Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com  


 
บุคคลประกอบด้วยธาตุ 6 เรียกว่ามนุษย์ เืมื่อบรรลุเ็ป็นพระอนาคามี เป็นโอปปาติกะทันทีเลยหรือ? จากหลักฐานพระไตรปิฏก ติดต่อทีมงาน

บุคคลประกอบด้วยธาตุ 6 เรียกว่ามนุษย์ เืมื่อบรรลุเ็ป็นพระอนาคามี เป็นโอปปาติกะทันทีเลยหรือ? จากหลักฐานพระไตรปิฏก

  ผมขอเสนอตัวอย่างชัดเจนจากพระไตรปิฏกเล่มที่ 13 บางส่วนดังนี้.

---------------------------------------------------------
                  พรหมายุพราหมณ์เห็นธรรม
       [๖๐๐] ครั้งนั้นแล พรหมายุพราหมณ์ผู้มีธรรมอันเห็นแล้ว มีธรรมอันบรรลุแล้ว
มีธรรมอันรู้แจ้งแล้ว มีธรรมอันหยั่งทราบแล้ว ข้ามความสงสัยแล้ว ปราศจากความเคลือบแคลง
ถึงความแกล้วกล้า ไม่ต้องเชื่อผู้อื่นในคำสอนของพระศาสดา ได้กราบทูลพระผู้มีพระภาคว่า
ข้าแต่พระโคดมผู้เจริญ ภาษิตของพระองค์แจ่มแจ้งนัก ข้าแต่พระโคดมผู้เจริญ ภาษิตของพระองค์
แจ่มแจ้งนัก ... ขอพระโคดมผู้เจริญโปรดทรงจำข้าพระองค์ว่าเป็นอุบาสกผู้ถึงสรณะตลอดชีวิต
ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป อนึ่ง ขอพระโคดมผู้เจริญพร้อมด้วยภิกษุสงฆ์โปรดรับภัตตาหารของ
ข้าพระองค์ในวันพรุ่งนี้เถิด พระเจ้าข้า. พระผู้มีพระภาคทรงรับอาราธนาด้วยดุษณีภาพ.
      [๖๐๑] ครั้งนั้นแล พรหมายุพราหมณ์ทราบว่าพระผู้มีพระภาคทรงรับอาราธนาแล้ว
จึงลุกจากที่นั่ง ถวายบังคมพระผู้มีพระภาคทำประทักษิณแล้วหลีกไป. ครั้งนั้นพรหมายุพราหมณ์
ได้สั่งให้ตกแต่งขาทนียโภชนียาหารอย่างประณีตในนิเวศน์ของตนตลอดคืนยันรุ่ง แล้วใช้คนให้
ไปกราบทูลเวลาภัตกาลแด่พระผู้มีพระภาคว่า ข้าแต่พระโคดมผู้เจริญ ถึงเวลาแล้ว พระเจ้าข้า
ภัตตาหารสำเร็จแล้ว. ครั้งนั้นเป็นเวลาเช้า พระผู้มีพระภาคทรงครองอันตรวาสกแล้ว ทรงถือ
บาตรและจีวรเสด็จเข้าไปยังนิเวศน์ของพรหมายุพราหมณ์ แล้วประทับนั่งบนอาสนะที่เขาจัดไว้
พร้อมด้วยภิกษุสงฆ์. ลำดับนั้น พรหมายุพราหมณ์ได้อังคาสภิกษุสงฆ์มีพระพุทธเจ้าเป็นประมุข
ให้อิ่มหนำเพียงพอด้วยขาทนียโภชนียาหารอันประณีตด้วยมือของตนตลอด ๗ วัน. ครั้งนั้น
พอล่วง ๗ วันนั้นไป พระผู้มีพระภาคเสด็จจาริกไปในวิเทหชนบท.
       [๖๐๒] ครั้งนั้นแล เมื่อพระผู้มีพระภาคเสด็จหลีกไปไม่นาน พรหมายุพราหมณ์ได้ทำ
กาละ.
ครั้งนั้น ภิกษุเป็นอันมากพากันเข้าไปเฝ้าพระผู้มีพระภาคถึงที่ประทับ ถวายบังคมแล้วจึง
นั่ง ณ ที่ควรส่วนข้างหนึ่ง. ครั้นแล้วได้ทูลถามพระผู้มีพระภาคว่า ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ
พรหมายุพราหมณ์ทำกาละแล้ว คติของเขาเป็นเช่นไร ภพเบื้องหน้าของเขาเป็นเช่นไร
พระเจ้าข้า?
       [๖๐๓] พระผู้มีพระภาคตรัสตอบว่า ดูกรภิกษุทั้งหลาย พรหมายุพราหมณ์เป็นบัณฑิต
ได้บรรลุธรรมตามลำดับธรรม ไม่เบียดเบียนเราให้ลำบากเพราะเหตุแห่งธรรมเลย พรหมายุ
พราหมณ์เป็นอุปปาติกะ (อนาคามี) จักปรินิพพานในภพนั้น มีอันไม่กลับจากโลกนั้นเป็นธรรมดา
เพราะสังโยชน์เบื้องต่ำ ๕ สิ้นไป.

       พระผู้มีพระภาคได้ตรัสพระพุทธพจน์นี้แล้ว. ภิกษุเหล่านั้นมีใจชื่นชมยินดีพระภาษิตของ
พระผู้มีพระภาค ฉะนี้แล.
                จบ พรหมายุสูตร ที่ ๑.
---------------------------------------------

  ต่อไปขอเสนอให้ทราบว่า แม้แต่ พระอริยะ เองก็ยังมีความต่างกัน และพระอนาคามีในพรหมสุทาวาสเอง ก็ยังมีความแต่งกันอยู่ ดังในพระไตรปิฏก เล่มที่ 19 (จัดให้อ่านง่าย) ดังนี้.

-----------------------------------------------
                  ความเป็นพระอริยบุคคลระดับต่างๆ
       [๘๘๒] ดูกรภิกษุทั้งหลาย อินทรีย์ ๕ ประการนี้ ๕ ประการเป็นไฉน? คือ สัทธินทรีย์
ฯลฯ ปัญญินทรีย์ อินทรีย์ ๕ ประการนี้แล.
[๘๘๓] ดูกรภิกษุทั้งหลาย บุคคลเป็นพระอรหันต์ เพราะอินทรีย์ ๕ ประการนี้เต็มบริบูรณ์

        เป็นพระอนาคามีผู้อันตราปรินิพพายี เพราะอินทรีย์ ๕ ยังอ่อนกว่าอินทรีย์ของพระอรหันต์
        เป็นพระอนาคามีผู้อุปหัจจปรินิพพายี เพราะอินทรีย์ ๕ ยังอ่อนกว่าอินทรีย์ของพระอนาคามีผู้อันตราปรินิพพายี
        เป็นพระอนาคามีผู้มีอสังขารปรินิพพายี เพราะอินทรีย์ ๕ ยังอ่อนกว่าอินทรีย์ของพระอนาคามีผู้อุปหัจจปรินิพพายี
        เป็นพระอนาคามีผู้สสังขารปรินิพพายี เพราะอินทรีย์ ๕ ยังอ่อนกว่าอินทรีย์ของอนาคามีผู้อสังขารปรินิพพายี
        เป็นอนาคามีผู้อุทธังโสโตอกนิฏฐคามี เพราะอินทรีย์ ๕ ยังอ่อนกว่าอินทรีย์ของพระอนาคามีผู้สสังขารปรินิพพายี          

        เป็นพระสกทาคามี เพราะอินทรีย์ ๕ ยังอ่อนกว่าอินทรีย์ของพระอนาคามีผู้อุทธังโสโตอกนิฏฐคามี

        เป็นพระโสดาบัน เพราะอินทรีย์ ๕ ยังอ่อนกว่าอินทรีย์ของพระสกทาคามี
        เป็นพระโสดาบันผู้ธัมมานุสารี เพราะอินทรีย์ ๕ ยังอ่อนกว่าอินทรีย์ของพระโสดาบัน
        เป็นพระโสดาบันผู้สัทธานุสารี เพราะอินทรีย์ ๕ ยังอ่อนกว่าอินทรีย์
ของพระโสดาบันผู้ธัมมานุสารี.

                        จบ สูตรที่ ๕
--------------------------------------------

    ออ... จากที่พอจำได้ในพระอรรถกถา มีที่กล่าวว่า... เป็นดังพระอนาคามีของพระอริยเบื้องต้น ที่ยังไม่ได้บรรลุูธรรมเป็นพระอนาคามีบุคคล แต่ทรงฌานไว้ได้ เมื่อเสียชีวิต ไปเกิดในพรหมโลก ตามชั้นแห่งกำลังฌานแห่งตน ก็จะไม่กลับมาเกิดในโลกมนุษย์ หรือเทวดาอีกเลย ถ้ายังไม่บรรลุเป็นพระอรหันต์ ในพรหมโลกชั้นนั้นๆ เืมื่อสิ้นอายุในพรหมโลกชั้นนั้น ก็จะไปเกิดในพรหมโลกชั้นที่สูงกว่าไปตามลำดับ และจะนิพพานในพรหมโลกใดโลกหนึ่ง ไม่กลับมายังกามภูมิอีกเลย.

   ผมได้เสนอหลักฐานที่มีในพระไตรปิฏก และที่พอรู้ให้ทราบ ท่านผู้อ่านผู้ใดจะสนทนาก็เชิญครับ.

แก้ไขเมื่อ 18 ก.พ. 55 12:56:01

จากคุณ : P_vicha
เขียนเมื่อ : 18 ก.พ. 55 12:51:52




ข้อความหรือรูปภาพที่ปรากฏในกระทู้ที่ท่านเห็นอยู่นี้ เกิดจากการตั้งกระทู้และถูกส่งขึ้นกระดานข่าวโดยอัตโนมัติจากบุคคลทั่วไป ซึ่ง PANTIP.COM มิได้มีส่วนร่วมรู้เห็น ตรวจสอบ หรือพิสูจน์ข้อเท็จจริงใดๆ ทั้งสิ้น หากท่านพบเห็นข้อความ หรือรูปภาพในกระทู้ที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งทีมงานทราบ เพื่อดำเนินการต่อไป



Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com