Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com  


 
[[อิสลาม]] อัล-ฟาติฮะห์..."มัสยิดไทย"บนแผ่นดินอเมริกา ติดต่อทีมงาน

อาคารชั้นเดียวสีอิฐริมถนนนอร์ทไซตรัส ในอาซูซาซิตี้ รัฐแคลิฟอร์เนีย สหรัฐอเมริกา ไม่ใกล้ไม่ไกลกับมหานครลอสแอนเจลิส (แอลเอ) หลังนั้น หากมองเลยเข้าไปโดยไม่ได้สนใจอ่านป้ายขนาดใหญ่ด้านหน้า คงไม่มีใครรู้ว่าที่นี่คือ “มัสยิด”

         เพราะอาคารหลังนี้ไม่มี “โดม” และยอดพระจันทร์เสี้ยวกับดวงดาว อันเป็นสัญลักษณ์คุ้นตาของสถาปัตยกรรมแบบอาหรับที่สื่อถึงความเป็นอิสลาม

         ทว่าแม้จะเป็นเพียงอาคารหลังเล็กๆ ทรงสี่เหลี่ยมผืนผ้า แต่บรรยากาศภายในก็ดูโล่งตาและโอ่โถงอยู่ในที...

         
       สิ่งที่สะดุดตาที่สุดเห็นจะเป็นข้อความบนป้ายริมถนนที่เขียนเอาไว้ว่า “มัสยิดไทย อัล-ฟาติฮะห์ มัสยิดไทยแห่งแรกในอเมริกา” ซึ่ง อิหม่ามเราะห์มัต โพยม พยกุล สำทับเพิ่มเติมว่า เป็นมัสยิดไทยแห่งเดียวที่อยู่นอกราชอาณาจักรไทยด้วย!

         การที่กล้าประกาศตัวว่าเป็น “มัสยิดไทย” ทั้งๆ ที่ภาพลักษณ์ของประเทศไทยผูกติดกับพระพุทธศาสนามากกว่าอิสลาม ซ้ำยังเป็น “มัสยิดไทย”ที่ตั้งอยู่ในดินแดนของมหาอำนาจตะวันตก ผู้ประกาศสงครามกับนักรบมุสลิมหัวรุนแรงทั่วโลก และยังเคยตกเป็นเป้าก่อการร้ายครั้งร้ายแรงที่สุดอย่างเหตุการณ์ 911 ย่อมทำให้มัสยิดแห่งนี้มีเรื่องราวน่าค้นหาไม่น้อยทีเดียว


จากพุทธสู่มุสลิม...

         ความน่าอัศจรรย์ประการแรกที่ได้ยินได้ฟังจาก “อิหม่ามโพยม” ในวัยเกษียณจากการทำงาน และทุ่มเทแรงกายแรงใจดูแลมัสยิดแห่งนี้มาเกือบ 20 ปี ก็คือคำบอกเล่าที่ว่า แท้ที่จริงแล้วเขามาจากครอบครัวคนพุทธ และเป็นคนกรุงเทพฯ

         “พ่อกับแม่ผมเป็นพุทธ ผมมีพี่น้อง 6 คน เป็นชาย 3 คน หญิง 3 คน ผมเป็นลูกชายคนสุดท้อง ครอบครัวของผมอยู่ที่สี่พระยา ตอนที่ยังเล็กๆ ก็เรียนหนังสือในโรงเรียนจีนที่สุรวงศ์จนจบชั้น ป.4 จากนั้นก็ย้ายไปเรียนที่โรงเรียนอิสระนุกูลย่านบางรัก และโรงเรียนสันติราษฎร์บำรุงจนจบ ม.8 และเข้าศึกษาต่อที่มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ผมเป็นนักบาสเก็ตบอล เคยได้เสื้อสามารถพระราชทานจากในหลวง ปัจจุบันนี้ผมยังเก็บไว้”

         อย่างไรก็ดี อิหม่ามโพยม ไม่ได้จบธรรมศาสตร์ แต่ชีวิตพลิกผันเพราะน้องสาวชวนให้ไปเรียนต่อที่สหรัฐ ก่อนเหินฟ้าไปต่างแดนได้แต่งงานกับภรรยาที่เป็นมุสลิมซึ่งเป็นคนแถวสี่พระยาด้วยกัน แต่การเข้ารับอิสลามของอิหม่ามโพยมไม่ได้เกิดจากการแต่งงานเหมือนคนพุทธที่ต้องเปลี่ยนศาสนาทั่วไป เพราะเขาเข้ารับอิสลามด้วยความศรัทธาตั้งแต่ก่อนหน้านั้นแล้ว

         “ผมได้รู้จักกับแฟนมาก่อนหลายปี แฟนเป็นมุสลิม เห็นเขาถือศีลอดแล้วรู้สึกประทับใจ จึงตัดสินใจเข้ารับอิสลาม จากนั้นสามปีถึงให้แม่ไปขอ แล้วก็แต่งงานกัน”

       
        ครอบครัวของอิหม่ามโพยมเป็นครอบครัวเล็กๆ มีด้วยกัน 4 คน คือตัวอิหม่าม ภรรยา และลูกสาว 2 คน ลูกสาวคนโตเกิดในประเทศไทย ส่วนคนเล็กเกิดที่สหรัฐ เมื่อบากบั่นมาตั้งรกรากถึงอเมริกา อิหม่ามโพยมก็ไม่ได้ทิ้งการเรียน แต่ยังศึกษาต่อจนจบถึงปริญญาโทด้านการเงิน และทำงานเหมือนคนอื่นๆ กระทั่งเกษียณออกมาเมื่อ 5 ปีที่แล้วเปิดม่านมัสยิดไทย



www.isranews.org

แก้ไขเมื่อ 27 มี.ค. 55 10:35:48

 
 

จากคุณ : Ms.Kohlanta
เขียนเมื่อ : 27 มี.ค. 55 10:11:38




ข้อความหรือรูปภาพที่ปรากฏในกระทู้ที่ท่านเห็นอยู่นี้ เกิดจากการตั้งกระทู้และถูกส่งขึ้นกระดานข่าวโดยอัตโนมัติจากบุคคลทั่วไป ซึ่ง PANTIP.COM มิได้มีส่วนร่วมรู้เห็น ตรวจสอบ หรือพิสูจน์ข้อเท็จจริงใดๆ ทั้งสิ้น หากท่านพบเห็นข้อความ หรือรูปภาพในกระทู้ที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งทีมงานทราบ เพื่อดำเนินการต่อไป



Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com