ศาสนาอิสลามในภูมิภาคเอเชียกลาง
ภูมิภาคเอเชียกลางเป็นอีกดินแดนหนึ่งที่รุ่มรวยด้วยความหลากหลาย ทางวัฒนธรรม ความเชื่อและศาสนา ดินแดนแห่งนี้แต่เดิมเป็นศูนย์กลางทางการค้าด้วยเส้นทางสายไหม (Silk Road) ที่เชื่อมระหว่างจีน อินเดีย และภูมิภาคยุโรปเข้าด้วยกัน การค้าขายดังกล่าวได้นำพาอิทธิพล ของพระพุทธศาสนาแผ่ขยายเข้าสู่ภูมิภาคเอเชียกลางตั้งแต่ศตวรรษที่ 2 ทั้ง นี้อิทธิพลของพระพุทธศาสนาได้ขยายตัวอย่างกว้างขวางจนเกิดเป็นแหล่งอาณาจักร พุทธโดยปรากฏพุทธสถานและปูชนียสถานอยู่เป็นจำนวนมากทั้งวัด อาราม สถูป ภาพจิตรกรรม ประติมากรรม คัมภร์ เอกสารจดหมายเหตุต่างๆ ที่บันทึกด้วยภาษาบาลี สันสกฤต โขรฐี และภาษาจีน อันเกิดจากการผสม ผสานทางวัฒนธรรมผ่านเส้นทางการค้าในภูมิภาคดังกล่าว อาทิ พระพุทธรูปแห่งบามิยัน (Buddhas of Bamiyan) สูง 53 เมตรในประเทศอัฟกานิสถาน เป็นต้น
กระทั่ง ช่วงกลางศตวรรษที่ 7 อิทธิพลของพุทธศาสนาจึงเริ่มเสื่อมลงพร้อมๆ กับการเสื่อมของเส้นทางสายไหม แทนที่ด้วยอิทธิพลของศาสนาอิสลามจากเปอร์เซียที่เริ่มแผ่ปกคลุมเหนือผืนดินเอเชียกลางตลอดช่วงศตวรรษที่ 8 กล่าวคือศาสนาอิสลามได้เข้ามีอิทธิพลต่อวิถีชีวิตผู้คนโดยเฉพาะ อย่างยิ่งต่อชนชั้นปกครองผ่านหลักคำสอนและขนบธรรมเนียมประพฤติปฏิบัติ ภูมิภาคเอเชียกลางเริ่มเปลี่ยนแปลงเป็นศูนย์กลางการ ศึกษาศาสนาอิสลาม โดยมีขุมความรู้ที่สำคัญยิ่งที่เมืองบุคคารา (Bukara) ปัจจุบันอยู่ในประเทศอุซเบกิสถานซึ่งนอกจากจะเป็น สถานที่เกิดของอิมามบุคอรีผู้รวบรวมหะดีษ (Hadith) ผู้มีชื่อเสียงในโลกมุสลิมแล้ว ยังเป็นแหล่งกำเนิดนักวิชาการอีกหลากหลายสาขา อาทิ Avicena นักวิทยาศาสตร์ชาวมุสลิม ผู้โด่งดัง Bahauddin Naqshaband ผู้ก่อตั้งสำนักคิดซูฟี (Sufi) อีกด้วย ทั้งยังปรากฏหลักฐานเอกสารตำราภาษากรีก เปอร์เซีย และอาหรับอีกเป็นจำนวนมาก จึงอาจกล่าวได้ว่าด้วยการซึมซับวัฒนธรรมและศาสนาอิสลามอย่างต่อเนื่องตลอดช่วง ศตวรรษที่ 8 15 ภูมิภาคเอเชียกลางได้เปลี่ยนผ่านทางศาสนาจากพุทธสู่อิสลามโดยบริบูรณ์
ในอีกด้านหนึ่งการค้าขายกับภูมิภาคยุโรปก็ได้นำพาคริสตศาสนาเข้าสู่ภูมิภาคเอเชียกลางด้วยเช่นเดียวกันผ่านการเผยแผ่ศาสนาของมิชชันนารี อย่างไรก็ตามอิทธิพลของศาสนาคริสต์ส่วนใหญ่แพร่หลายในบางประเทศในบริเวณฝั่งตะวันตกของทะเลแคสเปียน (Caspian Sea) โดยเฉพาะอย่างยิ่งประเทศอาร์เมเนีย และแผ่ขึ้นเหนือไปทางรัสเซีย ทำให้ประชากรกลุ่มประเทศในเอเชียกลางส่วนใหญ่ยังคงนับถือศรัทธาในศาสนาอิสลามนับแต่นั้นเป็นต้นมา ประชาการส่วนใหญ่นับถือนิกายซุนนี่ (Sunni) โดยยังมีผู้นับถือนิกายชีอะฮ์ (Shia) อยู่เช่นกันแม้เป็นส่วนน้อยเช่นในประเทศทาจิกิสถาน และอัฟกานิสถาน เป็นต้น
เมื่อโลกเปลี่ยนผ่านเข้าสู่ยุคสมัยใหม่ที่กระแสการเมืองระหว่างประเทศไหลเชี่ยวกรากและรุนแรง ศาสนาในกลุ่มประเทศภูมิภาคเอเชียกลางได้รับผลกระทบกระเทือนจากการเมืองระหว่างประเทศด้วยเช่นกัน โดยครั้นสมัยสหภาพโซเวียตภายใต้การนำของรัสเซียด้วยนโยบายปรับเปลี่ยนให้เป็นรัสเซียอย่างเข้มงวด (Russification) คือพยายามส่งเสริมพลักดันให้ประเทศบริวารในกลุ่มสหภาพโซเวียตมีวิถีและขนบธรรมเนียมแบบรัสเซียผ่านการศึกษา และการปรับเปลี่ยนทางสังคม อาทิ ยกเลิกการเรียนการสอนภาษาถิ่น ผลักดันการใช้ภาษารัสเซีย การเปลี่ยนโรงเรียนศาสนาเป็นพิพิธภัณฑ์ การกดดันมิให้เผยแพร่ขนบธรรมเนียมท้องถิ่น ฯลฯ อันเป็นอุปสรรคสำคัญต่อการศึกษาแลกเปลี่ยนคติความเชื่อและอุดมการณ์ทางศาสนาของผู้คนในกลุ่มประเทศภูมิภาคเอเชียกลาง โดยมีเครื่องบ่งชี้ว่าในช่วงหนึ่งศาสนาดั้งเดิมรวมถึงศาสนาอิสลามในภูมิภาคนี้ไม่อาจเผยแผ่คำสอนได้อย่างเปิดเผย ปรากฏโรงเรียนสอนศาสนาอย่างลับๆ และตำราศาสนาถูกตรวจสอบอย่างเคร่งครัด เนื่องจากกิจการศาสนาถูกกำกับโดยรัฐบาลสหภาพโซเวียต ณ ขณะนั้น
จวบจนช่วงปลายปี ค.ศ. 1986 เมื่อนโยบายปรับเปลี่ยนให้เป็นรัสเซียอย่างเข้มงวด (Russification) เบาบางลงเนื่องด้วยสหภาพโซเวียตเริ่มมีนโยบายเปิดกว้าง (Glasnost) อุปสรรคที่มีต่อการนับถือศาสนาจึงผ่อนคลายความเข้มงวดลงเป็นลำดับโดยศาสนาอิสลามยังคงเป็นศาสนาหลักที่รอดพ้นจากกระแสการเมืองระหว่างประเทศอันเชี่ยวกรากและหยั่งรากลึก ณ ที่ดินแดนแห่งนี้ แม้ว่าผลของการปกครองในระบอบสหภาพโซเวียตจะก่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลงต่อความเคร่งครัดในศาสนพิธีและความห่างเหินของศาสนิกชนจากหลักความเชื่อ และหลักปฏิบัติศาสนาก็ตาม
ทว่าในปัจจุบันภูมิภาคเอเชียกลางก็ยังคงเต็มเปี่ยมไปด้วยการผสมผสานความเชื่อ และศาสนา ประวัติศาสตร์ที่ผ่านมาได้เผยให้เห็น ความน่าสนใจอย่างยิ่งต่อภูมิภาคนี้ว่า ณ ผืนดินแห่งนี้แม้เคยได้รับอิทธิพลจากศาสนาพุทธแผ่เข้าปกคลุม เฟื่องฟูและเสื่อมถอย ได้รับอิทธิพลจากศาสนาอิสลามเข้าแทนที่โดยบริบูรณ์และพบกับอุปสรรคจากบริบททางสังคมการเมือง แต่ก็ยังสามารถเก็บกลิ่นอายแห่งความหลากหลายไว้ได้ โดยเมื่อพิจารณาจากภูมิศาสตร์แล้ว พบว่าปัจจุบันเอเชียกลางฝั่งตะวันออกและบริเวณใกล้ๆ กับประเทศจีนและมองโกเลียยังคงหลงเหลือร่องรอยพุทธศาสนา เอเชียกลางตอนใต้มีขนบธรรมเนียมแบบอาหรับเปอร์เซียอย่างเข้มแข็ง ในขณะที่ทางตอนเหนือ เช่นตอนเหนือของประเทศคาซัคสถานจรดรัสเซีย ไปจนถึงภูมิภาคเอเชียกลางฝั่งตะวันตกข้ามทะเลแคสเปียนไปถึงอาณาบริเวณเทือกเขาคอเคซัส (Caucasus) ก็เผยให้เห็นทั้งศาสนาคริสต์และอิสลามอยู่ด้วยกัน สะท้อนถึงความรุ่มรวยทางสังคม วัฒนธรรมของภูมิภาคเอเชียกลางได้เป็นอย่างดี
แก้ไขเมื่อ 18 ก.พ. 55 21:04:40