ครั้งหนึ่ง ขณะที่นั่งพิจารณาเวทนานุปัสสนา ก็พิจารณาว่า เมื่อได้ความสุขจากฌาน ย่อมแสวงหาความสุขนั้นเนืองๆ และจิตเริ่มละทิ้งความสุขที่อิงอามิสมากขึ้นเรื่อยๆ เห็นสาวก็เฉย กินอะไรอร่อยก็เฉย มันเฉยๆ
ฌานนั้น มีอาการขึ้นๆลงๆ ตามสภาวะศีลสภาวะธรรม ตามธรรมดาของพระไตรลักษณ์ แรกๆก็มีอาการหงุดหงิดใจ เอ... มันถอยหน้าถอยหลังน่ารำคาญ ก็พอดีได้มีโอกาสฟังธรรมะประดับจิต ท่านกล่าวไว้ว่า ฌานโลกีย์นั้นไม่แ่น่ไม่นอน ถ้าร่างกายป่วยไข้ไม่สบาย มันก็ทรุดได้เหมือนกัน ดังนั้น เมื่อทำสมาธิจิตเป็นสุขได้แค่ไหน พอใจแค่นั้น ไอ้อารมณ์พอใจแค่นั้นนี่มันสบายนะ
จากนั้นทำแค่ไหนเอาแค่นั้น แล้วก็ต่ออัปปมัญญา มันก็ยิ่งสบายเข้าไปใหญ่ ธรรมะนี่มันมีตามลำดับ จะกระโดดไปเลยกพลาดท่าได้ง่ายๆ มีสุขยิ่งกว่าไปเรื่อยๆ ต้องค่อยๆไต่ไป สุขจากโลกุตระยังไม่ได้ ก็ต้องให้ได้สุขจากฌานเพื่อละกามคุณทั้ง ๕ ไม่แน่ไม่นอน วอบแวมๆบ้างก็ยังดี
จากคุณ |
:
kiarati
|
เขียนเมื่อ |
:
6 มี.ค. 55 06:23:04
|
|
|
|