"ดังนั้น ผู้ใดทำความดี หนึ่งความดี มีปริมาณเท่าน้ำหนักของผงธุลี เขาก็จะได้เห็นมัน และผู้ใด กระทำความชั่ว หนึ่งความชั่ว มีปริมาณเท่าน้ำหนักของผงธุลี เขาก็จะได้เห็นมัน" (99 : 7-8)
ท่านรอซูล(ซ.ล)กล่าวว่า...พวกท่านรู้ไหมว่าใครเป็นคนล้มละลาย.....พวกเขากล่าวว่า" คนล้มละลายของพวกเรานั้นหมายถึงคนที่ไม่มีสักหนึ่งดิรฮัม หรือไม่มีทรัพย์สินเลย"ท่านกล่าวว่า "คนที่ล้มละลายในประชาชาติของฉันคือ ผู้ซึ่งมาในวันตัดสินด้วยการนมาซ ถือศีลอด จ่ายซะกาตและทำหัจญ์ แต่เขาด่าว่าชายผู้นี้ ให้ร้ายชายคนนั้น และยักยอกทรัพย์สินของผู้คน ทำให้ผู้อื่นหลั่งเลือดทำร้ายผู้อื่น....ความดีที่เขาเคยทำไว้จะถูกนำไปให้แก่ผู้ที่เขาเคยล่วงละเมิด ถ้าความดีของเขามีไม่พอที่จะไปชดเชยแก่คนที่เขาเคยล่วงละเมิด ก็จะนำเอาความชั่วของคนที่เขาเคยล่วงละเมิดไปเพิ่มให้กับเขา แล้วเขาก็จะถูกโยนลงไปในไฟนรก"
(บันทึกโดยบุคอรีย์และมุสลิม)
"ท่านจงรู้ไว้เถิด ทุกคนที่ก่อกระทำการฝ่าฝืนนั้น จำเป็นบนเขาต้องรีบเตาบะฮ์ และการเตาบะฮ์เป็นสิทธิ์ของอัลเลาะฮ์(ที่พึงได้รับจากพวกเรา) ดังนั้นจึงถูกวางเงื่อนไขในการเตาบะฮ์ไว้ 3 ประการ
1. ให้เขาถอนตัวจากการทำบาปในบัดเดี๋ยวนั้นเลย
2. เศร้าใจต่อการกระทำดังกล่าว
3. เด็ดขาดมั่นใจอย่างแน่วแน่ว่าจะไม่หวนกลับไปกระทำมันอีก
والتوبةُ من حقوق الآدميين يُشترط فيها هذه الثلاثة، ورابع: وهو ردّ الظلامة إلى صاحبها، أو طلب عفوه عنها والإِبراء منها؛ فيجبُ على المغتاب التوبة بهذه الأمور الأربعة، لأن الغيبة حقّ آدمي، ولا بدّ من استحلاله مَن اغتابَه، وهل يكفيه أن يقول: قد اغتبتُك فاجعلني في حلّ، أم لا بُدَّ أن يبيّنَ ما اغتابه به؟ فيه وجهان لأصحاب الشافعي رحمهم اللّه: أحدهما يُشترط بيانُه، فإن أبرأه من غير بيانه لم يصحّ؛ كما لو أبرأه عن مال مجهول. والثاني لا يُشترط، لأن هذا مما يُتسامحُ فيه فلا يُشترط علمه بخلاف المال. والأوّل أظهرُ، لأن الإِنسانََ قد يسمحُ بالعفو عن غيبة دونَ غِيبة؛ فإن كان صاحبُ الغيبةِ ميّتاً أو غائباً فقد تعذّرَ تحصيلُ البراءة منها؛ لكن قال العلماء: ينبغي أن يُكثرَ الاستغفار له والدعاء ويُكثر
من الحسنات.
การเตาบะฮ์ประเภทฮักกุลอาดัม(สิทธิ์ของมนุษย์)นั้น มีเงื่อนไข 3 ประการที่ได้กล่าวไปแล้วนี้ และประการที่
4. คืนความอธรรมของเราให้(สารภาพ)กลับไปยังเจ้าของเขา และขออภัยจากสิ่งที่เราเคยอธรรมและขอให้พ้นจากความอธรรมที่เราได้เคยทำไว้กับเขา
ดังนั้นจึงจำเป็นต่อผู้ที่ทำการนินทา เตาบะฮ์ด้วยกับสี่ประการนี้ เพราะการนินทาเป็นฮักกุลอาดัม ซึ่งจำเป็นต้องขอฮะล้าลแก่ผู้ที่ถูกนินทา
หากมีคำถามว่า เพียงพอหรือไม่ที่บุคคลหนึ่งจะกล่าวว่า "ฉันได้เคยนินทาท่าน ดังนั้นท่านจงฮะล้าล(อภัย)ให้แก่ฉันด้วย หรือ จำเป็นต้องอธิบายรายละเอียดสิ่งที่เขาได้นินทา?