ศาสดามุฮัมมัดกับแบบอย่างทางการเมือง.
ศาสดามุฮัมมัดผู้รับใช้มวลชน
ท่านนบีมุฮัมมัด กล่าวไว้ความว่า ผู้นำนั้นคือผู้รับใช้ประชาชน และท่านกล่าวอีกความว่า
ความวิบัติจะมีแก่บรรดาผู้ปกครอง พวกผู้นำและบรรดาผู้ที่ได้รับความไว้วางใจในวันแห่งการฟื้นคืนชีพ จะมีบางคนอยากหยุดอยู่ระหว่างสวรรค์และโลกมากกว่าที่จะแบกความรับผิดชอบ (อิบนุฮิบบาน-ฮากิม)
ท่านนบีมุฮัมมัด แม้จะมีอำนาจทางการเมืองมาก แต่มิเคยใช้ไปเพื่อพวกพ้องและในทางที่ผิดคุณธรรม ครั้งหนึ่งประชาชนมาร้องเรียนขอให้ลดหย่อนโทษที่ทำผิดกฎหมายบ้านเมือง ท่านตอบความว่า
ขอสาบานต่ออัลลอฮ์ แม้ฟาติมะห์บุตรของฉันลักขโมย ฉันจะตัดมือของนางให้พวกท่านดู
ศาสดามุฮัมมัดผู้รักความเป็นธรรม
ท่านนบีมุฮัมมัด กล่าวความว่า อย่ามาขอให้ฉันเป็นพยานในเรื่องที่ไม่เป็นธรรม ลูกๆของท่านมีสิทธิที่จะได้รับการปฏิบัติอย่างเท่าเทียมกัน เช่นเดียวกับที่ท่านมีสิทธิที่จะได้รับการให้เกียรติจากลูกๆของท่าน (อบูดาวูด)
ท่านนบี กล่าวความว่า
ฉันไม่สามารถที่จะเป็นพยานให้แก่สิ่งอื่นใดนอกจากความยุติธรรม (อิบนุฮิบบาน)
จงเกรงกลัวอัลลอฮ์และปฏิบัติต่อลูกๆของท่านด้วยความยุติธรรมอย่างเท่าเทียมกัน (บุคอรี-มุสลิม)
ท่านนบี กล่าวความว่า
เชื้อสายของท่านมิได้เป็นเหตุที่จะไปด่าว่าใคร ท่านทั้งหมดเป็นลูกของอาดัม ไม่มีใครเหนือกว่าใคร ยกเว้นในเรื่องของศาสนาและความยำเกรงอัลลอฮ์ (อะหมัด)
ศาสดามุฮัมมัดผู้พิทักษ์ประชาชน
ท่านนบีมุฮัมมัด กล่าวความว่า
ใครก็ตามที่เชื่อในอัลลอฮ์และวันสุดท้าย จะต้องไม่เข้าห้องน้ำสาธารณะโดยไม่มีผ้าปกปิดร่างกายส่วนล่างไว้ และใครก็ตามที่เชื่อในอัลลอฮ์และวันสุดท้าย จะต้องไม่ปล่อยให้ภรรยาของเขาไปอาบน้ำในที่สาธารณะ (นะซาอี-อัตติรมิซีย์)
ในช่วงวัยหนุ่มที่ท่านนบี ได้เข้าร่วมกับองค์การพิทักษ์สาธารณภัย-สหพันธ์ฟูดุ้ล เป็นการทำงานเพื่อส่วนรวม เมื่อท่านนบีอายุ 35 ปีได้มีบทบาทสำคัญในการมิให้เกิดการวิวาทระหว่างเผ่าของชาวอรับ เมื่อพวกเขามีข้อขัดแย้งว่าใครควรจับหินดำไปไว้ที่กะอ์บะห์ เพราะต่างก็ต้องการจะรับหน้าที่อันสำคัญนั้น จนตกลงกันให้ผู้ที่เดินผ่านเข้ามาคนแรกเป็นผู้ชี้ขาด
ซึ่งปรากฏว่าเป็นท่านนบีมุฮัมมัด ที่เดินผ่านเข้ามา ท่านก็ใช้กลวิธีอันชาญฉลาด โดยให้หัวหน้าทุกเผ่ามีส่วนร่วมกันทุกคนจับชายผ้ายกหินดำไปวางใกล้ๆ แล้วท่านนบีเป็นผู้นำหินดำไปวางไว้เอง นี่แสดงถึงอัจฉริยะของท่านอย่างยิ่ง
ศาสดามุฮัมมัดผู้ดูแลทุกศาสนา
ท่านนบีมุฮัมมัด กล่าวความว่า
นี่ท่านมิได้ดีกว่าคนขาวหรือคนดำเว้นเสียแต่ว่าท่านจะดีกว่าในแง่การกลัวอัลลอฮ์" เช่น ซัยยิดนาบิล้าล อิบนิรอบาห์ ทาสผิวดำชาวอบิสซิเนีย-เอธิโอเปียที่มีศรัทธาต่ออัลลอฮ์อย่างหนักแน่น แม้ผู้เป็นนายจะทรมานให้เลิกนับถืออิสลามก็ไม่สำเร็จ จนได้รับแต่งตั้งเป็นผู้ประกาศเชิญชวนสู่การละหมาดคนแรกของโลกอิสลาม-มุอัซซิน''
ท่านนบี กล่าวความว่า
ท่านทั้งหมดเป็นลูกของอาดัมและอาดัมถูกสร้างมาจากดิน (บัซซาร) และท่านเคยกล่าวเสมอว่าคนอรับไม่ได้เหนือกว่าคนชาติอื่น หากแต่ขึ้นอยู่กับว่าใครมีความยำเกรงต่ออัลลอฮ์มากกว่ากัน
แก้ไขเมื่อ 23 ก.พ. 55 20:50:04