|
นตฺถิ ปญฺญาสมา อาภา แสงสว่างเสมอด้วยปัญญา ไม่มี สํ.ส. ๑๕/๕
ปญฺญา โลกสฺมิ ปชฺโชโต ปัญญาเป็นแสงสว่างในโลก สํ.ส. ๑๕/๖๑
โยคา เว ชายตี ภูริ ปัญญาเพียงดังแผ่นดินย่อมเกิด เพราะความประกอบโดยแท้ ขุ.ธ.๒๕/๕๒
อโยคา ภูริสงฺขโย ความสิ้นไปแห่งปัญญาเพียงดังแผ่นดิน เพราะความไม่ประกอบ
สุโข ปญฺญาย ปฏิลาโภ การได้เฉพาะซึ่งปัญญานำมาซึ่งความสุข ขุ.ธ. ๒๕/๓๓/๕๙
ปญฺญา นรานํ รตนํ ปัญญาเป็นรัตนะของนรชน สํ.ส. ๑๕/๕๐
ปญฺญาว ธเนน เสยฺโย ปัญญาเทียวประเสริฐกว่าทรัพย์ ขุ.เถร. ๒๖/๓๘๘/๓๗๙
นตฺถิ ฌานํ อปญฺญสฺส ความพินิจไม่มีแก่คนไร้ปัญญา (ฌานไม่มีแก่ผู้ไม่มีปัญญา) ขุ.ธ. ๒๕/๖๕
นตฺถิ ปญฺญา อฌายโต ปัญญาไม่มีแก่ผู้ไม่พินิจ ขุ.ธ. ๒๕/๖๕
ปญฺญา เจนํ ปสาสติ ปัญญาย่อมปกครองคนนั้น สํ.ส. ๑๕/๑๗๕/๕๒
ปญฺญาย มคฺคํ อลโส น วินฺทติ คนเกียจคร้านย่อมไม่ประสบทางแห่งปัญญา ขุ.ธ. ๒๕/๓๐/๕๒
สุสฺสูสํ ลภเต ปญฺญํ ฟังด้วยดี ย่อมได้ปัญญา สํ.ส. ๑๕/๑๗๕/๕๒
ปญฺญายตฺถํ วิปสฺสติ คนย่อมเห็นเนื้อความด้วยปัญญา อง.สตฺตก. ๒๓/๓
ปญฺญาย ปริสุชฺฌติ คนย่อมบริสุทธิ์ด้วยปัญญา ขุ.สุ. ๒๕/๓๖๑
ปญฺญา หิ เสฏฺฐา กุสลส วทนฺติ คนฉลาดกล่าวว่าปัญญาแล ประเสริฐสุด ขุ.ชา.สตฺตก. ๒๗/๕๔๑
ปญฺญาชีวีชีวิตมาหุ เสฏฺฐํ ปราชญ์กล่าวชีวิตของผู้เป็นอยู่ด้วยปัญญาว่าประเสริฐสุด สํ.ส. ๑๕/๕๘, ๓๑๕ ขุ.สุ. ๒๕/๓๖๐
อทฺธา หิ ปญฺญาว สตํ ปสตฺถา กนฺตา สิรี โภครตา มนุสฺสา ญาณญฺจ พุทฺธานมตุลฺยรูปํ ปญฺญํ น อจฺเจติ สิรี กทาจิ แท้จริง สัตบุรุษทั้งหลายสรรเสริญปัญญาเท่านั้น, ศิริเป็นที่ใคร่ของ คนโง่ เพราะมนุษย์ทั้งหลายยินดีในโภคสมบัติ, ก็ความรู้ของท่านผู้รู้ ทั้งหลาย ใครๆ ชั่งไม่ได้ ในกาลไหนๆ, คนมีศิริย่อมไม่ล่วงเลยคน มีปัญญาไปได้ ไม่ว่าในกาลไหนๆ (มโหสธโพธิสตฺต) ขุ.ชา.วีส. ๒๗/๔๒๘
คมฺภีรปญฺหํ มนสาภิจินฺตยํ นจฺจาหิตํ กมฺม กโรติ ลุทฺทํ กาลาคตํ อตฺถปทํ น ริญฺจติ ตถาวิธํ ปญฺญวนฺตํ วทนฺติ ผู้ขบคิดปัญหาอันลึกซึ้งด้วยใจ ไม่ทำกรรมชั่ว อันไม่เป็นประโยชน์เกื้อกูลเลย, ไม่ละทางแห่งประโยชน์ที่มาถึงตามเวลา, บัณฑิตทั้งหลายเรียกคนอย่างนั้นว่า ผู้มีปัญญา (สงฺภงฺคโพธิสตฺต) ขุ.ชา.จตฺตาฬีส. ๒๗/๕๔๐
ทาโส ว ปญฺญาสฺส ยสสฺสิ พาโล อตฺเถสุ ชาเตสุ ตถาวิเธสุ ยํ ปณฺฑิโต นิปุณํ สํวิเธติ สมฺโมหมาปชฺชติ ตตฺถ พาโล คนเขลามียศศักดิ์ ก็เป็นทาสของคนมีปัญญา, เมื่อเรื่องราวต่างๆ เกิดขึ้น คนฉลาดจัดการข้อใดได้แนบเนียน คนเขลาถึงความงมงายในข้อนั้น (มโหสธโพธิสตฺต) ขุ.ชา.วีส. ๒๗/๔๒๘
ปญฺญวนฺตํ ตถาวาทึ สีเลสุ สุสมาหิตํ เจโตสมถมนุยุตฺตํ ตํ เว วิญฺญู ปสํสเร ผู้รู้ย่อมสรรเสริญคนมีปัญญา พูดจริง ตั้งมั่นในศีล ประกอบความสงบใจนั้นแล (มหากสฺสปเถร) ขุ.เถร. ๒๖/๔๑๑
ปญฺญา สุตวินิจฺฉินี ปญฺญา กิตฺติโลกวฑฺฒนี ปญฺญาสหิโต นโร อิธ อปิ ทุกฺเขสุ สุขานิ วินฺทติ ปัญญาเป็นเครื่องวินิจฉัยสิ่งที่ฟังแล้ว ปัญญาเป็นเครื่องเพิ่มพูนเกีรยติคุณและชื่อเสียง คนผู้ประกอบด้วยปัญญาในโลกนี้ แม้ในความทุกข์ก็หาความสุขได้ (มหากปฺปินเถร) ขุ.เถร. ๒๖/๓๕๐
ปญฺญาย ติตฺตีนํ เสฏฺฐํ น โส กาเมหิ ตปฺปติ ปญฺญาย ติตฺตํ ปุริสํ ตณฺหา น กุรุเต วสํ บรรดาความอิ่มทั้งหลาย ความอิ่มด้วยปัญญาประเสริฐ เพราะผู้อิ่มด้วยปัญญานั้น ย่อมไม่เดือดร้อนด้วยกามทั้งหลาย, คนผู้อิ่มด้วยปัญญา ตัณหาย่อมกระทำให้อยู่ในอำนาจไม่ได้ (โพธิสตฺต) ขุ.ชา.ทฺวาทส. ๒๗/๓๘๓
ส ปญฺญวา กามคุเณ อเวกฺขติ อนิจฺจโต ทุกฺขโต โรคโต จ เอวํ วิปสฺสี ปชหาติ ฉนฺทํ ทุกฺเขสุ กาเมสุ มหพฺภเยสุ ผู้มีปัญญานั้น ย่อมเล็งเห็นกามคุณเป็นของไม่เที่ยง เป็นทุกข์ และเป็นโรค, ผู้เห็นอย่างนี้ ย่อมละความพอใจในกามอันเป็นทุกข์ เป็นภัยใหญ่ได้ (สรภงฺคโพธิสตฺต) ขุ.ชา.จตฺตาฬีส. ๒๗/๕๔๒
ปญฺญา หิ เสฏฺฐา กุสลา วทนฺติ นกฺขตฺตราชาริว ตารกานํ สีลํ สิรึ จาปิ สตญฺจ ธมฺโม อนฺวายิกา ปญฺญวโด ภวนฺติ คนฉลาดกล่าวว่าปัญญาประเสริฐ เหมือนพระจันทร์ประเสริฐ กว่าดาวทั้งหลาย แม้ศีลสิริและธรรมของสัตบุรุษ ย่อมไปตามผู้มีปัญญา ขุ.ชา. ๒๗/๒๔๖๘/๕๔๑
ยสํ ลทฺธาน ทุมฺเมโธ อนตฺถํ จรติ อตฺตโน อตฺตโน จ ปเรสญฺจ หึสาย ปฏิปชฺชติ คนมีปัญญาทราม ได้ยศแล้วย่อมประพฤติสิ่งที่ไม่เป็นประโยชน์แก่ตน ย่อมปฏิบัติเพื่อเบียดเบียน ทั้งตนและผู้อื่น ขุ.ชา. ๒๗/๑๒๒/๔๐
มตฺตาสุขปริจฺจาคา ปสฺเส เจ วิปุลํ สุข จเช มตฺตาสุขํ ธีโร สมฺปสฺสํ วิปุลํ สุขํ ถ้าพึงเห็นสุขอันไพบูลย์ เพราะยอมเสียสละสุขส่วนน้อย ผู้มีปัญญาเล็งเห็นสุขอันไพบูลย์ ก็ควรสละสุขส่วนน้อยเสีย ขุ.ธ. ๒๕/๓๑/๕๓
จากคุณ |
:
โขตาน
|
เขียนเมื่อ |
:
19 มี.ค. 55 09:33:08
|
|
|
|
|