ความคิดเห็นที่ 1 จากภาพคือ แท่นหล่อทองหลวงพ่อวัดปากน้ำทองคำ 22 เมษา 2555 วาง ณ ลานธรรม มหาธรรมกายเจดีย์ จากคุณ : ปทุมฉัตรสหัสรังษี เขียนเมื่อ : 19 มี.ค. 55 17:03:31

ความคิดเห็นที่ 2 พระของขวัญ หล่อทอง 22 เมษา M - ล้าน แก้ไขเมื่อ 23 มี.ค. 55 23:44:49 จากคุณ : ปทุมฉัตรสหัสรังษี เขียนเมื่อ : 19 มี.ค. 55 17:07:50

ความคิดเห็นที่ 3 เงินตั้งมากมาย เขาเอาไปทำอะไรครับ หรือว่า เขามีความเชื่อในลักษณะนี้จริงๆอย่างบริสุทธิ์ใจ จากคุณ : corelooy เขียนเมื่อ : 19 มี.ค. 55 17:11:43

ความคิดเห็นที่ 4 เคารพในความเชื่อของ จขกท.นะครับ ส่วนข้อเท็จจริงเป็นไงนั้นคงเป็นอีกเรื่อง จากคุณ : max25003 เขียนเมื่อ : 19 มี.ค. 55 18:21:03

ความคิดเห็นที่ 5 ไชยบูลย์สิ้นลมเมื่อไหร่   น้ำลงตอผุดเมื่อนั้น ...  รอดูใจเย็นๆ จากคุณ : โขตาน เขียนเมื่อ : 19 มี.ค. 55 18:28:47

ความคิดเห็นที่ 6 .คุณโขตาน หมายถึงคำนี้หรือเปล่าครับ จากคุณ : ยามประจำวัน เขียนเมื่อ : 19 มี.ค. 55 19:36:55

ความคิดเห็นที่ 7 หลงไปเรียกลัทธิหัวนมทองคำ ต่อไปต้องเปลี่ยนไปเรียกว่า ลัทธิหัวนมตะกั่วซะแล้ว จากคุณ : ใบไม้กำนั้น เขียนเมื่อ : 19 มี.ค. 55 19:39:26

ความคิดเห็นที่ 8 ขอบคุณคห.2 ที่เอามาบอก กำลังอยากรู้พอดีค่ะ ยังไม่มีใครมาบอกเลย ^^ จากคุณ : รอยยิ้มนี้มีเพื่อเธอ เขียนเมื่อ : 19 มี.ค. 55 22:02:34

ความคิดเห็นที่ 9 แล้วถ้าทำระดับ 1s  สมัยนี้ได้ทองแค่ 4 บาทเอง จำได้สมัยก่อนซื้อทองบาทละ 6000 สมัย 10ปีก่อน แสดงว่า ถ้าจะหล่อหลวงพ่อสด 1 ตัน ก็ต้องใช้เงินเพิ่มขึ้น 4-5 เท่าเชียว ได้ข่าวว่าตอนนี้ ที่วัดปากน้ำกำลังก่อสร้างอาคารจอดรถ เพื่อรอสมโภชน์เจดีย์ แต่เสร็จไม่ทันปี 2555 ต้องเลื่อนเป็นปี 2556 เพราะวัดพระธรรมกาย จะนำรูปหล่อทองคำ มาถวายที่วัดปากน้ำ จากคุณ : venture เขียนเมื่อ : 19 มี.ค. 55 22:11:21

ความคิดเห็นที่ 10 สารตะกั่วย่อมไม่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม มีแต่คนไม่รู้จริงนั่นล่ะที่ด่วนสรุปอย่างนี้ พิธีหล่อจำลองจะใช้โลหะจำพวก ซิลิคอนบรอนซ์ ซึ่งมันไม่ใช่ตะกั่ว(lead) อย่างที่เจ้าของกระทู้บอก เพราะพิธีหล่อสำหรับวันเปิดงานนั้น เป็นการหล่อกลางแจ้ง พอเป็นพิธี ไม่ใช่กระบวนการสร้างรูปหล่อที่ได้มาตรฐานสากลของงานหล่อทองคำ ขั้นตอนการหล่อในวันงาน จะนำไปสู่ขั้นตอนการทำเบ้าหล่อทองคำตามมาตรฐานในลำดับต่อไป ส่วนผู้ที่เป็นเจ้าภาพหล่อหลวงปู่ทองคำ ก็ทราบข้อมูลในจุดอยู่แล้วว่าวิธีการเป็นอย่างไร พิธีหล่อจำลองของวัดพระธรรมกายที่ผ่านมา ก็มีประกาศขั้นตอนผ่านทางทีวีอยู่แล้ว จึงแนะนำให้เจ้าของกระทู้เข้าไปศึกษาข้อมูลของวัดพระธรรมกายให้ยาวนานกว่านี้ เจ้าของกระทู้ใจเย็นๆนิดนึงสิ อย่ารีบด่วนสรุปเอาเอง เพราะแค่เพียงไปหาภาพร่างมาได้ก่อนคนอื่น ส่วนกระบวนการหล่อด้วยทองคำแท้ ก็ย่อมต้องหล่อด้วยเทคโนโลยีล่าสุด คนที่มาร่วมงานคงไม่ได้เห็น เพราะงานหล่อทองคำ เป็นงานละเอียด โดยขั้นตอนแล้ว เค้ามีวิธีการรักษาความปลอดภัยในห้องนิรภัยของโรงหล่อ ใครอยากเห็นองค์จริงเนื้อทองคำแท้ ให้รอให้ถึงวันอัญเชิญไปยังวัดปากน้ำ เวลานั้นค่อยไปดูกันในวันอัญเชิญที่เยาวราช หรือรอชมที่วัดปากน้ำเลย แก้ไขเมื่อ 19 มี.ค. 55 23:29:04 จากคุณ : AkALiKo23 เขียนเมื่อ : 19 มี.ค. 55 23:28:09

ความคิดเห็นที่ 11 #10 ผมถามหน่อยนะ งานพิธีหล่อ ไม่ใช่การหล่อทองคำจริง ๆ คนมาร่วมงาน ก็ไม่ได้เห็นงานหล่อทองคำจริง แล้วทำไม ไม่เคยมีคลิป/ภาพนิ่ง ตอนหล่อองค์ทองคำจริง ๆ ละครับ ทองคำขนาดนั้น ถ้าบริสุทธิ์ใจจริง ก็ควรจะบันทึกไว้เป็นหลักฐาน แล้วเผยแพร่ออกมาสู่ภายนอกบ้าง ว่าได้หล่อด้วยทองคำทั้งองค์จริง ๆ ผู้ที่ร่วมบุญในการหล่อ จะได้สบายใจว่า ที่บริจาคไปนั้น ได้นำไปหล่อองค์ทองคำทั้งองค์จริง ๆ ไม่ใช่ทองคำหุ้มแกนตะกั่ว ถ้าบริสุทธิ์ใจจริง ๆ นะ คุณ AkALiKo23 ครับ หรือศิษย์วัุดพระธรรมกายคนไหนก็ได้ รบกวนช่วยเอาภาพกระบวนการหล่อทุกขั้นตอนจริง ๆ มาเผยแพร่ไว้ ณ ที่นี้ด้วยครับ จะได้เป็นที่ชัดเจน จากคุณ : ABP@BDZ เขียนเมื่อ : 20 มี.ค. 55 00:34:11

ความคิดเห็นที่ 12 ความคิดเห็นที่ 11     อย่าไปตั้งแง่อย่างนั้นเลย โดยสามัญสำนึกของคนส่วนใหญ่ ไม่คิดเล็กคิดน้อยกันในประเด็นอย่างนี้ เพราะเรื่องนี้เปิดเผยสู่สาธารณชนในวงกว้าง สามารถพิสูจน์ได้ โปรดรอติดตามข้อมูลต่อไป จากคุณ : AkALiKo23 เขียนเมื่อ : 20 มี.ค. 55 01:56:02

ความคิดเห็นที่ 13 คห.11 คะ ลูกศิษย์ของหลวงพ่อไม่มีใครคิดเล็กคิดน้อย มาคอยจับจ้องดูเบื้องหลังหรอกค่ะ เพราะเรามั่นใจว่าหลวงพ่อทำจริง ไม่ได้ไปเก็บเงินไว้เป็นการส่วนตัว มีแต่คนไม่เคยมา หรือไม่เคยมาร่วมบุญนั่นแหล่ะมานั่งคลางแคลงใจ เวลาของชืวิตมีค่ามากกว่าการที่จะไปนั่งจ้องมองคนอื่นว่าเขาทำดีจริงหรือไม่ เพราะคนที่ไปปกติเขาก็ไปวัดประจำทุกเดือน ความคืบหน้าในผลงานก็เห็นตลอด ไม่ต้องไปคอยดูคลิป ดูเคลิปอะไรหรอกค่ะ เราไม่รู้ว่าคำว่า"สู่ภายนอก"ของคุณหมายถึงใครบ้าง แต่เท่าที่เห็นหลายเรื่องที่เผยแพร่ออกไป"สู่ภายนอก" แต่คน"ภายนอก" ก็แปลเจตนาไปคนละทิศละทางกับคนที่เขาไปวัดกันหมดอยู่แล้ว เพราะฉะนั้นเราก็ "ไม่สู้ ไม่หนี ทำดีเรื่อยไป" ดีกว่า แก้ไขสะกดผิดค่ะ แก้ไขเมื่อ 20 มี.ค. 55 15:11:20 จากคุณ : รอยยิ้มนี้มีเพื่อเธอ เขียนเมื่อ : 20 มี.ค. 55 11:32:05

ความคิดเห็นที่ 14 อนุโมทนาและเป็นกำลังใจให้เจ้าของกระทู้ กิฟท์ผมหมดครับ จากคุณ : ต่อmcu เขียนเมื่อ : 20 มี.ค. 55 11:37:36

ความคิดเห็นที่ 15 จะขยันสร้างอะไรมากมาย  ไม่เข้าใจ จากคุณ : นักฆ่าดาบเดียว เขียนเมื่อ : 20 มี.ค. 55 11:52:53

ความคิดเห็นที่ 16 เรียนคุณนักฆ่าดาบเดียว คห 15  ...ขยันสร้าง บาปล่ะมี..... จากคุณ : ต่อmcu เขียนเมื่อ : 20 มี.ค. 55 12:33:39

ความคิดเห็นที่ 17 #12 และ #13 ครับ ผมไม่ใช่ศิษย์หลวงพ่อธัมมชโย แต่ผมเป็นศิษย์หลวงปู่วัดปากน้ำ ผมเข้าใจ ว่าพวกคุณศรัทธาและไว้วางใจหลวงพ่อธัมมชโย ยิ่งกว่าที่พวกคุณศรัทธาและไว้วางใจบิดามารดาของพวกคุณด้วยซ้ำไป พวกคุณก็เลยไม่คิด แม้แต่จะมาตั้งข้อสงสัยหลวงพ่อธัมมชโย แต่คนที่ไม่ได้ศรัทธาเหมือนพวกคุณ จะต้องเกิดความสงสัยบ้างแหละ เพราะ Project นี้ อยู่กับเงินกับทองคำ ของมีค่าทั้งนั้น พอมาจัดพิธีหล่อ แล้วข่าวก็เงียบไประยะหนึ่ง แล้วอยู่ดี ๆ ก็โผล่มาเป็นองค์ทองคำเลย มันเป็นสิ่งที่ชวนสงสัย ตามประสาปุถุชน ว่าทำไมหลังจากพิธีหล่อ เรื่องมันถึงเงียบไป ไม่มีการเผยแพร่ภาพการหล่อในขั้นตอนอื่น ๆ หรือข้อมูลอื่น ๆ เช่นใช้ทองคำไปจริง ๆ กี่กิโลกรัม อย่างนี้เป็นต้น ผมขอยกตัวอย่างโครงการหนึ่ง ที่อยู่กับเงิน ๆ ทอง ๆ เหมือนกัน ก็คือโครงการทอดผ้าป่าช่วยชาติของหลวงตามหาบัว มีการระบุข้อมูลชัดเจน ที่ทุกคนเข้าถึงได้ โดยเฉพาะยอดเงินยอดทองที่ได้จากโครงการนี้ ว่าได้เท่าไหร่ ไม่มีการอุ๊บอิ๊บข้อมูลใด ๆ ทั้งสิ้น และทางแบงค์ชาติ ก็ได้ดำเนินการรับเข้าคลังหลวงอย่างชัดเจน โครงการนี้ ถึงเงินทองมันจะเยอะ แต่ก็มีความชัดเจน และโปร่งใส และเปิดโอกาสให้ใครก็ตาม สามารถตรวจสอบได้ โปรดอย่าลืมว่า คนที่จับตาดูการหล่อหลวงพ่อวัดปากน้ำทองคำครั้งนี้ ไม่ได้มีแค่คนภายในวัดพระธรรมกาย ที่เลื่อมใสจนศรัทธาบังตา ไม่คิดจะสงสัย แต่บุคคลภายนอกที่สนใจประเด็นนี้ ก็มาคอยจับตามองอยู่เหมือนกัน จับตามองเพื่อคอยตรวจสอบโครงการนี้ไปด้วย เอางี้นะ ถ้าพวกคุณต้องการที่จะปกป้องเกียรติภูมิของหลวงพ่อธัมมชโย ต่อสาธารณชน ช่วยจัดข้อมูล/ภาพ/คลิป ตามที่ผมขอมาใน #11 ด้วย ทั้งนี้ เพื่อจะได้เป็นที่ยืนยันได้ว่า ที่หล่อนั้นเป็นทองคำบริสุทธิ์ทั้งองค์จริง ๆ และหลวงพ่อธัมมชโย ก็เป็นผู้ที่ได้รับการสรรเสริญ ในความบริสุทธิ์ใจและโปร่งใสนั้นเอง ถ้าพวกคุณเป็น "ลูกพระธัมฯ" จริง ๆ นะ ผมขอร้องให้นำข้อมูลพวกนั้นมาเผยแพร่ด้วย พวกคุณจัดมา หลวงพ่อธัมมชโยไม่ได้เสียหายนะครับ ซ้ำจะเป็นการดีต่อตัวหลวงพ่อเองด้วยซ้ำ ถ้าการหล่อเป็นไปตามที่ระบุไว้จริง ๆ จากคุณ : ABP@BDZ เขียนเมื่อ : 20 มี.ค. 55 12:44:25

ความคิดเห็นที่ 18 ความคิดเห็นที่ 17 น่าสรรเสริญในความกรุณา ที่ตามห่วงใยต่อเกียรติภูมิของหลวงพ่อธัมมชโย จากคุณ : AkALiKo23 เขียนเมื่อ : 20 มี.ค. 55 13:13:49

ความคิดเห็นที่ 19 อะไรกันๆ หรอครับ.. พี่ปทุมฉัตร ที่ว่า โปรเจคหาเงินใหม่น่ะ.. ถ้าเป็นบุญหล่อทองหลวงปู่ฯนี้.. เค้านี้มีมาตั้ง 5 องค์แล้วนะครับ..  องค์นี้องค์สุดท้าย องค์ที่ 6 แล้วครับ ไม่ใช่โครงการใหม่อะไรเลยครับ.. (พี่เคยเข้าวัดพระธรรมกายหรือเปล่าครับ แอบสงสัย?) หลายคนอาจติดใจว่า ทำไมต้อง 6 องค์ทำไปทำกัน..  ขอคัดลอกจากเว็บไซด์ ธรรมะ มีเดีย แชลแนล นะครับ  " พระมงคลเทพมุนี (สด จนฺทสโร) ผู้ค้นพบวิชชาธรรมกาย  หรือหลวงปู่วัดปากน้ำ ภาษีเจริญเป็นพระภิกษุที่เปี่ยมล้นไปด้วยคุณธรรม และคุณวิเศษอย่างจะนับจะประมาณมิได้  ดังนั้น ศิษยานุศิษย์ผู้เคารพศรัทธาเลื่อมใสท่านจากทั่วทุกมุมโลก  จึงพร้อมใจกันหล่อรูปเหมือนท่านด้วยทองคำแท้การหล่อรูปเหมือนของหลวงปู่ ด้วยทองคำเป็นการประกาศให้โลกรับรู้ถึงคุณความดีของท่าน เพราะการหล่อท่านด้วยทองคำ  จะทำให้ชาวโลกต่างสงสัยและเกิดคำถามตามมาอย่างนับไม่ถ้วนว่า  “ทำไมต้องหล่อท่านด้วยทองคำ?”  และนั่นก็เป็นโอกาสที่เหล่าศิษยานุศิษย์จะได้เล่าถึงประวัติ คุณธรรม คุณวิเศษ และมโนปณิธานของท่าน และชักชวนให้บุคคลเหล่านั้น ทำตามข้อวัตรปฏิบัติอันดีงามของท่าน อีกทั้งเมื่อระยะเวลาผ่านไปจนเข้าสู่ยุคที่ทองคำหายากและราคาสูงมากกว่านี้  หรืออีก 1,000 ปีข้างหน้า ก็จะเกิดคำถามให้โจษขานซ้ำๆ อย่างไม่รู้จบว่า  ทำไมชาวโลกยุคหนึ่งจึงเกิดมหาศรัทธาอย่างแรงกล้า  ร่วมใจกันหล่อรูปเหมือนท่านด้วยทองคำแท้  ซึ่งเป็นวัสดุที่มีมูลค่ามหาศาลขนาดนั้น..!!!  และปริศนาตรงนี้เองจะตรึงให้ชาวโลกมุ่งค้นหาคำตอบว่า..  ท่านเป็นใคร? สำคัญอย่างไร?  โดยเฉพาะอย่างยิ่งบุคคลที่กำลังประสบความทุกข์และดิ้นรนเพื่อแสวงหาทางพ้นทุกข์อยู่ในขณะนั้น  เมื่อได้มาพบรูปหล่อหลวงปู่ที่หล่อจากวัสดุที่มีค่าสูงสุด  ก็จะสนใจหันมาศึกษาเรื่องราวของท่าน จนเกิดความเลื่อมใส  รู้สึกซาบซึ้งและหันมาปฏิบัติธรรม  เพื่อหาทางพ้นทุกข์ตามคำสอนของพระสัมมาสัมพุทธเจ้าดังเช่นหลวงปู่ .. " ดังนั้น การหล่อรูปเหมือนหลวงปู่ด้วยทองคำจึงถือเป็นมหากุศลอันยิ่งใหญ่  ที่จัดว่า เป็นอามิสบูชาที่ก่อให้เกิดการปฏิบัติบูชาอย่างต่อเนื่องในอนาคต อย่างไม่ขาดสาย เพราะเมื่อชาวโลกได้มาสักการบูชาท่านแล้ว  ก็จะปฏิบัติธรรมตามอย่างท่าน ซึ่งเป็นการปฏิบัติบูชา ตามที่พระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงยกย่องว่าเป็นการบูชาอย่างสูงสุด   คงจะชัดเจนนะครับ.. แถมรูป 6 องค์ที่จะนำไปตั้งอยู่ในสถานที่ต่างๆ ด้วยนะครับ.. ผมขออนุโมทนาบุญ เรื่อง แท่นหล่อทองหลวงปู่.. ผมเพิ่งเคยเห็นเป็นครั้งแรกที่นี้ สาธุๆๆ ส่วนเรื่องเข้าเป้า ไม่เข้าเป้า บลาๆๆ ที่พล่ามๆ ไปนั่น.. ไม่ต้องเป็นห่วง หรือรู้ดีขนาดนั้นหรอกครับ เพราะไม่ว่าโครงการไหนๆ ทุกบาท ทุกสตางค์ ทรายทุกเม็ด ตะปูทุกดอก เป็นไปเพื่องานเผยแผ่พระพุทธศาสนา และ วิชชาธรรมกาย ทั้งสิ้น.. นอกจากนี้ไม่ใช่..  ฝากกระทูุ้นี้ไว้นะครับ.. http://www.pantip.com/cafe/religious/topic/Y11854163/Y11854163.html ผมว่า พี่น่าจะเข้าใจนะครับ..  " ..เวลาของฉันเหลือน้อยเต็มที กำลังลิบหลี่เหมือนอาทิตย์ใกล้อัสดง ชีวิตฉันคงไม่ยั่งยืนยง มั่นคงเป็นหมื่นปี  โปรดเถิดท่านผู้มีบารมี ให้โอกาสแก่ฉันเสียที ได้ทำงานที่แท้จริง.. " ถ้ามองอย่างคนนอกก็ดูเหมือนวัดนี้มีเกินพอแล้ว แต่สำหรับงานเผยแผ่พระศาสนา แค่นี้ยังไม่ถึงครึ่งเลยครับ แม้จะไม่ได้มาวัดนี้แล้ว.. แม้พี่จะไปวัดอื่น ก็ขอให้สิ่งที่ได้ตั้งใจในธรรม ในสิ่งที่เป็นกุศล และผมเชื่อว่า อาจารย์คนใหม่ของพี่ ท่านคงอบรมสั่งสอนพี่อย่างดี เหมือนกับ อาจารย์ของผม ที่ท่านไม่เคยรู้จักเหน็ดเหนื่อย เดิมพันชีวิตเพื่องานพระศาสนา แม้ใครจะมาว่าร้ายว่าทำดีแบบนี้มันมากเกินไป ท่านก็ไม่เคยจะตอบโต้  เพราะท่านรู้ว่าอะไรอยู่เบื้องหลัง  ท่านมองตรงไปที่พระพุทธศาสนาเป็นหลัก สิ่งอกุศลอื่นๆ ไม่ว่าจะมาเป็นรูปแบบหนังสือก็ดี กระทู้ก็ดี หรือแม้แต่คำพูดก็ดี ก็มิอาจระคายใจของท่านได้ จากคุณ : สาธุ (รักษาบรรยากาศ) เขียนเมื่อ : 20 มี.ค. 55 14:48:20

ความคิดเห็นที่ 20 จาก คห 9 อย่าหลงตนเอง แม้ไม่เอาองค์ทองคำมาถวาย ก็เลื่อนอยู่ดี เพราะจากกฐินปีที่ผ่านมา คนก็เยอะมาก ไม่ใช่เพราะอัญเชิยองค์ทองคำมา แล้วจึง จะสร้างอาคารจอดรถ หลวงพ่อสมเด็จฯ ท่านปรารภมานานแล้ว อย่าทรนงตน จริงๆแล้ว การอัญเชิญองค์นค้มาน่ะ มันมีที่มาแบบลับลมคมใน ไม่บอกแก่คนภายนอก ซึ่งพากพิงถึงเจ้าขุนมูลนาย มิควรบอกในที่สาธารณะ แต่ถ้าชาวคตลองสามรู้ อาจ "ลมจับ" ได้ง่ายๆ .... คุณรักษาบรรยากาศ  ยังเขลาอยู่เหมือนเดิมตลอดมานะครับ ไม่รุ้จริงๆหรอว่า ทองคำแทบไม่ลงหลวงปู่เลย องค์ที่6 พูดเข้าไป ประกาศเข้าไป ตอนนี้ที่ปรากฏให้เห็นแค่ องค์แรกที่จะอัญเชิญมาวัดปากน้ำ องค์ที่สองสุพรรณ องค์ที่สามที่เวียนรอบเจดีย์วันครูธรรมกายปีที่แล้ว (องค์ที่ทำให้ผมตาสว่างหลุดจากสำนักลวงโลกนี้มาได้) แค่ 3 องค์ แล้วอีก 2 องค์ที่หล่อไปแล้วล่ะ หายไปอยู่หลืบไหนของวัด ทีเวลาทำพระของขวัญแก้วใสอ้างว่าจากภาชนะบูชาข้าวพระ ยังไปถ่ายทำถึงกรรมวิธีการสร้าง เพื่อเรียกคนในสนใจทำบุญมากๆ แล้วรับไป ............ แต่ทำไมไม่ถ่ายทำตอนหล่อองค์ทองคำมาให้ดูบ้างล่ะ แปลกมั้ย น้องรักษาบรรยากาศ องค์นี้เขาว่า องค์ที่ 6 ก้ไม่รุ้อีกกี่ชาติจะปรากกให้เห็น แต่ผมเคยได้ยินครุไม่ใหญ่บอกว่า "เราจะหล่อกันไปเรื่อยๆนะจ๊ะ อยากหล่อก็หล่อ" ไม่มีทางองค์สุดท้ายหรอกครับ เพราะว่า เป็นโปรเจคที่หากินได้ดีที่สุด..... จากคุณ : ปทุมฉัตรสหัสรังษี เขียนเมื่อ : 20 มี.ค. 55 18:43:37

ความคิดเห็นที่ 21 อีกอย่างนึง เส้นทางมหาปูชนียาจารย์ แห่งที่ ๖ ไม่ใช่นะครับ ผิดๆๆๆๆ อย่างมหันต์ หลวงพ่อวัดปากน้ำ ไม่เคยไปที่นั่น ดังนั้น ... ไม่ใช่ แถม เอาวิชชาธรรมกายของหลวงพ่อ มาเลอะเทอะเปรอะเปื้อนเหลวไหลเสียหายไปหมด น่าจะตัดออกนะจ๊ะ จากคุณ : ปทุมฉัตรสหัสรังษี เขียนเมื่อ : 20 มี.ค. 55 18:48:58

ความคิดเห็นที่ 22 การมีศรัทราในสิ่งใด เรื่องใด เป็นสิ่งที่ดีด เเต่ศรัทรานั้นจะตัองเกิดจากพื้นฐานของสติ ปัญญา เเละขัอมูล ขัอเท็จจริง ที่ถูกต้อง ไม่ใช่อารมณ์ ความรู้สึก จินตนาการที่เพ้อฝัน จากคุณ : smilekeeper (smilekeeper) เขียนเมื่อ : 20 มี.ค. 55 19:15:30

ความคิดเห็นที่ 23 เพิ่มเติมในเรื่องตัวเลข : 1. จากความคิดเห็นที่ 2 ซึ่งก็มาจากข้อมูลของวัดพระธรรมกายเอง .... จะเห็นว่า ทางวัดพระธรรมกาย ตั้งราคาอ้างอิง ของทองคำอยู่ที่ บาทละ 25,000 บาท 2. การหล่อหลวงปู่ทองคำหนัก 1 ตัน ถ้าใช้ราคาอ้างอิงของวัดพระธรรมกาย แปลว่า วัดพระธรรมกาย จะได้เงินทั้งสิ้น 1,640,000,000 บาท 3. เมื่อใช้ราคาอ้างอิงที่ บาทละ 25,000 บาท แปลว่า ในราคาอ้างอิงนี้ รวมต้นทุนทองคำในการหล่อหลวงปู่ตามราคาในแต่ละบาท + ต้นทุนของพระของขวัญ (ทองๆ) ตามแต่ละ Package ตอนนี้ขอสรุปแค่นี้ก่อนนะ เพราะยังมีอีกหลายเรื่อง : A) ยังมีเรื่องที่ยังไม่ได้คลี่ เกี่ยวกับ Timeline จากวันคุ้มครองโลก 2555 จนถึงวันอัญเชิญหลวงปู่ ( วันที่เงินเข้า กับ วันที่เงินออก ) B) ยังมีเรื่องความผันผวนของราคาทองคำในรอบ 6 เดือน - 1 ปีที่ผ่านมา ( กำไร - ขาดทุน ) C) ยังมีเรื่อง การบริหารความเสี่ยงของโครงการ ( Spot Gold Price / Gold Future / Hedge Fund ) และอื่นๆ .... ยังไม่อยากเพิ่มประเด็น และ ไม่อยากเบี่ยงประเด็น ออกจากเจ้าของกระทู้ จากคุณ : buddy เขียนเมื่อ : 20 มี.ค. 55 20:27:04

ความคิดเห็นที่ 24 คนเราบางคน บทจะโง่แล้ว ถึงที่สุดจนไม่น่าเชื่อ แต่หลับตาเชื่อเข้าไปได้ ไชยบูลย์เห็นสาวกเป็นแค่เครื่องมือหารับประทานเท่านั้นหรือนี่ จากคุณ : ซามูไรหมูตอน เขียนเมื่อ : 20 มี.ค. 55 21:44:22

ความคิดเห็นที่ 25 น้องรอยยิ้มนี้มีเพื่อเธอจ๊ะ ขายควายไปทําบุญต่อให้หมดตัวไปเลยนะจ๊ะ ถ้าคิดได้แค่นี้ แต่อย่าขายควายผิดตัวละ เพื่อส่องกระจกแล้วสับสน เค้าเอามาแฉ ยังไม่สํานึก หึหึ แก้ไขเมื่อ 20 มี.ค. 55 23:34:20 จากคุณ : Yogi Playgirl เขียนเมื่อ : 20 มี.ค. 55 23:33:38

ความคิดเห็นที่ 26 สาธุกับ คุณปทุมฉัตรสหัสรังษี ด้วยครับ ที่หลุดพ้นจากวงจรนั้นมาได้ จากคุณ : บ่าวบ้านบาก เขียนเมื่อ : 21 มี.ค. 55 00:00:23

ความคิดเห็นที่ 27 จากหัวข้อกระทู้ ก็เป็นความเข้าใจที่ถูกต้องแล้ว  ว้ดพระธรรมกายมีโปรเจคต่างๆ มากมาย เพราะต้องระดมทุนหาเงิน ไม่ต่างจากวัดอื่นๆ ที่ปล่อยเครื่องรางของขลัง สารพัดชนิด หรือจัดดนตรี งานรื่นเริง โคโยตี้ ในวัด ก็เพื่อหาเงินเช่นกัน   เพียงแต่วัดนี้ไม่จัดงานรื่นเริงในวัด เพื่อระดมทุน แต่ใช้วิธีการบอกบุญแทน และถี่กว่าวัดอื่นๆ   ด้วยมีจุดประสงค์ เพื่อนำไปใช้ในโครงการเผยแผ่พุทธศาสนา เช่น โครงการสร้างสถานที่ปฏิบัติธรรมทั้งที่วัดพระธรรมกาย และตามจังหวัดต่างๆ เพื่อให้สาธุชนหมุนเวียนไปนั่งสมาธิได้ตลอดทั้งปี นอกจากนี้ก็ต้องนำเงินมาใช้เป็นค่าใช้จ่ายในโครงการประจำปี ได้แก่ โครงการเด็กดี v-star โครงการอุปสมบทหมู่ภาคฤดูร้อนและเข้าพรรษา โครงการบวชอุบาสิกาแก้ว  โครงการถวายสังฆทาน 20,000 วัด โครงการทอดผ้าป่า 286 วัดภาคใต้ทุกเดือน และอื่นๆ อีกมากมาย อันเกี่ยวเนื่องกับงานพุทธศาสนา  เพราะต้องการช่วยสนับสนุนงานคณะสงฆ์วัดต่างๆ ปลูกฝังคุณธรรมให้แก่เยาวชน และสาธุชนให้ได้เป็นจำนวนมาก เพื่อแข่งกับกระแสโลก ที่ดึงใจคนให้ห่างจากศีลธรรมและศาสนามากขึ้นเรื่อยๆ   แต่ก็เข้าใจว่า ถึงทางวัดจะตั้งใจดี แต่วิธีการบอกบุญนั้น คนทั่วไปส่วนใหญ่ไม่ชอบ จึงโดนวิพากษ์วิจารณ์ไปต่างๆนานา  ทางวัดก็รู้แต่ก็ยังจำเป็นต้องทำต่อไป เพราะไม่ได้ทำอะไรผิด (แต่ในสายตาคนทั่วไปที่ไม่ชอบวัด อะไรก็ผิดไปหมด) และถ้าไม่ระดมทุนหาเงิน ก็คงไม่สามารถทำโครงการต่างๆ ดังกล่าวให้สำเร็จได้ ในเรื่องที่อยากให้วัดทำคลิปหล่อทอง เพื่อเผยแพร่สู่คนนอก จะได้โปร่งใสนั้น ฟังดูดี แต่ทางวัดคงไม่มีนโยบายทำเช่นนั้น  เพราะสาธุชนผู้บริจาคเงินเอง ก็ยังไม่เห็นมีใคร สงสัยหรือเรียกร้อง อยากขอตรวจสอบการหล่อทอง หรือการบริหารเงินของวัดแต่อย่างใด เพราะเขามั่นใจว่า ทางวัดจะใช้เงินของเขาในงานพุทธศาสนาอย่างคุ้มค่า แล้วคนอื่น ที่ไม่ศรัทธา ไม่คิดจะทำบุญกับวัดนี้อยู่แล้ว  จะมารู้สึกเดือดร้อนแทน ขอตรวจสอบเพื่อความโปร่งใสไปทำไม   หรือถึงแม้จะทำคลิปตามที่ต้องการออกมาจริง  จะมีคนภายนอกสักกี่คนที่สนใจอยากจะดู   ที่ผ่านๆมา เวลาทางวัดชี้แจงหรือมีสื่ออะไรก็ตาม ที่จะเป็นประโยชน์ในเชิงบวกกับวัด ก็ไม่ค่อยมีใครสนใจ สื่อมวลชนก็ไม่ค่อยอยากเผยแพร่  อย่างมากก็ออกในช่อง dmc และ youtube ซึ่งก็คงมีแต่คนเข้าวัดดูกันเอง   แต่หากเป็นเรื่องทำให้เกิดภาพลบกับวัดแม้เล็กน้อยก็ตาม   มีแต่จะช่วยกันเผยแพร่ รุมด่าว่า แบบไม่ต้องร้องขอกันทุกที แล้วอย่างนี้ คิดว่าทางวัดจำเป็นที่ต้องทำคลิปที่ว่านั้นหรือ ความจริงทางวัด ก็ไม่ได้คาดหวังว่า ชาวพุทธทุกคนจะต้องเข้าวัดพระธรรมกาย แต่ที่จัดโครงการต่างๆ ขึ้นมา ก็หวังให้ชาวพุทธมีศีลมีธรรมกันมากขึ้น   ไม่อยากเข้าวัดพระธรรมกายก็ไม่เป็นไร  แต่ให้ช่วยกันทะนุบำรุงวัดใกล้บ้าน หรือวัดที่สะดวกให้มากขึ้น พุทธศาสนาจะได้กลับมาเข้มแข็งเจริญรุ่งเรืองอีกครั้ง และอีกอย่างหนึ่ง มีผู้บอกว่า วัดพระธรรมกายมีคนเข้าวัดเยอะ ก็เพราะว่า คนโง่มีมากกว่าคนฉลาด ไม่อยากให้สรุปว่าใครเข้าวัดหรือไม่เข้าวัดเป็นคนโง่หรือฉลาด เพราะยังมีคนไทยอีกหลายสิบล้าน ที่ไม่ได้เข้าวัดพระธรรมกาย จึงไม่ทราบว่าจะนับส่วนไหนเป็นคนโง่กันแน่   และอีกกรณี ก็คือ คนไทยอีกมาก เพียงแค่มีหมาสองหัว หมูหกขา จิ้งจกสองหาง ก็แห่กันกราบไหว้ขอหวย เพื่อหวังโชคลาภ หรือไปทรงเจ้าเข้าผี ซึ่งคนกลุ่มนี้ก็ไม่เข้าวัดพระธรรมกาย จะจัดอยู่ในกลุ่มคนฉลาดหรือไม่ ทั้งหมดที่กล่าวมา หากคนที่ใจไม่เปิดกว้างพอ ก็คงยากที่จะเข้าใจ   ส่วนใหญ่แม้ไม่เคยมาวัด ไม่ได้ทำบุญ ไม่ได้เป็นผู้เสียหาย เพียงแต่รับฟังข้อมูล ที่ไม่รู้ว่าจริงหรือเท็จ ก็พร้อมจะเกลียดวัดได้ทุกเมื่อ ต่อให้ทางวัดสร้างคุณงามความดีอย่างไร ก็รู้สึกขัดอกขัดใจ มองไปในแง่ลบได้อยู่ดี ยากที่จะชื่นชม ถนัดแต่จะคอยจับผิด เรื่องนั้น เรื่องนี้ ไปได้เรื่อยๆ ไม่มีวันจบ อยากจะรู้ว่า ในปัจจุบัน มีใครหรืองค์กรใดในโลก ที่สมบูรณ์แบบ ไม่มีอะไรให้ตำหนิได้เลยบ้างหรือไม่  ช่วยยกตัวอย่างให้ทราบหน่อย จากคุณ : อจินไตย เขียนเมื่อ : 21 มี.ค. 55 04:27:02

ความคิดเห็นที่ 28 ในเรื่องที่อยากให้วัดทำคลิปหล่อทอง เพื่อเผยแพร่สู่คนนอก จะได้โปร่งใสนั้น ฟังดูดี แต่ทางวัดคงไม่มีนโยบายทำเช่นนั้น  เพราะสาธุชนผู้บริจาคเงินเอง ก็ยังไม่เห็นมีใคร สงสัยหรือเรียกร้อง อยากขอตรวจสอบการหล่อทอง หรือการบริหารเงินของวัดแต่อย่างใด เพราะเขามั่นใจว่า ทางวัดจะใช้เงินของเขาในงานพุทธศาสนาอย่างคุ้มค่า  แล้วคนอื่น ที่ไม่ศรัทธา ไม่คิดจะทำบุญกับวัดนี้อยู่แล้ว  จะมารู้สึกเดือดร้อนแทน ขอตรวจสอบเพื่อความโปร่งใสไปทำไม   เขาก็สงสัยกันเยอะแยะไป คุณไม่รู้เองหรอก.... เวลาเจ้าภาพถามผู้ประสานงานภาค ผมก็เห็นอึ้งมาหลายคนแล้ว.... - หล่ออีกแล้วหรอ ทำไมล่อยจัง - สร้างอีกแล้ว จะสร้างไรนักหนา - แล้วที่พี่ทำไปล่ะน้อง ไม่เห็นๆเลย ฯลฯ เพราะยังมีคนไทยอีกหลายสิบล้าน ที่ไม่ได้เข้าวัดพระธรรมกาย  จึงไม่ทราบว่าจะนับส่วนไหนเป็นคนโง่กันแน่  ทำไมต้องดูถูกอย่างชัดเจนขนาดนั้น อย่าเอานิสัยเจ้าอาวาสที่ดูถูกคึนจน ไม่ให้เข้าพบง่าย มาใช้ในที่นี่เด็ดขาด  ทั้งหมดที่กล่าวมา หากคนที่ใจไม่เปิดกว้างพอ ก็คงยากที่จะเข้าใจ    ส่วนใหญ่แม้ไม่เคยมาวัด ไม่ได้ทำบุญ ไม่ได้เป็นผู้เสียหาย เพียงแต่รับฟังข้อมูล ที่ไม่รู้ว่าจริงหรือเท็จ ก็พร้อมจะเกลียดวัดได้ทุกเมื่อ ต่อให้ทางวัดสร้างคุณงามความดีอย่างไร ก็รู้สึกขัดอกขัดใจ มองไปในแง่ลบได้อยู่ดี ยากที่จะชื่นชม  ถนัดแต่จะคอยจับผิด เรื่องนั้น เรื่องนี้ ไปได้เรื่อยๆ ไม่มีวันจบ คนส่วนใหญ่ ที่แสดงความเห็นเกี่ยวกับวัดธรรมกายในที่นี้ มักเคยผ่านประสบการณ์ตรงมาแล้วทั้งสิ้น อย่างผมเคยบอกไปแล้ว บวชมาเยอะ ทำงานวงในมามาก มากพอที่จะรู้อะไรดีๆ และไม่ดี ......เพียงรึยังจ๊ะ อยากจะรู้ว่า ในปัจจุบัน มีใครหรืองค์กรใดในโลก ที่สมบูรณ์แบบ  ไม่มีอะไรให้ตำหนิได้เลยบ้างหรือไม่  ช่วยยกตัวอย่างให้ทราบหน่อย ถ้ารู้ว่าไม่มี ทำไมไม่ทำเป็น "ต้นแบบ" อยากจะทำไม่ใช่หรอ "ต้นแบบศีลธรรมโลก" ทำไมตนเองไม่ทำ ทำแต่ไอ้สิ่งเหลวไหลเละเทะ  ไม่ทำให้สมบูรณ์แบบไม่เท่าไหร่ ทำให้เสียหายไปหนักนี่ แย่สวดๆ นะเฟ้ย จากคุณ : ปทุมฉัตรสหัสรังษี เขียนเมื่อ : 21 มี.ค. 55 07:16:08

ความคิดเห็นที่ 29 เชิญมาทำทาน  รักษาศีล  นั่งสมาธิ  กัน ที่วัด  ที่ท่านคุ้นเคย  กันนะครับ จากคุณ : ใจสู้ ชูนิ้วเดียว เขียนเมื่อ : 21 มี.ค. 55 12:42:37

ความคิดเห็นที่ 30 ภาคใต้ พระพุทธศาสนาถูกรุกรานจริงๆ เผาจริง ฆ่าพระจริง ศาสนบุคคลได้รับผลกระทบจริงๆ ไม่ค่อยจะมีชาวแอนตี้ธรรมกาย พูดถึงกันซักเท่าไหร่ ใครที่โปรโมทตัวเองมาตลอด ว่ารู้ดีในเรื่องลับลมคมในของคนอื่น ตอนนี้ ไม่ปริปากเกี่ยวกับปัญหาชายแดนใต้ซักคำ ใครที่เก่งในการล้วงลึก วิเคราะห์ วิจารณ์เก่ง ช่วยกันแฉหน่อย เกิดอะไรขึ้นที่ 4จังหวัดชายแดนใต้ การด่าสมภารวัดพระธรรมกาย ด้วยวิธีเหยียดเพศ ว่าเป็นตุ๊ด เป็นกระเทย นี้เป็นมาตรฐานในการจรรโลงพระพุทธศาสนาใช่ไหม และทำใม มีการกล่าวอนุโมทนา แสดงความพอใจ เวลามีข้อความด่าคนอื่นแรงๆ มันใช่หลักการธรรมทูต ของพระพุทธเจ้าแน่หรือ ถ้าอย่างนั้น ก็อนุโมทนากับเจ้าของเว็บบอร์ดด้วยเลยดีใหม ที่เปิดเสรีให้มีการดูหมิ่นเหยียดหยามผู้อื่นโดยจริยธรรม อานิสงส์การให้ความเคารพ ผู้มีอายุมากกว่า 4 ประการ 1) อายุยืน 2) ผิวพรรณงาม 3) มีความสุข 4)มีกำลัง โทษของการเหยียดหยามผู้อื่น 4 ประการ 1)อายุสั้น 2)ผิวพรรณเลว 3)ประสบทุกข์ 4)เจ็บป่วยกระทันหัน คนที่อนุโมทนาร่วม ก็จะมีส่วนในอานิสงส์ หรือ วิบาก จากการพลอยยินดี ลองคิดดู ความสนุกปากกับการรังควาญคนที่เขาไม่ตอบโต้ อย่างนี้เป็นสุภาพชนหรือเปล่า ถ้าการกระทำของท่านถูกบันทึกไว้เป็นวีดีโอ แล้วเอามาฉายย้อนดูตัวเอง ในเวลาไกล้ตาย ตั้งแต่ต้นจนจบ ท่านไม่อายตัวเองหรือ นีไม่ใช่ประเด็นเรื่อง ปกป้องคนที่ถูกด่า แต่เป็นการทวงถาม จริยธรรม และจุดยืนของชาวพุทธ ที่ท่านพยายามจะให้คนอื่นเขาเป็น จากคุณ : AkALiKo23 เขียนเมื่อ : 21 มี.ค. 55 16:31:23

ความคิดเห็นที่ 31 สงสัยเจ้าของกระทู้มีผิวพรรณกระดำกระด่าง ไม่งามเท่าหลวงพ่อ เลยอิจฉาท่านน่ะ จากคุณ : รัตนมาลี เขียนเมื่อ : 21 มี.ค. 55 16:42:24

ความคิดเห็นที่ 32  ความคิดเห็นที่ 30    ภาคใต้  พระพุทธศาสนาถูกรุกรานจริง ๆ เผาจริง ฆ่าพระจริง  ศาสนบุคคลได้รับผลกระทบจริง ๆ ไม่ค่อยจะมีชาวแอนตี้ธรรมกาย พูดถึงกันซักเท่าไหร่  ใครที่โปรโมทตัวเองมาตลอด ว่ารู้ดีในเรื่องลับลมคมในของคนอื่น  ตอนนี้ ไม่ปริปากเกี่ยวกับปัญหาชายแดนใต้ซักคำ ใครที่เก่งในการล้วงลึก วิเคราะห์ วิจารณ์เก่ง ช่วยกันแฉหน่อย เกิดอะไรขึ้นที่ 4จังหวัดชายแดนใต้  ... ... ... จากคุณ : AkALiKo23  เขียนเมื่อ : 21 มี.ค. 55 16:31:23  ถูกใจ : รัตนมาลี คุณ AkALiKo23 พูดราวกับว่า ธัมมี่กำลังเป็นผู้รับผิดชอบในการแก้ไขปัญหาที่ภาคใต้  และกิจกรรมที่ธัมมีกำลังทำอยู่ทั้งหลายทั้งปวงเป็นการกระทำเพื่อช่วยพระพุทธศาสนาที่ภาคใต้่ แต่จริง ๆ แล้วไม่ใช่เลย กิจกรรมที่ธัมมี่และวัดพระธรรมกายจัดทำนั้น   ไม่ใช่การแก้ไขปัญหาอะไรเลย  หากแต่เป็นเพียงการจัดกิจกรรมที่สักแต่ว่ากระทำเพื่อการประชาสัมพันธ์บังหน้าว่า ทำเพื่อพระสงฆ์ภาคใต้ ถามจริง ๆ เหอะ  ธัมมี่เคยเหยียบย่างลงไปยังวัดในจังหวัดชายแดนทั้ง 4 จังหวัดที่มีปัญหานั้น ๆ หรือไม่ ? ทำบุญบังหน้าโดยตั้งตัวเองและสาวกเป็นตัวแทนให้พุทธศาสนิกชนบริจาคข้าวสารอาหารแห้ง  แล้วก็มอบให้เหล่าทหารหาญขนบรรทุกข้าวสารอาหารแห้งไปให้วัดต่าง ๆ เหล่านั้นน่ะ  ทั้ง ๆ ที่ตัวเองก็ไม่เคยลงไปที่เขตพื้นที่จริง ๆ ไม่รู้รายละเอียดของปัญหาชายแดนใต้จริง ๆ ทำเป็นมาสะเออะคุยข่มเหยียบย่ำคนอื่น คุณ AkALiKo23 ก็ไม่ได้รู้รายละเอียดของปัญหาชายแดนใต้มากไปกว่าใคร ๆ หรอกครับ พวกนักการเมืองการทหารเขารู้ปัญหามากกว่า   เขายังไม่มีปัญญาแก้ไข และการนำข้าวสารอาหารแห้ง และข้าวของเครื่องใช้อื่น ๆ ไปให้กับวัด/ประชาชนใน 4 จังหวัดชายแดนใต้นั้น   ไม่ใช่มีเฉพาะทีมงานวัดพระธรรมกายของธัมมี่เท่านั้นหรอกครับที่จัดเอาข้าวของไปให้เขาน่ะครับ หน่วยงานอื่น ๆ เขาก็มีการจัดการดำเนินการกัน   แต่เขาไม่มีการประชาสัมพันธ์ออกสื่ออย่างอึกกระทึกครึกโครมอย่างวัดพระธรรมกายที่จัดทำเพื่อกลบเกลื่อนเรื่องราวชั่ว ๆ ของธัมมี่ จากคุณ : ตรัยพล เขียนเมื่อ : 21 มี.ค. 55 18:04:10

ความคิดเห็นที่ 33  ความคิดเห็นที่ 30    ..... ..... ..... การด่าสมภารวัดพระธรรมกาย ด้วยวิธีเหยียดเพศ ว่าเป็นตุ๊ด เป็นกระเทย  นี้เป็นมาตรฐานในการจรรโลงพระพุทธศาสนาใช่ไหม  และทำใม มีการกล่าวอนุโมทนา แสดงความพอใจ เวลามีข้อความด่าคนอื่นแรงๆ มันใช่หลักการธรรมทูต ของพระพุทธเจ้าแน่หรือ ถ้าอย่างนั้น ก็อนุโมทนากับเจ้าของเว็บบอร์ดด้วยเลยดีใหม  ที่เปิดเสรีให้มีการดูหมิ่นเหยียดหยามผู้อื่นโดยจริยธรรม อานิสงส์การให้ความเคารพ ผู้มีอายุมากกว่า 4 ประการ 1) อายุยืน 2) ผิวพรรณงาม 3) มีความสุข 4)มีกำลัง โทษของการเหยียดหยามผู้อื่น 4 ประการ 1)อายุสั้น 2)ผิวพรรณเลว 3)ประสบทุกข์ 4)เจ็บป่วยกระทันหัน คนที่อนุโมทนาร่วม ก็จะมีส่วนในอานิสงส์ หรือ วิบาก จากการพลอยยินดี ลองคิดดู ความสนุกปากกับการรังควาญคนที่เขาไม่ตอบโต้ อย่างนี้เป็นสุภาพชนหรือเปล่า ถ้าการกระทำของท่านถูกบันทึกไว้เป็นวีดีโอ แล้วเอามาฉายย้อนดูตัวเอง ในเวลาไกล้ตาย  ตั้งแต่ต้นจนจบ ท่านไม่อายตัวเองหรือ  นีไม่ใช่ประเด็นเรื่อง ปกป้องคนที่ถูกด่า  แต่เป็นการทวงถาม จริยธรรม และจุดยืนของชาวพุทธ ที่ท่านพยายามจะให้คนอื่นเขาเป็น จากคุณ : AkALiKo23  เขียนเมื่อ : 21 มี.ค. 55 16:31:23  ถูกใจ : รัตนมาลี  ความคิดเห็นที่ 74    ก็ท่าทางกระตุ้งกระติ้งไม่ต่างอะไรกับตุ๊ดนี่น่ะ ที่เขามาวิพากย์วิจารณ์ธัมมี่  ก็ไม่ได้มีใครกำหนดมาตรฐานอะไรหรอกครับ แต่เขายกเอาหลักฐานที่ปรากฏอยู่จริง ประกอบกับพฤติกรรมในการจัดกิจกรรม และตลอดแม้กระทั่งคำสอนของธัมมี่ มารวม ๆ กันแล้วสรุปได้ว่า   ธัมมี่ปาราชิก  ขาดจากการเป็นพระสงฆ์ไปมากกว่า 10 ปีแล้ว ทุกวันนี้ธัมมี่จึงเป็นเพียงพระปลอม ๆ จึงถูกขนานนามเรียกด้วยสารพัดชื่อ  ราวกับมนุษย์สารพัดพิษ ผมก็อยากจะถามกลับว่า มหาเถรสมาคม กรมการศาสนา มีมาตรฐานในการจรรโลงพระพุทธศาสนาอย่างไร   จึงได้ปล่อยปล่ะละเลยให้ธัมมี่ซึ่งเป็นอลัชชีเดียรถีย์กระทำตัวเป็นพระปลอม ๆ ใช้ผ้ากาสาวพัตร์ของพระพุทธศาสนาหลอกลวงพุทธบริษัทให้หลงไหลมัีวเมาในกิเลสความโลภ  อีกทั้งเผยแพร่คำสอนที่บิดเบือนพระไตรปิฎก  บิดเบือนวิชาธรรมกาย  ทำให้คณะสงฆ์และพุทธบริษัทแตกแยก  มิหนำซ้ำยังสถาปนาสณศักดิ์ให้กับธัมมี่อย่างไม่สมควรอีกด้วย ไม่รู้หรอกหรือครับว่า   ธัมมี่มันเป็นอลัชชี  เป็นเดียรถีย์  เป็นนักบวชนอกพระพุทธศาสนา  ไปสถาปนามันขึ้นเป็นชั้นเทพอย่างไม่เป็นการบังควร เพราะมันล่วงละเมิดศีลที่เป็นข้อห้ามอันยิ่งยวด 4 ประการ ที่เรียกกันว่า ปาราชิก 4 ประการ ล่วงละเมิดแล้ว  จะขาดจากการเป็นพระทันทีที่ล่วงละเมิด  ธัมมี่มันปาราชิกขาดจากการเป็นพระไปนานแล้่วครับ จากคุณ : ตรัยพล  เขียนเมื่อ : 21 มี.ค. 55 17:26:14   ความคิดเห็นที่ 75    โทษ 4 ประการ  ตามที่่คุณ AkALiKo23 กล่าวไว้ว่า โทษของการเหยียดหยามผู้อื่น 4 ประการ 1)อายุสั้น 2)ผิวพรรณเลว 3)ประสบทุกข์ 4)เจ็บป่วยกระทันหัน ธัมมี่ก็กำลังประสบอยู่มิใช่หรือครับ ? แสดงว่า  แกก็ปรามาสเหยียดหยามผู้อื่นไว้เยอะแยะเลยใช่ไหม ? จากคุณ : ตรัยพล  เขียนเมื่อ : 21 มี.ค. 55 17:31:32  จากคุณ : ตรัยพล เขียนเมื่อ : 21 มี.ค. 55 18:04:30

ความคิดเห็นที่ 34 เจ้าของกระทู้ ออกจากวัดไป แต่ยังนั่งสมาธิ วิชชาธรรมกาย อยู่ไม๊ ถ้าคำตอบ คือ ใช่... 1. วิชชาธรรมกาย ถูกต้องร่องรอย ตามพุทธศาสนาทุกประการ และหลวงพ่อวัดปากน้ำท่านค้นพบ หลังจากที่สูญหายไปจริงๆ ใช่ไม๊ 2. รบกวน ช่วยบอก หลายๆคน ที่ให้ GIFT จขกท. หน่อยว่า หนังสือกรณีธรรมกาย ไม่สมควรที่จะกล่าวแย้ง วิชชาธรรมกาย ของหลวงพ่อวัดปากน้ำ ทุกประเด็น และไม่สมควร เรียก หลวงพ่อวัดปากน้ำว่า อาจารย์ใหญ่สำนักธรรมกาย 3.รบกวน ช่วยบอก หลายๆคน ที่ให้ GIFT จขกท.หน่อยว่า รีบไปกราบ ขอขมาหลวงพ่อวัดปากน้ำ ซ่ะ...ที่กล่าวว่า วิชชาธรรมกาย ไม่มีในพุทธศาสนา และหลวงพ่อท่านคิดขึ้นเอง...ไม่ใช่การค้นพบ หลังจากที่สูญหายไป... ปล.. .แม้นอกประเด็น แต่เห็นว่า น่าสงสัย....ควรกล้าที่จะตอบ... แม้เป็นศิษย์เก่า แต่รักเราไม่เก่าเลย... ....ว่าไปโน่น   แก้ไขเมื่อ 21 มี.ค. 55 19:13:16 แก้ไขเมื่อ 21 มี.ค. 55 19:12:04 จากคุณ : รบกวน มารักกัน (pa-o-toi-uan) เขียนเมื่อ : 21 มี.ค. 55 19:08:10

ความคิดเห็นที่ 35 ไอ้หมอนี่เมาบุญมาจากไหน ? คุณปทุมฉัตรฯ เขาไม่ได้โจมตีวิืชาธรรมกายสักหน่อย เขาโจมตีกิจกรรมที่อลัชชีธัมมี่จัดทำต่างหาก  แล้วคุณปทุมฉัตรก็บอกว่า  เรียน/ปฏิบัติธรรมวิชาธรรมกายที่วัดปากน้ำภาษีเจริญ ที่เป็นต้นตำรับวิชาธรรมกาย อ่านไม่ได้ศัพย์จับเอามากระเดียดของแท้เลยนะ่เนี่่ย เห็นป่วนและแถกแถไม่เคยแก้ต่างอะไร ๆ ให้ธัมมี่ได้เลยแม้แต่ข้อเดียว  เพราะอ่านไม่ได้ศัพย์จับไปกระเดียดอย่างนี้นี่เอง จากคุณ : ตรัยพล เขียนเมื่อ : 21 มี.ค. 55 19:26:02

ความคิดเห็นที่ 36 ความคิดเห็นที่ 32 กำลังเข้าใจผิด  ..... ธัมมี่เคยเหยียบย่างลงไปยังวัดในจังหวัดชายแดนทั้ง 4 จังหวัดที่มีปัญหานั้น ๆ หรือไม่ ? ทำบุญบังหน้าโดยตั้งตัวเองและสาวกเป็นตัวแทนให้พุทธศาสนิกชนบริจาคข้าวสารอาหารแห้ง  แล้วก็มอบให้เหล่าทหารหาญขนบรรทุกข้าวสารอาหารแห้งไปให้วัดต่าง ๆ เหล่านั้นน่ะ  ทั้ง ๆ ที่ตัวเองก็ไม่เคยลงไปที่เขตพื้นที่จริง ๆ อย่างนี้แหละ ความอคติ เกิดจาก ไม่รู้จริง คิดว่าวัดพระธรรมกายแค่ถ่ายรูป สร้างภาพ ช่วยเหลือ 4 จว.ชายแดนใต้ ต้องเรียนเชิญล็อกอิน buddy มาช่วยอธิบาย เพราะน่าจะทราบรายละเอียดดี ว่า มีการส่งพระจากทางวัดพระธรรมกายไปในสถานที่เสี่ยงภัยจริงๆ จากคุณ : AkALiKo23 เขียนเมื่อ : 21 มี.ค. 55 19:52:27

ความคิดเห็นที่ 37 ความคิดเห็นที่ 30     ภาคใต้ พระพุทธศาสนาถูกรุกรานจริงๆ เผาจริง ฆ่าพระจริง ศาสนบุคคลได้รับผลกระทบจริงๆ ไม่ค่อยจะมีชาวแอนตี้ธรรมกาย พูดถึงกันซักเท่าไหร่ ใครที่โปรโมทตัวเองมาตลอด ว่ารู้ดีในเรื่องลับลมคมในของคนอื่น ตอนนี้ ไม่ปริปากเกี่ยวกับปัญหาชายแดนใต้ซักคำ ใครที่เก่งในการล้วงลึก วิเคราะห์ วิจารณ์เก่ง ช่วยกันแฉหน่อย เกิดอะไรขึ้นที่ 4จังหวัดชายแดนใต้ จากคุณ : AkALiKo23 เขียนเมื่อ : 21 มี.ค. 55 16:31:23   ----------------------------------------------------------------------------------------- ก่อนอื่นขอส่งความปรารถนาดี อย่างจริงใจ มาสู่ท่าน AkALiKo23 ไม่ได้ตั้งใจจะงัดค้าง หรือ เป็นฝ่ายตรงข้าม หรือ ออกตัวแทนใคร ขอ Share ในนามส่วนตัว จากข้อมูลส่่วนตัว ก็แล้วกัน ภัยพระพุทธศาสนา มีจริง ต่อให้ไม่มีกรณี จังหวัดชายแดนภาคใต้ พระพุทธศาสนา ก็ยังมีภัยอยู่ดี ซึ่งภัยพระพุทธศาสนานั้น มีทั้งมาจาก ภายนอก ( การรุกรานจากต่างศาสนา ) และภายใน และที่สุดแห่งภัยพระพุทธศาสนา ไม่ได้เกิดจากภัยภายนอก หากแต่เกิด มาจากความเสื่อม ภายใน ซึ่งมีหลายๆ สาเหตุ อันรวมถึง การแอบอ้าง หาผลประโยชน์ จากชาวพุทธด้วยกัน มาสู่องค์กรของตน ในรูปแบบ ทั้งเป็นตัวเงิน และ ผลประโยชน์อื่นๆ ..... เหมือนสนิมกัดกร่อน เนื่อใน ซึ่งเป็นสาเหตุหลัก และ เป็น ตัวเร่ง ให้ภัยพระพุทธศาสนา ขยายขอบเขตความเสียหาย มากกว่าเหตุการณ์ที่เป็นอยู่ ยังไม่ต้องพูดถึง การรุกรานของภัยต่างศาสนา ใน Pantip ที่ท่านอ้างนั้น แค่ แตะ / สะกิด ถึงต่างศาสนา ใน Pantip เมื่อไหร่ ก็เป็นรื่อง .... Pantip Board ก็ร้อนเมื่อนั้น ...... ท่าน AkALiKo23 ครับ ... ท่านลองแตกประเด็น จากกระทู้นี้ (เพื่อไม่ให้ประเด็นของท่านเจ้าของกระทู้ถูกเบี่ยงเบน (อันเป็น Style ของชาววัดพระธรรมกาย บางท่าน ..... ไม่ได้หมายถึงท่านแน่นอนครับ .... ยังตามให้ Gift บาง Comment ของท่าน ไม่เชื่อลองตรวจสอบดูได้) เป็นเรื่องภัยพระพุทธศาสนา ที่เกี่ยวพันถึง หรือ มีโอกาส ที่ลากยาวไปถึง การรุกรานจากต่างศาสนาดูสิครับ ..... จะตามสนับสนุนท่าน ด้วย ข้อมูลต่อไปนี้ : 1. ข้อมูล แนวทางแก้ไขปัญหา จาก ศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ (ศอ. บต.) ที่บรรยายสรุป นำเสนอ นายกรัฐมนตรี   2. ข้อมูล แนวทางแก้ไขปัญหา จาก กอ. รมน. 3. ข้อมูล แนวทางแก้ไขปัญหา จาก สภาพัฒน์ฯ มีข้อสังเกตุ ถึงความจริงใจ ของวัดพระธรรมกาย ต่อปัญหาชายแดนภาคใต้ รวมถึง การอ้างเหตุต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นเรื่อง พุทธชยันตี / เส้นทางมหาปูชนียจารย์ / รวมถึง ล่าสุด ตักบาตร ฉลองเช็งเม้ง !!!!!!!! http://www.pantip.com/cafe/religious/topic/Y11858455/Y11858455.html โดยจะยก รายงานการประชุม การตักบาตร 100,000 รูป ที่วัดพระธรรมกาย ในเดือน มิถุนายน 2554 ที่ห้องเนกขัมมะ สำนักงานใหญ่วัดพระธรรมกาย ซึ่งเจ้าอาวาส ได้กำหนดแนวทางการจัดตักบาตร ไว้โดยสรุป ก็คือ จัดตักบาตร เพื่อหาคนในพื้นที่ และ ให้คนเหล่านั้น มาเข้าวัดพระธรรมกาย ท่าน AkALiKo23 ครับ ..... มีตรงไหนที่เจ้าอาวาสวัดพระธรรมกาย พูดถึง จังหวัดชายแดนภาคใต้ / พุทธชยันตี บ้างครับ ( ส่วนเรื่อง ตักบาตร ฉลองเช็งเม้ง เป็นเรื่อง ปัญญา ของพระ เด็กๆ ในวัด ) ยังไม่นับเรื่อง อื่นๆ ที่วัดจัด โครงการต่างๆ โดยที่ผลประโยชน์ส่วนใหญ่ เป็นของวัดพระธรรมกาย ซึ่งก็รวมถึง กระทู้นี้ ของท่าน ปทุมฉัตรสหัสรังสี การจัดตักบาตร ซึ่งอ้างถึง แนวความต้องการของเจ้าอาวาส จนออกมาเป็นรูปธรรม ที่วัดได้ผลประโยชน์ในแง่ ระดมทุน และ สร้างคนใหม่เพราะ มีคนไหลออกจากระบบวัดพระธรรมกายมากมาย ........ ซึ่งก็เป็นเช่นดังที่ ท่านเจ้าของกระทู้ นำเสนอว่า วัดพระธรรมกาย กำลัง หากิน กับหลวงปู่สด ที่เป็นที่เคารพสักการะ ของท่านเจ้าของกระทู้ ท่าน AkALiKo23 ครับ ...... จะลองยกตัวอย่าง ให้เห็นว่า เวลาผู้บริหารวัดพระธรรมกาย เขาประชุมประจำปีกัน เพื่อกำหนดนโยบาย ของปี 2555 ...... เขาพูดกันเรื่องผลประโยชน์วัดพระธรรมกาย ล้วนๆ เช่น วิธีการ และ กลยุทธ์การระดมทุน เป็นต้น .... ไม่เห็น มีเรื่อง พระพุทธศาสนา / เรื่อง ปัญหาชายแดนภาคใต้เลย พอแค่นี้ก่อนนะครับ .... ชักเริ่มยาวแล้ว สุดท้าย .......... ใครเป็นคนผูก คนนั้น ก็ต้องเป็น คนแก้ เริ่มต้นจาก " โจรกระจอก " ก็อยากใคร่ขอให้ เจ้าอาวาสวัดพระธรรมกาย ใช้บารมี สายสัมพันธ์ + ความตั้งใจจริงต่อปัญหาพระพุทธศาสนา (โดยไม่มีผลประโยชน์แอบแฝง) ให้รัฐบาล เร่งแก้ปัญหานี้ให้ลุล่วง นะครับ ไม่ใช่เอาเวลา + สมอง + ทรัพยากร ของวัดพระธรรมกาย ไป ดูด มวลชน เสื้อแดง มาเป็น กองกำลังคู่ขนาน ให้วัดพระธรรมกาย   ด้วยความปรารถนาดีและอนุโมทนา ในจิตกุศล ของท่าน AkALiKo23 จากคุณ : buddy เขียนเมื่อ : 21 มี.ค. 55 20:24:03

ความคิดเห็นที่ 38 ความคิดเห็นที่ 36     ต้องเรียนเชิญล็อกอิน buddy มาช่วยอธิบาย เพราะน่าจะทราบรายละเอียดดี ว่า มีการส่งพระจากทางวัดพระธรรมกายไปในสถานที่เสี่ยงภัยจริงๆ จากคุณ : AkALiKo23 เขียนเมื่อ : 21 มี.ค. 55 19:52:27   ------------------------------------------------------------------------------------------ ขอเรียนเชิญ ท่านตอบเองก็แล้วกัน .... จากคุณ : buddy เขียนเมื่อ : 21 มี.ค. 55 20:32:23

ความคิดเห็นที่ 39 ขอบคุณ ล็อกอิน buddy สำหรับประเด็น ที่พุ่งเป้าไปที่องค์กรพุทธแสวงหาผลประโยชน์จากชาวพุทธด้วยกัน กรณีอย่างนี้ ถ้าจะแตกประเด็นออกไป คงจะเป็นประเด็นเกี่ยวกับ...... อ้างอิงประเด็นนี้ของคุณ buddy รายงานการประชุม การตักบาตร 100,000 รูป ที่วัดพระธรรมกาย ในเดือน มิถุนายน 2554 ที่ห้องเนกขัมมะ สำนักงานใหญ่วัดพระธรรมกาย ซึ่งเจ้าอาวาส ได้กำหนดแนวทางการจัดตักบาตร ไว้โดยสรุป ก็คือ จัดตักบาตร เพื่อหาคนในพื้นที่ และ ให้คนเหล่านั้น มาเข้าวัดพระธรรมกาย ไม่อยากเปิดกระทู้แตกประเด็นใหม่ เพราะเนื้อหาค่อนข้างจะช่วยแก้ต่างอยู่ แต่ประเด็นที่จะถาม หากใครจะตอบ เพื่อให้เกิดการยอมรับกันทั้งสองฝ่าย ควรอ้างอิง ภาพรวม วัตถุประสงค์ในการสร้างวัดพระธรรมกาย ด้วย 1.วัตถุประสงค์ ในการสร้างวัดพระธรรมกาย 2.เห็นจุดบกพร่องในสังคมอยางไร จึงมีการจัดโครงการต่างๆเพื่อช่วยสังคม 3.ผลพลอยได้จากการจัดโครงการต่างๆ เช่น   ได้คนที่ศรัทธาในแนวทางของวัด มาช่วยงานเพิ่ม 3คำถามแรก นำมาสู่คำถามที่ 4. คนที่เข้าวัดพระธรรมกาย เมื่อได้เรียนรู้สิ่งต่างๆจากวัดพระธรรมกายแล้ว จะปฎิบัติตนอย่างไร กับ พระสงฆ์ และ วัดทั่วไปในสังฆมณฑล จากคุณ : AkALiKo23 เขียนเมื่อ : 21 มี.ค. 55 20:48:31

ความคิดเห็นที่ 40 อนุโมทนาคุณ buddy คห 37 ดูผิดไปหน่อยครับ คุณตรัยพล อิอิ แก้ไขเมื่อ 24 มี.ค. 55 21:35:49 แก้ไขเมื่อ 24 มี.ค. 55 21:34:48 จากคุณ : ต่อmcu เขียนเมื่อ : 21 มี.ค. 55 20:57:21

ความคิดเห็นที่ 41 ความคิดเห็นที่ 39 ไม่ใช่ว่า ตอบไม่ได้ หรือ ไม่อยากตอบ หรือ รังเกียจท่าน แต่ไม่อยากให้กระทู้นี้ ถูกเบี่ยงเบน โดย ทั้งที่ตั้งใจ และ ไม่ได้ตั้งใจ อันเกิดจากความคิดเห็น ในประเด็น อื่นๆ ที่ไม่้เกี่ยวกับกระทู้ ของสมาชิก ไม่กี่ท่าน ก็ เพราะ มีประสบการณ์ / มีข้อมูล / ไปพิสูจน์ มาแล้ว ถึง 3 หัวข้อนั้น จึงนำมาสู่ ผลสรุป ของตัวเอง ว่า คนที่เข้าวัดพระธรรมกาย เมื่อได้เรียนรู้สิ่งต่างๆจากวัดพระธรรมกายแล้ว จะก้าวพ้นเจ้าอาวาส มา " หยุด " ที่องค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้า อย่างไร จากคุณ : buddy เขียนเมื่อ : 21 มี.ค. 55 21:04:08

ความคิดเห็นที่ 42 คุณต่อครับ ความคิดเห็นที่ 30 ไม่ใช่ของคุณ buddy แต่เป็นของคุณ AkALiKo23 ต่างหากครับ จากคุณ : ตรัยพล เขียนเมื่อ : 21 มี.ค. 55 21:09:47

ความคิดเห็นที่ 43 สงสัยเจ้าของกระทู้มีผิวพรรณกระดำกระด่าง ไม่งามเท่าหลวงพ่อ เลยอิจฉาท่านน่ะ ไม่ได้เขาสปานะ ไม่ได้ฉีดโบท็อกซ์ คงจะเทียบเจ้าอาวาสมิได้ดอก...   ไม่รู้คุณ ปาโอ ต้องการอะไรนะ แถแถแถลไถลไปเรื่อยเหมือนเจ้าสำนักอ่ะ ผมไม่ตคอบเพราะไม่ได้อยู่ในประเด็นนั้น  ผมไม่ได้กล่าวล่วงหลวงพ่อวัดปากน้ำ อีกทั้งผมจะยังยืนยันว่า วิชชาธรรมกาย สามารถเชื่อมโยงไปถึงมหาสติปัฏฐาน ได้ตามตำรามหาสติปัฏฐานสูตรอย่างลงตัว มีทั้งอโลกกสิณ ทั้งการกำหนดลมหายใจ และการบริกรรมภาวนา ทั้งไม่ทำตามนี้ คุณไม่มีทางเข้าใจ นอกเสียงจากเข้าใจไปผิดๆ แบบที่เจ้าสำนักสอนมา 1.วัตถุประสงค์ ในการสร้างวัดพระธรรมกาย ไม่จริงดั่งที่ประกาศไว้ วัดไม่ได้เป็นวัด วัดเป็นแหล่งระดมทุน ระดมมวลชน และสร้างพลังจิตแบบอุปาทานหมู่ พระไม่ได้เป็นพระ  แค่เจ้าอาวาสก้ไม่เป็นแล้ว แถมมาดูพระในวัดยิ่งแล้วใหญ่เลย มีทรัพย์สฤงคารนานัปการไม่ถ้วน ไอแพต ไอโฟน ไอพอต บีบี ฯลฯ ล้วนสิ่งไม่จำเป็นต่อสมณสารูป อย่ามาอ้างว่าใช้งานพระศาสนาอีก เพาะ 90% ใช้ส่วนตัว คนไม่ได้เป็นคนดีทุกคน ดังนั้น วัตถุประสงค์เบี่ยงเบนนะจ๊ะ จากคุณ : ปทุมฉัตรสหัสรังษี เขียนเมื่อ : 21 มี.ค. 55 21:12:01

ความคิดเห็นที่ 44 น้ำลด ไม่ใช่แค่ตอผุดอย่างเดียว...  เ...ี้ย จะโผล่ด้วย จากคุณ : ซามูไรหมูตอน เขียนเมื่อ : 21 มี.ค. 55 21:20:46

ความคิดเห็นที่ 45 ท่านทั้งหลาย ลองมองย้อนกลับไปที่ บุคคลเหล่านี้ คือ นักเรียน หรือข้าราชการ หน่วยงาน หรือสมาชิกองค์กร ที่ไม่ถึงกับเป็นศิษย์วัดพระธรรมกายโดยตรง และไม่ได้ศึกษาวิชชาธรรมกายขั้นสูง แต่มีโอกาส ได้รับการอบรมพร่ำสอนจริยธรรม เบญจศีล เบญจธรรม ขั้นพื้นฐาน จากวัดพระธรรมกาย เมื่อไปที่วัดแล้ว มีทัศนคติอย่างไร และเชื่อว่าการเข้าร่วมโครงการเหล่านั้น ทางวัดคงจะต้องจัดทำเอกสารในการรับฟังความคิดเห็น ของผู้เข้าร่วมแล้วว่ารู้สึกอย่างไร ที่จริงก็ไม่มีข้อมูลจากแหล่งอื่นมากนัก ส่วนใหญ่ก็มาจากบทให้สัมภาษณ์ ที่สะท้อนกลับมายัง วัดพระธรรมกาย และหลวงพ่อเจ้าอาวาส ตามที่เคยได้ยินได้ฟังจากตัวจริง เสียงจริง แต่ขอบอกไว้ก่อนว่า ประเด็นวิจารณ์ในเว็บบอร์ดนี้ ส่วนใหญ่ เป็นเรื่องของการสะท้อนความรู้สึก มากกว่าสะท้อนความจริง ที่สามารถเห็นถึงเจตนาอันดีของคนวัดที่มีต่อสังคมชาวพุทธ จึงฉุกคิดได้ว่า ระดับสติปัญญาคนวัด มันแบ่งออกได้หลายระดับ ตามการจำแนกของพระพุทธองค์ นั่นก็คือ 1. รูปัปปมาณิกา                             ถือรูปเป็นประมาณ แล้วเลื่อมใส 2. โฆสัปปมาณิกา                             จำพวกโฆสัปปมาณิกา (ถือเสียงเป็นประมาณ) แล้วเลื่อมใส 3. ลูขัปปมาณิกา                             ถือการปฏิบัติเศร้าหมองเป็นประมาณ อาศัยความเศร้าหมองด้วยปัจจัยทั้งหลายมีจีวรเป็นต้น แล้วเลื่อมใส 4. ธัมมัปปมาณิกา                             ถือธรรมเป็นประมาณ แล้วเลื่อมใส ซึ่ง 4 จำพวกนี้ พระพุทธองค์ไม่ได้ทรงปฎิเสธว่า ไม่ใช่พุทธสาวก ทรงยอมรับว่า สาวกแต่ละคนแตกต่างกัน และพระองค์ก็มีวิธีสอนต่างกัน เช่น ล่อพระนันทะกุมาร ผู้ติดในกามฉันทะ ด้วยนางอัปสรบนสวรรค์ แต่ผลสุดท้าย ได้บรรลุอรหันต์ ความที่สาวกที่มีพื้นฐานจิตใจต่างกันนั้น ย่อมมีโอกาสเข้าถึงอมตธรรมของพระพุทธเจ้าองค์ใด องค์หนึ่งในอนาคตได้ด้วย การโต้แย้ง ไม่ได้ช่วยให้ปัญหาถึงจุดจบ แต่เป็นการสร้างปัญหาใหม่ คนที่ไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง ไม่คิดให้ความร่วมมือ เข้าไปแย้ง ยิ่งไม่ได้รับการยอมรับนับถือเข้าไปใหญ่ ใครไปตำหนิหนึ่งในบรรดาคน 4 จำพวกนี้ ควรทำด้วยความปรารถนาดี ไม่ใช่การ เยาะเย้ย เหยียดหยาม และถากถาง เพราะ ความเป็นเสิศทาง สติ ปัญญา ต้องอาศัยบุญ-บารมี มากกว่าการฟังคำโต้แย้งอย่างหยายคาย จากคุณ : AkALiKo23 เขียนเมื่อ : 21 มี.ค. 55 21:35:03

ความคิดเห็นที่ 46 ล็อกอินปทุมฉัตรได้เห็นความเห็นว่า วัดไม่ได้เป็นวัด วัดเป็นแหล่งระดมทุน ระดมมวลชน และสร้างพลังจิตแบบอุปาทานหมู่  พระไม่ได้เป็นพระ  แค่เจ้าอาวาสก้ไม่เป็นแล้ว แถมมาดูพระในวัดยิ่งแล้วใหญ่เลย มีทรัพย์สฤงคารนานัปการไม่ถ้วน ไอแพต ไอโฟน ไอพอต บีบี ฯลฯ ล้วนสิ่งไม่จำเป็นต่อสมณสารูป อย่ามาอ้างว่าใช้งานพระศาสนาอีก เพาะ 90% ใช้ส่วนตัว คนไม่ได้เป็นคนดีทุกคน ดังนั้น วัตถุประสงค์เบี่ยงเบนนะจ๊ะ จากคุณ : ปทุมฉัตรสหัสรังษี วัตถุประสงค์ในการสร้างวัด เกิดขึ้นครั้งแรกเมื่อไหร่ ท่านคงไม่ทราบ  ส่วนเรื่อง  พระในวัดยิ่งแล้วใหญ่เลย มีทรัพย์สฤงคารนานัปการไม่ถ้วน ไอแพต ไอโฟน  ไอพอต บีบี ฯลฯ ล้วนสิ่งไม่จำเป็นต่อสมณสารูป ส่วนประเด็นนี้ ควรตกไปเลย เพราะเป็นการไม่เคารพสิทธิส่วนบุคคล สิทธิส่วนบุคคล คือเรื่องส่วนตัว ตั้งแต่การ ขี้ เยี่ยว การใช้บริขาร และ การบริหารปัจจัยอำนวยความสะดวกแก่การดำรงค์ชีวิตให้อยู่รอด ถ้าเป็นไปเพื่อกุศลจิต และเป็นสัมมาอาชีวะ ตามแบบพระนั้น พระพุทธองค์ไม่ทรงห้าม แต่ไม่ควรแสวงหา ถ้าไม่จำเป็น แต่ทรงวาง หลักเสขิยวัตรเอาไว้ เพื่อรักษาศรัทธา และไม่ให้เป็นโลกวัชชะ   การใช้   ไอแพต ไอโฟน ไอพอต บีบี ฯลฯ ล้วนสิ่งไม่จำเป็นต่อสมณสารูป ดังที่ยกมา ต้องบอกว่า การใช้ไม่ผิด   ความผิดเกิดจาก อกุศลจิต ที่เกิดจากการใช้ต่างหาก การใช้อุปกรณ์ดังกล่าว พระวินัยก็ไม่ห้าม ในบรรดา จุลศีล มัชฌิมศีล มหาศีล นั้น  วัตุถุประสงค์สูงสุด พระพุทธองค์ให้รักษาจิตอย่างเดียว จากคุณ : AkALiKo23 เขียนเมื่อ : 21 มี.ค. 55 21:50:18

ความคิดเห็นที่ 47 ขอ ดึง กลับเข้ามาในประเด็น ของกระทู้นี้นะ ขอถามลูกศิษย์วัดพระธรรมกาย หรือ ผู้บริหารวัดพระธรรมกาย พร้อมกันเลย ถ้าท่านตั้งราคาอ้างอิง ทองคำอยู่ที่ บาทละ 25,000 บาท โดยหวังว่า จะระดมทุนได้ 1,640,000,000 บาท จากโครงการนี้ ตามราคาที่วัดอ้างอิง แต่เนื่องจากราคาทองคำ มีราคาผันผวนมาโดยตลอด ตาม 8 ปัจจัยหลัก และมีการคาดการณ์ว่า ราคาทองคำตลาดโลก จะสูงสุดเป็นประวัติการณ์ ที่ 1,575 ดอลลาร์สหรัฐต่อออนซ์ ในปี 2555 ธรรมชาติอีกอย่างหนึ่งของทองคำ ก็คือ ..... ใคร มี เงิน / ใคร มี ทุน ก็สามารถ ทำกำไร ทั้งในขาขึ้น และ ขาลง เลยอยากถามคำถามง่ายๆ เป็นการเริ่มต้น ก่อนดังนี้: 1. วัดพระธรรมกาย จะปกป้องความเสี่ยง จากราคาทองคำที่ผันผวน ได้อย่างไร (ใน 6 เดือน ที่ผ่านมา ราคาทองคำ พุ่งขึ้น ทะลุ 26,000 บาท (อย่างน้อย ก็สูงกว่า ราคากลางของวัดพระธรรมกายที่ 25,000 อยู่หลายเดือน) 2. วัดพระธรรมกาย มีวิธี ป้องกัน การหาประโยชน์ ทั้งในช่วงที่ราคาขึ้น - ราคาลง ได้อย่างไร เอา 2 ข้อนี้ก่อน ยังไม่อยากหนักๆ ..... เพื่อปกป้องเงินทำบุญของญาติโยม และ ปกป้องเหลือบที่มาหาผลประโยชน์ จากโครงการ จากคุณ : buddy เขียนเมื่อ : 21 มี.ค. 55 22:49:18

ความคิดเห็นที่ 48 ความคิดเห็นที่ 47 ......"เพื่อปกป้องเงินทำบุญของญาติโยม และ ปกป้องเหลือบที่มาหาผลประโยชน์ จากโครงการ" . . . คุณคงไม่ถามถึง รูปหล่อทองคำ 5 องค์ที่หล่อไปประดิษฐานตามที่ต่างๆไปแล้ว แต่เข้าใจว่าถามถึงองค์ที่ 6 ซึ่งจะอัญเชิญไปเป็นศาสนสมบัติ ณ. วัดปากน้ำ ภาษีเจริญ คงตอบไม่เป็น เพราะไม่สันทัด เรื่องตัวเลข และเรื่องมูลค่าทองคำ แถมไม่สนใจเรื่อง กำไร ขาดทุน เพราะเกิดมาไม่เคยทำธุรกิจเกี่ยวกับทองคำ แต่คงต้องตอบว่า ผลประโยชน์นั้น แม้ว่าจะเกิดขึ้นแก่ใครก็ตาม มันไม่เที่ยง นำติดตัวไปในภพหน้าไม่ได้ อายุไขในเมืองมนุษย์มีน้อยเกินไป ไม่น่าพิศมัย ไม่ละเอียดประณีตเท่ากับ ทิพยสมบัติในสวรรค์ชั้นต่างๆ แถมด้วยพุทธโอวาท บุคคลพึงสละทรัพย์ เพื่อรักษาอวัยวะ พึงสละอวัยวะ เพื่อรักษาชีวิต พึงสละชีวิต เพื่อรักษาธรรม จากคุณ : AkALiKo23 เขียนเมื่อ : 21 มี.ค. 55 22:59:27

ความคิดเห็นที่ 49  ผมไม่ได้กล่าวล่วงหลวงพ่อวัดปากน้ำ อีกทั้งผมจะยังยืนยันว่า วิชชาธรรมกาย สามารถเชื่อมโยงไปถึงมหาสติปัฏฐาน ได้ตามตำรามหาสติปัฏฐานสูตรอย่างลงตัว จากคุณ : ปทุมฉัตรสหัสรังษี ^^^^ ( มีอยู่กระทู้หนึ่ง ที่ตรัยพล กล่าวว่า....) คนที่พยายามยัดเยียดว่า  วิชาธรรมกายเป็นวิชาของพระพุทธเจ้าสมณโคดมนั้นนั่นแหละที่จะบาปกรรมมากกว่าหลายเท่านัก เพราะภาคดำ ภาคขาว ภาคปราบ ภาคโปรดอะไรเหล่านี้  ไมมีปรากฏในพระไตรปิฎก เพราะไม่ใช่วิชาของพระพุทธเจ้าสมณโคดม จึงไม่มีปรากฏมาตั้งแต่ครั้งปฐมสังคยานา  ใครที่มากล่าวตู่ พยายามยัดเยียดวิชาธรรมกายให้เป็นวิชาของพระพุทธเจ้าสมณโคดมนั้น  มันบาปหนาสาหัสสากรรจ์มากกว่ามากครับ จากคุณ : ตรัยพล ^^^^^^ ไหงกระทู้นี้ มาทำเป็นเข้ากันเป็นปี่ เป็นระนาด...หล่ะ... อ้าว ปทุมฯ ว่าไงดี....บอก พี่ตรัย เค้าหน่อยซิ ว่าหลวงพ่อวัดปากน้ำ ท่านยืนยัน ว่าวิชชาธรรมกาย เป็นวิชชาที่มีในพระพุทธศาสนา เป็นของพระพุทธเจ้า โดยแท้... ....กินข้าววัด แล้วจะมาล้างวัด อันนั้นยังพอ เข้าใจ.... แต่เป็นลูกหลาน หลวงปู่  แล้วให้คนอื่น เขามาทำแบบนี้ กับวิชชาธรรมกาย ได้ไง วานบอก....   ปล... ปทุมฯ อย่าทำมาเป็น ร้อยตำรวจเอกปลอมตัวมา เหมือนหนังไทย ทำมาอ้างไม่เกี่ยวกับกระทู้...   จากคุณ : กลัวจัง... (pa-o-toi-uan) เขียนเมื่อ : 22 มี.ค. 55 09:42:24

ความคิดเห็นที่ 50 สงสัยเจ้าของกระทู้มีผิวพรรณกระดำกระด่าง ไม่งามเท่าหลวงพ่อ เลยอิจฉาท่านน่ะ ไม่ได้เขาสปานะ ไม่ได้ฉีดโบท็อกซ์ คงจะเทียบเจ้าอาวาสมิได้ดอก... โธ่....น้องปทุมฯเอ๊ย...อานิสงส์พื้นฐานที่น่าจะเข้าใจง่าย  ๆ รักษาศีล ทำให้สุขภาพแข็งแรง ผิวพรรณงาม ถ้ารักษาศีลไม่ดีพอ ต่อให้ทำกี่สิบสปาหรือว่าโบท้อกซ์เริ่ดขนาดไหน ก็ไม่ได้ทำให้ดีได้จริงหรอกนะ ว่าแต้น้องเฮ้อะ...อีกกี่ชาติจะได้ผิวพรรณงามก็ไม่รุ้ เพระเท่าที่ได้ข้อมูลคุณมา ศีลด่างพร้อยมากนี่นา อิอิ วัดไม่ได้เป็นวัด.........พระไม่ได้เป็นพระ ........... คนไม่ได้เป็นคนดีทุกคน  จากคุณ : ปทุมฉัตรสหัสรังษี ขอบอกว่าวัดเป็นวัดจ้ะ เป็นวัดที่ดีด้วย พระก็เป็นพระจ้ะ หรือว่าคุณจะบอกว่าตอนคุณบวชน่ะ คุณก็ไม่ได้เป็นพระ  เพิ่งอ่านเห็นข้างบน ว่าบวชมาเยอะ...กี่พรรษาเหรอที่ว่าเยอะ  อ่่อ..คุณต่อไว้ด้วยว่า คนไม่ได้เป็นคนดีกันทุกคน ก็ในเมื่อความกตัญญูเป็นเครื่องหมายของคนดี คนดี ความดีทำง่ายความชั่วทำยาก , ความชั่ว คนชั่วทำง่ายคนดีทำยาก แล้วแบบคุณเป็นคนอะไรดีล่ะ  เขาว่าคนจรหมอนหมิ่้นให้คบให้ระวัง แต่คน จ.ร. นี่น่าชัง กินบนเรือนขี้บนหลังคา ใครกล้ารับเป็นศิษย์คงคิดหนัก ขนาดครูบาอาจารย์เก่า เจ้าไม่ถูกใจ เจ้าจากไป ยังกัดยังแทงขนาดนี้ แล้วครูบาอาจารย์ใหม่จะกล้ัารับเป็นศิษย์มั้ยเนี่ย วันร้ายคืนร้าย ไม่ถูกจายยย จะโดนขย้ำบ้างรึป่าวก็ม่ายยยรุ้ จากคุณ : รัตนมาลี เขียนเมื่อ : 22 มี.ค. 55 10:46:23

ความคิดเห็นที่ 51 เหอะๆดูเทวดาทะเลาะกันแล้วงงครับ ผมนานๆมาทีไม่ค่อยรู้เรื่องราวเพียงแค่รู้สึกได้ว่าอารมณ์ของผู้ปฎิบัติธรรมไม่ว่าฝ่ายไหนก็คุกรุ่นพอๆกัน รู้สึกว่าจิตใจไม่ได้ดีไปกว่ากันเลย และไม่ได้ดีเช่นคนปฏิบัติธรรมในรูปแบบที่ผมคาดไว้ว่าจะพบเจอในห้องนี้ เหมือนคนทั่วไปที่ไม่ได้ปฏิบัติธรรมเลย(เหมือนพวกผม) เหมือนพยายามเอาชนะกันให้ได้โดยการหักล้างคำพูดของฝ่ายตรงข้าม จับผิดและเสียดสีกันไปมาเพียงเพื่อให้ฝ่ายตนชนะ ผมไม่ได้ดีไปกว่าท่านหรือวิเศษกว่าใครนะครับ เพียงแต่รู้สึกว่าผู้ปฏิบัติธรรมทำไมเต็มไปด้วยไอกรุ่นของทิฐิมานะและความเกลียดชังก็ไม่รู้ ผมไม่มีทางออกให้หรอกนะครับ ไม่ใช่ผู้ปฏิบัติธรรมด้วย ยังดูหนังโป๊ พูดคำหยาบ สวดมนต์ก็ไม่เป็น คงบอกท่านไม่ได้ว่าควรทำอย่างไรเพียงแค่มาบอกความรู้สึกเฉยๆ อยากว่าก็ว่าได้นะครับ ผมแค่คนผ่านมา แก้ไขเมื่อ 22 มี.ค. 55 19:14:25 แก้ไขเมื่อ 22 มี.ค. 55 19:09:44 จากคุณ : jinandjoy เขียนเมื่อ : 22 มี.ค. 55 19:02:05

ความคิดเห็นที่ 52 ^^^ ...นอกจากไม่ว่าอะไร แถมยังอยากให้ GIFT ... คงไม่ขัดข้อง ถ้าจะขอขอบคุณจากใจจริง ที่ช่วยเตือนสติ... ก็มันจริงอย่างที่คุณว่านั่นแหละ... ...แต่ทำไงได้... เอาว่ะ...ซ่ะหน่อย...อะไรทำนองเนี๊ย..หวังว่าคงเข้าใจ..     จากคุณ : ยังมีกิเลสครบ แถมหนาด้วย (pa-o-toi-uan) เขียนเมื่อ : 22 มี.ค. 55 19:28:55

ความคิดเห็นที่ 53 จาก คห 49 อ้าว ปทุมฯ ว่าไงดี....บอก พี่ตรัย เค้าหน่อยซิ ว่าหลวงพ่อวัดปากน้ำ ท่านยืนยัน ว่าวิชชาธรรมกาย เป็นวิชชาที่มีในพระพุทธศาสนา เป็นของพระพุทธเจ้า โดยแท้... ....กินข้าววัด แล้วจะมาล้างวัด อันนั้นยังพอ เข้าใจ.... แต่เป็นลูกหลาน หลวงปู่  แล้วให้คนอื่น เขามาทำแบบนี้ กับวิชชาธรรมกาย ได้ไง วานบอก....   ปล... ปทุมฯ อย่าทำมาเป็น ร้อยตำรวจเอกปลอมตัวมา เหมือนหนังไทย ทำมาอ้างไม่เกี่ยวกับกระทู้... ไอ้เรื่องยุคนให้ทะเลาะกันนั้น ไม่คิดว่า ศิษย์เสี่ยไชยบูลย์จะทำได้เก่งขนาดนี้ เฮ้อ ฟังไม่ได้ศัพท์จับไปกระแดะนะ ปาโอ  คุณปาโอ ก้อ้างว่าเป็นศิษย์เสี่ยไชยบูลย์ ทำไมไม่ปกป้อง ไหนว่าทำเพื่อฟื้นฟูพระพุทธศาสนา แล้วจะเขี่ยบอลมาให้คนอื่นทำไม ไม่กล้าจะอธิบาย หรือไม่มีองค์ความรู้ในหัวขมองกันแน่จ๊ะ ปาโอ ผมบอกว่า วิชชาธรรมกาย สามารถอธิบายได้ตามหลักสติปัฏฐาน ๔ กาย เวทนา จิต ธรรม ซึ่งผมก็ไม่ได้กล่าวผิดอะไร ส่วนการที่ใครจะอ้างว่ามีในพระไตรปิฎกหรือไม่นั้น ต้องดูว่า พระไตรปิฎกสอนสติปัฏฐานมั้ย ถ้าสอน ก็เช่นเดียวกัน วิชชาธรรมกายก็เป็นสติปัฏฐาน ๔ ---- ปาโอ อาจจะงงนะครับ  คงต้องไปหาน้ำปาเชงกินแล้วล่ะ เผื่อขมองจะสลายตัวดีขึ้น และจาก คห 34 ปาโอไม่มีความรู้เลบยจริงๆนะเนี่ย จะมาสร้างรอยเหม้นให้คนอื่นเขาดูถูกสำนักตนเอง ผมล่ะเวทนา ถ้าไม่รู้จริงๆๆ อย่าอวดปกป้อง มันเสียไปหมดนะลูกนะ จากคห 50 คุณมาลี เอ่อ.... ไม่รุ้อะไรกะใครเขาเลยจริงๆนะครับ มัวแต่ทำอะไรนะ เลยไม่รู้พฤติกรรมของเจ้าอาวาส ว่า แต่งหน้าทาปาก เมือ่ไหร่ยังไง แล้วจะมาอ้างหลักศีลพื้นฐาน โถ..... อวดอุตตริฯงี้ ถากถางศานาอื่นงี้ บอกเอาแต่เงินงี้ เอาฝันลมๆแล้งที่แต่งขึ้นมาโกหกขายบุญงี้ ฯลฯ บุญพื้นฐาน เสี่ยไชยบูลย์ก็ไม่ผ่านแล้วจ้ะ อย่ามาอ้างเล้ย ตอนแรกผมไม่ได้กัดใครนะครับ แต่พออยู่ๆมา เสี่ยไชยบุลย์ชักจะพาลุกๆไถลลงคลอง ผมเวทนาก็ออกมา "แฉ" เตือนพวกที่ยังศรัทธา แถมยังได้รับข้อมูลจาดพระที่สึกไป เจ้าภาพที่จากไป ต่างรู้ว่าผมคือใคร ก็เลยมาช่วยแฉ  ผมยอมที่จะถูกตราหน้าว่า "อกตัญญูต่อหลวงพ่อ" แต่ผมกำลังตอบแทนพระคุณหลวงพ่อวัดปากน้ำ ที่ผมเคารพมากกว่าหลวงพ่อของคุณ อย่าอ้างข้าวแดงแกงร้อนเด็ดขาด เพราะนั่นคือข้างพระพุทธเจ้า มิใช่ข้าวหลวงพ่อ ศรัทธาสาธุชนทำบุญให้ไปก็ถวายแด่พระศาสนา มิใช่ถวายหลวงพ่อปาราชิกนั่น  ความคิดเห็นที่ 52    ^^^ ...นอกจากไม่ว่าอะไร แถมยังอยากให้ GIFT ... คงไม่ขัดข้อง ถ้าจะขอขอบคุณจากใจจริง ที่ช่วยเตือนสติ... ก็มันจริงอย่างที่คุณว่านั่นแหละ... ...แต่ทำไงได้... เอาว่ะ...ซ่ะหน่อย...อะไรทำนองเนี๊ย..หวังว่าคงเข้าใจ..     จากคุณ : ยังมีกิเลสครบ แถมหนาด้วย (pa-o-toi-uan)  เขียนเมื่อ : 22 มี.ค. 55 19:28:55  แบบนี้เรียก "เพี้ยน" ว่าก็ว่าไปเหอะ... ทำไมไม่คิดจะแสวงหาบ้างว่า เฮ้ย!!! คนที่มาด่าวัด ด่าหลวงพ่อ ไปเอาข้อมูลมาจากไหน ไปหาแหล่งอะไรมาพิสูจน์ว่า หลวงพ่อทำวิชชาเสียหาย ทำไมไม่แสวงหาบ้าง เอาแต่มาเถียงแถแถลไถลไปเรื่อย ไม่มีประโยชน์เล้ย ลองไปหาสิว่า หลวงปู่วัดปากน้ำสอนอย่างไร วัดปากน้ำสอนอย่างไร แล้วหลวงพ่อไชยบูลโยโหตุ สอนอย่างไร ผิดมั้ย เพี้ยนมั้ย ตรงมั้ย แถมั้ย ไถลออกนอกข้างทางมั้ย  จากคุณ : ปทุมฉัตรสหัสรังษี เขียนเมื่อ : 22 มี.ค. 55 19:59:03

ความคิดเห็นที่ 54 เป็นได้ก็เพียงปลาหมอล่ะว้า ตายเพราะปากแท้ ๆ แกว่งปากหาเสิ้ยน  ก็เพิ่งเคยเห็นนี่แหละ คุณปทุมฉัตรตอบได้ฉาดฉานดีแท้ ๆ ผมให้ 3 กิฟท์เลยครับ คุณมาลีเป็นเพียงศิษย์ชั้นหลานเหลนโหลน  ริบังอาจมาทวงคุณข้าวแดงแกงร้อน โถ ๆ ๆ ไม่พิจารณาดูพฤติกรรมและการกระทำของอลัชชีเดียรถีย์ธัมมี่สารพัดพิษเอาบ้างซะเลย  ว่า มันสนองคุณข้าวแดงแกงร้อนต่อวิชาธรรมกายอย่างไรบ้าง  สนองคุณต่อหลวงพ่อสดอย่างไรบ้าง  สนองคุณต่อพระพุทธเจ้าอย่างไรบ้าง ? บิดเบือนวิชาธรรมกายอย่างงี้ บิดเบือนพระสัทธรรมคำสั่งสอนของพระพุทธเจ้าอย่างงี้ ปาราชิกขาดจากการเป็นพระไปแล้ว   ยังมีหน้าเอาผ้ากาสาวพัตร์มาห่มหลอกลวงสูบเลือดเนื้อพุทธศาสนิกชนอย่างหน้าด้าน ๆ ไม่ละอายต่อบาปกรรมซะบ้างเลย ถูกสมาชิกเวบบอร์ดลากไส้ออกมาแล่เนื้อเถือหนังมาเป็น 10 ปีแล้ว   ก็ยังหน้าด้านทนให้เขาทำอย่างหน้าไม่อาย  เพื่อหวังเหยือรายใหม่ ๆ ที่ไม่รู้เรื่องรู้ราวว่าจะหลงเข้าไปอีก เป้าหมายการระดมทุนในเมืองยอดตกกราวรูด  จึงต้องเร่งสรรพกำลังกระจายกิจกรรมสูบบุฐระดมทุนออกไปยังชนบทและชุมชนที่ด้อยโอกาสซี่งขาดแหล่งความรู้ในการค้นคว้าทางธรรม วันอวสานของธัมมี่ใกล้เข้ามาแล้วอีกไม่นานเกินรอ คุณมาลีและเหล่าสาวกย่อมได้เห็นแน่ จากคุณ : ตรัยพล เขียนเมื่อ : 22 มี.ค. 55 22:10:20

ความคิดเห็นที่ 55 แวะเข้ามาแซวท่านตรัยพลเสียหน่อยก่อนนอน กลัวความอวสานที่ท่านตรัยพล และผมอยากเห็น มันจะกลับกลาย เป็นอวยยศเพิ่ม กับ ตำแหน่งกรรมการมหาเถรสมาคมให้แทนนี่สิ คงอย่างที่ท่าน budy ช่วยนำความจริงมาเปิดเผย ภาพอีเว้นระดมทุนที่จัด เขาทำไว้ขายต่างประเทศ เพื่อเรียกศรัทธาค่าเงินสกุลต่างๆ พรีเซ้นเตอร์คือ พระซึ่งถูกหลอกไปร่วมกิจกรรม กับฆราวาสผู้ไม่รู้อีโหน่อีเหน่ การตลาดทั้งหมด เพื่อระดุมทุน สร้างฐานการเมืองเสื้อแดง ฝั่งโลกียะล้วนๆ เมื่อเงินมา ฐานเสียงแน่น อำนาจกลับสู่มือตัวจริงเสียงจริง ผลตอบแทนในรูปเดิม "ปลดคดีความออกจากศาล" ก็ทำแล้ว ผลตอบแทน ซึ่งกำลังทำฝันให้เป็นจริง "กินตำแหน่งกรรมการมหาเถรสมาคม" ในอนาคต ตำแหน่ง "สังฆราช" โดยรัฐบาลตั้งให้ จะไปไหนเสีย ตราบใดที่คนไทยส่วนใหญ่ยังคิดว่า ธุระไม่ใช่ เรื่องพระเรื่องเจ้า ไม่ควรยุ่ง ธรรมะลึกซึ้งไม่กล้าวิจารณ์ เห็นโฆษณาสร้างภาำพกับลมปากเรื่องโพธิสัตว์รื้อขนสัตว์ ก็ศรัทธาตามกันเป็นตุเป็นตะ ผมละไม่อยากฟันธงฝั่งตรงข้าม ท่านตรัยพล พี่ยามประจำวัน คุณต่อmcu คุณซามูไรฯ และอีกหลายท่านคิดเลย ไม่ได้มองว่า บารมีัศพเกย์ไชยบูลย์มันเยอะอะไรด้วย แต่กิเลสตัณหาฝั่งโลกียะ มันจับมือกันถูกขั้วจริงๆรอบนี้ ยุคเข็ญ เพื่อให้ประชาชนลืมตา ตืนขึ้นมาพบความจริงบนโลกใบนี้ คงใกล้แล้ว have a good day นะครับ (กว่าพวกท่านจะอ่าน คงเป็นวันรุ่งขึ้นแล้วล่ะ) -------- edit ..ลืมคุณพี่ยามสุดหล่อไปได้อย่างไง (เข้ามากระทู้คนแรกๆเลย เร็วกว่าเราอีก!) แก้ไขเมื่อ 23 มี.ค. 55 13:41:48 จากคุณ : ท่านใดช่วยฟันธงทางเลือกอื่นที (Zim-MorLuth-) เขียนเมื่อ : 23 มี.ค. 55 01:32:42

ความคิดเห็นที่ 56 อืมมม์   จับถูกขั้ว !!!!! แต่สุดท้าย   ขั้วมันจะร้อน แล้วมันก็จะหลอมละลายไปด้วยความร้อน ความชั่วความเลวของมันเอง อีกไม่นานเกินรอ ลาภ ยศ สรรเสริญ มีเกิด มีเสื่อม มีดับ ตามหลักสัจธรรมที่เที่ยงแท้ ความร้อนจากความเลว และกิเลส  มันกำลังถูกเร่งเพิ่มอุณหภูมิ  เพียงแค่รอวันถึงจุดเดือด จุดหลอมละลายเท่านั้น ไม่รู้ว่า  ความแตกดับของธัมมี่อลัชชีเดียรถีย์สารพัดพิษจะเกิดก่อนขั้วหลอมละลายหรือไม่ ? หรือไม่ก็อาจเกิดพร้อม ๆ กัน !!!!!!! จากคุณ : ตรัยพล เขียนเมื่อ : 23 มี.ค. 55 07:46:55

ความคิดเห็นที่ 57 ตายเมื่อไรรู้กันละเน้อ จากคุณ : แมวเหมียว (naycat072) เขียนเมื่อ : 23 มี.ค. 55 16:16:01

ความคิดเห็นที่ 58 รู้ตอนตายไปแล้ว  มันกลับตัวกลับใจไม่ได้นะ ตอนนี้เขาพยายามเปิดความชั่วของอลัชชีเดียรถีย์ธัมมี่สารพัดพิษเอามาแล่เนื้อเถอหนังเปิดกะโหลกถลกหนังหัวให้ดูกันจะ ๆ คุณแมวเหมียว(naycat072) จะกลับตัวกลับใจใหม่ก็ไม่สายน่ะครับ เปิดใจศึกษาข้อมูลให้ถี่ถ้วนรอบคอบซะก่อนล่ะครับ จากคุณ : ตรัยพล เขียนเมื่อ : 23 มี.ค. 55 16:50:16

ความคิดเห็นที่ 59 มีเวลาเข้ามาแจมแว้ป ๆ  อ่าน 58 ของคุณ ตรัยพล เปิดใจศึกษาข้อมูลให้ถี่ถ้วนรอบคอบซะก่อนล่ะครับ ...แล้วให้อดนึกถึง  คำเตือน การลงทุน ในการซื้อหุ้น หรือกองทุน ที่มักจะมีคำเตือนพ่วงท้ายไว้ว่า "การลงทุนมีความเสี่ยง ควรศึกษาข้อมูลให้ดีก่อนตัดสินใจในการลงทุน" เอ..แล้วมันเกี่ยวอะไร กับทำบุญ ทำทานหนอ... อืม...เอาคำนี้ไปก็แล้วกัน (ขออนุญาตเสริมให้คุณตรัยพล ใน 58) การทำบุญ มีความเสี่ยงที่จะได้ผลบุญน้อย  ควรพิจารณาให้ดีก่อนการตัดสินใจทำบุญ ทำทาน ... ......................................... เวลามสูตร... ดูกรคฤหบดี ทานที่บุคคลเชื้อเชิญให้ท่านผู้ถึงพร้อมด้วยทิฐิผู้เดียวบริโภค  มีผลมากกว่ามหาทานที่เวลามพราหมณ์ให้แล้ว ...  การที่บุคคลเจริญเมตตาจิตโดยที่สุดแม้เพียงเวลาสูดดมของหอม  มีผลมากกว่าการที่บุคคลมีจิตเลื่อมใสสมาทานสิกขาบท  คือ งดเว้นจากปาณาติบาต ...  และการที่บุคคลเจริญอนิจจสัญญาแม้เพียงเวลาลัดนิ้วมือ  มีผลมากกว่าการที่บุคคลเจริญเมตตาจิตโดยที่สุดแม้เพียงเวลาสูดดมของหอม ฯ จบสูตรที่ ๑๐ http://www.84000.org/tipitaka/pitaka_item/v.php?B=23&A=8336&Z=8416 จากคุณ : ยามประจำวัน เขียนเมื่อ : 23 มี.ค. 55 17:20:57

ความคิดเห็นที่ 60 เห็นด้วยกับการที่จะต้องช่วยชาวพุทธในสามจังหวัด เพราะตอนนี้วิกฤตเต็มทีแล้ว ... แต่ก็ไม่เห็นด้วยกับธรรมกาย ที่สุรุ่ยสุร่าย สร้างถาวรวัตถุจนเกินไป ผิดหลักศาสนาพุทธ ...ทำให้กลัวว่าจะใช้สามจังหวัดเป็นข้ออ้าง ในการใช้เงินสุรุ่ยสุราย  มือเติบ หรือนำไปสร้างถาวรวัตถุที่ไม่จำเป็นต่อศาสนา ...มีหลายครอบครัว ที่ลูกหลานเปลี่ยนศาสนาเพราะเอื่อมกับการบริจาคเงินแบบพระเวสสันดร ของบิดามารดา แถมพระที่รับบริจาคดูอย่างไรก็ไม่สมกับคำว่าพระ เพราะท่านไม่ได้อยู่แบบสมถะเลย ทานแต่อาหารหรูเลศ นอนในห้องแอร์ ขี่รถเบนซ์ แล้วจะไม่ทำให้ลูกหลานเปลี่ยนศาสนาได้อย่างไร ........ ระวังไว้ พวกที่ชอบบริจาคแบบพระเวสสันดร จะทำให้ลูกหลานเปลี่ยนศาสนา บาปหนักครับ จากคุณ : Somporn123 เขียนเมื่อ : 23 มี.ค. 55 17:56:59

ความคิดเห็นที่ 61 กลับไปดูแลจิตใจลูกหลานบ้างครับ เขาไม่เลวอย่างที่คิดครับ จากคุณ : Somporn123 เขียนเมื่อ : 23 มี.ค. 55 17:58:34

ความคิดเห็นที่ 62   ไหนว่าทำเพื่อฟื้นฟูพระพุทธศาสนา แล้วจะเขี่ยบอลมาให้คนอื่นทำไม ไม่กล้าจะอธิบาย หรือไม่มีองค์ความรู้ในหัว จากคุณ : ปทุมฉัตรสหัสรังษี ^^^^ อย่าเลี่ยงซิเพื่อน...จะด่าเพื่อกลบเกลื่อนก็ไม่ว่า ไม่โต้ตอบน่ะ.. ก็บอกแล้วไง...ไม่ได้ข้องใจเรื่องวัดพระธรรมกาย ข้องใจเรื่องจุดยืนของ ปทุมฯ สรุปว่า ต้องการเล่น แค่วัดพระธรรมกาย ใช่ไม๊ สำคัญกว่า การที่ใครจะบอกแบบนี้เหรอ>>>   มีอยู่กระทู้หนึ่ง ที่ตรัยพล กล่าวว่า....) คนที่พยายามยัดเยียดว่า  วิชาธรรมกายเป็นวิชาของพระพุทธเจ้าสมณโคดมนั้นนั่นแหละที่จะบาปกรรมมากกว่าหลายเท่านัก เพราะภาคดำ ภาคขาว ภาคปราบ ภาคโปรดอะไรเหล่านี้  ไมมีปรากฏในพระไตรปิฎก เพราะไม่ใช่วิชาของพระพุทธเจ้าสมณโคดม จึงไม่มีปรากฏมาตั้งแต่ครั้งปฐมสังคยานา  ใครที่มากล่าวตู่ พยายามยัดเยียดวิชาธรรมกายให้เป็นวิชาของพระพุทธเจ้าสมณโคดมนั้น  มันบาปหนาสาหัสสากรรจ์มากกว่ามากครับ จากคุณ : ตรัยพล ใครจะคิดล้าง วิชชาธรรมกาย ลบคำสอนหลวงพ่อวัดปากน้ำ ก็ช่าง ปทุมฯไม่สนใช่ไม๊... หนังสือ กรณีธรรมกาย แย้งหลวงพ่อวัดปากน้ำทุกประเด็น ปทุมฯไม่เห็นแสดงอาการอะไรเลย น่าแปลกใจจริงๆ... ไหนน่ะ เห็นอ้าง ความเห็นที่ 34 เดี๋ยวช่วยบอกทีซิ ว่าไม่ถูกใจตรงไหน ใช่ตรงที่บอก ให้พรรคพวกที่ คิดล้างวิชชาะรรมกาย ไปกราบขอขมาหลวงปู่ รึเปล่า???   ความคิดเห็นที่ 34 MsgStatus(Msv[34], 34); เจ้าของกระทู้ ออกจากวัดไป แต่ยังนั่งสมาธิ วิชชาธรรมกาย อยู่ไม๊ ถ้าคำตอบ คือ ใช่... 1. วิชชาธรรมกาย ถูกต้องร่องรอย ตามพุทธศาสนาทุกประการ และหลวงพ่อวัดปากน้ำท่านค้นพบ หลังจากที่สูญหายไปจริงๆ ใช่ไม๊ 2. รบกวน ช่วยบอก หลายๆคน ที่ให้ GIFT จขกท. หน่อยว่า หนังสือกรณีธรรมกาย ไม่สมควรที่จะกล่าวแย้ง วิชชาธรรมกาย ของหลวงพ่อวัดปากน้ำ ทุกประเด็น และไม่สมควร เรียก หลวงพ่อวัดปากน้ำว่า อาจารย์ใหญ่สำนักธรรมกาย 3.รบกวน ช่วยบอก หลายๆคน ที่ให้ GIFT จขกท.หน่อยว่า รีบไปกราบ ขอขมาหลวงพ่อวัดปากน้ำ ซ่ะ...ที่กล่าวว่า วิชชาธรรมกาย ไม่มีในพุทธศาสนา และหลวงพ่อท่านคิดขึ้นเอง...ไม่ใช่การค้นพบ หลังจากที่สูญหายไป... ปล.. .แม้นอกประเด็น แต่เห็นว่า น่าสงสัย....ควรกล้าที่จะตอบ... แม้เป็นศิษย์เก่า แต่รักเราไม่เก่าเลย... ....ว่าไปโน่น   แก้ไขเมื่อ 23 มี.ค. 55 18:29:59 จากคุณ : ไปอยู่กับเขาเหอะเพื่อน (pa-o-toi-uan) เขียนเมื่อ : 23 มี.ค. 55 18:28:53

ความคิดเห็นที่ 63 ลองไปหาสิว่า หลวงปู่วัดปากน้ำสอนอย่างไร วัดปากน้ำสอนอย่างไร แล้วหลวงพ่อไชย (ตรงนี้ขอลบ..)   สอนอย่างไร จากคุณ : ปทุมฉัตรสหัสรังษี ^^^^^ เข้าไปดูสิ 'ทุม เอ๊ย...อย่ามาบอก ใครรู้ดี ไม่รู้ดี หรือ ' ทุม จะรู้ดีกว่า พระเถระวัดปากน้ำ ไปดูซิพระเถระ วัดปากน้ำ ท่านว่าไง >>> http://www.youtube.com/watch?v=qL8a8gQOWzI    พระเถระ วัดปากน้ำ ท่านยังเรียกหลวงพ่อ ว่า "ท่านเจ้าคุณ... อีกทั้งยังชมเชย ว่าหลวงพ่อฯ ดำเนินรอย ตามหลวงพ่อวัดปากน้ำ อีกด้วย.." ... บอกตรงๆ ไม่เชื่อนายแล้วหว่ะ...ยิ่งเห็นไปเออ ออ กับพวกที่ คิดล้าง วิชชาธรรมกาย ยิ่งไม่เชื่อ... ถอดหน้ากาก ออกเหอะ 'ทุม... ". แก้ไขเมื่อ 23 มี.ค. 55 18:44:32 จากคุณ : หลวงปู่ทองคำ จะประดิษฐานที่นี่ (pa-o-toi-uan) เขียนเมื่อ : 23 มี.ค. 55 18:43:52

ความคิดเห็นที่ 64  สนองคุณต่อหลวงพ่อสดอย่างไรบ้าง  สนองคุณต่อพระพุทธเจ้าอย่างไรบ้าง ? จากคุณ : ตรัยพล ^^^ หนังคนละม้วน เหรอ 'ตรัย   เพราะภาคดำ ภาคขาว ภาคปราบ ภาคโปรดอะไรเหล่านี้  ไมมีปรากฏในพระไตรปิฎก เพราะไม่ใช่วิชาของพระพุทธเจ้าสมณโคดม จึงไม่มีปรากฏมาตั้งแต่ครั้งปฐมสังคยานา  ใครที่มากล่าวตู่ พยายามยัดเยียดวิชาธรรมกายให้เป็นวิชาของพระพุทธเจ้าสมณโคดมนั้น  มันบาปหนาสาหัสสากรรจ์มากกว่ามากครับ จากคุณ : ตรัยพล ^^^^ ที่'ตรัย ปรามาส มานี้ ทั้งหมด คือ วิสุทธิวาจา ที่หลวงพ่อวัดปากน้ำ ท่านกล่าวไว้ทั้งนั้น ถ้าจริงใจ ก็กราบขอขมาท่าน เหอะ' ตรัย เอ๋ย...     จากคุณ : กินไข่ กินน้ำแกง ครบเลยน่ะ (pa-o-toi-uan) เขียนเมื่อ : 23 มี.ค. 55 18:55:28

ความคิดเห็นที่ 65   มีอยู่กระทู้หนึ่ง ที่ตรัยพล กล่าวว่า....) คนที่พยายามยัดเยียดว่า  วิชาธรรมกายเป็นวิชาของพระพุทธเจ้าสมณโคดมนั้นนั่นแหละที่จะบาปกรรมมากกว่าหลายเท่านัก เพราะ ภาคดำ ภาคขาว ภาคปราบ ภาคโปรดอะไรเหล่านี้  ไมมีปรากฏในพระไตรปิฎก เพราะไม่ใช่วิชาของพระพุทธเจ้าสมณโคดม จึงไม่มีปรากฏมาตั้งแต่ครั้งปฐมสังคยานา  ใครที่มากล่าวตู่ พยายามยัดเยียดวิชาธรรมกายให้เป็นวิชาของพระพุทธเจ้าสมณโคดมนั้น  มันบาปหนาสาหัสสากรรจ์มากกว่ามากครับ จากคุณ : ตรัยพล กระทู้ไหนเหรอครับ คุณปลาหมอ ช่วยยกมาทบทวนความจำให้ผมหน่อยสิครับ สรุปว่า ต้องการเล่น แค่วัดพระธรรมกาย ใช่ไม๊ ผมตอบแทนคนอื่นได้เลยว่า  ไม่ได้ต้องการเล่นวัดพระธรรมกาย แต่ที่วิพากย์วิจารณ์กันอยู่เป็นการวิพากย์วิจารณ์อลัชชีเดียรถีย์ธัมมี่สารพัดพิษต่างหาก เพราะมันปาราชิกขาดจากการเป็นพระไปนานแล้ว ใครจะคิดล้าง วิชชาธรรมกาย ลบคำสอนหลวงพ่อวัดปากน้ำ ก็ช่าง ปทุมฯไม่สนใช่ไม๊... หนังสือ กรณีธรรมกาย แย้งหลวงพ่อวัดปากน้ำทุกประเด็น ปทุมฯไม่เห็นแสดงอาการอะไรเลย น่าแปลกใจจริงๆ... ไหนน่ะ เห็นอ้าง ความเห็นที่ 34 เดี๋ยวช่วยบอกทีซิ ว่าไม่ถูกใจตรงไหน ใช่ตรงที่บอก ให้พรรคพวกที่ คิดล้างวิชชาะรรมกาย ไปกราบขอขมาหลวงปู่ รึเปล่า??? คุณปลาหมอเข้าใจผิดแล้วครับ   ไม่มีใครต้องการล้มวิชาธรรมกายหรอกครับ  แม้กระทั่งหนังสือกรณีธรรมกายที่คุณปลาหมออ้างมานั้น  ก็ไม่ได้ต้องการล้มวิชาธรรมกาย   กรุณาทำความเข้าใจซะใหม่ หนังสือกรณีธรรมกายนั้น  ต้องการชี้แจง  แจกแจงว่า วิชาธรรมกายไม่มีในพระไตรปิฎก  และก็พยายามอธิบาย เรื่องราวต่าง ๆ เปรียบเทียบกับพระไตรปิฎว่า วิชาธรรมกาย ตรงนั้นตรงนี้ ไม่ตรงกับในพระไตรปิฎกอย่างไรท่านเจ้าคุณประยุตท่านมีเมตตาเทียบเคียงให้อ่านง่าย ๆ ลองอ่านดูสิ คุณปลาหมอลองยกกรณีข้อความบางส่วนในหนังสือดังกล่าวออกมาให้ดูสักหน่อยสิครับว่า  ตรงไหนที่หนังสือดังกล่าวต้องการล้มวิชาธรรมกาย และลองยกตัวอย่างพระไตรปิฎกตรงส่วนที่ว่า เป็นส่วนหนึ่งที่เป็นเนื้อหาวิชาธรรมกายมาให้ดูเทียบเคียงสักหน่อยสิครับ เพราะโดยสรุปแล้ว   ยังไง ๆ ก็ไม่มีวิชาธรรมกายในพระไตรปิฎก และวิชาธรรมกาย  ไม่ใช่วิชาของพระพุทธเจ้าสมณโคดม แต่ถ้าสานุศิษย์วิชาธรรมกายจะเทียบเคียงว่า วิชาธรรมกายบางส่วนตรงนั้นตรงนี้สอดรับกับพระสูตรส่วนไหนส่วนหนึ่งในพระไตรปิฎกก็จะพอเทียบเคียงกันได้  เพราะเนื้อหาโดยหลักใหญ่แล้วมันไม่ใช่ โดยเฉพาะอย่างยิ่งกรณีพระพุทธเจ้าขาว-ดำ-เทา ที่เป็นภาคปราบ  ภาคโปรด พระพุทธเจ้าปูนิ่มอะไรเทือกเนี้ย   ไม่มีปรากฏในพระไตรปิฎกแน่นอน สนองคุณต่อหลวงพ่อสดอย่างไรบ้าง  สนองคุณต่อพระพุทธเจ้าอย่างไรบ้าง ? จากคุณ : ตรัยพล ^^^ หนังคนละม้วน เหรอ 'ตรัย   เพราะ ภาคดำ ภาคขาว ภาคปราบ ภาคโปรดอะไรเหล่านี้  ไมมีปรากฏในพระไตรปิฎก เพราะไม่ใช่วิชาของพระพุทธเจ้าสมณโคดม จึงไม่มีปรากฏมาตั้งแต่ครั้งปฐมสังคยานา  ใครที่มากล่าวตู่ พยายามยัดเยียดวิชาธรรมกายให้เป็นวิชาของพระพุทธเจ้าสมณโคดมนั้น  มันบาปหนาสาหัสสากรรจ์มากกว่ามากครับ จากคุณ : ตรัยพล ^^^^ ที่'ตรัย ปรามาส มานี้ ทั้งหมด คือ วิสุทธิวาจา ที่หลวงพ่อวัดปากน้ำ ท่านกล่าวไว้ทั้งนั้น ถ้าจริงใจ ก็กราบขอขมาท่าน เหอะ' ตรัย เอ๋ย...   ข้อความส่วนแรกตรงนี้   ผมวิพากย์วิจารณ์ว่า ธัมมี่สองคุณต่อหลวงพ่อวัดปากน้ำอย่างไรบ้าง และสนองคุณต่อพระพุทธเจ้าอย่างไรบ้าง  ก็ถูกต้องแล้ว  เพราะพฤติกรรมของอลัชชเดียรถึย์ธัมมี่สารพัดพิษมันบิดเบือนวิชาธรรมกาย และบิดเบือนพระไตรปิฎกมากนานหลายปีแล้ว และมันก็เป็นคนละส่วนกับกรณีที่ว่า พยายามยัดเยียดวิชาธรรมกายให้เป็นส่วนหนึ่งในพระไตรปิฎก และเป็นวิชาของพระพุทธเจ้า  เพราะกรณีที่ยัดเยียดนี้ธัมมี่ก็พยายามยัดเยียดอยู่โดยตลอดอยู่แล้ว หรือคุณปลาหมอจะยืนยันว่ามันมีปรากฏอยู่ในพระไตรปิฎก อยู่ในพระไตรปิฎกตรงไหน ? เล่มที่เท่าไร ? พระนูตรไหน หน้าอะไร ลองยกมาให้ดูสิครับ และกรณีที่ว่า ยัดเยียดวิชาธรรมกายให้เป็นส่วนหนึ่งของพระไตรปิฎกน่ะ  คุณไปเอามาจากกระทู้ไหน ? และหากพิจารณาตามจริง  ผมก็ไม่รู้หรอกว่า หลวงพ่อสดเป็นคนพูดยัดเยียดว่าวิชาธรรมกายเป็นวิชาของพระพุทธเจ้าสมณโคดม   ผมเคยได้ยินแต่ว่า อลัชชีเดียรถีย์ธัมมี่สารพัดพิษเป็นคนพูด  ก็เพิ่งรู้จากคุณปลาหมอนี่แหละว่า  หลวงพ่อสดเป็นคนพูดเอง และใครจะพูดก็ตามแต่นั้น   ข้อความที่เป็นจริงนั้น  ยังไง ๆ ก็ไม่เคยมีวิชาธรรมกายในพระไตรปิฎก  และวิชาธรรมกายไม่ใช่วิชาของพระพุทธเจ้าสมณโคดม หากคุณปลาหมอไม่รู้ก็ขอให้รู้ไว้ซะด้วย มีคนเขาพิสูจน์กันมาเยอะแล้วล่ะครับว่า ไม่มีวิชาธรรมกายในพระไตรปิฎก search หาข้อมูลจากในระบบอินเตอร์เนตมีให้เลือกอ่านมากมายก่ายกอง   หัดเปิดตาเปิดใจอ่านซะมั่งสิครับ จากคุณ : ตรัยพล เขียนเมื่อ : 23 มี.ค. 55 21:47:46

ความคิดเห็นที่ 66 กระทู้ไหนเหรอครับ คุณปลาหมอ ช่วยยกมาทบทวนความจำให้ผมหน่อยสิครับ จากคุณ : ตรัยพล   ^^^^^ PANTIP_COM  Y11789935  ความคิดเห็นที่ 107 MsgStatus(Msv[107], 107); คนที่พยายามยัดเยียดว่า  วิชาธรรมกายเป็นวิชาของพระพุทธเจ้าสมณโคดมนั้นนั่นแหละที่จะบาปกรรมมากกว่าหลายเท่านัก คุณเวรเจอร์ที่คุยนักคุยหนาว่า ฝึกวิชาธรรมกาย จากวัดปากน้ำนี้ก็เผยออกมาแล้วว่ามี "ภาคดำ" เหมือนกับวิชาธรรมกายสายคุณการุณย์ สายคลองสาม เพราะภาคดำ ภาคขาว ภาคปราบ ภาคโปรดอะไรเหล่านี้  ไมมีปรากฏในพระไตรปิฎก เพราะไม่ใช่วิชาของพระพุทธเจ้าสมณโคดม จึงไม่มีปรากฏมาตั้งแต่ครั้งปฐมสังคยานา  ใครที่มากล่าวตู่ พยายามยัดเยียดวิชาธรรมกายให้เป็นวิชาของพระพุทธเจ้าสมณโคดมนั้น  มันบาปหนาสาหัสสากรรจ์มากกว่ามากครับ จากคุณ : ตรัยพล   ผมตอบแทนคนอื่นได้เลยว่า  ไม่ได้ต้องการเล่นวัดพระธรรมกาย จากคุณ : ตรัยพล ^^^^ ใครคือ อธิบดีสงฆ์ แห่ง วัดพระธรรมกาย???     ปาราชิกขาดจากการเป็นพระไปนานแล้ว จากคุณ : ตรัยพล ^^^^ พ.ศ.2549 ตามมติคณะสงฆ์ สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติได้ประกาศรับรองความบริสุทธิ์ของพระเทพญาณมหามุนี และสื่อลงประกาศ ขอขมาวัดพระธรรมกาย และพระเทพญาณฯ   พ.ศ.2552  กรรมาธิการศาสนาฯ ถวายรางวัลผู้ทำประโยชน์ต่อพระพุทธศาสนา ระดับ วัชรเกียรติ ร่วมกับพระเถระหลายๆท่าน สดๆร้อนๆ พ.ศ.2554 ***พระสงฆ์*** ( อ่านตรงนี้ อีกซัก 3 รอบด้วยก็ดี...) ที่ทรงพระกรุณาฯ โปรดเกล้านิมนต์เข้ารับพระราชทานสถาปนา เลื่อนและตั้งสมณศักดิ์ ณ.พระที่นั่งอมรินทรวินิจฉัย ในพระบรมมหาราชวัง หนึ่งท่านในนั้น คือ พระเทพญาณมหามุนี เจ้าอาวาส วัดพระธรรมกาย       จากคุณ : รักน่ะ.. (pa-o-toi-uan) เขียนเมื่อ : 23 มี.ค. 55 22:10:50

ความคิดเห็นที่ 67 ผมก็ไม่รู้หรอกว่า หลวงพ่อสดเป็นคนพูดยัดเยียดว่าวิชาธรรมกายเป็นวิชาของพระพุทธเจ้าสมณโคดม   จากคุณ : ตรัยพล ^^^^ เดี๋ยวหาว่า ไม่ใช่ของแท้ ไปฟังเสียง หลวงพ่อวัดปากน้ำ เมื่อฟังจบแล้ว จงรีบกราบขอขมาท่านซ่ะ >>>  http://www.youtube.com/watch?v=lWtIHWsV9JU     มีคนเขาพิสูจน์กันมาเยอะแล้วล่ะครับว่า ไม่มีวิชาธรรมกายในพระไตรปิฎก search หาข้อมูลจากในระบบอินเตอร์เนตมีให้เลือกอ่านมากมายก่ายกอง   หัดเปิดตาเปิดใจอ่านซะมั่งสิครับ จากคุณ : ตรัยพล ^^^^^ ใคร ?...นอกจากตรัย แล้วมีใครอีก ? ...งั้นช่วย เปิดใจให้กว้างขึ้น เพื่อรับชม พระนิพนธ์ของสมเด็จพระอริยวงศาคตญาณ (ปุ่น ปุณณสิริ) สมเด็จพระสังฆราชองค์ที่ ๑๗ วัดพระเชตุพนวิมลมังคลาราม อันคำว่า ธรรมกาย นั้น เป็นคำที่แปลกหูคนเอามากๆ เพราะเป็นชื่อที่ไม่มีใครสนใจ ผู้ไม่ทันคิดก็เหมาเอาว่าหลวงพ่อวัดปากน้ำอุตริบัญญัติขึ้นใช้เฉพาะวิธีการของท่าน คำว่า ธรรมกาย  เป็นที่เย้ยหยันของผู้ไม่ปรารถนาดีต่อใคร บางคนก็ว่าอวดอุตริมนุสธรรม พูดเหยียดหยามว่าใครอยากเป็นอสุรกายจงไปเรียน ธรรมกาย ที่วัดปากน้ำ ข่าวนี้ก็ทราบถึงหลวงพ่อวัดปากน้ำเหมือนกัน ท่านยิ้มรับถ้อยคำเช่นนั้น ไม่มีปฏิกิริยาใดๆ แสดงให้เห็น หลวงพ่อพูดว่า “น่าสงสาร พูดไปอย่างไร้ภูมิ ไม่มีที่มา เขาจะบัญญัติขึ้นได้อย่างไร เป็นถ้อยคำของคนเซอะ”ท่านว่าอย่างนั้น เมื่อมีเสียงวิพากษ์วิจารณ์คำว่า“ธรรมกาย” เช่นนั้น และพูดไปในแนวที่ทำลายท่าน นิสัยที่ไม่ยอมแพ้ใครอันมีมาแต่กำเนิด หลวงพ่อวัดปากน้ำใช้คำว่า ธรรมกาย เป็นสัญลักษณ์ของสำนักกัมมัฏฐานวัดปากน้ำทีเดียว เอาคำว่า ธรรมกาย ขึ้นเชิดชู ศิษยานุศิษย์รับเอาไปเผยแพร่ทั่วทิศ และอิทธิพลของคำว่า “ธรรมกาย” นั้นไปแสดงความอัศจรรย์ถึงทวีปยุโรป ถึงกับศาสตราจารย์วิลเลียมต้องเหาะมาศึกษาและอุปสมบท ณ วัดปากน้ำ เป็นชาวยุโรปคนแรกที่มาอุปสมบทเป็นพระภิกษุในประเทศไทย นายวิลเลียมนี้เป็นชาวอังกฤษ คำว่า ธรรมกาย เป็นคำที่ระคายหูของคนบางพวก จึงยกเอาคำนั้นมาเสียดสี เพื่อให้รัศมีวัดปากน้ำเสื่อมคุณภาพ หลวงพ่อวัดปากน้ำพูดว่า “เรื่องตื้นๆ ไม่น่าตกใจอะไร  ธรรมกาย เป็นของจริง ของจริงนี้จะส่งเสริมให้วัดปากน้ำเด่นขึ้น ไม่น้อยหน้าใคร พวกแกคอยดูไปเถิด ฯลฯ     แก้ไขเมื่อ 23 มี.ค. 55 22:25:17 จากคุณ : รักน่ะ (pa-o-toi-uan) เขียนเมื่อ : 23 มี.ค. 55 22:23:06

ความคิดเห็นที่ 68 หรือคุณปลาหมอจะยืนยันว่ามันมีปรากฏอยู่ในพระไตรปิฎก จากคุณ : ตรัยพล ช่วยสะกดช้าๆ  "หลวงพ่อวัดปากน้ำ ผู้ค้นพบวิชชาธรรมกาย" แปลว่า ต้องมี 1,000% ปล. ค้นพบ ไม่ใช่ คิดค้น คนละเรื่อง.... อยู่ในพระไตรปิฎกตรงไหน ? เล่มที่เท่าไร ? พระนูตรไหน หน้าอะไร ลองยกมาให้ดูสิครับ จากคุณ : ตรัยพล ^^^^^ ....ไม่รู้....ขี้เกียจหา...ไม่ชอบอ่าน.. อาศัยเชื่อหลวงพ่อวัดปากน้ำ เชื่อครูอาจารย์ แค่นั้น ...ก็เห็นๆอยู่ มีตรงไหนเราคิดเอง เออเองไม๊ล่ะ...ก็อ้างครูอาจารย์ทั้งนั้น ไม่เห็นเหรอ ?? อ้าว 'ตรัย กราบท่านซ่ะ>>>>   วาทะพระมงคลเทพมุนี (สด จนฺทสโร) หลวงพ่อวัดปากน้ำภาษีเจริญ "คนเช่นเราใช่จะไร้เสียซึ่งปัญญา ชั่วก็รู้ ดีก็เห็น เราจะฆ่าตัวเองเพราะความปรารถนาลามกทำไม ที่เขาพูดหาว่าเราอย่างนั้น บางคนคงจะไม่รู้จักคำว่า "ธรรมกาย" มีอยู่ที่ไหน หมายเอาใคร เขาอาศัยความไม่รู้มาว่า เราผู้ตั้งใจปฏิบัติชอบ เมื่อผู้ไม่รู้ติเตียนเรา ความไม่รู้ของเขาจะลบล้างสัจธรรมของพระพุทธศาสนาได้อย่างไร ถ้าจะลบก็ลบได้เพียงชั่วคราว ไม่ช้าดวงแก้วของพระพุทธศาสนาก็จะเปล่งรัศมีให้ผู้มีปัญญาเห็นด้วยสายตาของตนเอง การที่เขานำไปพูดเช่นนั้น เป็นผลแห่งการปฏิบัติที่เราได้กระทำกันอยู่ แสดงให้เห็นว่าคณะวัดปากน้ำไม่ได้กินแล้วนอน เป็นสำนักที่เคร่งครัดในการปฏิบัติธรรม การพูดของเขาเท่ากับเอาสำนักไปเผยแพร่ดีเสียกว่าการโฆษณาทางหนังสือพิมพ์ เพราะการที่เขานำไปพูดนั้น เป็นการกระทำของผู้พูดเอง เราไม่ได้จ้างไม่ได้วานใคร เมื่อพูดทางไม่ดี ก็ต้องมีคนพูดทางดีได้เหมือนกัน ธรรมะจะต้องชนะอธรรมเสมอ เราไม่เดือดร้อนใจ เพราะ "ธรรมกาย" ของพระพุทธศาสนาเป็นของแท้ ไม่ใช่ของเก๊หรือของเทียม ธรรมกายจะปรากฏเป็นของจริงแก่ผู้เข้าถึงธรรม เรื่องอย่างนี้เราไม่หวั่น เราเชื่อในคุณพระพุทธศาสนา"   จากคุณ : กราบ.. (pa-o-toi-uan) เขียนเมื่อ : 23 มี.ค. 55 22:41:33

ความคิดเห็นที่ 69 ' ธรรมะจะต้องชนะอธรรมเสมอ เราไม่เดือดร้อนใจ เพราะ "ธรรมกาย" ของพระพุทธศาสนาเป็นของแท้ ไม่ใช่ของเก๊หรือของเทียม ธรรมกายจะปรากฏเป็นของจริงแก่ผู้เข้าถึงธรรม เรื่องอย่างนี้เราไม่หวั่น เราเชื่อในคุณพระพุทธศาสนา ฯ ( หลวงพ่อวัดปากน้ำภาษีเจริญ ) จากคุณ : สาธุ.. (pa-o-toi-uan) เขียนเมื่อ : 23 มี.ค. 55 22:58:42

ความคิดเห็นที่ 70 คุณปลาหมอ  น่ะสับสนอะไรหรือเปล่า ? ความเห็น 68 บอกว่า ช่วยสะกดช้า ๆ  "หลวงพ่อวัดปากน้ำ ผู้ค้นพบวิชชาธรรมกาย" แปลว่า ต้องมี 1,000% ปล. ค้นพบ ไม่ใช่ คิดค้น คนละเรื่อง.... เพียงแค่นี้ก็จะให้สรุปว่า วิชาธรรมกายเป็นวิชาของพระพุทธเจ้าซะแล้วเหรอ ? เพียงแค่นี้ก็จะให้สรุปว่า วิชาธรรมกายมีอยู่ในพระไตรปิฎกน่ะเหรอ ? เอาตรรกะอะไรมาคิดแบบนี้ !!!!!!!!! ฟังคลิปเสียงแล้ว  ก็ไม่ได้ยินตรงไหนที่บอกว่า วิชาธรรมกายเป็นวิชาของพระพุทธเจ้า ได้ยินแต่เพียงว่า  "...ทางพระพุทธศาสนาแปลว่าคำสั่งสอนของพระพุทธเจ้า  พระพุทธเจ้าสอนให้สัตว์โลกทั้งหมดละชั่วด้วยกายวาจาใจ  ทำความดีด้วยกายวาจาใจ ทำใจให้ใส 3 ข้อนี้แหละเป็นคำสอนของพระพุทธเจ้าทุกพระองค์..." ไม่มีเสียงในคลิปตรงไหนที่บอกว่า  วิชาธรรมกายเป็นของพระพุธเจ้า ไม่มีตรงไหนที่บอกว่า วิชาธรรมกายมีอยู่ในพระไตรปิฎก คุณปลาหมออย่ามามั่ว ว่า หลวงพ่อสดพูดว่า วิชาธรรมกายเป็นวิชาของพระพุทธเจ้า แต่สำหรับธัมมี่แล้ว   มีการพร่ำสอนสาวกอยู่เสมอ ๆ ว่า วิชาธรรมกายเป็นวิชาของพระพุทธเจ้า   เป็นวิชาที่มีอยู่ในพระไตรปิฎก  และเหล่าสาวกที่เข้ามาเล่น Pantip ก็เคยยืนยันว่า มีวิชาธรรมกายในพระไตรปิฎก  แต่ให้ชี้ให้แสดง  ก็แสดงไม่ได้  แบบเดียวกับคุณปลาหมอนี่แหละ ดังนั้น   กรณีที่มีการพูดถึงธรรมกายในเวบบอร์ดนี้  จึงหมายถึงธรรมกายที่ธัมมี่เป็นคนพร่ำสอน  มิได้หมายถึงวิชาธรรมกายที่หลวงพ่อสดสอน แม้ธัมมี่ไปอยู่วัดอื่นที่ไม่ใช่วัดพระธรรมกาย  ก็จะถูกตามไปวิพากย์วิจารณ์อยู่ดี การที่วิพากย์วิจารณ์ในนี้   จึงเป็นการวิพากย์วิจารณ์ธัมมี่โดยตรง ดังนั้น   จึงสรุปได้ว่า   คุณปลาหมอเองน่ะแหละที่พยายามยัดเยียดถ้อยคำนั้นใส่ปากหลวงพ่อสดอีกทีหนึง  ไม่ใช่หลวงพ่อสดพูดเอง และถึงแม้คุณปลาหมอ จะยกพระนิพนธ์ของสมเด็จพระสังฆราชปุ่นมาอย่างไร   นั่นก็ไม่ใช่ข้อยุติว่า มีวิชาธรรมกายในพระไตรปิฎก  ไม่ได้มีอะไรเกี่ยวข้องกับพระไตรปิฎกตรงไหน ที่กรณีอย่างนี้ล่ะยกพระนิพนธ์จงสมเด็จพระสังฆราช-ปุ่นมาเป็นกำแพงข้างหลังเอาไว้เป็นที่พึ่งพิง แต่กับพระลิขิตสมเด็จพระสังฆราชรูปปัจจุบัน  คุณปลาหมอกลับดูหมิ่นดูแคลนปรามาสว่าเป็นพระลิขิตปลอม ผมเปิดใจอ่านและฟังแล้ว พิสูจน์แล้ว แต่คุณปลาหมอล่ะเปิดใจฟัง  เปิดใจตรวจสอบแล้วหรือยัง ? สำหรับกรณีที่ว่า ...... พ.ศ.2549 ตามมติคณะสงฆ์ สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติได้ประกาศรับรองความบริสุทธิ์ของพระเทพญาณมหามุนี และสื่อลงประกาศ ขอขมาวัดพระธรรมกาย และพระเทพญาณฯ   พ.ศ.2552  กรรมาธิการศาสนาฯ ถวายรางวัลผู้ทำประโยชน์ต่อพระพุทธศาสนา ระดับ วัชรเกียรติ ร่วมกับพระเถระหลายๆท่าน สดๆร้อนๆ พ.ศ.2554 ***พระสงฆ์*** ( อ่านตรงนี้ อีกซัก 3 รอบด้วยก็ดี...) ที่ทรงพระกรุณาฯ โปรดเกล้านิมนต์เข้ารับพระราชทานสถาปนา เลื่อนและตั้งสมณศักดิ์ ณ.พระที่นั่งอมรินทรวินิจฉัย ในพระบรมมหาราชวัง หนึ่งท่านในนั้น คือ พระเทพญาณมหามุนี เจ้าอาวาส วัดพระธรรมกาย เรื่องราวถ้อยคำที่ปลาหมอแสดงไว้นี้   เป็นเรื่องราวของกระบวนการแต่งตั้งสมณศักดิ์ที่เป็นเรื่องราวทางโลก แต่สำหรับทางด้านพระธรรมวินัยแล้ว  โดยเฉพาะพระวินัยข้อห้ามอันยิ่งยวด 4 ประการที่เรียกว่า ปาราชิกนั้น   หากใครล่วงละเมิด   เป็นอันขาดจากการเป็นพระทันทีที่ล่วงละเมิดโดยไม่ต้องกล่าวคำลาสิขาบท การปาราชิกทั้ง 4 ประการนี้   เป็นเรื่องที่เกี่ยวกับพระวินัยที่บัญญัติโดยพระพุทธองค์  ไม่ได้เกี่ยวข้องอะไรกับกระบวนการทางโลก   แม้ว่า กระบวนการทางโลกจะรับรองว่า ธัมมี่มียศถาบรรดาศักดิ์สูงส่งอย่างไร   แต่มันก็ปาราชิกขาดจากการเป็นพระตามพระวินัยบัญญัติไปแล้ว คุณปลาหมอทำใจให้ใส ๆ พิจารณาดูให้ดี ๆ ด้วยความปรารถนาดีจริง จากคุณ : ตรัยพล เขียนเมื่อ : 24 มี.ค. 55 03:37:43

ความคิดเห็นที่ 71 ไม่รู้นะ มีงานระดมพลเมื่อไหร่ หลวงพี่ ที่ตอนผมบวช ไปอย่างเร็วบอกมีซองให้มีรถตู้รับส่ง 55+ จากคุณ : FISHEYE Wide-Angle เขียนเมื่อ : 24 มี.ค. 55 08:50:58

ความคิดเห็นที่ 72 ใคร่ทำดีก็ทำไป ใคร่ทำชั่วก็ทำไป รู้เห็นอยู่แก่ใจ ใยต้องกลัวหรือร้อนรนอับอาย...... แสงสว่างกับความมืด มันมีแค่เส้นบางๆขั้นไว้เท่านั้น..... จากคุณ : นายส้วม (นายส้วม) เขียนเมื่อ : 24 มี.ค. 55 11:43:12