Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com  


 
{{อิสลาม}}เรื่องของรอชีด และลูกชาย ติดต่อทีมงาน

เรื่องราวต่อไปนี้เป็นเรื่องราวที่เกิดขึ้นจริงของชายคนหนึ่งที่ชื่อว่า “รอชีด” เขาเล่าเรื่องราวของเขาว่า

"ขณะนั้นผมมีอายุไม่เกินสามสิบปี  ตอนที่ภรรยาของผมคลอดลูกคนแรก ผมยังจำคืนนั้นได้

ผมออกไปข้างนอกเพื่ออยู่กับเพื่อนๆ ของผมตลอดทั้งคืน เพราะนั้นคือกิจวัตรของผม คืนนั้นเต็มไปด้วยการพูดคุยไร้สาระ ผมจำได้ว่าคืนนั้นผมทำให้พวกเขาหัวเราะอย่างมาก ผมมีความสามารถพิเศษในการเลียนแบบคนอื่น ผมสามารถเปลี่ยนเสียงของผม จนผมมีเสียงที่คล้ายกับคนที่ผมกำลังล้อเลียนอยู่ ไม่มีใครที่รอดพ้นจากการล้อเลียนของผม แม้แต่เพื่อนของผมเอง บางคนเริ่มออกห่างจากผมเพื่อให้รอดพ้นจากปากของผม ผมจำได้ว่าคืนนนั้น ผมล้อเลียนคนตาบอดที่ผมเห็นเขาขอทานที่ตลาด ที่เลวร้ายไปยิ่งกว่านั้นคือ ผมได้ยื่นเท้าออกไปขัดขาเขา และทำให้ชายขอทานตาบอดคนนั้นสะดุดและล้มลม และหันศรีษะไปมา โดยไม่รู้ว่าจะพูดอะไร

พอผมกลับไปถึงบ้าน ซึ่งมันเป็นเวลาดึก เช่นปกติ ผมเห็นภรรยาของผมนั่งรอผมอยู่ เธออยู่ในสภาพที่แย่มาก และพูดกับผมด้วยน้ำเสียงที่สั่นเทา “รอชีด คุณไปอยู่ที่ไหนมา”

“ผมจะไปอยู่ที่ไหนได้ บนดาวอังคารมั้ง?” ผมพูดประชดประชัน “แน่นอน ก็ต้องอยู่กับเพื่อนผมสิ”

เห็นได้ชัดว่า เธอมีอาการที่เหน็ดเหนื่อยอย่างมาก และพยายามที่จะกลั้นน้ำตาไว้ เธอพูดว่า “รอชีด ฉันเหนื่อยมากเลย ฉันรู้สึกเหมือนกับว่าลูกของเรากำลังจะคลอดออกมาแล้ว”   น้ำตาของเธอเริ่มไหลลงมาข้างแก้ม

ผมรู้สึกได้ว่าผมละเลยและทอดทิ้งภรรยาของผม ผมควรจะอยู่ดูแลเธอ ไม่ใช่การออกไปนอกบ้านหลายคืนแบบนั้น โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ในช่วงที่เดือนที่เก้าของการตั้งครรภ์

ผมรีบพาเธอไปโรงพยายาบาลโดยทันที  เธอเข้าไปในห้องคลอด และต้องทนทรมานกับอาการปวดท้องอยู่หลายชั่วโมง

ผมรอคอยการคลอดของเธอด้วยความอดทน หากแต่การคลอดของเธอนั้นเป็นไปด้วยความยากลำบาก ผมรอคอยอยู่นาน จนผมรู้สึกเหนื่อยล้า ผมจึงกลับบ้านและทิ้งเบอร์โทรของผมไว้กับโรงพยาบาล เพื่อที่ว่าพวกเขาจะสามารถติดต่อผมได้พร้อมกับการแจ้งข่าวดี หนึ่งชั่วโมงหลังจากนั้น ทางโรงพยาบาลได้โทรหาผมเพื่อแสดงความยินดีต่อการกำเนิดของ “ซาเล็ม” ผมรีบไปโรงพยาบาลโดยทันที พอผมไปถึงที่นั่น พวกเขาบอกให้ผมเข้าไปพบกับคุณหมอที่ทำการคลอดให้กับภรรยาของผม

“คุณหมอ อะไร!!” ผมร้องออกมา “ผมอยากจะเห็นซาเล็ม ลูกชายของผม”

“รบกวนคุณไปพบคุณหมอก่อนนะคะ” พวกเขาบอกผม

ผมเข้าไปพบคุณหมอ และเธอก็เริ่มพูดเกี่ยวกับเรื่อง “บททดสอบต่างๆ” และเกี่ยวกับ “การพึงพอใจต่อการกำหนดของอัลลอฮฺ” จากนั้นเธอก็บอกกับผมว่า “ลูกชายของคุณมีความพิการทางสายตา และดูเหมือนว่าเขาจะมองไม่เห็นเลย” ผมก้มศรีษะลง ขณะที่ผมพยายามที่จะกลั้นน้ำตา ผมได้นึกถึงชายขอทานตาบอดที่ตลาดขึ้นมา  ชายขอทานที่ผมขัดขาเขา และล้อเลียนเขาให้คนหัวเราะ

ซุบฮานั้ลลอฮฺ คุณย่อมได้รับสิ่งที่คุณให้ไป!! ผมครุ่นคิดอยู่เงียบๆ สักพัก ผมไม่รู้จะพูดอะไร จากนั้นผมก็เริ่มคิดถึงภรรยาและลูกชายของผม ผมขอบคุณคุณหมอสำหรับความเมตตาของเธอ และจากนั้นผมก็เข้าไปหาภรรยาของผม ภรรยาของผมไม่ได้มีอาการเศร้าเลย เธอเชื่อว่ามันเป็นการกำหนดของอัลลอฮฺ และเธอก็พึงพอใจกับมัน เธอคอยตักเตือนผมให้หยุดล้อเลียนคนอื่นอยู่บ่อยครั้ง  เธอคอยย้ำเตือนผมอยู่เสมอ  ไม่ใช่สิ  เธอไม่ได้เรียกมันว่า “การล้อเลียน” แต่เธอเรียกมันว่า “การให้ร้าย”    

ในความเป็นจริงแล้ว ผมไม่ค่อยได้ให้ความสนใจต่อลูกชายคนนี้ของผมมากนัก ผมมักจะแสร้งทำเหมือนว่าเขาไม่ได้อยู่ที่บ้านกับเรา เวลาที่เขาร้องไห้เสียงดัง ผมก็จะหลบไปนอนที่ห้องนั่งเล่น แต่ภรรยาของผมดูแลเขาเป็นอย่างดี และรักลูกชายคนนี้ของเธอมาก สำหรับผมแล้ว ผมไม่ได้เกลียดเขา แต่ผมก็ไม่สามารถรักเขาได้เช่นกัน

ภรรยาของผมทำการฉลอง เมื่อเขาเริ่มคลานได้ เมื่อตอนที่เขาอายุเกือบสองขวบ เขาเริ่มหัดเดิน และเราก็ได้ทราบว่าขาของเขาก็พิการด้วย (เดินเป๋)  ยิ่งผมออกห่างจากซาเล็มมากเท่าไหร่ ภรรยาของผมยิ่งไห้ความรักและการดูแลเอาใจใส่ต่อเขามากเท่านั้น  แม้แต่ภายหลังที่เธอได้ให้กำเนิดแก่ “อุมัรฺ และคอลิด” ก็ตาม

หลายปีผ่านไป ผมก็ยังคงมักจะออกไปข้างนอกกับเพื่อนๆ ของผมเสมอ ซึ่งผมเปรียบเสมือนกับ  “ของเล่น” ของพวกเขา (สร้างความสนุกสนานตามคำเรียกร้องของพวกเขา) ในทางกลับกัน ผมก็คิดนะว่า  ภรรยาของผมไม่เคยหยุดที่จะช่วยเปลี่ยนแปลงผม เธอมักจะขอดุอาอฺให้ผมได้รับทางนำอยู่เสมอ เธอไม่เคยโกรธต่อพฤติกรรมที่บกพร่องของผม แต่เธอมักจะเสียใจเวลาที่เธอเห็นผมเพิกเฉยต่อซาเล็ม และให้ความสนใจต่อน้องชายทั้งสองของเขามากกว่า เมื่อซาเล็มเติบโตขึ้น  ผมไม่ได้ว่าอะไร ตอนที่ภรรยาผมขอส่งลูกเข้าเรียนในโรงเรียนสำหรับคนพิการ

ผมไม่ได้รู้สึกอะไรนักกับหลายปีที่ผ่านมา วันของผมก็เหมือนเดิมมาตลอด ทำงาน นอน กิน และออกไปข้างนอกกับเพื่อน จนกระทั่งวันหนึ่ง  ซึ่งเป็นวันศุกร์  ผมตื่นขึ้นมาตอนสิบเอ็ดโมงเช้า มันค่อนข้างเช้ามากสำหรับผม เพื่อนๆ ชวนผมออกไปรวมตัวกัน  เมื่อผมแต่งตัว ใส่น้ำหอม พร้อมที่จะออกไปข้างนอก  ขณะที่ผมเดินผ่านห้องนั่งเล่น ผมต้องสะดุ้งเมื่อเห็นซาเล็มกำลังร้องไห้สะอึกสะอื้น นี่เป็นครั้งแรก ตั้งแต่เมื่อเขายังเป็นทารก ที่ผมเห็นซาเล็มร้องไห้อีกครั้ง ผมถามตัวเองว่า “ผมควรจะออกไป หรือเข้าไปหาเขาเพื่อดูว่าเกิดอะไรขึ้นกับเขาดี?” ผมตอบตัวเองว่า “ไม่ได้ ผมจะทิ้งให้เขาอยู่ในสภาพนี้ได้ยังไง”  “ซาเล็ม ทำไมถึงร้องไห้” ผมถามเขา

 
 

จากคุณ : A.TheRipper94
เขียนเมื่อ : 13 ก.พ. 55 10:37:49




ข้อความหรือรูปภาพที่ปรากฏในกระทู้ที่ท่านเห็นอยู่นี้ เกิดจากการตั้งกระทู้และถูกส่งขึ้นกระดานข่าวโดยอัตโนมัติจากบุคคลทั่วไป ซึ่ง PANTIP.COM มิได้มีส่วนร่วมรู้เห็น ตรวจสอบ หรือพิสูจน์ข้อเท็จจริงใดๆ ทั้งสิ้น หากท่านพบเห็นข้อความ หรือรูปภาพในกระทู้ที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งทีมงานทราบ เพื่อดำเนินการต่อไป



Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com