ความคิดเห็นที่ 1 นี่หรือคือเดินธุดงค์ แบบนี้ล่ะหรือเรียกธุดงควัตร แน่ใจล่ะหรือ เป็นไปเพื่อเกลากิเลสให้เบาบางลงแน่ล่ะหรือ พระพุทธองค์จะทรงสรรเสริญลักษณาการเช่นนี้ไหมหนอ ขอฝากไว้เพียงเท่านี้ จากคุณ : abhirakk เขียนเมื่อ : 10 เม.ย. 55 17:39:35

ความคิดเห็นที่ 2 ผมค่อนข้างถือว่าดอกไม้เป็นของสูง ควรคู่แก่การบูชาหรือประดับที่ธรรมชาติมอบให้แก่โรค ไม่รู้ว่าพวกท่านมีศีลบริสุทธิ์ขนาดไหน  เราเป็นฆราวาสยังไม่กล้าเหยียบเลย ซื้อมาแล้วฉีก จากนั้นก็นำไปเหยียบ  ปัญญาท่านคิดได้แค่นี้หรือ ถ้าไม่เหยียบบนดอกไม้แล้วมันจะตายให้ได้เลยเชียวหรือ ไปๆมาๆ กิเลสอาจจะมากกว่าพวกเราๆก็ได้ อายพระพุทธเจ้าบ้าง จากคุณ : เต่ากินผักบุ้ง เขียนเมื่อ : 10 เม.ย. 55 18:27:44

ความคิดเห็นที่ 3 ไม่ออกความเห็นเรื่องเหยียบกลีบกุหลาบว่าเหมาะไม่เหมาะ แต่ คห.2 คะ การโปรยดอกไม้ตามทางลาดเดินเป็นการแสดงความเคารพยินดีและศรัทธาอย่างหนึ่งที่พบเห็นได้ในหลายโอกาส ไม่งั้นคงไม่เกิดสำนวนว่าทางเดินปูด้วยกุหลาบหรอก   แต่ไม่เห็นด้วยที่...จัดธุดงส์ยาวเหยียดเดินในเมืองหลวง จากคุณ : คุณอ่อง เขียนเมื่อ : 10 เม.ย. 55 19:24:08

ความคิดเห็นที่ 4 ดอกไม้สูงก่วาพระหรอ จากคุณ : AMC (ครุฑแดง) เขียนเมื่อ : 10 เม.ย. 55 19:33:13

ความคิดเห็นที่ 5 ผมขอมองในแง่ที่เป็นประโยชน์ เป็นบุญเป็นกุศล 1. ท่านเดินธุดงค์มาในเมืองนะดีมากๆๆๆ เพราะถ้าเดินในป่าผมคงไม่ได้เห็นและได้ถวายการต้อนรับด้วยการโปรยกลีบกุหลาบ ปลื้มสุดๆเลยตรับ 2. ดอกไม้เป็นของสูง(จาก 2)ก็สมควรแล้วนี่ครับที่จะนำไปบูชาผู้ที่สูงส่งเช่นพระธุดงค์ ซึ่งท่านสู้ฝึกตนทนหิวบำเพ็ญตะบะมา คงไม่ใข่เรื่องเล่นๆหรอกครับที่จะเดินวันละ 15-16 กม. 3. เดินเป็นแถวยาวเยียดเป็นภาพที่อลังการยากที่จะลืม นึกเมื่อไหร่ก็ปลื้ม อีกทั้งยังมีสามเณรน้อยเดินธุดงค์ด้วยเห็นว่าหลายร้อยองค์ ภาพที่ส่าธุชนโปรยกุหลาบต้อนรับยกมือพนม เสียงสาธุการดังขลมตลอดเส้นทาง ถ้าวัดพระธรรมกายมีการเดินธุดงค์ผมอยากให้เดินผ่านทุกเส้นทางใน กทม.จ้งเพื่อจะได้โปรดสัตว์ได้ทั่ว กทม. 4. ฯลฯ ธรรมมะขององค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้ากำลังจะขยายสู่ชาวไทยและชาวโลกแล้วหนอ จากคุณ : AMC (ครุฑแดง) เขียนเมื่อ : 10 เม.ย. 55 20:28:13

ความคิดเห็นที่ 6 เคยดูหนังอินเดีย ไม๊! หนังอินเดียที่เค้านับถือพุทธ นะ ! เค้าทำให้เห็นว่าสมัยพุทธกาล เค้าใช้ดอกไม้ โปรยไปทั่ว ใช้ดอกไม้มากมายในการโปรย พิธีมงคล ต่างๆ นั้นแหละ แต่วัดพระธรรมกายใช้โปรยให้พระท่านเดิน ก็ถือว่า เป็นธรรมดาแล้วนะ ถ้าพวกคุณคิดว่าการโปรยกลีบกุหลาบให้พระธุดงค์ เดินเป็นเรื่องไม่สมควร ก็หมายถึงสมัยพุทธกาล การใช้ ดอกกุหลาบ ดอกไม้ต่างๆ โปรย ในงานแต่งแบบอินเดีย งานมงคลต่างๆ ของอินเดียก็เป็นการทำเกินไปนะสิ...... จะพูด จะว่า อะไร ดูย้อนกลับไปด้วยนะ... เราแค่ต้องการให้พุทธศาสนาเจริญเหมือนเมื่อครั้งพระพุทธเจ้ายังทรงอยู่ แต่ทุกวันนี้สังคมมันเสื่อมมมม ลง มาก เลย ยิ่งฟังท่านทั้งหลายพูดว่าไม่ควรเอากลีบกุหลาบมาโปรยให้พระธุดงค์ท่านเดิน ..........ยิ่งเศร้าแท้....บางทีกบก็ไม่รู้ว่าตนเองอยู่ในกะลาจริงๆนะ!!!! แก้ไขเมื่อ 10 เม.ย. 55 21:20:56 จากคุณ : สีสันบันเทิง (สีสันบันเทิง) เขียนเมื่อ : 10 เม.ย. 55 21:17:42

ความคิดเห็นที่ 7 เหมือนพระพุทธเจ้าเดินเหยียบดอกบัว จากคุณ : พี พสิษฐ์ เขียนเมื่อ : 10 เม.ย. 55 22:09:51

ความคิดเห็นที่ 8 ไม่เหมาะ เพราะอะไร ช่วยอธิบายด้วยครับ จากคุณ : SS_State เขียนเมื่อ : 10 เม.ย. 55 22:25:49

ความคิดเห็นที่ 9 ห้องนี้เค้าศึกษาธรรมะมากไปหน่อย  ความคิดที่กูเก่ง กูฉลาด ตัวกู ของกู จึงเกิดขึ้นมากมาย.... พอเห็นคนทำดีมากๆ เกินกว่าที่เค้าจะคิดได้คิดออก ความคิดเห็นเลยออกมาในลักษณะนี้...น่าเศร้าครับ.... นี่แหละพุทธเมืองไทย   ยามศึกเราร่วมต้าน ยามสงบเรากัดกัน.... จากคุณ : ร่มธรรม เขียนเมื่อ : 10 เม.ย. 55 22:43:11

ความคิดเห็นที่ 10 ใครไม่ปฏิบัติ ศีล สมาธิ ปัญญา ก็ถูก “พระหลอก ๆ” กินแหลกหมด ท่านพ่อลี ธมฺมธโร วัดอโศการาม จากคุณ : No Free Lunch เขียนเมื่อ : 10 เม.ย. 55 23:35:26

ความคิดเห็นที่ 11 ทุกกิจกรรมย่อมมีทั้งข้อดีและข้อเสีย อย่างการเกิดมาของมนุษยโลกสักคนหนึ่ง ต้องสังเวย กุ้งหอยปูปลา หมูเห็ดเป็ดไก่ ไปสักกี่ตัวเพื่อจะเลี้ยงกระเพาะของมนุษย์ไป ตราบที่เขาคนนั้นจะตายจากโลกนี้ไป ข้อดีอันหนึ่งของการเดินธุดงค์ครั้งนี้ คือให้ชาวพุทธได้พบกับมงคลชีวิตอย่างน้อย หนึ่งข้อ คือ การเห็นสมณะ ข้อเสียที่เกิดขึ้นและยกมาพูดกันบ่อย ๆ คือรถติด  อันนี้ก็พูดยากบางคนว่า เป็นข้อหาร้ายแรง  แต่สงสัยว่า ท่านจะด่าพระด่าเจ้า ให้เป็นบาปกับตัวเอง แล้วต้องไปชดใช้กรรมในนรก มันคุ้มเสียแล้วเหรอ การกระทำนี้มีแต่เสมอตัว กับขาดทุน ก็ยังเสี่ยง จะเล่นกันอีก แก้ไขเมื่อ 11 เม.ย. 55 02:38:37 แก้ไขเมื่อ 11 เม.ย. 55 02:35:28 จากคุณ : แล้วทำไม12 เขียนเมื่อ : 11 เม.ย. 55 02:34:56

ความคิดเห็นที่ 12 ทำไมต้องเป็น พุทธแท้ ยกตนข่มคนอื่นชัด ๆ จากคุณ : bigjinbook เขียนเมื่อ : 11 เม.ย. 55 12:58:00

ความคิดเห็นที่ 13 ท่านทั้งหลายต่างก็เป็นชาวพุทธ น่าจะมองในแง่ดีที่เป็นประโยชน์หรือวิพากวิจารณ์ที่ก่อให้เกิดการพัฒนาและก่อประโยชน์จะติติงก็เอาแค่หอมปากหอมคอน่าจะเป็นประโยชน์ต่อตนเอง(รักษาใจตนเองไม่ให้โกรธ)เป็นประโยชน์ต่อสังคม (สังคมได้รับแต่ข้อมูลที่แท้จริงสร้างสรรค์เป็นประโยชน์) เป็นประโยชน์ต่อพระศาสนาที่งานเผยแผ่พระศาสนาจะได้ขยายไปได้อย่างรวดเร็วและกว้างขวาง (ชาวพุทธรวมใจไม่แตกแยก) ขออนุโมทนากับผู้ที่มีความคิดดีๆแล้วก็ปฏิบัติดีด้วยครับ จากคุณ : AMC (ครุฑแดง) เขียนเมื่อ : วันมหาสงกรานต์ 55 11:42:46