Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com  


 
<=== อิสลาม ===> การตีสตรี ติดต่อทีมงาน

(แก้ไขบางคำจากต้นฉบับ)
http://www.islammore.com/main/content.php?page=sub&category=47&id=2079




พระผู้เป็นเจ้าตรัสว่า

“และบรรดาหญิงที่พวกเจ้าหวั่นเกรงในความดื้อดึงของนางนั้น  ก็จงกล่าวตักเตือนนาง  และทอดทิ้งนางไว้แต่ลำพังในที่นอน  และจงเฆี่ยนนาง  แต่ถ้านางเชื่อฟังพวกเจ้าแล้วก็จงอย่าหาทางเอาเรื่องแก่นาง”


และอิสลามได้ห้ามการตีสตรีและได้เตือนถึงเรื่องนี้ไว้อย่างมากด้วยเช่นกัน   นั่นก็เพราะสถานภาพของเธอโดยปกตินั้นอ่อนแอ ไม่สามารถป้องกันตัวเองได้  ท่านศาสดากล่าวว่า

“เจ้าอย่าได้ทุบตีภรรยาของเจ้าเหมือนตีทาส  แล้วหลังจากนั้นเจ้าก็ร่วมประเวณีกับนางในตอนกลางคืน”



แต่ในขณะเดียวกันอิสลามอนุญาตให้ตีเล็กน้อยเพื่อเป็นการตักเตือน   แต่มิใช่ให้เจ็บที่ร่างกายหรือผิวหนัง   แต่มีเป้าหมายเพื่อให้นางสำนึกตนซึ่งเป็นการตีในกรณีที่จำเป็นและเฉพาะเจาะจง และในกรณีที่ภรรยาฝ่าฝืนสามี   คือไม่เชื่อฟังสามีโดยขาดเหตุผลที่ยอมรับได้


มีรายงานจากอุมมุกัลซูม  ลูกของอบีบักรฺ  เธอกล่าวว่า

"บรรดาชายถูกห้ามไม่ให้ตีบรรดาหญิงที่เป็นภรรยาของพวกเขา หลังจากนั้นพวกเขาต่างไปฟ้องร้องต่อท่านศาสดา (เนื่องจากพวกนางดื้อ : ผู้โพสต์)  ท่านจึงอนุญาตให้ตีพวกนางได้"

แล้วเธอก็กล่าวอีกว่า "ผู้หญิงหลายคนต่างมาร้องเรียนกับครอบครัวของท่านศาสดา ว่าพวกนางทั้งหมดถูกตีทั้งนั้น"

หลังจากนั้นพวกเขาได้ถูกกล่าวว่า  :และคนที่ประเสริฐสุดในบรรดาพวกเขาจะไม่ตีบรรดาภรรยาของพวกเขา



จากพระดำรัสของพระผู้เป็นเจ้าข้างต้น  ได้อธิบายอย่างชัดเจนถึงแนวทางแก้ปัญหาการฝ่าฝืนของภรรยาต่อสามี   และบางครั้งวิธีเเก้ปัญหานี้อาจจะสร้างความเจ็บปวดบ้างเล็กน้อย  แต่มนุษย์ก็ย่อมรับมันได้  และเพื่อจะให้เกิดผลตามความคาดหมาย


วิธีนี้มี 3 ขั้นตอนด้วยกัน :

ขั้นที่ 1 :  ขั้นตักเตือน ว่ากล่าว ให้คำเตือนถึงโทษที่อัลลอฮฺได้บอกไว้ และบอกกล่าวถึงสิทธิของสามีและความจำเป็นที่เธอต้องเชื่อฟังสามี     ขั้นตอนนี้ต้องใช้ความนุ่มนวลและความรักในการใช้คำพูด   หากวิธีนี้ไม่เป็นผลจำเป็นต้องใช้

ขั้นที่ 2: ขั้นแยกที่นอน   คือไม่นอนไม่ร่วมประเวณีกับเธอและไม่พูดคุยกับเธอ   ในขั้นนี้ต้องใช้ความนุ่มนวลร่วมกับความเด็ดขาด    หากวิธีนี้ยังไม่ได้ผล จึงต้องใช้

ขั้นที่ 3 : ขั้นตี  คือเป็นการตีที่ไม่สร้างบาดแผล กระดูกไม่แตกหัก และไม่เกิดรอยฟกช้ำและหลีกห่างจากการตีที่ใบหน้า     การตีนี้ก็เพื่อตักเตือนเท่านั้นไม่ใช่การทรมาน และเป็นการบอกให้รู้ว่าการกระทำของเธอนั้นเป็นที่ไม่พึงปรารถนา


เพราะท่านศาสดาได้กล่าวแก่ชายคนหนึ่งที่ได้ถามท่านเกี่ยวกับสิทธิของภรรยาที่มีต่อสามีว่า

"สามีต้องให้เธอได้กินเมื่อสามีได้กิน สามีต้องให้เธอได้นุ่งห่มเมื่อสามีนุ่งห่ม หลังจากนั้นก็อย่าได้ตีที่ใบหน้าของเธอและอย่าได้ทำความไม่ดีกับเธอ   และจะไม่แยกที่นอนนอกจากภายในบ้านเท่านั้น"  (คือไม่ใช่หนีออกไปนอนที่อื่นนอกบ้าน : ผู้โพสต์)



อิสลามได้วางข้อกำหนดในการตีนี้เป็นการตีที่ไม่ใช่เพื่อการข่มขวัญ ข่มเหงรังแกหรือไม่ใช่เป็นการเหยียดหยามศักดิ์ศรีเธอ หรือไม่ใช่เป็นการตีเพื่อทรมาน

มีรายงานจากอิบนุอับบาส (อัครสาวกท่านหนึ่ง) ได้อธิบายการตีที่ว่านี้คือการตีด้วยไม้แปรงฟันหรือสิ่งที่คล้าย ๆ กัน



สำหรับการตีเพื่อการทรมานนั้นอิสลามได้ห้ามการตีลักษณะนี้ ท่านศาสดา กล่าวว่า

“จงยำเกรงต่อพระผู้เป็นเจ้าในเรื่องภรรยา  เพราะท่านได้รับเธอเป็นภรรยาด้วยอาณัติแห่งพระองค์  และอวัยวะสงวนของเธอได้เป็นที่อนุมัติแก่เจ้าด้วยถ้อยคำแห่งพระองค์  

และสิทธิของเจ้าที่มีต่อเธอนั้นคือ (ลงโทษโดย)ไม่ร่วมประเวณีในที่นอนของเจ้ากับใครคนใดที่เจ้าไม่พึงพอใจ(เนื่องจากนางดื้อดึง)

หากเธอทำเช่นนั้น (ยังคงดื้อดึง)  เจ้าจงตีนางโดยการตีที่ไม่สร้างบาดแผลและสิทธิของเธอที่มีต่อเจ้านั้นคือของกินของใช้ที่ดี ๆ ทั้งหลาย”



ขั้นนี้ (ขั้นตี) เป็นขั้นตอนที่มีผลต่อสตรี 2 กลุ่มอย่างที่นักวิชาการจิตวิทยาได้ยืนยันไว้

กลุ่มที่ 1 : กลุ่มสตรีที่อยากตั้งตัวเป็นผู้คุมสามี พวกนางเหล่านี้มีความสุขและสนุกสนาน  ถ้าเมื่อไหร่พวกนางได้คุมสามีของพวกนางให้เป็นไปตามใจชอบ พวกนางจะควบคุมพวกเขาให้อยู่ภายใต้อิทธิพลและคําสั่งของพวกนาง

กลุ่มที่ 2 : กลุ่มสตรีที่มีลักษณะนอบน้อมถ่อมตนและพวกนางมีความสุขและสนุกสนานในแง่หนึ่งเมื่อพวกนางถูกตีหรือถูกสั่งสอนอย่างทารุณ  


G-A Hodfield หนึ่งในบรรดานักวิชาการจิตวิทยาชาวยุโรปกล่าวในหนังสือของเขาเรื่องจิตวิทยาและจรรยา ว่า :

อารมณ์ที่นอบน้อมและยอมจํานนเพิ่มขึ้นสูงในบางครั้ง จะพบว่า เจ้าของอารมณ์นี้จะมีความสุขเมื่อมีคนมีอํานาจเหนือเขา และยอมรับความเจ็บปวดด้วยปิติยินดี  ความรู้สึกเช่นนี้พบมากในบรรดาสตรี  ซึ่งพวกนางอาจไม่รู้ตัว

ด้วยเหตุนี้เองพวกนางเป็นที่รู้ว่าเป็นกลุ่มคนที่ทนกับความเจ็บปวดมากกว่าบรรดาชาย  และภรรยาดังที่ว่านี้คือบุคคลที่พึงชอบทุกครั้งที่สามีเธอตีนางหรือรุนแรงกับนาง และไม่มีอะไรที่จะทําให้สตรีเสียใจมากกว่าการที่เธอมีสามีผู้อ่อนโยนตลอดเวลา โดยไม่โกรธแม้จะถูกท้าทายด้วยวิธีใดก็ตาม



การตีนั้นจะใช้ในขั้นสุดท้ายในการสั่งสอนระเบียบวินัย   อิสลามไม่อนุญาตให้ใช้มันนอกจากต้องตักเตือนก่อนและแยกที่นอนแล้วยังไม่ได้ผลเท่านั้น  

การตีเป็นเครื่องมืออย่างหนึ่งในการอบรมสั่งสอนระเบียบวินัย อย่างเช่น พ่อตีลูก ครูตีนักเรียน เพื่อจุดประสงค์สั่งสอนระเบียบวินัยเท่านั้นเอง หลังจากนั้นพระผู้เป็นเจ้าได้แจ้งตอนท้ายของโองการในการสั่งสอนนั้นจะจบลงด้วยการเชื่อฟังจากภรรยา

พระผู้เป็นเจ้าตรัสว่า “ถ้าหากนางเชื่อฟังพวกเจ้าแล้วก็จงอย่าหาทางเอาเรื่องแก่นาง”


และนี่ชี้ให้เห็นว่าในขั้นตอนการแก้ปัญหาโดยเจตนาการตีนั้นเพื่อเป็นการสั่งสอน   จุดประสงค์ที่อิสลามได้ตั้งเอาไว้เพื่อรักษาความเป็นครอบครัวจากการแตกสลาย เสียลูก  หย่าร้าง   ซึ่งจะสร้างบาดแผลให้กับจิตใจอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้

จากคุณ : abubilal
เขียนเมื่อ : 3 ก.พ. 55 23:25:23




ข้อความหรือรูปภาพที่ปรากฏในกระทู้ที่ท่านเห็นอยู่นี้ เกิดจากการตั้งกระทู้และถูกส่งขึ้นกระดานข่าวโดยอัตโนมัติจากบุคคลทั่วไป ซึ่ง PANTIP.COM มิได้มีส่วนร่วมรู้เห็น ตรวจสอบ หรือพิสูจน์ข้อเท็จจริงใดๆ ทั้งสิ้น หากท่านพบเห็นข้อความ หรือรูปภาพในกระทู้ที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งทีมงานทราบ เพื่อดำเนินการต่อไป



Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com