|
หน้า 61
จิต คือ ผู้นึก ผู้คิด คิดแส่ส่ายไปต่าง ๆ นานา ที่นี้คิดนึกไม่คิดนึกเฉย ๆ ไปกระทบเอาดีบ้าง ไปกระทบเอาชั่วบ้าง ก็เลยถือเอาดี เอาชั่วว่าเป็นตนเป็นตัว นี่ถ้าเป็นเช่นนี้ หากไปทางดีก็ดีง่าย หากไปทางชั่วก็ดียากแก้ไข
บัณฑิตนักปราชญ์ , ท่านเอาสติมาคุมจิต ให้จิตอยู่ที่ จิตอยู่นิ่งเท่าไหร่ยิ่งดี เพราะ ปัญญาจะได้เพิ่มมากขึ้น ความรู้เท่าก็มากตามเท่านั้น
ผู้มีปัญญาจิตไปกระทบสิ่งใด ๆ แล้วท่านไม่เป็นทุกข์ ไม่เดือดร้อน ไม่หวั่นไหว ไม่ดิ้นรน ท่านคิดค้นรู้เหตุผลแล้ว ก็ปล่อยวางไว้หมด เพราะจิตท่านเป็นกลางได้แล้ว ................................................................................................. หน้า 62
บุญไม่เป็นตนไม่เป็นตัว บาปไม่เป็นตนไม่เป็นตัว ใจไม่เป็นตนไม่เป็นตัว
แต่... เป็นของมีฤทธิ์ มีอำนาจ
คือ... มีอยู่แต่ไม่ใช่ตนไม่ใช่ตัว
จึงว่า... โลกเป็นของมีอยู่ แต่ หาสาระอะไรมิได้สักอย่างสักอัน คือ มีแล้วไม่เป็นอะไร ไม่ได้อะไร ส่วน... ธรรมนั้นรู้ได้แต่ท่านผู้ได้ ผู้ถึงแล้วเท่านั้น คือ ไม่มีในโลกของผู้ที่ยังไม่เห็น มีไว้ มีอยู่สำหรับผู้ได้ ผู้ถึง จึงว่า สพฺเพธมฺมา อนตฺตาติ ............................................................................. หน้า 63
เกิด แก่ เจ็บ ตาย มันเป็นอยู่มีอยู่ทุกขณะ แต่..ทำไมเราไม่รู้ไม่เห็น
อนิจจัง ทุกขัง อนัตตา มันก็แสดงเหตุปัจจัยตามเรื่องตามราวของมันอยุ่ทุกขณะ แต่..ทำไมเราไม่รู้ไม่เห็น
นี่เป็นเพราะอะไร พิจารณาเข้าสิ อย่าอยู่เฉย ๆ อยู่เฉยมันไม่ได้อะไรน่ะ
ทุกขณะ ทุกลักษณะมันก็อยู่ในตัวเราคนเดียวนี้ จะเห็นได้ก็ด้วยใจของตน ต้องพิจารณาต่อเนี่อง สม่ำเสมอ ................................................................................................ หน้า 64
เอกายโน มคฺโค วิสุทฺธิยา
ศีล ความสงบปกติ สมาธิ ใจตั้งมั่น ปัญญา ความรู้ความจริงแจ้งจริง เป็นหนทางสายเอก
เป็นเส้นทางเดียว ทางเดินที่จะพาให้เราพ้นทุกข์ได้
สุทธิ อสุทธิ ความบริสุทธิ์ ก็อาศัยไตรสิกขานี้ ความไม่บริสุทธิ์ อันนี้มีอยู่เป็นอยู่ก็อาศัยธรรมเหล่านี้เองเป็นเครื่องชำระได้หมดจด
พระพุทธเจ้าทั้งหลายที่ตรัสมาแล้วในโลก หรือแม้แต่จะมาตรัสเป็นพุทธะอีกต่อไปเมื่อหน้า ก็มาว่า - ศีลเป็นของเก่านี้ - สมาธิเป็นของเก่านี้ - ปัญญาเป็นของเก่านี้
เราตั้งใจเดี๋ยวนี้ ก็มาใส่ใจในของเก่าที่ไม่ล้าสมัย .......................................................................................... หน้า 65
จิตมิใช่อารมณ์ อารมณ์มิใช่จิต แต่อาศัยจิตนึกคิดจึงเป็นอารมณ์
พอเป็นอารมณ์ ก็เข้าไปยึดเอาอารมณ์ เพราะเห็นอารมณ์ก็เป็นสาระของดิบของดี
จึงให้เปลี่ยนจากอารมณ์ของโลกมาเป็นอารมณ์ของธรรม ให้เอา "พุท-โธ" เป็นอารมณ์ ให้จิตคิดนึกรู้อยู่กับแต่ "พุท-โธ" เพื่อล่อจิต - ผูกจิต - ดึงจิต - ตั้งจิต ให้อยู่ เมื่อ จิตตั้งอยู่แล้ว - สุขเกิดขึ้น - ปิติเกิดขึ้น - อุเบกขาเกิดขึ้น - เอกัคคตาเกิดขึ้น รวมเรียกว่าฌาณเกิดขึ้น จิตตั้งในองค์ฌาณ - จิตสงบในองค์ฌาณ จะหนีจากฌาณ ก็ไปเดินวิปัสสนา จะไปได้หรือไม่ก็สุดแท้แต่ปัญญา
จากคุณ |
:
ebusiness
|
เขียนเมื่อ |
:
23 ก.พ. 55 09:02:17
|
|
|
|
|