 |
ประเทศอินโดนีเซียจะเคร่งแบบผสมจารีตท้องถิ่นบางเรื่องก็ถูกต้องตามหลักการศาสนาบางเรื่องก็ไม่ถูกเป็นเพียงวัฒนธรรมความเข้าใจระดับท้องถิ่นที่นำมาตีความเป็นเรื่องศาสนา
คำถามที่ : 1467
คำถาม : ดนตรีถือว่าหะรอมหรืไม่
อัสลามุอะลัยกุมครับ อ.
ท่านรสูลุลลอฮฺกล่าวว่า "ประชาชาติกลุ่มหนึ่งของฉันจะ (พยายาม) ทำให้การทำซินา,(การสวมใส่) ผ้าไหม, การดื่มสุรา และเครื่องดนตรีเป็นที่หะลาล (อนุมัติตามหลักการของศาสนา)" (บันทึกโดยบุคอรีย์)
ใช้เป็นหลักฐานได้ไหมครับ
เพราะผม ไปอ่านเจอ บทความที่บอกว่า ฮะดีษของอิมาม อัล-บุคอรีที่รายงานจากอบูมาลิกหรืออบูอะมีร อัล-อัชอะรีว่าท่านนบีได้กล่าวว่า ในหมู่ผู้ปฏิบัติตามฉันจะมีบางคนที่ถือว่าการมีความสัมพันธ์ทางเพศอย่างผิดกฎหมาย การสวมเสื้อผ้าไหม การดื่มเครื่องมึนเมาและการใช้เครื่องดนตรีเป็นที่อนุมัติ ถึงแม้ว่าฮะดีษนี้จะอยู่ในเศาะฮีฮ อัล-บุคอรี แต่สายรายงานก็ไม่ต่อเนื่องกันไปถึงท่านนบีมุฮัมมัดซึ่งทำให้หลักฐานความน่าเชื่อถือของมันใช้ไม่ได้ อิบนุฮัซม์ก็ปฏิเสธฮะดีษนี้ด้วยเหตุผลดังกล่าว ยิ่งไปกว่านั้น ฮิชาม อิบนุอัมมาร ผู้รายงานต่อก็ถูกนักวิชาการฮะดีษประกาศว่าอ่อนหลักฐาน
ข้อสรุปเรื่องการอนุญาตเครื่องดนตรี
เป็นที่ชัดเจนว่าตัวบททางศาสนาที่เป็นพื้นฐานสำหรับคนที่ถือว่าการร้องเพลงเป็นที่ต้องห้าม(ฮะรอม)นั้นยังคงคลุมเครือหรือไม่ก็อ่อนหลักฐาน ไม่มีฮะดีษใดที่โยงไปถึงท่านนบีและสามารถนำมาใช้เป็นหลักฐานในการตัดสินห้ามได้ ยิ่งไปกว่านั้น ฮะดีษเหล่านี้ทั้งหมดยังได้ถูกประกาศว่า หลักฐานอ่อน(เฎาะอีฟ) โดยผู้ปฏิบัติตามอิบนุฮัซม์, มาลิก, อิบนุฮัมบัล และอัชชาฟีอี
ในหนังสือเรื่อง อัล-อะฮฺกาม (ระเบียบกฎหมาย) ของอัล-กอฎี อบูบักร อิบนุ อัล-อะเราะบี เขากล่าวว่า ไม่มีฮะดีษใดที่กล่าวว่าการร้องเพลงเป็นสิ่งต้องห้ามถูกถือว่าเป็นที่เชื่อถือได้(โดยนักวิชาการฮะดีษ) อัล-เฆาะซาลีและอิบนุ อัน-นะฮวีก็แสดงความเห็นเช่นนี้ไว้ในหนังสือ อัล-อุมด๊ะฮฺ อิบนุฏอฮิรกล่าวว่า ไม่มีแม้แต่ตัวอักษรเดียวจากฮะดีษเหล่านี้ได้รับการพิสูจน์ว่าเป็นที่เชื่อถือได้ อิบนุฮัซม์กล่าวว่า ฮะดีษทั้งหมดที่ถูกรายงานเกี่ยวกับเรื่องนี้เป็นฮะดีษที่ถูกกุขึ้นและเป็นเท็จ
อ่านมาแล้ว จะสรุปว่ายังไงดี แล้วดนตรีจะถือว่าหะรอมหรือไหมครับ
ญะซากัลลอ
by: มะมูม - - 4/3/2005
คำตอบ :
วะอะลัยกุมุสสลามครับ
คำตอบ ก่อนอื่นผมขอหยิบยกหะดีษบทหนึ่ง ซึ่งท่านรสูลุลลอฮฺกล่าวไว้ว่า
" ليكونن من أمتي أقوام ، يستحلون الحر والحرير ، والخمر والمعازف "
الراوي: أبو مالك
الأشعري - خلاصة الدرجة: صحيح - المحدث: البخاري - المصدر: الجامع الصحيح - الصفحة أو الرقم: 5590
ความว่า "ใกล้แล้วที่ประชาชาติของฉันกลุ่มหนึ่งจะ (พยายาม) ทำให้การทำซินา,(การสวมใส่) ผ้าไหม, การดื่มสุรา และเครื่องดนตรีเป็นที่หะลาล (อนุมัติตามหลักการของศาสนา)"
(เล่าโดย อบูมาลิก อัลอัชอะรีย์, สถานะหะดีษ เศาะหี้หฺ, บันทึกโดยบุคอรีย์ จากหนังสือ "อัลญามิอิศเศาะหี้หฺ" หน้า หรือลำดับหะดีษที่ 5590)
สรุป นักวิชาการหลายๆ ท่านได้ระบุว่าหะดีษข้างต้นเศาะหี้หฺ เมื่อเป็นหะดีษเศาะหี้หฺ เราสามารถนำหะดีษนั้นมาปฏิบัติได้ ฉะนั้นเนื้อหาของหะดีษข้างต้นระบุว่า ในอนาคตมุสลิมจะทำให้เครื่องดนตรีหะลาล แสดงว่าพื้นฐานเดิมเครื่องดนตรีไม่หะลาลนั้นเองครับ
ส่วนที่ผู้ถามอ้างว่าท่านอิบนุฮัซม์, มาลิก, อิบนุฮัมบัล และอัชชาฟีอีย์ระบุว่าเป็นหะดีษเฎาะอีฟนั้น ผมของชี้แจงดั่งนี้
1. อิบนุฮัซม์, มาลิก, อิบนุฮัมบัล และอัชชาฟีอี อ้างหะดีษข้างต้นเป็นหะดีษเฎาะอีฟ นั้นก็เป็นทัศนะของพวกเขา แล้วทัศนะของนักวิชาการท่านอื่นที่ระบุว่าเป็นหะดีษเศาะหี้หฺมีหรือไม่? คำตอบคือมี อย่างน้อยที่สุดอิมามบุคอรีย์ ผู้ที่บันทึกหะดีษข้างต้นก็ระบุว่าเป็นหะดีษเศาะหี้หฺ
2. เป็นไปได้ว่า บรรดานักวิชาการที่ระบุข้างต้นเป็นหะดีษเฏาะอีฟก็เพราะได้พบตัวบทหะดีษเพียงสายรายงานเดียว หรือเพียงหะดีษบทเดียว หรือพบหะดีษที่มีสายรายงานที่เฎาะอีฟ แต่ไม่พบสายรายงานที่เศาะหี้หฺ ยกตัวอย่าง
" ليكونن من أمتي قوم يستحلون الخز والحرير والخمر والمعازف "
الراوي: أبو مالك الأشعري - خلاصة الدرجة: منقطع - المحدث: ابن حزم - المصدر: المحلى - الصفحة أو الرقم: 9/59
ความว่า "ใกล้แล้วที่ประชาชาติของฉันกลุ่มหนึ่งจะ (พยายาม) ทำให้(การสวมใส่) ผ้าไหม, ผ้าไหม (อีกชนิดกัน) การดื่มสุรา และเครื่องดนตรีเป็นที่หะลาล (อนุมัติตามหลักการของศาสนา)"
หะดีษข้างต้นเล่าโดยอบู มาลิก อัลอัชอะรีย์ เป็นคนเล่าคนเดียวกับสายรายงานของอิมามบุคอรีย์ แต่หะดีษบทนี้กลับกลายเป็นหะดีษขาดตอน (มุงเกาะฎิอฺ) ซึ่งเป็นหะดีษเฎาะอีฟไม่สามารถนำหะดีษบทนี้มาใช้ได้ และบุคคลที่ตรวจสอบว่าหะดีษข้างต้นขาดตอน ก็คือท่านอิบนุฮัซม์ ที่ระบุว่าหะดีษเกี่ยวกับเครื่องดนตรีหะรอมเฎาะอีฟนั่นแหละ
เช่นนั้น อาจเป็นได้ว่า อิบนุฮัซม์ได้รับหะดีษมาเพียงกระแสเดียว หรือพบหะดีษแต่ไม่มาก หรืออาจรับหะดีษเฉพาะที่มีสายรายงานเฎาะอีฟ ท่านก็เลยฟันธงว่า หะดีษเกี่ยวกับดนตรีหะรอม เป็นหะดีษเฎาะอีฟ ซึ่งยังมีสายรายงานหะดีษบทอื่นๆ ที่มีสำนวนใกล้เคียงกับสำนวนที่ท่านอิบนุฮัซม์ได้ระบุว่าเป็นหะดีษขาดตอน แต่กลับกลายเป็นหะดีษเศาะหี้หฺ ดั่งเช่นหะดีษบทนี้ที่ระบุว่า
" ليكونن في أمتي أقوام يستحلون الحرير والخمر والمعازف "
الراوي: أبو عامر أو أبو مالك الأشعري - خلاصة الدرجة: صحيح - المحدث: العراقي - المصدر: التقييد والإيضاح - الصفحة أو الرقم: 89
ความว่า "ใกล้แล้วที่ประชาชาติของฉันกลุ่มหนึ่งจะ (พยายาม) ทำให้ (การสวมใส่) ผ้าไหม, การดื่มสุรา และเครื่องดนตรีเป็นที่หะลาล (อนุมัติตามหลักการของศาสนา)"
หะดีษบทนี้เป็นอีกกระแสหนึ่งเล่าโดยอบูมาลิก อัลอัชอะรีย์อีกเช่นกันซึ่งมีเนื้อหา หรือสำนวนใกล้เคียงกับหะดีษที่ท่านอิบนุฮัซม์ตรวจสอบ แต่ปราฏว่าหะดีษบทนี้กลับกลายเป็นหะดีษเศาะหี้หฺ ตรวจสอบโดยเชคอิรอกีย์
บทสรุป หะดีษที่ระบุว่าดนตรีหะรอมนั้นมีหลายหะดีษ หรือหลายกระแส ซึ่งการที่เราอ่านพบ หรือค้นคว้าหะดีษที่เกียวกับดนตรีหะรอมว่าเป็นหะดีษเฎาะอีฟ ก็มิได้หมายรวมว่า หะดีษเกี่ยวกับเรื่องดังกล่าวในกระแสอื่น หรือในหะดีษบทอื่นๆ อีกมากมายจะถูกเหมารวมว่าเป็นหะดีษเฎาะอีฟตามไปด้วย
ดังนั้นเมื่อมีหะดีษที่ระบุว่าดนตรีหะรอมซึ่งเป็นหะดีษเศาะหี้หฺ แน่นอนอย่างยิ่งเราก็ต้องยอมรับในความเศาะหี้หฺนั้นอย่างหลีกเลี่ยงมิได้นะครับ. والله أعلم
by: มุรีด ทิมะเสน - mureed@mureed.com - 13/11/07 21:50
http://www.mureed.com/mr_talk/b_sele.asp
แก้ไขเมื่อ 19 มี.ค. 55 16:24:16
| จากคุณ |
:
ใจนิ่ง 
|
| เขียนเมื่อ |
:
19 มี.ค. 55 16:20:36
|
|
|
|
|
ผู้นำมุสลิมในอินโดฯ ชี้คอนเสิร์ต เลดี้ กาก้า ขัดศาสนา
