ความคิดเห็นที่ 2 ทำไมพวกคุณที่หลงบูชาท่านไชยบูลย์  จึงเชื่อว่าท่านไชยบูลย์มีความสามารถสูงกว่าเหล่าบรรดาพระพุทธเจ้าในอดีตทั้งหลายนับไม่ถ้วน ?  .. ก็ที่ท่านไชยบูลย์สามารถรู้หลักธรรมที่พระพุทธเจ้าทั้งหลายในอดีตก็ยังไม่อาจจะรู้ได้ คือ หลักธรรมที่ว่าจะสามารถเสกสรรค์บันดาลให้สัตว์ทั้งหมดทั้งวัฏฏะสงสารเข้านิพพานกันได้หมด  ไม่มีวัฏฏะสงสารอีกต่อไป ? เพราะถ้าหลักธรรมนี้มีจริง  พระพุทธเจ้าพระองค์ใดพระองค์หนึ่งในอดีตคงจะค้นพบเจอมาก่อนแล้ว และคงใช้เสกให้สัตว์ทั้งหลายเข้าไปสู่นิพพานกันหมดตั้งนานมาแล้ว  คงไม่มีวัฏฏะสงสารหมุนเวียนมาจนถึงยุคนี้  มานั่งเล่นเน็ตอยู่ตอนนี้ พวกคุณเหล่าสาวกวัดหัวนมจานบิน   มีหลักคิดยังไงจึงเชื่อว่าท่านไชยบูลย์ของพวกคุณมีความสามารถระดับสุดยอดเลอเลิศกว่าเหล่าปวงพระพุทธเจ้าในอดีตทั้งหลายนั้น ... ความเชื่อมั่นของพวกคุณมาจากอะไร   มีข้อพิสูจน์อะไรว่าท่านไชยบูลย์ของพวกคุณมีญาณวิเศษถึงระดับนั้นจริงๆ ?? จากคุณ : โขตาน เขียนเมื่อ : 19 มี.ค. 55 20:15:29

ความคิดเห็นที่ 3 แก้ไขเมื่อ 20 มี.ค. 55 17:41:52 จากคุณ : supersub เขียนเมื่อ : 19 มี.ค. 55 20:48:20

ความคิดเห็นที่ 4 ผมสนทนากับพระอาจารย์รูปหนึ่งซึ่งท่านทำกิจกรรมช่วยเหลือสังคมด้านคุณธรรม สนทนาถึงสำนักวัดพระธรรมกาย ว่า เราจะทำอย่างไรกันดีกับปัจจุบัน ซึ่งลัทธินี้ได้ออกกิจกรรมมามาก  อาจเป็นอันตรายต่อพระพุทธศาสนา มีอยู่ตอนหนึ่งพระอาจารย์บอกว่า ...."กำลังช่วยทำอยู่ แต่ไม่รู้ทำไง เพราะเขาซื้อพระผู้ใหญ่ไปหมดแล้ว".... (แต่ในส่วนตัวผม  ผมเห็นว่ากิจกรรมต่างๆของลัทธินี้ เป็นการเร่งปฏิกิริยาที่ทำให้สำนักนี้เสื่อมเร็วขึ้น ....เขาเรียกว่า สำนักนี้กำลังย่ามใจ รุกใหญ่  หารู้ไม่ว่ากำลังทำให้มิจฉาทิฏฐิแพร่หลายออกไป จะรู้ตัวหรือไม่ก็แล้วแต่ สังคมจะเดือดร้อนตามมา  ลองดูเถอะ ลัทธินี้อ้างการฟื้นฟูคุณธรรมมานานแล้วแต่ปรากฎว่าสังคมก็ยังไม่ดีขึ้น  แถมภัยพิบัติทางธรรมชาติก็ยิ่งมาก  ซึ่งหากทำถูกหลักแล้ว สังคมควรจะดีขึ้น ภัยพิบัติต่างๆควรจะลดลง) มีอีกรูปเป็นบทความของพระป่าได้แจมข้อมูลลัทธิธรรมกาย  ไว้ถ้ามีโอกาสผมจะนำข้อมูลมาลงให้นะครับ แต่ตอนนี้อยู่ในขั้นตอนการขออนุญาตเพื่อนำมาลงกระทู้ครับ ----------------------------------- มาดูกระทู้เก่าเกี่ยวกับคุณลุง.... พระวัดพระธรรมกายสอนอย่างนี้ รับไม่ได้จริงๆ ใครคือผู้ยิ่งใหญ่ใน 3 ภพ ลูกศิษย์ทุกคนตอบพร้อมเพรียงกันว่า หลวงพ่อพระธัมมชโยเป็นผู้ยิ่งใหญ่ในสามภพ http://topicstock.pantip.com/religious/topicstock/2011/05/Y10530971/Y10530971.html ------------------------------- ใครทำกรรมอะไรไว้ ย่อมได้รับผลกรรมนั้นอย่างแน่นอน สาวกลัทธิธรรมกายลงข้อมูลมาเรื่อยๆนะครับ  เพื่อนๆในห้องศาสนาจะได้วิพากษ์วิจารณ์ได้  ขอบคุณครับ แก้ไขเมื่อ 19 มี.ค. 55 21:08:02 แก้ไขเมื่อ 19 มี.ค. 55 21:07:27 แก้ไขเมื่อ 19 มี.ค. 55 21:06:40 แก้ไขเมื่อ 19 มี.ค. 55 21:05:25 จากคุณ : ต่อmcu เขียนเมื่อ : 19 มี.ค. 55 21:03:52

ความคิดเห็นที่ 5 ...."กำลังช่วยทำอยู่ แต่ไม่รู้ทำไง เพราะเขาซื้อพระผู้ใหญ่ไปหมดแล้ว".... ขอหลักฐานหน่อย บอกวัดมาด้วย จะส่งให้  มหาเถระสมาคมไป สอนท่านนั้น จากคุณ : venture เขียนเมื่อ : 19 มี.ค. 55 21:37:58

ความคิดเห็นที่ 6 การเผยแพร่ธรรมะผิดจากคำสอนพระพุทธเจ้า มีกรรมนะ จขก เมื่อมีกรรม ก็ต้องมีการชดใช้ จะใช้ชาตินี้ หรือ ชาติหน้า ก็หนีกรรมนั้นๆไม่พ้น ยิ่งพาคนไปหลงผิด ตามกันไปลงเหว รับกันไม่ไหวเลยทีเดียว ถ้าไม่ปฎิบัติจนเข้าใจจริงๆ มีแต่ศรัทธาแต่อยากจะเผยแพร่ จะเสียงรับกรรมนั้นๆในวันข้างหน้า  ก็แล้วแต่คุณ จากคุณ : น้องต๋าว เขียนเมื่อ : 19 มี.ค. 55 21:42:14

ความคิดเห็นที่ 7 สวัสดีค่ะ สยองจังเลย.. กลัวศาสนาพุทธเสื่อมไว.. เพราะคุณไชยบูลย์.. เมื่อในคลิปว่า ท่านสุขภาพไม่ค่อยดี หยุดบ่อนทำลายศาสนาบ้างก็ได้ ขออวยพร ให้ท่านไปที่ชอบๆ .. ดู(ปรโลก) เอ้ย ดูสีดบุรีนะ เร็วๆ นะ จะได้พักให้ยาวววววววววววว  ศาสนาพุทธจะได้ลดเหลือบบ้าง ไรบ้าง กลยุทธ์วัดขายไม่ได้แล้วหรอ หรือว่าถูกแฉตลอดๆ เลยเอาเจ้าอา(ละ)วาดมาชูโรงแทน แผน PR หรือเปล่า ?? เพลงเพราะดี.. ข้างนอกสุกใส ข้างในต๊ะติ๊งโหน่ง ?? ที่ดิน ปัจจัยไปจัดยอกยักไว้ไหนล่ะ Unseen ไชยบูลย์ด้วยป่าว รึนี่??  (ฺฺBefore.. unseen) v แก้ไขเมื่อ 19 มี.ค. 55 21:45:13 จากคุณ : เลื้อย เขียนเมื่อ : 19 มี.ค. 55 21:44:57

ความคิดเห็นที่ 8 พระนาม-รายนาม กรรมการมหาเถรสมาคม พ.ศ. 2555 รูปที่ พระนาม  ชื่อ  ฉายา  นามสกุล วัด ดำรงตำแหน่ง ตั้งแต่ พ.ศ. ถึง พ.ศ. 01. สมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก (เจริญ สุวฑฺฒโน ป.ธ.9) องค์ประธานกรรมการมหาเถรสมาคม ประสูติ 3 ตุลาคม พ.ศ.2456 วัดบวรนิเวศ ราชวรมหาวิหาร แขวงบวรนิเวศ เขตพระนคร กรุงเทพฯ 10200 โทร. (02) 281-2831-3   21 เมษายน 2532 02. สมเด็จพระพุฒาจารย์ (เกี่ยว อุปเสโณ ป.ธ.9) มหานิกาย (โดยตำแหน่ง) ชาตกาล 11 มกราคม พ.ศ.2471 วัดสระเกศ ราชวรมหาวิหาร แขวงบ้านบาตร เขตป้อมปราบศัตรูพ่าย กรุงเทพฯ 10100 โทร. (02) 223-2623 5 ธันวาคม 2533 03. สมเด็จพระมหารัชมังคลาจารย์ (ช่วง วรปุญฺโญ ป.ธ.9) มหานิกาย (โดยตำแหน่ง) ชาตกาล 26 สิงหาคม พ.ศ.2468 วัดปากน้ำ วรวิหาร แขวงปากคลองภาษีเจริญ เขตภาษีเจริญ กรุงเทพฯ 10160 โทร. (02) 476-0550 5 ธันวาคม 2538 04. สมเด็จพระมหาวีรวงศ์ (มานิต ถาวโร ป.ธ.9) ธรรมยุต (โดยตำแหน่ง) ชาตกาล 29 ธันวาคม พ.ศ.2460 วัดสัมพันธวงศาราม วรวิหาร แขวงสัมพันธวงศ์ เขตสัมพันธวงศ์ กรุงเทพฯ 10100 โทร. (02) 222-5840 5 ธันวาคม 2544 05. สมเด็จพระมหามุนีวงศ์ (อัมพร อมฺพโร ป.ธ.6) ธรรมยุต (โดยตำแหน่ง) ชาตกาล 26 มิถุนายน พ.ศ.2470 วัดราชบพิธสถิตมหาสีมาราม ราชวรวิหาร แขวงวัดราชบพิธ เขตพระนคร กรุงเทพฯ 10200 โทร. (02) 225-7835 5 ธันวาคม 2552 06. สมเด็จพระวันรัต (จุนท์ พฺรหฺมคุตฺโต ป.ธ.9) ธรรมยุต (โดยตำแหน่ง) ชาตกาล 17 กันยายน พ.ศ.2479 วัดบวรนิเวศ ราชวรมหาวิหาร แขวงบวรนิเวศ เขตพระนคร กรุงเทพฯ 10200 โทร. (02) 282-7012 5 ธันวาคม 2552 07. สมเด็จพระพุทธโฆษาจารย์ (วีระ ภทฺทจารี ป.ธ.9) มหานิกาย (โดยตำแหน่ง) ชาตกาล 26 มกราคม พ.ศ.2473 วัดสุทัศนเทพวราราม ราชวรมหาวิหาร แขวงวัดราชบพิธ เขตพระนคร กรุงเทพฯ 10200 โทร. (02) 226-4168 5 ธันวาคม 2553 08. สมเด็จพระธีรญาณมุนี (สมชาย วรชาโย ป.ธ.8) ธรรมยุต (โดยตำแหน่ง) ชาตกาล 22 ตุลาคม พ.ศ.2490 วัดเทพศิรินทราวาส ราชวรวิหาร แขวงวัดเทพศิรินทร์ เขตป้อมปราบศัตรูพ่าย กรุงเทพฯ 10100 โทร. (02) 5 ธันวาคม 2553 09. สมเด็จพระพุทธชินวงศ์ (สมศักดิ์ อุปสโม ป.ธ.9) มหานิกาย (โดยตำแหน่ง) ชาตกาล 2 กุมภาพันธ์ พ.ศ.2484 วัดพิชยญาติการาม วรวิหาร แขวงสมเด็จเจ้าพระยา เขตคลองสาน กรุงเทพมหานคร 10600 โทรศัพท์ (02) 261-4531 5 ธันวาคม 2554 10. พระพรหมวชิรญาณ (ประสิทธิ์ เขมงฺกโร ป.ธ.3) มหานิกาย (โดยแต่งตั้ง) ชาตกาล 24 พฤษภาคม พ.ศ.2480 วัดยานนาวา วรวิหาร แขวงยานนาวา เขตสาทร กรุงเทพฯ  10120 โทร. (02) 225-33564 10 มกราคม 2550 (หมดวาระ 10 ม.ค. 2556) 11. พระพรหมเมธาจารย์ (คณิสร์ เขมวํโส ป.ธ.9) ธรรมยุต (โดยแต่งตั้ง) ชาตกาล 22 ตุลาคม พ.ศ.2471 วัดบุรณศิริมาตยาราม วรวิหาร แขวงศาลเจ้าพ่อเสือ เขตพระนคร กรุงเทพฯ 10200 โทร (02) 224-2204 25 กันยายน 2549 (หมดวาระ 25 ก.ย. 2555) 12. พระพรหมสุธี (เสนาะ ปญฺญาวชิโร ป.ธ.6) มหานิกาย (โดยแต่งตั้ง) ชาตกาล 7 กุมภาพันธ์ พ.ศ.2500 วัดสระเกศ ราชวรมหาวิหาร แขวงบ้านบาตร เขตป้อมปราบศัตรูพ่าย กรุงเทพฯ 10100 โทร. (02) 233-6708 25 กันยายน 2549 (หมดวาระ 25 ก.ย. 2555) 13. พระพรหมมุนี (สุชิน อคฺคโน ประโยค 1-2) ธรรมยุต (โดยแต่งตั้ง) ชาตกาล 22 มกราคม พ.ศ.2493 วัดราชบพิธสถิตมหาสีมาราม ราชวรวิหาร แขวงวัดราชบพิธ เขตพระนคร กรุงเทพฯ 10200 โทร. (02) 222-3922 10 มกราคม 2551 (หมดวาระ 10 ม.ค. 2556) 14. พระพรหมเมธี (จำนงค์ ธมฺมจารี น.ธ.เอก) ธรรมยุต (โดยแต่งตั้ง) ชาตกาล 22 กุมภาพันธ์ พ.ศ.2484 วัดสัมพันธวงศาราม วรวิหาร แขวงสัมพันธวงศ์ เขตสัมพันธวงศ์ กรุงเทพฯ 10100 โทร. (02) 225-4567-8 25 กันยายน 2549 (หมดวาระ 25 ก.ย. 2555) 15. พระพรหมเวที (สนิท ชวนปญฺโญ ป.ธ.9) มหานิกาย (โดยแต่งตั้ง) ชาตกาล 17 พฤศจิกายน พ.ศ.2485 วัดไตรมิตรวิทยาราม วรวิหาร แขวงตลาดน้อย เขตสัมพันธวงศ์ กรุงเทพฯ 10100 โทร. (02) 221-9133 10 มกราคม 2550 (หมดวาระ 10 ม.ค. 2556) 16. พระวิสุทธิวงศาจารย์ (วิเชียร อโนมคุโณ ป.ธ.9) มหานิกาย (โดยแต่งตั้ง) ชาตกาล 7 พฤศจิกายน พ.ศ.2480 วัดปากน้ำ วรวิหาร แขวงปากคลองภาษีเจริญ เขตภาษีเจริญ กรุงเทพมหานคร 10160 โทรศัพท์ (02) 467-2131 20 กุมภาพันธ์ 2550 (หมดวาระ 20 ก.พ. 2556) 17. พระพรหมดิลก (เอื้อน หาสธมฺโม ป.ธ.9) มหานิกาย (โดยแต่งตั้ง) วัดสามพระยา วรวิหาร แขวงวัดสามพระยา เขตพระนคร กรุงเทพมหานคร 10200 โทรศัพท์ (02) 282-2908 14 ธันวาคม 2553 (หมดวาระ 14 ธ.ค. 2555) 18. พระธรรมธัชมุนี (อมร ญาโณทโย ป.ธ.7) ธรรมยุต (โดยแต่งตั้ง) วัดปทุมวนาราม ราชวรวิหาร แขวงปทุมวัน เขตปทุมวัน กรุงเทพมหานคร โทรศัพท์ (02) 252-3581   20 มกราคม 2554 (หมดวาระ 20 ม.ค.2556) ท่านไหนบ้าง ต่อ ช่วยระบุด้วย ลูกศิษย์ท่านจะได้ไปหา ไปคุยด้วย จากคุณ : venture เขียนเมื่อ : 19 มี.ค. 55 21:53:28

ความคิดเห็นที่ 9 เห็น comment อันนึงในคลิป ติดใจมานานแล้ว เขาบอกว่า สำนึกในพระมหากรุณาธิคุณของหลวง­พ่อค่ะ สาธุ..........ทำให้ลูกได้รู้ว่­า เกิดทำไม? และได้สร้างบารมีมาตลอดต่อเนื่อ­งค่ะ^^ พระมหากรุณาธิคุณ? คำราชาศัพท์นี้ ไม่ได้ใช้กับพระราชาคณะชั้นเทพนะครับ คำนี้ ควรใช้กับใคร เรียนภาษาไทยมาแล้วก็น่าจะรู้อยู่แก่จิต #2 ครับ คนที่ไม่รู้จักวิชชาธรรมกายจริง ๆ แต่เลื่อมใสในวิชชาธรรมกาย ถ้าจะเลื่อมใสตัวไชยบูลย์ ก็ไม่แปลกอะไรนักหรอก เพราะไชยบูลย์เอาอะไรไม่รู้มาสอน แต่บอกว่าเป็นวิชชาธรรมกายภาคปราบของแท้ ที่เหลือเก๊หมด คนรู้จักวิชชาธรรมกายจริง ๆ เขารู้ เขาดูออก แต่คนที่ไม่รู้จักสิครับ เขาถึงเชื่อ ยอมให้ไชยบูลย์จูงจมูกไป ไชยบูลย์ มักทำเลศบอกว่า ตัวเองเทียบเท่าหรือใหญ่กว่าหลวงพ่อวัดปากน้ำ ถ้าคนที่รู้จักวิชชาธรรมกายดี จะเริ่มเอะใจตรงนี้แล้ว แต่คนที่ไม่รู้จักวิชชาธรรมกาย เจอการทำเลศตรงนี้ มีศัพท์แสงแปลก ๆ มาประกอบด้วย ดูสูงส่ง ก็เชื่อสนิืทใจครับ คิดว่าตัวโชคดี ได้รู้เรื่องที่ไม่เคยได้ยินได้ฟัง คือสาวกวัดพระธรรมกาย เขามีแนวคิดอย่างนี้นะคุณโขตาน เขาเชื่อ ก็เพราะ "หลวงพ่อบอกว่า ..." ความเชื่อมั่น ก็มาจาก "หลวงพ่อบอกว่า ..." ข้อพิสูจน์ ไม่ีจำเป็นต้องมี เพราะแค่ "หลวงพ่อบอกว่า ..." ก็ไม่ต้องพิสูจน์อะไรอีกแล้ว #3 ครับ ผมก็อยากเห็นวูดดี้ อุทิศรายการสัก 1-2 เทปเพื่อสัมภาษณ์ไชยบูลย์ผู้นี้เหมือนกัน แต่เอาจริง ๆ ไชยบูลย์น่าจะป๊อด ไม่ยอมมาให้สัมภาษณ์ อ้างว่าป่วยหนัก ไชยบูลย์ไม่ชอบให้ใครตั้งคำถามใส่ตัวเองครับ กลัวตอบไม่ได้ แล้วจะเสียภาพลักษณ์ "องค์ต้นธาตุต้นธรรม" ที่อุตส่าห์ make มาสิบ ๆ ปี เวลามีคนตั้งคำถาม ไชยบูลย์ก็จะปัดคำถามไปที่คนอื่น ปัดไปให้เผด็จตอบบ้าง ให้ ดร.สมชาย ตอบบ้าง ให้สนิทวงศ์ตอบบ้าง แต่ถึงปัดภาระไปแล้ว คำตอบที่ออกมาก็แถกแถจนสีข้างถลอกอยู่ดีนั่นแหละครับ หรือถ้าจะให้ไชยบูลย์ตอบเอง ก็ต้องส่งคำถามมาให้ไชยบูลย์ดูก่อน จะได้ให้ลูกศิษย์ไปแต่งคำตอบให้ดูดี กลัวเสีย form ต้นธาตุกำมะลอ เอาจริง ๆ แค่ถามไชยบูลย์เรื่องวิชชาธรรมกาย ไชยบูลย์ก็ไปไม่ถูกแล้ว ตอนมีปัญหาตอนนั้นก็คราวนึง ชี้แจงเองไม่ได้ ให้ ดร.สมชาย ชี้แจงแทน แต่ ดร.สมชายเจ้ากรรม ก็ดันตะแบงลากเอาพุทธมหายานมาด้วย ลากมั่วไปมั่วมา ให้เขาเยาะเย้ยเล่น เสียภูมิ ดร. หมด จบ ดร. ด้านพุทธศาสนาจากญี่ปุ่นมาซะเปล่า จากคุณ : ABP@BDZ เขียนเมื่อ : 19 มี.ค. 55 22:14:05

ความคิดเห็นที่ 10 ดิฉันเคยเห็นหนังสือ งานศพแม่ชีจัน ที่เป็นเล่มสีๆหนาๆ ไปเปิดดู แทบจะลมจับ สอนอะไร ไม่เคยพบเห็น เพราะไปอ่านหน้าที่อธิบายไว้ ว่าแดนนิพพานมีรูปทรงสันฐานอย่างไร  เขียนเป็นรูปตัดให้ดูเชียว   อยู่ไกลจากโลกแค่ไหน ไกลจากสวรรค์ช้นต่างๆ ขึ้นไป เป็นระยะทางแค่ไหน เลยรู้ว่าธรรมกาย เขาสอนเหล่าสาวก ว่านิพพานนั้น เป็นที่อยู่ ที่ห่างไกลโลก มว๊าก(คำนี้คงเหมาะหละนะ) สูงเลยชั้นสรรค์ขึ้นไปอีก   ใครมีหนังสือ เอามาแสกนอวดกันสักหน่อยซิ ถ้าไม่ใช่  ถ้าเข้าใจผิด  ก็ช่วยขี้แจงให้ละอียดหน่อย เพราะเห็นมากะตา ไม่ได้มีใครบอกมาอีกต่อหนึ่ง จากคุณ : น้องต๋าว เขียนเมื่อ : 19 มี.ค. 55 22:27:40

ความคิดเห็นที่ 11 โหลดและดูจนจบ  พระท่านนี้ทำหลายอย่างที่พระพุทธเจ้าไม่ให้ทำ และไม่ได้สอนครับ ไปหยิบหนังสือชุดพระโอษฐ์มาอ่านนะครับ  แล้วจะรู้ว่า  พระศาสดาของเราดีเพียงใด แล้วพระท่านนี้ทำเช่นไร  พูดมากไม่ได้ครับ  คนเค้าเชื่อกันเยอะ จากคุณ : amatanaja เขียนเมื่อ : 19 มี.ค. 55 22:43:47

ความคิดเห็นที่ 12 ต้องระวังนะ ใครไม่เชื่อเรื่อง นรก สวรรค์ ภพ ภูมิ การกลับชาติมาเกิด แบบนี้เรียกว่าเป็นความหลงคืออวิชชา สำหรับคนที่บอกว่า สวรรค์อยู่ในอก นรกอยู่ในใจ ผีไม่มีจริง แบบนี้  เป็นการปฏิเสธคำสอน ของพระพุทธเจ้าอีกด้วย ผู้ที่มีความสงสัยต่อไปนี้ จัดว่ามีความหลง ส่วนหลวงพ่อธัมมชโยนั้นสอนให้คนมีความศรัทธาต่อพระพุทธเจ้า พระธรรม และพระสงฆ์ ไม่จำกัดเชื้อชาติ และนิกาย นอกจากนี้ยังทำให้ศาสนาเผยแผ่ไปไกลทั่วโลกมากกว่า 280 ประเทศ สร้างความเป็นปึกแผ่น แก่พระพุทธศาสนา ฟื้นฟูวัฒนธรรมพุทธ และศีลธรรมอันดีงาม อย่างเป็นรูปธรรมให้กับประเทศ และนานาชาติ ผลงานของท่าน ก็เป็นที่ปรากฏยิ่งใหญ่อยู่ ใครๆก็ทราบ กล่าวแค่ความดีไม่ถึงหนึ่งในร้อยของท่านอย่างนี้ ก็ยังรู้สึกว่าท่านน่าเคารพ และควรให้ความยกย่องแล้ว และเอาที่ไหนมาพูด? ที่หาว่าท่านบอกว่าท่านยิ่งใหญ่กว่าพระพุทธเจ้า จำมาผิดแล้ว อย่าไปเชื่อโคมลอย !!!! พวกนั้นสร้างความแตกแยกแท้ๆ   ๑. สงสัยในพระพุทธเจ้า (ว่าพระพุทธเจ้ามีตัวตนจริงหรือ พระพุทธเจ้ามีพระพุทธคุณจริงหรือ) ๒. สงสัยในพระธรรม (ว่ามัคค ๔ ผล ๔ นิพพาน ๑ มีจริงหรือ พระธรรมนี้จะนำให้ออกจากทุกข์ได้จริงหรือ) ๓. สงสัยในพระอริยะสงฆ์ (ว่ามีจริงหรือ ผลแห่งทานที่ถวายแก่สงฆ์มีจริงหรือ) ๔. สงสัยในสิกขาบท คือ สีล สมาธิ ปัญญา ว่ามีจริงหรือ ผลานิสงส์แห่งการศึกษาปฏิบัติในสิกขา ๓ มีจริงหรือ ๕. สงสัยชาติที่แล้วมีจริงหรือ ๖. สงสัยว่าชาติหน้ามีจริงหรือ ๗. สงสัยว่าชาติที่แล้วและชาติหน้ามีจริงหรือ ๘. สงสัยในปฏิจจสมุปปาทธรรม คือธรรมที่เป็นเหตุเป็นผลอาศัยกันเกิดขึ้นต่อเนื่องกันไปโดยไม่ขาดสายเลยนั้นมีจริงหรือ สงสัยเหล่านี้เป็นอวิชชาความหลง  แค่เรื่องเหล่านี้ยังไม่เชื่อ อย่าบอกว่ามีคุณธรรมมากกว่าหลวงพ่อธัมมชโยเลย จากคุณ : wizard_c เขียนเมื่อ : 19 มี.ค. 55 22:58:27

ความคิดเห็นที่ 13 ทำบุญหวังผล ยังไงก็ไม่อาจลดความยึดมั่นถือมั่น การทำบุญเป็นการลงทุนสินะ จากคุณ : ลืมชื่อ เขียนเมื่อ : 19 มี.ค. 55 23:28:59

ความคิดเห็นที่ 14 น่าสะอิดสะเอียน จากคุณ : ซามูไรหมูตอน เขียนเมื่อ : 19 มี.ค. 55 23:42:58

ความคิดเห็นที่ 15 ผมเชื่อในพระพุทธเจ้าอย่างไม่สงสัย แต่ผมสงสัยว่า ไชยบูลย์ศรัทธาพระพุทธเจ้าจริงหรือ ผมเชื่อในพระธรรมอย่างไม่สงสัย แต่ผมสงสัยว่า ที่ไชยบูลย์สอนนั้นคือพระธรรมของพระพุทธเจ้าจริงหรือ ผมเชื่อในพระอริยสงฆ์อย่างไม่สงสัย แต่ผมสงสัยว่า สมควรหรือไม่ ที่จะปฏิบัติต่อไชยบูลย์ เช่นพระอริยสงฆ์ ผมเชื่อในการมีอยู่ของไตรสิกขาอย่างไม่สงสัย แต่ผมสงสัยว่า ไชยบูลย์จะสอนไตรสิกขา อันชัดเจนสมบูรณ์บริบูรณ์ ได้หรือไม่ ผมเชื่อว่าชาติที่แล้วมีจริงอย่างไม่สงสัย แต่ผมสงสัยว่า ที่ไชยบูลย์เล่าเรื่องเมื่อชาตินู้นนนนน... นั่งเทียนมารึเปล่า ผมเชื่อว่าชาติหน้ามีจริงอย่างไม่สงสัย แต่ผมสงสัยว่า ชาติหน้าของไชยบูลย์ จะไปอยู่ที่ไหน จะตามดีมั้ย ผมเชื่อว่าปฏิจจสมุปปาทธรรมมีจริงอย่างไม่สงสัย แต่ผมสงสัยว่า ที่ไชยบูลย์ไม่ยอมออกไปนอกวัด มันต้องมีเหตุไม่ชอบมาพากลใช่มั้ย ประโยคต่อไปนี้ ถ้าสาวกไชยบูลย์คนไหน เกิดอาการร้อนรนทนไม่ได้ วี๊ดว๊าย มาว่าหลวงพ่ออิชั้น ก็อย่าลืมแจ้งความให้ตำรวจมาจับผม ฐานหมิ่นพระบรมเดชานุภาพ (ของไชยบูลย์) ด้วยนะครับ ไชยบูลย์กาก แม้ครั้งที่สอง ไชยบูลย์กาก แม้ครั้งที่สาม ไชยบูลย์กาก แม้ครั้งที่สี่ ไชยบูลย์กาก ... แม้ครั้งที่ n ไชยบูลย์ก็ยังกาก (ผมอยากจะรู้่ ว่ามีลูกศิษย์ไชยบูลย์คนไหนที่บ้าจี้ไปแจ้งความจริง ๆ บ้าง เพราะใครที่แจ้งความ กากยิ่งกว่าไชยบูลย์หลายล้านเท่า เพราะไปเป็นเดือดเป็นร้อน แทนคนกากอย่างไชยบูลย์) จากคุณ : ABP@BDZ เขียนเมื่อ : 19 มี.ค. 55 23:55:00

ความคิดเห็นที่ 16 คิด ระแวงกันอยู่นั่นแหละ ผลประโยชน์ เงินทองมหาศาล ไม่ได้ใช้ แล้ว ท่าน(พระธัมชโย)จะเอาไปทำไม ?     พุทธพานิชย์ปลุกเสกเครื่องลางมีให้เห็นทั่ว เมื่อหาเงินได้เป็นก้อนเป็น กำก็หายตัวไปทั้งสิ้น ไม่อยู่ทำงานกันเปล่า ๆ หรอก    หวัง บุญ หวัง พระนิพพาน ทำเพื่อพระศาสนา ก็น่าอนุโมทนาสาธุ    เมื่อทำงานได้ตามที่ตั้งไว้สำเร็จแล้ว ตอนนั้นสังขารก็เสื่อมโทรมไปตาม สภาพ  เหมือนหลวงพ่อวัดปากน้ำ แต่ก่อน คนไม่เข้าใจคิดว่าท่านหวังเป็นเจ้า อาวาสก็ ต่อต้านกันหนัก เมื่อท่านสิ้นไปแล้วก็ฝากชื่อเสียงเอาไว้ เพราะตลอด ชีวิตทำงานมาตลอดไม่ได้รับผลประโยชน์อะไรเลย จากคุณ : KOB ON KALA เขียนเมื่อ : 19 มี.ค. 55 23:55:56

ความคิดเห็นที่ 17 เผยแพร่ไป ๒๘๐ ประเทศ ..เอาธรรมะของปลอม  บิดเบือนหลอกลวงไปเผยแพร่ให้คนหลงผิดตามกันไป   ...มีประโยชน์อะไร?  มีแต่โทษนะซี...ต่อให้เผยแพร่ไปทั่วทั้งกาแล๊กซี่ทางช้างเผือกก็ยิ่งน่าละอาย น่ารังเกียจมากๆขึ้น รู้สึกละอายต่อชาวโลกที่เรียนรู้ว่าหลักธรรมของจริงคืออะไร   แต่มีพระจากเมืองไทยมาทำอะไรน่าเกลียดมากๆแบบนี้   ชาวโลกส่วนหนึ่งถ้าเรียนจนรู้ของจริง  คงจะดูหมิ่นเมืองไทยที่มีพระจากเมืองไทยเอาหลักธรรมบิดเบือนผิดทางไปเผยแพร่แบบนี้ จากคุณ : โขตาน เขียนเมื่อ : 20 มี.ค. 55 01:03:28

ความคิดเห็นที่ 18 สงสัยนิดนึง ชัยบูรณ์ เป็นโรคผิวหนังร้ายแรงรึไงถึงต้องใส่เสื้อยืดคลุมทั้งแขนอย่างนั้น??? จากคุณ : มะเส็งไฟ เขียนเมื่อ : 20 มี.ค. 55 02:33:48

ความคิดเห็นที่ 19 ทุกคนล้วนมีเจตนาดีนะครับ แต่ความเข้าใจผิด คิดไปเอง ทำให้ไปต่อว่าผู้สร้างบารมี จะอ้างความไม่รู้ไม่รับผลแห่งกรรมก็คงไม่ได้ อย่างไปเข้าใจว่าจะเสกให้ทุกคนเข้านิพพานก็เข้าใจผิดอีก จากคุณ : max25003 เขียนเมื่อ : 20 มี.ค. 55 03:40:43

ความคิดเห็นที่ 20 ใส่เสื้อเพื่อไม่ให้ผิวโดนแดดเผา  เพื่อผิวจะได้ดูผุดผ่องละเอียดอมแดงเรื่อๆ  ดูเป็นผู้มีบุญบารมี  ...  การใส่ใจเรื่องผิวเป็นเรื่องสำคัญมากๆสำหรับหลวงพี่ไชยบูลย์  เป็นมานานแล้ว  ตั้งแต่เริ่มตั้งสำนักใหม่ๆ ... เช่น การใช้สบู่บำรุงผิวราคาแพงสุดยอด  การอาบน้ำนมบำรุงผิว  อะไรต่างๆ ...  ใครเป็นเกย์คิงตัวโตๆหาทางเข้าไปจัดการซะหน่อยซี  จะสมนาคุณรางวัลให้งามๆ   ฮ่าๆๆ... จากคุณ : โขตาน เขียนเมื่อ : 20 มี.ค. 55 04:31:04

ความคิดเห็นที่ 21 ท่านป่วยอยู่ครับ จากคลิปก็บอกว่าอยู่แล้ว การใช้สบู่ๆราคาแพงๆ พูดถึงขนาดนี้คงมีหลักฐานเชื่อถือได้สินะครับ ถ้าไม่มีคงไม่ต่างอะไรกับจิญจมานวิกา ผู้ชั่วช้าอุบาทว์ชาติชั่ว แต่พูดถึงขนาดนี้คงจะมี ผมจะรอด้วยใจจดจ่อนะครับ จากคุณ : max25003 เขียนเมื่อ : 20 มี.ค. 55 04:43:19

ความคิดเห็นที่ 22 ผมดูช่อง DMC แล้ว  ทำใจเป็นกลาง ๆ แล้ว บิดเบือนคำสอนพระพุทธเจ้าครับ   ลองไปหาหนังสือชุดพระโอษฐ์มาอ่านนะครับ จะได้รู้ว่าคำสอนแท้ ๆ  ของพระพุทธเจ้าเป็นอย่างไร  (แม้จะอ่านยากนิดนึง) จากคุณ : amatanaja เขียนเมื่อ : 20 มี.ค. 55 07:21:05

ความคิดเห็นที่ 23 สอนกันมีแต่กิเลส ทั้งนั้น จากคุณ : amatanaja เขียนเมื่อ : 20 มี.ค. 55 07:22:35

ความคิดเห็นที่ 24 หมดทางเยียวยาจริงๆ ใครที่โดน "ทำไมกลาย" เข้าสิง จงรักษาตนเองให้พ้นภัยกันเถอะครับ จากคุณ : nonsoul เขียนเมื่อ : 20 มี.ค. 55 08:29:56

ความคิดเห็นที่ 25 ท่านโขตาน(คห.20)ครับประโยคหลังนั้นออกจะแรงไปหน่อยครับ ลดๆความแรงลงบ้างครับ  ในบอร์ดมีคนหลายวัยเข้ามาอ่านนะครับระวังบ้าง จากคุณ : shamaan เขียนเมื่อ : 20 มี.ค. 55 08:30:19

ความคิดเห็นที่ 26 ป่วยเลยต้องใส่เสื้อยืด? แล้วทำไมในคลิปเดินโชว์นมเกือบทุกช๊อตได้ล่ะครับ ถ้าป่วยจริงตอนเดินทำงานตรวจตราบริเวณลัทธิ ก็ควรใส่เสื้อยืดรักษาสุขภาพไม่ใช่เหรอครับ หรือหายป่วยเฉพาะตอน unseen พอออกพิธีสังฆเภทแล้วค่อยตะแบงเหยียบหัวพุทธศาสนาโชว์เหนือ จีวรน่ะ ถ้าจะใส่หนาๆ ยังไงก็อุ่นครับ ไม่ต้องใส่เสื้อยืดหรอก เอาคลิปมาให้ดู ทีนี้คนเลยรู้หมดเลยว่าเจ้าเทวทัต 2 มันแอ๊บ จากคุณ : ใบไม้กำนั้น เขียนเมื่อ : 20 มี.ค. 55 08:40:09

ความคิดเห็นที่ 27 คคห 25 ครับ จากที่พิจารณาแล้ว นายไชยบูลย์ แรงกว่าอีกครับ บิดเบือนพุทธศาสนา สอนคนผิดๆ คุณโขตาน ว่าแค่นี้ไม่มากไปหรอกครับ เทียบกับนายไชยบูลย์แล้ว จิ๊บๆ... จากคุณ : 13th friday เขียนเมื่อ : 20 มี.ค. 55 09:49:05

ความคิดเห็นที่ 28 นายไชยบูลย์  สาระไม่มีปัญญาไม่ต้องใช้ขอให้มีความเชื่อว่าธรรมกายปราบมาร...และมีเงินก็ใช้ได้แล้วอย่างอื่นไม่ต้อง จากคุณ : คับแค้นเหลือคณา เขียนเมื่อ : 20 มี.ค. 55 10:05:24

ความคิดเห็นที่ 29 ถ้าเผยแพร่ไป ต่างประเทศมาก  มันก็น่ากลัวนะ เพราะสิ่งที่ไปโฆษณาน่ะมันไม่จริง แล้วต่างชาติเค้าจะรู้หรือว่าอันไหนจริงไม่จริง  ขนาดคนบ้านเรายังแยกไม่ออกเลย หลงหัวปักหัวปำซะขนาดนี้   ... จากคุณ : ดรีมเมอร์ เขียนเมื่อ : 20 มี.ค. 55 10:14:16

ความคิดเห็นที่ 30 น่าเศร้ากับพุทธศาสนาในปัจจุบันที่มุ่งหาแต่วัตถุปัจจัย ทำไมวัดต้องใหญ่ ทำไมต้องมีเจดีย์ใหญ่ๆราคาหลายๆล้านเพื่อบรรจุพระบรมสารีริกธาตุ ทำไมต้องมีรูปปั้นเทพเทวดาเยอะแยะ  ทำไมต้องมีตู้บริจาคแทบทุกก้าวที่เดิน ทำไมต้องเงิน จากคุณ : hamtaew เขียนเมื่อ : 20 มี.ค. 55 10:37:01

ความคิดเห็นที่ 31 "ท่านป่วยอยู่ครับ จากคลิปก็บอกว่าอยู่แล้ว ... จากคุณ : max25003" ------------------- พระพุทธเจ้าทรงอาพาธถึงใกล้จะปรินิพพาน ก็ไม่ได้ทรงห่มจีวรต่างไปจากเดิม พระอรหันต์หลาย ๆ รูป อาพาธ ท่านก็ยังห่มจีวรตามปกติ พ่อแม่ครูบาอาจารย์ท่านอาพาธ ท่านก็ห่มจีวรตามปกติของท่าน อาการป่วยของเจ้าคุณเทพมหาญาณมุนี  มันมีอะไรพิสดารหรือหนักถึงขนาดต้องมีเสื้อใส่แบบนั้น ช่วยอธิบายให้เห็นแจ้งหน่อยเถิดคุณ max25003 จากคุณ : chohokun เขียนเมื่อ : 20 มี.ค. 55 10:56:19

ความคิดเห็นที่ 32 ป่วยจริง ๆ อ่ะหรือ ? เห็นใส่เสื้อยืดแขนยาวเฉพาะตอนอยู่ในที่ร่ม/มีหลังคา แต่เวลาอยู่กลางแจ้ง  พวกเล่นใส่เพียงอังสะเดี่ยว ๆ  ยิ่งกว่าสายเดี่ยวอีกน่ะ Uieysi-seenต้น_1 (อูยส์ซีนต้น_1) จากคุณ : ตรัยพล เขียนเมื่อ : 20 มี.ค. 55 11:16:59

ความคิดเห็นที่ 33 Uieysi-seenต้น_2 (อูยส์ซีนต้น_2) จากคุณ : ตรัยพล เขียนเมื่อ : 20 มี.ค. 55 11:17:49

ความคิดเห็นที่ 34 Uieysi-seenต้น_3 (อูยส์ซีนต้น_3) จากคุณ : ตรัยพล เขียนเมื่อ : 20 มี.ค. 55 11:18:41

ความคิดเห็นที่ 35 Uieysi-seenต้น_4 (อูยส์ซีนต้น_4) จากคุณ : ตรัยพล เขียนเมื่อ : 20 มี.ค. 55 11:19:35

ความคิดเห็นที่ 36 Uieysi-seenต้น_5 (อูยส์ซีนต้น_5) พอเดินเข้าอาคารที่มีหลังคามุง  ก็ใส่เสื้อยืดแขนยาวคลุมมิดชิด  ราวกับพวกนะยะเขาใส่แฟชั่นประกวดประขันกันน่ะ จากคุณ : ตรัยพล เขียนเมื่อ : 20 มี.ค. 55 11:21:49

ความคิดเห็นที่ 37 Uieysi-seenต้น_6 (อูยส์ซีนต้น_6) ดูสิใส่อังสะ  ช่วยหยิบยกเอาพวกจอกแหนสาหร่ายขึ้นจากคูคลองด้วย ดู ๆ แกก็แข็งแรงดีนี่ แต่เหล่าสาวกก็พร่ำแช่งชักหักกระดูกว่า แกเจ็บไข้ได้ป่วย จากคุณ : ตรัยพล เขียนเมื่อ : 20 มี.ค. 55 11:24:21

ความคิดเห็นที่ 38 Uieysi-seenต้น_7 (อูยส์ซีนต้น_7) จากคุณ : ตรัยพล เขียนเมื่อ : 20 มี.ค. 55 11:25:29

ความคิดเห็นที่ 39 Uieysi-seenต้น_8 (อูยส์ซีนต้น_8) จากคุณ : ตรัยพล เขียนเมื่อ : 20 มี.ค. 55 11:26:21

ความคิดเห็นที่ 40 Uieysi-seenต้น_9 (อูยส์ซีนต้น_9) สังเกตดูตาสองชั้น   ว่า  เป็นสองชั้นธรรมชาติ  หรือว่า สองชั้นเกิดจากการทำศัยกรรม ? จากคุณ : ตรัยพล เขียนเมื่อ : 20 มี.ค. 55 11:28:40

ความคิดเห็นที่ 41 Uieysi-seenต้น_10 (อูยส์ซีนต้น_10) สังเกตดูตาสองชั้น   ว่า  เป็นสองชั้นธรรมชาติ  หรือว่า สองชั้นเกิดจากการทำศัยกรรม ? แก้ไขเมื่อ 20 มี.ค. 55 11:36:30 จากคุณ : ตรัยพล เขียนเมื่อ : 20 มี.ค. 55 11:30:16

ความคิดเห็นที่ 42 Uieysi-seenต้น_11 (อูยส์ซีนต้น_11) จากคุณ : ตรัยพล เขียนเมื่อ : 20 มี.ค. 55 11:31:52

ความคิดเห็นที่ 43 Uieysi-seenต้น_12 (อูยส์ซีนต้น_12) จากคุณ : ตรัยพล เขียนเมื่อ : 20 มี.ค. 55 11:33:02

ความคิดเห็นที่ 44 เจ๊ไชยบูลย์ แกสวยจริง [^_^]จริง จากคุณ : KiKuCha เขียนเมื่อ : 20 มี.ค. 55 11:44:26

ความคิดเห็นที่ 45 น่าสงสาร...(ไม่ได้สงสารที่ำทำงานหนักนะครับ เพราะโดยความจริงแล้วมีพระที่ปฏิบัติดีปฏิบัติชอบทำงานหนักเพื่อพระศาสนากว่านี้แยะ) แต่สงสารคนๆหนึ่งที่เกิดมาบนโลกแล้วทำให้พระพุทธศาสนาที่แท้จริงมัวหมอง  โดยเริ่มแรกแล้วผมคิดว่าเขาต้องการศึกษาพระพุทธศาสนาจริงๆ แต่ด้วยความโชคร้ายหรืออะไรก็แล้วแต่เขากลับเข้าใจว่าผิดว่าพระพุทธศาสนาเป็นเช่นไร (เท่าที่ดู ตัวเขาเองมีความเพียรสูง  หากเิดินถูกทางน่าจะเป็นกำัลังให้กับพระพุทธศาสนาที่แท้จริงได้อีกมาก แต่น่าเสียดายที่เดินผิดทาง)    เขาหลงทางมาไกลยากที่จะเดินกลับได้เพราะสังคมยกย่องเขาดุจว่าเป็นผู้มีบารมี  ...ผมดูวีดีทัศน์แล้ว สงสารคนผู้นี้มากครับ... ขอให้เขาโชคดี และสักวันเมื่อสำนึกได้เขาคงทราบว่าควรจะทำการแก้ไขอย่างไร   ขอให้โชคดีครับคุณลุง.... จากคุณ : ต่อmcu เขียนเมื่อ : 20 มี.ค. 55 11:47:46

ความคิดเห็นที่ 46 เวลาแกอยู่นอกอาคาร   นอกจากจะไม่ใส่เสื้อยืดแล้ว   แกยังถอดถุงเท้าออกอีกด้วย ป่วยจริงป่วยปลอม   ก็พิจารณาเอาครับ ผมว่า   ร่างกายแกแข็งแรงดีนะ  ไม่ได้ป่วยไข้อะไร แต่ไอ้ที่จะเป็นจะตายน่ะ  เป็นเพราะแกป่วยทางจิตมากกว่าน่ะครับ ผมสรุปเอาว่า  แกป่วยเป็นโรคจิต/มีภาวะบกพร่องทางจิตครับ จากคุณ : ตรัยพล เขียนเมื่อ : 20 มี.ค. 55 11:52:56

ความคิดเห็นที่ 47 อืมม์ น่าจะโหวตกระทู้นี้ขึ้นไปโชว์ความเง่าของคนป่วยโรคจิตกันดีไหม ? จากคุณ : ตรัยพล เขียนเมื่อ : 20 มี.ค. 55 11:54:10

ความคิดเห็นที่ 48 เรียนคุณตรัยพล  ผมแสดง คห ว่า  เขาอาจจะตัดต่อวีดีโอจากสมัยที่เขายังไม่ป่วยก็ได้ครับ (อันนี้ผมเดานะครับ ข้อเท็จจริงไม่ทราบครับ แต่ดูจากสภาพร่างกายที่ไม่ผอมมากนักในรูปที่ถอดถุงเท้าและใส่อังสะ   ซึ่งโดยปรกติคนที่เป็นเบาหวาน น้ำหนักจะลดลง เท่าที่ผมเคยได้ยินมาครับ)   ยังไง คห คุณตรัยพลก็เป็นการวิเคราะห์ที่น่าสนใจทางหนึ่ง แก้ไขเมื่อ 20 มี.ค. 55 12:29:42 จากคุณ : ต่อmcu เขียนเมื่อ : 20 มี.ค. 55 12:26:27

ความคิดเห็นที่ 49 จากคุณ : ตรัยพล เขียนเมื่อ : 20 มี.ค. 55 13:04:26

ความคิดเห็นที่ 50 เออ คุณ ต่อmcu รู้จักคิดแล้ว ได้อ่านธรรมบ่อยๆ โพลสธรรมบ่อยๆดีขึ้น ส่วนคุณ ตรัยพล ยังไม่รู้กาลไหน เป็นกาลไหน อ่านพรหมวิหาร ๔ แล้วปฏิบัติ ให้เป็น อัปปมัญญา ๔ อาการจะดีขึ้น คุณ จันทร์ประภา ไม่หน้าเอาลงเลย มีหลายคนหลุด(อิสสา) จากคุณ : ธรรมชาติไพศาล เขียนเมื่อ : 20 มี.ค. 55 13:11:38

ความคิดเห็นที่ 51 เรียนคุณธรรมชาติไพศาล    ผมไม่ได้กล่าวหาอะไรคุณตรัยพลครับ  ผมตั้งข้อสังเกต(และผมอาจจะผิดก็ได้) และไม่ได้เกี่ยวอะไรกับการสอนของสำนักนี้ เพราะสำนักนี้ไม่ใช่พระพุทธศาสนาครับ (ก่อนหน้าที่จะเป็นสมาชิกเว็บบอร์ดนี้ และลงข้อมูลธรรมะต่างๆ   ผมก็รู้อยู่แล้วว่าสำนักนี้ไม่ใช่พระพุทธศาสนา แต่ตอนนั้นผมมีข้อกังหาบางเรื่องยังสรุปไม่ได้ แต่พอทราบด้วยตัวเองอย่างแน่นอนแล้ว   จึงรู้ว่าสำนักนี้เป็นอย่างที่ท่านอื่นๆบอกมาจริงๆ คือ เป็นเพียงลัทธิ ไม่ใช่พระพุทธศาสนา) แก้ไขเมื่อ 20 มี.ค. 55 14:11:05 จากคุณ : ต่อmcu เขียนเมื่อ : 20 มี.ค. 55 14:10:02

ความคิดเห็นที่ 52 อุ๊ย! โล้นห่มเหลืองคนนั้น เขากล้าเหยียบดินด้วย ไม่กลัวธรณีสูบเอาหรือไง จากคุณ : promp888 เขียนเมื่อ : 20 มี.ค. 55 14:35:51

ความคิดเห็นที่ 53 นี่มันปี พ.ศ. 2555 แล้วน่ะครับ ธัมมชโยเริ่มป่วยปีไหนล่ะ ? เห็นตอนเป็นข่าวคดียักยอกทรัพย์เมื่อปี 2542 นั้นก็ว่าป่วยแล้วนี่ แล้วภาพที่ปรากฏในคลิปต้นกระทู้มันจะเก่าเก็บมากกว่า 12-13 ปีที่แล้วหรือครับ ??? ผมไม่คิดว่าจะเก่าเกินกว่าปี 2542 ไปได้ เพราะดูภาพสิ่งก่อสร้างที่ปรากฏหลังฉากในคลิปนั้นมันบ่งบอกสิ่งก่อสร้างที่เกิดขึ้นไม่นานมานี้เอง !!!!!! ดูภาพที่สาวกธัมมี่กำลังลากสังขารที่เจ็บป่วยของธัมมี่ไปมอบตัวในคดียักยอกทรัพย์เมื่อปี 2542 จากคุณ : ตรัยพล เขียนเมื่อ : 20 มี.ค. 55 15:24:27

ความคิดเห็นที่ 54 ใกล้จะเจ็ดสิบแล้วธรรมดาของมนุษย์ จากคุณ : ธรรมชาติไพศาล เขียนเมื่อ : 20 มี.ค. 55 16:16:44

ความคิดเห็นที่ 55 ผมไม่เห็นข้อเท็จจริงอะไรเลยครับ มีแต่ความเชื่อไปกล่าวหา อย่าง #20 เป็นต้น จากคุณ : max25003 เขียนเมื่อ : 20 มี.ค. 55 16:21:59

ความคิดเห็นที่ 56 มีเงินอย่างเดียว ไปร่วมบุญด้วยไม่ได้นะ ต้อง........(มากๆๆๆ) ด้วย ครอบครัวบ้านแฟนเป็นกันเกือบทั้งบ้าน ทังพี่ ป้า น้า อา แม่ ตา ยาย พี่เขย ลูก หลาน โดนวิบากกรรมกันหมด พี่เขยบอกต้องบริจาคทีเยอะๆๆๆ (50K-100K) แล้วเขาก็เอาของชำร่วยกับกระดาษพิมพ์ชื่อมาอวด ใส่กรอบ ติดฝาบ้าน ภูมิใจนักหนา เราเห็นก็เฉยๆ ก็ได้แต่มองดูกรรมของเขาไป บริจาคปิคอัพสี่ประตูคันหนึ่ง พอตอนตายก็มีสมาชิกจากลัทธิเค้า มาสวดให้ 1 คืน ก็สบายตัวกันไป เวลาจะสร้างพระก็ต้อง 10K ขึ้นไป และจะมีของชำร่วยแจก ตามปริมาณเงิน เงินมากได้ดีหน่อย เงินน้อยได้ด้อยหน่อย บังเอิญเราไปหาของชำร่วยชิ้นนั้นมาได้ในราคาไม่เกิน 500 บาท เอาไปให้พี่เขยเขาดู กลับไม่พอใจเราอีก มีการบอกว่า ต้องทำบุญ 10K ขึ้นไปนะถึงจะได้ชิ้นนี้ และนี่ไปเอามาจากไหน ถ้ากรรมการลัทธิรู้เรื่อง เขาจะต่อว่าเอาได้นะ ผมก็งง ว่าไปนั่น ประมาณว่าต้องเสียเงิน 10K ก่อนถึงจะมีสิทธิได้ ห้ามได้มาแบบถูกๆ ก็นึกในใจว่านี่:-)ล้างกันซะเลี่ยมขนาดนี้เลยหรือเนี่ย เราเห็นก็เฉยๆ ก็ได้แต่มองดูกรรมของเขาไป บริจาคกันมาเกือบ 20 ปีแล้ว ไม่เห็นจะมีอะไรดีขึ้นเลย มีแต่สมบัติเก่าๆเริ่มร่อยหรอลงไปเรื่อยๆจวนเจียนจะหมดแหล่ไม่หมดแหล่แล้ว ที่ดินของ ตา-ยาย ที่จับจองไว้สมัยหนุ่มๆสาวๆ ก็ขายกันเกลี้ยงเอาเงินไปถวายลัทธิหมด แต่กับพี่กับน้องในครอบครัวกันเอง ขี้ตืด ละโมภ โลภมาก เห็นแก่ตัวสุดๆ ก็ไม่รู้เหมือนกันว่าเขาสอนกันมาัยังไง ถึงได้เป็นถึงขนาดนี้ สุดท้ายจากเคยมีหลัก 10 ล้าน เหลือจริงๆน่าจะประมาณ 2-3 ล้านได้ ไอ้ที่เหลือก็เป็นอสังหาทั้งนั้น ยังถือว่าโชคดีอยู่ ลองถ้าเป็นเงินสดสิ เอาไปปรนเปรอมันหมดดากไปนานแล้ว และนี่ก็กำลังจะหมดในอนาคตอันใกล้ หากยังไม่สามารถคิดได้ก่อนที่เวลานั้น จะมาถึง เราเห็นก็เฉยๆ ก็ได้แต่มองดูเขารับกรรมของเขาไป น้า อา พี่เขย พี่ๆน้องๆ เรียนกันมาก็สูงๆทั้งนั้น จบพระนครเหนือกันทั้งนั้น ทำงานก็เก่ง ได้ทำงานที่ดีๆทั้งนั้น เงินเดือน 100K อัพ แต่ไม่เข้าใจว่าทำไมคิดไม่ได้ บางคนก็ทำธุรกิจส่วนตัว เกี่ยวกับอสังหา รายรับเพียบ แต่หมดไปกับลัทธิทั้งนั้น หามาได้เท่าไหร่ก็หมด ทรัพย์สินไม่มีการเพิ่มพูนจากเดิมเลย มีแต่จะร่อยหรอไปเรื่อย เนื่องจากต้องให้เขาเยอะขึ้นทุกวันๆ เพราะเดี๋ยวนี้แข่งขันกันมาก คนอื่นๆเริ่มให้กันมาก ไอ้เราที่เมื่อก่อนอยู่ต้นๆเลย ให้ที 10K , 20K จะให้น้อยหน้าเขาก็ไม่ได้ อายเขา ก็เลยต้องเกทับแข่งกับเขาด้วย เราเห็นก็เฉยๆ ก็ได้แต่มองดูเขารับกรรมของเขาไป เวลาจะไปที่ลัทธินี้กันที ก็ต้องมียูนิฟอร์ม ไปกันเป็นทีม กลัวชาวบ้านชาวช่องเขาไม่รู้ แห่กันไป จะมาใส่สีฉูดฉาด ไม่ได้นะ เดี๋ยวแสบตาเจ้าลัทธิเค้า เดี๊ยนโมโหจะเป็นเรื่อง พอกลับมาก็มาเล่าด้วยความภูมิใจ ได้เห็นหน้าเจ้าลัทธิ อย่างนู้น อย่างนั้น อย่างนี้ สาธุกันอยู่นั่นแหละ สาธุ:-)เข้าไป ยิ่งนั่งหน้าจอกันพร้อมหน้าเมื่อไหร่นะ สาธุเป็นร้อยๆครั้งน่ะ ยิ่งกว่าไปนั่งปรบมือเฮงานฉลอง 10 ปีแอมเวย์ ซะอีก โอ๊ยยยยยยย กูจะรากกกกกกกกกกกกกกกกกกกก เราก็เฉยๆ ก็ได้แต่มองดูเขารับกรรมของเขาไป ไอ้เราจะพูดก็ไม่ได้ จะเตือนก็ไม่ได้ จะบ่นก็ไม่ได้ เดี๋ยวเป็นเรื่อง เขาเป็นกันทั้งบ้าน 15 คน มีแค่ 4 คนที่ไม่เป็น พวกน้อย เดี๋ยวโดนรุม ก็ได้แต่มองดูกรรมของเขาไป เมื่อไหร่ที่เขาหมดเวรหมดกรรมกัน เมื่อนั้นเขาก็คงจะคิดได้ แต่คาดว่าคงอีกนานแหละ หรือไม่แน่อาจจะอินฟินิตี้เลยก็อาจจะป็นได้ เราก็ต้องเฉยๆอีกนั่นแหละ ก็ได้แต่มองดูเขารับกรรมของเขาไป ส่วนเราก็ไปทำบุญตามทางของเรา ไปกันกับแฟนสองคน ไม่ยุ่งเกี่ยวกับทางบ้านแฟนเลย จนพวกเขารู้นั่นแหละ เราก็ไปทำบุญกับพระป่า พระปฏิบัติ ซึ่งเป็นศิษย์หลวงตามหาบัว เป็น 1 ใน 8 ศิษย์ ที่จะได้ขึ้นเป็นผู้นำสายพระป่าต่อจากหลวงตา ซึ่งคนจะแห่กันมาทำบุญปฏิบัติธรรมที่นี่กันหมด หลังจากหลวงตาท่านละสังขารแล้ว เพราะว่าใกล้กรุงเทพด้วย ไม่เห็นจะต้องเสียตังค์สักบาท ชวนทางบ้านแฟนไป ก็ทำท่าจะไป แต่แบบไม่ค่อยจะกระตือรือล้นจะไปน่ะ ตอนเช้าไม่ไปรับ ก็ไม่ไป ไม่โทรตาม ก็ไม่ไป ทั้งๆที่เย็นวันก่อนนัดกันไว้ซะดิบดีแล้ว ก็เลยชวนแค่ไม่กี่ครั้งก็พอเลย ไม่เอาแล้ว อย่างว่าแหละนะ จะให้คนที่ต้องรับกรรมไปพบเจอทางสว่างมันก็มีนะ จะมีมารมาขวางไว้ ให้ต้องชดใช้กรรมเก่าไปก่อน ยังไปเจอทางสว่างในตอนนี้ไม่ได้ จะพาให้ไปพบเจอหนทางแห่งธรรมแบบจริงๆซะหน่อย ก็เหมือนมารในตัวเขามาขัดอยู่เรื่อยๆเนืองๆทำให้ไม่ได้ไปทุกครั้งไป เราก็ต้องเฉยๆอีกนั่นแหละ ก็ได้แต่มองดูเขารับกรรมของเขาไป แต่พอจะไปทางลัทธินั่น ทำกันเป็นนาฬิกาชีวิตเลยเถอะ วันที่นี้ วันที่นั้น มีกิจกรรมเสียตังค์อะไร ต้องเตรียมเงินไปเท่าไหร่ ต้องไปกันกี่โมง แต่เช้ามืด บางทีไปกัน 2-3 ทุ่ม กลับเช้าบ้าง เย็นบ้าง พ่อแม่คือพระอรหันต์ที่บ้าน ไม่ดูแล แก่แล้วด้วย แกเริ่มไปไม่ไหวแล้ว ก็เลยต้องอยู่บ้าน ข้าวปลาก็ไม่มีคนหาให้กิน ต้องอดๆอยากๆ อย่างนี้เท่ากับได้บุญหรือบาป เด็กอนุบาลตอบได้ครับ ไปถามได้เลย มัวแต่วุ่นอยู่ว่า วันนี้ต้องทำบุญเท่าไหร่ แล้วจะได้อะไรเป็นของชำร่วย ได้ขึ้นชื่อวิ่งหน้าจอ นั่งรอดูกัน พอชื่อตัวเองวิ่งมาหน้าจอก็ สาธุ สาธุ สาธุ คิกคักกันใหญ่ ดีใจกันจริงจริ๊ง โดนไป 30K นะครับ ถึงได้ขึ้นชื่อวิ่งหน้าจอ ไม่ได้ขึ้นชื่อหน้าจอกันฟรีๆนะครับ พอมีวาระหาเงินอะไรพิเศษๆก็จะมาและ เอามาเรี่ยไรในบ้าน คนอื่นๆใส่กันเป็นร้อยเป็นพัน ผมก็ใส่ให้ 20 บาท พอๆๆๆแค่นั้นพอ ผมไม่สนใจหรอก เพราะเจ้าลัทธิมันมีค่าแค่ 20 บาท แค่นั้นจริงๆ ใส่ให้ก็บุญโขแล้ว จะไม่ใสก็เดี๋ยวหน้ามุ่ยใส่เราอีก แล้วไม่ได้นานๆทีนะครับ มาบ่อยมาก เราก็ต้องเฉยๆอีกนั่นแหละ ก็ได้แต่มองดูเขารับกรรมของเขาไป ทุกวันนี้ ผมถึงได้สาธุและขอบคุณในโชคชะตาชีวิตผมจริงๆ คงเป็นเพราะบุญในชาติปางก่อนส่งผลให้ผมและแฟน ไม่ต้องไปวนเวียนอยู่ในวงจรอุบาท์วนั่นแบบเขาวงกตหาทางออกไม่เจอ เฉกเช่นคนอื่นๆในบ้านของแฟนผม ที่โดนกันอยู่เป็นเนืองนิจ เป็นแน่แท้ สาธุ....... แก้ไขเมื่อ 21 มี.ค. 55 10:56:59 จากคุณ : puypee เขียนเมื่อ : 20 มี.ค. 55 16:44:09

ความคิดเห็นที่ 57 คห ๓๕ ดูจากฉากหลังการก่อสร้างน่าจะ ๒๐ ปีแล้ว จากคุณ : ธรรมชาติไพศาล เขียนเมื่อ : 20 มี.ค. 55 17:30:05

ความคิดเห็นที่ 58 อยากออก  วู๊ดดี้ เกิดมาคุย จะได้  เปิดโอกาส  ให้พระอาจารย์ ตอบ ข้อสงสัย ของสังคม  ว่าท่าน ดี จริงๆ ก็ไม่ต้องกลัว ท่าน  ว.  ยังไม่กลัวเลย จากคุณ : supersub เขียนเมื่อ : 20 มี.ค. 55 17:40:59

ความคิดเห็นที่ 59 ก็ดีนะครับ ดูสัมภาษณ์สด  บ้าง จากคุณ : amatanaja เขียนเมื่อ : 20 มี.ค. 55 18:06:32

ความคิดเห็นที่ 60 ผมมาช่วยยืนยันนะครับ ภาพที่ไม่สวมเสื้อแขนยาว เป็นภาพสมัยยังไม่ป่วย และสมัยยังไม่มีข่าวครึกโครม เป็นช่วงสร้างเจดีย์ครับ จากภาพเป็นการเดินตรวจงานในพื้นที่สร้างเจดีย์ พอเริ่มมีข่าว เสี่ยแกก้เริ่มป่วย ป่วยแบบแทบตายล่ะครับ เคยได้ยิน พระอารักษ์ ญาณารักโข บอกว่า "มารมันเล่นหลวงพ่อเราเกือบตาย" จริงๆนะ ถ้าตายตอนนั้น วิชชาธรรมกายจะไม่ถูกยำจนเละแบบนี้ ส่วนภาพ คห 49 คุณโค้ก ตัดผมทรงนี้มาแต่ไหนแต่ไรแล้ว ทรงแบบนักเรียนรเดินสมุทร เขาเรียนที่นั่นมาก่อนไง  เคยมีพระมาเทสน์ ตอนผมบวชนะครับ ท่านบอกว่า อุปัฏฐากเสี่ยไชยบูลย์เขาเผยว่า เสี่ยแกร้อนนะครับ นั่งในสภาเหงื่อออกรักแร้ เหงื่อออกหัว ถ้าเราดูในวิดีโอจะพบว่ามีบางภาพ เอาผ้าซับศีรษะ เพระาเหงื่อออก คือ ร้อน  ยิ่งในวันมาฆบูชา เสี่ยแกก้ไปจัดพิธีในห้องแก้วสารพัดนึก ติดแอร์เย็นฉ่ำ ไหนว่า โดนลมไม่ได้ โดนแอร์ไม่ได้ไง ไหงไปอยู่ห้องแอร์หวา ... เวลาจัดโรงเรียนอนุบาลฝันในฝัน ตอนนี้ก็ไปจัดในอาคารจาตุมหาราชิกา ก็ติดแอร์เย็นฉ่ำชื่นใจเช่นกัน เอ้า!!! ไหนว่า โดนลมไม่ได้ โดนแอร์ไม่ได้ไง  ..... เสี่ยแกร้อน ไฟนรกสุมทรวง จะว่าไป ใครติดต่อรายการวู้ดดี้ให้หน่อยสิ สัมภาษณ์เสี่ยไชยบูลย์หน่อย ในฐานะที่ จัดงานใหญ่ให้แก่แผ่นดินขนาดนี้ ประชาชนอยากรู้จัก สัมภาษณ์เจาะคำถามแบบยิงไม่ยั้ง เหมือนสมัยเจาะคำถามการุณ โหสกุล เอาให้ลมจับ เหงื่อแตก ถอดเสื้อยืดไม่ทันเลย แล้วผมก็พยากรณ์ว่า.... 1. ไม่มีทางติดต่อไปถึงวงในใกล้ชิดได้ ด้วยเหตุผลว่า รบกวนเวลาบำเพ็ญสมณกิจ ปฏิบัติภาวนา 2. อาจให้ผู้อื่นมาออกรายการแทน แล้วแถอ้างพระเดชพระคุณว่ามีแก่ประเทศชาติและพระพุทธศาสนาเยี่ยงไร 3. เขาจะเลี่ยงให้ถึงที่สุด ไม่ออกรายการให้ได้ เพราะโดนชกข้ามรุ่น หงายหลังตอบไม่ได้ 4. ถ้าจวนตัว เขาจะพลิกวิกฤติให้เป็นโอกาส แล้วโอกาสนั้น มันจะฆ่าตัวเขาเอง  ถ้าได้สัมภาษณ์จริงๆ เสี่ยไชยบุลย์มาออกจริง ชาวสาวกก็จะศรัทธามหาศาล แล้วช่วยตีเกราะเคาะไม้เอาคตลิปมาเผยแผ่ แม้จะโดนชกจนหงายหลัง เขาก็มิงไม่ออกว่า "เสี่ยแกจนมุม" .....  คุณวู้ดดี้ช่วยพวกเราด้วย จากคุณ : ปทุมฉัตรสหัสรังษี เขียนเมื่อ : 20 มี.ค. 55 19:08:29

ความคิดเห็นที่ 61 #60 ผมก็คิืดเหมือนกับคุณนั่นแหละครับ อยากให้วู้ดดี้ออกโรงสัมภาษณ์ไชยบูลย์จริง ๆ ซะที แต่เกรงว่าไชยบูลย์จะป๊อด ไม่ยอมให้สัมภาษณ์ (ก็พ่อคุณเล่นปั้นพระธรรมกาย มีผ้ารัดอกแบบภิกษุณี กรรมก็เลยส่งผล ให้ไชยบูลย์กลายเป็นคนใจตุ๊ด ไม่กล้าให้ตรวจสอบซึ่ง ๆ หน้า แล้วก็แถกแถจนสีข้างถลอก ปากร้องหาชายแมน ๆ มาร่วมโครงการบวช แต่ชายแมน ๆ ก็คงไม่กล้ามาบวช เพราะสมภารดันเป็นตุ๊ดซะ ถึงว่า โครงการบวชกี่ครั้ง ๆ ยอดก็ไม่เคยถึง) ประโยคต่อไปนี้ ถ้าสาวกไชยบูลย์คนไหน เกิดอาการร้อนรนทนไม่ได้ วี๊ดว๊าย มาว่าหลวงพ่ออิชั้น ก็อย่าลืมแจ้งความให้ตำรวจมาจับผม ฐานหมิ่นพระบรมเดชานุภาพ (ของไชยบูลย์) ด้วยนะครับ ไชยบูลย์ป๊อด แม้ครั้งที่สอง ไชยบูลย์ป๊อด แม้ครั้งที่สาม ไชยบูลย์ป๊อด แม้ครั้งที่สี่ ไชยบูลย์ป๊อด ... แม้ครั้งที่ n ไชยบูลย์ก็ยังป๊อด ไชยบูลย์ตุ๊ด แม้ครั้งที่สอง ไชยบูลย์ตุ๊ด แม้ครั้งที่สาม ไชยบูลย์ตุ๊ด แม้ครั้งที่สี่ ไชยบูลย์ตุ๊ด ... แม้ครั้งที่ n ไชยบูลย์ก็ยังตุ๊ด จากคุณ : ABP@BDZ เขียนเมื่อ : 20 มี.ค. 55 19:35:37

ความคิดเห็นที่ 62 ความคิดเห็นที่ 61     ถึงว่า โครงการบวชกี่ครั้ง ๆ ยอดก็ไม่เคยถึง) จากคุณ : ABP@BDZ   เขียนเมื่อ : 20 มี.ค. 55 19:35:37   ------------------------------------------------------------------------------------------ เบ่งเป้า ... เบ่งยอด ... เบ่งโปรโมชั่น >>> ถ้าเป็นฟองสบู่ ก็แทบแตกแล้ว 1. ผลประกอบการผู้มาบวช ลดลง ใน 4 รุ่นที่ผ่านมา อย่างต่อเนื่อง ในอัตราแบบน่าตกใจ 2. รุ่นนี้ คือภาคฤดูร้อน 2555 จะเป็นรุ่นที่ ผู้มาบวช ต่ำกว่า 10,000 ไม่ได้มาเบี่ยงประเด็น ..... ขออภัย ..... แค่มาเสริม แบบ >>>>> ชิมลาง เรียกน้ำย่อย จากคุณ : buddy เขียนเมื่อ : 20 มี.ค. 55 19:54:45

ความคิดเห็นที่ 63 ยอดตกหมดทุก ๆ กิจกรรมนั่นแหละครับ ก่อนหน้านี้  จัดกิจกรรมเฉพาะใน กทม.  แต่เพราะคดียักยอกทรัพย์วัดพระธรรมกาย  นั่นแหละ  ทำให้ยอดการจัดกิจกรรมต่าง ๆ ตกลงอย่างฮวบฮาบ ธัมมี่จึงจัดกิจกรรมขยายฐานออกสู่ต่างจังหวัด แต่ปากธัมมี่ก็พร่ำบอกสาวกว่า ขยาย/เผยแพร่วิชาธัมมชโย  เอ๊ย วิชาธรรมกาย ดูตอนหลวงพี่ฉัตรหายตัวไปสิ แกยังพร่ำบอกสาวกว่า ส่งไปเผยแพร่วิชาธรรมกายในแดนอิสลาม จากคุณ : ตรัยพล เขียนเมื่อ : 20 มี.ค. 55 20:22:04

ความคิดเห็นที่ 64 ร่วมด้วยช่วยกันครับ ให้ข้อมูลกับผู้ที่สามารถรับข้อมูลได้ (ทั้งระบบอินเตอร์เน็ตจะมีข้อมูลให้สืบค้นได้แม้กระทู้จะตกไป) อนุโมทนาคุณตรัยพล คุณpuypee  คุณ buddy คุณปทุมฯ และคุณABP@BDZ แก้ไขเมื่อ 20 มี.ค. 55 21:34:56 จากคุณ : ต่อmcu เขียนเมื่อ : 20 มี.ค. 55 21:34:13

ความคิดเห็นที่ 65 สอนธรรมก็ำไม่สมบูรณ์ เลือกสนเฉพาะส่วนที่มีประโยชน์กับตัวเอง เช่น 1. สอนศัทธาแต่ดันไม่สอนสิ่งที่นำศัทธาคือปัญญา (ก็กลัวคนเขาจะฉลาดหมด จนไม่เหลือใครไว้ให้หลอกนี่นะ ก็น่าเห็นใจอยู่) 2. สอนความอ่อนน้อม (ห้ามหือ ห้ามสงสัย ห้ามตั้งคำถามในตัวท่านไชยบูลย์  เดียวท่านตอบไม่ได้ แล้วคนถามจะโดนมิใช่น้อย) 3. สอนว่าให้ตามหมู่คณะ แม้ว่ามันจะพาท่านไปลงนรกหุบเหวแห่งไหนก็ตามแต่  เพราะมันถูกต้องแล้ว ถ้าสงสัย กลับไปอ่านข้อ 2 4. สอนว่า เรามาร่วมกันสร้างบารมี ดังนั้น "ว่าอย่างไรก็ว่าตามกัน"  ห้ามไขว้เขวออกจากกลุ่ม ถ้าแตกแถวเมื่อไหร ให้กลับไปอ่านข้อ 3. 5. ถ้าเริ่มแสดงอาการฉลาดรู้ทันขึ้นมาเมื่อไหร่  จะตอนโดนยกนรกมาข่มขู่ อาฆาตมาดร้าย สาปแช่งให้ตกนรมหมกไหม้ แต่ถ้าทำตามข้อ 1-4 อย่างเคร่งครัดจะได้รางวัลเป็นบุญก้อนใหญ่ บุญนี้มีอานุภาพมาก ตอนมีชีวิตก็ส่งผลให้รวยอย่างรวดเร็ว แบบ รวยเร็ว รวยแรง รวยรวด ยังมิใช่แค่นั้น ตายไปยังไปใช้แลกกับสวรรค์วิมานชั้นดุสิตบุรีได้ด้วย ยังกะขายตรงไดเร็คเซลล์  อะไรมันจะดีปานนี้หนอ  ลัทธินี้ ^^! จากคุณ : flower fairy เขียนเมื่อ : 20 มี.ค. 55 23:11:36

ความคิดเห็นที่ 66 น่าใจหายจริงๆ 2. รุ่นนี้ คือภาคฤดูร้อน 2555 จะเป็นรุ่นที่ ผู้มาบวช ต่ำกว่า 10,000 จากคุณ : ปทุมฉัตรสหัสรังษี เขียนเมื่อ : 20 มี.ค. 55 23:29:36

ความคิดเห็นที่ 67 ความเห็นของผม คนของธรรมกายเขาถือเอาบทและพยัญชนะผิด อธิบายผิด ความหมายผิด  เขาไม่อิงธรรม ไม่อิงวินัยมาพูด แบบนี้จะอธิบายยังไง ก็ไม่เข้าใจ ใครที่ทำบุญแล้วหวังว่าจะได้เกิดเป็นเทวดา นางฟ้า ลองอ่านพระสูตรนี้ "ดูกรพราหมณ์ อีกประการหนึ่ง สมณะหรือพราหมณ์บางคนในโลกนี้  ปฏิญาณตนว่า เป็นพรหมจารีโดยชอบ ไม่ร่วมความเป็นคู่ๆ กับมาตุคาม ไม่กระซิกกระซี้ เล่นหัว สัพยอกกับมาตุคาม ไม่เพ่งดู จ้องดูจักษุมาตุคามด้วยจักษุของตนเอง ไม่ได้ฟังเสียงแห่งมาตุคามหัวเราะอยู่ก็ดี พูดอยู่ก็ดี ขับร้องอยู่ก็ดี ร้องไห้อยู่ก็ดี ข้างนอกฝาก็ดี ข้างนอกกำแพงก็ดี ไม่ได้ตามนึกถึงการหัวเราะ การพูด การเล่นหัวกับมาตุคามในกาลก่อน และไม่ได้เห็นคฤหบดีก็ดี บุตรแห่งคฤหบดีก็ดีผู้เอิบอิ่มพรั่งพร้อมด้วยกามคุม ๕ บำเรอตนอยู่ แต่ประพฤติพรหมจรรย์ ตั้งปรารถนาเพื่อเป็นเทพเจ้าหรือเทพองค์ใดองค์หนึ่งว่า เราจักได้เป็นเทพเจ้าหรือเทพองค์ใดองค์หนึ่ง ด้วยศีลพรต ตบะ หรือพรหมจรรย์นี้ พอใจ ชอบใจถึงความปลื้มใจ ด้วยความปรารถนานั้น แม้ข้อนี้ก็ชื่อว่าขาด ทะลุ ด่าง พร้อยแห่งพรหมจรรย์ ดูกรพราหมณ์ ผู้นี้เรากล่าวว่า ประพฤติพรหมจรรย์ไม่บริสุทธิ์ประกอบด้วยเมถุนสังโยค ไม่พ้นไปจากชาติ ชรา มรณะ โสกะ ปริเทวะทุกข์โทมนัส และอุปายาส เรากล่าวว่า ไม่หลุดพ้นไปจากกองทุกข์ได้ ฯ" ท่านที่ไม่เคยอ่านพระสูตรคงไม่ทราบว่า แม้แต่เทวดาก็อยากเกิดมาเป็นมนุษย์ดังพระสูตรนี้ "ภิกษุทั้งหลาย ความเป็นมนุษย์นี้แล นับว่าเป็นการไปสู่ สุคติของเทพทั้งหลาย"เมื่อเทวดาองค์ใดองค์หนึ่งจะ จุติ(ตาย)เพื่อนเทวดาชาวสวรรค์จะพากันอวยพรว่าให้ไปสู่ สุคติ คือไปเกิดเป็นมนุษย์ทั้งหลาย" ส่วนตัวผมเองก็ไม่ขอให้ไปสวรรค์ แค่ขอให้พ้นจาก อบาย ทุคติ วินิบาต นรก เอาแค่นี้ก็พอ แก้ไขเมื่อ 21 มี.ค. 55 00:20:04 จากคุณ : หลวงโยธา เขียนเมื่อ : 21 มี.ค. 55 00:18:38

ความคิดเห็นที่ 68 ... หัวใจดั่งเพชรเด็ดเดี่ยว ไม่เคยทิ้งเราให้โดดเดี่ยว  แบ่งปันความฝัน  เดิมพันชีวิตให้เราได้เดินก้าวไป เราอยู่ข้างหลังได้เก็บเกี่ยว อย่าปล่อยทิ้งพ่อให้โดดเดี่ยว สู้เพียงลำพังคนเดียวช่วยทำให้พ่อได้สุขใจ ... เมื่อ 42 ปีที่แล้ว.. ที่หลวงพ่อฯท่านได้อุทิศกายและใจ เข้ามาในบวรแห่งพระพุทธศาสนา ด้วยมโนปณิธานที่ยิ่งใหญ่ ท่านได้ใช้วันเวลาทุกอนุวินาที เป็นไปด้วยการสร้างบุญกุศล อย่างไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อย  หวังเพียงเพื่อจะธรรมะแห่งองค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้าไปสู่ใจของสาธุชน เพื่อให้ชาวโลกทุกคนได้เข้าถึงสภาวะธรรมภายใน เข้าถึงพระรัตนตรัยภายใน เข้าถึงพระธรรมกาย เฉกเช่นพระบรมศาสดาและพระอรหันต์ในกาลก่อน จนปัจจุบัน.. สิ่งที่หลวงพ่อฯได้ทุ่มเทกายและใจนั้น ปรากฏชัดแก่หมู่มวลสาธุชน ว่า 42 ปี ที่ผ่านพ้นมาไม่ได้สูญเปล่าเลย งานพระศาสนาได้ขยายไปทั่วประเทศ ทั่วโลก หากไม่มีหลวงพ่อฯ วัดพระธรรมกาย ในวันนี้ พระพุทธศาสนาในวันนี้ จะเป็นเช่นไร? . .. ... วัดร้างที่เพิ่มขึ้นๆๆๆ ทุกปีๆๆๆ ล่ะ จะทำอย่างไร จำนวนพระภิกษุที่น้อยลงๆๆๆ ทุกปีๆๆๆ นั้นจะแก้ไขยังไงกัน? กฐินตกค้างในบางวัด ที่มีเพิ่มขึ้นๆๆๆ ทุกปีๆๆๆ จะทำไง? เหตุการณ์ของพระพุทธศาสนาใน 4 จังหวัดชายแดนใต้นั้น ใครจะกล้าทำ? ข่าวคราวที่เลวร้ายที่เกิดขึ้นในเด็กและเยาวชนนั้น ใครจะมาดูแล? วิชาศีลธรรม ที่หายไปจากโรงเรียนนั้น ใครจะเอากลับเข้าไปในโรงเรียนอีกครั้ง? พระพุทธศาสนาซึ่งแต่เดิมที่เป็นศาสนาประจำชาติไทยตั้งแต่ก่อนสมัยสุโขทัย แล้วปัจจุบันคืออะไร? คนทำงานส่วนใหญ่ไม่ค่อยเข้าวัด จะเข้าก็เพียงวันสำคัญๆ จะมีวิธีอะไรที่จะให้คนเหล่านั้น หันมาสนใจวัด?  ข่าวฆาตกรรม ปล้น ชิงทรัพย์ที่เพิ่มขึ้นทุกวันๆๆ นั้น ใครจะหยุดได้? สถิติการใช้ยาเสพติด ยาบ้า เหล้า สุรา เบียร์ ในไทย ทำไมติดอันดับ 1 ใน 5 ของโลกแล้วล่ะ ไหนว่าเป็นเมืองพุทธ? น้ำท่วมที่เพิ่งผ่านพ้นไป.. กับใจของประชาชนที่เศร้าหมอง ใครจะมายกใจพวกเค้า?   ฯลฯ  บลา บลา บลา ... .. . เนื่องด้วยหลายๆ สาเหตุดังกล่าวข้างต้นนั้น  ทำให้เกิดโครงการต่างๆ ซึ่งมีดำริโดย พระเทพญาณมหามุนี วิ.  งานบวชอุปสมบทพระคราวละหมื่น คราวละแสนนั้น  เพื่อทำวัดร้างให้เป็นวัดรุ่ง สร้างศาสนทายาทสืบต่ออายุพระศาสนา งานบวชอุบาสิกาแก้ว เปิดโอกาสให้ผู้หญิงมาปฏิบัติธรรม เป็นกำลังให้พระพุทธศาสนา งานตักบาตรพระภิกษุสงฆ์ ทั่วสังฆมณฑล 77 จังหวัด  เพื่อช่วยพระสงฆ์ ครูและชาวพุทธใน 4 จังหวัดชายแดนภายใต้ งานสร้างผู้นำฟื้นฟูศีลธรรมโลก คือ การเอาวิชชาศีลธรรม+การปฏิบัติ กลับเข้าไปสู่โรงเรียนอีกครั้ง ให้เด็กและเยาวชนได้มาเข้าใจการทำทาน รักษาศีล เจริญภาวนา มากราบพระ กราบบิดามารดา กราบครูบาอาจารย์ สวดมนต์ นั่งสมาธิก่อนนอน ทั้งยังสอนให้เด็กเป็นแบบอย่างที่ดีให้พ่อแม่และผู้หลักผู้ใหญ่ ด้วยการเป็นประธานทอดกฐินในวัดที่มีกฐินตกค้าง ซึ่งในปัจจุบันมีกฐินตกค้างในประเทศไทยใกล้ 0 แล้วจ้าาาาาา งานเดินธุดงค์ธรรมชัย เพื่อให้ยกใจสาธุชนให้พ้นจากภัยน้ำท่วม ให้พระมาเป็นกำลังใจ มาเป็นเนื้อนาบุญ งานรณรงค์ต่อต้านอบายมุข 6 กิจกรรมเทเหล้า เผาบุหรี่ ปิดร้านคาราโอเกะ ปิดบ่อน  และสุดท้าย.. งานเผยแผ่พระพุทธศาสนาไปทั่วโลกผ่านการปฏิบัติ ให้ประเทศไทยมีพระพุทธศาสนาประจำชาติด้วยรูปธรรม ซึ่งภาพต่างๆ ก็ได้เผยแพร่ไปทั่วโลก ให้ชาวโลกได้รับรู้ ฯลฯ เพราะมีพระเดชพระคุณหลวงพ่อคุณครูไม่ใหญ่ ที่ท่านได้ทุ่มเทกำลังกาย ใจ ตลอดเวลาในในร่มกาสาวพักตร์ ภาพงานพระพระพุทธศาสนาจึงได้ขยายก้าวไกลไปทั่วโลก และปัญหาต่างๆ กำลังจะหมดไป ด้วยธรรมะแห่งองค์พระบรมศาสดาสัมมาสัมพุทธเจ้า  ... เห็นไหมครับว่า  งานพระพุทธศาสนาขยายขนาดนี้.. อย่าพูดถึงแค่เรื่องปัจจัยเลยครับ ว่าจะเยอะขนาดไหน ไหนจะบุคลากร ไหนจะสถานที่ ..ฉะนั้น.. การใช้งบประมาณ(ปัจจัย) บุคลากร สถานที่ นั้นเหมาะสมแล้ว  . . . ขอยกตัวอย่างสักงานนะครับ " งานตักบาตรพระ 22,600 รูป ณ เซนทรัลเวิร์ด ประตูน้ำ แยกราชประสงค์  ฉลอง 2,600 ปี พุทธชยันตีแห่งการตรัสรู้ธรรม " ถ้าไม่มีท่านๆนี้ ทั้งชาติ .. ก็ไม่มีวันเห็นภาพๆ นี้ได้ ภาพที่พุทธบริษัท 4 เป็นหนึ่งเดียวกัน ... " ..พุทธบริษัท 4 ต้องเป็นหนึ่งเดียวกัน เหมือนดวงตะวันที่มีดวงเดียว.. " เอาบุญตักบาตรในงานนี้มาฝากครับ .. ปลื้มมาก  จากคุณ : สาธุ (รักษาบรรยากาศ) เขียนเมื่อ : 21 มี.ค. 55 02:50:03

ความคิดเห็นที่ 69 -ใครทำให้คำว่า "ธรรมกาย" ถูกด่าไปทั้งบ้านทั้งเมือง ลงหนังสือพิมพ์ 2 ปีติดกันไม่เว้นสักวันเดียว มิใช่ พระเทพญาณมหามุนี  หรอกหรือ? - ใครครองผ้ากาสายะ ขึ้นศาล ราคีคาว อยู่ทุกทิวาราตรี มิใช่ พระเทพญาณมหามุนี  หรอกหรือ? - ใครทำให้พระพุทธศาสนาเสื่อมถอย แล้วอ้างว่าเจริญรุ่งเรือง ทำให้คำสอนของหลวงพ่อวัดปากน้ำผิดเพี้ยน มิใช่ พระเทพญาณมหามุนี  หรอกหรือ? - ใครทำเจดีย์รูปทรงแปลกประหลาด แล้วอ้างว่ามาจากนิพพาน มิใช่ พระเทพญาณมหามุนี  หรอกหรือ? - ใครทำบูชาข้าวพระ ดันทุรังมาจนทุกวันนี้ แม้ผิดพระวินัย ผู้รู้เตือนแล้วไม่ฟัง มิใช่ พระเทพญาณมหามุนี  หรอกหรือ? - ใครเอาพระพุทธศาสนามาปนกับการเมือง ทำเป็นบวชพระ บวชอุบาสิกาแก้ว ที่ไหนได้เ กณฑ์มาฟังให้เลือกเบอร์ 1 มิใช่ พระเทพญาณมหามุนี  หรอกหรือ? - ใครถูกบาปกรรมเคราะห์ซ้ำกระหน่ำซัด ป่วยเจียนตายทุกวี่ทุกวัน เพราะบาปที่ทำพระพุทธศาสนาเสียหาย ทำวิชชาธรรมกายให้ผิดเพี้ยนมิใช่ พระเทพญาณมหามุนี  หรอกหรือ? - ใครล่ะที่ปล่อยให้ลุกศิษย์บอกว่า "ใหญ่ที่สุดในภาพสาม" มิใช่ พระเทพญาณมหามุนี  หรอกหรือ? - ใครล่ะที่ พยายามช่วงชิงประชากรให้มากที่สุด เพื่อต่อรองทางการเมืองและกองทัพ แม้นักการเมืองยังต้องสยบ มิใช่ พระเทพญาณมหามุนี  หรอกหรือ? - ใครล่ะที่เอาบุญมาขาย เอาจานมาขาย เอาพระมาขาย เอานิพพานมาขาย เอาสวรรค์มาขาย แบ่งแยดคนรวยติดโบว์นั่งหน้า คนจนนั่งหลังห้องร้อน มิใช่ พระเทพญาณมหามุนี  หรอกหรือ? - ใครล่ะที่หวังจะมาเรียนวิชชาธรรมกายกับผู้รู้ในวัดปากน้ำ แต่ท่านหาว่า "กบฏ" จึงไม่สอนให้ มิใช่ พระเทพญาณมหามุนี  หรอกหรือ? - ใครล่ะตอนแรกเขาหาว่า ยักยอกทรัพย์ ก็ไม่ยอมรับ แต่พอศาลบอกว่า ให้คืนเงินให้วัด 900กว่าล้าน เสี่ยก็ยอมรับแล้วคืนทรัพย์ให้ แล้วพ้นคดี ..... แบบนี้เรียก "ปาราชิก" ไปแล้ว เพราะยอมรับว่า "เอาไปจริง" แล้ว "คืน" จริง ..... เอาอีกป่ะ แก้ไขเมื่อ 21 มี.ค. 55 07:41:09 จากคุณ : ปทุมฉัตรสหัสรังษี เขียนเมื่อ : 21 มี.ค. 55 07:30:55

ความคิดเห็นที่ 70 น้องรักษาบรรยากาศครับ น้องควรไปเข้าวงในให้มากกว่านี้ อย่ามองภาพดีอย่างเดียว มองด้านลบที่ทำให้วิชชาธรรมกายของลหวงปู่ที่น้องเคารพมากนั้น เสื่อมถอย พี่ทนไม่ได้หากวิชชาธรรมกายของหลวงพ่อวัดปากน้ำ ต้องเสื่อมถอยพระหลวงพ่อของน้อง คิดเองแล้วกัน จะเลือกหลวงพ่อผู้ปาราชิกหรือจะเลือกวิชชาธรรมกายของลหวงพ่อวัดปากน้ำ จากคุณ : ปทุมฉัตรสหัสรังษี เขียนเมื่อ : 21 มี.ค. 55 07:58:28

ความคิดเห็นที่ 71 ยังไม่ได้เริ่มทำในสิ่งที่อยากจะทำ  มันคืออะไรกันครับฟังดูมีเลศนัยยังไงไม่รู้ แก้ไขเมื่อ 21 มี.ค. 55 13:27:04 จากคุณ : จักษ์ธรรม เขียนเมื่อ : 21 มี.ค. 55 13:26:09

ความคิดเห็นที่ 72 #69 - ธรรมกายถูกด่า แล้วไงครับ ถ้าผมด่าคุณปทุมฉัตร จะแปลว่าคุณเป็นสาเหตุรึเปล่า - ครองผ้ากาสายะ ขึ้นศาล แล้วไงครับ ขึ้นศาลแปลว่าผิดหรือ - ทำเจดีย์รูปทรงประหลาด พูดอย่างนี้แสดงว่าเข้าถึงธรรมชั้นสูงแล้วหรือไม่ ถึงรู้ว่าของจริงเป็นอย่างไร - ใครถูกบาปกรรมเคราะห์ซ้ำกระหน่ำซัด นี่เก่งเทพขนาดรู้ว่ากรรมมาจากสาเหตุใดด้วย จากที่คุณมั่วๆมา แสดงว่ามีแต่ความเกลียดชังครอบงำนะครับนี่ ไม่มีราคาน่าเชื่อถือแล้วล่ะครับ จากคุณ : max25003 เขียนเมื่อ : 21 มี.ค. 55 15:37:49

ความคิดเห็นที่ 73 การด่าสมภารวัดพระธรรมกาย ด้วยวิธีเหยียดเพศ ว่าเป็นตุ๊ด เป็นกระเทย นี้เป็นมาตรฐานในการจรรโลงพระพุทธศาสนาใช่ไหม และทำใม มีการกล่าวอนุโมทนา แสดงความพอใจ เวลามีข้อความด่าคนอื่นแรงๆ มันใช่หลักการธรรมทูต ของพระพุทธเจ้าแน่หรือ ถ้าอย่างนั้น ก็อนุโมทนากับเจ้าของเว็บบอร์ดด้วยเลยดีใหม ที่เปิดเสรีให้มีการดูหมิ่นเหยียดหยามผู้อื่นโดยไร้จริยธรรม ท่านอยากหยามใครอย่างสนุกก็เชิญใช้สติปัญญาของท่าน แต่เราขอบุญจากการให้ธรรมทานนิดนึง จึงเอามาฝาก อานิสงส์การให้ความเคารพ ผู้มีอายุมากกว่า 4 ประการ 1) อายุยืน 2) ผิวพรรณงาม 3) มีความสุข 4)มีกำลัง โทษของการเหยียดหยามผู้อื่น 4 ประการ 1)อายุสั้น 2)ผิวพรรณเลว 3)ประสบทุกข์ 4)เจ็บป่วยกระทันหัน คนที่อนุโมทนาร่วม ก็จะมีส่วนในอานิสงส์ หรือ วิบาก จากการพลอยยินดี จากคุณ : AkALiKo23 เขียนเมื่อ : 21 มี.ค. 55 16:42:50

ความคิดเห็นที่ 74 ก็ท่าทางกระตุ้งกระติ้งไม่ต่างอะไรกับตุ๊ดนี่น่ะ ที่เขามาวิพากย์วิจารณ์ธัมมี่  ก็ไม่ได้มีใครกำหนดมาตรฐานอะไรหรอกครับ แต่เขายกเอาหลักฐานที่ปรากฏอยู่จริง ประกอบกับพฤติกรรมในการจัดกิจกรรม และตลอดแม้กระทั่งคำสอนของธัมมี่ มารวม ๆ กันแล้วสรุปได้ว่า   ธัมมี่ปาราชิก  ขาดจากการเป็นพระสงฆ์ไปมากกว่า 10 ปีแล้ว ทุกวันนี้ธัมมี่จึงเป็นเพียงพระปลอม ๆ จึงถูกขนานนามเรียกด้วยสารพัดชื่อ  ราวกับมนุษย์สารพัดพิษ ผมก็อยากจะถามกลับว่า มหาเถรสมาคม กรมการศาสนา มีมาตรฐานในการจรรโลงพระพุทธศาสนาอย่างไร   จึงได้ปล่อยปล่ะละเลยให้ธัมมี่ซึ่งเป็นอลัชชีเดียรถีย์กระทำตัวเป็นพระปลอม ๆ ใช้ผ้ากาสาวพัตร์ของพระพุทธศาสนาหลอกลวงพุทธบริษัทให้หลงไหลมัีวเมาในกิเลสความโลภ  อีกทั้งเผยแพร่คำสอนที่บิดเบือนพระไตรปิฎก  บิดเบือนวิชาธรรมกาย  ทำให้คณะสงฆ์และพุทธบริษัทแตกแยก  มิหนำซ้ำยังสถาปนาสณศักดิ์ให้กับธัมมี่อย่างไม่สมควรอีกด้วย ไม่รู้หรอกหรือครับว่า   ธัมมี่มันเป็นอลัชชี  เป็นเดียรถีย์  เป็นนักบวชนอกพระพุทธศาสนา  ไปสถาปนามันขึ้นเป็นชั้นเทพอย่างไม่เป็นการบังควร เพราะมันล่วงละเมิดศีลที่เป็นข้อห้ามอันยิ่งยวด 4 ประการ ที่เรียกกันว่า ปาราชิก 4 ประการ ล่วงละเมิดแล้ว  จะขาดจากการเป็นพระทันทีที่ล่วงละเมิด  ธัมมี่มันปาราชิกขาดจากการเป็นพระไปนานแล้่วครับ จากคุณ : ตรัยพล เขียนเมื่อ : 21 มี.ค. 55 17:26:14

ความคิดเห็นที่ 75 โทษ 4 ประการ  ตามที่่คุณ AkALiKo23 กล่าวไว้ว่า โทษของการเหยียดหยามผู้อื่น 4 ประการ 1)อายุสั้น 2)ผิวพรรณเลว 3)ประสบทุกข์ 4)เจ็บป่วยกระทันหัน ธัมมี่ก็กำลังประสบอยู่มิใช่หรือครับ ? แสดงว่า  แกก็ปรามาสเหยียดหยามผู้อื่นไว้เยอะแยะเลยใช่ไหม ? จากคุณ : ตรัยพล เขียนเมื่อ : 21 มี.ค. 55 17:31:32

ความคิดเห็นที่ 76 ^ ^ คห#68 เรียนถาม คุณสาธุ (รักษาบรรยากาศ) ครับ คือผมถามด้วยความไม่รู้และสงสัยจริงๆนะครับ ว่าที่มีพิธีการตักบาตรที่มีพระภิกษุมากมายตามสถานที่ต่างๆที่ผ่านมาแล้วและกำลังจะมีต่อไปนั้น ผู้ที่เข้าร่วมพิธีจากภาพที่เห็นตามสื่อต่างๆ มีประชาชนแถวนั้นไปร่วมพิธีด้วยรึเปล่าครับ เพราะผมรู้สึกว่าทำไมผู้ที่มาตักบาตรเหล่านั้นพร้อมใจกันใส่ชุดขาวโดยพร้อมเพรียงกันจริงๆ และถ้าเป็นเช่นนั้นจริงๆ ผมเองก็ปลื้มใจครับ ที่คนไทยตามที่ต่างๆ ยังคงมีศรัทธาหนักแน่นและมุ่งมั่นในการทำบุญมากขนาดนี้ และถ้าผมมีโอกาส แต่ผมไม่มีชุดขาวแบบผู้ร่วมทำบุญในภาพนี้ จะเข้าร่วมพิธีได้ไม๊ครับ ขอบคุณครับ ด้วยความเคารพ แก้ไขเมื่อ 21 มี.ค. 55 17:37:48 จากคุณ : หัวหยิก เขียนเมื่อ : 21 มี.ค. 55 17:36:40

ความคิดเห็นที่ 77 คุณหัวหยิกครับ  ไม่ใช่แค่ชุดขาว นะครับ   ผมได้ข่าวมาว่า ต้องมีซองหลัก 10K จึงจะได้นั่งใกล้ๆหัวแถว จากคุณ : P2wichai เขียนเมื่อ : 21 มี.ค. 55 19:18:20

ความคิดเห็นที่ 78 ความคิดเห็นที่ 77 ถ้าการนั่งหัวแถว ไม่มีกฏ ไม่มีเกณฑ์  งั้นทุกคนที่มาร่วมงาน ก็ควรกรูกันไปนั่งหน้าทั้งหมดเลย เอาอย่างนี้หรือเปล่า ผู้รับผิดชอบหลัก ผู้ที่ให้ความสำคัญมาก ก็ควรมีสิทธิ์อยู่ข้างหน้า ในสมัยพุทธกาล ก่อนจะมีนางวิสาขา ทุกคนต่างคน ก็ต่างทำบุญตามใจปรารถนา แต่นางวิสาขาให้ความสำคัญกับการอุปัฎฐากพระสงฆ์ ท่านใช้เวลาหมดไปกับการบำรุงพระพุทธศาสนามากกว่าคนอื่น จึงมีความรู้มากกว่า เข้าใจขั้นตอนมากกว่า จึงเกิดเป็นธรรมเนียมว่า  หากใครจะจัดงานทำบุญใหญ่ในกรุงสาวัตถี  ทุกคนต้องปรึกษานางวิสาขาก่อน  และในงานต้องมีนางวิสาขามาเป็นประธาน จากคุณ : AkALiKo23 เขียนเมื่อ : 21 มี.ค. 55 20:13:08

ความคิดเห็นที่ 79 #73 ครับ สงสัยคุณคงเกิดอาการร้อนรนทนไม่ได้ วี๊ดว๊าย มาว่าหลวงพ่ออิชั้น ก็เลยมาโพสต์กันเช่นนี้ ตอนแรกผมนึกว่าจะไม่มีใครมารับลูกโพสต์นั้นแล้วนะ แต่ก็ดันมีสาวกที่ร้อนรนทนไม่ได้ มารับลูกจนได้ ขันติของคุณนี่ แตกก่อนใครเพื่อนเลยนะครับ ถ้าคุณไปแจ้งความให้ตำรวจมาจับผมจริง ๆ ในความผิดฐานหมิ่นพระบรมเดชานุภาพ (ของไชยบูลย์) ผมถือว่าคุณยังแมนจริง ๆ นะครับ แจ้งความจับผม ผมก็ไปรับทราบข้อกล่าวหา จะให้ทำอะไรก็จัดไป แต่มันคงไม่มีตำรวจคนไหนมารับแจ้งความพรรค์นี้แน่นอน เสียเวลา ไชยบูลย์๋มันใหญ่มาจากไหน ถอดผ้าเหลืองมา ก็แค่ลุงกาก ๆ ธรรมดา ไม่ได้วิเศษวิโสมาจากไหน เหมือนที่พวกคุณหลงเชื่อกัน ถ้าตำรวจคนไหนที่รับแจ้งความคดีแบบนี้ ผมถือว่าทั้งคนแจ้ง ทั้งตำรวจที่รับแจ้ง กากยิ่งกว่าไชยบูลย์ซะอีก ถ้าแจ้งกันจริง ๆ นะ ผมไปบอกสรยุทธ ให้ปั้นให้มันเป็นข่าวไปทั่วประเทศเลยดีกว่า ให้ทั้งคนแจ้ง ทั้งตำรวจที่รับแจ้ง เป็นตัวตลกของสังคมไปสักพักนึง คุณก็แค่มาโพสต์กระทบกระเทียบ เอา "ธรรมทาน" มาบังหน้าเช่นนี้ คุณอยากจะแจ้งความให้ตำรวจมาจับผมเสียเต็มประดา แต่คุณไม่กล้าใช่มั้ยล่ะ อย่างนี้แหละ เขาเรียกว่า "ป๊อด" จากคุณ : ABP@BDZ เขียนเมื่อ : 21 มี.ค. 55 21:01:21

ความคิดเห็นที่ 80 จากคห 72 - ธรรมกายถูกด่า แล้วไงครับ ถ้าผมด่าคุณปทุมฉัตร จะแปลว่าคุณเป็นสาเหตุรึเปล่า ยังมีหน้ามาถามว่าแล้วไง หลวงพ่อวัดปากน้ำทุ่มชีวิตตลอดอายุ เพื่อสอนสั่งและดำรงการสอนสมาธิตามแนววิชชาธรรมกาย แบบสติปัฏฐาน๔ มาตลอด มาถึง เสี่ยไชยบูลย์ก็มาทำเสีย ชาวบ้านด่าทั้งบ้านทั้งเมือง ก่อนเสี่ยไชยบูลย์จะมา ไม่เห็นมีใครด่าขนาดนี้ อย่างมากก็สงสัยในธรรมขจองหมู่พระภิกษุที่เป็นมหาในสังฆมณฑลยุคนั้น ชาวบ้านศรัทธามากมาย ไม่มีใครด่าขนาดนี้ ..... แบบนี้ยังไม่ใช่สาเหตุอีกหรือ ส่วนถ้าคุณจะด่าผม ผมทำไรเสียหายหรือ ผมเป็นสาเหตุให้เสี่ยไชยบูลย์โดนผมด่าหรือ ??? ปฏิทรรศน์นะครับคุณ สับสนในตัวเองนะเนี่ย สับสนแม้คำถามที่จะมาถามผม  - ครองผ้ากาสายะ ขึ้นศาล แล้วไงครับ ขึ้นศาลแปลว่าผิดหรือ ศาลพิจารณาคดีความ นับว่า เป็นที่ไม่เหมาะสมของภิกษุที่จะให้ฆราวาสมาดำเนินคดีภิกษุ ขนาดพระคดีอื่นๆ เขายังจับ "สึก" ก่อน แล้วค่อยมาดำเนินคดีตามกฎหมายเลย นี่เสี่ยไชยบูลย์เอาผ้าเหลืองไปแปดเปื้อน โอ้ย!!! หมดกัน ยังมีหน้ามาถามว่า "ผิดหรือ"  - ทำเจดีย์รูปทรงประหลาด พูดอย่างนี้แสดงว่าเข้าถึงธรรมชั้นสูงแล้วหรือไม่ ถึงรู้ว่าของจริงเป็นอย่างไร อย่างนี้มันต้องย้อนถามว่า "แล้วลื้ออ่ะรู้หรอ"  ถึงผมจะไม่ได้ธรรมะชั้นสูง แต่ผมก็เข้าหาครูบาอาจารย์ยุคหลวงพ่อวัดปากน้ำที่ยังมีชีวิตอยู่ และสอบถามสนทนาธรรมในข้อธรรมที่สงสัยใคร่รู้ พบว่า รูปทรงเช่นนั้นไม่เคยมีมาก่อนในประวัติกาลธาตุธรรม คุณ แม็กซี่เองคงไม่รู้สินะว่า ที่มาของรูปทรงนี้ไม่ใช่เสี่ยไชยบูลย์ แต่เป็น......... ผมไม่ขอกล่าวพาดพิง เพราะบุคคลผู้เป็นที่มาของรุปทรง ก็หันหลังให้ธรรมกายจนเกิดการอึกทึกครึกโครมใหญ่โตในธรรมกายมาแล้ว  - ใครถูกบาปกรรมเคราะห์ซ้ำกระหน่ำซัด นี่เก่งเทพขนาดรู้ว่ากรรมมาจากสาเหตุใดด้วย ใครๆเขาก็สันนิษฐานได้นะจ๊ะ ทำบาปกรรมแบบหนักหน่วงต่อพระพุทธศาสนาขนาดนี้ บ้างก็อ้างตนว่าแบ่งภาคมาจากหลวงพ่อพระต้นธาตุ บ้างก็อ้างว่าใหญ่ที่สุดในภพสาม บ้างก้อ้างคุณวิเศษอวดอุตตหรุดไปเรื่อย บ้างก็ปาราชิกนุ่งผ้าเหลือง ฯลฯ แบบนี้ มันไม่บาปกรรมพอที่จะให้เคราะห์ซ้ำกระหน่ำซัดดอกหรือ??? จากที่คุณมั่วๆมา แสดงว่ามีแต่ความเกลียดชังครอบงำนะครับนี่ ไม่มีราคาน่าเชื่อถือแล้วล่ะครับ ผมไม่ได้มั่วเลยครับ แล้วก็ไม่ได้เกลียดชังด้วย แต่...... ผมศรัทธาในวิชชาธรรมกาย และหลวงพ่อวัดปากน้ำ ยอมไม่ได้ที่มารศาสนาอย่างเสี่ยไชยบูลย์จะมาทำร้ายและทำลายพระพุทธศาสนาเช่นนี้ กล้าท้ามั้ยว่า คำพูดของผมยังมีราคาน่าเชื่อถือหรือไม่ พวกที่ไม่เชื่อก็พวกที่ปิดตา ปิดหู ไม่ฟัง เอาแต่ "หลวงพ่อปาราชิก" ร่ำไปเท่านั้นแหละครับ คุณแม็กซี่ศรีสมร จาก คห 76 ผมตอบให้ ด้วยประสบการณ์ -เคยถูกรถบัสพาไปตักบาตรครับ ส่วนใหญ่ 90% มาจากมวลชนวัดพระธรรมกาย สวมชุดขาวไปตักบาตรก่อน คนแถวนั้นน้อยมาก ย้ำนะครับ น้่อยมาก คนส่วนใหญ่ไม่ใส่ใจกับการสวมชุดขาวหรอก เขาก็แต่งตามที่เขาคิดว่า "สุภาพ" แต่ "สวย หล่อ" กับการสร้างกุศลของเขาแล้ว ก็มีแต่ชาวธรรมกายที่เน้นแต่ขาว ขาว ขาว นะจ๊ะ จากคุณ : ปทุมฉัตรสหัสรังษี เขียนเมื่อ : 21 มี.ค. 55 21:37:25

ความคิดเห็นที่ 81 ความคิดเห็นที่ 78     ถ้าการนั่งหัวแถว ไม่มีกฏ ไม่มีเกณฑ์ งั้นทุกคนที่มาร่วมงาน ก็ควรกรูกันไปนั่งหน้าทั้งหมดเลย เอาอย่างนี้หรือเปล่า ผู้รับผิดชอบหลัก ผู้ที่ให้ความสำคัญมาก ก็ควรมีสิทธิ์อยู่ข้างหน้า จากคุณ : AkALiKo23 เขียนเมื่อ : 21 มี.ค. 55 20:13:08   ------------------------------------------------------------------------------------------ การนั่งหัวแถว ทั้งใน สภาธรรมกายสากลวัดพระธรรมกาย และ ในที่อื่นๆ มีกฎ มีเกณฑ์ แน่นอน ซึ่ง กฎเกณฑ์ ก็อาจมีได้ตั้งมากมาย ...... แต่วัดพระธรรมกาย เลือก กฎเกณฑ์ ว่า ใครจ่ายเงินหนัก .... คนนั้น ได้อยู่ข้างหน้า พร้อม เครื่องประดับ เช่น เก้าอี้ (อาสนะ) ที่แตกต่าง รวมถึง โบว์ สัญญลักษณ์ ต่างๆ ในทุกๆงาน ขอยกตัวอย่างในวัดพระธรรมกาย วันอาทิตย์ ซึ่งมีการถ่ายทอดสด ก็แล้วกัน 1. ท่านเคยฟัง วิทยุสื่อสาร เวลาที่งานพิธีบุญวันอาทิตย์เริ่มแล้ว ถ่ายทอดสดแล้ว แต่พื้นที่แถวหน้าก็ยัง โล่ง อยู่ เพราะ เจ้าตัวยังไม่มา แต่ได้ให้ เจ้าหน้าที่สำนักกัลยาณมิตร มาจองเก้าอี้ให้ แต่ ผู้ที่จัดระเบียบ ในสภาธรรมกายสากล คือ สำนักศรัทธาภิบาล ก็พยายาม ระบายผู้ที่อยู่ด้านหลัง ให้มาอยู่ด้านหน้า แต่เจ้าหน้าที่สำนักกัลยาณมิตร ก็ยืนยัน ไม่ยอม จนมี Conflict กัน เพราะ ....... วัดพระธรรมกาย เกรงใจ เงิน เจ้าภาพ ( เราให้ความสำคัญกับผู้ที่ตั้งใจ มาปฎิบัติธรรม มาแต่เช้า แต่ไม่ได้จ่ายหนัก หรือ เราจะให้ความสำคัญ กับ ผู้ที่จ่ายหนัก นั่งรถมีคนขับให้ แต่มาสาย เพียงเพราะเขาจ่าย เยอะกว่า เหรอ ?? ) 2. ท่านเคยเห็น ความยากลำบาก ที่ต้องหลบ มุมกล้อง เพื่อรักษาภาพของวัด เป็นเพราะ กฎเกณฑ์ .......... เงิน เป็น ใหญ่ หรือไม่ กฎ เกณฑ์ ของวัด ยังรวมถึง VIP Lounge ติดแอร์ + ที่จอดรถ VIP มียามเฝ้าด้วย เราจะใช้กฎนี้ใช่ไหม ??? จากคุณ : buddy เขียนเมื่อ : 21 มี.ค. 55 21:44:55

ความคิดเห็นที่ 82 ความคิดเห็นที่ 81 " เจ้าหน้าที่สำนักกัลยาณมิตร มาจองเก้าอี้ให้ แต่ ผู้ที่จัดระเบียบ ในสภาธรรมกายสากล คือ สำนักศรัทธาภิบาล ก็พยายาม ระบายผู้ที่อยู่ด้านหลัง ให้มาอยู่ด้านหน้า แต่เจ้าหน้าที่สำนักกัลยาณมิตร ก็ยืนยัน ไม่ยอม จนมี Conflict กัน" ล็อกอิน buddy สะท้อนปัญหานี้ได้ดีมาก ฝ่ายบริหารควรได้คุณ ล็อกอิน buddy เป็นที่ปรึกษาในบางโอกาส (ในกรณีที่ล็อกอิน buddy เห็นว่าน่าจะเกิดประโยชน์นะ) และเชื่อว่า สถานการณ์บีบคั้นเหล่านี้ ชาววัดที่ดูแลและจัดการให้เกิดความเป็นระเบียบ ก็คงรับทราบปัญหานี้แล้ว คนวัดเองไม่เห็นด้วยกับบางกรณี ในการบริหารและจัดการสิ่งต่าง ที่เกิดปัญหาจากหลายๆปัจจัย เคยได้ยินคนไปวัดบ่นถึงการกระทบกระทั่งกันทางอารมณ์ ตามธรรมชาติของจริตที่แตกต่างกัน ไม่ใช่ว่าคนวัดเจอปัญหาเหล่านี้แล้ว จะหนีจากวัด   ทว่าคนวัดที่มีใจเมตตา คงจะหาทางแก้ไขให้ดีขึ้น มากกว่าการหนีปัญหา กรณีอย่างนี้ หากจะตรองตามหลัก สัปปุริสธรรม เรื่อง ความเป็นผู้รู้จักเหตุ ความเป็นผู้รู้จักกาล เป็นต้น จะได้ข้อสรุปว่า เรื่องแบบนี้ ต้องปล่อยให้คนทำงานแก้ปัญหากันเอง คนในเว็บบอร์ด ใช้หลัก อัตตัญญุตา ไม่เข้าไปมีอารมณ์ร่วม เพราะไม่ได้เกี่ยวข้อง ไม่ต้องหาเรื่องหมองใจ .. แก้ไขเมื่อ 21 มี.ค. 55 23:12:13 จากคุณ : AkALiKo23 เขียนเมื่อ : 21 มี.ค. 55 22:05:43

ความคิดเห็นที่ 83 ถึง ๗๖ เพราะมีรถมา ประกาศให้ใส่ชุดขาวโดยพร้อมเพียง กันครับ จากคุณ : muk_22 เขียนเมื่อ : 21 มี.ค. 55 22:09:41

ความคิดเห็นที่ 84 ขอบคุณทุกท่านที่ช่วยให้ข้อมูลครับ ผมไม่ค่อยมีความรู้ที่ลึกซึ้งนักในธรรมมากซักเท่าไหร่ อาศัยว่าเคยบวชเรียนมาบ้างก็พอจะรู้เพียงคร่าวๆว่าการทำทานต่างๆไม่ได้ขึ้นอยู่กับเครื่องนุ่งห่มหรือเครื่องประดับที่สวมใส่ในขณะทำ แต่กลับเป็นจิตใจที่เต็มใจให้บริจาคทานอย่างบริสุทธิของผู้ให้ ประโยชน์ของสิ่งที่ให้ และความบริสุทธิใจของผู้รับมากกว่า  พอดีมาเห็นกระทู้นี้น่าจะมีบุคคลจากทางวัดธรรมกายเข้ามาอ่าน เลยมาขออนุญาตถามน่ะครับ และผมขออนุญาตถามเพิ่มเติมนะครับ สมมุติว่า ณ สถานที่นั้น เวลานั้น มีผู้ที่ตั้งใจอยากทำบุญ แต่ไม่ได้ใส่ชุดขาวอย่างผู้ร่วมทำบุญท่านอื่นๆ จะถูกห้ามเข้าไปในพื้นที่ไม๊ครับ และหากไม่ได้เข้าไปเพราะถูกขอร้องเพื่อความสวยงามพร้อมเพรียงกันก็ดี ผู้ทำบุญท่านอื่นๆไม่ยินดีให้เข้าร่วมเพราะเผลอคิดว่าการเข้ามาของบุคคลนั้นจะทำให้ไม่เกิดความสวยงามพร้อมเพรียงก็ดี จะเป็นบาปกับคนเหล่านั้นหรือไม่ครับ? อีกข้อนึง เกี่ยวกับ 'จริต' ในการฝึกวิปัสนานะครับ ว่า ถ้ามีผู้ที่ชอบใช้สิ่งของอันปราณีต เช่น เสื้อผ้าที่สวยงาม ของใช้ที่มีราคา หรือเครื่องประดับมีราคา และจะเกิดจิตใจหม่นหมองเมื่อได้สวมใส่เสื้อผ้าไม่สวยงาม ของใช้ที่ไม่หรูหรา หรือแม้แต่ไม่มีเครื่องประดับใส่นั้น คนผู้นั้นถือว่ามีจริตหนักไปทาง ราคะจริต รึเปล่าครับ? ขอบคุณมากครับ จากคุณ : หัวหยิก เขียนเมื่อ : 21 มี.ค. 55 23:45:34

ความคิดเห็นที่ 85 การรักสวย รักงาม ฝ่ายกุศล ก็มี เช่น เสยิยวัตร การแต่งกายพระสงฆ์ แต่งให้เรียบร้อย เพื่อป้องกันทุกขเวทนา จาก เหลืองยุง ลมแดด ไม่รุ่มร่าม จนเป็นเหตุให้เกิดภัย ความงดงาม คือจริยาวัตรที่เรียบร้อย เพื่อรักษาศรัทธา และฝึกสติ แม้การไปวัดโดยสวมใส่ ชุดขาวให้เหมือนๆกัน ก็เพื่อระงับ ความกลัดกลุ้ม จากการแข่งสวยแข่งยี่ห้อของเสื้อผ้าและเครื่องประดับ การรักสวยรักงาม ฝ่ายอกุศล ก็มี แต่จะยกตัวอย่างไม่มาก จะได้ไม่ไปกระทบคนอื่น เช่น การแต่งหน้าทาปาก การสวมใส่ เสื้อผ้า เพื่อดึงดูดเพศตรงข้าม และมัดใจให้ยึดติดเพียงรูปกายภายนอก ลักษณะอย่างนี้ เรียกกว่า ใจน้อมไปในกามราคะในที่สุด ส่วนวิธีแก้ราคะลองศึกษาจาก "ธรรมเพื่อความรู้ยิ่งซึ่งราคะ  ๔ ประการ" จากคุณ : AkALiKo23 เขียนเมื่อ : 22 มี.ค. 55 00:28:33

ความคิดเห็นที่ 86 #80 คุณบอกว่าสันนิษฐาน แต่คำตอบก่อนหน้ากับบอกว่าแน่นอนซะอย่างนั้น จากคุณ : max25003 เขียนเมื่อ : 22 มี.ค. 55 06:09:18

ความคิดเห็นที่ 87 คุณmax. อ่านความเห็นที่ 80 ยังไงเหรอครับจึงเจอคำว่า สันนิษฐาน ? ผมอ่านดูยังไง ๆ ก็ไม่เห็นคำนั้น แต่กลับเห็นคำว่า "แน่นอน" อยู่ในความเห็นที่ 80 ทำไมคุณ max และผมจึงอ่านความเห็นที่ 80 เดียวกัน  แต่ได้รายละเอียดไม่เหมือนกันล่ะครับ ? ทั้งนี้ทั้งนั้น   คงรวมไปถึงเรื่องราวอื่น ๆ ด้วยมั้ง จากคุณ : ตรัยพล เขียนเมื่อ : 22 มี.ค. 55 07:17:21

ความคิดเห็นที่ 88 "มันอาจจะไม่ใช่ก็ได้" อย่างนี้เรียกว่า สันนิษฐาน นะครับ เห็นมั้ยว่าไม่จำเป็นต้องมีคำว่า สันนิษฐาน เรื่องอย่างนี้ต้องอธิบายกันด้วยเหรอครับนี่ จากคุณ : max25003 เขียนเมื่อ : 22 มี.ค. 55 07:41:50

ความคิดเห็นที่ 89 ข้อความ "มันอาจจะไม่ใช่ก็ได้" ผมตรวจสอบดูยังไง ๆ ก็ไม่พบในความเห็นที่ 80  แม้กระทั่งในความเห็นอื่น ๆ ก่อนหน้านี้ก็ไม่มีข้อความดังกล่าว ใช้ให้โปรแกรม search ก็พบเจอเพียงความเห็นเดียว  คือ  ความเห็นที่ 88 ซึ่งเป็นความเห็นล่าสุดของคุณ max เองนั่นแหละครับ จากคุณ : ตรัยพล เขียนเมื่อ : 22 มี.ค. 55 08:05:27