เวลาทำบุญทุกครั้ง อยากให้ทุกท่านอธิษฐานจิตอุทิศบุญแบบนี้ด้วยนะครับ
|
|
เวลาทำบุญทุกครั้ง อยากให้ทุกท่านอธิษฐานจิตอุทิศบุญแบบนี้ด้วยนะครับ
คืออย่าเพิ่งออกความเห็นค้านว่าเห็นด้วยไม่เห้นด้วย เชื่อไม่เชื่ออะไรอย่างไร แค่ขอความช่วยเหลืออยากให้ทำตามนี้เฉยๆ เพราะไม่ว่าคุณจะเห็นด้วยหรือไม่เห็นด้วย แต่ถ้าทำ ผู้ที่รอความช่วยเหลือเขาได้อยู่แล้ว
คือทกุครั้งที่ทำบุญหรือทำสิ่งดีๆ(สิ่งที่ดีทุุกอย่างจัดเป็นบุญทั้งสิ้น) ใส่บาตรก็เป็นบุญ ไหว้พระก็เป็นบุญ เห็นคนอื่นทำดีแล้วยินดีไปด้วยก็เป็นบุญ สวดมนต์ก็เป็นบุญ รักษาศีลก็เป็นบุญ ไหว้พ่อแม่ไหว้ครูยังเป็นบุญเลยครับ บุญไม่ได้จำกัดว่าทำกับศาสนาหรือพระเท่านั้นนะ ทุกครั้งที่ทำบุญเสร็จ ทันที่ทำบุญเสร็จเลยนะ เช่น ถวายสังฆทานปุบทันทีที่ของหลุดจากมือเราไปอย่ที่มือพระที่รับ ให้อุทิศบุญทันที ให้ สำหนักพระยายมราช ใช้สำหรับ "ป้องกันวิญญาณลงอบายภูมิ" ยำว่าใช้สำหรับ ป้องกัน"วิญญาณ" ลง"อบายภูมิ"
ไม่ใช่ป้องกันคนลงนรก ไไม่ใช่ป้องกันคนลงอบายภูมินะครับ(เวลาดวงวิญญาณจะลงนรก แล้วนึกความดีตัวเองไม่ออก นั่นละลงไปเลย แต่ถ้ามีของเราตรงนี้ ให้เขาโมทนา เขาก็รอดนะ แถมมายืนยันด้วย(ความเชื่อส่วนบุคคล))
อีกอย่างก็อุทิศให้ผีเปรต ผีเร่ร่อน สัมประเวสี พวกนี้ตายยังไงก็อยู่ยังงั้น เพราะตายก่อนอายุขัยไปเกิดไม่ได้ ก็จะหิว ตอนตายรู้สึกยังไง วิญญาณก็รู้สึกยังงั้น เช่น ไฟไหม้ตาย ก็ปวดแสบปวดร้อนอย่ยังงั้น(บางทีมีมาหา ปวดแสบปวดร้อนมาให้เราเห็นสภาพเขา ก็อดไม่ได้ที่จะทำสังฆทานยาไปให้ เขาก็หายปวดแสบปวดร้อนไป) ส่วนเทวดา พรหมอุทิศให้เขา เขาก็รับได้นะ(ยกเว้นอรูปพรหม ผมไม่แน่ใจว่ารับได้ไหม) แต่พวกนี้ผมอุทิศให้ไม่บ่อยเท่าสองพวกข้างต้น ไม่ใช่เลือกที่รักมักที่ชัง แต่้ถ้าเรามีกำลังจำกัดเราก็อยากให้คนพ้นทุกข์ก่อนถูกไหม (ยกเว้นเทวดานางฟ้าพรหมท่านที่กำลังจะหมดบุญแล้วจะดิ่งลงอบายไปก็จะอุทิศให้เขาพร้อมๆกับพวกข้างต้น)
การอุทิศบุญแบบนี้ บุญเราเองก็ไม่ได้หาย แถมแบ่งให้ผูือื่นด้วย ทำให้เขาหายทุกข์ ถ้าสุขก็สุขยิ่งๆขึ้นไป(ถ้าอุทิศให้เทวดา หรือผู้อยู่ในสุคติภพ) แถมยังได้บุญเพิ่มอีกด้วย ตัวเราเองน่ะ แต่ย้ำว่าต้องอุทิศทันทีที่ทำเสร็จ เช่นใส่บาตรปุบ ของหลุดมืออุทิศปั๊บ
ดังนั้นถ้าคุณทำบุญเฉยๆ ไม่ได้ทำให้ญาติอะไร ก็อยากให้อุทิศแบบนี้ดวยครับ เพราะบุญแต่ละหนที่เราทำ อานิสงห์ กุศลมันมีจำกัด ช่วยวิญญาณเขาได้จำกัด บางทีถ้าอยากช่วยให้เยอะๆ คนๆเดียวมันทำไม่ทัน ช่วยได้ไม่มากพอ เหมือนสังฆทานเป็นข้าวหนึ่งกล่อง ทำไปบุญมันเยอะจริง ยิ่งเรามีศีลห้าครบทำปุบ กำลังบุญเหมือนเป็นข้าวแสนกล่อง(เทียบให้ฟังเฉยๆ ให้เห็นภาพว่ามันเยอะ) ถ้าเรากินบุญตัวเองคนเดียวคงหลายชาติจนไม่เห็นจุดสิ้นสุด(ดังพระพุทธเจ้าบอกอานิสงฆืของสังฆทานมากจนมองไม่เห็นว่าหมดที่ชาติไหน) แต่ถ้าให้วิญญาณในโลกนี้กิน ก็ได้แค่แสนดวง ถ้าคนละกล่อง มันไม่พอครับ
ดังนั้น ช่วยๆกันหน่อยนะครับ เชื่อไม่เชื่ออีกเรื่องนะ แต่ขอให้ทำ อย่างน้อยยคุณไม่เสียอะไรเลย แถมได้ช่วยคนอื่นด้วย จากประสบการณ์ตรงของตัวเองด้วยความเคารพ ถ้าเป็นผีเร่ร่อนเขามาขอให้ช่วยบ่อยๆ ช่วยแล้วบางคนก็มาขอบคุณ มายืนยันว่าได้รับ ดวงวิญญาณที่จะตกนรกเหมือนกัน เขาก็มายืนยันนะว่าเกือบแล้วเกือบตกแล้ว ขอบคุณมาก
จริงๆเรื่องแบบนี้มันรู้เฉพาะบุคคล พูดออกมาต้องมีบ้างแหละ ที่หาว่าบ้า บ้าแน่ๆ แต่ผมชั่งน้ำหนักดูแล้ว โดนหาว่าบ้าบางทีมันก็หงุดหงิดทุกข์ไม่ได้มากอะไร แต่วิญญาณที่จะลงนรก ทุกข์สาหัสกว่ามาก นานกว่ามาก อย่าว่าแต่นรกเลย แค่อบายก็แย่แล้ว(อบาย=เปรต อสูระ นรก สัตว์)
ปล.ช่วยกระจายให้คนอื่นรู้ด้วยก็ดีนะครับ ถ้ามีข้อสงสัยอะไรว่าผมหวังอะไรหรือเปล่า ก็ขอให้คุณตรองดูดีๆว่า คุณทำเองอุทิศเอง ผมไม่ได้มีผลประโยชน์อะไรที่จะได้นะ แค่หวังว่าจะช่วยเพื่อนร่วมโลก ก็แค่นั้นครับ.. เพราะมันง่ายมากที่จะทำ แค่คุณให้อาหารหมา หรือทำดีอะไรก็ได้ แล้วอุทิศเท่านั้นเอง
ส่วนถ้าสงสัยว่าป้องกันลงได้ยังไง ปกติเวลาจะลงนรก ถ้านึกถึงความดีตัวเองได้ก็รอด แต่ถ้านึกไม่ได้ก็ลง ก็เลยอาศัยบุญตรงที่เราอุทิศให้เนี่ย ให้เขา"โมทนา"(หนึ่งในบุญกิริยาวัตถุ10) เขาก็จะรอดเลยครับ ตามนี้
แต่ถ้าลงนรกไปแล้ว อุทิศให้ตายวิญญาณดวงนั้นก็รับไม่ได้ ยกเว้นแต่นรกชัน้บนๆที่จะออกมารับได้ในวันพระเท่านั้น(จำไม่ได้ว่าวันพระปกติหรือวันพระใหญ่ๆอย่างวันเข้าพรรษา วิสาข หรืออะไร จำไม่ได้จริงๆว่าวันไหน เขาบอกจะหน้าหลังวันพระอย่างละหนึ่ง รวมเป็นสามวันที่นรกชั้นบนๆวิญญาณจะรับบุญได้) ดังนั้นวิญญาณถ้าลงนรกไปแล้วเนี่ย ถ้าไม่ใช้กรรมให้หมดวาระกรรมตัวเอง ก็ต้องนึกถึงความดีที่ตัวเองทำไว้ให้ได้ ถึงจะหลุด แต่ในที่ๆทุกข์อย่างเดียวแบบนั้น แทบไม่มีเลยที่จะนึกถึงความดีออก เพราะมันทุกข์
แก้ไขเมื่อ 26 มี.ค. 55 09:06:46
แก้ไขเมื่อ 26 มี.ค. 55 08:55:37
จากคุณ |
:
จักรพรรดิแดนรักทหารErosPhoenix
|
เขียนเมื่อ |
:
26 มี.ค. 55 08:47:09
|
|
|
|