ความคิดเห็นที่ 1 แค่คิดว่าไม่อยากรับผล คิดจะหนีผลที่ทำไว้ ก็น่าจะผิดทางแล้วนะครับ จากคุณ : OnceWakeUp เขียนเมื่อ : 27 มี.ค. 55 09:44:23

ความคิดเห็นที่ 2 ขอลบความเห็นครับ เมื่อสักครู่โพสด้วยอารมณ์ ไม่ดีเลย ไม่ดีเลย แก้ไขเมื่อ 27 มี.ค. 55 10:40:11 จากคุณ : jinandjoy เขียนเมื่อ : 27 มี.ค. 55 10:14:31

ความคิดเห็นที่ 3 ต้องเรียนขออภัยพี่น้องพุทธศาสนิกชนที่มีใจรักสงบ ทุกท่าน การตั้งกระทู้โหวตลักษณะแบบนี้ เพื่อนพุทธศาสนิกชนของท่านได้ทำให้ดูเป้นต้นแบบหลายครั้งหลายหน มีมุสลิมและเพื่อนพุทธบางท่านทักท้วงก้มิได้ใส่ใจคงตั้งซ้ำแล้วซ้ำเล่า เหมือนเจตนาที่จะต้องการเปิดสงครามเย็นกับศาสนาอิสลาม มุสลิมในนี้ไม่เคยก้าวร้าวล่วงเกินจาบจ้วงศาสนาอื่นใดในนี้ก่อน มีแต่พยายามทำให้รอยห่างระหว่างศาสนาแคบลงเพื่อความสมัครสมานสามัคคีในชาติในสังคม เราอดทนอดกลั้นตลอดมาตามแนวทางของท่านศาสดามูฮำหมัด หลีกเลี่ยง นิ่งเฉย แต่กลุ่มเหล่านี้กลับยั่วยุ ได้ใจไม่สมควรค่าและคำนึงถึงคำสอนของบรมศาสดาของพระพุทธเจ้า คนเหล่านี้นอกจากทำให้ผู้อื่นศาสนาอื่นเดือดร้อนรังแต่จะสร้างปัญหาให้สังคมพุทธศาสนิกชนเสียด้วยซ้ำ ครานี้เป็นท่าน Yaoharee มุสลิมของเราตั้งเพื่อเป็นการอวย และเลียนแบบ ตามกระทู้โหวตเกรียนกระแทกศาสนาอิสลามโดยเพื่อนพุทธคนดั่งกล่าว เพราะฉะนั้นผมรนณรงค์พี่น้องมุสลิมทุกท่าน ร่วมกันยกกระทู้นี้เป็นกระทู้แนะนำ ผมได้ทำการโหวตให้เรียบร้อย ต้องขออภัยเป็นอย่างสูงต่อเพื่อนพุทธศาสนิกชนที่เป็นเพื่อนที่ดีของผมตลอดมา เมื่อไม่มีใครห้ามปรามย่อมเป็นสิทธ์ของผมและมุสลิมในนี้ต้องขอปกป้องตนเอง มาวิธีแบบใดก็กลับไปแบบนั้น จากคุณ : พี่จิม (Jimbovy) เขียนเมื่อ : 27 มี.ค. 55 11:18:57

ความคิดเห็นที่ 4 มีเรื่องอยากจะฝากนิดหน่อยครับ.... ถ้าเราไม่พอใจเขา ลองมองเรื่องพวกนี้ให้เป็นธรรมดูซิครับ มันจะให้ผลตรงกันข้าม เราจะรู้สึกโล่งอก ไม่รู้สึกโกรธแค้น ผมว่ามันดีกว่าการเก็บมาเป็นอารมณ์นะ เป็นธรรมาชาติของคนพาลที่คอยจะสร้างความเดือดร้อนไปทั่ว ความสุขของคนพาลคือทำให้คนอื่นเดือดร้อน แล้วมีความสุข เวลาที่เห็นคนอื่นรู้สึกร้อนอกร้อนใจ ถ้าเราเป็นแบบนั้น ก็เท่ากับตกหลุมพรางคนพาล ผมว่ามันไม่ดีน่า เสียท่าเขาเปล่าๆ ปกติแล้วบอร์ดสาธารณะแบบนี้ มันต้องมีคนประเภทตีไข่ใส่ความกัน มันเป็นเรื่องธรรมดาอยู่แล้ว เหมือนจำลองคนในสังคมจริงๆ นั่นแหละ ดีซะอีกจะได้เป็นการทดสอบตัวเรา ว่าจะตอบสนองกับคนประเภทนี้ ยังไงให้ได้ผลดีที่สุด ... สำหรับผมแล้วประเภท ขิงก็ร่า ข่าก็แรง เนี่ย ไม่เคยให้ผลลัพธ์ที่ดีอะครับ มีแต่จะทำให้อะไรๆ มันแย่ลง ความจริงเป็นสิ่งไม่ตาย เรื่องอะไรที่เป็นเรื่องไม่จริง ที่คนพาลยกมากล่าวหา ถ้าเรื่องนั้นทำให้คนเข้าใจผิด เราก็ทำให้มันเข้าใจถูก เอาเรื่องกันเป็นเรื่องๆ ประเด็นต่อประเด็น การแก้ปัญหาโดยใช้อารมณ์แก้เหตุ มันไม่ดี ไม่มีประโยชน์ มีปัญหาอะไรเราต้องใช้ เหตุผล ในการแก้ .... แล้วก็ต้องเข้าใจธรรมาชาติของคนพาลไว้อย่างคือ คนพาลมักใช้อารมณ์ เวลาเราพูดเหตุและผล คนพาลก็มักจะใช้อารมณ์ตอบกลับ ถ้าเราหลงกล ไปใช้อารมณ์ตามคนพาล แล้วการถกปัญหานั้นจะจบลงด้วยดีได้ไง ... ก็ฝากไว้เท่านี้อะครับ จากคุณ : IT Boys เขียนเมื่อ : 27 มี.ค. 55 11:33:30

ความคิดเห็นที่ 5 กระทู้เเบบนี้มาอีกเเล้ว สงสัยเดี๋ยวมียาว จะคอยจับตาคุณ จากคุณ : mce เขียนเมื่อ : 27 มี.ค. 55 11:38:30

ความคิดเห็นที่ 6 คุณ IT Boys สิ่งที่ท่านกล่าวมาผมสนับสนุนเต็มที่ ในสถาการณ์ปกติและตามหลักจิตวิทยา ถุกต้องที่สุดครับ แต่ต้องดูด้วยว่า สังคมตรงนั้นเทคแอคชั่นขนาดไหน สังคมตรงนั้นปกป้องคนดี ไม่อวยกับคนเลวหรือไม่ คนทำดี คนทำในสิ่งที่ถูกต้อง ไม่ได้รับการคุ้มครอง ในขณะที่ปล่อยปละเลยให้คนชั่ว คนพาลกระทำต่อคนอื่น โดยที่นิ่งดูดาย ก็เป็นสิทธ์ของคนที่ถูกละเมิดต้องตอบโต้ ผมเห็นเพียงเพื่อนพุทธ 2-3 ท่านมาห้ามปรามกัน นอกนั้นเงียบหมด หมายความว่าอันใดละครับ แกะดำในศาสนาของท่าน ไม่ห้ามปรามที่ไปทำร้ายผู้อื่น กลับหลับตาข้างเดียวทำเป้นมองไม่เห็น พอเค้าตอบโต้บ้าง ก็มาห้ามปรามฝ่ายที่ถุกกระทำ แล้วความยุติธรรม ความถูกต้องมันอยู่ตรงไหน  "คนชั่วได้ใจ เพราะคนดีเฉยเมยนะครับ" ตราบใดที่ยังไม่มีมาตรการชัดเจนและเป็นรูปธรรม จากเพื่อนพุทธศาสนิกชน ก็เป็นความชอบธรรม ที่มุสลิมจะตอบโต้ด้วยน้ำหนักที่เท่ากัน จากคุณ : พี่จิม (Jimbovy) เขียนเมื่อ : 27 มี.ค. 55 12:07:51

ความคิดเห็นที่ 7 ไปเตะบอล แก้ไขเมื่อ 27 มี.ค. 55 13:44:31 จากคุณ : Arkkara เขียนเมื่อ : 27 มี.ค. 55 12:51:49

ความคิดเห็นที่ 8 ผมตั้งใจมาคุยกับฝ่ายที่โดนกระทำนี่แหละครับ ถึงได้มาตอบในกระทู้นี้ เรื่องนี้ไม่ใช่เรื่องหลับตาข้างเดียว สาเหตุที่ผมมาโพสในกระทู้นี้ มีสาเหตุหลักๆ อยู่ 3 ข้อครับ 1. ผมไม่เคยเข้าไปอ่านกระทู้อันแรกของคุณซามูไรเขา กระทู้นี้เป็นกระทู้แรก (ในเรื่องคราวนี้) ที่ผมเปิดเข้ามาอ่าน 2. พอมีการพาดพิงไปถึงกระทู้ของคุณซามูไร ผมก็ตามเข้าไปอ่านนะ แต่ครั้นจะไปตอบที่กระทู้โน้นผมก็เห็นว่ามันช้าเกินไป เพราะมีคนมาโพสกระทู้แนวนี้แข่งกับคุณซามูฯ แล้ว ผมเลยเห็นว่ามาโพสที่นี่ทีเดียวไปเลยมันจะดีกว่า 3. อย่างที่ผมบอกตอนแรก ว่าผมตั้งใจมาบอกฝ่ายที่โดนกระทำนี่แหละ ว่า "เวรย่อมระงับด้วยการไม่จองเวร" ผมเห็นว่าคนที่เดือดร้อนมันคือฝ่ายคุณYaoharee ฝ่ายคุณซามูฯ ที่เป็นคนก่อเรื่อง เขาไม่ได้เป็นทุกข์อะไรเลย การที่เราเห็นคนที่เป็นทุกข์มากกว่า เราก็ต้องเข้ามาช่วยคนคนนั้นก่อน ก็ประมาณนี้แหละครับสาเหตุที่ผมเลือกจะมาตอบในกระทู้นี้ก่อน ส่วนกระทู้ของคุณซามูฯ ผมก็ต้องขอโทษจริงๆ เพราะตอนที่เขามาโพสแรกๆ ผมไม่คิดจะเข้าไปในกระทู้ของเขา ไม่ใช่เพราะอยากปิดตาข้างเดียว แต่เพราะคิดว่ามันไร้สาระ เลยไม่คิดจะเข้าไปอ่าน ก็ไม่คิดว่ามันจะทำให้ฝ่ายคุณ Yaoharee  ไม่พอใจอะนะ ... ถ้าตอนนี้ผมกลับไปโพสที่กระทู้เก่าของคุณซามูฯ เพื่อห้ามปรามเขา มันไม่สายเกินไปแล้วหรอครับ? เหมือนเราจะเข้าไปห้ามคนตีกัน แต่เราไปห้ามตอนที่เขาลงมือตีกันไปแล้ว แทนที่จะไปนั่งด่าคนตี สู้ไปดูคนเจ็บไม่เป็นประโยชน์กว่าหรอ? จากคุณ : IT Boys เขียนเมื่อ : 27 มี.ค. 55 12:59:11

ความคิดเห็นที่ 9 ทุกชีวิตเกิดมา ล้วนเป็นเพื่อนร่วมทุกข์ เกิด แก่ เจ็บ ตาย เราควรจะมีความรัก ความเมตตาต่อกัน ให้อภัยซึ่งกันและกัน หากเรากระทำสิ่งต่างๆตามอารมณ์ ก็จะไม่มีวันทำให้โลกนี้สงบสุข เมตตาธรรมค้ำจุนโลก เป็นหลักการของทุกศาสนา แต่มนุษย์กลับใช้โทสะ ความพยาบาท มาล้างแค้น เข่นฆ่า สร้างสงครามระหว่างกัน ไม่มีอะไรดีขึ้นมาเลย มีแต่ความร้อนรุ่ม การทำลายล้าง ความสะใจของผู้กระทำ และความเจ็บแค้นของผู้ถูกกระทำ ผลของการกระทำจะไม่หายไปไหน จะยังคงอยู่และเผาผลาญจิตใจของผู้ที่ได้กระทำสิ่งนั้นแน่นอน ขอร่วมภาวนา และแผ่เมตตาให้กับสัตว์โลกทุกรูปนาม ขอให้เขามีความสุขและสงบในจิตใจ มีสติระลึกถึงความดีงาม ความถูกต้อง การละอายและเกรงกลัวต่อบาป และยังผลให้เขามีชีวิตที่ประเสริฐจวบจนลมหายใจสุดท้ายของเขา จากคุณ : หมาชายหาด เขียนเมื่อ : 27 มี.ค. 55 13:18:47

ความคิดเห็นที่ 10 5555 ขำเลยอ่ะ เข้าใจล้อดีครับ :) จากคุณ : ฮิมาวาริซซัง เขียนเมื่อ : 27 มี.ค. 55 13:19:35

ความคิดเห็นที่ 11 แม้แต่ข้อ 4 เองก็ไม่ทำให้ทุกอย่างจบลงหรอกครับ ทางพุทธ เมื่อทำกรรมบาปก็ต้องรับบาปครับ สำนึกผิดเป็นสิ่งดี และจะไม่ทำอีกก็เป็นสิ่งดี ซึ่งจะเป็นสิ่งช่วยให้ไม่ก่อกรรมใหม่ขึ้น แต่กรรมบาปที่เกิดขึ้นแล้วนั้น สำนึกแล้วก็ยังต้องชดใช้กรรมเหมือนเดิมครับ มันหายไปเลยไม่ได้หรอก ทางกฏหมาย(หลักการอยู่ร่วมกันแบบง่าย) ฆ่าคนตาย สำนึกผิด(สำนึกจากใจจริง ๆ) ก็ยังต้องรับโทษเช่นเดิม จากคุณ : XL_SiZe เขียนเมื่อ : 27 มี.ค. 55 13:33:49

ความคิดเห็นที่ 12 *** คนหนอคน อัตตา ตัวตน อวดดื้อถือดี ไม่มีที่สิ้นสุดจิงๆ*** เดี๋ยวกัดกันไป เดี๋ยวกัดกันมา ยกความดีของศาสนาตัวเองมาอวด คอยหาจุดบกพร่องของศาสนาอื่น มองเห็นความผิดของคนอื่นเท่าภูเขา แต่มองเห็นความผิดตัวเองเท่ารูเข็ม ตดตัวเองเหม็นไม่เป็นไร แต่ตดคนอื่นเหม็นเต็มที ปากตัวเองเหม็นไม่รู้สึกอะไร แต่ปากคนอื่นเหม็นรู้สึกเต็มๆ ถ้าเหล่ามนุษยชาติยังคงอวดดื้อถือดีกันอยู่แบบนี้ ก็ไม่รู้ว่าจะมีศาสนามาทำไม จึงไม่แปลกใจที่ปัจจุบันนี้มีคนที่ "ไม่มีศาสนา" เพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ ต่อไปอีก 50 ปี ข้างหน้า ศาสนาที่มนุษย์นับถือมากที่สุดในโลก คือ  "ศาสนาตามใจฉัน" ****    Mang :-) !!!    I  Saaaaaad!!  **** จากคุณ : มีดกรีดใจ เขียนเมื่อ : 27 มี.ค. 55 15:08:45

ความคิดเห็นที่ 13 ท่านมีดกรีดใจ ไม่ใช่กัดกันไปมา เรามุสลิม เป้นฝ่ายถูกกัดหลายครา ท่านเองก้มิได้ห้ามปรามแต่อย่างใด เราชาวมุสลิมมีความจำเป้นต้องเตะปากหะมาเพื่อป้องกันตนเอง มิให้หมามากัดอีก ด้วย ประโยคนี้ของท่าน ****    Mang :-) !!!    I  Saaaaaad!!  **** แปลว่าอะไรมิทราบครับ เผอิญผมภาษาอังกฤษไม่แข็งแรง แก้ไขเมื่อ 27 มี.ค. 55 17:12:03 จากคุณ : พี่จิม (Jimbovy) เขียนเมื่อ : 27 มี.ค. 55 17:10:46

ความคิดเห็นที่ 14 4. ขออภัย เสียใจ กลับตัว ไม่ทำซ้ำอีก ------ อ่านครั้งแรกดันอ่านเป็น 4. ขออภัย เสียตัว กลับใจ ไม่ทำซ้ำอีก 0_O!! ตกใจเลย ฮะๆ   จะคุ้นกับคำสอนให้ "กลับใจ" ของทางคริสต์ ก็ว่าเอ๊ะทำไมมี "เสียตัว" ด้วย จากคุณ : แมวเก้าแต้ม เขียนเมื่อ : 27 มี.ค. 55 17:16:53

ความคิดเห็นที่ 15 #12 ด่าคุณซามูไรหมูตอนซะแรงทีเดียว แต่ไม่ต้องดุดันขนาดนั้นก็ได้ จะเสียสุขภาพเอา ขอบคุณมากๆครับที่เข้าใจ จากคุณ : Yaoharee เขียนเมื่อ : 27 มี.ค. 55 20:46:04

ความคิดเห็นที่ 16 เวลากรรมส่งผล ถ้ายังไม่นิพพาน อยู่ที่ไหนก็ไม่พ้น พึงทำใจยอมรับและยืดอกพร้อมรับกรรมนั้นเมื่อมาถึง ถ้าทำได้แบบนี้จะปลูกศรัทธา เชื่อมั่นว่ากรรมมีจริง ก็จะเกรงกลัวและละอายต่อบาป ละชั่วทำดี กรรมชั่วใหม่ก็จะไม่สร้างแล้วยังช่วยให้มีใจอาจหาญ ในธรรม ร่าเิริง มากกว่าที่จะมาคอยหวาดกลัวสิ่งที่ล่วง มาแล้วและแก้ไขไม่ได้ พระพุทธเจ้ากว่าท่านจะตรัสรู้ความดีความชั่วทำมาไม่รู้ เท่าไหร่ ไปทั้งสวรรค์ นรก ขึ้นชื่อว่าปุถุชนจะหา ความถูกต้องดีงามร้อยเปอร์เซ็นต์เป็นไปไม่ได้ กรรมใดพลั้งพลาดทำไปแล้ว อย่ามัวแต่ไปคิดไป ติด อย่ามัวแต่โทษตนเอง วัฎฎะมันเป็นเช่นนี้ของมัน ขออย่าทำอนันตริยกรรมก็ยังสำเร็จมรรคผลได้ สามารถบำเพ็ญบารมี สร้างนิสัยปัจจัยให้ตนเองได้ในชีวิตนี้ครับ ... จากคุณ : โอ้ช่อมาลี เขียนเมื่อ : 27 มี.ค. 55 22:29:56

ความคิดเห็นที่ 17 นี่ก็ใช่ ไม่ยอมเลิก http://www.pantip.com/cafe/religious/topic/Y11833190/Y11833190.html จากคุณ : Faraday เขียนเมื่อ : 28 มี.ค. 55 02:24:39

ความคิดเห็นที่ 18 #17 จริงด้วยครับคุณ Faraday ไม่ยอมเลิกรากันจริงๆ คุณซามูไร ไม่รุ้จะตั้งกระทู้ แบบนี้อีกกี่รอบ http://www.pantip.com/cafe/religious/topic/Y11829998/Y11829998.html สงสัยคงคิดว่า ผลโหวตแสดงถึง ความสำเร็จของศาสนาพุทธกระมัง :D ขอบคุณ Faraday ที่ตักเตือนคุณ ซามูไรหมูตอนครับ จากคุณ : Yaoharee เขียนเมื่อ : 28 มี.ค. 55 06:17:53

ความคิดเห็นที่ 19 ไม่มีศาสนาไหนในโลก ที่คนสามารถหนีสิ่งที่ตัวเองกระทำ ไมว่าจะดีและไม่ดี จากคุณ : Yaoharee เขียนเมื่อ : 28 มี.ค. 55 07:04:41

ความคิดเห็นที่ 20 ทำความชั่วเหมือนเติมเกลือ การทำความดีเหมือนเติมน้ำ เมื่อเติมมากพอ น้ำก็จืด เหลือยังอยู่ครบ แต่ว่าไม่มี เรียกว่ามีเหมือนไม่มี อย่างองคุลีมาล มีคิวต้องไปนรก แต่สำเร็จเป็นพระอรหันต์เสียก่อน ดังนั้นการหนีกรรมมีจริง กรรมชั่วมาด้วยความเร็ว 100 กิโลเมตร ถ้าทำกรรมดีมากพอก็อาจพอหนีได้ ยกเว้นจะทำกรรมชั่วหนัก จากคุณ : imanust_261204 เขียนเมื่อ : 28 มี.ค. 55 20:18:19

ความคิดเห็นที่ 21 มารับฟังด้วยคนครับ จากคุณ : orapronobis เขียนเมื่อ : 29 มี.ค. 55 11:35:51

ความคิดเห็นที่ 22 ขอเคลียร์ เรื่องการปล่อยปลา วัฒนธรรมเรื่องการปล่อยปลา เป็นคำสอนของพระอรหันต์ ที่สอนให้สามเณร ที่มีวิบากกรรมอันเป็นเหตุให้อายุสั้น ได้ให้ชิวิตสั้นเป็นทาน เพื่อต่ออายุตัวเอง ใครมองว่า การปล่อยปลา เป็นการสะเดาะเคราะห์ ถือว่าเป็นความเชื่อที่ผิด และการปล่อยปลา ไม่ใข่การแก้กรรม ความหมายที่ถูกต้องที่สุด ของการปล่อยปลา มีหลักคิดอย่างนี้ มนุษย์ มีกรรม ทั้งดี และชั่ว คนที่ทำกรรมเบียดเบียนสัตว์ จะเป็นคนสุขภาพย่ำแย่ คนที่ฆ่าสัตว์ มามากๆ หลายๆชาติ มักได้รับอุบัติภัยอย่างใดอย่งหนึ่ง ถึงขั้นเสียชีวิต บุญที่ทำแล้วย่อมได้ผล แต่บุญล้างบาปไม่ได้ และบาป ก็ล้างบุญไม่ได้ แต่กระบวนการของบุญและบาป ต่างแยกกันส่งผล การปล่อยปลา ให้ชีวิตสัตว์เป็นทาน ชื่อว่าเป็นการให้อายุ บุญจากการปล่อยปลา เป็นการสั่งสมกำลังบุญ ช่วยกีดกันการส่งผลของบาป ให้ล่าช้าออกไป บาปที่ทำไว้ ไม่ได้หายไปใหน แต่เป็นเพราะการทำบุญปล่อยปลาบ่อยๆ ทำให้บุญแห่งความมีอายุยืนได้โอกาสส่งผลก่อน บาปฆ่าสัตว์และเบียดเบียนสัตว์ จะหยุดส่งผลได้กรณีเดียว คือ สัตว์นั้นได้ให้อภัยทาน แผ่เมตตา ให้เป็นอโหสิกรรม แต่สัตว์นั้นจะได้เกิดเป็นมนุษย์ และรู้จักการแผ่เมตตา ก็ต่อเมื่อ ได้รับเมตตาบารมีจากเนื้อนาบุญอุทิศไปให้ แก้ไขเมื่อ 29 มี.ค. 55 12:41:06 แก้ไขเมื่อ 29 มี.ค. 55 12:39:06 จากคุณ : AkALiKo23 เขียนเมื่อ : 29 มี.ค. 55 12:37:29

ความคิดเห็นที่ 23 กร้าก ชอบรูปตุ๊กแกอะครับ แต่จริงนะคนไทยอะไรก็ตีเป็นหวยหมด แง่บๆ จากคุณ : itoursab เขียนเมื่อ : 29 มี.ค. 55 13:43:15