ถ้าหวังให้เป็นที่รัก ------------------------ อากังไขยสูตร เล่ม ๑๒ ข้อ ๗๓-๙๐
ถ้าหวังให้เป็นที่รักของผู้อื่นควรทำอย่างไร ข้อนี้พระพุทธเจ้าตรัสตอบไว้ในอากังไขยสูตร ดังมีความย่อดังนี้
สมัยหนึ่งพระพุทธองค์ประทับอยู่ ณ เชตวนาราม เมืองสาวัตถี ตรัสสอนภิกษุทั้งหลายว่า ถ้าภิกษุ (แม้คฤหัสถ์ก็เหมือนกัน) หวังให้เป็นที่รัก เป็นที่เคารพของผู้อื่นก็พึงเป็นผู้มีศีล สำรวมในพระปาติโมกข์ (ศีลอันเป็นหลัก หมายถึง ศีล ๒๒๗) นอกจากนี้ควรประกอบด้วยธรรมอันทำให้จิตสงบ ไม่เหินห่างจากฌาน ประกอบตนด้วยวิปัสสนา และพอกพูนการอยู่ในที่สงบ (สุญญาคาร)
แม้ถ้าหวังสิ่งต่อไปนี้ก็พึงเป็นผู้ทำตนให้ถึงพร้อมด้วยคุณสมบัติดังกล่าว มีศีล เป็นต้น คือ
๑. หวังให้ได้ปัจจัย ๔ ๒. หวังให้สักการะของเทวดาและมนุษย์ที่ทำต่อตนมีผลมาก ๓. หวังให้การระลึกถึงตนของญาติสาโลหิต (ร่วมสายเลือดเดียวกัน) ผู้กำลังจะร่วงลับไปมีผลมาก ๔. หวังให้สามารถเอาชนะความยินดีและไม่ยินดีเสียได้ ๕. หวังให้ได้รูปฌาน ๔ (คือ ฌาน ๔ เบื้องต้น) ๖. หวังให้ได้อรูปฌาน ๔ (คือ ฌาน ๔ เบื้องปลาย) ๗. หวังให้ได้เป็นพระโสดาบัน ๘. หวังให้ได้เป็นสกทาคามีหรืออนาคามี ๙. หวังให้ได้อภิญญา ๖ ซึ่งมีความสิ้นกิเลสเป็นที่สุด คือ ความเป็นพระอรหันต์
พระสูตรนี้เน้น คุณธรรม 4 ประการ คือ
๑. ศีล ๒. ความสงบใจ หรือฌาน ๓. วิปัสสนา ๔. การอยู่ในที่สงบสงัดซึ่งเรียกว่าสุญญาคาร
ว่าเป็นเหตุให้ได้อานิสงค์ต่างๆเป็นอันมาก ตั้งแต่เป็นที่รักเป็นที่เคารพของผู้อื่น จนถึงเป็นพระอรหันต์
จากคุณ |
:
ning JFK.
|
เขียนเมื่อ |
:
16 ก.พ. 55 10:10:12
|
|
|
|