PANTIP.COM : Y11869430 ธรรม ที่ตรัส วินัยที่บัญญัติ จักเป็นศาสดาของพวกเธอ ในกาลที่เราล่วงไปแล้วฯ []

ความคิดเห็นที่ 14

(๑)
คุณP2wichai

ปฏิเสธ "พระพุทธวจนะ ตามที่พระเถระครั้งปฐมสังคายนา" รักษามา ไหมครับ

ตามหลักฐานในพระไตรปิฎก คือ ----> ติก. อํ เล่มที่ 20 หน้า 301 บรรพ (ข้อ) 528 <----

ตอบ ข้อ(๑) ยังรับ หรือปฏิเสธตอนนี้ไม่ได้ครับ เพราะผมยังไม่มีความรู้+ความเชื่อ อย่างคุณ

^^^^
ถ้าเช่นนั้น

(๑)
"คุณP2wichai ก็ ยังไม่ควร ตั้งกระทู้นี้ แบบที่ตั้ง"
แล้ว จบด้วย ประเด็น-- ใคร ค้าน หรือ ไม่เห็นด้วย กับ ข้อความข้างบน ? ทั้งสองความเห็น นะครับ

เพราะคุณP2wichai ยังไม่มีความรู้ "อย่างที่ผมรู้" และ "ความเชื่อ ตามอำนาจความรู้ใดนั้นของผมด้วย" (ส่วนคุณP2wichai รู้แบบที่คุณP2wichaiรู้ เชื่อแบบที่เชื่อคุณP2wichaiเชื่อ เป็นอีกเรื่องหนึ่ง)

รวมทั้ง คำว่า "ธรรม ที่ตรัส วินัยที่บัญญัติ . . . . . เอาตามไหนละครับ" (โดยอ้าง --ธรรม ที่ตรัส วินัยที่บัญญัติ)

ไม่ งง นะครับ

(๒) แล้ว จะตั้งแบบไหน ( ที่ตรังกันข้ามกับ ที่ผมเสนอว่า "คุณP2wichai ก็ ยังไม่ควร ตั้งกระทู้นี้ แบบที่ตั้ง")

ลองตั้งใหม่ ซิครับ
แล้วที่ตั้งนั้น "ไม่ เนื่องกับ ความหมายของคำว่า "เพราะผมยังไม่มีความรู้+ความเชื่อ อย่างคุณ (คือผม)

ไม่ งง นะครับ
---------------------------------------------------------------------------------------------

(๒)
คุณP2wichai ยังยืนยัน ทิฏฐิ ตามข้อความที่เสนอไว้ว่า --- ในสมัยนี้ใครจะตัดสินได้ ละครับ

แม้ในสมัยพระองค์ยังทรงยังอยู่ ก็ไม่ทรงตัดสิน ---- ไหม?

ตอบ ข้อ(๒) ยังยืนยันว่า ในสมัยนี้ใครจะตัดสินได้ ละครับ หรือคุณคิดว่าใครตัดสินได้ ครับ

แม้ในสมัยพระองค์ยังทรงยังอยู่ พระมีเรื่องราวแตกแยกกัน

พระองค์ประทานหลักนานาสังวาส ให้ต่างคนเอาไปปฏิบัติพิสูจน์กัน

รับทราบ ว่า คุณP2wichai ยังคงยืนยัน ทิฏฐิของตนเอง ที่ "แตกต่างกับ ""เพราะผมยังไม่มีความรู้+ความเชื่อ อย่างคุณ (คือผม)" ครับ
--------------------------------------------------------------------------------------------

หมายเหตุ

ไม่เนื่องกับ ข้างบน นะครับ

(๑)
ตรัสไว้ว่า
ผู้ใดเห็นธรรม ผู้นั้นเห็นตถาคต ----- ตามความรู้ของผม ที่ตรัสนั้น มี ความหมายลึกซึ้ง แต่ไม่ลึกลับ เนื่องกับ ธรรม วินัย ที่คือองค์พระศาสดา พระองค์นี้ ชัวร์ ไม่มั่วนิ่ม ฯ

ธรรมที่ ผู้ใดเห็น ย่อมคือ "ธรรมทั้งหลายที่เราคือพระองค์ ไม่เคยฟังจากใครมาก่อน
ดังที่ตรัส แล้วพระเถระ มุขปาฐะ ไว้ คือ ---- คำว่า สมุทโย กับ นิโรโธ คือ ปฏิจจสมุปบาทสายเกิดสายดับ ฯ

(๒)
พระสูตรหนึ่งตรัสว่า
สาวกของพระองค์ที่มาอยู่ประพฤติพรหมจรรย์ ที่ทรงบัญญัตินั้น
เพราะเขาเหล่านั้น พอใจในการพยากรณ์อริยสัจ ของพระองค์ (จากควาจำ)

ดังพระสูตรหนึ่ง จากความจำ
เราบัญญัติอริยสัจสี่สำหรับผู้สามารถเสวยเวทนา

แล้ว ไม่ทรงพยากรณ์อรหัตตผลแก่ ผู้สามารถในสัญญาเวทยิตนิโรธ
คือให้ผู้นั้นพยาการณ์มรรคผลเอง (พระอนาคามีผู้สามารถ ไม่เสวยเวทนา ตามที่ตรัส มั๊ง)

(๓)
กรณีพระเทวทัต จากความจำ

มีผู้ทูลถาม ว่า ทำไมจึงทรงพยากรณ์พระเทวทัตเช่นนั้น (เช่นไร ดูเอง)

ตรัสว่า
ถ้าพระองค์ยังเห็นความดีของ พระเทวทัตแม้นหน่อยหนึ่ง
พระองค์ก็จะไม่พยากรณ์ พระเทวทัต เช่นนั้น (หาเองนะครับ)

สรุป
ตามความรู้ผมฯ

(๑)
ว่าด้วย วิชาการ (ปริยัติธรรม)

ชาวพุทธส่วนใหญ่สมัยนี้ สมัยฆราวาส คุ้นเคยกับ ระบบการศึกษาของฝรั่ง (ท่านพุทธทาสเปรียบไว้คือ การศึกษาแบบห มาหางด้วน ฯ ฯ) เคยชินในการทำวิทยานิพนธ์ เรื่องนั้นเรื่องนี้ (ท่านพุทธทาส ใช้คำว่า รอยเท้าโค ในมหาวิทยาลัย - น่าจะ มีทั้งมหาวิทยาลัยฝ่ายฆราวาสและฝ่ายสงฆ์ ฯ)

ธรรม วินัย ที่พระพุทธเจ้า "เสนอไว้" ตามหลักฐานปฐมภูมิ คือ ตามที่พระเถระครั้งปฐมสังคายนา รักษามา จึง ถูก ต่อยอด ได้ เพราะ อนุสัยใดนั้น ฯลฯ

(๒)
ว่าด้วย ปฏิบัติการ
ก็ไม่แตกต่างไปจากข้อที่ ๑ ดังที่ ทราบกันเช่น เจริญสติแบบนั้นแบบนี้ เจริญสมาธิแบบนั้นแบบนี้ ฯลฯ

ซึ่งสรุปได้เป็น ๒ พวก คือ
-- พวกที่ ยังอ้างอิง หลักฐานคือพระไตรปิฎก
กับ
-- พวกที่ไม่อ้างอิง หลักฐานคือพระไตรปิฎก อ้าง "ข้าพเจ้าเป็นนักปกิบัติแบบ ไม่รู้หรือ ไม่อาสัย ตำรา ฯลฯ

แล้ว ทั้งหมดทั้งสิ้น (บางส่วน) ก็ มาปรากฎในห้องศาสนา นี้

แล้วผม แบบไหน ? ก็ แบบ ---- นิยม เพ่ง (ฌาน จีนออกเสียง เซน) พระสูตรฝ่ายเถรวาท ที่พระเถระครั้งปฐมสังคายนารักษามา --- ที่คือ ธรรม วินัย ตาม พระไตรปิฎก
(อื่นจากผม ก็ แบบ ของ ท่านนั้นๆ)

--------------------------------------------------------------------------------------------
ประเด็นกระทู้

ใคร ค้าน หรือ ไม่เห็นด้วย กับ ข้อความข้างบน ? ทั้งสองความเห็น นะครับ

ผมค้าน "คุณP2wichai " ไว้ว่า -- "ถ้าเช่นนั้น คุณP2wichai ก็ ยังไม่ควร ตั้งกระทู้นี้ แบบที่ตั้ง"

จากคุณ : เซนเถรวาทปฐมสังคายนานิยม (F=9b)

เขียนเมื่อ : 28 เม.ย. 55 17:54:49