๒. เรื่อง พวกผู้ใหญ่ชอบเล่าเรื่องผี ๆ รักยม ลูกกรอก กุมารทอง ว่า...กลางคืน พวกเขาทั้งหลายจะพากันมาชวนเด็ก ๆ เล่นกัน จริงหรือไม่?
ก็ต้องตอบว่า....จริงแน่นอน สำหรับคนที่เชื่อ
อย่างไรก็ตาม เรื่องเล่าบางอย่าง ก็อาจจะเป็นจริง สำหรับคนเล่า แต่อาจจะไม่จริงเลย สำหรับคนที่ ไม่สนใจเรื่องแบบนี้ คนที่เคยเห็นผี เขาก็เห็นจริง ๆ ด้วยตาเขา ด้วยสัมผัสของเขา แต่คนอื่น ไม่สามารถสัมผัสได้เช่นเขา ก็สามารถพูดว่าจริง หรือไม่จริงก็ย่อมได้
ผมเอง สมัยที่โดนผีกวนมาก ๆ นั้น ผมก็งง เหมือนกันว่า ทำไมต้อง เจาะจงมาให้เจอแต่ผม ได้ยินแต่ผม ได้เห็นแต่กับผม ทำไมเพื่อนที่นอนติดกัน ไม่ได้ยิน ไม่ได้เห็น ไม่ได้สัมผัสเช่นที่ผมโดน
ดังนั้น เรื่องการเห็นผี การรับรู้เรื่องผีนี้ เป็นเรื่องเฉพาะตน ๆ นั่นเอง
เคยโดนครั้งหนึ่ง จะจะ หนัก ๆ ก็คือ นอนอยู่ดี ๆ ลืมตาขึ้นมา เห็นคนตัวดำร่างใหญ่ (ก็ผีนั่นแหล่ะ) มาจับที่ขา สองขา แล้วลาก ๆๆๆ จนผมลื่นไถลไปจนถึงขอบประตู ก็เลยเอาเท้ายันขอบประตูไว้ จนมันปล่อย ผมก็เลยมองเห็นว่า ตนเองลื่นไถลพุ่งกลับมาที่เดิม หนุนหมอน นอนต่อ แต่..ได้สักครู่เดียวเท่านั้น....
....มาอีกแล้ว จับขาลากอีก เหมือนเดิม หลายต่อหลายรอบ จนเบื่อ เลิกกลัวไปเลย คราวนี้ ลุกขึ้นมาพูดดัง ๆ ทั้งท้าทาย ผรุสวาท ด่าต่าง ๆ นานา ๆ แล้วเปิดไฟ เดินไปหาหยิบอาวุธ เท่าที่พอหาได้ ตอนเวลาง่วง ๆ แบบนั้น (มีด ไขควง) มาวางใกล้ ๆ ตัว แล้วบอกกับผีว่า "ลองมาอีกทีสิฟะ คราวนี้ ตูจะแทงให้ตาย ห่.. อีกสักรอบ คอยดู"
ปรากฎว่า คราวนี้นอนหลับสบายยันเช้า.....ผีอาจจะกลัวผมฆ่าตายไป อีกรอบ หรือว่า "สภาวะจิตใจของผมเข้มแข็งขึ้น รึเปล่า? สุดแต่จะพิเคราะห์เอาเถิด"
อีกครั้ง จำได้ว่า กลับมาจากออกค่ายนักเรียน กลับมานอน... นอนไปได้สักพัก มีหัวคนโผล่ออกมาจากผนัง ใกล้ ๆ ที่เรานอนอยู่นั่นเอง (ผีอีกแหล่ะ คนที่ไหน จะโผล่มายังกะ ขอมดำดินแบบนั้น) โผล่ไม่โผล่เปล่า โผล่ออกมาแสดง ความเปลี่ยนแปลง แบบว่า ค่อย ๆ เปลี่ยนให้มันน่ากลัว ๆๆๆ ขึ้นเรื่อย ๆ....เหว๋อออออ.....ตกใจหมดเลย
จะลุกหนี ก็ลุกไม่ได้ โดนตรึงไว้อย่างนั้นซะแล้ว ลืมตาได้ หายใจได้ แต่ลุกไม่ได้ ร้องเสียงดังได้ แต่ไม่มีใครได้ยิน แปลกดี
ก็ตกใจ จนเลิกตกใจเหมือนกัน มันก็ไม่หายไปซะที หลับตาก็แล้ว ลืมตามาเห็นอีก...... เวรเจง ๆ เลย จากกลัว จึงกลายเป็นโกรธเลย พยายามจะยกมือขึ้น คิดว่าจะเอาฝ่ามือสับลงมา และจะฟันแบบกังฟู หรือหนังกำลังภายในน่ะ กะว่าจะฟันด้วยฝ่ามือพิฆาต ให้คอหลุดเลย (มันโผล่มา จากกำแพง เหมือน ๆ กับพวกหัวกวาง หัวเสือ ที่เขานิยมยึดติดโชว์ไว้ตามบ้านสมัยเก่า ๆ น่ะ แต่ดันมาโผล่เอาใกล้ ๆ ที่ผมนอนเลยทีเดียว)
พยายามยกมือ แต่ยกไม่ได้ ก็เลยบริกรรมสวดมนต์ เท่าที่สวดได้ เลยยกมือขึ้นได้ ก็เลยยกขึ้น ฟันสับลงมาฉับเข้าให้......โดนเข้าเต็มเปาเลย หัวผีหายไป แต่มือตูสิ.....โอยยยยย...เจอเข้าขอบเตียง บวมเลย...ผีนะผี หลอกให้เจ็บตัวนี่หว่า
อีกหลายงาน หลายครั้งครับ ที่ผมโดนผีหลอก (สมัยนั้นกลัวจริง ๆ นะ เรื่องผีผีเนี่ย) หลอกซะจนเฉย ๆ แล้ว เลยเลิกกลัว ปล่อยเลย..อยากหลอกปล่อยมันหลอกไป
ส่วนเรื่องกุมารทองเจอหนัก ๆ สมัยบวช กลางวันแสก ๆ นั่งสวดมนต์อยู่ดี ๆ มีเสียงวิ่งกันอึกทึกครึกโครม บนหลังคาศาลา แต่เป็นการวิ่งในฝ้าเพดาน แบบเสียงดังมาก ๆ ไม่ใช่ตุ๊กแกแน่ ๆ ไม่ใช่หนูแน่ ๆ เพระอึกทึกมาก ๆ เป็นการสวดมนต์ ก่อนที่จะฉันเพล มีญาติโยม มาทำบุญมากมาย
ทีแรกก็นึกว่า เราน่าจะได้ยินเพียงคนเดียว แบบว่า หลอนตัวเองอีกแล้ว (ก่อนได้ยิน เกิดอาการคล้าย ๆ จะวูบ) แต่...ปรากฎว่า หลังจากสวดจบ หลวงพ่อผู้ช่วยเจ้าอาวาส ที่นั่งหัวแถว ท่านเรียกผมไปนั่งฉันร่วมกับท่าน ในวงเดียวกัน ท่านก็พูดออกมาเฉยเลยว่า....
"วันนี้เจ้าเด็ก ๆ กุมาร มันซน ขึ้นไปวิ่งสนุกเลยเชียว.....เด็ก ๆ ก็ไร้เดียวสางี้แหล่ะ ไม่ว่าเด็กผี เด็กคน เฮ้อ"
.....หลวงพ่อบ่นอุบ และดูท่านนิ่งมาก เฉยมาก เหมือนไม่มีอะไรพิเศษเกิดขึ้น
โอย....เล่นเอาพระใหม่ อย่างผมขนลุกทั้ง ๆ ที่เป็นพระเลยเชียว แต่พอนึกขึ้นได้ว่า...อ้าว ก็ตูเลิกกลัวผีแล้ว แถมเป็นพระด้วยไม่ใช่รึ แล้วจะขนลุกทำไมเนี่ย..ไม่แน่จริงนี่หว่า ฯลฯ
ตอนนั้น ก็ยัง งง งง กับเรื่องกุมารเหมือนกัน แสดงว่า ฤทธิ์เดชเยอะนะ ขึ้นไปวิ่งบนฝ้าเพดานศาลาวัด กลางวันแสก ๆ เชียว
และที่สำคัญ หลวงพ่อ ท่านเล่าให้ฟังว่า ครอบครัวที่กำลังมาทำบุญนี้นั้น มาทำบุญทุกปี และชอบฝักใฝ่ทางนี้ เลี้ยงกุมารทอง ไว้หลายตน ประมาณนั้น ฯลฯ
แค่นี้ก่อนนะครับ จะค่อย ๆ มาเล่าต่อ ..หากจำเป็น
อย่างไรก็ตาม แม้ว่าจะมีคนกล่าวกันว่า พวกผีพวกนี้ มักจะมาชวนเด็ก ๆ เล่นกันในเวลากลางคืนนั้น..... แม้ว่าส่วนใหญ่ จะปรากฎบ้างว่า เด็กๆ ทารก จะชอบเล่นจริง หัวเราะจริง ร้องให้จริง ฯลฯ โดยไม่มีสาเหตุในบางครั้ง ก็ตาม
แต่สำหรับผมก็ยังไม่ตกลงปลงใจเชื่อในทันที ว่าเป็นเพราะพวกกุมาร มาชวนเล่น .....อย่างไรก็ตาม จะมีจริง หรือไม่มีจริง ผมก็ไม่สงสัยอะไรมากนักในเรื่องพวกนี้ เพราะตอนนี้ ผมมั่นใจว่า....ผมอยู่เหนือสิ่งเหล่านนี้ โดยสิ้นเชิง และมั่นใจว่า....
"หากเป็นเรื่องผี ๆ ที่มาเกี่ยวข้องกับผม ผมสามารถควบคุมสถานการณ์ได้ ในทุก ๆ ขั้นนตอน"
ปล. การที่เด็กทารก ยิ้มออกมาคนเดียว บ่อย ๆ หรือร้องให้จ้าออกมา อย่างน่าสงสัยนั้น แท้จริง เป็นเพียงธรรมชาติของเด็กทารกครับ อาจจะไม่เกี่ยวอะไร กับการที่เชื่อกันว่า มีผี มีกุมาร ฯลฯ มาชวนเล่น หรือหยอกล้อ ฯลฯ แต่ประการใด
แก้ไขเมื่อ 23 มี.ค. 55 10:37:51
แก้ไขเมื่อ 23 มี.ค. 55 04:04:10
แก้ไขเมื่อ 23 มี.ค. 55 04:01:35