|
การมองตน ทำให้เกิดสติ มีความสลดใจ และความพยายามปฏิบัติต่อไป แต่การมองคนอื่น ทำให้เกิดกิเลส เช่น มานะหยิ่ง อิจฉา แข่งดีกับเขา โกรธเขาที่เขาไม่ทำความดี เป็นต้่น การมองคนอื่นมีแต่ความทุกข์มากมาย
แต่การเพ่งโทษคนอื่น ต่างกับการตักเตือน การตักเตือนคนอื่นควรทำ แต่ต้องดูความเหมาะสมประกอบด้วย
มองตัวเอง มีสุขเป็นคุณ มองคนอื่น มีทุกข์เป็นโทษ
อตฺตนา โจทยตฺตานํ ปฏิมํเสตมตฺตนา โส อตฺตคุตฺโต สติมา สุขํ ภิกฺขุ วิหาหิสิ. อตฺตา หิ อตฺตโน นาโถ อตฺตา หิ อตฺตโน คติ ตสฺมา สญฺญม อตฺตานํ อสฺสํ ภทฺรํว วาณิโช.
เธอจงตักเตือนตนด้วยตน จงพิจารณาดูตนนั้น ด้วยตน, ภิกษุ เธอนั้นมีสติ ปกครองตนได้แล้ว จักอยู่ สบาย. ตนแหละ เป็นนาถะของตน, ตนแหละ เป็นคติ ของตน เพราะฉะนั้น เธอจงสงวนตนให้เหมือนอย่าง พ่อค้าม้า สงวนม้าตัวเจริญฉะนั้น.
แก้อรรถ
บรรดาบทเหล่านั้น บทว่า โจทยตฺตานํ ความว่า จงตักเตือนตนด้วยตนเอง คือจงยังตนให้รู้สึกด้วยตนเอง.
บทว่า ปฏิมํเส คือ ตรวจตราดูตนด้วยตนเอง.
บทว่า โส เป็นต้น ความว่า ภิกษุ เธอนั้นเมื่อตักเตือนพิจารณาดูตนอย่างนั้นอยู่ เป็นผู้ชื่อว่าปกครองตนได้ เพราะความเป็นผู้มีตนปกครองแล้วด้วยตนเอง เป็นผู้ชื่อว่ามีสติ เพราะความเป็นผู้มีสติตั้งมั่นแล้ว จะอยู่สบายทุกสรรพอิริยาบถ
ที่มา - เรื่องพระนังคลกูฏเถร http://84000.org/tipitaka/attha/attha.php?b=25.0&i=35&p=10
จากคุณ |
:
Serene_Angelic
|
เขียนเมื่อ |
:
10 ก.พ. 55 23:35:34
|
|
|
|
|