เรียบเรียงจาก สุตตเปตวัตถุ ในขุททกนิกาย
ก่อนพุทธกาล ในหมู่บ้านตำบลหนึ่ง ไม่ไกลแต่กรุงสาวัตถี เมื่อพระศาสดายังไม่เสด็จอุบัติขึ้นนั้นแล นับย้อนไป ๗๐๐ ปียังมีเด็กชายคนหนึ่งอุปัฏฐากพระปัจเจกพุทธเจ้าองค์หนึ่ง. เมื่อเธอเจริญวัยแล้ว มารดาของเธอจึงไปขอนางกุลธิดาคนหนึ่งมาจากตระกูลที่เสมอกัน เพื่อลูกชาย. ก็ในวันมงคลสมรสนั้นเอง กุมารนั้นไปอาบน้ำกับพวกเพื่อน ถูกงูกัดตายไป. อาจารย์อีกพวกหนึ่งกล่าวว่า ถูกยักษ์จับก็มี.
เธอกระทำกุศลกรรมไว้เป็นอันมาก ด้วยการอุปัฏฐากพระปัจเจกพุทธเจ้า แต่กลับบังเกิดเป็นเวมานิกเปรต คือ เปรตในวิมาน แทนที่จะเกิดเป็นเทวดา เพราะจิตของตนมีจิตปฏิพัทธ์ในเด็กหญิงนั้น จิตที่ทำกุศลไม่ให้ปฏิสนธิในกามสุคติภูมิ เพราะถุกรั้งไว้ด้วยกามราคะในสตรี. แต่เป็นผู้มีฤทธิ์มาก มีอานุภาพมาก.
ลำดับนั้น เธอปรารถนาจะนำนางทาริกา(หญิง)นั้นมายังวิมานของตน จึงคิดว่าด้วยอุบายอะไรหนอ นางจึงจะอภิรมย์ในที่นี้กับเรา ให้เป็นกรรมที่จะต้องอำนวยผลในปัจจุบัน คือ อยากให้นางมาอยู่ร่วมในวิมาน แต่คิดว่า นางต้องทำบุญก่อน นางจึงจะได้มา จึงพิจารณาถึงเหตุที่ให้ได้เสวยโภคสมบัติอันเป็นทิพย์นั้น เห็นพระปัจเจกพุทธเจ้ากำลังทำจีวรกรรมอยู่ จึงแปลงรูปเป็นคนไปไหว้ แล้วกล่าวว่า ท่านขอรับ ท่านต้องการด้ายหรือ.
"พระปัจเจกพุทธเจ้าตอบว่า เราจะทำจีวรกรรม อุบาสก"
เวมานิกเปรตนั้นจึงกล่าวว่า ข้าแต่ท่านผู้เจริญ ท่านจงเที่ยวขอด้ายในที่ชื่อโน้นดังนี้แล้วได้ชี้เรือนของนางทาริกานั้น. พระปัจเจกพุทธเจ้าได้ไปในที่นั้น ได้ยืนอยู่ที่ประตูเรือน.
ลำดับนั้น นางเห็นพระปัจเจกพุทธเจ้ายืนอยู่ในที่นั้น มีจิตเลื่อมใส รู้ว่าพระผู้เป็นเจ้าของเรามีความต้องการด้าย จึงได้ให้ด้ายกลุ่มหนึ่ง.
ลำดับนั้น อมนุษย์คือเปรตนั้นได้แปลงเพศเป็นมนุษย์ ไปยังเรือนของนางทาริกา อ้อนวอนมารดาของนางแล้ว อยู่กับนาง ๒-๓ วัน เพื่อจะอนุเคราะห์มารดาของนาง จึงทำภาชนะทุกอย่างในเรือนนั้น ให้เต็มด้วยเงินและทองแล้วเขียนชื่อไว้ข้างบนภาชนะทั้งหมดนั้น มีอันให้รู้ว่านี้เป็นทรัพย์ที่เทวดาให้ใครๆ ไม่สามารถเอาไปได้ ดังนี้ จึงได้พาเด็กหญิงนั้นไปยังวิมานตน.
มารดาของนางได้ทรัพย์เป็นอันมาก ได้ให้แก่พวกญาติของตน แก่คนกำพร้าและคนเดินทางเป็นต้น ส่วนตนเองบริโภคแล้ว เมื่อจะตาย จึงแจ้งแก่ญาติทั้งหลายว่า ถ้าลูกสาวของเรามา ท่านจงให้ทรัพย์นี้ แล้วได้ตายไป.
จากคุณ |
:
Serene_Angelic
|
เขียนเมื่อ |
:
18 ก.พ. 55 20:42:41
|
|
|
|