว่าถ้อยคำไม่ตรงกันทุกคำทุกตัวอักษร แต่ก็ล้วนเป็นความหมายเดียวกัน ใครจะไปนรกสวรรค์กลับมาพูดผมก็ไม่เชื่อหรอกครับ ต่อให้ให้เขาตายหมดลมหายใจหัวใจหยุดเต้นไป 10 ปี แล้วกลับมามีชีวิตใหม่ มาพูดถึงความวิเศษของคาถาชินบัญชร พูดยังไงผมก็ไม่เชื่อหรอก เพราะผมเชื่อพระไตรปิฎก เชื่อคำสั่งสอนของพระพุทธเจ้า ต่อให้มีพระสงฆ์แสดงอิทธิฤทฺธิ์ต่างๆได้มาพูดถึงคุณวิเศษของคาถาชินบัญชร พูดยังไงผมก็ไม่เชื่อหรอก เพราะผมเชื่อพระไตรปิฎก เชื่อคำสั่งสอนของพระพุทธเจ้า ให้เทวดามีรัศมีเปล่งประกายลงเหาะลงมา แสดงฤทธิ์ต่างๆให้ผมดูลงมาพูดถึงความวิเศษของชินบัญชรผมก็ พูดยังไงผมก็ไม่เชื่อหรอก เพราะผมเชื่อพระไตรปิฎก เชื่อคำสั่งสอนของพระพุทธเจ้า อ้อ อีกอย่าง เทวดา เทพ พรหม มีมิจฉาทิฏฐินะครับ อย่าคิดว่าเป็นเทวดาแล้วหมายความว่าจะรู้ถูกต้องทุกเรื่อง เพราะเทวดา เทพ พรหม ยังต้องลงมาถามปัญหาธรรมกับพระพุทธเจ้าเลย เขาก็เหมือนกับเราๆท่านๆนี่แหล่ะ เพียงแค่เขามีฤทธิ์วิเศษเหนือมนุษย์เท่านั้นเอง ผมขอเตือนท่านในฐานะเพื่อนร่วมศาสนาว่าหยุดทำร้ายพระธรรม หยุดทำร้ายพระไตรปิฎกเถอะครับ ถ้าคุณไม่เชื่อพระไตรปิฎก ไม่เชื่อพระธรรมแล้ว ก็ไม่เรียกว่าศาสนาพุทธแล้วครับ จากคุณ : โอ่อี๊โอ (oiooo) เขียนเมื่อ : 2 ก.พ. 55 12:06:35

ความคิดเห็นที่ 40 เห็นด้วยกับ 30 ,38 เจ้าของกระทู้ก็มีส่วนถูกน๊ะ เพราะผมเชื่อว่าแต่ละคนมีเป้าหมายและความคาดหวังในการสวดไม่เหมือนกัน แต่การไปเหมารวมว่าเป็นอย่างนั้นและต่อว่าคนอื่นก็ไม่ถูกน๊ะ แก้ไขเมื่อ 02 ก.พ. 55 12:28:18 จากคุณ : valid-guarantee เขียนเมื่อ : 2 ก.พ. 55 12:25:36

ความคิดเห็นที่ 41 .. แก้ไขเมื่อ 02 ก.พ. 55 14:12:02 จากคุณ : azazelzx เขียนเมื่อ : 2 ก.พ. 55 14:10:23

ความคิดเห็นที่ 42 ถ้ายังโง่งมงาย บ้สสวดชินบัญชร - ชาตินี้ อย่าหวังพ้นนรก และอย่ามาบอกว่านับถือพุทธ  บ้ายบาย จากคุณ : azazelzx เขียนเมื่อ : 2 ก.พ. 55 14:11:45

ความคิดเห็นที่ 43 เหมือนกับว่า ใครทำอะไรที่พระพุทธเจ้าไม่ได้สอน ไม่ได้บอกให้ทำ ตกนรกกันหมด จากคุณ : พรีมาวารี เขียนเมื่อ : 2 ก.พ. 55 14:21:47

ความคิดเห็นที่ 44 แก้ไขเมื่อ 02 ก.พ. 55 23:53:42 จากคุณ : สีมุก เขียนเมื่อ : 2 ก.พ. 55 14:35:34

ความคิดเห็นที่ 45 ขอขอบคุณทุกความคิดเห็นจ้า จากคุณ : azazelzx เขียนเมื่อ : 2 ก.พ. 55 14:55:41

ความคิดเห็นที่ 46 คิดดี .... ทำดี .....ได้ดี   แล้วสวดชินบัญชรทำบ้าอะไร ? จากคุณ : azazelzx เขียนเมื่อ : 2 ก.พ. 55 15:25:40

ความคิดเห็นที่ 47 สวัสดีครับ  ผมสมาชิกใหม่   สมัครไว้เพื่อตั้งใจมาแจ้งลบ  กระทู้นี้โดยเฉพาะ   คาถาชินบัญชร เป็นที่นับถือสวดกันแพร่หลายในเมืองไทย กล่าวกันว่า เป็นของเจ้าพระคุณสมเด็จพระพุฒาจารย์ (โต พรหมรํสี) วัดระฆังโฆสิตาราม ได้มีผู้นำมาพิมพ์เผยแพร่กันอย่างกว้างขวาง แต่ว่ามักจะแตกต่างกันไปมากบ้างน้อยบ้าง จนไม่อาจจะยุติได้ว่าของเดิมนั้นเป็นอย่างไร เมื่อ พ.ศ.๒๕๑๘ เจ้าพระคุณสมเด็จพระญาณสังวร (เจริญ สุวฑฒโน) วัดบวรนิเวศวิหาร ได้ทรงตรวจชำระแล้ว โปรดให้พิมพ์ขึ้นสำหรับแจกเป็นธรรมทานในการบำเพ็ญกุศลคล้ายวันประสูติในปีนั้น หลวงปู่โตค้นพบ  พระสังฆราชเจ้า ให้พิมพ์แจกเป็นธรรมทาน คล้ายวันประสูติ และทรงตรวจชำระ  ( ส่วนเจ้าของกระทู้  ได้มรรคได้ผลอันใด  ไม่ทราบ ) ถึงได้มากล่าวจาบจ้วง ตัวเจ้าของกระทู้น่ะ  เตรียมตัวลงไปคนเดียวเลยนะ  นรกน่ะ จากคุณ : หวงไซจื้อ เขียนเมื่อ : 2 ก.พ. 55 16:34:39

ความคิดเห็นที่ 48 azazelzx ท่านนี่แรงได้ใจ ลึกๆผมชื่นชมท่านอยู่นะครับ จากคุณ : Vees เขียนเมื่อ : 2 ก.พ. 55 17:14:49

ความคิดเห็นที่ 49 เจ้าของกระทู้โปรดเก็บข้อความที่คุณเขียนไว้แล้วจดจำไว้ตลอดชีวิตที่คุณยังมีลมหายใจอยู่นะ  แล้วคุณจะได้รู้ว่าอะไรจะเกิดขึ้นกับคุณ จากคุณ : ป้าแก่คนสวย เขียนเมื่อ : 2 ก.พ. 55 17:25:53

ความคิดเห็นที่ 50 ขอย้ำกันอีกรอบ ชินบัญชร มีไว้สำหรับพวกโง่งมงายเขาสวดกัน บ๊าย บาย จากคุณ : azazelzx เขียนเมื่อ : 2 ก.พ. 55 19:06:01

ความคิดเห็นที่ 51 เป็นเอามากน่าเป็นห่วง - - จากคุณ : CupJok เขียนเมื่อ : 2 ก.พ. 55 20:17:05

ความคิดเห็นที่ 52 เอ้า........39      เอาอะไรคิดนะ พระไตรปิฏกรักษาได้ทุกโรค พูดจริงหรือพูดเล่น ถ้างั้นเขาเรียนหมอกันไปทำไม ปิดโรงพยาบาลให้หมดได้แล้ว มานั่งท่องพระไตรปิฏกแล้วหายโรค   ขนาดพระพุทธเจ้าป่วยยังต้องมีแพทย์ประจำตัวท่านคือ หมอชีวกโกมารภัทร์......แล้วจะว่าไง จากคุณ : ไม่คิดมาก เขียนเมื่อ : 2 ก.พ. 55 22:43:20

ความคิดเห็นที่ 53 นายเพียน ศรีธนญชัยนั่น บอกคิดดี   ทำดี   แล้วได้ดี โดยไม่มีรายละเอียดอะไร ก็เลิกพุทธศาสนาได้แล้ว ใครๆรู้กันทั้งนั้น เสียเวลาเรียนเปล่าๆ พวกนี้ เล่นกันเทื่อๆ ไม่ต้องคิดอะไร อย่างนั้นเรียนทำไม คิดเองก็ได้ มีใหมล่ะที่คิดดี   ทำดี   แล้วไม่ได้ดี แน่จริง ลองคิดดี  ทำดี แล้วให้รวยเป็นมหาเศรษฐีซิ ทำได้ใหม ถ้าทำได้ คนทั้งโลกก็รวยกันหมดแล้ว......มันมีรายละเอียดเยอะ พวกพูดแบบไม่ได้เรียนหนังสือ เอากำปั้นทุบดิน ใครก็พูดได้ คิดได้แค่นี้เองหรือ ป.ล. .......คิดออกไหม....ถ้าเป็นบัวใต้น้ำ  ก็อย่าทำให้น้ำขุ่น อย่าลืม...........ทำให้รวยเป็นมหาเศรษฐีให้ได้  ด้วยการคิดดี  ทำดี  แล้วได้ดี  ถ้าทำไม่ได้อย่ามาคุย อายเขา พูดแล้วทำไม่ได้...   อันนี้เราเอาความคิดนายเพี้ยนนั่นแหละมาสวนกลับ เรียกว่า หนามยอกเอาหนามบ่ง มันใหมล่ะ ที่พูดมานี่ เพื่อให้คนอื่นๆคิดด้วย ลำพังนายนั่น หมอไม่รับแล้ว จากคุณ : ไม่คิดมาก เขียนเมื่อ : 2 ก.พ. 55 23:01:13

ความคิดเห็นที่ 54 แต่ก็ได้อีกมุมนะ บางคนสวดมนต์ แถมบังคับให้คนอื่นสวดอีก คนสวดบางทีก็ทำอาชีพไม่สุจริต การประพฤติก็ไม่ดี สวดเพื่อหวังให้ได้การคุ้มครองอีก - -" ผมว่าแทนที่เราจะตั้งหน้าตั้งตาสวดให้ได้กี่จบๆ เอาธรรมมะที่พระพุทธเจ้าสั่งสอมมาปฏิบัติเพื่อให้เป็นคนดีขึ้น จะดีกว่ามั้ย จากคุณ : Kenlive เขียนเมื่อ : 2 ก.พ. 55 23:01:18

ความคิดเห็นที่ 55 สวดมนต์ เค้าเอาสมาธิค่ะ จะสวดบทไหนก็ได้ ถ้าคุณคิดดีทำดี จะสวดชินบัญชร อย่างไรก็ได้ไปสู่มาตุภูมิที่ดี ดีหรือชัาว ทุกข์หรือสุข อยู่ที่ใจคุณค่ะ เรายอมเป็นคนโง่ที่สวดบทนี้ค่ะ สาธุกับคุณด้วยที่หลอกตัวเองว่าเป็นผู้เจริญแล้ว ให้มาครอบจิต หายจากอาการมัาเมาเร็วๆนะค่ะ จากคุณ : moonoiz เขียนเมื่อ : 3 ก.พ. 55 00:48:05

ความคิดเห็นที่ 56 อย่าลืมนะ.......จขกท  ที่ว่า   คิดดี  ทำดี  ได้ดี   ทำตัวเองให้เป็นมหาเศรษฐีก่อน แล้วเราจะเชื่อ  ถ้ายังทำไม่ได้อย่าเพ้อเจ้อ คุยไปก่อน จากคุณ : ไม่คิดมาก เขียนเมื่อ : 3 ก.พ. 55 09:15:35

ความคิดเห็นที่ 57 อาเซเดเฮ ชื่อเรียกยากมากๆเลย คุณไม่รู้เรื่องจิตเลย โชว์ตัวตนออกมาแล้วทำให้ผมมั่นใจมากๆเลย จริงๆนะ ทุกๆท่านทราบหรือเปล่าว่า เรากำลังสอนเด็กน้อยที่ชอบกวนบาทาชาวบ้านเขาแล้วแอบไปหัวเราะข้างๆบ้านตัวเอง ยังไงยังงั้นเลย มันไม่ฟังหรอก จากคุณ : ลวงตา เขียนเมื่อ : 3 ก.พ. 55 13:16:58

ความคิดเห็นที่ 58 เคยเซฟไฟล์จากเวปไหมครับ อย่างไฟล์รูปภาพ แล้วต้องตั้งชื่อใหม่ไม่ใช่ซ้ำกับไฟล์ในเครื่อง เราก็ต้องพิมมั่วๆ ไปครับเริ่มจากมือซ้ายกดไปที่แป้นพิม ตัวแรกจะประมาณตัวอักษร QWASZXE อะไรแถวๆ นี้ล่ะครับ กดไป 3 ตัว 4 ตัวก็กดมือขวาทีนึงก็ประมาณแถวๆ LKOPJ อะไรแถวนี้ล่ะครับ คราวนี้ก็ลองดูที่ ชื่อ จขกท........ เห็นไหมอ่ะครับ ขนาดตั้งชื่อตัวเอง ยังมั่วเลยอ่ะครับ เอาล่ะครับ ถ้าเบื่อก็ช่วยกันโหวตลบเลยครับ เปลืองหน้ากระทู้ แก้ไขเมื่อ 03 ก.พ. 55 14:43:27 จากคุณ : สายลมเหงาแห่งขุนเขา เขียนเมื่อ : 3 ก.พ. 55 14:42:23

ความคิดเห็นที่ 59 คนตั้งกระทู้  สมองเหมือนเสื่อมแล้วค่ะ จากคุณ : anchan_k เขียนเมื่อ : 3 ก.พ. 55 14:45:25

ความคิดเห็นที่ 60 เห็นภาพเลย ใส้เดือนถูกขี้เถ้า จากคุณ : Faraday เขียนเมื่อ : 3 ก.พ. 55 17:38:40

ความคิดเห็นที่ 61 อ่านทุกความคิดเห็นแล้ว ขอบคุณมากๆ บ๊ายบาย สวัสดีท่าน Faraday จากคุณ : azazelzx เขียนเมื่อ : 3 ก.พ. 55 19:44:16

ความคิดเห็นที่ 62 คุณ จขกท ตลกดีค่ะ มีเพื่อนทางธรรมที่คุยกันอยู่บ้างหรือเปล่าคะ จากคุณ : anumotanasatu เขียนเมื่อ : 4 ก.พ. 55 20:07:43

ความคิดเห็นที่ 63 ลองเอามาแปลดูแล้ว ขนลุกเลย ถ้าพระอรหันต์ทุกๆท่านที่กล่าวถึง มาอยู่ตามที่ต่างๆ อย่างที่เราอยากให้มาสถิตอยู่ คงจะรุงรังน่าดู ไม่ต้องทำอะไรกันละสิ แล้วจะมายังไง นิพพานไปหมดแล้ว ถ้าคนที่รู้ภาษาที่แปลแล้ว ยังอยากให้เป็นอย่างบทสวด ถ้าไม่โง่ จะเรียกว่าอะไร งมงายก็โกรธ โง่ก็โกรธ เวรกรรม หิวข้าว ก็นั่งพูดว่าอิ่มๆๆๆๆๆๆๆๆ คงอิ่มหรอก ถ้าไม่หุงข้าวกินน่ะ พุทธแบบล้ำลึก ลึกจนไม่รู้ว่าอยู่ตรงไหนของคำสอน ลึกมากๆๆๆๆ ลึกจนขุดไม่ออกเลย จากคุณ : เตาเผากระบือ (เตาฟืน) เขียนเมื่อ : 7 ก.พ. 55 20:44:53

ความคิดเห็นที่ 64 ขอขอบคุณทุกความคิดเห็น จากคุณ : azazelzx เขียนเมื่อ : 14 ก.พ. 55 15:07:09