ความคิดเห็นที่ 1 เกียรติยศ  ศักดิ์ศรี เป็นสิ่งลวงตา น่ะคุณ จากคุณ : x-philes เขียนเมื่อ : 8 เม.ย. 55 14:41:20

ความคิดเห็นที่ 2 คำตอบไม่ดีครับ ปลายปิดเกินไป จากคุณ : Arkkara เขียนเมื่อ : 8 เม.ย. 55 14:56:44

ความคิดเห็นที่ 3 คนมีเกียรติเท่านั้นจึงมอบมันให้แก่ผู้อื่นได้ แง่บๆ จากคุณ : itoursab เขียนเมื่อ : 8 เม.ย. 55 15:25:25

ความคิดเห็นที่ 4 เลือกข้อ 1 ปล่อยข้อ 2 ให้ จขกท เก็บไว้กับตัวครับ จากคุณ : Faraday เขียนเมื่อ : 8 เม.ย. 55 17:17:47

ความคิดเห็นที่ 5 พอดี ข้อสองศาสนาผมไม่ได้สอนแบบนั้น ไม่ทราบศาสนา ของ Faraday สอนให้พ่อแม่กราบไหว้ลูกหรือไม่ครับ จากคุณ : Carroth เขียนเมื่อ : 8 เม.ย. 55 17:54:20

ความคิดเห็นที่ 6 รูปที่หนึ่ง  สื่อชัดเจน รูปที่สอง  จะสื่ออะไรคะ รบกวนตอบก็ดี ไม่ตอบก็ไม่ได้ว่า   ^^ แต่ถ้าอ่านจากข้อความ โดยไม่ดูรูป คำตอบ ย่อมเป็นข้อหนึ่งแน่นอนอยู่แล้ว  ก็เลยอยาก ทราบความหมายของรูปนะคะ จากคุณ : anindita เขียนเมื่อ : 8 เม.ย. 55 20:43:22

ความคิดเห็นที่ 7 ในศาสนาพุทธ   เขาวัดกันที่ศีล ผู้ที่มีศีลด้อยกว่า  จะให้เกียรติและเคารพผู้ที่มีศีลสูงกว่า พ่อแม่(ฆราวาส)ย่อมสามารถไหว้ภิกษุผู้เคยเป็นบุตรได้ เนื่องจากภิกษุได้ถือศีลสูงกว่า   ไม่แปลกตรงไหน กราบไหว้ในสิ่งที่มองเห็นนี่แหละ ตัวเป็นๆ จากคุณ : ringside เขียนเมื่อ : 8 เม.ย. 55 21:02:51

ความคิดเห็นที่ 8 นั่นแหละแปลก อะไรที่วัดว่าศีลสูงกว่าไม่สูงกว่า ภิกษุณี กับภิกษุ ให้ศีลมากกว่า แล้วใครกราบใคร? จากคุณ : Carroth เขียนเมื่อ : 8 เม.ย. 55 22:09:00

ความคิดเห็นที่ 9 สรุปอยากเปิดสงครามศาสนากันใช่ไหมครับ จากคุณ : Pongkm (Pongkm) เขียนเมื่อ : 8 เม.ย. 55 22:15:42

ความคิดเห็นที่ 10 แต่นั่นคงเป็นความเชื่อของคุณ เพราะสำหรับอิสลามแล้ว บุคคลที่ดีที่สุดคือท่านศาสดา และโดยมารยาทการทักทาย ผู้น้อยควรทักทายผู้ใหญ่ 1. มีรายงานจากอบู ฮุร็อยเราะฮฺ เราะฎิยัลลอฮฺ อันฮุ ว่าท่านนบี ศ็อลลัลลอฮฺ อะลัยฮิ วะสัลลัม ได้กล่าวว่า : «يُسَلِّمُ الصَّغِيرُ عَلَى الْكَبِيرِ، وَالْمَارُّ عَلَى الْقَاعِدِ، وَالْقَلِيلُ عَلَى الْكَثِيرِ». ความว่า “เด็กควรให้สลามแก่ผู้ใหญ่ คนเดินผ่าน(ควรให้สลาม)แก่คนที่นั่งอยู่ และกลุ่มคนที่น้อยกว่า (ควรให้สลาม)แก่กลุ่มคนที่มากกว่า” (บันทึกโดย อัล-บุคอรีย์ : 6231, มุสลิม : 2160) 2. มีรายงานจากอบู ฮุร็อยเราะฮฺ เราะฎิยัลลอฮฺ อันฮุ ว่าท่านนบี ศ็อลลัลลอฮฺ อะลัยฮิ วะสัลลัม ได้กล่าวว่า : «يُسَلِّمُ الرَّاكِبُ عَلَى الْمَاشِى، وَالْمَاشِى عَلَى الْقَاعِدِ، وَالْقَلِيلُ عَلَى الْكَثِيرِ». ความว่า “ผู้ที่ขับขี่ยานพาหนะควรให้สลามแก่ผู้ที่เดิน ผู้ที่เดิน(ควรให้สลาม)แก่ผู้ที่นั่ง และกลุ่มคนที่น้อยกว่า(ควรให้สลาม)แก่กลุ่มคนที่มากกว่า” (บันทึกโดย อัล-บุคอรีย์ : 6232, มุสลิม : 2160) แต่ท่านศาสดาผู้ที่เป็นมนุษย์ที่ดีที่สุด ท่านจะทักทายให้สลามก่อนคนอื่นครับ หรือท่านจะนิยมการแสดงความยิ่งใหญ่ และให้คนอื่นมากราบไหว้? ค่อนข้างแปลกสำหรับผมครับ จากคุณ : Carroth เขียนเมื่อ : 8 เม.ย. 55 22:22:44

ความคิดเห็นที่ 11 ผมคิดว่า มันเปิดแล้วล่ะครับ ผมก็เพียงจัดการไปตามที่ทำนั่นแหละ จากคุณ : Carroth เขียนเมื่อ : 8 เม.ย. 55 22:23:44

ความคิดเห็นที่ 12 #8 ภิกษุณี  ถึงแม้นจะถือศีลมากกว่า แต่มีเงื่อนไขอยู่ข้อหนึ่ง "ต้องเคารพภิกษุแม้ภิกษุจะอ่อนพรรษากว่า" เข้าใจแล้วนะ จากคุณ : ringside เขียนเมื่อ : 8 เม.ย. 55 22:56:27

ความคิดเห็นที่ 13 ก็แสดงว่าตั้งเอาแบบตามใจฉันว่างั้น ศีลสูงกว่าไม่สูงกว่าไม่เกี่ยวแล้วผมว่านะ แต่ก็อย่างที่บอกนั่นมันความเชื่อคุณ ผมเข้าใจอยู่แล้วครับ ดังนั้นคุณคิดว่าการตั้งกระทู้ แบบนี้ มันควรไหมครับ จากคุณ : Carroth เขียนเมื่อ : 8 เม.ย. 55 23:06:24

ความคิดเห็นที่ 14 คนที่กล้าปฏิเสธ และเมินเฉยต่อพระเจ้า อย่างไม่ใยดี แม้ท่านจะให้คุณหรือให้โทษเราได้ก็ตาม นิ่งเฉยต่อพระพุทธเจ้า แม้ท่านจะเป็นผู้ชี้ทางสว่างให้แก่เราก็ตาม วางเฉย ต่อโลก ต่ออารมณ์ ใช้ชีวิตอยู่บนโลก โดยไม่ต้องตกอยู่ภายใต้สิ่งใดๆทั้งมวล เราเรียกเค้าว่า อรหันต์ ครับ ขออภัยท่านแครอท ชาวคริสต์ และมุสลิมท่านอื่นๆ แต่นี่คือความเห็นส่วนตัวโดยแท้จริงของผม และคือสัจธรรม ดังนั้นจึงไม่มีใครที่จะสามารถเปลี่ยนได้ แม้แต่พระเจ้าครับ จากคุณ : ใบไม้กำนั้น เขียนเมื่อ : 8 เม.ย. 55 23:56:01

ความคิดเห็นที่ 15 ครับ นั่นเป็นความเชื่อของคุณ ดังนั้น เวลาบอกว่าสัจธรรม ก็บอกหน่อย สัจธรรมสำหรับคุณ ไม่ใช่สัจธรรมที่แท้จริง ยิ่งบอกว่า เปลี่ยนไม่ได้ แม้แต่พระเจ้า อันนั้นมันพระเจ้าในความเชื่อคุณล่ะครับ จากคุณ : Carroth เขียนเมื่อ : 9 เม.ย. 55 00:03:32

ความคิดเห็นที่ 16 เป็นความเห็นของผมในกระทู้ แต่ก็เป็นสัจธรรมโดยแท้จริงของโลกเราครับ ยังไงสุดท้ายคุณแครอทก็ต้องได้เจอ จะช้าหรือเร็วเท่านั้นเอง คนว่ายน้ำด้วยห่วงยาง ย่อมไม่ศรัทธาในการว่ายน้ำด้วยตนเอง และหากเรายังยึดมั่นในการใช้ห่วงยาง ย่อมห่างไกล จากการสัมผัสได้ถึงการว่ายน้ำเป็น ด้วยมือและขาของเราเอง ลองถอดห่วงยางออก และลองหัดว่ายน้ำดูด้วยตัวเองสิครับ แล้วจะรู้ว่า พระเจ้าที่เรานับถือนั้น แท้จริงเป็นเพียงสิ่งสมมุติ ที่เป็นสิ่งยึดถ่วงให้เราพัฒนาระดับจิตใจตัวเองได้อย่างล่าช้า และจมอยู่กับการใช้อารมณ์ กับความทุกข์อย่างไม่มีวันยุติ ผมไม่ได้ดูถูกพระเจ้าของคุณแครอทนะครับ แต่ผมดูถูกพระเจ้าของผมเองเท่านั้น อย่าอ่านไปให้เกิดเป็นอารมณ์ ถือเป็นการแลกเปลี่ยนความคิดก็แล้วกันครับ จากคุณ : ใบไม้กำนั้น เขียนเมื่อ : 9 เม.ย. 55 00:40:52

ความคิดเห็นที่ 17 ผมกลับมองว่าการ ที่ยึดเอาตัวเองเป็นหลัก ทั้งที่ตัวเองไม่มีคุณสมบัติเหล่านั้นเลย มันคือความไม่รู้ หรือรู้เท่าไม่ถึงการณ์ชนิดหนึ่งนั่นล่ะครับ เพราะความจริงแล้วจะพบว่ามนุษย์นั้น ไม่สามารถควบคุมอะไรได้เลยแม้แต่ตัวเอง ดังนั้นอย่าบอกว่าเป็นสัจธรรม เพราะแม้แต่ผู้ที่อ้างว่าตัวเอง บรรลุแล้ว รู้แล้ว พยายามจะบอกว่าเป็นอิสระ นั้น ที่จริงแล้ว แม้แต่จะยับยั้งร่างกายตัวเองไม่ให้แก่ก็ยังเป็นไปไม่ได้ ยังตกอยู่ใต้กฎเกณฑ์ที่ถูกวางไว้ ดังนั้นถ้าบอกว่า พระเจ้าเป็นสิ่งสมมุติ ก็อย่าสรุปว่าเป็นสัจจธรรมครับ เพราะนั่นเป็นเพียงแค่ความเชื่อที่ห่างไกลจากสัจธรรมอย่างมาก เพราะผู้ที่ไม่ได้นับถือพระเจ้า หรืออ้างว่าตัวเองรู้แล้ว ตื่นแล้ว ก็ไม่ได้มีจิตใจที่พัฒนาอะไรไปเท่าไหร่เลย ความทุกข์ไม่ได้ไปไหน เพียงแค่หลอกตัวเองว และปฏิเสธจะรับรู้ไปวันวันเท่านั้น เปรียบเสมือนคนที่หลอกตัวเองว่า เมื่อหลับตาแล้ว สิ่งอื่นก็หายไป ซึ่งมันไม่ใช่ สิ่งอื่นๆ หรือปัญหายังอยู่ แต่คุณเลือกที่จะหนีมากกว่า มันจึงทำให้วิธีคิดแบบนี้ ไม่เป็นที่ยอมรับน่ะครับ ผมเห็นมานักต่อนักแล้ว ผู้ที่ประกาศตนว่า จะว่ายน้ำด้วยตัวเอง สุดท้ายก็ไม่อาจจะเป็นอะไรได้มากกว่า บุคคลที่พพ่ายแพ้ต่อกฎที่พระเจ้าทรงวางเอาไว้ ไม่มีเลยสักคนในประวัติศาสตร์แห่งมนุษยชาติที่จะเอาชนะกฎของพระองค์ได้ หรือฝืนกฎของพระเจ้าได้ จะมีก็บางคนที่พระเจ้าอนุมัติให้กระทำสิ่งที่ผิดแผกจากกฎที่พระองค์วางไว้ เช่น นบีอีซา หรือพระเยซู ที่ท่านได้รับความช่วยเหลือจากพระเจ้าให้ทำให้คนตายฟื้นขึ้นมาได้ นอกนั้น ผมก็เห็นแต่บุคคลที่ต้องหมดวาระตามกำหนดของพระเจ้าทั้งสิ้น ไม่ได้หลงเหลือเค้าโครงแห่งความยิ่งใหญ่ที่ตนประกาศตอนยังมีชีวิตอยู่เลย จากคุณ : Carroth เขียนเมื่อ : 9 เม.ย. 55 07:08:23

ความคิดเห็นที่ 18 ตายไปเดี๋ยวก็รู้เอง ว่าสิ่งที่ยึดถือมาทั้งชีวิตมันมีอยู่จริงหรือไม่ ? จากคุณ : จอมยุทธตะเกียบคู่ เขียนเมื่อ : 10 เม.ย. 55 05:10:44

ความคิดเห็นที่ 19 ใช่ครับตายไปจะได้คำตอบ จากคุณ : Carroth เขียนเมื่อ : 10 เม.ย. 55 09:44:54