Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com  


 
1 พรรษาในร่มกาสาวพักตร์ ตอนที่ 2 ธีรปัญโญ ภูมิรัชต์ นิยมศิลป{แตกประเด็นจาก Y11676701} ติดต่อทีมงาน

2.ธีรปัญโญ


                               ผมได้รับฉายาว่า ‘’ ธีรปัญโญ ‘’ แปลว่านักปราชญ์ผู้มีความรู้มาก
                                หลวงพี่ท่านบอกว่า ชื่อจริงของใคร ถ้าเป็นชื่อที่พระตั้งให้มาอยู่แล้ว สามารถนำมาใช้เป็นชื่อฉายาได้เลย ไม่จำเป็นต้องตั้งใหม่
                                เพื่อนๆที่จะบวชด้วยกันในพรรษานี้ทุกคน ล้วนให้หลวงพี่ท่านตั้งให้ใหม่ทั้งสิ้น  แม้ว่าชื่อจริงของคนส่วนใหญ่ จะเป็นชื่อที่พระท่านตั้งมาให้ตั้งแต่เด็กแล้วก็ตาม
                                อาจจะเป็นด้วยความเชื่อของแต่ละบุคคล ที่จะได้ชื่อใหม่
                                จะได้เป็นคนใหม่
                                คือคนที่สุก
                                ในพุทธศาสนา
     
                  งานภารกิจของบรรดานาคทั้งหลายในวันนี้ก็คือ หลังจากกินข้าวเช้าเสร็จแล้ว ช่วงบ่ายก็มาช่วยกันทำความสะอาด โบสถ์วิหาร ที่จะใช้เป็นสถานที่ทำพิธี บรรพชาอุปสมบท ของพวกเรานั้นเอง
                          และเป็นไปตามคำสั่งของหลวงพ่อเจ้าอาวาส
                         อาคารโบสถ์หลังนี้มีขนาดค่อนข้างใหญ่โตพอสมควร จากการคาดคะเนโดยสายตาแล้ว น่าจะจุคนได้หลายร้อย
                         เป็นพื้นหินอ่อนทั้งหมด ขัดเงาอย่างดี
                          เชื่อไหมว่าพื้นที่ขนาดนั้น ใช้คนทำความสะอาดปัดกวาด เช็ดถู ปูพรม  ดูดฝุ่น เพียงแค่ห้าคนเทานั้น
                         จะเป็นใครไปได้หละ ก็ผมกับเพื่อนๆนั้นแหละ ก็เพื่อเป็นการรองรับญาติพี่น้อง เพื่อนฝูงของพวกเราที่จะมาร่วมอนุโมทนาบุณในวันอุปสมบทนั้นเอง
                         และเพียงแค่การทำงานนี้ ก็ทำให้รู้นิสัยของกันและกันมากขึ้น ทำให้พอจะรู้ว่า ใครที่พอจะพึ่งพาอาศัยได้ ปรึกษาหารือได้  หรือใครที่ไม่ควรจะสนิทสนมจนเกินไป
                         และนี่คือผลพวงของการทำงานเป็นหมู่คณะ.....
                       
                         หลังจากช่วยกันทำความสะอาด และจัดสถานที่สำหรับพิธีการ เสร็จเรียบร้อยแล้ว พวกเราก็ซ้อมขานนาคกันตามปกติ แต่วันนี้เป็นการซ้อมวันสุดท้าย และถือเป็นการซ้อมใหญ่เหมือนจริงทุกอย่าง
                          คือมีการเดิน
                          การรับผ้าไตรจีวร
                          การรับบาตร...  ตาลปัตร...
                          และขั้นตอนต่างๆทุกอย่างเหมือนจริงหมด
                          หลวงพี่ผู้ฝึกซ้อมท่านบอกว่า ต้องซ้อมท่องขานนาคให้แม่นที่สุด และจำขั้นตอนพิธีการต่างๆให้ได้เป็นอย่างดี
                          เพราะเมื่อถึงเวลานั้นจริงๆ คนจะเยอะมาก ทั้งญาติพี่น้อง หรือทั้งพระอุปฌาย์  พระคู่สวด พระหัตถบาตรอีกหลายรูป  จะทำให้ประหม่าและตื่นเต้นได้
                        พวกเราทุกคนกรอกแบบฟอรม์การขอบวช  และส่งเอกสาร เช่น
                       ใบตรวจสุขภาพ
                       ใบแสดงผลการตรวจเลือด
                       สำเนาบัตรประชาชน
ให้กับทางวัดไว้เป็นหลักฐาน  ทั้งนี้ก็เพื่อป้องกันเหตุสุดวิสัยที่อาจจะเกิดขึ้นได้ หรือก็เพื่อความปลอดภัยและเป็นการแสดงความบริสุทธ์ใจก่อนที่จะเข้าพิธี อุปสมบท
                       เพราะอย่างน้อยก็มั่นใจได้ว่า ผู้ขอบวชไม่ได้มีคดีความใดๆติดตัวมา
                       ไม่ได้เป็นโรคร้ายหรือโรคติดต่อ
                       และได้รับการเห็นชอบจากบิดา มารดา หรือญาติพี่น้อง
                       
          วันนี้มีนาคที่จะบวชก่อน ต้องการที่จะปลงผมและขออณุญาติไปทำพิธีรับขวัญนาคที่บ้าน ก่อนที่จะกลับมาบวชในวันรุ่งขึ้น
                        ตามปกติแล้วในสมัยก่อน หรือปัจจุบันนี้ในบางวัด กว่าจะบวชได้นั้นขั้นตอนเยอะมาก ต้องทำขวัญนาค หาหมอทำขวัญที่มีชือเสียง  จัดเลี้ยงกันใหญ่โต กินเหล้าสังสรรค์กัน ฉลองนาคใหม่กันอย่างเฮฮาเอิกเกิรก นาคเองก็เมาแอ๋เลย  รุ่งเช้ามาถึงวัด วนรอบโบสถ์สามรอบก่อนเข้าอุโบสถ หน้ามืดเป็นลมเพราะไม่ได้ผักผ่อน
                         แต่ปัจจุบันนี้ บางวัดได้ตัดพิธีการบางอย่างออกไป เช่นไม่ต้องวนรอบโบสถ์ตอนแดดร้อนๆกันให้ผิวเสีย  ใครจะโกนหัวมาจากร้านตัดผมเลยก็ยังได้
                          คือไม่เคร่งครัดมากมายเรื่องพิธีรีตรองเหมือนแต่ก่อน แต่มาเน้นหนักด้านการปฏิบัติธรรม และศึกษาพระธรรมวินัยมากกว่า เพราะอานิสงค์ต่างๆที่จะได้รับอยู่ที่ตรงนี้ ไม่เกื่ยวกับพิธีรีตรองใดๆทั้งสิ้น
                            ผู้ใหญ่บางท่านยึดตึดอยู่กับเปลือก คือไม่รู้จักเนื้อแท้ของพุทธศาสนา เมื่อเห็นว่าพิธีที่ปฏิบัติสืบทอดกันมาหายไป  ก็คิดกันไปว่าวัดนั้นไม่ดีอย่างนู้นอย่างนี้ไม่มีขั้นตอนอะไรเลย
                       บางครอบครัว ลูกชายจะบวชที จัดงานกันซะใหญ่โต มีคนมาร่วมงานกันทั้งหมู่บ้าน โต๊จีนเป็นร้อยโต๊  มีมหรสพทั้งคืน หมดค่าใช้จ่ายกันเป็นแสนๆ  ภูมิใจมากที่จะได้เห็นชายผ้าเหลืองพระลูกชาย พ่อแม่จะได้นอนตายตาหลับ
                          แต่ลูกชายบวชแค่เจ็ดวัน สิบห้าวัน....
                          อุตสาห์ล้มวัวไปสองตัว....เป็ดไก่อีกเป็นสิบตัว....
                          บวชสึกออกมายังใช้กรรมกับวัวไม่หมดเลย ที่ต้องไปฆ่ามันเพื่อมาเลี้ยงฉลอง  และจะไปหวังอะไรกับบุณกุศลที่จะได้รับ
                            และไหนจะเงินทองที่ต้องหมดไปกับการยึดตึดกับชื่อเสียงหน้าตาของตัวเองและวงค์ตระกลู
                            การบวชแบบนี่ไม่เกิดประโยชน์อะไรเลย......
                           
                           ในวันพรุ้งนี้จะมีพระบวชใหม่สองรูป
                           ส่วนตัวผมกับเพื่อนนาคที่เหลือ คือวันถัดไป
                             พวกเรารู้สึกตื่นเต้นกันพอสมควร  บางคนนั้งทบทวนบทขานนาค บางคนก็นอนไม่หลับ พวกเรานั้งคุยกันจนดึกมาสองคืนแล้ว
                             คุยกันถึงเรื่องราวต่างๆของแต่ละคน ใครมาบวชเพราะอะไร จะบวชนานแค่ไหน
                             บางคนต้องการจะเคร่งมากๆ
                             บางคนบอกว่าสบายๆไม่เครียด
                             แต่มีอยู่คนหนึ่งบอกว่า เค้าตั้งใจที่จะบวชสองพรรษา
                             พรรษาแรกให้พ่อแม่ พรรษาที่สองให้ตัวเอง
                             ผมนับถือจริงๆ...
                             ผมตั้งคำถามกับตัวเองว่า สามเดือนนี่มันจะนานขนาดไหน มันจะเท่ากับสามเดือนที่เราอยู่ข้างนอกหรือเปล่า...
                             หรือมันจะเร็วจนเรายังไม่รู้สึกถึงรสพระธรรมเลย...

จากคุณ : Mr.key
เขียนเมื่อ : 12 ก.พ. 55 11:55:36




ข้อความหรือรูปภาพที่ปรากฏในกระทู้ที่ท่านเห็นอยู่นี้ เกิดจากการตั้งกระทู้และถูกส่งขึ้นกระดานข่าวโดยอัตโนมัติจากบุคคลทั่วไป ซึ่ง PANTIP.COM มิได้มีส่วนร่วมรู้เห็น ตรวจสอบ หรือพิสูจน์ข้อเท็จจริงใดๆ ทั้งสิ้น หากท่านพบเห็นข้อความ หรือรูปภาพในกระทู้ที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งทีมงานทราบ เพื่อดำเนินการต่อไป



Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com