Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com  


 
เวลาที่มีคนด่าว่าเรา พูดไม่ดีกับเรา ใ้ห้เห็นว่า ... ติดต่อทีมงาน

อรรถกถา ขุททกนิกาย คาถาธรรมบท นาควรรคที่ ๒๓
๒๓. นาควรรควรรณนา              
๑. เรื่องของพระองค์ [๒๓๒]              




              ข้อความเบื้องต้น              
              พระศาสดา เมื่อประทับอยู่ในกรุงโกสัมพี ทรงปรารภพระองค์ ตรัสพระธรรมเทศนานี้ว่า "อหํ นาโคว" เป็นต้น.


              พระศาสดาถูกพวกมิจฉาทิฏฐิด่า          
   
              หลังจากที่พระนางมาคันทิยาไม่อาจทำอะไรๆ แก่หญิง ๕๐๐ มีพระนางสามาวดีเป็นประมุขเหล่านั้นได้" จึงทรงดำริว่า "เราจะทำกิจที่ควรทำแก่พระสมณโคดมให้ได้

              ดังนี้แล้ว ให้สินจ้างแก่ชาวนครทั้งหลายแล้ว กล่าวว่า "ท่านทั้งหลายพร้อมกับพวกผู้ชายที่เป็นทาสและกรรมกร จงด่าจงบริภาษพระสมณโคดม ผู้เสด็จเที่ยวเข้ามาภายในพระนคร ให้หนีไป."

              พวกมิจฉาทิฏฐิผู้ไม่เลื่อมใสในพระรัตนตรัย ได้ติดตามพระศาสดา ผู้เสด็จเข้าไปภายในพระนคร ด่าอยู่ บริภาษอยู่ ด้วยอักโกสวัตถุ ๑๐ ว่า "เจ้าเป็นโจร เจ้าเป็นคนพาล เจ้าเป็นคนหลง เจ้าเป็นอูฐ เจ้าเป็นโค เจ้าเป็นลา เจ้าเป็นสัต].นรก เจ้าเป็นสัตว์ดิรัจฉาน สุคติไม่มีสำหรับเจ้า ทุคติเท่านั้นอันเจ้าพึงหวัง."


              พระอานนท์ทูลให้เสด็จไปนครอื่นก็ไม่เสด็จไป              

              ท่านพระอานนท์สดับคำนั้นแล้ว ได้กราบทูลคำนี้กะพระศาสดาว่า "ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ ชาวนครเหล่านี้ ย่อมด่า ย่อมบริภาษเราทั้งหลาย, เราทั้งหลายไปในที่อื่นจากพระนครนี้เถิด."
              พระศาสดา. ไปไหน อานนท์?
              พระอานนท์. สู่นครอื่น พระเจ้าข้า.
              พระศาสดา. เมื่อมนุษย์ทั้งหลายในที่นั้น ด่าอยู่ บริภาษอยู่, เราจะไปในที่ไหนอีก อานนท์?
              พระอานนท์. สู่นครอื่นแม้จากนครนั้น พระเจ้าข้า.
              พระศาสดา. เมื่อมนุษย์ในที่นั้น ด่าอยู่ บริภาษอยู่ พวกเราจะไปที่ไหนอีกเล่า อานนท์?
              พระอานนท์. สู่นครอื่นแม้จากนครนั้นอีกพระเจ้าข้า.
              พระศาสดา. อานนท์ การทำอย่างนั้นไม่ควร อธิกรณ์เกิดขึ้นในที่ใด เมื่อมันสงบแล้วในนั้นนั่นแหละ การไปสู่ที่อื่นจึงควร, อานนท์ เขาพวกไหนเล่า ที่ด่า?
              พระอานนท์. ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ ชนทั้งหมดจนกระทั่งทาสและกรรมกร ย่อมด่า.


              พระศาสดาทรงอดกลั้นคำล่วงเกินได้              

              พระศาสดาตรัสว่า "อานนท์ เราเป็นเช่นกับช้างที่เข้าสู่สงคราม การอดทนต่อลูกศรที่แล่นมาจาก ๔ ทิศเป็นภาระของช้างที่เข้าสู่สงครามฉันใด, ชื่อว่าการอดทนถ้อยคำที่ชนทุศีลแม้มากกล่าวแล้ว เป็นภาระของเราฉันนั้นเหมือนกัน"

              เมื่อทรงปรารภพระองค์แสดงธรรม ได้ทรงภาษิตพระคาถาเหล่านี้ในนาควรรคว่า :-

                        ๑.   อหํ นาโคว สงฺคาเม     จาปาโต ปติตํ สรํ
                        อติวากฺยนฺติติกฺขิสฺสํ     ทุสฺสีโล หิ พหุชฺชโน.
                        ทนฺตํ นยนฺติ สมิตึ     ทนฺตํ ราชาภิรูหติ
                        ทนฺโต เสฏฺโฐ มนุสฺเสสุ     โยติวากฺยนฺติติกฺขติ.
                        วรมสฺสตรา ทนฺตา     อาชานียา จ สินฺธวา
                        กุญฺชรา จ มหานาคา     อตฺตทนฺโต ตโต วรํ.



                                  เราจะอดกลั้นคำล่วงเกิน เหมือนช้างอดทนต่อลูกศรที่ตก
                        จากแล่งในสงครามฉะนั้น,


                         เพราะชนเป็นอันมากเป็นผู้ทุศีล.


                                  ชนทั้งหลาย ย่อมนำสัตว์พาหนะที่ฝึกแล้วไปสู่ที่ประชุม
                        พระราชาย่อมทรงสัตว์พาหนะที่ฝึกแล้ว, บุคคลผู้อดกลั้นคำล่วง
                        เกินได้ ฝึกตนแล้ว เป็นผู้ประเสริฐในมนุษย์ทั้งหลาย,


                                  ม้าอัสดร ๑ ม้าสินธพผู้อาชาไนย ๑ ช้างใหญ่ชนิดกุญชร ๑
                        ที่ฝึกแล้วย่อมเป็นสัตว์ประเสริฐ แต่บุคคลที่มีตนฝึกแล้วย่อมประเสริฐ
                        กว่าสัตว์พิเศษนั้น.




             อธิบาย
             
              บทว่า ติติกฺขิสฺสํ ความว่า ช้างใหญ่ที่เขาฝึกหัดดีแล้วเข้าสู่สงคราม เป็นสัตว์อดทน ไม่พรั่นพรึงซึ่งลูกศรที่หลุดจากแล่งตกลงที่ตน ชื่อว่า ย่อมทนทานต่อการประหารต่าง  ๆ มีประหารด้วยหอกเป็นต้นได้ ฉันใด, เราก็จะอดกลั้น คือจักทนทานคำล่วงเกิน มีสภาพอย่างนั้น ฉันนั้นเหมือนกัน.

              บทว่า ทุสฺสีโล หิ ความว่า เพราะโลกิยมหาชนนี้เป็นอันมาก เป็นผู้ทุศีล เที่ยวเปล่งถ้อยคำเสียดสีด้วยอำนาจแห่งความชอบใจของตน, การอดกลั้น คือการวางเฉยในถ้อยคำนั้น เป็นภาระของเรา.


              ในกาลจบเทศนา มหาชนแม้ทั้งหมดนั้น ผู้รับสินจ้างแล้วยืนด่าอยู่ในที่ทั้งหลาย มีถนนและทางสามแยกเป็นต้น บรรลุโสดาปัตติผลแล้วดังนี้แล.

              เรื่องของพระองค์ จบ.              



**********************

ที่มา : อรรถกถา ขุททกนิกาย คาถาธรรมบท นาควรรคที่ ๒๓
๑. เรื่องของพระองค์ [๒๓๒]              
http://www.84000.org/tipitaka/attha/attha.php?b=25.0&i=33&p=1

จากคุณ : Real~Fine
เขียนเมื่อ : 1 เม.ย. 55 12:36:43




ข้อความหรือรูปภาพที่ปรากฏในกระทู้ที่ท่านเห็นอยู่นี้ เกิดจากการตั้งกระทู้และถูกส่งขึ้นกระดานข่าวโดยอัตโนมัติจากบุคคลทั่วไป ซึ่ง PANTIP.COM มิได้มีส่วนร่วมรู้เห็น ตรวจสอบ หรือพิสูจน์ข้อเท็จจริงใดๆ ทั้งสิ้น หากท่านพบเห็นข้อความ หรือรูปภาพในกระทู้ที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งทีมงานทราบ เพื่อดำเนินการต่อไป



Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com