ความคิดเห็นที่ 1 พระพุทธองค์ ทรงอนุญาตให้ใช้บาตรเหล็กกับบาตรดิน 2600 แล้ว ยังจะเหลืออีกหรือครับ ต้องรอผู้รู้ท่านอื่น จากคุณ : สู่ฝัน...อันยิ่งใหญ่ เขียนเมื่อ : 3 มี.ค. 55 23:13:26

ความคิดเห็นที่ 2 พระ ตั๊กม้อ นำไปจีน ครับ เพื่อเผยแพร่ พุทธศาสนา จากคุณ : หล่อรวยโสด เขียนเมื่อ : 4 มี.ค. 55 00:00:30

ความคิดเห็นที่ 3 ถ้าจำไม่ผิด บาตร ให้แก่ พระมหากัสสปะ ส่งต่อไปที่จีน แล้วก็สุดท้ายไปอยู่ที่เว่ยหลาง ถ้าจำผิด แก้ด้วยนครับ จากคุณ : ฟก (Ant-san) เขียนเมื่อ : 4 มี.ค. 55 00:19:36

ความคิดเห็นที่ 4 เป็นโบราณวัตถุในตำนาน ในระดับที่ฝรั่งเอาไปสร้างหนังประเภทตามล่าหาขุมทรัพย์กันเลยทีเดียวเชียว ลอง search ใน Internet ด้วยคำว่า "Buddha's Begging Bowl" หรือ "Buddha's Alms Bowl" ดูครับ มับทความให้อ่านสนุกดีเหมือนกัน ป.ล. แต่บาตรใบที่อยู่ในพิพิธภัณฑ์ เมือง Kabul นั้นผมไม่เชื่อว่าจะเป็นบาตรของพระพุทธเจ้าอ่ะครับ ใบใหญ่เกิ๊น จากคุณ : จันทร์สะท้อนเงา เขียนเมื่อ : 4 มี.ค. 55 00:21:02

ความคิดเห็นที่ 5 เรื่องที่เชื่อกันว่า พระพุทธเจ้าทรงมอบบาตรและีจีวรให้พระมหากัสสปะ นั้น เป็นตำนานที่นิกายเซนท่านผูกขึ้นมาเอง เพื่อเสริมความน่าเชื่อถือของนิกาย ไม่มีข้อยืนยันทางประวัติศาสตร์ มีบางตำนานกล่าวถึงบาตรของพระผู้มีพระภาคเจ้า ว่า ได้ทรงมอบให้กับชาวเกสปุตตนิคม ซึ่งต่อมาได้มีการสร้างสถูปบรรจุไว้ (เป็นบริโภคเจดีย์) ปัจจุบัน สถูปนี้ถูกขุดค้นพบที่เมืองใกล้กับกุสินารา สถูปนี้ชื่อว่า สถูกเกสเรีย , เกสริยา และเป็นพระสถูปที่มีขนาดใหญ่มาก เป็นต้นแบบการสร้างสถูปแบบเดียวกับ พระมหาสถูปบุโรพุทโธ ที่อินโดนีเซีย แก้ไขเมื่อ 04 มี.ค. 55 01:47:04 จากคุณ : chohokun เขียนเมื่อ : 4 มี.ค. 55 01:46:41

ความคิดเห็นที่ 6 ไม่มีหลักฐานว่ามีอยู่จริงใน British Museum จากคุณ : Nexus เขียนเมื่อ : 4 มี.ค. 55 04:24:24

ความคิดเห็นที่ 7 ...ก็ว่ากันไป กุเรื่องยกเมฆกันไป .... ทำนองพระธาตุโลหิต หรือดวงพระเนตรของพระพุทธเจ้า   ...อย่าไปเชื่ออะไรที่ งมงาย เลอะเทอะ จากคุณ : โขตาน เขียนเมื่อ : 4 มี.ค. 55 09:27:13

ความคิดเห็นที่ 8 ผมเชื่อว่า อาจจะเป็นของที่คนรุ่นหลังทำจำลองขึ้นครัับ ในฐานะชาวพุทธบูชาเพื่อระลึกถึงพระพุทธเจ้าได้ครับ แต่ถ้าถามว่าเป็นของจริงหรือเท็จก็ต้องพิสูจน์กันก่อน แก้ไขเมื่อ 04 มี.ค. 55 11:20:48 จากคุณ : Pongkm (Pongkm) เขียนเมื่อ : 4 มี.ค. 55 11:19:45

ความคิดเห็นที่ 9 บาตรของพระพุทธเจ้า พระอานนท์เป็นผู้ใช้ต่อ พุทธศาสนิกชนเวลามองเห็นบาตรในมือของพระอานนท์ก็จะน้ำตาซึม เสมือนได้เห็นองค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้า ทางเถรวาทกล่าวว่าบาตรของพระพุทธองค์ เดิมสถิตอยู่ที่เจดีย์ในเมืองปาฏลีบุตร ภายหลังไปอยู่ที่เมืองลังกาทวีป อ้างอิง http://www.dhammathai.org/buddha/g47.php ทางมหายานกล่าวว่าพระเจ้ากนิษกะทรงสร้างบริโภคเจดีย์บรรจุบาตรของพระพุทธเจ้าไว้ในนั้น ณ เมืองเปษวาร ภายหลังย้ายบาตรอันเป็นบริโภคเจดีย์นี้ไปประดิษฐานไว้ที่เืมืองกานดาหา (กันดาฮ่าร์ อัฟกานิสถาน - Kandahar Afghanistan) และว่าชนชาวอิสลามในที่นั้นยังคงรักษาอยู่จนทุกวันนี้ อ้างอิง http://www1.mod.go.th/heritage/nation/dictionary/dict2.htm จากคุณ : คืนวันอันแสนดี เขียนเมื่อ : 4 มี.ค. 55 11:25:01

ความคิดเห็นที่ 10 ในหลักฐานที่เป็นภาพวาด ที่เก่าแก่มาก ๆ ในอินเดีย ที่ถ้ำอชันตา (หลังพุทธกาลเพียงไม่กี่ร้อยปีเอง) ซึ่งถือว่า เป็นภาพที่อยู่ในระยะเวลาที่ใกล่เคียงกับยุคพุทธกาลมากที่สุด เรียกว่า ผ่านช่วงอายุคนมาเพียงไม่กี่รุ่นเอง ก็ยังคงเล่านขาน ปากต่อปากกันมาได้  โดยในภาพเขียนนั้น เท่าที่ผมสังเกตดูนะครับ  ทุก ๆ ภาพ จะเห็นบาตรที่พระพุทธองค์ทรงถืออยู่นั้น (บางภาพเห็นทรงถือบาตรด้วยพระหัตถ์เพียงข้างเดียว เหมือนเรายื่นภาชนะไปให้ใครสักคน เอาอาหารมาใส่ให้เรา)  เท่าที่สังเกต บาตรนั้น จะเป็นบาตรดิน มีลักษณะคล้าย ๆ ถ้วยดิน ปากกว้าง ก้นตื้น เสียมากกว่า   ไม่ได้เหมือนรูปทรงของบาตรจริง ๆ ในปัจจุบันเลย  หากท่านใดมีเวลาว่าง ๆ ก็ลองบินไปดู ที่ถ้ำออชันตา นะครับ ค่าเครื่องบินไม่เท่าไหร่หรอกครับ  ท่านบินไปลงที่เมืองมุมไบ (บอมเบย์) จากนั้นต่อเครื่องไปลงที่ เมืองออรังคาบาด  แล้วไปเที่ยวที่ถ้ำอชันตา และแอลโลร่า ซึ่งเป็นถ้ำที่สร้างโดยฝีมือมนุษย์ (พระในพุทธศาสนา)  ที่มีชื่อเสียงที่สุดในโลก ก็ว่าได้  ถูกดินและป่ารกฝังกลบ มานานนับพันปี  เพิ่มมาถูกค้นพบ เมื่อสมัยที่อังกฤษเข้ามายึดครอง เมื่อร้อยกว่าปีนี่เอง  และมีจำนวนถ้ำที่ สร้างขึ้น อย่างวิจิตรพิศดาร มากมายเป็นร้อย ๆ ถ้ำ (รวมทั้งถ้ำแอลโลร่าด้วย)  ครับ ผมเพียงสงสัยว่า บาตร ของพระพุทธองค์ ซึ่งเป็นบาตรดิน หรือเป็นแค้ถ้วยดินเผานั้น จะยังคงหลงเหลือมาถึงปัจจุบันเชียวหรือครับ จากคุณ : รถเรณู เขียนเมื่อ : 6 มี.ค. 55 11:32:51

ความคิดเห็นที่ 11 เครื่องปั้นดินเผาอายุมากกว่านัน้ที่ยังหลงเหลืออยู่ในปัจจุบันมีตั้งเยอะตั้งแยะ ถ้าบาตรพระพุทธเจ้าจะยังไม่แตกหักไปก็ไม่ใช่เรื่องแปลก แต่มันไม่มีหลักฐานไม่ว่าจะร่วมสมัยหรือสมัยใกล้ๆเลยนี่สิว่าอยู่ที่ไหน จากคุณ : Nexus เขียนเมื่อ : วันมาฆบูชา 55 17:06:36