Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com  


 
ธุดงค์ธรรมชัย เปลวสีเงิน จัดให้ ธรรมกายจ๋า ติดต่อทีมงาน

เอ้อออ...มันก็เปลี่ยนบรรยากาศดีเหมือนกัน จากที่เสื้อแดงเคยพล่านไปทั้งเมืองในช่วงเวลานี้ ก็เปลี่ยนเป็น "โล้นห่มเหลือง" ในภาพพระ-เณรพล่านไปทั้งเมืองแทน เป็นโล้นห่มเหลืองที่ "ธรรมกาย-เจ้าสังกัด" ออกมายอมรับแล้วว่า เป็นผลิตผลเขาเอง จะเป็นกลยุทธ์อย่างที่พูดกันว่า "อาณาจักรทักษิณลุย-พุทธจักรธรรมกายรุก" เป็น ๒ กระหนาบ อย่างนั้นหรือไม่ ผมไม่รู้... 

รู้แต่ว่า ทุกงานธรรมกาย "รัฐบาลไฟเขียว" เป็นผมละก็...ไม่แค่ไฟเขียวเฉยๆ แต่จะเขียวปี๋ให้ตลอดเลย เพราะลองสาวกษิณผนึกกับสาวกธรรมกายเป็นเนื้อเดียว เชื่อขนมกินล่วงหน้าได้ทุกเทศกาลเลือกตั้ง คะแนนล้นหีบ! 

นี่ถ้าปล่อยให้ "เผด็จการรัฐสภา" ครองอำนาจต่อไปจนได้เขียนรัฐธรรมนูญ "ฉบับทักษิณ" เสร็จ จับตาดูให้ดี เผลอๆ รัฐธรรมนูญฉบับนำร่องกลืนประเทศนี้จะไม่มีมาตรา ๑๐๐ ในรัฐธรรมนูญฉบับปัจจุบันที่ ห้ามภิกษุ สามเณร นักพรต นักบวช ใช้สิทธิ์เลือกตั้ง! แค่ยก "พระพม่า" เป็นตัวอย่างอ้างอิง ก็พิงกำแพงวัดแก้ได้แล้ว ลองให้พระ-เณรเข้าคูหา กาบัตรเลือกตั้งได้ ก็คงไม่มีใครสามารถห้ามทักษิณเท่ ชนิด ๓๖๐ องศา ร่นเวลาประกาศ "แดงทั้งแผ่นดิน" ได้เร็วขึ้นอีกจมหู?

โล้นห่มเหลืองพล่านกรุงที่ใช้รูปแบบ "พระธุดงค์" เป็นจุดขาย ไปทางไหน-มาทางไหน มีออร์แกไนเซอร์คอยตามปูเสื่อ โรยกลีบกุหลาบใส่ตีนตามรายทาง เกณฑ์ขึ้นรถ แล้วลงไปโชว์อย่างนั้นอีกเป็นช่วงๆนั้น ไม่ว่าคนศาสนาไหน เห็นแล้วเขาก็ขัดตา และรู้ว่า...

นี่มันไม่ใช่ "พระธุดงค์" ผู้ปฏิบัติตามคำสั่งสอนพระพุทธองค์ตามพระธรรมวินัยแน่ๆ! แต่วัดธรรมกายก็อาศัยพระพุทธศาสนาสร้างรูปแบบเพี้ยนๆ เป็นการตลาดในระบบพุทธพาณิชย์ ซ้ำดูเหมือนว่า รัฐบาลเพื่อไทยส่งเสริม-สนับสนุน (งบ) เต็มที่ ผ่านทั้งสำนักงานพระพุทธฯ และหน่วยงานรัฐ 

น่าสังเกตก็คือ ขบวนการนี้นับวันจะ "รุกหนัก" ให้ภาพลักษณ์ธรรมกาย "กลืนคณะสงฆ์ไทย" จนทุกวันนี้ชาวบ้านก็หลงว่า การบวชพระ-เณร แสนรูป-ล้านรูป ที่โฆษณาเหมือนแฟชั่นสินค้าทั่วไปนั้น เป็นศรัทธาบริสุทธิ์พุทธศาสนาจริงๆ และการปิดถนนตักบาตรทั้งในกรุง ตามต่างจังหวัด ถ่ายรูปมาโฆษณาให้คนเห็นได้ฮือฮาว่า ที่พระเหมือนดาราเรียงแถวเป็นพัน-เป็นหมื่นนั้น เป็นพุทธบุตรตามธรรมชาติ เป็นญาติโยมมาใส่บาตรธรรมชาติ และนี่คือพระสงฆ์และรูปแบบทางการศาสนาของคณะสงฆ์ไทยวันนี้

ความจริง..ไม่ใช่เลย!  มันไม่ใช่...หากแต่เป็นคนหัวโล้นห่มเหลืองตามรูปแบบลัทธิธรรมกาย กำลังใช้รูปแบบพิธีกรรมจัดตั้งตามวิชาการตลาด หวังกลืน "วงการสงฆ์ไทย" ท่ามกลางความไม่รู้ ความไม่เข้าใจของชาวบ้านส่วนใหญ่ ลองไปดูหัวหน้าลัทธิธรรมกายก็ได้ เขามีรายการทั้งวิทยุ โทรทัศน์ และดาวเทียม พูดคำก็จ๊ะจ๋า สองคำก็ทำบุญซื้อสวรรค์ชั้นโน้น-ชั้นนี้ได้ มีอัตราสวรรค์ให้เลือกช็อปกันเลย และมีพวกศิษย์หน้าม้าคอยอื้อฮือ..อู้ฮู..เวลาเจ้าลัทธิโฆษณาปาฏิหาริย์สินค้าบุญ

แล้วการนุ่งห่มจีวร เหมือนพระสงฆ์ทั่วไปซะที่ไหน ใครเห็นทีแรกก็ตะลึงว่า เจ้าลัทธินี้บารมีเหลือหลาย เพราะผิวหน้า-ผิวกาย ยังกะพระลาแมร์ พระโบท็อกซ์ ยังไงก็ยังงั้น!? จะว่าเขาไม่พุทธก็คงไม่ได้ แต่เป็น "พุทธเพี้ยน" ชัดเจน การยกย่อง "หลวงพ่อสด" วัดปากน้ำ ภาษีเจริญ เป็นครูบาอาจารย์วิชาธรรมกายนั้น เป็นเรื่องดี เป็นเรื่องประเสริฐ ใครก็เคารพ-นับถือหลวงพ่อสด ผมเองก็ไปวัดปากน้ำบ่อย ที่บ้านมีรูปหลวงพ่อสดติดไว้ในห้องพระรูปเบ้อเริ่ม

แต่ผมเชื่อ หลวงพ่อสดท่านไม่ต้องการให้ลูกศิษย์แตกแขนง แผลงเป็นรูปแบบลัทธิเอาศาสนาไปเคลือบสินค้าชนิดหนึ่งที่ธรรมกายกำลังใช้การตลาดโปรโมตอย่างที่เป็นขณะนี้แน่ๆ อย่างการปิดถนนเป็นช่วงๆ จากปทุมธานี ไปจนถึงวัดปากน้ำ ภาษีเจริญ ระหว่างวันที่ ๔-๖ เมษานี้ อ้างว่าให้พระ-เณร ๑,๕๐๐ รูปเดินธุดงค์ อัญเชิญรูปหล่อทองคำพระมงคลเทพมุนี (หลวงพ่อวัดปากน้ำ)ไปไว้ที่วัดปากน้ำ นั้น 

อยากถามทั้งคณะธรรมกายและรัฐบาลจริงๆ ว่า...คุณทำเพื่อเจตนาอะไร ถ้าไม่มีเป้าหมายซ่อนเร้น "เพื่อ" การณ์ใดสู่อนาคตซักอย่าง? การปิดถนนให้ผู้คนเดือดร้อน และการปิดนั้น เป็นไปคล้ายเพื่อการโฆษณาสินค้าของบริษัทห้างร้าน ซ้ำร้าย....ใช้การศาสนาคลุม ซ้ำวันที่ ๖ เม.ย.ก็เป็นวันจักรี มีพระราชพิธีถวายราชสักการะพระบรมราชานุสาวรีย์ "พระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราชฯ" บริเวณเชิงสะพานพุทธ แต่รัฐบาลและธรรมกายกลับยึดพื้นที่บริเวณนั้นทำการตลาด ปูพรม โรยกุหลาบ ให้โล้นห่มเหลืองแบกกลด ประกาศลัทธิธรรมกาย 
    
เดินจากหน้าโรงเรียนสวนกุหลาบฯ ข้ามสะพานพุทธไปฝั่งธนฯ!? จะปิดถนนเพื่ออัญเชิญพระบรมสารีริกธาตุ อัญเชิญพระพุทธรูปศักดิ์สิทธิ์ คู่บ้าน-คู่เมือง อย่างนั้น เป็นสิ่งประเสริฐที่ประชาชนทั่วไปปีติยินดี เป็นมงคลประเสริฐที่ไม่มีผู้ใดตำหนิ ด้วยใจเปิดรับ แต่นี่ ลำพังรูปหล่อหลวงพ่อสด ซึ่งเป็นพระผู้ประเสริฐ เป็นที่เคารพนับถือของประชาชนทั่วไปก็จริง ธรรมกายซึ่งอ้างว่าเป็นศิษย์สายตรง จะหล่อรูปท่านไปไว้ที่วัด เพื่อกราบไหว้บูชาของสาธุชนทั่วไป นั่นก็ประเสริฐ แต่จำเป็นถึงขนาดต้อง "ปิดถนน" ถึง ๓ วัน ให้ธรรมกายจัดอีเวนต์ ด้วยพรีเซนเตอร์โล้นห่มเหลืองเป็นพันชักแถว กุหลาบโรยตีน เรียกความสนใจจากชาวบ้าน-ชาวเมือง หวังให้ตกอยู่ใต้อิทธิพลการตลาดเช่นนี้มั้ย?

แล้วถ้าวัดอื่น เขาจะหล่อรูปพระผู้เป็นครูบาอาจารย์ ขอปิดถนนใจกลางกรุงเช่นนี้แห่แหน จัดพิธีกรรมเรียกศรัทธาเช่นนี้บ้าง ทั้งรัฐบาล ทั้งสำนักงานพระพุทธฯ ทั้งตำรวจจราจร จะยอมมั้ย?
    
พระเทพวิสุทธกวี เลขาธิการศูนย์พิทักษ์พระพุทธศาสนาแห่งประเทศไทย ท่านให้ความเห็นว่า.......

“ในกรณีธรรมกายถือว่าไม่ใช่การกระทำที่เรียกว่าเป็นการธุดงค์ และไม่มีการปฏิบัติใดที่เกี่ยวข้อง หรือหากจะใช้คำที่นิยมกันในปัจจุบันเรียกได้ว่า 'เป็นเพียงการกระทำเชิงสัญลักษณ์' ที่แสดงออกถึงวัตถุประสงค์ โดยใช้คนหมู่มากเพื่อเรียกความสนใจจากประชาชน 

จากที่เคยพูดคุยกับธรรมกายถึงวัตถุประสงค์ในการปฏิบัตินี้ คือ ต้องการปลุกให้ชาวพุทธตื่นมารับรู้เรื่องพุทธชยันตี 2,600 ปีแห่งการตรัสรู้ธรรม เพราะชาวพุทธมักจะหลับอยู่เรื่อยๆ โดยใช้วิธีการเหล่านี้ เพราะคนเมืองปลุกยากกว่าคนต่างจังหวัด ทั้งๆ ที่รู้ว่าเป็นการกระทำที่ไม่เหมาะสม โดยส่วนตัวเห็นว่า การปฏิบัติในลักษณะนี้มีทั้งด้านดีและด้านลบ เห็นด้วยในวัตถุประสงค์ที่ต้องการให้ชาวพุทธตื่น แต่ไม่เห็นด้วยกับแนวปฏิบัติเพราะเป็นการโชว์ตัวมากกว่า หรือเรียกอีกอย่างว่าเป็นเพียงการสร้างภาพ”

ผมติงเรื่องนี้ไว้ เพราะไม่ต้องการเห็นการตู่พระธรรมวินัย และนำคำสอนพระพุทธองค์ไปดัดแปลงใช้จนผิดเพี้ยน ที่พระพุทธศาสนาสูญหายไปจากอินเดีย และถูกศาสนาอื่น-ลัทธิกลืนไป ก็เพราะเหตุนี้ 

พุทธศาสนาในบ้านเราทุกวันนี้ พูดได้ว่าผู้คนส่วนใหญ่รับรู้ความเป็นพระพุทธศาสนาผ่านพิธีกรรม และผ่านรูปลักษณ์ของใครก็ตามที่โกนศีรษะ-ครองจีวร เรียกว่าเห็นคนหัวโล้น-ห่มเหลืองก็เหมาว่า "เป็นพระสงฆ์" ในพระพุทธศาสนาหมด! ศาสนาจึงเป็นช่องให้คนทรามสอดแทรกเข้ามาแอบอิงหากินง่ายๆ ดังที่เป็นอยู่ ประชาชนทั่วไป เมื่อเห็นตำรวจจับพวกปลอมเป็นพระที่ทำผิดในรูปแบบต่างๆ ก็เรียกเหมาว่าเป็นพระ พวกสื่อก็ใช้ศัพท์ว่า "จับพระขอทาน พระเมาเหล้า พระข่มขืน พระหลอกลวง...ฯลฯ"

ซึ่งความจริงไม่ใช่พระสงฆ์สาวกของพระพุทธองค์ หากแต่เป็นมารศาสนาแฝงเข้ามาบวช อุปัชฌาย์รับซองบวชให้แล้วทิ้งขว้างไม่อบรมให้รู้พระธรรมวินัยบ้าง โหนหัวเอาผ้าเหลืองคลุมตัวเองบ้าง เป็นคนชั่ว-คนเลว เป็นฆราวาส เป็นชาวบ้านที่ปลอมเป็นพระ...ด้วยวัตถุประสงค์อย่างใด-อย่างหนึ่งบ้าง ซึ่งไม่ใช่พระภิกษุสงฆ์ที่แท้จริง แต่ด้วยภาพหัวโล้น ผ้าเหลืองพันกาย ผู้คนเลยเหมาเป็นพระในพระพุทธศาสนาแทบทุกครั้งไป นับเป็นจุดสร้าง "ศรัทธาเสื่อม" ในพระพุทธศาสนาให้กับชาวบ้านที่ยังไม่สามารถแยกแยะในประเด็นนี้ได้

ที่ธรรมกายเกณฑ์คน หรือกวาดต้อนคนเป็นแสน-เป็นล้านมาบวชนั้น ถ้าสอนธรรมจนคนเหล่านั้นศรัทธาด้วยเกิดดวงตาเห็นธรรมจริง ก็น่าอนุโมทนา แต่คิดดู...การบวชพระแต่ละองค์นั้น ต้องใช้เวลาอย่างน้อย ๑ ชั่วโมง/องค์ เอาเป็นว่าบวชหมู่เฉลี่ยองค์ละ ๓๐ นาที กระนั้นก็เถอะ สมมุติบวช ๑๐๐,๐๐๐ รูป ก็ต้องใช้เวลาประมาณ ๕๐,๐๐๐ ชั่วโมง ๑ ปี มี ๘,๗๖๐ ชั่วโมง...........!? แล้ววัดพระธรรมกายปั๊มเอารึไง พรวดเดียวเป็นแสน ใครเป็นพระอุปัชฌาย์ บวชด้วยวิธีไหน อยากทราบจริงๆ ถ้าบวชให้ถูกต้องตามวิธีญัตติจตุตถกรรม ตามพุทธานุญาต ผมต่อให้ใช้เวลาทั้งปี ทั้งวัน-ทั้งคืนไม่เว้น ก็บวชได้ไม่ครบแสน ทั้งอุปัชฌาย์ พระคู่สวด และพระอันดับ หมดแรง "มรณภาพ" ก่อนแหงๆ! แล้วนี่ขึ้นป้ายโฆษณา ทั้งวิทยุ หนังสือพิมพ์ โทรทัศน์ ดาวเทียม บวชพระ ๑,๑๐๐,๐๐๐ องค์ ไม่ต้องพูดถึงคุณภาพ เอาแต่ปริมาณเทียบกับเวลา-สถานที่ จะบวชได้ยังไง บวชแล้วเอาวัดที่ไหนให้อยู่ ที่เจ็บแสบคือ 

ในสังคมที่อิตถีเพศกำลังปวดร้าวชายเกิดก็น้อย แถมส่วนหนึ่งไปเป็นตุ๊ด-เป็นแต๋ว ส่วนหนึ่งไปอยู่ในคุกตะราง อีกส่วนเป็นเด็ก และอีกส่วนเป็นชายชอบชาย แล้วธรรมกายยังกวาดต้อน "บุรุษเพศ" วัยฉกรรจ์ไปอีกตั้ง ๑ ล้านคนเช่นนี้ อยากรู้จริงๆ ไปค้นหาชายผู้มีคุณสมบัติพร้อมบวชมาจากที่ไหน ประเทศไทยมิต้องจัดอัตราส่วนหญิง-ชายในความหมายครอบครัวกันใหม่หรือนี่?!


เรียกได้ว่าจัดเต็มกันเลยทีเดียว 

จากคุณ : ราชมัล
เขียนเมื่อ : 5 เม.ย. 55 01:40:35