Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com  


 
กรรมทันตา โอ้..อินเดีย 7 ติดต่อทีมงาน

โอ้..อินเดีย 7

วันนี้ผมอยากเล่าเรื่องอันเกี่ยวกับ คน  ที่ไปเที่ยวแสวงบุญด้วยกัน
ต้นเหตุทั้งหมดทั้งปวง มาจาก...คุณสุเมธ โสฬศ
ที่ต่อมาผมเคารพนับถือท่านเป็นอาจารย์
ได้เอาใบโพธิ์ จากต้นพระศรีมหาโพธิ์มาให้ แล้วชวนให้ผมลองไปอินเดีย
ภายใน 3 วัน 5 วันหลังจากที่อธิษฐานแล้ว ได้สตางค์มาอย่างไม่คาดฝัน
ก็มาหากลุ่มที่จะไป ขอไปกับใครก็เต็มหมด
สังคมทัวร์นี่ก็เลื่อนแล้ว เลื่อนอีก
ในที่สุดก็ได้ คุณสุเมธ นั่นแหละฝากฝังให้มากับกลุ่มลูกศิษย์ของท่าน
ซึ่งก็เป็นสารพัดหมอจากโรงพยาบาล บางบ่อ
โรงพยาบาลของรัฐ ที่มีแต่บรรดาผู้ป่วยประเภทคนจ๊น จนเกือบทั้งนั้น
คุณหมอทั้งหลายที่มานี่ เป็นแกนนำในชมรมพุทธ ของ รพ.
นอกนั้นก็มี พี่ชายของคุณหมอ ซึ่งเป็นนักภาวนาจากการไฟฟ้า
ซึ่งก็อุปถากแม่ชีท่านหนึ่งจากระยอง ให้ได้มาอินเดียด้วย
แล้วก็มีท่านที่ผมเรียก...พี่มหา
อ้อ...เป็นฆราวาสนะ
ซึ่งพี่มหาเนี่ยะ ท่านอุปถากพระรูปหนึ่งซึ่งเป็นพระป่า ชื่อ... หลวงพ่อเทิด

พูดไปแล้วมีสิ่งหนึ่งที่ผมออกจะแปลกใจตะหงิด ๆ
คือที่มาด้วยกันทริปนี้ 80 คน มีกว่าครึ่งที่ความรู้สึกว่ามัน...คุ้น คุ้น กันยังไงก็ไม่รู้
จะว่าเคยรู้จักกันมาก่อนก็ไม่ใช่ แต่มันเหมือนเคยสนิทกัน ปารถนาดีต่อกัน...
มาเที่ยวนี้ผมได้เข้าใจอย่างซาบซึ้งกับคำว่า...กัลยาณมิตร
โดยเฉพาะแก็งค์คุณหมอนี่แหละ
พวกเค้าเห็นว่าผมเป็นศิษย์อาจารย์เดียวกัน
ก็เลยดูแลผมเป็นอย่างดี ทั้งๆ ที่ไม่เคยเจอหน้าตากันมาก่อนเลย
ช่วยจัดเตรียมสิ่งของสารพัดมาให้ ทั้งหนังสือสวดมนต์ บทสวดมนต์เฉพาะสังเวชนียสถานแต่ละที่
ธูป เทียน ทองคำเปลว แต่แทนที่จะใช้พิมพ์เสนในการปิดทอง
พวกคุณหมอดันไปใช้กาวแท่ง...ยู้ฮู แทนซะนี่
พอถึงสถานที่สำคัญ ควักทองออกมาปิดทีไรผมละขำทุกที
คุณหมอทั้งหลายยังคอยห่วงใยกัน ชักจูงลากพากันไป ปฏิบัติสมาธิ  เจริญสติ ในรูปแบบต่าง ๆ ทุก ๆ ที่
ผมก็พลอยได้รับอานิสงส์ ปฏิบัติฯกับพวกเค้าไปด้วย
ที่พุทธคยา ก็ช่วยกันผลักดันให้ปฏิบัติฯ ได้ตลอดรอดฝั่งทั้ง 2 คืน
บางแห่งยังลากพากันเดินสวดมนต์เวียนรอบพระเจดีย์ ถึง 33 รอบ แน่ะ
แต่บางเรื่องก็ทำอะไรที่ผมนึกไม่ถึงนะ
คือ ถ้าที่แห่งไหนมีรูปเคารพของ...หมอชีวกโกมารภัทร
พวกคุณหมอทั้งหลาย จะรีบกรากเข้าไปกราบไหว้ สวดมนต์ อธิษฐานกันนาน..น...เชียวละ
ก็พอจะเข้าใจนะว่า เป็นที่เคารพอย่างสูงสุดในสายอาชีพของพวกเค้า

ในบรรดาคุณหมอ อันเป็นกัลยาณมิตรของผมนั้น แต่ละคนอายุไม่มากนะ ยังหนุ่มยังสาวเฉลี่ยแค่ 30 กว่า ๆ เอง
แต่ก็มีความแปลกพิสดารอย่างนึกไม่ถึงในสายตาของผม

หัวหน้าแก็งค์นี้คือ...คุณหมอเค็ก สูตินารีเวช
ผ่าตัดทำคลอดเป็นอาชีพหลัก แล้วก็เรื่องภายในของคุณผู้หญิงทั้งหลายด้วย
เธอเป็นประเภทนิ่ง ๆ ดูท่าจะทำบุญสะสมมาเยอะมาก จิตใจสงบ ไม่แส่ส่าย
ค้นคว้าหาข้อมูล คาถาเฉพาะของแต่ละสถานที่
เป็นหัวโจกชวนกันไปทำพิธีสวดเพิ่มพิเศษจนคนอื่น ๆ เค้าสงสัยว่ามีพิธีกรรมลับ ๆ อะไรกัน
ผมก็สงสัย แต่เธอบอกว่า...ฟังท่านอาจารย์วิทยากรสวดไม่ค่อยชัด
กลัวได้บุญน้อย เลยต้องพากันไปสวดเป็นการเฉพาะซ้ำอีกที
โธ่...เป็นพวกย้ำคิดย้ำทำน่ะเอง พาเอาชาวบ้านเขาแตกตื่นไปหมด

คุณหมอปุ๊กกี้ ชาราร่า เป็นหมอฟัน และยังเป็น หมอกระเป๋าเขียว แพทย์อาสาฯ...คนนี้ซิแปลกจริง
ตั้งแต่เด็กๆ ก็ค้นพบว่าตัวเองมีพลังพิเศษบางอย่าง
สามารถเพ่งให้ใครที่ถูกเล็งอยู่หันมาหาก็ได้
แล้วพอโตหน่อยก็ได้รู้ว่า สามารถเห็น...สิ่งที่คนธรรมดาอื่นๆ เค้าไม่เห็นกัน
เห็นวิญญาณ เห็นสัมภเวสี หรือแม้แต่บางขณะก็รับรู้เห็น...เทวดา ด้วย
เธอเล่าให้ฟังว่า บางครั้งเดินทางไปต่างจังหวัด ห้องที่นอนในโรงแรม ยังเจอวิญญาณบ่อย ๆ
เช่นคราวหนึ่ง เป็นผู้หญิงมายืนนิ่งทำหน้าละห้อย และก็มีเด็กมาด้วย
แต่เด็กที่ว่านี่ วิ่งวุ่นวายไปทั่วห้อง...วิ่งอยู่นั่นแหละ วิ่งไม่เลิก
คุณหมอก็นั่งดูอยู่นานแล้วจนเวียนหัว ก็ไม่เลิกซักกะที
ในที่สุดแกต้องดุว่า...ถ้าวิ่งวุ่นวายอย่างงี้แล้วจะนอนหลับได้ยังไง
พรุ่งนี้ถ้าไปทำบุญไม่ไหว ก็ไม่มีบุญจะแบ่งให้นะ...เข้าใจมั๊ย
เท่านั้นแหละ เลิกวิ่ง ไปยืนนิ่งหน้าละห้อยกันสองคน เอ๊ย สองตน
ถ้าผมจำไม่ผิด วันที่ไปวัด...ไทยกุสินารา
มีห้องที่สมเด็จพระเทพฯ เคยมานั่งพัก และมีพระรูปท่านพร้อม พระเก้าอี้ ตั้งอยู่ด้วย
( ขอโทษนะครับผมใช้ศัพท์ถูกหรือเปล่าก็ไม่รู้ )
บรรดาลูกทัวร์บางท่านก็เข้าไปชม พร้อมถ่ายภาพไว้เป็นที่ระลึก
คุณหมอปุ๊กกี้ กับพวกผมเดินผ่านมาเจอ
แกทำท่านิ่งชะงักไปอึดใจ แล้วเผลอพูดออกมาว่า...ห้องนี้มีเทวดารักษา
เท่านั้นและ ลูกทัวร์คนอื่นๆ ที่กำลังชมห้องรีบหันมาถามกันใหญ่
คุณหมอแกเลยบอก...เอายังงี้ เดี๋ยวถ่ายรูปให้เผื่อจะติดท่านเทวดาด้วย
จัดแจงให้คนที่สนใจมาก..ก..ไปนั่งพับเพียบหน้าพระเก้าอี้
แล้วก็เอากล้องของคนนั้นมายกมือขึ้นอธิษฐาน ถ่ายเจ้าตัวเค้าให้
พอย้อนดูในจอกล้อง นอกจากมีรูปคนแล้ว ยังมีบางอย่างเป็นดวง..ดวง...ดวง หลายดวง...ในนั้นด้วย อ่ะ
ผมบอกแกว่า...คุณหมอนี่เจ๋งจริง ๆ
เธอกลับบอกว่า...คนที่เป็นเหมือนอย่างแกนี่มีเยอะนะ แต่เค้าไม่พูดกัน แล้วก็ไม่สนุกหร๊อก
ผมก็สงสัยว่าทำไม
คุณหมอ เธอว่า...มันวุ่นวาย ไม่สงบ ยิ่งรู้มาก เห็นมากก็กลับพาเราทุกข์มาก
วิญญาณลำบากทั้งหลายที่อยากให้เราช่วย แต่เราก็ไม่รู้จะช่วยยังไง...วิบากกรรมของพวกเขาเยอะ
เห็นแล้ว รู้แล้ว ก็เศร้า นะ...เฮ้อ

คุณหมอฝน หมอโรคจิต...จิตแพทย์นะ ไม่ใช่หมอเป็นโรคจิต
คนนี้ดูภายนอกน่าจะปรกติธรรมดาที่สุด เสียแต่แกชอบสงสัยในสภาพจิตของผมอยู่เรื่อย
คุยกันไป หัวเราะกันไป คอยจับผิด คอยวิเคราะห์ตลอดเวลา
ตามประสาหมอโรคจิต

คุณหมอเอ๋ หมอเด็ก...สวยเฉียบ น่ารัก ตาคม ยิ้มหวาน เย็น..น...น
แต่เป็นยิ้ม ที่สายตามองทะลุเข้าไปล้วงในความคิดของคู่สนทนาได้เลย
ผมว่าแกมีดีอยู่ข้างในเยอะแยะ แต่งำประกายไว้
เธอดูมีพลังบางอย่างมากมายซ่อนไว้ เหมือนภูเขาหิมาลัยที่มีหิมะคลุมสวยงาม
แต่ข้างใต้ลึกลงไปนั้น มีภูเขาไฟที่อาจจะทะลักทลายออกมาเมื่อไหร่ก็ได้

คุณหมอโอ๋ อายุกรรม...ชายหนุ่มรูปหล่อ หุ่นดี หน้าอ่อนกว่าวัยซัก 10 ปี
เป็นคนที่กำลังมีปัญหามากที่สุด...แกสับสน
คุณหมอแกกำลังสงสัย และไม่แน่ใจอย่างที่สุด
แกเคยเชื่อความรู้ทางวิทยาศาสตร์ และการแพทย์แผนฝรั่ง
เชื่ออย่างฝังหัวว่าสิ่งที่แกร่ำเรียนมาแทบตายตลอดชีวิตนั้น
...ถูกต้องที่สุด พิสูจน์ได้ด้วยวิชาการ เป็นเหตุเป็นผล
แต่พอมาสนใจธรรมะ ของ...พระพุทธเจ้า
ก็เริ่มมองเห็นว่า ความรู้ที่มีอยู่เดิมนั้น ทำได้แค่...บรรเทาทุกข์ทางกาย ชั่วครั้งชั่วคราว
ที่แย่กว่านั้นคือ วิชาการทางวิทยาศาสตร์ก็ไม่แน่ไม่นอน
วันนี้ว่าเป็นอย่างนี้ ต่อมาก็มีการหักล้างกันเองว่าเป็นอย่างนั้น
วันนี้ถูกต้อง แต่พรุ่งนี้อาจจะผิดก็ได้
การแพทย์แผนฝรั่ง รักษาได้แต่กาย ไม่สามารถรักษาจิตใจ
แต่ธรรมะของ พระพุทธองค์ ท่านเป็นอกาลิโก
จริงแท้ทั้งอดีต ปัจจุบัน ถึงอนาคต
เป็นความรู้ที่เป็นเหตุ เป็นผลยิ่งกว่า
สามารถรักษาจิตใจ ซึ่งเกี่ยวพันกับร่างกาย...จิตเป็นนาย กายเป็นบ่าว
จิตใจที่ดี มีความคิดเห็นที่ถูกต้อง หน้าตาแจ่มใส ร่างกายก็แข็งแรงตามไปด้วย
ที่สำคัญที่สุด พระธรรมคำสั่งสอนที่มีมากมาย แต่เมื่อดูโดยสรุปรวมย่นย่อที่สุดแล้วปฏิบัติง่าย
คีย์สำคัญ คือ...สติ เท่านั้นเอง
ที่คุณหมอเค้าสับสน ก็เพราะง่าย ๆ แค่นี้เองเหรอที่ทำให้...พ้นทุกข์ได้
ที่ผ่านมาทุกอย่างแกมัวหาคำตอบ แต่พอไปปฏิบัติสมาธิกรรมฐานกันที่พุทธคยา คืนแรกทั้งคืนแล้ว
เช้าวันนั้น คุณหมอบอกกับผมว่า...บางครั้งคำตอบก็ไม่ช่วยอะไร
ซึ่งบอกตรงๆ นะครับ จนถึงวันนี้ผมก็พลอยสับสนกับแกไปด้วย
มันแปลว่าอะไร อ่ะ

เมื่อนั่งคุยกันก็พอสรุปได้ความว่า
พวกคุณหมอ พบเห็น ความเกิด ความแก่ ความเจ็บป่วยไข้ ทุกข์ทรมาน
และความตาย
อย่างมากมายและเห็นอย่างใกล้ชิด...ทุกวัน
ทำให้เกิด...ธรรมสังเวช
แล้วก็ต้องการหาทางแก้ไข หาคำตอบ ตามประสาคนฉลาดมีปัญญามาก
ในที่สุดก็พบว่า สิ่งที่พระพุทธเจ้า ท่านค้นพบนั่นแหละ...ดีที่สุด
แต่ผมว่า พวกคุณหมอกลุ่มนี้ท่านทำบารมีสะสมมามากแต่ชาติปางก่อน
ทำให้มีปัญญามองเห็น อนิจจัง ทุกขัง อนัตตา ที่ไม่สามารถควบคุมได้
เลยลุกขึ้นมาลุยหาทางออกจากทุกข์ให้ได้
ทั้งยังเคยทำบุญสร้างกุศลร่วมกันหลาย..หลาย ชาติมาแล้ว
ผมดีใจมากเลยนะ ที่ได้รู้จักกับคนเหล่านี้

ยังมีอีกหลายท่านที่น่าสนใจ จนอยากเล่าให้ฟัง
แต่ไม่รู้จะชอบกันหรือเปล่า...


อนณ 089-995-9377
tobeteam@yahoo.com

จากคุณ : tobeteam
เขียนเมื่อ : 8 เม.ย. 55 01:06:57




ข้อความหรือรูปภาพที่ปรากฏในกระทู้ที่ท่านเห็นอยู่นี้ เกิดจากการตั้งกระทู้และถูกส่งขึ้นกระดานข่าวโดยอัตโนมัติจากบุคคลทั่วไป ซึ่ง PANTIP.COM มิได้มีส่วนร่วมรู้เห็น ตรวจสอบ หรือพิสูจน์ข้อเท็จจริงใดๆ ทั้งสิ้น หากท่านพบเห็นข้อความ หรือรูปภาพในกระทู้ที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งทีมงานทราบ เพื่อดำเนินการต่อไป



Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com