ความคิดเห็นที่ 1 เมื่อวันเสาร์ที่ 10 มีนาคม ณ  สะพานใหม่ ตลาดยิ่งเจริญ พระวิสุทธิวงศาจารย์ กรรมการมหาเถรสมาคม เจ้าคณะภาค 7 เป็นประธานสงฆ์ แก้ไขเมื่อ 12 มี.ค. 55 16:01:39 จากคุณ : มองตาม เขียนเมื่อ : 12 มี.ค. 55 16:01:02

ความคิดเห็นที่ 2 น.อ.อนุดิษฐ์ นาครทรรพ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสารสนเทศและการสื่อสาร ประธานพิธี (คนกลาง) จากคุณ : มองตาม เขียนเมื่อ : 12 มี.ค. 55 16:04:13

ความคิดเห็นที่ 3 มีคนดังมาร่วมพิธีมอบอาหารแห้งช่วยเหลือคณะสงฆ์ 4 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ในงานตักบาตรนี้ด้วยนะ จากคุณ : มองตาม เขียนเมื่อ : 12 มี.ค. 55 16:09:45

ความคิดเห็นที่ 4 วันอาทิตย์ที่ 11  มีนาคม  พ.ศ. 2555  ณ  แยกเกษตร – รัชโยธิน นายนิวัฒน์ธำรง บุญทรงไพศาล  รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ประธานพิธีฝ่ายฆราวาส จากคุณ : มองตาม เขียนเมื่อ : 12 มี.ค. 55 16:22:48

ความคิดเห็นที่ 6 ประธานสงฆ์พระธรรมกิตติวงศ์ (ทองดี สุรเตโช) ป.ธ. 9 ราชบัณฑิต เจ้าอาวาสวัดราชโอรส จากคุณ : มองตาม เขียนเมื่อ : 12 มี.ค. 55 16:26:36

ความคิดเห็นที่ 7 ช่วยกันจับตาหน่อยว่า ธรรมกายใช้โลโก้หรือชื่อวัดตัวเองออกหน้าในการจัดงานอย่างชัดเจนหรือเปล่า เพราะงานแบบนี้ที่ขอนแก่น 3 ครั้ง ไม่ปรากฎสัญลักษณ์ที่เป็นธรรมกายเลย จึงกลายๆ ว่าเป็นกิจกรรมที่หลอกให้ไปทำบุญโดยไม่แจ้งชื่อเจ้าภาพ จากคุณ : ลำปาว เขียนเมื่อ : 12 มี.ค. 55 16:27:11

ความคิดเห็นที่ 8 สาธุชนนั่งสมาธิ ก่อนที่จะตักบาตรกัน จากคุณ : มองตาม เขียนเมื่อ : 12 มี.ค. 55 16:31:45

ความคิดเห็นที่ 9 งานนี้มีหน่วยงานที่รับผิดชอบโครงการ 1.  คณะสงฆ์ 2.  กรุงเทพมหานคร 3.  สำนักงานตำรวจแห่งชาติ 4.  สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ 5.  องค์การยุวพุทธศาสนิกสัมพันธ์แห่งโลก     6.  สหพันธ์รวมใจไทยทั้งชาติ 7.  วัดพระธรรมกายและมูลนิธิธรรมกาย ที่ปรึกษาโครงการ 1. ประธานคณะกรรมาธิการการศาสนา ศิลปะ และวัฒนธรรมสภาผู้แทนราษฎร 2. ผู้ว่าราชการจังหวัดกรุงเทพมหานคร 3. ผู้อำนวยการสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ 4. ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล 5. ประธานองค์การยุวพุทธศาสนิกสัมพันธ์แห่งโลก 6. ประธานสหพันธ์รวมใจไทยทั้งชาติ 7. ประธานชมรมพุทธศาสตร์สากล ในอุปถัมภ์สมเด็จพระมหารัชมังคลาจารย์ จึงไม่ใช้โลโก้หรือชื่อวัดในการจัดงานจ๊ะ แก้ไขเมื่อ 12 มี.ค. 55 16:39:04 จากคุณ : มองตาม เขียนเมื่อ : 12 มี.ค. 55 16:37:04

ความคิดเห็นที่ 10 แถวตักบาตรยาวววววว นับกิโล กลางใจเมือง จากคุณ : มองตาม เขียนเมื่อ : 12 มี.ค. 55 16:51:30

ความคิดเห็นที่ 11 แต่ก็ยังแพ้จำนวนสาธุชน ที่แห่กันมาจนล้นออกไปนอกแถว จากคุณ : มองตาม เขียนเมื่อ : 12 มี.ค. 55 16:54:32

ความคิดเห็นที่ 12 เขาตั้งเป้าคนที่มาร่วมกิจกรรม แค่  10 ล้านคนเอง ปีหน้าขอสัก 20 ล้านคนนะ ลองสังเกตพระประธานสิ ใครๆเขาก็รู้ว่ามาจากวัดไหน ใครเป็นเจ้าภาพร่วมบ้าง จากคุณ : venture เขียนเมื่อ : 12 มี.ค. 55 16:56:04

ความคิดเห็นที่ 13 เอ้อ... เห็นมีโลโก้วัดโผล่อยู่หน่อยนึงในนี้นะ จากคุณ : มองตาม เขียนเมื่อ : 12 มี.ค. 55 17:00:11

ความคิดเห็นที่ 14 ข้าวสารอาหารแห้งที่ได้จากการตักบาตร ถูกส่งไปช่วยเหลือคณะสงฆ์ 286 วัด ใน 4 จังหวัดชายแดนใต้ โดยมีทหารลำเลียงไปขึ้นรถหลังเสร็จงานตักบาตรทันที จากคุณ : มองตาม เขียนเมื่อ : 12 มี.ค. 55 17:06:03

ความคิดเห็นที่ 15 เอานะช่วยเขามานาน ทั้งคนทั้งเงิน ของแบบนี้มันต้องตอบแทนกันบ้างละครับ จากคุณ : ฉันมันตัวเปล่า เขียนเมื่อ : 12 มี.ค. 55 17:26:24

ความคิดเห็นที่ 16 กว่าจะถึงใต้ ราขึ้นข้าวสารแน่ สร้างภาพได้เก่งมาก จากคุณ : ต้นโพธิ์ต้นไทร เขียนเมื่อ : 12 มี.ค. 55 17:37:51

ความคิดเห็นที่ 17 วันนี้มีแจกโบชัวที่สะพานควายแต่ไม่ยักมีชื่อวัดที่จัด จากคุณ : ซุนจื๊อ เขียนเมื่อ : 12 มี.ค. 55 18:10:41

ความคิดเห็นที่ 18 พท+ธรรมกาย+ซ้ายใหม่ = กินรวบประเทศไทย จากคุณ : sinnerman เขียนเมื่อ : 12 มี.ค. 55 19:15:20

ความคิดเห็นที่ 19 ดีแล้วครับ มองโลกในแง่ดีเข้าไว้ครับ ผมไม่สนับสนุนคำสอนของธรรมกาย แต่เรื่องนี้ก็ดีออกครับ ปล่อยเค้าไปซักเรื่องเถอะ จากคุณ : ซุปเปอร์เดปอร์ เขียนเมื่อ : 12 มี.ค. 55 19:34:51

ความคิดเห็นที่ 20 ตักบาตรพระ1ล้านรูป . . . แต่ประเทศไทยมีพระสงฆ์แค่3แสนรูปเองนะ จากคุณ : zodiac28 เขียนเมื่อ : 12 มี.ค. 55 19:45:32

ความคิดเห็นที่ 21 1 ล้านรูปก็เป้นแบบสะสมหลายปี จากคุณ : venture เขียนเมื่อ : 12 มี.ค. 55 19:58:22

ความคิดเห็นที่ 22 อ้าวแล้วไม่มีกุหลาบแดงแล้วเหรอ ใครจะเีีรียน MBA การตลาด ไม่ต้องไปเสียเงินที่ไหนหรอก ไปเข้าวัดธรรมกายแล้วดูวิธีการดูดคน & ดูดทรัพย์ Harvard Business School ก้อสู้ไม่ได้.....สุดยอด จากคุณ : Nine Cats เขียนเมื่อ : 12 มี.ค. 55 21:27:45

ความคิดเห็นที่ 23 สิ่งที่  MBA  Harvard Business School สอนไม่ได้คือ "ญาณทัศนะ สมาธิ วิชชาธรรมกาย" จากคุณ : venture เขียนเมื่อ : 12 มี.ค. 55 21:33:49

ความคิดเห็นที่ 24 ธรรมเหล่าใด เป็นไปเพื่อความกำหนัดย้อมใจ เป็นไปเพื่อสะสมกองกิเลส เป็นไปเพื่อความอยากใหญ่ เป็นไปเพื่อความไม่สันโดษ เป็นไปเพื่อความคลุกคลีกันเป็นหมู่เป็นคณะ เป็นไปเพื่อความเกียจคร้าน เป็นไปเพื่อความเลี้ยงยาก นั่นไม่ใช่ธรรม ไม่ใช่วินัย ไม่ใช่คำสอนของพระพุทธเจ้า จากคุณ : flower fairy เขียนเมื่อ : 12 มี.ค. 55 21:59:21

ความคิดเห็นที่ 25 กำลังสงสัยว่า ปิดถนน ทำบุญ  เหมาะสมหรือไม่ จากคุณ : ลูกนกหลงทาง เขียนเมื่อ : 12 มี.ค. 55 22:04:57

ความคิดเห็นที่ 26 มาแจกกีบโดยเฉพาะ งานนี้ไปไม่ครบแต่ต้องได้ไปแน่ๆ อนุโมทนาบุญนะคะ ^^ จากคุณ : รอยยิ้มนี้มีเพื่อเธอ เขียนเมื่อ : 12 มี.ค. 55 22:14:59

ความคิดเห็นที่ 27 แยกแยะเอาแต่สิ่งดีๆ อย่ารับมาทั้งดุ้น เอาความอลังการนำหน้า เรียกลูกค้าได้เยอะ .....การตลาดดี จากคุณ : ไม่คิดมาก เขียนเมื่อ : 12 มี.ค. 55 22:20:36

ความคิดเห็นที่ 28 ธรรมเหล่าใด เป็นไปเพื่อความกำหนัดย้อมใจ เป็นไปเพื่อสะสมกองกิเลส เป็นไปเพื่อความอยากใหญ่ เป็นไปเพื่อความไม่สันโดษ เป็นไปเพื่อความคลุกคลีกันเป็นหมู่เป็นคณะ เป็นไปเพื่อความเกียจคร้าน เป็นไปเพื่อความเลี้ยงยาก นั่นไม่ใช่ธรรม ไม่ใช่วินัย ไม่ใช่คำสอนของพระพุทธเจ้า .... การชักชวรคนมาถือศีล อารธนาศีล และนำปัจจัยมาแบ่งปันช่วยเหลือวัดในภาคใต้นั้น ก็คือ ทาน และการหยุดใจสำรวมกายวาจาใจนี้ ก็คือภาวนาในเบื้องต้น ทาน ศีล ภาวนา มีครบแล้ว เมื่อทุกคนเรียนรู้เริ่มต้น ก็น้อมนำไปสู่การปฏิบัติที่บ้านต่อไป ธรรมเหล่าใดเป็นไปเพื่อความคลายกำหนัด ๑ เป็นไปเพื่อความปราศจากทุกข์ ๑ เป็นไปเพื่อความไม่สะสมกองกิเลส ๑ เป็นไปเพื่อความอยากอันน้อย ๑ เป็นไปเพื่อความสันโดษยินดีด้วยของมีอยู่ ๑ เป็นไปเพื่อความสงัดจากหมู่ ๑ เป็นไปเพื่อความเพียร ๑ เป็นไปเพื่อความเลี้ยงง่าย ๑ ธรรมเหล่านี้พึงรู้ว่า เป็นธรรม เป็นวินัย เป็นคำสั่งสอนของพระศาสดา จากคุณ : venture เขียนเมื่อ : 12 มี.ค. 55 22:43:07

ความคิดเห็นที่ 29 โครงการนี้ใช้เวลาเพียง 1-3 ชั่วโมงที่อยู่ตามท้องถนน ผู้มีปัญญา ก็น้อมนำปัญญาที่ได้จาก ทานศีลภาวนา ไปปรับใช้กับวิธีการในชีวิตประจำวัน พระท่านยังมีไปเรียนหนังสือ ไปเรียนปริยัติ ในอาคารใหญ่โต แต่เมื่อเรียนรู้แล้ว ปฏิบัติเป็นแล้ว ก็แยกย้ายกันไป การชักชวนคนให้เริ่มถือศีล ทำทาน และภาวนา ก็คือคำสอนของพระพุทธเจ้า ดีกว่าปล่อยให้ ใช้เวลาทำมาหากินอย่างเดียว จากคุณ : venture เขียนเมื่อ : 12 มี.ค. 55 22:46:08

ความคิดเห็นที่ 30 เรื่องอาหารแห้งช่วยเหลือวัดภาคใต้นั้นเห็นด้วยอยู่  ถ้าหากการจัดงานนี้ ได้นำอาหารแห้งลงไปช่วยพระสงฆ์ที่ภาคใต้แล้วไ้ด้ประโยชน์จริง ๆ แต่มีข้อสงสัยอยู่อย่าง ถ้าอย่างนั้นทำไมไม่เปิดรับบริจาคที่วัดพระธรรมกาย เพื่อนำอาหารส่งไปที่ภาคใต้โดยตรงเลย จะไ้ด้ไม่ต้องยุ่งยากจัดเตรียมแถวเถิวอะไรขนาดนี้?? เคยถามพระคุณเจ้าที่วัดใกล้บ้านที่ไปงานนี้มา ถามท่านว่าได้อะไรบ้าง ท่านบอก "ข้าว ๑ กล่อง น้ำหนึ่งขวด ลูกอม ปัจจัย ส่วนอาหารเขาขนกลับไปเอง เห็นว่าไปช่วยภาคใต้.... รู้สึกเหมือนไปเป็นตัวประกอบงานเลยโยม" แก้ไขเมื่อ 13 มี.ค. 55 00:25:13 แก้ไขเมื่อ 13 มี.ค. 55 00:22:20 แก้ไขเมื่อ 13 มี.ค. 55 00:22:07 จากคุณ : chohokun เขียนเมื่อ : 13 มี.ค. 55 00:21:01

ความคิดเห็นที่ 31 "พท+ธรรมกาย+ซ้ายใหม่ = กินรวบประเทศไทย จากคุณ : sinnerman " อยากบอกว่า ในประชาธิปัตย์ก็มีธรรมกายครับ ความจริงแล้วเรื่องธรรมกายนี่ จะว่าเกี่ยวกับการเมืองก็ส่วนหนึ่ง แต่แท้จริงแล้ว ธรรมกายส่งคนไปอยู่ทุกขั้วการเมืองนั่นแหละ  เมื่อใดที่จะมีปัญหากระทบมาถึงธรรมกาย ไม่ว่าจะในขั้วการเมืองไหน เขาจะมีจุดหมายเดียวคือปกป้องวัดพระธรรมกาย แต่ถ้าไม่มีอะไรที่จะไปเกี่ยวกับธรรมกาย ก็ต่อสู้กันทางการเมืองโดยปกติ จากคุณ : chohokun เขียนเมื่อ : 13 มี.ค. 55 00:27:13

ความคิดเห็นที่ 33 ผมเองไม่ได้เรียนมาทางด้านการตลาด แต่สนใจหาความรู้ในด้านนี้ มีตำรับตำราอ่านหลายเล่ม ผมก็สงสัยมาตลอดว่า ทำไมวัดพระธรรมกาย ต้องใช้การตลาดเล่นกับตัวเลขและอารมณ์ของคนขนาดนี้ จากคุณ : kiarati เขียนเมื่อ : 13 มี.ค. 55 07:09:14

ความคิดเห็นที่ 34 ติดอาวุธทางปัญญา "กรณีธรรมกาย" http://www.pantip.com/cafe/religious/topic/Y11820684/Y11820684.html ---------------------- จากข้อมูล หนังสือ  ฮา..สุดขีด  โดยพระพยอม กัลยาโณ วัดสวนแก้ว นนทบุรี ชอบของใหญ่... ...คนเราเดี๋ยวนี้..มันนิยมของใหญ่..ชอบสร้างของใหญ่.. วัดโน้น.สร้างพระใหญ่.. วันนั้น..สร้างโบสถ์ใหญ่.. วัดนี้..สร้างเจดียืใหญ่.. เพื่อดึงลูกค้า..ให้มาทำบุญ.. วัดที่นครปฐม..คิดไม่ออกว่าจะสร้างอะไรใหญ่ดี.. เลย..ทำธูปใหญ่ที่สุดในโลก.. คนที่นิยมของใหญ่..ก็แห่กันไปทำบุญ.. อยากได้บุญเยอะ..อยากได้บุญใหญ่ๆ.. ฝนตก..ธูปเปียก.. ฐานของธูปรับน้ำหนักไม่ไหว.. ล้มลงมาทับคนทำบุญ.. ตาย.. อย่างนี้..เขาเรียก.. บุญหล่นทับ.. อยากได้บุญจากการสร้างของใหญ่.. บุญใหญ่หล่น..ตาย..เป็นการตายที่ยิ่งใหญ่.. ตายเพราะคิดผิด.. พระพุทธเจ้า..สอนให้ทำตัวกู..ของกูให้เล็กลง.. แต่นี่..พยายามทำทุกอย่างให้ใหญ่ขึ้น.. มันคิดสวนทางกับพระพุทธเจ้า.. มันเลยถูกของใหญ่..กัด.. --------------- ปล  ดูรูปใน คห 32 แล้ว ผู้ที่จะบวชมีสีหน้าเยเก ร่ำไห้ มือถือผ้ากาสาวพัสน์  ดูแล้วไม่เหมาะสม ในสมัยพุทธกาลการบวชเป็นการบวชเพื่อพ้นทุกข์  ไม่ใช่ร่ำไห้ติดสมมติว่าต้องบวชให้พ่อให้แม่หรือเพราะต้องพิสูจน์ความเป็นลูกผู้ชาย     บวชเพื่ออะไร ให้ัชัดเจนกว่านี้นะจ๊ะ และโฆษณาอะไร  ต้องดูความเป็นจริงด้วยครับ   เคยเห็นโฆษณาบอกคณะสงฆ์ทั้งแผ่นดินมาร่วมสังฆกรรมด้วย  ผมอ่านแล้วก็รู้สึกว่า สำนักนี้กล่าววาจาเป็นเท็จ  เพราะ มีสงฆ์บางส่วนเท่านั้นที่เข้าร่วม    มีส่วนที่ไม่เ็ห็นด้วยกับการกระทำของสำนักนี้ แก้ไขเมื่อ 13 มี.ค. 55 07:51:37 จากคุณ : ต่อmcu เขียนเมื่อ : 13 มี.ค. 55 07:47:36

ความคิดเห็นที่ 35 เรื่องอาหารแห้งช่วยเหลือวัดภาคใต้นั้นเห็นด้วยอยู่  ถ้าหากการจัดงานนี้ ได้นำอาหารแห้งลงไปช่วยพระสงฆ์ที่ภาคใต้แล้วไ้ด้ประโยชน์จริง ๆ แต่มีข้อสงสัยอยู่อย่าง ถ้าอย่างนั้นทำไมไม่เปิดรับบริจาคที่วัดพระธรรมกาย เพื่อนำอาหารส่งไปที่ภาคใต้โดยตรงเลย จะไ้ด้ไม่ต้องยุ่งยากจัดเตรียมแถวเถิวอะไรขนาดนี้?? เคยถามพระคุณเจ้าที่วัดใกล้บ้านที่ไปงานนี้มา ถามท่านว่าได้อะไรบ้าง ท่านบอก "ข้าว ๑ กล่อง น้ำหนึ่งขวด ลูกอม ปัจจัย ส่วนอาหารเขาขนกลับไปเอง เห็นว่าไปช่วยภาคใต้.... รู้สึกเหมือนไปเป็นตัวประกอบงานเลยโยม" ............เพราะะเจตนา ของเขาคือ เชิญชวนคนที่ไม่เคยใส่บาตรให้เห็นบรรบากาศของคนที่อารธนาศีลไง เป็นหลักจิตวิทยามวลชน เพื่อให้คนไทยทุกคน มีศีล มีทาน และภาวนาเป็น ถ้าจัดที่วัดพระธรรมกายอย่างเดียว ก้ได้แค่กลุ่มเดิมๆ จัดนอกสถานที่ก็เท่ากับทุกคนยอมรับกิจกรรม ส่วนพระที่นิมนต์มา ทุกรูปส่วนใหญ่รู้อยู่แล้วว่า ต้องนำของส่งไปช่วยเหลือวัดภาคใต้ พระที่นิมนต์มา ท่านคงไม่คิดจะเก็บไว้เองหรอกครับ น่าจะบอกท่านว่า การเสียสละเพื่อส่วนรวมคือสิ่งที่ดี ม่านจะเอาเยอะๆ ทำไมกัน จากคุณ : venture เขียนเมื่อ : 13 มี.ค. 55 07:51:36

ความคิดเห็นที่ 36 ดูรูปใน คห 32 แล้ว ผู้ที่จะบวชมีสีหน้าเยเก ร่ำไห้ มือถือผ้ากาสาวพัสน์  ดูแล้วเหมาะสม ในสมัยพุทธกาลการบวชเป็นการบวชเพื่อพ้นทุกข์ เพราะภาพนั้นเป็นแค่ภาพส่วนหนึ่งของ อารมณ์ปิติ ลองไปดูภาพรวมวันบวชใหญ่สิ เขาร้องไห้กัน ทั้งพ่อแม่พี่น้องลูกหลาน ร้องออกมาด้วยความปิติ มิใช่ร้องออกมาเพราะอารมณ์เศร้าหมองนะจ๊ะ ไม่เคยบวชหละสิ เลยไม่รู้จักปิติ จากคุณ : venture เขียนเมื่อ : 13 มี.ค. 55 07:53:42

ความคิดเห็นที่ 37 ในประเทศอินเดีย นักบวชลัทธิอื่นที่ไม่ใช่พระพุทธศาสนาก็ออกหากินโดยการขอเช่นกัน ฉะนั้น  การบิณฑบาตรแล้วมาอ้างว่านี้คือพระพุทธศาสนาจึงเป็นความจริงเพียงส่วนเดียว ดูภาพการบิณฑบาตรแล้วก็ต้องตั้งคำถามว่า  คำสอนของสำนักนี้เป็นอย่างไร และการทำประโยชน์ให้สังคม ไม่เพียงแต่วัดหรือสำนักในพระพุทธศาสนาที่ทำ แต่ลัทธิหรือศาสนาอื่นก็ทำเช่นกัน ยกตัวอย่างการสร้างโรงพยาบาล  สร้างโรงเรียนให้สังคมของศาสนาอื่น ฉะนั้น  การทำประโยชน์ให้สังคมเป็นสิ่งที่น่าอนุโมทนา  แต่อ้างไม่ได้ว่าสำนักนี้เป็นพระพุทธศาสนา  ต้องมาดูคำสอนว่าสำนักนี้สอนเป็นอย่างไร เข้าใจกันนะจ๊ะ   ทำใจสบายๆนะจ๊ะ  ชาวลัทธิธรรมกายไม่ต้องดีใจโลดแล่นไปนะจ๊ะ ถึงแม้จะิยิ่งใหญ่ปานใด  สำนักนี้ก็ชื่อว่ายังไม่ใช่สำนักในพระพุทธศาสนา(นอกจากสำนึกตนเอง และไปสังกัดยังนิกายที่ตนควรสังกัด  ไม่ใช่มาแฝงอยู่ในนิกายที่ตนเองก็ไม่ได้สอนเหมือนนิกายที่ตนสังกัด )   และแม้จะมีคนนับถือลัทธินี้มากมายเพียงใด  กลุ่มชนชาวพุทธแท้เขาก็ยังมีอยู่ และ สามารถชี้แจงแนวทางที่ถูกต้องได้อยู่จ๊ะ  ผู้มีปัญญาไม่หลงคารมลัทธินี้ง่ายๆหรอกนะจ๊ะ จากคุณ : ต่อmcu เขียนเมื่อ : 13 มี.ค. 55 08:04:59

ความคิดเห็นที่ 38 สนับสนุนคุณต่อครับ ลัทธิใดที่เล่นงานกับจุดอ่อนของมนุษย์ ด้วยการสร้างตนเองขึ้น จากการปลุกปั่นอารมณ์สาวกนั้น ไม่ว่าจะเป็นอารมณ์ปิติ อิ่มบุญ มีความสุข ขนลุก ปลื้มจนน้ำตาไหล หรือ อิ่มใจในสมาธิ ก็ตาม ถือว่าผิดจากแนวทางคำสอนของพุทธ พุทธสอนให้เราอยู่เหนืออารมณ์ขึ้นไป สอนให้เรามีความสุข จากการเป็นเจ้านายอารมณ์ ไม่ใช่มีความสุข กับการอยู่ภาพใต้ หรือใช้อารมณ์ สิ่งง่ายๆ ที่เราน่าจะเห็นได้ว่า ที่ไหนเป็นพุทธที่ถูกต้องครับ จากคุณ : ใบไม้กำนั้น เขียนเมื่อ : 13 มี.ค. 55 09:21:38

ความคิดเห็นที่ 39 คุณ คห 30 ที่วัดต้องจัดให้มีการบิณฑบาตร พระจำนวนมาก ๆ ผ่านเส้นทางนี้เพราะต้องการให้ที่ ที่ มีการจัดตักบาตรนั้นมีศิริมงคล เพื่อประชาชนและคนทั้งแผ่นดินอยู่อย่างสงบสุข เพราะเส้นทางนี้เคยผ่านอุทกภัยมาก่อนไงล่ะ นี้เป็นความหวังดีของวัดที่มีต่อคนทั้งประเทศ  เรื่องรถติดก็เป็นแค่ส่วนเล็กน้อย เพราะปิดถนนตอนกลางคืน คนส่วนน้อยเสียสละให้คนทั้งแผ่นดิน  ทำให้ไม่ได้หรือจ๊ะ ทำไมคิดมากจัง จากคุณ : รู้นะคิดอะไรอยู่ (hinny) เขียนเมื่อ : 13 มี.ค. 55 09:34:57

ความคิดเห็นที่ 40 เมื่อเวลาผ่านพ้นไป  ความอลังการยิ่งใหญ่เริ่มไม่เป็นอย่างที่คาดหวัง ความเสื่อมถอยเข้ามาเยือน เหล่าสาวกลัทธินี้ก็จะเห็นว่าคำสอนในพระพุทธศาสนามีค่ากับพวกเขา ไม่ใช่เกิดจากความยิ่งใหญ่แล้วดีใจสุดฤทธิ์สุดเดช แทนที่จะสงบ ไม่ยินดียินร้าย และมีสติเฝ้าดูเห็นความจริงของโลกเหมือนที่ชาวพุทธแท้ๆกระทำกัน เมื่อความเสื่อมมาเยือน เหล่าท่านจะทำใจกันอย่างไร   ดีใจมากก็เสียใจมาก หากโลกธรรมไม่เป็นดั่งที่ท่านคาดหวัง มาเตือนสตินะจ๊ะ  จะได้เริ่มทำใจกันได้ และปฏิบัติตามคำสอนในพระพุทธศาสนาให้พิจารณาในกฎไตรลักษณ์อันเป็นคำสอนเนื้อแท้ในพระพุทธศาสนา  ไม่ใช่สร้างภาพ หรือ ทำกิจกรรมเพื่อนำมาอวดอัตตาตัวตนนะจ๊ะ  ยึดมั่นอัตตาตัวตนยิ่งเพิ่ม ความทุกข์ยิ่งเพิ่มจ๊ะ ----------------- ปล  สังคมจะเป็นมงคลได้อย่างไร ในเเมื่อมิจฉาทิฎฐิแพร่หลายออกไป  ภาพที่เห็นก็เป็นการจัดทุกอย่างให้เป็นระเบียบ แล้วเป็นอย่างไรต่อไป? สังคมได้ประโยชน์ในส่วนใด  แยกแยะกันนะจ๊ะ   ร่วมด้วยช่วยกัน และ ไม่้ต้องห่วงว่าชาวพุทธแท้ๆจะอิจฉาหรือไม่สบายใจที่เห็นลัทธินี้ยิ่งใหญ่แล้วทำให้พระุพุทธศาสนาแท้ๆเสื่อมลง    การฝึกจิตในพระพุทธศาสนาช่วยให้พวกเขาอยู่อย่างสงบและร่มเย็นภายในจิตใจ  เมื่อกิเลสน้้อยลง เขายิ่งมีความสุข   ที่แสดงออกกันว่าเหล่าท่านไม่ได้ทำตามคำสอนของพระพุทธเจ้านั้น เพราะห่วงใยและปรารถนาดี  ไม่ได้ไปคิดร้ายอะไรกับเหล่าสาวกลัทธิธรรมกายนะจ๊ะ แก้ไขเมื่อ 13 มี.ค. 55 09:41:42 จากคุณ : ต่อmcu เขียนเมื่อ : 13 มี.ค. 55 09:36:10

ความคิดเห็นที่ 41 คุนเวรเจอ ตอนผมบวชก็ปีติ แต่ไม่ได้สะอึกสะอื้นแบบในรูป ไม่ทราบว่าเกิดมาเข้าสำนักนี้รู้จักปีติบ้างรึยัง รึว่ารู้จักแต่ปีติ มานะ มานี ชูใจ 55+ จากคุณ : KiKuCha เขียนเมื่อ : 13 มี.ค. 55 09:51:41

ความคิดเห็นที่ 42 ต้องส่งคำถามข้อสงสัยว่า เพราะเหตุใดหนอ กรรมการมหาเถระสมาคม จึงออกตัวเป็นประธานฝ่ายสงฆ์เสมอๆ รวมถึงหน่วยงานภาครัฐ รวมคนได้กว่า 10 ล้านคน เหตุเพราะนี่คือพุทธศาสนา ที่สอนให้ คนทำทาน รักษาศีล เจริญปัญญา ใครปรารถนาหลุดพ้นวัฏฏสงสาร ขอเชิญบวชตลอดชีวิตด้วยเถิด แล้วนำธรรมที่ท่านรู้จริงเห็นจริงนั้น มาแสดง เพื่อเป็นตัวอย่างที่ดีว่าท่านเหล่านั้นพิสูจน์ได้จริง หาใช่จำมาบอกเล่า จากคุณ : venture เขียนเมื่อ : 13 มี.ค. 55 10:10:57

ความคิดเห็นที่ 43 @41   เคยดูวิดีโองานบวช เอาแค่ลูกกราบเท้าพ่อแม่ น้ำตาไหลปลื้มปิติกันเยอะเชียว ลองพิจารณาดีๆว่า ภาพนั้น มิได้ร้องไห้เพราะเสียใจเศร้าหมอง แต่ร้องเองเพระปิติมากจนน้ำตามันล้นออกมาจริงๆ จากคุณ : venture เขียนเมื่อ : 13 มี.ค. 55 10:12:47

ความคิดเห็นที่ 44 @40 การบริหารจัดการคนหมู่มาก ให้อยู่ภายใต้กฏระเบียบได้ดี ก็ต้องปลูกฝังเรื่อง การสำรวม กาย วาจา ใจ พร้อมๆกัน การจัดระเบียบนั้นสิ่งที่แสดงก็ชัดเจนแล้วว่าเขาทำได้ ดีกว่าปล่อยตามยถากรรม ใครอยากทำอะไรก็ทำ อันนั้นมันคงจะเละเทะตามมีตามเกิด เหตุที่เป็นระเบียบมาจากเหตุเรื่อง ของการหยุดนั่นเอง หยุดจึงเป็นตัวสำเร็จ การรับรองคนกว่าแสนคนมาตักบาตรร่วมกัน ถ้าไม่มีกฏระเบียบบังคับไว้ โอกาสจะเกิดจราจลมันง่าย ดังนั้น การมีทั้งตำรวจ ทหาร เข้าแถวชัดเจนนี่แหละดีแล้ว พระพุทธเจ้าสอนให้ใช้ปัญญา การที่เขาอยู่รวมกันกว่าแสน และสงบได้ เพราะการสำรวมนั่นเอง การสำรวมนี่แหละคือศีล จากคุณ : venture เขียนเมื่อ : 13 มี.ค. 55 10:17:24

ความคิดเห็นที่ 45 ภาพโฆษณา ก็ต้องดึงดูดอารมณ์คนดูสิคะ ถ้าภาพโฆษณาเรียบๆ ถือว่าฝ่ายการตลาดใช้ไม่ได้นะคะ ดูโฆษณา กระทิงแดงสิคะ  ดูแล้วซึ้งกินใจมากมาย จากคุณ : ดรีมเมอร์ เขียนเมื่อ : 13 มี.ค. 55 10:39:03

ความคิดเห็นที่ 46 จะว่าไปก็จริงของคุณventure นะ ดูแล้วเป็นระเบียบเรียบร้อย ทั้งพระ ทั้งสาธุชน รวมๆกันก็นับแสนชีวิต แต่ดูมีระเบียบไม่วุ่นวายเหมือนงานอื่นๆ เลยนะ จากคุณ : มองตาม เขียนเมื่อ : 13 มี.ค. 55 15:47:45

ความคิดเห็นที่ 47 ที่สำคัญเขาใช้เวลาเก็บงานรวดเร็วมากๆๆ เพียงแค่ไม่นานหลังตักบาตรเสร็จ รถก็วิ่งได้เลยล่ะ จากคุณ : มองตาม เขียนเมื่อ : 13 มี.ค. 55 15:53:24

ความคิดเห็นที่ 48 คุณต่อmcu ความคิดเห็นที่ 37 ได้มีเหตุผลและเป็นกลางดีจ๊ะ ที่ตั้งกระทู้นี้เพราะเห็นว่ากิจกรรมนี้เป็นการทำประโยชน์ให้สังคม ส่วนเรื่องที่มีหลายคนลงความเห็นว่าวัดนี้เป็นลัทธิ(ตั้งชื่อกันไปต่างๆนานา) และตั้งข้อสงสัยเรื่องคำสอนของวัดนี้ จขกท.ยังไม่เข้าใจมากนัก แต่เท่าที่สังเกตเห็นก็ยังไม่มีอะไรที่น่าจะผิดหลักพระพุทธศาสนานะ และทุกโครงการก็อยู่ในสายตาของสมเด็จพระมหารัชมังคลาจารย์ อย่างตอนที่เดินธุดงค์ท่านก็เมตตาออกมาให้โอวาทแก่พระธุดงค์ด้วยตนเอง จากคุณ : มองตาม เขียนเมื่อ : 13 มี.ค. 55 16:31:25

ความคิดเห็นที่ 49 คุณ คห 30 ที่วัดต้องจัดให้มีการบิณฑบาตร พระจำนวนมาก ๆ ผ่านเส้นทางนี้เพราะต้องการให้ที่ ที่ มีการจัดตักบาตรนั้นมีศิริมงคล เพื่อประชาชนและคนทั้งแผ่นดินอยู่อย่างสงบสุข เพราะเส้นทางนี้เคยผ่านอุทกภัยมาก่อนไงล่ะ นี้เป็นความหวังดีของวัดที่มีต่อคนทั้งประเทศ  เรื่องรถติดก็เป็นแค่ส่วนเล็กน้อย เพราะปิดถนนตอนกลางคืน คนส่วนน้อยเสียสละให้คนทั้งแผ่นดิน  ทำให้ไม่ได้หรือจ๊ะ ทำไมคิดมากจัง ความคิดเห็นที่ 39 คุณจะมาอ้างน้ำท่วมก็ไม่ถูกนะครับ แถววัดคุณทำไมไม่ไปจัดมั่ง คนส่วนน้อยที่เสียสละเพื่อแผ่นดินที่อ้างน่ะถ้าญาติพี่น้องคุณไม่สบายต้องไปโรงพยาบาลในเส้นทางการตลาดของลัทธิคุณเกิดตายขึ้นมากลางทางไม่รู้ว่าคนตายจะได้อนุโมทนากับคุณไหม อย่ามองอะไรด้านเดียวครับ จากคุณ : birdg5 (birdg5) เขียนเมื่อ : 13 มี.ค. 55 16:55:00

ความคิดเห็นที่ 50 คุณ คห 49 ถ้าญาติที่คุณพูดถึง เกิดเป็นญาติคุณจริง ๆ ก็ขอแบ่งบุญให้ละกัน จากคุณ : รู้นะคิดอะไรอยู่(จริงปะ) (hinny) เขียนเมื่อ : 13 มี.ค. 55 18:11:54

ความคิดเห็นที่ 51                    คนบางคน บางกลุ่ม    ไม่คุ้นชินกับคำว่าคุณภาพ   จึงเน้นแค่เพียงปริมาณ แก้ไขเมื่อ 13 มี.ค. 55 19:07:32 จากคุณ : flower fairy เขียนเมื่อ : 13 มี.ค. 55 19:03:16

ความคิดเห็นที่ 52 รูปที่ 46 นี่ก็คุณภาพเน้นๆ เป็นระเบียบเรียบร้อย หาใดปาน กลับบ้านไปด้วย อาการปิติ อิ่มบุญ เบิกบาน ได้ทั้งคุณภาพและปริมาณ แต่เพราะคน "บางคน"  ไม่เคยมองเห็นความจริง จึงค้านแหลก ลองเข้าไปเยี่ยมชมบรรยากาศ แล้วจะเปลี่ยนใจ จากคุณ : venture เขียนเมื่อ : 13 มี.ค. 55 19:25:52

ความคิดเห็นที่ 54 คนตระหนี่ เมื่อเห็นคนอื่น "ให้" ก็เสียดายแทน พูดอ้างโน่นนี่สารพัด จากคุณ : ร่มธรรม เขียนเมื่อ : 13 มี.ค. 55 21:10:51

ความคิดเห็นที่ 55 ขอเพิ่มเติม มุมมอง ข้อมูล การดำเนินการ ของชาววัดพระธรรมกาย ให้ทุกท่านได้พิจารณา จะเข้าใจ กิจกรรมของวัดพระธรรมกาย ต้องเข้าใจ วิธีคิดของวัดพระธรรมกาย + จุดมุ่งหมายที่แท้จริง (ไม่ใช่จุดมุ่งหมายเปลือก หรือ จุดมุ่งหมายที่กล่าวอ้าง ตามเอกสาร) ของโครงการนั้นๆ + วิธีคิด และ เครื่องมือ บริหารทางโลก (ที่วัดพระธรรมกายเอามาใช้) จึงจะเห็นภาพเต็มๆ ของทุกกิจกรรมของวัดพระธรรมกายได้ สั้นๆ .... สิ่งที่เห็น ไม่ใช่สิ่งที่เป็น >>> สิ่งที่เป็น ไม่ใช่สิ่งที่จริง 1. ขอเริ่มต้นที่ Background ก่อนว่า ปีนี้ วัดพระธรรมกายมีทั้ง โอกาส และ อุปสรรค (Opportunities & Threats) โอกาสก็คือ ฝ่ายการเมือง ที่พรรคเพื่อไทย ได้บริหารประเทศ ภายใต้ ยิ่งลักษณ์ (ซึ่งที่วัดก็ On Air MV ยิ่งลักษณ์ ใน DMC TV ไปเรียบร้อยแล้ว) นอกจากนี้ สิ่งที่ไม่เห็นมีใครพูดในนี้ ก็คือ การที่มีคนของวัดพระธรรมกาย ได้ไปอยู่ใน คณะกรรมาธิการ 2 คณะ ที่เกี่ยวข้อง ก็คือ คณะกรรมาธิการศึกษา และ คณะกรรมาธิการศาสนา ศิลปะ และ วัฒนธรรมของสภาผู้แทนราษฎร ซึ่งแตกต่างเมื่อเทียบกับสมัย รัฐบาลพรรคประชาธิปัตย์ ... ดังนั้น ที่จั่วหัวว่า วัดพระธรรมกาย บุกกรุงเทพแล้ว มีทั้ง ถูก และ ผิด เพราะในความเป็นจริง เขาจะบุกทั้งประเทศ และ ทั้งโลก ตามแผนการที่จะมี Dmammakaya Communities (ชุมชนธรรมกาย) ส่วนเรื่องอุปสรรค ก็คือ ภาวะทุน หรือ รายได้ หรือ ผลประกอบการ ที่ไม่เข้าเป้า จากสภาพน้ำท่วม สภาวะเศรษฐกิจ สภาวะผู้ทำบุญรายใหญ่กระจุกตัว รายกลางและรายย่อย ทำได้ไม่เข้าเป้าหมาย .... เราดูได้จากอะไร 1. กฐินธรรมชัย ช่วงปลายปี 2554 รายได้ไม่เข้าเป้า ..... จึงมีภาค 2 ด้วย 2. ผ้าป่าวันขึ้นปีใหม่ ต้นปี 2555 (ซึ่งไม่ค่อยได้จัดเป็นประจำ) ได้แต่ตัวเลข ... เงินจริงยังไม่เข้าวัด พอ 2 โครงการยักษ์ ในการหาทุนประจำปี มีปัญหา จึงต้องมา ตัวช่วยสุดท้าย คือ หล่อหลวงปู่ทองคำ และ อะไรต่ออะไรที่เป็น หลวงปู่สด ซึ่งรวมถึง การตักบาตรพระ 1 ล้านรูป บนเส้นทางอัญเชิญหลวงปู่ทองคำ (เริ่มจากธุดงค์กุหลาบก่อน และที่จะตามมาอีก) ทั้งหมด คือ โครงการหาทุนครับ ....เป็น Campaign Event Marketing ที่เป็น Series ที่ประกอบด้วย 1. CSR (Corporate Social Responsibilities) Marketing โดยการชูเรื่อง 286 วัดใน 4 จังหวัดภาคใต้ (เดี๋ยวจะมีคนมาบอกว่า เขาทำมากว่า 7 ปีแล้ว .... เข้าใจไหมว่า วิกฤติ คือ โอกาส) และเห็นไหมว่า การสื่อสาร การตักบาตร มีทั้ง เรื่องจังหวัดชายแดนภาคใต้ เรื่องพุทธชยันตี และ เรื่อง หลวงปู่สด ปนเปกันไปหมด 2. กิจกรรม หาทุนจากภายใน (คนวัด) ตามเอกสารคู่มือการจัดตักบาตรพระของวัดพระธรรมกาย ในตาราง SBA6 เรื่องของทุน มีการแบ่งสายให้เจ้าหน้าที่ / ผู้นำบุญ สายต่างๆ ทำเป้า หาทุน โดยแบ่งเป็น Class ต่างๆ ตั้งแต่ระดับ 5 ล้าน (5M) , 1.26 ล้าน, 1 ล้าน ไล่มาเรื่อยๆ ดูที่รูปก็จะเห็นง่ายๆ มีทั้ง เจ้าภาพโต๊ะ, เจ้าภาพ 1 โบว์, เจ้าภาพ 2 โบว์, เจ้าภาพประธานใหญ่, เจ้าภาพบุญพิธี ที่แบ่งบทคำกล่าวต่างๆ หลักๆ เน้นที่ การได้ลง Logo ที่สื่อต่างๆ นี่คือ Sponsorship Marketing ครับ 3. กิจกรรม สร้างลูกค้าใหม่ ...... ในลักษณะของ Direct Sales / MLM หรือ การเป็น สมาชิก จะมีจำนวนมากที่ Inactive คือนิ่งๆ ไม่ค่อยได้ใช้บริการ หรือ หนักๆเข้าคือ ไหลออกจากระบบ อันนี้ เรียกว่า CHURN Rate สังเกตุไหมครับว่า ทำไม พวกขายตรงรายใหญ่ๆ ถึงต้องโฆษณา หรือ ทำกิจกรรม ทั้งกระตุ้น การใช้จ่าย กระตุ้นสมาชิกเก่าให้อยู่ในระบบ และ หาสมาชิกใหม่ มาเติมส่วนที่นิ่งๆ + ไหลออก (CHURN Rate) วัดพระธรรมกาย จัดงานตักบาตรทั้งปี จนรู้สูตรว่า ถ้านิมนต์พระ เท่านั้น เท่านี้ รูป จะมี ผู้มาร่วมกิจกรรมเป็นกี่เท่าของยอดพระที่มาร่วมงาน .... อยากรู้ว่า เท่าไหร่ ขอไม่บอกนะ รอให้ชาววัดพระธรรมกายมาเฉลยเอง ดังนั้น จึงไม่แปลกใจที่ จะจัดตักบาตร บนที่ ที่เป็น หัวใจของชุมชน และ เศรษฐกิจ ของ ทิศต่างๆ รอบกรุงเทพมหานคร ที่จะจัดตักบาตรต่อไปคือ ลาดพร้าว - สะพานควาย , Central World, เยาวราช, วงเวียนใหญ่ สิ่งหนึ่งที่จะเป็นตัวกำหนด นอกจากว่ามีชุมชนขนาดใหญ่แล้ว ก็คือ ระดับเศรษฐกิจของชุมชนนั้นๆ นอกจากนี้ วัดกันด้วย ทีมงานของชาววัดพระธรรมกาย ที่เป็นเจ้าของพื้นที่ทำเลทองนั้นๆว่า ...... เอา อยู่ ?????? การเปิดลูกค้าใหม่ (Customer) นั้น ทางวัดพระธรรมกาย จะทำเงียบๆไม่ได้ เพราะ การจะได้ ลูกค้า (Customer) 1 คน ต้องมาจาก Prospect (กลุ่มเป้าหมาย) อย่างน้อย 10 เท่า และ การจะได้ Prospect 1 คน ต้องมาจาก Lead ที่ได้มาอีกอย่างน้อย 10 เท่า เช่นกัน ดังนั้น การตั้งเป้า คนตักบาตร 10 ล้านคน แปลว่า อยากได้ เนื้อๆ เน้นๆ แบบ 100,000 คน ก็ เยี่ยมแล้ว เพื่อพัฒนา ทั้งหมด ให้เป็น คนวัด / คนที่ศรัทธา Brand Royalty วัดพระธรรมกายต่อไป ทั้งหมด เพื่อ ระดมทุน / ระดม คน (ใหม่ๆ) / สร้างพุทธภาคีแบบ พันธมิตรที่เป็น Strategic Alliance และ อื่นๆ อีกมากมาย นอกจาก การสร้างภาพ / การได้เป็นข่าว เป็นต้น จากคุณ : buddy เขียนเมื่อ : 13 มี.ค. 55 21:30:54

ความคิดเห็นที่ 56 อย่างว่าแหละครับ คนวัดพระธรรมกาย แม้พระเถระหลายพรรษาแทบไม่รู้ หรือถ้ามีคนมาบอก ก็จะไม่เชื่อ เพราะศรัทธานำหน้าแรงกล้ามาก ข้อมูลจาก คห 55 น้อยคนนักจะรู้ ยิ่งถ้าแฉออกมาถึงเป้าหมายที่แท้จริงแล้วล่ะก็ งามหน้าล่ะที่นี้ แต่อย่าไปคิดว่าจะล้มง่ายๆ เขามีทั้งมวลชน รัฐบาล และเศรษฐีในกำมือ เผลอๆ มีกองทัพบางภาคโดนเขากลืนไปแล้วด้วย เฮ้อ!!! สงสารพระพุทธศาสนา สงสารประเทศไทย จากคุณ : ปทุมฉัตรสหัสรังษี เขียนเมื่อ : 13 มี.ค. 55 23:14:08

ความคิดเห็นที่ 57 #54 คุณร่มธรรมครับ ผมว่ามันไม่ได้เป็นการ "ให้" จริง ๆ หรอก มีแต่การ "ลงทุน" customer ที่เห็นทุ่มกันสุดตัว ก็เพราะมันเป็นการลงทุน ตามความเชื่อที่ถูกกระตุ้นว่า มีแต่ได้กำไรมหาศาลนับไม่ถ้วนในภพชาติหน้า(?) การให้แบบ "ทุ่มหมดหน้าตัก" ผมมองว่าเป็นเรื่องผิดปกติ เพราะ "ทุ่มหมดหน้าตัก" แบบนั้น จะพบได้ก็แต่การพนัน หรือการลงทุน ให้ "ทุ่มหมดหน้าตัก" คนสองคน ก็ยังพอว่า แต่นี่ พฤติกรรมนี้มันเกิดการทำซ้ำ ใน customer จำนวนอย่างน้อยหลักร้อยถึงหลักพัน แสดงว่า มันไม่ใช่สิ่งที่เกิดขึ้นตามสภาพปกติแล้ว ส่วนทางองค์กร ที่เห็นจัดงานให้เปล่าต่าง ๆ พวกนั้น จะให้จริง ๆ แบบยอมขาดทุนเท่าไหร่กัน ผมรู้ ว่าวัดนี้ไม่ได้เอากำไรเป็นตัวเงินหรอก แต่เอากำไรในเชิงการประชาสัมพันธ์ สร้างภาพลักษณ์มากกว่า วัดนี้ คงไม่มีทางปล่อยให้ใครก็ไม่รู้ มาแค่นั่งกินข้าวฟรี น้ำฟรี แล้วกลับไปแน่ ๆ ถ้าคนที่ศรัทธาจริง ๆ ด้วยตนเองจริง ๆ แล้่วจะให้จริง ๆ การ "ทุ่มหมดหน้าตัก" คงไม่มีทางเกิดขึ้น เพราะอย่างน้อย ก็ต้องกลั่นกรองด้วยสติปัญญามาแล้วในระดับหนึ่ง ว่าจะให้อะไร เพื่ออะไร ปริมาณเท่าใด แล้วตน/ครอบครัว/สังคม/ฯลฯ จะต้องเดือดร้อนหลังจากนั้นหรือไม่ ไม่ใช่การ "ทุ่มหมดหน้าตัก" แบบผ่านแค่ไขสันหลัง หลังจากการถูกกระตุ้น ตามหลักจิตวิทยา (เชื่อไหมว่า สื่อ dmc ของวัดพระธรรมกาย เป็นสื่อที่วัดพระธรรมกายสร้างขึ้น และออกแบบมา เพื่อการยัดระบบความคิดความเชื่อรูปแบบหนึ่ง ให้กับผู้ชม และไม่มีการเปิดโอกาส ให้ผู้ชมคิดวิเคราะห์ตามความเป็นจริง หรือตั้งข้อสงสัยเลยแม้แต่น้อย แถมสโลแกนที่ว่า the only one channel ก็บ่งเจตนารมณ์ชัดเจน กะจะให้ผู้ชมเชื่อว่าช่องนี้ช่องเดียวดีที่สุด ไม่ต้องดูช่องอื่นอีกต่อไป ซึ่งนี่ก็เป็นกระบวนการทางจิตวิทยารูปแบบหนึ่งนะครับ ลองดู dmc ดี ๆ นะครับ คุณจะพบได้ว่ามันเป็นอย่างนี้จริง ๆ หรือแม้แต่การสอนในวัดก็เถอะ อนุบาลฝันในฝันน่ะ มีมั้ย ที่จะให้ผู้ร่วมรายการมาตั้งคำถามกันสด ๆ ตั้งกันตอนนั้น ตรงนั้น ไม่ต้องมี script แล้วถามหลวงพ่อธัมมชโยกันตรงนั้นเลย ถ้าไม่แน่จริง ก็หน้าหงายคาโพเดียมกันตรงนั้น ออกอากาศกันทั่วโลกเลย ให้รู้ว่าใครแน่จริง ใครไม่แน่จริง ผมเอง ถ้ามีโอกาสได้สนทนาโดยส่วนตัว กับสามเณร พระนวกะ มัชฌิมะ เถระ มหาเถระที่เขาว่าเก่ง ผมจะชอบตั้งคำถามกับท่านเหล่านั้นเสมอ ๆ เอาเรื่องที่ท่านรู้ดีนั่นแหละ ถ้าท่านตอบได้ดี อธิบายได้ชัดแจ้ง จนผมรู้สึก clear ผมก็ยอมรับนับถือ แต่ถ้าท่่านอึก ๆ อัก ๆ ตอบไม่ได้ ผมก็ไม่นับถือนะ เพราะเห็นรู้จริง แต่ถามแล้วตอบไม่ได้ แล้วจะเป็นอาจารย์ไปทำไม แต่สงสัยหลวงพ่อธัมมชโยคงจะเป็นพวกอย่างหลัง ถึงกลัวนักกลัวหนา กับการถูกตั้งคำถาม แล้วให้ตอบกันเฉพาะหน้า ชอบแต่จะให้เขียนคำถามส่งมาล่วงหน้า แล้วให้ลูกศิษย์แต่งคำตอบงามหรูดูโดดเด่นให้) ไม่ใช่ว่าผมตระหนี่หรอกนะ เพราะจริง ๆ ผมก็มักจะบริจาคทานตามวัดวาอาราม ตามโอกาสอันควร ตามกำลังศรัทธา และตามกำลังเงิน ในฐานะชาวพุทธ ที่ปฏิบัติธรรมตามสมควรแก่ธรรม แต่ผมเห็นความผิดปกติ ในสิ่งที่คุณเรียกว่า "การให้" ที่มีต่อองค์กร ที่เรียกว่า "วัดพระธรรมกาย" ผมจึงต้องมากล่าวเช่นนี้ เผื่อคุณจะ "ตาสว่าง" กับเขามั่ง จากคุณ : ABP@BDZ เขียนเมื่อ : 14 มี.ค. 55 00:26:53

ความคิดเห็นที่ 58 ทั้งหมด ทั้งมวล ที่วัดพระธรรมกายทำอยู่ มาจากนโยบาย คำสั่งดี ของหลวงปู่วัดปากน้ำ ก่อนที่ท่านจะมรณภาพ ใจความว่า "ให้เผยแผ่ วิชชาธรรมกาย ไปทั่วโลก" ทราบว่ายุคสงครามโลก หลวงปู่วัดปากน้ำ ท่านอยากเห็นชาวยิว ได้รู้จักพระพุทธศาสนา เพราะต้นกำเนิดชาวยิว เป็นพวกฉลาด มาจากชนชาติบรรพกาลเชื้อสายอริยกะ และชาวอริยกะบางส่วน ก็กลายมาเป็นเชื้อสายศากยะ นั่นคือโคตมโคตร ของเจ้าชายสิทธัตถะนั่นเอง (กรุณาใช้วิจารณญานในการรับรู้ด้วย) ส่วนวิธีการของวัดพระธรรมกายหากจะไปสอดคล้องกับระดับสติปัญญาทางโลก หรือไปตรงกับทฤษฏีของใคร นั่นก็เป็นแค่หลักการ ส่วนวิธีการที่จะนำไปสู่ภาคปฎิบัตินั้น น่าจะเป็นความรับผิดชอบของพุทบริษัทที่เห็นตรงกัน ว่าเป็นสิ่งควรทำ หรือ ไม่ควรทำ สติ ปัญญา ของมนุษย์ มีปลายทางเพียงสองประการ คือ น้อมนำไปสู่ กุศล และ อกุศล อย่าได้กลัวปัญญาของบัณฑิต แต่จงระวังปัญญาของคนพาล วัดพระธรรมกาย ใช้หลักการตลาดหรือไม่ ตอบยากนะ เพราะการตลาดแบบโลกิยะย่อมมีจุดอ่อน แต่ไม่ใช่สาระสำคัญ ที่จะต้องกลัว แม้ภูมิปัญญาในพระไตรปิฎก บางอย่างจำแนกออกมาแล้ว สอดคล้องกับหลักการตลาดด้วยซ้ำ แต่อย่าเอาหลักการตลาดที่ถูกคนไม่ดีทำไว้ มาเหมารวมกับหลักการเผยแผ่ของวัดพระธรรมกาย ในพระไตรปิฎกมีสอนเรื่อง วานิชสูตร นี่ก็เรื่องการตลาดทางธรรม ควรมองเจตนาที่จะนำไปสู่ผลลัพธ์ ทั้งเบื้องต้น ท่ามกลาง และเบื้องปลาย วานิชสูตร แก้เป็น วณิชชสูตร แก้ไขเมื่อ 14 มี.ค. 55 03:20:09 แก้ไขเมื่อ 14 มี.ค. 55 03:15:50 จากคุณ : AkALiKo23 เขียนเมื่อ : 14 มี.ค. 55 03:03:23

ความคิดเห็นที่ 59 การปลูกฝังด้านโลกียธรรม เขาได้คะแนนเต็ม แต่เรื่องโลกุตตรธรรมแล้ว เขาปรารถนาสร้างบารมีไปเรื่อยๆ ไม่คิดจะหลุดพ้นในภพชาตินี้ จากคุณ : venture เขียนเมื่อ : 14 มี.ค. 55 08:00:55

ความคิดเห็นที่ 60  ความคิดเห็นที่ 39    คุณ คห 30 ที่วัดต้องจัดให้มีการบิณฑบาตร พระจำนวนมาก ๆ ผ่านเส้นทางนี้เพราะต้องการให้ที่ ที่ มีการจัดตักบาตรนั้นมีศิริมงคล เพื่อประชาชนและคนทั้งแผ่นดินอยู่อย่างสงบสุข เพราะเส้นทางนี้เคยผ่านอุทกภัยมาก่อนไงล่ะ นี้เป็นความหวังดีของวัดที่มีต่อคนทั้งประเทศ  เรื่องรถติดก็เป็นแค่ส่วนเล็กน้อย เพราะปิดถนนตอนกลางคืน คนส่วนน้อยเสียสละให้คนทั้งแผ่นดิน  ทำให้ไม่ได้หรือจ๊ะ ทำไมคิดมากจัง จากคุณ : รู้นะคิดอะไรอยู่ (hinny)   เขียนเมื่อ : 13 มี.ค. 55 09:34:57  ที่วัดพระธรรมกายเองก็จัดกิจกรรมบิ๊กบุญมาตลอดนับแต่ครั้งเป็นสำนักศูนย์พุทธจักรปฏิบัติธรรม  ในปี พ.ศ. 2513 นับต่อเนื่องถึงปัจจุบันก็มากกว่า 40 ปีแล้ว ยังไม่เป็นศิริมงคลเพียงพอที่จะป้องกันน้ำท่วมในปี 2554 ได้เลย การไปตระเวนตักบาตรแค่วัน/ครึ่งวันจะไปป้องกันน้ำท่วมได้ยังไงฟะ ตัวเองยังเอาตัวไม่รอดเลย ทำดีอวดชาวบ้าน  แต่ภายในมีแต่ความชั่วหมักหมมโสมมเป็นที่สุด จากคุณ : ตรัยพล เขียนเมื่อ : 14 มี.ค. 55 09:45:26

ความคิดเห็นที่ 61 คุณ คห 60 คุณไปนอนหลับที่ไหนมา ค่ะ หาว่าวัดพระธรรมกายน้ำท่วมนะค่ะ ตามข่าว คลองรพีพัฒน์ กลายเป็นทุ่ง ระบายน้ำ เหลือแต่วัดพระธรรมกาย ที่ยังปักหลักสู้ วิกฤตน้ำท่วม จากคุณ : รู้นะคิดอะไรอยู่(จริงปะ) (hinny) เขียนเมื่อ : 14 มี.ค. 55 11:15:28

ความคิดเห็นที่ 62 นอกจากวัดน้ำไม่ท่วมแล้ว ทางวัดยังมีน้ำใจนำ พระภิกษุ สามเณร อุบาสก อุบาสิกา ไปช่วยเหลือ ผู้อื่นอีก คุณเอาอะไรมาเขียนค่ะ จากคุณ : รู้นะคิดอะไรอยู่(จริงปะ) (hinny) เขียนเมื่อ : 14 มี.ค. 55 11:18:42

ความคิดเห็นที่ 63 แม้แต่สามเณรก็ยังอดใจไม่ช่วยไม่ได้เลย คุณณณณณ จากคุณ : รู้นะคิดอะไรอยู่(จริงปะ) (hinny) เขียนเมื่อ : 14 มี.ค. 55 11:19:38

ความคิดเห็นที่ 64 นอกจากวัดช่วยนำคนไปแล้ว ทางวัดยังมีน้ำใจจัดถุงแดงไปมอบให้อีก จากคุณ : รู้นะคิดอะไรอยู่(จริงปะ) (hinny) เขียนเมื่อ : 14 มี.ค. 55 11:23:53

ความคิดเห็นที่ 65 คนทำความดีปิดไม่อยู่ หรอกค่ะ สำนักข่าวต่างประเทศทนไม่ได้กับกระทำความดี ยังต้องรีบลงข่าวให้เลย http://www.kalyanamitra.org/2554/newsjaisai/newsjaisai.php/detail/%E0%B8%AA%E0%B8%B7%E0%B9%88%E0%B8%AD%E0%B8%A1%E0%B8%A7%E0%B8%A5%E0%B8%8A%E0%B8%99%E0%B8%95%E0%B9%88%E0%B8%B2%E0%B8%87%E0%B8%9B%E0%B8%A3%E0%B8%B0%E0%B9%80%E0%B8%97%E0%B8%A8%E0%B8%99%E0%B8%B3%E0%B9%80%E0%B8%AA%E0%B8%99%E0%B8%AD%E0%B8%82%E0%B9%88%E0%B8%B2%E0%B8%A7%E0%B8%81%E0%B8%B2%E0%B8%A3%E0%B8%9B%E0%B9%89%E0%B8%AD%E0%B8%87%E0%B8%81%E0%B8%B1%E0%B8%99%E0%B8%99%E0%B9%89%E0%B8%B3%E0%B8%97%E0%B9%88%E0%B8%A7%E0%B8%A1%E0%B8%82%E0%B8%AD%E0%B8%87%E0%B8%A7%E0%B8%B1%E0%B8%94%E0%B8%9E%E0%B8%A3%E0%B8%B0%E0%B8%98%E0%B8%A3%E0%B8%A3%E0%B8%A1%E0%B8%81%E0%B8%B2%E0%B8%A2%E0%B9%84%E0%B8%9B%E0%B8%97%E0%B8%B1%E0%B9%88%E0%B8%A7%E0%B9%82%E0%B8%A5%E0%B8%81 จากคุณ : รู้นะคิดอะไรอยู่(จริงปะ) (hinny) เขียนเมื่อ : 14 มี.ค. 55 11:25:05

ความคิดเห็นที่ 66 พระท่านทำดีถึงขนาดนี้แล้ว คุณจะไม่อนุโมทนาสาธุกับท่านอีกเหรอค่ะ จากคุณ : รู้นะคิดอะไรอยู่(จริงปะ) (hinny) เขียนเมื่อ : 14 มี.ค. 55 11:25:46

ความคิดเห็นที่ 67 ภาพข่าวในความเห็นที่ 60 บ่งบอกชัดเจนอยู่แล้ว เป็นข่าวน้ำท่วมรายวันที่เขาอัพเดทเป็นระยะ ๆ  เขาก็บอกชัด ๆ ว่า น้ำท่วมในวัดพระธรรมกายระดับน้ำสูง 50-60 ซม. ยังจะมาปฏิเสธอะไรอีกเล่า นี่อีก  ภาพข่าวอีกส่วนหนึ่งซึ่งเขาบอกว่า  สื่อต่างประเทศเอาไปลง จากคุณ : ตรัยพล เขียนเมื่อ : 14 มี.ค. 55 11:47:26

ความคิดเห็นที่ 68 มาดูข่าวอีกสำนักหนึ่ง จากคุณ : ตรัยพล เขียนเมื่อ : 14 มี.ค. 55 11:59:55

ความคิดเห็นที่ 69 2.) จากคุณ : ตรัยพล เขียนเมื่อ : 14 มี.ค. 55 12:00:31

ความคิดเห็นที่ 70 3.) จากคุณ : ตรัยพล เขียนเมื่อ : 14 มี.ค. 55 12:07:15

ความคิดเห็นที่ 71 "พท+ธรรมกาย+ซ้ายใหม่ = กินรวบประเทศไทย ^ ^ ตกใจที่มีคนที่มีความคิดแบบนี้ในห้องศาสนา อ่านแล้วต้องส่ายตัว ไม่ชอบวัดธรรมกายเหมือนกัน ทำธุรกิจเหมือนบริษัท แต่ทำดีก็ขอชมครับ งานนี้ขออนุโมทนาบุญครับ จากคุณ : นักฆ่าดาบเดียว เขียนเมื่อ : 14 มี.ค. 55 12:17:26

ความคิดเห็นที่ 72 ที่พูด ผิดถูก เถียงกันนี้ มีใครเคยศึกษาเคยไปวัด เคยพูดกันด้วยเหตุด้วยผลมั่งครับนะ ดูเหมือนพยายาม ยัดเยียดความรู้สึก อคติ ความคิดเห็นส่วนตัวกันซะส่วนมาก ลองมองว่า เมืองไทยได้อะไร พุทธศาสนาได้อะไร คนไทยได้อะไร ก่อนมั้ยครับ แต่ คห,ข้างบน อ่านข่าว แค่นี้เเล้วเชื่อเลยหรือครับ ตั้งแต่คลองระพีพัฒน์ ถึง คลองสาม น้ำไม่ท่วมครับ เอาอยู่ของจริง สู้จริงๆ พังเเล้วซ่อม ซ่อมเเล้วอุด รถผมก็จอดที่นั้น ไม่ได้เอาออก แห้งสนิทไม่เป็นไรเลยครับ ลองหาข่าวดีๆซิครับ จากคุณ : แต้มขาว เขียนเมื่อ : 14 มี.ค. 55 12:20:11

ความคิดเห็นที่ 73 ขอเพิ่มเติม มุมมอง ข้อมูล การดำเนินการ ช่วยเหลือ ผู้ประสบภัยน้ำท่วม ของชาววัดพระธรรมกาย ให้ทุกท่านได้พิจารณา ( ต่อเนื่องจากความคิดเห็น ที่ 60 - 68 ) หลายมาตรฐานหรือเปล่า ฝากให้ช่วยพิจารณา พระภิกษุสงฆ์ ผู้สมควรมีจิตเมตตา สมควร คิดอย่างนี้ + พูดอย่างนี้ + ทำอย่างนี้ หรือไม่ ก็ฝากพิจารณาด้วย ... คณะกรรมการชุดนี้ เป็นคณะกรรมการใหญ่ ซึ่งค่อยแตกออกมาเป็น 10 คณะอีกที (คณะกรรมการป้องกันอุทกภัย อาทิเช่น ศูนย์ประสานงาน / รักษาเขื่อนคลองระพีพัฒน์ / ถุงและทราย / อุปกรณ์ / บริหารผู้นำบุญ / บริหารอัตรากำลัง / ดูแลที่พัก / สนับสนุน / ประชาสัมพันธ์ สื่อสารมวลชน เป็นต้น นะ) เมื่อแรกเริ่มที่น้ำเพิ่งจะเริ่มท่วม และ วัดยังไม่ได้รับผลกระทบหนัก (ช่วงนั้น มธ. ธรรมศาสตร์เป็น Hero ครองข่าวทุกวัน ทุกสื่อ) ใครต่อใครก็แห่กันไปที่ธรรมศาสตร์ศูนย์รังสิต วัดพระธรรมกายเน้น Offer ให้พื้นที่ เป็นพื้นที่จอดรถ ยังไม่ค่อยมีใครอพยพมาที่ศูนย์วัดพระธรรมกาย พระคุณเจ้า คิด + พูด + ทำ อย่างนี้ 1. แบ่งแยกชนชั้น ของความเมตตาและความช่วยเหลือ ที่พระภิกษุสงฆ์ ควรมีต่อเหล่าผู้ประสบภัยชาวไทย รอบวัดพระธรรมกาย ออกเป็น Class ต่างๆ ในวัด เช่นที่สภาธรรมกายสากล เฉพาะ คนวัด หรือ ครอบครัวของคนวัด หรือ ผู้นำบุญ ไม่อนุญาตให้ผู้ประสบภัยมาพัก ในวัดแบ่งออกเป็น ที่วิหารคต / ระเบียง 4 สภาธรรมกายสากล / ถ้าเป็นพนักงานก็ พื้นที่ 58 ไร่ / ถ้าเป็นผู้อพยพทั่วไป ก็ โน่น >>>> พื้นที่ 196 ไร่ และ 130 ไร่ ข้ออ้าง: .... เฉพาะ ผู้ที่ถือศีล 5 ศีล 8 เท่านั้น ไม่พูดตรงๆว่าเฉพาะชาววัดพระธรรมกาย ข้อเท็จจริง: ข้อเท็จจริง 1. กลัวว่า หากคนนอกมาอยู่แล้ว ไม่ยอมย้ายออก จะมีปัญหา (คือมองปัญหาที่วัดจะมีจากผู้อพยพ และมองว่าผู้ที่เข้ามาเป็นผู้ที่สร้างปัญหาให้กับวัด) นอกจากนี้ บรรดาผู้ที่เข้ามาอยู่ในวัดพระธรรมกายแล้ว ยังต้องย้ายไปอยู่ที่ต่างจังหวัด ในศูนย์สาขาของวัดพระธรรมกายอีกทีหนึ่ง ข้อเท็จริง 2. กลัวว่า จะมีสายสืบ / สายข่าว แปลกปลอม เป็นผู้อพยพ มาหาข่าวในวัด (อันนี้ ขี้ระแวง จิตวิตก) ข้อเท็จจริง 3. กลัวว่า มีพวก ต่างศาสนา (คงรู้นะว่าเป็นศาสนาไหน) ปลอมตัวเข้ามาปะปนกับผู้อพยพ มาสร้างความเสียหายให้วัดพระธรรมกาย ไม่อยากลงรายละเอียด ที่แตกออกไปนี้ให้มาก เพราะความจริงในเรื่องนี้ที่ไม่มีใครรู้ ยังมี อีกมาก ไม่ใช่เพียงเท่านี้ 2. สร้างโอกาสจากวิกฤติน้ำท่วม สร้างข่าวและ Footage เน้นที่ จากเดิมเคยไม่ชอบวัดพระธรรมกาย มาเป็นชอบวัดพระธรรมกาย เช่นเรื่อง สร้างเขื่อน เรื่องพายเรือแจกของ หรือ เรื่องรถฟรีสำหรับชาวบ้านที่เดือดร้อน (คนละเรื่องกับรถฟรี สำหรับชาววัดที่จะมาที่วัด) หลังๆจากกลัวๆกล้าๆ ช่วยแบบเงียบๆ ก็เป็นนโยบายเลย ว่า >>> ต้องเป็นข่าว การช่วยน้ำท่วมของชาววัดพระธรรมกาย แบ่งเป็น 3 Phase : Phase1: ช่วงเริ่มต้น ขอดูทิศทาง ขอเป็นแบบเงียบๆ Low Profile Phase2: ทำไมน้ำท่วมนานจัง งั้นขอเป็นข่าวบ้างดีกว่า จึงมีสื่อออกในประเทศ และ ต่างประเทศ ตามที่ยกมาอ้างนั่นแหละ (เพราะเป็นการจัดตั้ง นะ .... ขอ บอก) Phase3: ขอดัง / เด่น กว่าใคร >>> จึงเกิดกรณี Big Bag / กรณี หยุดน้ำท่วม ด้วย ความคิดอันบรรเจิด เช่นจะหยุดได้ใน 24 - 48 ชม. (ที่อยุธยา) เป็นต้น หรือ ถึงขณะให้เป็น Model การป้องกันน้ำท่วม ระดับรัฐบาล ต้องมา โปรโมท ยังมีอีกเยอะ เรื่องน้ำท่วม ที่ชาววัด ปลื้ม แต่ หลายๆ คนไม่ปลื้มด้วย จากคุณ : buddy เขียนเมื่อ : 14 มี.ค. 55 12:55:18

ความคิดเห็นที่ 74 ความคิดเห็นที่ 71     "พท+ธรรมกาย+ซ้ายใหม่ = กินรวบประเทศไทย ^ ^ ตกใจที่มีคนที่มีความคิดแบบนี้ในห้องศาสนา อ่านแล้วต้องส่ายตัว ไม่ชอบวัดธรรมกายเหมือนกัน ทำธุรกิจเหมือนบริษัท แต่ทำดีก็ขอชมครับ งานนี้ขออนุโมทนาบุญครับ จากคุณ : นักฆ่าดาบเดียว   เขียนเมื่อ : 14 มี.ค. 55 12:17:26   ------------------------------------------------------------------------------------------ แค่นี้ ตกใจแล้วเหรอ ??? ถ้ารู้ว่าเขาทำยิ่งกว่านี้ จะยิ่งไม่ตกใจกันใหญ่ หรือ คุณ ??? เช่น .... ถ้ารู้ว่า เขา กำลังทำอะไรบางอย่าง กับมวลชนเสื้อแดง เป็น แผนต่อเนื่อง และเป็นแผนที่เรียกว่า Harvesting Plan หลังจากที่ชาววัดทุ่มสุดตัว ให้เพื่อไทยชนะเลือกตั้ง คุณจะไม่ตกใจเหรอว่า .... เป็นวัดแท้ๆ ในขณะที่ต้องทำ 2 อย่างพร้อมกัน คือ รณรงค์ให้คนมาบวช (โครงการของตัวเอง ... เรื่องทางธรรม) กับรณรงค์ให้เพื่อไทยชนะ (โครงการคนอื่น ... เรื่องทางโลก) ชาววัดกับเลือกให้ความสำคัญ กับเพื่อไทยชนะเลือกตั้งมากกว่า ถึงขนาดพูดว่า " คนบวชไม่เข้าเป้า ไม่เป็นไร >>> ขอให้เพื่อไทยชนะก็พอ " จากคุณ : buddy เขียนเมื่อ : 14 มี.ค. 55 13:05:20

ความคิดเห็นที่ 75 อนุโมทนาคุณตรัยพล  , คุณ buddy ครับ จากคุณ : ต่อmcu เขียนเมื่อ : 14 มี.ค. 55 14:29:53

ความคิดเห็นที่ 76 ขอบคุณ คุณ buddy  ความคิดเห็นที่ 55 คุณ ABP@BDZ  ความคิดเห็นที่ 57 คุณ AkALiKo23 ความคิดเห็นที่ 58 และทุกๆ ความคิดเห็น อ่านแล้วได้มุมมองใหม่ๆ เกี่ยวกับวัดนี้ จขกท. คิดว่าเป็นประโยชน์กับหลายๆท่านที่ยังไม่เคยเข้ามามาสัมผัสและศึกษาคำสอนของวัดนี้ ทำให้สะกิดความคิดอีกเรื่องว่า “ทำไมคนจำนวนมากจึงศรัทธาวัดนี้มากขนาดนี้ และผู้ที่เข้าวัดนี้ก็ไม่ใช่แค่ตาสี ตาสา เป็นระดับผู้นำองค์กร และผู้นำด้านพุทธศาสนา เขารู้อะไร เขาเห็นอะไร จึงเกิดศรัทธาแรงกล้าเช่นนี้ได้” แต่คิดว่าตอนนี้เรากำลังออกนอกประเด็นไปถกเถียงกันเรื่องน้ำท่วมปีที่แล้วกัน (เรื่องมันผ่านไปแล้ว) จขกท.ก็เคยมาตั้งกระทู้เรื่องนี้ปีที่แล้ว เพราะเห็นว่าเป็นประโยชน์ต่อสังคมโดยรวม  ขอความกรุณาทุกท่านใช้เหตุผลถกเถียงกัน เพื่อประโยชน์ต่อชาวพุทธศาสนา เห็นต่างได้แต่อย่าแตกแยก จากคุณ : มองตาม เขียนเมื่อ : 14 มี.ค. 55 17:17:48

ความคิดเห็นที่ 77 มิจฉาทิฏฐิครอบงำจิตใจ  ทำให้บางคนเห็นสีขาวกลายเป็นสีดำ  และบางคนเห็นสีดำกลายเป็นสีขาว จากคุณ : msdu เขียนเมื่อ : 14 มี.ค. 55 17:18:18

ความคิดเห็นที่ 78 จาก คห 23  ผมขอต่อเพิ่มว่า... สิ่งที่  วัดพระธรรมกาย สอนไม่ได้คือ "ญาณทัศนะ สมาธิ วิชชาธรรมกาย (ที่ถูกต้องอย่างที่หลวงพ่อวัดปากน้ำสอน)" สอนได้แค่... วิชชาธรรมกายที่เพี้ยนแล้วเพี้ยนเล่า เฝ้าแต่เพี้ยน ทั้งถวายข้าวพระพุทธเจ้า ทั้งพระธรรมกายใส่เสื้อแขนยาว กางเกงขายาวมีผ้ารัดอก หรือแม้แต่เจดีย์รูปทรงหลอกลวงอ้างว่ามีในนิพพาน และการทุ่มเงินมหาศาลซื้อชื่อเสียง หรือการบริหารเงินเอาเงินตรงนี้ไปโปะตรงนั้น ฯลฯ เรียนได้ที่วัดพระธรรมกาย โดยเจ้าอาวาส สอนเองจ้า จาก คห 74  มีแผนต่อไปอีกว่า จะเอาทักษิณกลับมาไทย ด้วยพลังคนเสื้้อขาว ผมเคยอยู่ในเหตุการณ์ก่อนเลือกตั้ง ทุกวันอาทิตย์ บ่าย ระดมคนไปฟัง สมเกียรติ สรลัมพ์ - ลีลาวดี วัชโรบล - กล้าณรงคื ไพรีพ่ายฤทธิเดช ฯลฯ พุดปลุกเร้าว่า หลวงพ่อพ้นคดีมาได้เพราะคนๆนี้ เราต้องช่วยให้เขากลับมาสานงานต่อของหลวงพ่อ  เอาสิ เอากะเค้า พรรคธรรมกาย จากคุณ : ปทุมฉัตรสหัสรังษี เขียนเมื่อ : 14 มี.ค. 55 18:14:34

ความคิดเห็นที่ 79 ความคิดเห็นที่ 76     ทำไมคนจำนวนมากจึงศรัทธาวัดนี้มากขนาดนี้ จากคุณ : มองตาม   เขียนเมื่อ : 14 มี.ค. 55 17:17:48   ------------------------------------------------------------------------------------------ จะตอบทั้งแบบ ทฤษฎี และ แบบประสบการณ์ตรง ตอนมีโอกาสได้อยู่ในวัดพระธรรมกายมาระยะหนึ่ง 1. ขอตอบโดยทฤษฎี ก่อนว่า ...... เพราะวัดพระธรรมกาย มีจุดแข็ง ที่เป็นจุดแข็งที่โดดเด่น กว่าวัดอื่นๆ (Differentiate Marketing) ซึ่งไม่ใช่ธรรมะ แต่เป็นสิ่งที่คุณจะไม่ได้เห็นในวัดอื่นๆทั่วๆไป นั่นคือ ความสวยงาม ความเป็นระเบียบ ความสบายใจครับ (สบายตา สบายหู สบายใจ) ที่คุณจะไม่ได้เห็นจากวัดอื่นๆ .......... นี้คือ เรื่อง " หยาบ " วัดพระธรรมกาย " ขายความ ปลื้ม " .... นี้คือ เรื่อง " ละเอียด " ขอยกตัวอย่างง่ายๆ ... เขาจะสอนให้พระในวัดพระธรรมกาย ต้องนุ่งห่ม อย่างเรียบร้อย อยู่ในวัด จะห่มบวบ ห่มเต่า ห่มดอง จะพูดจาก็ต้องดูดี ทางหนึ่ง วัดสอนว่า .... ไม่มีใครรู้ว่า เรากี่พรรษา แต่ญาติโยม จะตัดสินเราจากการนุ่งห่ม หรือ พฤติกรรม ของเราก่อน ในขณะเดียวกัน วัดก็สอนเรื่องเดียวกันนี้ว่า ...... นี้คือการฝึก " นิสัย " (รวมอยู่ใน 5 ห้องชีวิต เนรมิตนิสัย ของวัดพระธรรมกาย) สิ่งเหล่านี้  ....... พอเห็นทุกครั้ง พอเห็นบ่อยๆ พอเห็นทุกที่ ก็ " ตอกย้ำ " แต่ ... แต่ ... แต่ สิ่งที่ใครอาจไม่เคยได้ยิน ในเรื่องเดียวกัน จากพระผู้ใหญ่ในวัดพระธรรมกาย ก็คือ พระในวัดพระธรรมกาย >>> เป็นทั้ง Salesman และ Moving Ad (โฆษณาเคลื่อนที่) นี้คือ จุดขายรวม ยังไม่แยกกลุ่ม (Clustering Segmentation) 2. ขอตอบในแง่สื่อ เพราะวัดพระธรรมกาย มีสื่อเป็นของตัวเอง เราจะเห็นว่า สื่อของวัดพระธรรมกาย เป็นลูกผสม ระหว่าง " โลกีย + โลกุตตร " คือมีเคมีส่วนผสม ทั้งทางโลกและทางธรรม มีทีมงาน ทีมประสานงาน และ ทีมสนับสนุน ให้เจ้าอาวาส โดยเฉพาะ สิ่งเหล่านี้ เมื่อได้ยิน .... " ได้ เสพ " บ่อย ก็ติด จะเห็นว่า มี 2 สิ่งที่โดดเด่นในสื่อของวัดพระธรรมกาย ก็คือ MV เพลงวัด และ ตัวเพลงของวัดเอง เจ้าอาวาสก็แต่งเพลงด้วย ในนาม " ตะวันธรรม " รวมถึงแต่งเพลงให้ ยิ่งลักษณ์ ด้วย ในเรื่องของสื่อ .... เขาเอา " Hook " มาตอกย้ำ ครับ 3. ขอตอบในแง่จิตวิทยา เพราะ วัดพระธรรมกาย มี Content มากมาย เป็น ภาคบังคับ เวลามาปฎิบัติธรรม คือ เขียนเล่าประสบการณ์ (เลือกเอาแต่ ประสบการณ์ ที่ดี) วัดจึงมี Content มากมาย ที่สามารถเลือกเอามา " ขาย " เพื่อให้คนที่ยังไม่ศรัทธา ได้ศรัทธาตาม หรือ ผู้ที่ศรัทธา แล้ว ก็ ศรัทธา ยิ่งๆ ขึ้นไป ทั้งหมดเป็นการ " ตอกย้ำ " เป็นการ Confirm ว่า ...... ใช่ เลย 4. ขอตอบจากประสบการณ์ส่วนตัว ที่เคยอยู่ในวัด เพราะวัดมี Research ครับ ... เต็มไปหมด ยกตัวอย่างเช่น วัดพระธรรมกาย สามารถทราบได้เลยว่า ... ตอนนี้พระบวชใหม่ในโครงการ A. ศรัทธา หรือ ไม่ศรัทธา B. ศรัทธา เท่าไหร่ C. ศรัทธาอะไร D. พระกลุ่มไหน (ช่วงอายุ) ศรัทธาเรื่องอะไร เข้าเป้า หรือ ไม่เข้าเป้า ก็เอามาเทียบกับ KPI (Key Performance Index) ที่เป็นดัชนีชี้วัดที่ต้องการครับ ดังนั้น ไม่ใช่เรื่องยาก ที่วัดพระธรรมกาย จะ " บริหาร ศรัทธา " หรือ " สร้างศรัทธา " จากคุณ : buddy เขียนเมื่อ : 14 มี.ค. 55 20:21:22

ความคิดเห็นที่ 80 ผู้ที่เข้าวัดนี้ก็ไม่ใช่แค่ตาสี ตาสา เป็นระดับผู้นำองค์กร และผู้นำด้านพุทธศาสนา เขารู้อะไร เขาเห็นอะไร จึงเกิดศรัทธาแรงกล้าเช่นนี้ได้” จากคุณ : มองตาม   เขียนเมื่อ : 14 มี.ค. 55 17:17:48   ------------------------------------------------------------------------------------------ ขอตอบในแง่ บุคคล และ ในแง่ องค์กร นะ 1. ในแง่บุคคล ... วัดมี Know How ครับ ประสบการณ์กว่า 40 ปีของวัดพระธรรมกาย เจอมาทุกรูปแบบ จึงสะสม Know How เพราะมีทั้ง พวกเคย ชอบ วัดแล้วกลับมาไม่ชอบวัด (วัดมีเครื่องมือ ติดตามตรวจสอบ และ ประเมินผล) กับพวกที่ ไม่เคย ชอบวัด แล้วกลับมาชอบวัด .... พวกหลังๆนี้ จะได้คิว ออกทีวี  DMC ของวัด ประมาณว่า นี่ไง เห็นไหม  ... ????? Know How เหล่านี้ วัดจึง กล้าท้า ให้มาพิสูจน์ เขาไม่กลัว ว่าจะ มา เขากลัวว่าจะไม่มาพิสูจน์ มากกว่า นี้จึงเป็นเหตุผล ที่ชาววัดพระธรรมกาย มีข้อความทอง ใน Web Board ว่า ให้ไปพิสูจน์ ที่วัด 2. ในแง่องค์กร ขอตอบแยกเป็น 2 ประเด็นคือ 2.1 แง่อำนาจ ... บางเรื่อง ผู้นำองค์กร ทั้งพระ และ โยม ทั้งผู้ใหญ่ ขั้นกลาง และ ชั้นล่าง ต่างก็ต้องทำ เพราะตามสายการบังคับบัญชาครับ จะเห็นว่า ... สำนักงานหนึ่ง ที่ขึ้น ตรง กับ นายกรัฐมนตรี พอสมัยหนึ่ง ไม่ Active เท่าอีกสมัยหนึ่ง สายพระ ก็เป็นอย่างนั้น ... มีการวาง คน เอาไว้ เช่นกัน 2.2 แง่ ผลประโยชน์ 2.2.1 ผลประโยชน์ ตรง 2.2.2 ผลประโยชน์ อ้อม 2.2.3 ผลประโยชน์ ต่างตอบแทน 2.2.4 ผลประโยชน์ แบบ Win-Win Benefits ไม่ใช่ไม่มีข้อมูล แต่ไม่อยากไป ลึกกว่านี้ ลอง " ใช้ปัญญา " คิดเอาเองบ้าง สรุปสุดท้าย ............... ขอ อย่า ทึกทักเอาว่า 1. ตาสี ตาสา เป็น คนโง่ ... เป็นคนที่เขาหลอกง่ายโดยทั่วไป 2. คนมีปัญญาในวัดพระธรรมกาย ... เป็นพวก " ฉลาด " เป็นพวกหลอกไม่ได้ ง่ายๆ เพราะฉะนั้น คนมีปัญญาในวัดพระธรรมกาย เป็นคนฉลาด ย่อมไม่ถูกหลอกได้ง่ายๆ ดังนั้น สิ่งที่เขาเหล่านั้น ( ชาววัดพระธรรมกาย ) ศรัทธา แล้ว จึงเป็นเรื่องที่ถูกต้อง เอา อะไร มา คิด เนี่ย !!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!! คนบางคน ... จริงๆ เขาเป็น คน " ไม่รู้ " ไม่ใช่ คนโง่ .... เขาโดน คนที่ " ฉลาด โกง โกง " หลอก เอา ..... แต่เขายัง " ฉลาด " พอที่จะรู้ว่า ........ เรา ถูก หลอก คนบางคน ... จริงๆเขาเป็นคนที่รู้ไปหมด ............ มีเรื่องเดียวที่เขาไม่รู้ ก็คือ เรื่อง ตัว เอง เขา โง่ โดน หลอกแล้ว ยังไม่รู้ ว่า โดน หลอก เข้าใจหรือยัง จากคุณ : buddy เขียนเมื่อ : 14 มี.ค. 55 20:52:23

ความคิดเห็นที่ 81 ความคิดเห็นที่ 80     ผู้ที่เข้าวัดนี้ก็ไม่ใช่แค่ตาสี ตาสา เป็นระดับผู้นำองค์กร และผู้นำด้านพุทธศาสนา เขารู้อะไร เขาเห็นอะไร จึงเกิดศรัทธาแรงกล้าเช่นนี้ได้” จากคุณ : มองตาม   เขียนเมื่อ : 14 มี.ค. 55 17:17:48   ------------------------------------------------------------------------------------------ เพิ่มเติม จาก ความคิดเห็น ที่ 80 1. องค์กร อะไร ต่างๆมากมาย ที่คุณเห็น ใน List ตามเอกสาร หลายๆ องค์กร เป็น " ร่าง ทรง " ของวัดพระธรรมกาย ( หากคุณ ไม่รู้ว่า องค์กร ไหน เป็น " ร่าง ทรง " วัดพระธรรมกาย ก็จะบอกให้รู้ ) 2. องค์กรที่คุณ บอกว่า มีศรัทธา แรงกล้า ...... ที่ไม่ใช่วัดพระธรรมกาย ขอ คุณ ช่วย ยกตัวอย่าง สักองค์กรได้ไหม เรื่อง ตักบาตร นี่แหละ + ตัวอย่างเพิ่มเติม สิ่งที่คุณบอกว่า สิ่งนั้น คือ " ศรัทธา แรง กล้า " เพราะ ที่เห็น หลายองค์กร ใน List ก็ไม่ได้ทำอะไร " แรง กล้า " .... >>> แค่สนับสนุน ตามสายงาน ไม่เลือกใคร >>> แค่ทำ เพราะ นายใหม่ (การเมือง) ให้ทำ >>> แค่นิดหน่อย ทางวัดก็ลง Logo >>> หลาย Logo เป็น Logo หน่วยงานของวัด หรือ ร่างทรง ของวัด >>> หลาย Logo ต้อง จ่าย " เงิน " เป็นค่า Sponsorship ครับ ถึงจะได้ Logo (ผลงาน ผู้นำบุญ) 5 ล้านบ้าง , 1 - 2 ล้านบ้าง ตาม Sponsorship Package ครับ   ขอ ถาม คุณ ..... งานนี้ ใครๆ ก็รู้ว่า จัดโดยความคิดของวัดพระธรรมกาย (งานต่อเนื่อง นับพระ ทบไป ทบมา ให้ได้ 1,000,000 รูป) ... ใครไม่รู้ ก็นึกว่า ตักบาตรทีเดียว 1 ล้านรูป ดูที่ กระทู้นี้ได้ http://www.pantip.com/cafe/religious/topic/Y11830203/Y11830203.html รูปแบบ ก็เป็นเอกลักษณ์เฉพาะวัดพระธรรมกาย บริหารโดย 15 ทีมงานในวัดพระธรรมกาย ต่อการจัดตักบาตร 1 ครั้ง (ตามเอกสาร คู่มือตักบาตรพระ 10,000 รูปทั่วไทย ของวัดพระธรรมกาย) ทำไม งานใหญ่ แบบนี้ ... งาน บิ๊กบุญแบบนี้ ... ไม่ กล้า บอก ใคร ว่า เป็น วัดพระธรรมกาย ทำไม .... ทำ แบบ เป็น " อี แอบ " ทำไม .... ช่วยตอบ สักที ทำไม .... ไม่ ยอมตอบ สัก ที ( ถาม ล่วงหน้า ) จากคุณ : buddy เขียนเมื่อ : 14 มี.ค. 55 21:56:04

ความคิดเห็นที่ 82 #81 จริง ๆ องค์กรวัดพระธรรมกาย ก็คงประเมินสถานการณ์มาอย่างดีแล้ว ว่าถ้าจะทำในนามวัดจริง ๆ จะเกิดปัญหาคือ การต่อต้าน เพราะภาพลักษณ์องค์กรยังไม่ดีในสายตาของสังคม ถ้าขืนทำในนามองค์กร ก็จะถูกสังคมประนามมากขึ้น อีกอย่าง วัดพระธรรมกาย ยังยึดคำว่า "วัด" ซึ่งเชื่อมโยงกับคำว่า "พุทธศาสนา" ที่เชื่อมโยงกับ "ความพอเพียง" ไปด้วย ถ้าขืนทำออกมา สังคมจะเริ่มตั้งคำถามว่า วัดพระธรรมกายเป็นวัดในพระพุทธศาสนา ทำไมถึงจัดงานอย่างยิ่งใหญ่ หรูหรา ไม่พอเพียง ซึ่งจริง ๆ คำถามตรงนี้ สังคมตั้งมาตั้งแต่งานศพแม่ชีจันทร์ ที่จัดมาตั้งแต่ 10 ปีก่อน แต่เพิ่งมาเป็นกระแสใน forward mail เมื่อไม่นานมานี้ องค์กรวัดพระธรรมกาย ก็รู้ตัวดีว่า ภาพลักษณ์เสียตรงนี้ยังเป็นจุดอ่อน และอ่อนไหวต่อการถูกวิพากษ์วิจารณ์ ยิ่งในขณะที่ีเศรษฐกิจยังมีปัญหาอยู่ การวิพากษ์วิจารณ์ตรงนี้ก็ยิ่งเยอะั ซึ่งจะทำให้องค์กรเสียความนิยมมากขึ้น การหา customer ก็จะทำได้ยากขึ้นไปกว่านี้อีก เพราะฉะนั้น การจัดงานตักบาตร ก็จะจัดโดยหน่วยงานเอกชน และหน่วยงานรัฐบาล (บางส่วน) ซึ่งมีคนขององค์กรวัดพระธรรมกายเข้าไปควบคุม หรือพูดง่าย ๆ คือ เป็น nominee ขององค์กรวัดพระธรรมกาย เพื่อลดกระแสต่อต้านด้วยประการหนึ่ง สังเกตนะครับว่า งานที่ใหญ่ ๆ คนเยอะ ๆ ทั้งหลาย ที่เสี่ยงกับการวิพากษ์วิจารณ์ วัดพระธรรมกาย และมูลนิธิธรรมกาย จะไม่รับผิดชอบโดยตรง แต่จะมีองค์กร nominee มาจัดการแทน อย่างงานเกี่ยวกับเด็ก เยาวชน นักเรียน นิสิต นักศึกษา ก็จะอยู่ในความรับผิดชอบของชมรมพุทธศาสตร์สากลฯ ซึ่งเป็นองค์กร nominee ที่ควบคุมชมรมพุทธฯ ในทุกมหาวิทยาลัย อย่างนี้เป็นต้น ป.ล. ขอเพิ่มเติมให้อย่างหนึ่ง เรื่องรางวัล "พุทธคุณูปการ" ที่จัดมอบโดย คณะกรรมาธิการศาสนา ศิลปะ และวัฒนธรรม สภาผู้แทนราษฎร ซึ่งเป็นองค์กร nominee ของวัดพระธรรมกายอีกหนึ่งแห่ง อยากให้สังเกตผู้ได้รับรางวัลในแต่ละปี ถ้าดูเผิน ๆ ก็แจกให้ผู้ที่สมควรได้รับตามปกติ มีหลวงพ่อจรัญ หลวงตามหาบัว หลวงพ่อวิริยังค์ ฯลฯ เป็นต้น (หลวงป๋าผมก็เคยได้รับถวายรางวัลกาญจนเกียรติคุณ ของปีที่แจกกันปีแรก) แต่ในแต่ละปี ก็มักจะมีพระจากองค์กรวัดพระธรรมกาย หรือผู้บริจาครายใหญ่ ได้รับรางวัลนี้เสมอ ๆ ขนาดพระระดับหัวหน้าฝ่ายของวัดพระธรรมกาย ยังได้กันเป็นว่าเล่น น่าสงสัยมั้ยว่า เฉพาะของวัดพระธรรมกาย ทำไมแค่นั้นถึงได้กันแล้ว ของวัดอื่น ก็มีแต่ระดับเจ้าอาวาส หรือถ้าไม่เป็นเจ้าอาวาส ก็ต้องมีผลงานเด่นจริง ๆ ลองสังเกตความผิดปกตินี้ให้ดีนะครับ จากคุณ : ABP@BDZ เขียนเมื่อ : 15 มี.ค. 55 01:49:37

ความคิดเห็นที่ 83 สื่ออื่น ๆ หลาย ๆ สื่อ หลาย ๆ สำนัก  เขาลงข้อมูลข่าวสารตรงกัน คุณ hinny มัวแต่เสพย์สื่อ DMC  เพียงสื่อเดียว  จึงไม่รู้เรื่องรู้ราวภายนอก ยังไง ๆ ก็เปิดใจรับฟังสื่อภายนอก และบุคคลอื่น ๆ กันบ้างนะครับ จากคุณ : ตรัยพล เขียนเมื่อ : 15 มี.ค. 55 06:54:48

ความคิดเห็นที่ 84 แท้จริงแล้ว คุณbuddy เคยอยู่ที่วัดพระธรรมกายมาก่อนนั่นเอง  จึงได้รู้นอกรู้ในได้ละเอียดลึกซึ้งถึงปานนี้  ไม่ทราบว่าเคยอยู่ในสถานะใดในวัดนี้  ที่คุณเล่ามาทำให้รู้ว่าวัดนี้มีการฝึก "นิสัย" ทำให้มีความเป็นระเบียบเรียบร้อยอย่างที่ว่าจริงๆ จขกท.มีโอกาสได้เข้าไปรู้สึกสบายใจดี แล้วก็ได้สนทนาธรรมกับพระรูปหนึ่ง ท่านบวชได้ครบ 1 พรรษาพอดี ท่านเล่าให้ฟังว่าท่านมาจากสุโขทัย ก่อนที่จะบวชท่านใช้ชีวิตแบบไร้ระเบียบ ตอนนี้ท่านใช้ชีวิตอย่างสมณะ(สงบ)และไม่คิดจะลาสิขา ถามท่านว่าใช้ชีวิตตามระเบียบวินัยรู้สึกอึดอัดบ้างไหม ท่านตอบว่าอยู่ร่วมกันก็จำเป็นต้องมีระเบียบวินัยจึงจะเกิดสุข และสงบแม้ไม่ออกไปปลีกวิเวกตามป่าเขา (เล่าตามคำพูดของพระนะ) ต้องขออภัย ที่ใช้คำว่า “ตาสี ตาสา” ทำให้คิดว่าหมายความว่าเป็น คนโง่  ความจริงไม่ได้ตั้งใจหมายความเช่นนั้น จขกท. หมายถึง ผู้ที่ไม่มีอำนาจ ไม่มีชื่อเสียง กลับมาที่เรื่องโครงการตักบาตร คุณคิดว่ามีผลประโยชน์มากมาย มันขัดแย้งกันอยู่นะ แค่ข้าวสารอาหารแห้งที่ได้จากการตักบาตร ถ้าเทียบกับ กิจกรรมหาทุนจากภายใน (คนวัด) ที่คุณเคยบอก เป็นจำนวนเงินหลายๆๆๆล้าน คิดแล้วมันไม่เห็นจะคุ้มกันเลยกับการออกมาจัดกิจกรรมนอกวัดแบบนี้ แล้วเพียงแค่อยากจะได้คน (ใหม่ๆ) ก็ดูจะเป็นการลงทุนที่ขาดเป้าหมายที่ชัดเจน มองในแง่ของนักธุรกิจนะ จากคุณ : มองตาม เขียนเมื่อ : 15 มี.ค. 55 18:03:45

ความคิดเห็นที่ 85 ความคิดเห็นที่ 84     จขกท.มีโอกาสได้เข้าไปรู้สึกสบายใจดี แล้วก็ได้สนทนาธรรมกับพระรูปหนึ่ง ท่านบวชได้ครบ 1 พรรษาพอดี ท่านเล่าให้ฟังว่าท่านมาจากสุโขทัย ก่อนที่จะบวชท่านใช้ชีวิตแบบไร้ระเบียบ ตอนนี้ท่านใช้ชีวิตอย่างสมณะ(สงบ)และไม่คิดจะลาสิขา ถามท่านว่าใช้ชีวิตตามระเบียบวินัยรู้สึกอึดอัดบ้างไหม ท่านตอบว่าอยู่ร่วมกันก็จำเป็นต้องมีระเบียบวินัยจึงจะเกิดสุข และสงบแม้ไม่ออกไปปลีกวิเวกตามป่าเขา (เล่าตามคำพูดของพระนะ) จากคุณ : มองตาม   เขียนเมื่อ : 15 มี.ค. 55 18:03:45   ------------------------------------------------------------------------------------------ 1. ถ้านั่นคือวัตถุประสงค์ ในการบวช ของพระรูปนั้น ก็เรื่องของท่าน ... ไม่ขอ Comment 2. คุณจะ สนับสนุนวัดพระธรรมกาย ก็เรื่องของคุณ ... ไม่ขอ Comment มัน คือ " จริต " สิ่งที่จะให้คือ ข้อมูล ... ส่วนใครจะคิดยังไง ตัดสินใจอย่างไร หลังจากนั้น ก็เป็นเรื่องของแต่ละบุคคล ... ไม่ได้สนใจ จากคุณ : buddy เขียนเมื่อ : 15 มี.ค. 55 19:00:51

ความคิดเห็นที่ 86 ความคิดเห็นที่ 84     กลับมาที่เรื่องโครงการตักบาตร คุณคิดว่ามีผลประโยชน์มากมาย มันขัดแย้งกันอยู่นะ แค่ข้าวสารอาหารแห้งที่ได้จากการตักบาตร ถ้าเทียบกับ กิจกรรมหาทุนจากภายใน (คนวัด) ที่คุณเคยบอก เป็นจำนวนเงินหลายๆๆๆล้าน คิดแล้วมันไม่เห็นจะคุ้มกันเลยกับการออกมาจัดกิจกรรมนอกวัดแบบนี้ แล้วเพียงแค่อยากจะได้คน (ใหม่ๆ) ก็ดูจะเป็นการลงทุนที่ขาดเป้าหมายที่ชัดเจน มองในแง่ของนักธุรกิจนะ จากคุณ : มองตาม   เขียนเมื่อ : 15 มี.ค. 55 18:03:45   ------------------------------------------------------------------------------------------ 1. นั่นเป็นเพราะ .... คุณยังไม่เข้าใจธุรกิจ และ นั่นเป็นเพราะ คุณยังไม่เป็นนักธุรกิจ จริงๆ ( อาจจะเรียน " ธุรกิจ " ... อาจจะทำ " ธุรกิจ " แต่ไม่เข้าใจ  "ธุรกิจ" ) ขออโหสิกรรม ตรงนี้ก่อนนะ 2. นั่นเป็นเพราะ .... คุณยังไม่เข้าใจ วัดพระธรรมกาย การใช้ชีวิตอยู่ในวัดพระธรรมกาย ทำกิจกรรมร่วมกับวัดพระธรรมกาย ต่อให้ สมาชิกเขตใน ( สมาชิก 3 อาศรม ) ของวัดพระธรรมกาย หลายๆปี ก็ไม่ได้แปลว่า คนๆนั้น เข้าใจวัดพระธรรมกาย อย่างดีจริง เมื่อเรานั่งสมาธิ .... เราถูกสอนให้เข้ากลา่งของกลางของกลางของกลาง ไปเรื่อยๆ ความเป็นจริงในวัดพระธรรมกาย ก็เหมือนกัน .... คือ มีความจริง ในความจริง ในความจริง ของความจริง ที่เปิดเผยออกมา แล้วแต่ว่า คนรับสาร ของชาววัดพระธรรมกาย อยู่ใน ระดับไหน 3. นั่นเป็นเพราะ คุณ ยังไม่เคย บริหารโครงการ ของวัดพระธรรมกายมาก่อน ไม่ได้มีจิต คิดดูถูก หรือ อกุศล .... แต่เป็นคำพูด ตรงๆ ที่คิดว่า เป็นสาเหตุของการ Post ข้อความที่ 84 ขออโหสิกรรม อีกครั้ง .... อยากให้อ่านข้อมูลล้วนๆ อย่าเอา " อารมณ์ " มาจับ เดี๋ยว บาป ทั้งคู่ จากคุณ : buddy เขียนเมื่อ : 15 มี.ค. 55 19:15:54

ความคิดเห็นที่ 87 เรื่องนี้ มีที่ไหน วัดไหน องค์กรไหน ทำได้อย่างนี้บ้าง? ธรรมกายทำได้ ถือว่าดีกับพระพุทธศาสนา น่าจะอนุโมทนา สาธุ เรื่องอื่นๆ อย่าพึ่งเอามารวม จากคุณ : มุมม่วง เขียนเมื่อ : 15 มี.ค. 55 21:48:15

ความคิดเห็นที่ 88 ก็วัดอื่นๆ  เขาไม่คิดจะทำอะไรนอกทางแบบนั้น ...  ถ้าจะทำไม่ยากอะไรหรอกสำเรื่องเรื่องง่ายๆแบบนั้น ...  แต่วัดอื่นๆ ไม่ต้องเรียกร้องระดมคนหรือพระ    ต่างคนต่างมีศรัทธาสมัครใจไปกันเอง ไม่มีการเรียกร้องเรี่ยไรอะไรสักบาท ... เคยเห็นงานศพหรืองานอื่นๆของครูบาอาจารย์สายพระป่าทางอีสานบ้างไหม   คนไปกันมืดฟ้ามัวดินเป็นล้านๆ นับไม่ถ้วน  พระก็ไปร่วมพิธีกันเป็นหมื่นๆ จนนับไม่ไหว   ... เขาไปกันเองด้วยความสมัครใจ  ไม่ต้องไปโน้มน้าวเรียกร้องชักจูง   อะไรๆทุกๆอย่างในงานแจกฟรีกันหมด จากคุณ : โขตาน เขียนเมื่อ : 15 มี.ค. 55 22:02:52

ความคิดเห็นที่ 89 ความคิดเห็นที่ 84     กลับมาที่เรื่องโครงการตักบาตร คุณคิดว่ามีผลประโยชน์มากมาย มันขัดแย้งกันอยู่นะ แค่ข้าวสารอาหารแห้งที่ได้จากการตักบาตร ถ้าเทียบกับ กิจกรรมหาทุนจากภายใน (คนวัด) ที่คุณเคยบอก เป็นจำนวนเงินหลายๆๆๆล้าน คิดแล้วมันไม่เห็นจะคุ้มกันเลยกับการออกมาจัดกิจกรรมนอกวัดแบบนี้ แล้วเพียงแค่อยากจะได้คน (ใหม่ๆ) ก็ดูจะเป็นการลงทุนที่ขาดเป้าหมายที่ชัดเจน มองในแง่ของนักธุรกิจนะ จากคุณ : มองตาม   เขียนเมื่อ : 15 มี.ค. 55 18:03:45   ---------------------------------------------------------------------------------------- งั้นลองดูข้อมูลนี้ไม๊ หลายปีก่อน มีโครงการตักบาตรพระ 10,000 รูป โครงการหนึ่ง ชง Proposal ให้เจ้าคณะภาค ภาคหนึ่ง (ระดับพระเทพ ... ขอสงวนนาม) เพื่ออนุมัติโครงการ เนื้อหาใจความของ Proposal บอกว่า การตักบาตร จะทำเงินสะพัดได้ 250,000,000 บาท นี่คือเป้าหมาย ของการจัดงานตักบาตรพระ 10,000 รูป ครั้งนั้น คุณเรียก เป้าหมาย นี้ว่า ......... อะไร ??????????? งั้นเพิ่มเติมข้อมูลนี้ ในโครงการ ตั้งงบประมาณค่าใช้จ่าย (Cash / Out-Of-Pocket) อยู่ที่ 7 ล้านเศษ ( ตามจริง ) ของการจัดตักบาตร ครั้งนั้น แต่มาดู Sponsorship Package ที่ผู้นำบุญ ต้องไปบอกบุญ หรือ ขาย Package สิ มีตั้งแต่ 5 ล้าน, 1 - 2 ล้านบ้าง, เรื่อยไปจนถึง เก็บเศษเล็กเศษน้อยหน้างาน ( ขาจร ) (อ้างตามคู่มือการจัดตักบาตรพระ 10,000 รูป ตาราง SBA 6 หน้า 25 ) ... คูณมีคู่มือนี้หรือเปล่า ??? มีการตั้งเป้าระดมทุนให้ผู้นำบุญ แบ่งเป็นสายๆ ... และมีเป้าแบบมั่นใจ และ เป้าแบบ ทำได้จริง ต้นทุน 7 ล้าน ... รายรับที่เป็นตัวเงิน มากกว่า 7 ล้าน + ไม่นับ รายรับที่ไม่เป็นตัวเงินอีกเพียบ คุณเรียก ส่วนต่างนี้ว่า ................ อะไร ?????????????? จากคุณ : buddy เขียนเมื่อ : 15 มี.ค. 55 22:25:21

ความคิดเห็นที่ 90 ความคิดเห็นที่ 87     เรื่องนี้ มีที่ไหน วัดไหน องค์กรไหน ทำได้อย่างนี้บ้าง? ธรรมกายทำได้ ถือว่าดีกับพระพุทธศาสนา น่าจะอนุโมทนา สาธุ เรื่องอื่นๆ อย่าพึ่งเอามารวม จากคุณ : มุมม่วง เขียนเมื่อ : 15 มี.ค. 55 21:48:15   -------------------------------------------------------------------------------------- ขอเชิญ กลับไปอ่านความคิดเห็นที่ 80 - 82 แล้วตอบตัวเองให้ได้ว่า ....... โครงการที่ดี "ต่อพระพุทธศาสนา" แบบที่เชื่อนี้ >>> ทำไมถึงจัดงานแบบ อีแอบ ผ่านร่างทรง ที่เป็นองค์กรของตัวเอง อีกที ข้อสำคัญ: ก็เขาจัดงาน หาเหตุอ้าง ก็เพราะมันเป็นเรื่อง อื่นๆ ที่คุณบอกว่า อย่าเอามาเหมารวม นั่นเอง จากคุณ : buddy เขียนเมื่อ : 15 มี.ค. 55 22:35:37

ความคิดเห็นที่ 91 ความคิดเห็นที่ 84     กลับมาที่เรื่องโครงการตักบาตร คุณคิดว่ามีผลประโยชน์มากมาย มันขัดแย้งกันอยู่นะ แค่ข้าวสารอาหารแห้งที่ได้จากการตักบาตร ถ้าเทียบกับ กิจกรรมหาทุนจากภายใน (คนวัด) ที่คุณเคยบอก เป็นจำนวนเงินหลายๆๆๆล้าน คิดแล้วมันไม่เห็นจะคุ้มกันเลยกับการออกมาจัดกิจกรรมนอกวัดแบบนี้ แล้วเพียงแค่อยากจะได้คน (ใหม่ๆ) ก็ดูจะเป็นการลงทุนที่ขาดเป้าหมายที่ชัดเจน มองในแง่ของนักธุรกิจนะ จากคุณ : มองตาม   เขียนเมื่อ : 15 มี.ค. 55 18:03:45   ---------------------------------------------------------------------------------------- งั้นมาดู ข้อมูล นี้ไหม ........ เป็นการตักบาตร ฉลองพระบวชใหม่ ที่ระเบียงหนึ่งในวัดพระธรรมกาย 1. แปลว่า ไม่ต้องใช้ Full Team / Dream Team ของวัดพระธรรมกาย 2. แปลว่า ตัดค่าใช้จ่าย ได้อย่างมหาศาล ( Low-Cost Project / House Brand ) 3. แปลว่า แค่นำ ของมาใส่บาตร ฉลองพระบวชใหม่ แบบเรียบง่าย ผู้สมถะ พอเพียง ก็น่าจะพอ ให้ได้บุญทั้งโยม ทั้งพระ ....... ถูกไหม ????? แต่มาดู Sponsorship Package ของงานนี้กัน: 1. เจ้าภาพกล่าวถวายสังฆทาน (ไทย - บาลี)  ........ จ่าย 100,000 บาท 2. เจ้าภาพกล่าวถวายเครื่องไทยธรรม ................... จ่าย 100,000 บาท 3. เจ้าภาพกล่าวคำอธิษฐานจิต ........................ จ่าย 100,000 บาท 4 - 9 รวมๆละกัน เป็นเจ้าภาพ จิ๊บๆ ..................... จ่าย 50,000, 30,000, 10,000 ลดหลั่นจนถึงหลักพันบาท แค่จะใส่บาตรพระไม่กี่รูป ที่ระเบียงวัดพระธรรมกาย ในวัดพระธรรมกาย โดยพระวัดพระธรรมกาย ยังต้อง จ่าย หลักแสน หลักหมื่น อะไรๆ ก็เป็นผลประโยชน์ เป็นการระดมทุน ..... ใช้ พระ เป็น สินค้า / เครื่องมือ ( เดี๋ยวต้องมาแนว ... พระเป็นเนื้อนาบุญ ) คูณเรียกสิ่งนี้ว่า ............. อะไร ???????? จากคุณ : buddy เขียนเมื่อ : 15 มี.ค. 55 23:35:30

ความคิดเห็นที่ 92 ความคิดเห็นที่ 84     กลับมาที่เรื่องโครงการตักบาตร คุณคิดว่ามีผลประโยชน์มากมาย มันขัดแย้งกันอยู่นะ แค่ข้าวสารอาหารแห้งที่ได้จากการตักบาตร ถ้าเทียบกับ กิจกรรมหาทุนจากภายใน (คนวัด) ที่คุณเคยบอก เป็นจำนวนเงินหลายๆๆๆล้าน คิดแล้วมันไม่เห็นจะคุ้มกันเลยกับการออกมาจัดกิจกรรมนอกวัดแบบนี้ แล้วเพียงแค่อยากจะได้คน (ใหม่ๆ) ก็ดูจะเป็นการลงทุนที่ขาดเป้าหมายที่ชัดเจน มองในแง่ของนักธุรกิจนะ จากคุณ : มองตาม   เขียนเมื่อ : 15 มี.ค. 55 18:03:45   ----------------------------------------------------------------------------------------- งั้นมาดู ข้อมูล นี้ไหม ทำไมถึงอยากได้ คนใหม่ๆ ?????????????????? ก็เพราะว่า ผลประกอบการของวัดพระธรรมกาย ย่ำแย่ ลงอย่างหนักไง ก็ลองคิดดู ขนาดวันที่เป็น Highlight สุดๆของแต่ละเดือน เป็นวันที่ ชาววัดพระธรรมกาย ต้องมาให้ได้ (ถ้าไม่ตาย) อย่างวันอาทิตย์ต้นเดือน หรือ วันบูชาข้าวพระ ของชาววัดพระธรรมกาย ซึ่งคือวันระดมทุน นั่นเอง ซึ่งจัดเดือนละครั้ง ......... มีสาธุชน ที่ศรัทธา สุดๆ มาวัด ลดลง เฉลี่ย 5,000 คน ต่อเดือน และลดลงในเกือบทุกจังหวัด (นี่ขนาดบริการ มีรถ รับ - ส่ง + อาหาร ฟรี แล้วนะ) (คุณเคยเห็น ทีมงาน ในวัดพระธรรมกาย นับ รถ นับคน ที่มาวัดไหม / คุณเคยเห็น อาสาสมัคร สำนักหนึ่งในวัดพระธรรมกาย นับสาธุชน ที่อยู่ในสภาธรรมกายสากล วันอาทิตย์ต้นเดือนไหม ) คุณเรียกสิ่งนี้ว่า ........ อะไร ???? ถ้าคุณเป็นนักธุรกิจ มีสายตานักธุรกิจ ..... ถ้าคุณเป็นเจ้าของกิจการ หรือ ผู้บริหาร ...... คุณจะแก้ปัญหานี้อย่างไร ??????? เข้าใจเรื่อง CHURN Rate ......... สมาชิก ไหลออก หรือยัง ???? คุณยังจะกล้าพูดว่า .............. เป้าหมายไม่ชัดเจน อีกไม๊ จากคุณ : buddy เขียนเมื่อ : 16 มี.ค. 55 00:20:42

ความคิดเห็นที่ 93 กิจกรรมแบบนี้เป็นสิ่งที่ดีนะ แต่ทำไมถึงไม่มีความปลื้มใจอะไรเลยจริงๆ เพราะลัทธิธรรมกายพยายามที่จะกลืนกิน ถ้าเรามัวแต่วางเฉยลัทธินี้ก็คงจะครอบงำเผยแพร่ในสิ่งที่ผิดเพี้ยนเต็มไปหมด จากคุณ : mabot เขียนเมื่อ : 16 มี.ค. 55 00:55:53

ความคิดเห็นที่ 94 ที่จริงแล้ว วิชชาธรรมกาย  เป็นของดี สามารถฝึกปฎิบัติให้  รู้ เห็น เป็น ธรรมกายได้จริง แต่มีคนเลวจำนวนหนึ่ง เอา  วิชชาธรรมกาย ไปแอบอ้างหาผลประโยชน์ใส่ตัว คนพวกนี้ตายจากความเป็นมนุษย์ในชาตินี้เมื่อไร    จะรู้สึก...... ขออนุญาตเตือน  อย่าไปตำหนิ วิชชาธรรมกาย   ควรตำหนิเฉพาะพวกเอา วิชชาธรรมกาย ไปหาผลประโยชน์ จากคุณ : คนโบราณนานมาแล้ว เขียนเมื่อ : 16 มี.ค. 55 03:48:07

ความคิดเห็นที่ 95 ขอขอบพระคุณ คุณ buddy มากเลยครับ สำหรับข้อมูลดีๆ จากคุณ : 13th friday เขียนเมื่อ : 16 มี.ค. 55 04:14:44

ความคิดเห็นที่ 96 กำลังจะกดให้กิฟท์คุณ buddy กดไปแล้วก็ตกใจ เพราะระบบบอก กิฟท์หมด อิอิอิ ขออนุโมทนาครับ คุณ Buddy   ได้ประโยชน์และทำให้หลายๆท่านได้รับความรู้ครับ นี่แหละเขาเรียกว่าปัจจุบันกาล ขณะนี้ 16 มีนาคม 2555 ได้เข้าสู่ห้วงเวลา "พุทธศาสตร์ถูกรุกและล้ำ" ...ชาวพุทธร่วมกันปกป้องพระพุทธศาสนา...เป็นการสืบทอดพระพุทธศาสนาแท้ๆที่จะประดิษฐานต่อไปอีก(แต่อย่างไรก็ตาม  ก็ย่อมมีเวลาเสื่อมถอยลงอีก) ปล่อยวางได้แต่อย่าปล่อยปละละเลยครับ แก้ไขเมื่อ 16 มี.ค. 55 10:01:32 จากคุณ : ต่อmcu เขียนเมื่อ : 16 มี.ค. 55 09:43:39

ความคิดเห็นที่ 97 ให้กิ๊ฟต์เจ้าของกระทู้หลายๆกิ๊ฟต์  เพราะได้เปิดช่องให้คุณบัดดี้ได้มาแฉถึงไส้ในของพวกหัวนมจานบินทำมะโกย   จากคุณ : โขตาน เขียนเมื่อ : 16 มี.ค. 55 10:04:51

ความคิดเห็นที่ 98 ความคิดเห็นที่ 97     ให้กิ๊ฟต์เจ้าของกระทู้หลายๆกิ๊ฟต์  เพราะได้เปิดช่องให้คุณบัดดี้ได้มาแฉถึงไส้ในของพวกหัวนมจานบินทำมะโกย   จากคุณ : โขตาน เขียนเมื่อ : 16 มี.ค. 55 10:04:51   ------------------------------------------------------------------------------------------ เดี๋ยวทีหลัง ชาววัดพระธรรมกาย ก็ ไม่มา Post กระทู้ ใน Pantip นะ คือแค่อยาก Share ข้อมูล ให้เห็นครบทุกด้าน .... ส่วนใครจะเชื่อ หรือจะรู้สึกอย่างไร เป็นเรื่องของแต่ละบุคคล คือไม่ได้คิดว่าจะมาแฉ อะไรหรอกนะ ......... ก็เขียนอย่างที่รู้ ( ข้อมูล ล้วนๆ ) อันไหนเป็นทฤษฎี ก็บอกว่าเป็น ทฤษฎี อันไหนที่เขาทำดี ก็บอกว่าเขาทำดี ..... ก็ไม่ใช่ว่าจะไม่พูดถึง หรือ ชมวัดพระธรรมกาย เอาข้อมูลมากางดูกัน แล้ว แต่ละท่านก็คิดกันเอาเอง ( ถ้าเปิดใจให้กว้าง ) ยังไงเสีย ... วัดพระธรรมกาย ก็ไม่สะเทือน ด้วยเรื่องแค่นี้ เพราะ เขามีความพร้อมด้วย 1. สินค้า เก่า / ใหม่ / Recycle 2. สื่อ 3. ช่องทางจัดจำหน่าย ของตัวเอง ผ่าน ช่องทางขายตรง 4. Connection + Strategic Alliance ( พุทธภาคี ) 5. รากและความแข็งแกร่ง ที่ฝังถึง ระดับตำบล ระดับหมู่บ้าน ยังไม่เห็นมีใครพูดกัน ...... ก็ ขอ บอกกันที่ตรงนี้เลยนะว่า ช่องทางขายตรง ผ่านผู้นำบุญ ..... เก่า ไป แล้ว สำหรับวัดพระธรรมกาย ของใหม่ ต้องเป็น >>>>>>>> Franchise ใช่ครับ แฟรนไชส์ ถ้าใครมองวัดพระธรรมกาย กำลังรุก ประเทศไทย >>>>>> สายตาสั้นครับ ประเทศไทย หรือ กิจกรรมในประเทศไทย >>>> เป็น สินค้าต้นน้ำ ของวัดพระธรรมกาย ครับ ที่เขากำลังทำกันอยู่ นอกเหนือจาก Franchise คือ การส่งออก ครับ ( พูดภาษาวัดพระธรรมกาย ก็คือ เผยแผ่วิชชาธรรมกาย ไปทั่วโลก ) ดูทิศทางของกิจกรรม + ดูทิศทางของสื่อ + อะไรอีกหลายอย่าง ขอไม่พูดนะ >>> ก็จะเห็นเอง จากคุณ : buddy เขียนเมื่อ : 16 มี.ค. 55 10:44:34

ความคิดเห็นที่ 100 ช่องทางขายตรง ผ่านผู้นำบุญ ..... เก่า ไป แล้ว สำหรับวัดพระธรรมกาย ของใหม่ ต้องเป็น >>>>>>>> Franchise ใช่ครับ แฟรนไชส์ ^^ ^^ พูดได้ตรงใจจัง   คิดอย่างนี้เหมือนกันค่ะ ขอบคุณสำหรับข้อมูลค่ะ จากคุณ : chinatown เขียนเมื่อ : 16 มี.ค. 55 11:19:26