ความคิดเห็นที่ 1 นิพพานช่วยให้หนีได้ ถ้าไม่บาปหนัก (อนันตริยกรรม) แต่ขนาดพระองคุลีมาล ท่านเป็นพระอรหันต์แล้ว ท่านก็ยังต้องได้รับความทรมาณทางร่างกาย ถูกชาวบ้านเอาหินขว้าง เพราะไปฆ่าเขาไว้เยอะ ในชาติเดียวกันนั้น ก่อนจะละสังขารและไม่ต้องมาเวียนว่ายตายเกิดอีกต่อไป จากคุณ : KONICHIWA เขียนเมื่อ : 26 มี.ค. 55 10:48:07

ความคิดเห็นที่ 2 ขออภัย เสียใจ กลับตัว ไม่ทำซ้ำอีก จากคุณ : เดอะลิง เขียนเมื่อ : 26 มี.ค. 55 11:12:21

ความคิดเห็นที่ 3 เอาแก้วโยนขึ้นฟ้าแรงๆ แล้วถามว่าทำอย่างไรไม่ให้แก้วแตก จากคุณ : Humandroy เขียนเมื่อ : 26 มี.ค. 55 11:15:03

ความคิดเห็นที่ 4 ขอปูเสือ นังกินแกงแพะก่อนนะ  เพราะผู้สร้างอนุญาตให้เชือดสัตว์บางชนิดสำหรับรับประทานได้ไม่บาป  ถ้าคุณซามูไรหมูตอนคิดว่ามันเป็นสิ่งที่โหดร้ายทารุนก็ไม่ต้องกินเนื้อนะครับ เพราะการเชื่อดแบบนี้โดยวิธีการตัดหลอดเลือดและหลอดลมให้ขาดอย่างรวดเร็วเป็นวิธีการเชื่อดแบบมารตฐานที่ไม่โหดร้ายวิธีหนึ่งที่โรงเชื่อดเข้ายอมรับกัน ไม่เหมื่อนบางวัฒนธรรมซึ่งใช้วิธีการตีหัว หรือแทงให้เหลือดของหมู่ค่อยๆใหลออกอย่างช้าๆแล้วเอาถ้วยมารองเพื่อใช้ปรุงอาหารซึ่งสัตว์จะทรมานมาก แก้ไขเมื่อ 26 มี.ค. 55 13:02:17 จากคุณ : ใจนิ่ง เขียนเมื่อ : 26 มี.ค. 55 11:44:53

ความคิดเห็นที่ 5 นิพพานช่วยได้ จากคุณ : สัมมาอรหังอิติปิโสนะโมพุทธายะ (NetPop) เขียนเมื่อ : 26 มี.ค. 55 11:51:06

ความคิดเห็นที่ 6 ไร้สาระจริงๆ กระทู้นี้ จากคุณ : ศรัทธาพลัง เขียนเมื่อ : 26 มี.ค. 55 12:01:55

ความคิดเห็นที่ 7 ครานี้โดนคริสต์ด้วย มีเพื่อนแล้ว ^^ จากคุณ : Ms.Kohlanta เขียนเมื่อ : 26 มี.ค. 55 12:18:18

ความคิดเห็นที่ 8 โพสผิดคลิบ แก้ไขเมื่อ 26 มี.ค. 55 12:21:03 จากคุณ : ใจนิ่ง เขียนเมื่อ : 26 มี.ค. 55 12:20:15

ความคิดเห็นที่ 9 การขึ้นกล่าวคุตบะหHajjประจำปี  2011   ที่มีการแปลเป็นภาษาอังกฤษในปัจุบัน เพื่อให้มุสลิมที่มาทำฮัจจากหลากหลายชนชาติทั่วโลกที่เข้าใจภาษาอังกฤษได้เข้าใจความหมาย ปล.เราไม่ได้ลงทุนเดินทางไปทีกะบะเพื่อจูบหินดำเพื่อที่จะได้รับความประเสริทจากหินดำเพราะถ้าใครคิดแบบนั้นแทนที่จะได้บุญจะได้บาป(และเข้าขายตกศาสนา)กลับมาแทนเพราะเป็นการตั้งภาคี การจูบเป็นส่วนหนึ่งของรูปแบบที่ท่านศาสดาเคยกระทำไม่ได้หมายความหินดำจะมีความสามารถให้คุณให้โทษ เพราะผู้ที่สาารถให้คุณให้โทษมีเพียงผู้สร้างเท่านั้น ส่วนสาเหตที่ท่านศาสดาจูบนั้นมุสลิมไม่ทราบไม่มีบันทึกไว้เพราะคนในสมัยนั้นไม่มีใครถามท่านศาสดา Hajj Khutbah (2011) 1432 by Sheikh Abdulaziz with English Translation. จากคุณ : ใจนิ่ง เขียนเมื่อ : 26 มี.ค. 55 12:22:00

ความคิดเห็นที่ 10 ตอบข้อ 4 ครับ เพราะแม้แต่อิสลามที่มีเตาฮบัตได้ ก็มีเขียนไว้ชัดเจนว่า ในวันสุดท้าย ชั่วดีแม้เพียงเท่าเร้นไรก็จะโดนชั่ง จากคุณ : itoursab เขียนเมื่อ : 26 มี.ค. 55 13:51:29

ความคิดเห็นที่ 11 ถ้าผู้ใดคิดว่า ท่านสามารถละ โลภ โกรธ หลง ละ รูป รส กลิ่น เสียง และอารมณ์ทุกชนิดได้จริง ก็จงพยายามด้วยกำลังของท่านต่อไป แต่หากท่านใดคิดว่าท่านต้องการเป็นปุถุชนธรรมดาที่ต้องการชื่นชมกับชีวิต กับธรรมชาติ มีอารมณ์สุนทรีย์กับสรรพสิ่ง และต้องการดำเนินชีวิตอย่างคนทั่วไปที่ไม่ทั่วไป คือ อยู่ในโลกแต่ไม่ให้โลกอยู่ในเรา...วิถีสำหรับศาสนาทั่วไปของคนไทยส่วนใหญ่อาจจะไม่ใช่คำตอบสำหรับท่าน แก้ไขเมื่อ 26 มี.ค. 55 14:27:26 จากคุณ : ดำมอมแมม เขียนเมื่อ : 26 มี.ค. 55 14:14:44

ความคิดเห็นที่ 12 ตอบ คห. 3 คุณHumandroy เอากาละมั้งใหญ่ๆ ใส่น้ำให้เต็ม มารองไว้ครับ จากคุณ : ซามูไรหมูตอน เขียนเมื่อ : 26 มี.ค. 55 14:42:29

ความคิดเห็นที่ 13 มนุษย์ทำบาป แต่กลับไม่อยากรับผล พระเจ้าก็ไม่อาจช่วยได้ ครับ ควรยอมรับความจริง เราทุกคนเกิดจากการวิวัฒนาการ สิ่งนี้เองทำให้เราหลากหลาย มีชั่วมีดีปนๆกันไป จากคุณ : mce เขียนเมื่อ : 26 มี.ค. 55 15:01:24

ความคิดเห็นที่ 14 . . .  มนุษย์ผู้เคยทำบาป แต่กลับไม่อยากรับผล สิ่งใดจะช่วยได้อย่างยั่งยืนแท้จริง? . . . วิธีที่ยอดนิยม คือ โบ้ยไปให้ พระเจ้า รับแทนไป เพราะเป็นประสงค์ของพระเจ้า ที่ดลใจ ให้กระทำไปเช่นนั้น เหมือนใครหนอ . . . ทำคลิป  on liar ขึ้นยูทูป   พอโดนจับได้ไล่ทัน ก็โยนบาปไปให้พระเจ้าซะ    . . .  ก้อ หมดเรื่อง   . จากคุณ : AvijJA เขียนเมื่อ : 26 มี.ค. 55 15:23:50

ความคิดเห็นที่ 15 การตำหนิติเตียนผู้อื่น ถึงเขาจะผิดจริงก็เป็นการก่อกวนจิตใจตนเองให้ขุ่นมัวไปด้วย ความเดือดร้อนวุ่นวายใจที่คิดตำหนิผู้อื่นจนอยู่ไม่เป็นสุขนั้น นักปราชญ์ถือเป็นความผิดและบาปกรรม ไม่มีดีเลย จะเป็นโทษให้ท่านได้สิ่งไม่พึงปรารถนามาทรมานอย่างไม่คาดฝัน การกล่าวโทษผู้อื่นโดยขาดการไตร่ตรอง เป็นการสั่งสมโทษและบาปใส่ตนให้ได้รับความทุกข์ จึงควรสลดสังเวชต่อความผิดของตน งดความเห็นที่เป็นบาปภัยแก่ตนเสีย ความทุกข์เป็นของน่าเกลียดน่ากลัว แต่สาเหตุที่ทำให้เกิดทุกข์ ทำไมพอใจสร้างขึ้นเอง หลวงปู่มั่น ภูริทัตโต วัดป่าสุทธาวาส อ.เมือง จ.สกลนคร ที่มา : หนังสือ ขันธะวิมุติสะมังคีธรรมะ จากคุณ : หมาชายหาด เขียนเมื่อ : 26 มี.ค. 55 15:51:04

ความคิดเห็นที่ 16 ศาสนาคริสต์ พระเยซูคือบุตรของพระเจ้า เพื่อไถ่บาปแทนมนุษย์ทุกคน ที่เชื่อว่าพระเยซูคริสต์คือพระผู้ช่วยให้รอด แล้วความบาปทั้งหมดของคุณจะได้รับการอภัยจากพระเจ้า อาจจะฟังดูแล้วขัดๆนะครับ ว่าคนทำบาปแล้วไม่ได้รับผลของการกระทำ จะเป็นไปได้อย่างไร ? พระเจ้าเราเรียกว่าพระบิดา ก็คือพ่อของเรา ซึ่งเป็นพ่อที่รักลูกมากที่สุด ถ้าเราทำผิดต่อพ่อ แล้วสำนึกในความผิดของตัวเอง พ่อก็จะให้อภัย โดยลูกไม่ต้องรับโทษ ทั้งหมดนี้ก็เพราะ "ความรัก" ที่เราบอกว่าเป็นสิ่งที่ยิ่งใหญ่ที่สุด การรับน้ำ หรือ จุ่มน้ำ เราก็มีัชื่อเรียกเฉพาะว่าการ "รับบัพติศมา" พิธีนี้ชาวคริสต์จะทำเพียงครั้งเดียว เป็นการประกาศความเชื่อที่คุณมีในพระคริสต์ และคำมั่นสัญญาว่าคุณจะติดตามพระองค์ การรับบัพติศมาไม่ใช่สิ่งที่ช่วยให้รอด และไม่ใช่สิ่งที่ลบล้างความบาป เป็นเพียงก้าวแรกแห่งการเชื่อฟัง จากคุณ : Tailogy เขียนเมื่อ : 26 มี.ค. 55 15:55:56

ความคิดเห็นที่ 17 เรียนชี้แจงมายัง จขกท คุณซามูไรหมูตอน และทุกท่านทุกความเชื่อ   เรื่องการไม่เข้าใจในพิธีบัพติสมาของคริสตชนทำให้ กระทู้โหวดของคุณซามูไรหมูตอน ที่มีฉากพิธีบัพติสมาของคริสตชนเข้าเกี่ยวข้องด้วย  ผมจึงจำเป็นต้องให้รายละเอียดเพิ่มจากส่วนที่ทางจขกท ที่ไม่เข้าใจยังพิธีดังกล่าว ยังนำมาเป็นข้อเปรียบเทียบระหว่างแต่ละความเชื่อ ซึ่งเป็นการกระทำที่ไม่เหมาะสมอย่างยิ่ง   ดังนี้ พิธีบัพติสมาของคริสตชนนั้น  เป็นพิธีอันศักดิ์สิทธิ์ที่สุดที่ทุกคนที่จะประกาศตัวเป็นคริสเตียนโดยสมบูรณ์ต้องก้าวผ่านพิธีนี้ครับ   ทางจขกท กำลังท้าทายกับพระเจ้าของคริสเตียน พระเจ้าของมุสลิม และพระเจ้าของชาวยูดาย   ว่าโดยเนื้อแท้ของของพิธีนี้  ไม่ได้บ่งชี้ว่า คนที่ผ่านพิธีนี้จะไม่ได้รับผลกรรม/การกระทำที่ตัวเองก่อไว้ตามความเชื่อของศาสนาอื่นครับ  ซึ่งผมได้ชี้แจงไว้แล้วใน ความคิดเห็นที่ 4 ของhttp://www.pantip.com/cafe/religious/topic/Y11879099/Y11879099.html จากคุณ : SURAWISH เขียนเมื่อ : 26 มี.ค. 55 16:18:04

ความคิดเห็นที่ 18 โหวต ข้อ 2 ถ้าใช้รูปของชาวฮินดู แย่งกันอาบน้ำใน แม่น้ำคงคา ท่ามกลางซากศพลอยฟ่อง  ชาวคริสต์ คงไม่ปรุงแต่งอะไรมากกระมัง จากคุณ : AvijJA เขียนเมื่อ : 26 มี.ค. 55 20:41:48

ความคิดเห็นที่ 19 ผมแปลกใจ ที่ชาวพุทธ บางคน กลับชอบ เอามาตราฐานของบาป ในคำสอนของพุทธ มาวัด ว่าสิ่งที่คริสต์ ทำแบบนั้นเป็นบาป แล้วเอาสิ่งที่พุทธ สอนมาตัดสินศาสนาอื่น ลองผม เอามาตราฐาน คำสอน ของคริสต์ มาตัดสินพุทธดูบ้าง ท่านจะรู้สึกอย่างไร เช่น ไม่มีนิพพาน ใดๆทั้งนั้น ไม่มีชาติหน้า  มนุษย์ทุกคน ต้องรอการพิพากษา ในวันสุดท้าย  ไม่เว้นแม้แต่ พระอรหันต์ หรือ พระพุทธเจ้า ก็ต้องโดนพิพากษาทั้งสิ้น พระเยซูตรัสว่า “เราเป็นทางนั้น เป็นความจริง และเป็นชีวิต ไม่มีผู้ใดมาถึงพระบิดาได้นอกจากมาทางเรา”   ( ยอห์น 14:6 ) ก็หมายความเลยว่า ถ้าท่านไม่เชื่อในพระเยซูเจ้า ท่านก็ไม่มีสิทธิไปสวรรค์และต้องตกนรก แม้แต่คนที่คิดว่าตนเองบรรลุแล้ว สำเร็จอรหันต์แล้ว ก็ตาม ถ้าวัดจากมาตราฐานของคริสต์ อย่างนี้เป็นต้น คริสต์เราไม่เชื่อใน นิพพาน ไม่เชื่อในชาติหน้า ก็เหมือนที่ท่านไม่เชื่อในพระเจ้านั้นละ แก้ไขเมื่อ 26 มี.ค. 55 22:51:06 แก้ไขเมื่อ 26 มี.ค. 55 22:47:54 จากคุณ : orapronobis เขียนเมื่อ : 26 มี.ค. 55 22:45:32

ความคิดเห็นที่ 20 ยังขาดไปข้อหนึ่งนะครับ   การปล่อยนกปล่อยปลาหรือ เค้าเชื่อกันว่า ช่วย สะเดาะห์เคราะห์กรรม ไอ้ที่เรียกง่ายๆว่าหนีบาปที่เคยกระทำ ได้ดีนักแล แถมยังมีแบบปล่อยต่ออายุขัย ได้อีกด้วย จากคุณ : Yaoharee เขียนเมื่อ : 26 มี.ค. 55 23:59:35

ความคิดเห็นที่ 21 แทนที่จขกท จะเล่นศาสนาเปรียบเทียบ แบบอีแอบ ทั้งๆที่ไม่เข้าใจหลักคำสอนของต่างศาสนาด้วยซ้ำ เอาเวลาไปศึกษาศาสนาตัวดีกว่าไหม หรือถ้าว่างกว่านั้นก็ชี้นำคนของศาสนาตัวให้หลุดพ้น ลองถ้าไล่ตีกับศาสนาอื่นแบบนี้ คงมีนัยยะ อยากให้เกิดอะไรขึ้นในห้องศาสนาละมัง เพราะถ้าสงสัย หรือ สนใจ ถามกันดีๆ ก็มีคนตอบ ไม่ใช่มาเห่าแบบนี้จะพาลให้คนพุทธ กับเพื่อนต่างศาสนาตีกันเสียอีก หรือต้องการให้เป็นแบบนั้นแต่แรก ก็อาจจะใช่ จากคุณ : Yaoharee เขียนเมื่อ : 27 มี.ค. 55 00:05:32

ความคิดเห็นที่ 22 จากคคหท 18 โดยคุณ  AvijJA ผมอยากให้คุณAvijJAช่วยกรุณาชี้แจงความเห็นให้ละเอียดขึ้นอีกครับ  ในข้อความที่ว่า   ถ้าใช้รูปของชาวฮินดู แย่งกันอาบน้ำใน แม่น้ำคงคา ท่ามกลางซากศพลอยฟ่อง  ชาวคริสต์ คงไม่ปรุงแต่งอะไรมากกระมัง  หากชี้แจงไม่ได้  ผมอยากให้ทุกท่านที่เข้าใจภาษาไทยช่วยกรุณาอธิบายข้อความที่เป็นตัวเอนให้อีกครั้ง   เพื่อเปรียบเทียบกับความเข้าใจที่คุณAvijJAได้กล่าวนั้น ขอบคุณมาล่วงหน้าครับ............. จากคุณ : SURAWISH เขียนเมื่อ : 27 มี.ค. 55 07:34:58

ความคิดเห็นที่ 23 ผู้ที่เข้ามา ณ ที่นี้ มีใครไม่เข้าใจภาษาไทยหรือ ? ? ? จากคุณ : AvijJA เขียนเมื่อ : 27 มี.ค. 55 08:28:53

ความคิดเห็นที่ 24 . จากคุณ : AvijJA เขียนเมื่อ : 27 มี.ค. 55 08:43:54

ความคิดเห็นที่ 25 .. จากคุณ : AvijJA เขียนเมื่อ : 27 มี.ค. 55 08:44:33

ความคิดเห็นที่ 26 คุณAvijJA   เดี๋ยวผมทำอะไรเล่นๆให้ดูนะครับจะได้รุ้เจตนาของเจ้าของกระทู้เกรียนรายนี้http://www.pantip.com/cafe/religious/topic/Y11886179/Y11886179.html จากคุณ : Yaoharee เขียนเมื่อ : 27 มี.ค. 55 09:20:37

ความคิดเห็นที่ 27 บางคนก็ทิ้งลูก และภรรยา หนีไปอาศัยใต้ต้นไม้ เพราะคิดว่าจะหนีบาปพ้น ด้วยหรือเปล่า จากคุณ : Carroth เขียนเมื่อ : 27 มี.ค. 55 10:54:21

ความคิดเห็นที่ 28 *** คนหนอคน อัตตา ตัวตน อวดดื้อถือดี ไม่มีที่สิ้นสุดจิงๆ*** เดี๋ยวกัดกันไป เดี๋ยวกัดกันมา ยกความดีของศาสนาตัวเองมาอวด คอยหาจุดบกพร่องของศาสนาอื่น มองเห็นความผิดของคนอื่นเท่าภูเขา แต่มองเห็นความผิดตัวเองเท่ารูเข็ม ตดตัวเองเหม็นไม่เป็นไร แต่ตดคนอื่นเหม็นเต็มที ปากตัวเองเหม็นไม่รู้สึกอะไร แต่ปากคนอื่นเหม็นรู้สึกเต็มๆ ถ้าเหล่ามนุษยชาติยังคงอวดดื้อถือดีกันอยู่ ก็ไม่รู้ว่าจะมีศาสนามาทำไม จึงไม่แปลกใจที่ปัจจุบันนี้มีคนที่ "ไม่มีศาสนา" เพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ ต่อไปอีก 50 ปี ข้างหน้า ศาสนาที่มนุษย์นับถือมากที่สุดในโลก คือ  "ศาสนาตามใจฉัน" จากคุณ : มีดกรีดใจ เขียนเมื่อ : 27 มี.ค. 55 15:05:10

ความคิดเห็นที่ 29 ใครจะ เล่นเกรียนเล่นโกร๋น อะไร ก็เล่นไปเถิด  ไม่ได้เกี่ยวอะไรกับผม จากคุณ : AvijJA เขียนเมื่อ : 27 มี.ค. 55 19:38:45

ความคิดเห็นที่ 30 บางคนก็ มากเมีย เหมาโหล สาวแก่แม่หม้าย ยัน เด็กหญิง ก็คงเพราะคิดว่าจะหนีบาปพ้น ด้วยหรือเปล่า จากคุณ : AvijJA เขียนเมื่อ : 27 มี.ค. 55 19:43:08

ความคิดเห็นที่ 31 เรียนเว็บมาสเตอร์ที่เคารพรักครับ กระทู้นี้เป็นตัวอย่างหนึ่งของความขัดแย้งทางศาสนา ผมว่าควรแยกห้องคุยเป็นศาสนาๆ ไปเลยดีไหมครับจะได้ไม่กระทบกระเทือนกันครับ หรือไม่ก็เปิดห้องใหม่ ให้คนที่สนใจโต้แย้งกันระหว่างศาสนาได้มีเวทีเถียงกันให้เต็มที่ครับ จากคุณ : สติ เขียนเมื่อ : 27 มี.ค. 55 22:59:25

ความคิดเห็นที่ 32 ไม่ใช่หรอกครับ มนุษย์ที่ดีต้องมีความรับผิดชอบทั้งแก่ตนเอง ครอบครัว และมนุษยชาติ มิใช่หนีออกจากบ้าน งานการไม่ทำ โคตรตัวเอง ตายโหงยกโคตร ช่วยอะไรไม่ได้ ก็โยนให้เวรกรรม แล้วตัวเองก็นั่งกินข้าวฟรีใต้ต้นโพธิ์ คงคิดว่าจะหนีทุกข์พ้นละมั๊ง แบบนี้ใช้ไม่ได้นะครับ แบบนี้สิเรียกว่า อวิชชา จริงไหม อวิชชา? แก้ไขเมื่อ 28 มี.ค. 55 07:14:25 จากคุณ : Carroth เขียนเมื่อ : 28 มี.ค. 55 07:13:58

ความคิดเห็นที่ 33 มนุษย์ที่ดีต้องมีความรับผิดชอบทั้งแก่ตนเอง ครอบครัว และมนุษยชาติ ด้วยการ ทำตัว เกาะสาวแก่หากิน  เป็นเฒ่าตัณหากลับ หลอกฟันเด็ก แต่งนิทานหลอกคนโง่ ให้ตะโกนเชิดชู อ้าหล่า ๆ ๆ ๆ ๆ  แล้วไปฆ่าผู้ที่เห็นต่าง ไม่ยอมเชื่อฟัง แล้วตัวเอง ก็นั่งกระดิกเท้า รอสาวก ประเคนเด็กหญิงมาให้กินฟรี แบบนี้คงใช้ได้นะ แบบนี้สิ เรียกว่า ชาร์โรท หรือ เปล่า ชาร์โรท ? ? ? จากคุณ : AvijJA เขียนเมื่อ : 30 มี.ค. 55 09:46:42

ความคิดเห็นที่ 34 ไม่ใช่นะครับ มนุษย์ที่ดีต้องรับผิดชอบต่อตนเอง และครอบครัว และมนุษยชาติ ด้วยการทำงานหาเลี้ยงครอบครัวสิครับ ถึงจะมีฐานะ ก็ยังทำงานครับ ไม่ได้เกาะใครกิน และไม่ได้เดินไปขอทานใครเขากิน แถมยังเรียกคนมากราบไหว้ตัวเองด้วยนะ ไปเรียกให้โคตรพ่อโคตรแม่ตัวมากราบไหว้ด้วยนี่ แต่พอโคตรเหง้าที่เรียกมากราบไหว้ โดนฆ่าล้างเมือง ก็นิ่งดูดาย ไปขอทานเมืองอื่นต่อไป เอ่อ แล้วที่สำคัญ ไม่แต่งนิทานหรอกใคร ว่าตัวเองโคตรเก่ง เหาะเหินเดินอากาศไปทรมาน เทวดาหลงผิดด้วยนะ เก่งขนาดนั้น ทำไมโคตรตัวเองจะตาย ช่วยอะไรไม่ได้ซะล่ะ? คนที่ดี ต้องเป็นครูที่ดีนะครับ ต้องเป็นแบบอย่างที่ดีในการดำเนินชีวิต เวลาใครไม่เชื่อก็ปล่อยเขาไป ไม่ใช่แค่ไม่ฆ่า แต่ต้องอ่อนโยนกับผู้ที่คิดต่าง ไม่ใช่ แย่งลาภสักการะ เหมือนหมาแย่งชามอาหารแบบนั้น แต่ลืมไป ไม่ทำงานทำการนี่เนอะ ถ้าไม่ทอล์คโชว์ เรียกคนโง่มากราบไหว้ จะเอาอะไรกิน โคตรตัวเองก็ตายโหง ยกโคตร ก็ต้องทอล์คโชว์ ใต้ต้นไม่เรียกศรัทธาหน่อยจริงไหม แบบนี้ไม่ควรเอาเยี่ยงอย่าง เพราะมันอวิชชาไงล่ะ อวิชชา จากคุณ : Carroth เขียนเมื่อ : 30 มี.ค. 55 20:01:26

ความคิดเห็นที่ 35 ชอบกันจังนะ กระทบกระเทียบ แขวะคนอื่นเขาเนี่ย ท่าทางสนุกใช่ไหม จากคุณ : Carroth เขียนเมื่อ : 30 มี.ค. 55 20:09:36