ความคิดเห็นที่ 1 ปี พ.ศ.2518 เกิดการชุมนุมครั้งประวัติศาสตร์ของชาวมุสลิมภาคใต้เพื่อขอความเป็นธรรมกรณีชาวมุสลิม 5 คน ถูกเจ้าหน้าที่ของรัฐอุ้มฆ่าทั้งที่การชุมนุมเกิดขึ้นเพราะสาเหตุนี้ แต่คนของรัฐกลับบิดเบือนข้อมูล... ประท้วงเพื่อแบ่งแยกดินแดน มีขบวนการพูโลหนุนหลัง และมีการตอบโต้รุนแรงถึงขั้นระเบิดเวทีชุมนุมหน้าศาลากลางจังหวัดปัตตานี ทำให้ชาวมุสลิมตายไปอีก 12 คน การชุมนุมยุติเมื่อรัฐบาลส่งนายปรีดา พัฒนถาบุตร รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ลงไปเจรจา รัฐบาลยอมย้ายค่ายทหารที่ก่อเหตุอุ้มฆ่าไปอยู่ที่อื่น และยอมชดใช้ค่าเสียหายให้ญาติผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บ ข้อเรียกร้องเรื่องให้จับเจ้าหน้าที่ทำความผิดฆ่า 5 ศพมาลงโทษ และถอนทหารออกจาก 3จังหวัดภาคใต้...ไม่สามารถปฏิบัติได้ ถ้าประท้วงเพื่อหวังแบ่งแยกดินแดนตามที่คนของรัฐกล่าวหา...เงื่อนไขแค่นี้ไม่น่ายุติการประท้วงได้...ทำไมชาวมุสลิม 3 จังหวัดภาคใต้ถึงยอมรับเงื่อนไขเพียงน้อยนิด? "สังคมยุคนั้น อย่าว่าแต่ชาวมุสลิมถูกอุ้มฆ่าอย่างไม่เป็นธรรมเลย คนไทยพุทธเองในภาคอื่นๆ ในภาคอีสานก็ถูกอุ้มฆ่าแบบไม่มีเหตุผลมากมาย หลังเหตุการณ์ 14 ตุลา ด้วยข้อหาเป็นคอมมิวนิสต์  ขนาดไทยพุทธ ยังหาความเป็นธรรมจากชาวพุทธด้วยกันไม่ได้ แล้วชาวมุสลิมจะไปหวังเรียกร้องอะไรมาก ยุคนั้นชาวมุสลิมรู้สึกอย่างนั้น" นายไพศาล พรหมยงค์ รองเลขาธิการคณะกรรมการกลางอิสลามแห่งประเทศไทย ให้เหตุผล "ประกอบกับข่าวสารที่ออกมามีการบิดเบือน ทำให้คนไทยทั้งประเทศเข้าใจผิด คิดว่าประท้วงเพื่อแบ่งแยกดินแดน ผู้นำการประท้วงเลยตัดสินใจรับเงื่อนไขเล็กน้อย เพราะชาวมุสลิมยุคนั้นรู้ฐานะ ไม่สามารถจะไปต่อสู้เรียกร้องจากรัฐได้มากกว่านี้ ได้แค่นี้ก็ดีแล้ว" จากคุณ : พี่จิม (Jimbovy) เขียนเมื่อ : 8 มี.ค. 55 13:16:34

ความคิดเห็นที่ 2 นายไพศาล อธิบายว่า ยุคนั้นเป็นยุคมืด ยุคเผด็จการ...ไม่เหมือนยุคปัจจุบัน ที่หลายอย่างเปลี่ยนไปในทางที่ดีขึ้น "วันนี้...ถึงจะยังมีคนกล่าวหาว่ามุสลิมแบ่งแยกดินแดน ยังมีคนที่กล้าออกมาพูดให้สังคมเห็นว่าไม่ใช่เรื่องจริง แม้กระทั่งนักวิชาการไม่ใช่มุสลิมก็ยังออกมาพูด ผิดกับสมัยก่อนไม่มีใครกล้าพูด และสื่อยุคนี้ก็มีความเป็นกลาง เป็นธรรมมากกว่าในอดีต" สถานการณ์แบ่งแยกดินแดนนับแต่ปี 2519 หลังเหตุการณ์ชุมนุมประท้วงครั้งประวัติศาสตร์ยุติ...เหตุร้ายครั้งใหญ่แทบไม่เกิดขึ้นเลย ความรุนแรงค่อยๆ ทยอยซาลงทีละน้อย สาเหตุคงเป็นเพราะผลการปราบปรามของเจ้าหน้าที่และนโยบาย เจรจาให้มอบตัว ผนวกกับความขัดแย้งในขบวนการแบ่งแยกดินแดนเอง จากคุณ : พี่จิม (Jimbovy) เขียนเมื่อ : 8 มี.ค. 55 13:20:03

ความคิดเห็นที่ 3 B.N.P.P.ที่ตั้งขึ้นมาเพื่อให้ทายาทเจ้าเมืองปัตตานีได้กลับมาเป็นใหญ่เหมือนเดิม... ปี  พ.ศ.  2523 ทายาทรุ่นหลานเจ้าเมืองปัตตานีเสียชีวิต ขบวนการก็เริ่มอ่อนแอ B.R.N. เริ่มมีปัญหาขัดแย้งเรื่องเงินช่วยเหลือจากต่างประเทศ มาตั้งแต่ปี 2518 เลยมีการแยกตัวไปตั้ง BRN. CO-ORDINATE ในปี พศ 2520... ตามด้วยแยกไปตั้ง BRN. ULAMA ในปี 2527...ความสามัคคีไม่มี ความอ่อนแอก็มา เยือน พูโลก็เช่นกัน ตั้งขึ้นมาแรกๆไปได้ดี มีการสร้างผลงานมากมาย 2519-2525 จับครูเรียกค่าไถ่ เผาโรงเรียน โจมตีโรงพัก วางระเบิด...แต่เพราะสร้างผลงานมาก เงินสนับสนุนจากต่างประเทศไหลเข้ามาตามผลงาน ความขัดแย้งเรื่องเงินก็ตามมา ปี พ.ศ.2528 ขัดแย้งแตกหักถึงขั้นปลดเลขาธิการ ส่งผลฝ่ายหาเงินสนับสนุนจากต่างประเทศ กับฝ่ายสร้างผลงานหาเงิน ทำงานร่วมกันไม่ได้...แตกเป็นพูโลเก่า พูโลใหม่... ปี พ.ศ.2538 ขัดแย้งแตกแขนงเป็นพูโล 88 ขบวนการแบ่งแยกดินแดนสารพัดกลุ่มขัดแย้ง อ่อนแอลงเรื่อย จนขบวนการมีสถานะเพียงแค่ชื่อไม่มีศักยภาพพอที่จะเคลื่อนไหวล้มล้างอำนาจ จากฝ่ายรัฐได้...นี่คือรายงานของเจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคงสรุปไว้เมื่อปี 2536 จากคุณ : พี่จิม (Jimbovy) เขียนเมื่อ : 8 มี.ค. 55 13:26:34

ความคิดเห็นที่ 4 การแบ่งแยกดินแดนที่ดำเนินมาถึงขั้นนี้... ขบวนการแบ่งแยกดินแดนเกิดและเติบใหญ่ เพราะการใช้อำนาจไม่ถูกต้องของเจ้าหน้าที่ และมีคนฝักใฝ่ไม่กี่คนชาวมุสลิมส่วนใหญ่ไม่ได้เห็นดีเห็นงามกับขบวนการแบ่งแยกดินแดน แต่ประการใดเลย "ไม่รู้จะแบ่งแยกดินแดนไปทำไม แยกไปแล้ว มาเลเซียก็ไม่มีท่าทีหรือวี่แวว จะยอมรับให้เป็นส่วนหนึ่งของมาเลเซีย  ขบวนการต่างๆ ก็ล้วนตั้งขึ้นมาแสวงหาเงินสนับสนุนจากต่างประเทศ ไม่มีเป้าหมาย เพื่อแบ่งแยกดินแดนที่แท้จริง มีแต่อ้างบังหน้าเพื่อผลประโยชน์" รองเลขาธิการคณะกรรมการกลางอิสลามฯ กล้าพูดอย่างมั่นใจ...เพราะในช่วงขบวนการแบ่งแยกดินแดนมีความขัดแย้ง ในเรื่องเงินสนับสนุนจากต่างประเทศ และทางการได้ชูนโยบาย 66/23 เจรจาให้โจรก่อการร้ายเข้ามอบตัวพร้อมกับใช้นโยบายปราบปรามกดดันไปพร้อมกัน "ช่วงนั้นสถานการณ์ภาคใต้สงบ แต่เบื้องหลังมาจากข้าราชการระดับสูง ในพื้นที่ ต้องการสร้างผลงานโดดเด่นให้ตัวเองได้ใช้เป็นบันไดก้าวสู่ตำแหน่งสูงสุดของหน่วยงานจึงใช้วิธีจ่ายเงินจ้างกลุ่มโจรหยุดก่อการร้าย" เรื่องแบบนี้ คน 3 จังหวัดภาคใต้ ที่มีอายุ 40-45 ปีในวันนี้...เคยได้ยินจากผู้ใหญ่ในสมัยเป็นวัยรุ่น และดูเหมือนผู้ใหญ่ในรัฐบาลจะรู้ดี ผลงานดับไฟใต้ครั้งนั้น ไม่ได้ทำให้คนผู้ใหญ่คนนั้นได้ก้าวขึ้นสู่ตำแหน่งสูงสุดในชีวิตราชการแต่ประการใด จากคุณ : พี่จิม (Jimbovy) เขียนเมื่อ : 8 มี.ค. 55 13:33:46

ความคิดเห็นที่ 5 ทานข้าวแวบเดวมาโม้ ต่อครับ จากคุณ : พี่จิม (Jimbovy) เขียนเมื่อ : 8 มี.ค. 55 13:34:14

ความคิดเห็นที่ 6 *********จ้างให้สงบได้...ทำไมจะจ้างให้ก่อความวุ่นวายไม่ได้!******* โจรรับเงินเพื่อภารกิจอย่างนี้ จึงเชื่อว่า โจรแบ่งแยกดินแดนนั้นไม่มีจริง... """มีแต่โจรอ้างแบ่งแยกดินแดนหาผลประโยชน์"""ข้อความ จากข้อมูลนี้...มองกลับจากอีกมุม...ช่วยให้เข้าใจปัญหาภาคใต้มากขึ้น จ้างให้สงบได้...ทำไมจะจ้างให้ก่อความวุ่นวายไม่ได้! สถานการณ์แบ่งแยกดินแดนภาคใต้ที่ลำดับมา เดิมไฟใต้มอดไปแล้วหลายปี... ทำไมจู่ๆวันนี้คุโชนขึ้นมาและทำไมสถานการณ์ถึงรุนแรงยิ่งกว่ายุคโจรแบ่งแยกดินแดนเฟื่องฟูเสียอีก นึกลำดับเหตุการณ์...นับตั้งแต่มีการยุบ ศอ.บต. พตท.43...ฝ่ายตำรวจยืนยันมั่นใจสามารถดูแลความสงบในพื้นที่ได้                 ไฟใต้ลุกขึ้นทันที...ตำรวจถูกยิงเป็นว่าเล่น... จากนั้นมีคำยั่วยุจากท่านผู้นำ โจรกระจอกเพื่อให้สถานการณ์ไม่สงบจริง โจรกระจอกเลยสร้างสถานการณ์ให้เห็นว่าตำรวจรักษาความสงบไม่ได้ ตำรวจในพื้นที่รู้ว่าอะไรเป็นอะไรไม่กล้าจับ ต้องส่งตำรวจจากส่วนกลางลงไปแก้ปัญหา แต่เนื่องจากไม่อยู่ในพื้นที่ ไม่เคยรู้ข้อมูลที่แท้จริง และยังคงทำงานตามความเชื่อ ในข้อมูลบิดเบือนเดิมๆ...เป็นฝีมือโจรแบ่งแยกดินแดน เมื่อตั้งเป้าทำงานผิด สอบสวนสืบสวนเท่าไร จับคนร้ายไม่ได้ เพื่อโชว์ออฟให้เห็นตำรวจก็มีฝีมือ...แพะเลยถูกล่า โดยเฉพาะคนที่มีชื่อเคยเป็นสมาชิกขบวนการแบ่งแยกดินแดน...เหตุร้ายแบบวันวานจึงหวนคืนกลับมาอีกครั้ง "ตอนนี้มีการใช้กฎอัยการศึก มีตั้งด่านตรวจเต็มไปหมด เป็นเรื่องแปลก คดีเกิดขึ้นไม่เว้นแต่ละวัน แต่ไม่สามารถจับคนร้ายได้รวดเร็วสักราย" นายไพศาล ตั้งข้อสงสัย ทำไมคนร้ายถึงได้เก่งขนาดนั้น... ทำไมตำรวจทหารถึงทำอะไรไม่ได้...และทำไมคดีโจรปล้นปืน ที่พูดว่า            """"ปืนหายไปก่อนถูกปล้นจึงเงียบไปปืนก็ยังหาไม่เจอ""""" จากคุณ : พี่จิม (Jimbovy) เขียนเมื่อ : 8 มี.ค. 55 14:19:19

ความคิดเห็นที่ 7 ไฟใต้อดีต-ปัจจุบัน เกิดจากชาวบ้านไม่ได้รับความเป็นธรรม... จะแก้ปัญหานี้...วันนี้ให้ความเป็นธรรมกับชาวบ้าน...อาจไม่เพียงพอ อาจต้องให้ความเป็นธรรมกับข้าราชการที่ถูกโยกย้ายโดยไม่เป็นธรรม เพื่อให้คนของรัฐบาลเป็นใหญ่แต่ฝ่ายเดียว... คนอื่นที่เหมาะสม มีผลงาน แต่ไม่ใช่พวกกลับถูกย้าย อาจต้องให้ความเป็นธรรมไปถึงกลุ่มทุนเอกชนด้วย... ต้องให้ความเป็นธรรมในการประมูลโครงการต่างๆ ไม่ใช่ประมูลแล้ว มีการใช้อำนาจไม่เป็นธรรมให้พวกตัวเองชนะแต่ฝ่ายเดียว ความไม่เป็นธรรมที่เกิดขึ้นเหล่านี้...ได้สร้างเงื่อนไขให้เกิดรายการ....ร่วมด้วยช่วย.... ปั่นสถานการณ์รุมถล่มรัฐบาล...โดยมีคนภาคใต้กลายเป็นเหยื่อ ****คนก่อปัญหาสามารถป้ายสีให้ดูเป็นฝีมือโจรแบ่งแยกดินแดนได้ตลอดเวลา*** เนื่องจาก 3 จังหวัดภาคใต้นั้นมีความแตกต่างเรื่องภาษา ศาสนา วัฒนธรรม ชัดเจน   ""ตัวการสำคัญ ไปก่อเหตุในที่อื่นของไทย คนก่อปัญหาไม่สามารถป้ายสีความผิดให้พ้นตัวแบบนี้ได้... ความแตกต่างไม่มี...ป้ายสีไปไม่สมเหตุสมผล"" แก้ไขเมื่อ 08 มี.ค. 55 14:30:22 จากคุณ : พี่จิม (Jimbovy) เขียนเมื่อ : 8 มี.ค. 55 14:26:34

ความคิดเห็นที่ 8 มีงานด่วนเข้ามาผมขอทำงาน ก่อนครับ แก้ไขเมื่อ 08 มี.ค. 55 14:29:19 จากคุณ : พี่จิม (Jimbovy) เขียนเมื่อ : 8 มี.ค. 55 14:28:32

ความคิดเห็นที่ 9 จากกระทู้ที่ผ่านมา ผมพูดถึงเรื่องความอยุติธรรม การผลักมิตรไปเป็นศัตรู การผลักคนไทยเชื้อสายมาลายู ให้กลายเป็นคนแบ่งแยกดินแดน ให้กลายเป็นโจรก่อการร้าย ผลักให้ขึ้นเขา เข้าป่า จับปืนมาสู้กับอำนาจรัฐ ในยุคสมัยนั้น มิใช่เฉพาะคนไทยเชื้อสายมาลายู แต่เพียงผู้เดียวที่ตกในชะตากรรมนั้น แต่ยังรวมไปถึง พี่น้องชาวไทยพุทธ ในภาคใต้ตอนกลาง ในตอนบน ที่ตกในชะตากรรมเดียวกัน ไม่เว้นแม้นกระทั่งคนไทยเชื้อสายจีน ที่อพยพมาอยู่เมืองไทยกลางกรุงเทพฯนี่แหละ ก็ตกในชะตากรรมเดียวกัน ในยุคนั้นสมัยนั้น คนที่ตกในชะตากรรมนี้ ล้วนคือผู้บริสุทธ์กรรมาชีพ ประกอบกิจกรรมสัมมาอาชีพโดยสุจริต กลายเป็นแพะ และต้องคำพิพากษา ของสังคม ตามที่อำนาจฝ่ายปกครองขณะนั้น จะชี้นำ เนื้อเรื่องผมเดินมายาวพอสมควร จนกระทั่งเนื้อเรื่องของชาวพุทธ ชาวจีน ที่จะมีต่อไปนี้ ผมมีข้อให้ทุกท่านได้สังเกตุ ว่า "ไม่ว่าเหตุการณ์นั้นจะเลวร้ายปานใด แต่มีคนกลุ่มนึง ที่ยังประกอบอาชีพได้ดี ขายเป็นเทน้ำเทท่า " แต่ไม่มีงานวิจัยชิ้นใด กล้าที่จะชี้ตรงๆลงไป ได้แต่ปล่อยให้สังคมคิดตามไปเอง แม้นกระทั่งผมเองก็ต้องคำนึงถึงข้อนี้ด้วย ได้โปรดอ่าน และใช้ วิจรณญานของท่านปะติดปะต่อเรื่องราว ทั้งหมด ว่า "ใครกันแน่ อยู่เบื้องหลัง ของขบวนการโจรก่อการร้าย ในประเทศไทย" อย่างไรก็ตาม เหตุการณ์ภาคใต้ ทุกงานวิจัย และแม้นกะทั่งผมเอง สามารถฟันธงได้ว่า -ไม่มีขบวนการแบ่งแยกดินแดน ตัวจริง -ขบวนการโจรก่อการร้าย ไม่มีเรื่องศาสนามาเกี่ยวข้องอย่างแน่นอน -เป็นการรวมตัวกันของทรชนคนร้าย ที่แฝงตัวอยู่ในทุกศาสนาและทุกภาคส่วนที่ทำงานสอดประสานกันเป็นองคพายพ เพื่อผลประโยชน์ และอำนาจเท่านั้น **********มีแต่เพียง อาชญากร และฆาตกร  เท่านั้น********* สำหรับวันนี้ผมคงไม่มีเวลามาเขียนต่อ เพราะต้องไปตามที่หมอนัด และไปงานแต่งงานของลูกน้องนะครับ ขอติดไว้ในวันพรุ่งนี้นะครับถ้าผมมีเวลามากพอ แก้ไขเมื่อ 08 มี.ค. 55 18:00:53 แก้ไขเมื่อ 08 มี.ค. 55 17:57:44 จากคุณ : พี่จิม (Jimbovy) เขียนเมื่อ : 8 มี.ค. 55 17:50:17

ความคิดเห็นที่ 10 แง่ว คอยติดตามตอนต่อไป แง่บๆ ( ปล อย่างกะหลงไปห้องราชดำเนิน แง่บๆ) จากคุณ : itoursab เขียนเมื่อ : 8 มี.ค. 55 19:57:02

ความคิดเห็นที่ 11 ขอบคุณ ท่าน itoursab หลงไปราชดำเนินนั้นคือการเมืองล้วนๆ การเมืองคือเรื่องตัณหา มีแต่ความชอบในพรรคการเมือง หรือค่ายทางการเมือง ศาสนาคือเรื่อง จิตวิญญาน ปรัชญา และแนวทางให้พ้นทุกข์ หรืออยู่ร่วมในสังคมได้ เมื่อมีคนเอาเรื่องการเมืองมายุ่งกับศาสนา ผมพยายามบอกก็ไม่มีใครฟัง ยังดันทุรังเอามาบวกกัน ในเมื่อชอบเล่นนัก ก้ต้องเป้นภาระของ นายจิม ทีจะต้องแยก ศาสนาเอาออกจากการเมืองนะครับ ผมเลยจัดเต็มให้นะครับ ผมไม่ชอบขัดศรัทธาใครอยู่แล้ว จากคุณ : พี่จิม (Jimbovy) เขียนเมื่อ : 8 มี.ค. 55 21:56:50

ความคิดเห็นที่ 12 ผมมีสถิติ ความสูญเสียตั้งแต่คดีปล้นปืนมาฝาก จะได้ไม่มีใครนำประเด้นนี้มาเล่นอีก ยอดรวมผู้สูญเสียนับตั้งแต่เหตุการณ์ปล้นปืนจากกองพันพัฒนาที่ 4 ค่ายกรมหลวงนราธิวาสราชนครินทร์ อ.เจาะไอร้อง จ.นราธิวาส เมื่อวันที่ 4 ม.ค.2547 จนถึงสิ้นเดือน ก.พ.2555 มีผู้เสียชีวิตทั้งสิ้น 4,645 ราย แยกเป็นผู้นับถือศาสนาอิสลาม 2,576 ราย นับถือศาสนาพุทธ 1,942 ราย ไม่ระบุศาสนา 127 ราย มีผู้ได้รับบาดเจ็บทั้งสิ้น 8,264 ราย แยกเป็นผู้นับถือศาสนาอิสลาม 2,605 ราย นับถือศาสนาพุทธ 5,158 ราย และไม่ระบุศาสนา 501 ราย แปลกดีนะครับ  โจรก่อการร้ายมัน ฆ่ามุสลิมมากกว่า แก้ไขเมื่อ 08 มี.ค. 55 23:07:25 จากคุณ : พี่จิม (Jimbovy) เขียนเมื่อ : 8 มี.ค. 55 22:42:02

ความคิดเห็นที่ 13 คือขอความเห็นเกี่ยวกับ พรก ฉุกเฉิน ในสามจังหวัดชายแดนใต้หน่อยได้ไหมคะ อาจจะดูว่าไม่เกี่ยวกัน แต่ตอนนี้เค้าว่ากันว่าอาจจะเป็นวิธีแก้ปัญหาวิธีหนึ่ง ซึ่งเรากะเพื่อนกำลังศึกษาประเด็นนี้ และ จะนำมาทำให้ทุกคนรับทราบอยู่ (ในที่นี้ก็คือพวกนักศึกษาค่ะ) พี่คิดว่าไงอ่ะคะ ....พุ่งนี้จะลงไปเก็บข้อมูลที่ปัตตานีค่ะ จากคุณ : พื้นที่สีชมพูชุ่มน้ำ เขียนเมื่อ : 8 มี.ค. 55 23:48:34

ความคิดเห็นที่ 14 ขอบคุณครับ พื้นที่สีชมพูชุ่มน้ำ ด้วยความยินดี  พรก ฉุกเฉินนั้นแหละตัวปัญหาเลยละ ถ้าตามกระทู้พี่จิมย้อนหลังจะเห็นได้ว่า ใครก็ตามบังอาจไปแตะไปยุ่งกับ พรก มีหวังกระเด้นทุกรายครับ ถ้าไปทำงานวิจัยที่ปัตตานี ให้ไปหา ดร อุสมาน  ที่รูซามิแล ลูกผู้พี่ ของพ้มเองครับ เค้าจะทราบปัญหาดี แก้ไขเมื่อ 09 มี.ค. 55 00:42:01 จากคุณ : Jimbovy เขียนเมื่อ : 9 มี.ค. 55 00:40:07

ความคิดเห็นที่ 15 ไทยมาลายู..ชาวพุทธ...คนไทยเชื้อสายจีน... คือผู้ก่อการร้าย ? จากคุณ : Jimbovy เขียนเมื่อ : 9 มี.ค. 55 09:14:06

ความคิดเห็นที่ 16 เรื่องสถิติที่น่ามองคือ มุสลิมตายมากกว่า พุทธเจ็บมากกว่า มันสื่อถึงวิธีการก่อการ แต่มันก็บอกได้ว่า คนบริสุทธิไม่เกี่ยงศาสนา คือผู้รับเคราะห์ แง่บๆ จากคุณ : itoursab เขียนเมื่อ : 9 มี.ค. 55 10:10:54

ความคิดเห็นที่ 17 ท่าน  itoursab ถุกต้องแล้วคร้าบบบบ การก่อการร้าย ไม่เกี่ยวศาสนา เพราะฉะนั้นเป็นหน้าที่ ของบ้านเมืองต้องหาคนร้าย ตัวจริงมาลงโทษ ให้ได้ ไม่ใช่หาแพะ จากคุณ : พี่จิม (Jimbovy) เขียนเมื่อ : 10 มี.ค. 55 06:46:13