ความคิดเห็นที่ 1 หลังจากดูหนังเรื่องนี้จบแล้ว  คงบรรยายความรู้สึกผมที่มีต่อวัดพระธรรมกาย ตลอดจนหลวงพ่อเจ้าอาวาสได้ครับ ...  ^^a สปอย >>> http://www.oknation.net/blog/print.php?id=426727 แก้ไขเมื่อ 11 เม.ย. 55 12:09:52 จากคุณ : หน้าม้าคุง ... ฮี้ฮี้ เขียนเมื่อ : 11 เม.ย. 55 01:47:10

ความคิดเห็นที่ 2 ไม่จริงหรอกครับ.. แล้วแต่ว่า แต่ละคนจะมองมากกว่าไหมครับ? ผมคนนึงแหละ ที่ชอบสงสัยโน้นสงสัยนี่.. ด้วยเพราะการเรียนมันบีบคั้นให้มีนิวรณ์เสียเหลือเกิน คิดแตกแยก แล้วพอได้คำตอบแล้ว.. อยากจะบวชให้รู้แล้วรู้รอดไปเลย  แต่ก็เก็บเอาไปถามเพื่อน เอาไปถามพี่ๆที่เข้าวัดฯ ถามพี่ที่ไม่เข้าวัดฯ เก็บเอาคำถามไปถามหลวงพี่ในวัด เอาไปถามพระวิปัสสนาจารย์ที่วัดปากน้ำฯที่ผมรู้จักที่ติดต่อกันจนถึง ณ ปัจจุบันนี้ มีเรื่องนึงที่เกี่ยวกับ ความสัมพันธ์ของวัดปากน้ำและวัดพระธรรมกายในทำนองที่ว่า "เกิดเหตุการณ์ 2540-42 ถ้าเหตุการณ์ทั้งหมดที่เค้าว่า ทั้งนสพ. สื่อต่างๆ ที่เค้าว่า เป็นเรื่องจริง ทำไมถึงยังติดต่อเป็นกัลยาณมิตรกับวัดพระธรรมกายอีก?" หลวงพี่ทั้งวัดทั้งสองก็ตอบคล้ายๆกันในทำนองที่ว่า "เรื่องนี้มันมีการเมือง ทหารและอำนาจมืดที่เข้ามาแทรกแซง ระบบทั้งหมดจึงรวน ทั้งมส.เองก็วุ่นวาย นสพ.+สื่อที่ร่วมกันประโคมข่าวอย่างพร้อมหน้ากัน โดยผิดสังเกต ทั้งๆ ทีก่อนหน้านี้ไม่เคยมีวี่แววว่าจะเกิดขึ้นเลย.. จนเกิดเรื่องขึ้น  แต่ท่านเจ้าอาวาส ท่านไม่เคยทิ้งบ้านเดิมของท่านไป ท่านยังคงเป็นห่วงเป็นใยกับบ้านหลังเดิมของท่านอยู่ มีอะไรท่านก็ช่วยเหลือวัดปากน้ำฯตลอด ต่างฝ่ายต่างช่วยกันเสมอมา เหตุนี้ทำให้สมเด็จฯ ท่านไม่เคยไม่สนใจ ไม่เคยไม่ใส่ใจกับวัดพระธรรมกายเลย เพราะท่านเจ้าอาวาส ท่านติดต่อกับทางนี้ตลอด เสมอๆ ไม่เคยขาด.. ท่านยังบอกอีกว่า ให้ยึดตามแนวทางของหลวงพ่อฯ(วัดปากน้ำ)ท่าน  ที่สมัยท่านเจอ ก็หนักพอกัน แต่ท่านก็ผ่านมาได้ด้วยธรรมที่ว่า " ประกอบเหตุ สังเกตผล ทนเอาเถิด ประเสริฐนัก " ก็ต้องทนกันไปน้ะ.. " พี่ก็เห็นแล้วว่า วัดปากน้ำฯกับวัดพระธรรมกาย เป็นเสมือนหนึ่งว่าเป็นวัดเดียวกัน เหตุเพราะมีอะไรก็ช่วยเหลือกันตลอด... อย่างที่โอวาทของสมเด็จฯ ที่เอามาอ้างนี่ ไม่ได้จะอ้างพระผู้ใหญ่มาทำให้ดูดีหรอกนะครับ แต่เพราะมันคือความจริง ต้องเอามาพูด.. หากสอนไม่ตรงตามวิชชาธรรมกายจริง สมเด็จฯต้องเด็ดขาดไปแล้ว เนื่องด้วยท่านมีสิทธิที่ดำรงในสมณศักดิ์ของท่าน และเป็นถึงมหาอุปัชฌาจารย์ของหลวงพ่อครูไม่ใหญ่ ผิด คือ ผิด .. ถูกต้อง ดีงาม คือ  ถูกต้อง ดีงาม  อย่าลืมว่า พระผู้ใหญ่ทุกรูปท่านมีศีลาจาวัตร จะมาผิดศีลเพื่อรักษาสิ่งไม่ดีงามไว้  มันไม่ใช่วิสัยของพระผู้ใหญ่ที่มีความรับผิดชอบมากมาย... แล้วคนที่บอกว่า " ผมไม่รู้จะเตือนยังไงแล้ว " เนี่ย.. เอามาจากไหนครับ.. มโนเอาเองหรอครับ มั่วมาก จะเห็นได้ว่าตลอดมานี้หลวงพ่อครูไม่ใหญ่ ท่านไม่ค่อยสนใจคนข้างนอกที่นินทา ว่าร้ายเท่าไหร่ ท่านเข้าใจดี สำหรับเรื่องนี้.. เย็นมา ใจคุณก็เย็นเอง.. ร้อนมา ใจคุณเองก็เดือดก็ร้อนเอง  และท่านเสมอต้นเสมอปลายกับท่าทีที่แสดงต่อคนข้างนอกเสมอ เพราะสาธุชนที่เข้าวัดฯก็มีจากแอนตี้ เข้ามาก็มี จากไม่แอนตี้ ออกไปแอนตี้ก็มี จริงๆ เรื่องแบบนี้ มันเป็น ธรรมพื้นฐานมากเลยนะครับ.. เรื่องกฎไตรลักษณ์เนี่ย ความไม่เที่ยงของสรรพสิ่งเนี่ย .. ไม่น่าหยิบยกมาเป็นประเด็นได้เลย  ผมจึงเชื่อว่า วัดพระธรรมกาย เป็นดินแดนในอุดมคติอย่างแท้จริง เป็นสถานที่ที่ทำให้คนที่เข้าใจวัดฯ มีความสุข แม้ไม่มีเงินสักสลึงเดียว อันนี้ประสบการณ์ตรงครับ..  สังคหวัตถุ 4 อบอวลในดินแดนแห่งนี้  ทานที่วัดพระธรรมกาย สอนว่า ไม่ใช่แค่ปัจจัยที่เป็นทานได้เท่านั้น แต่ยังมีสิ่งของนอกตัว กำลังแรงกายที่เราใช้ พลังสมองที่ใช้คิดระบบงานต่างๆ เป็น ทานมัย ได้หมดเลยยยย..  ตั้งแต่เข้าวัดฯมา ผมเสียเงินให้วัด ยังไม่เท่ากับ วัดฯให้อะไรกับผมมาเลย และอย่าบอกว่า.. ไม่มีเงินเป็นแค่อาสาสมัครหางแถวที่เข้าไม่ถึงหลวงพ่อท่านนะ แค่คิดก็ผิดไปหลายขุมแล้วล่ะ.. ผมเคยได้ถวายปัจจัยกับมือท่านด้วยตัวผมเอง ด้วยปัจจัยเพียง 20 บาทครับ  เมื่องานมาฆบูชาที่ผ่านมาก็ยังได้ไปกราบหลวงพ่อทัตตะ ในฐานะอาสาสมัครอยู่เลย ไม่มีเงินสักบาท ฉะนั้น คนที่จะมาว่าวัดเรื่องเงินหรอ.. เป็นประเด็นต้นๆ ที่ผมและคนอื่นๆตัดเรื่องนี้ไปก่อนได้เลย ปิยวาจา คงจะเป็นเรื่องต้นๆ ที่คนที่เคยเข้าวัดฯ รู้และเข้าใจดียิ่ง วาจาในศีลข้อที่ 4 นี้.. สำคัญมาก เพราะเรื่องศีล สำหรับวัดพระธรรมกายเคร่งมากกกก  อาสาสมัครทุกคนต้อง ศีล 8 หากมาค้างวัด.. มีปานะให้ดื่มนะครับ ไม่ใช่ไม่มีข้าวเย็นแล้ว วัดฯจะปล่อยให้อดๆอยากๆ ฉะนั้น จะเห็นได้ว่า ในบอร์ด DMC ก็ดี.. หรือพี่ๆคนอื่นๆ ที่เข้าวัดก็ดี เค้าจะมีปิยวาจาเป็นพฐ.เสมอ อัตถจริยา มากินข้าววัดฯ มาอยู่วัดฯ เป็นเด็กวัดแล้ว ต้องทำตัวให้เป็นประโยชน์กับวัดฯ กับพระศาสนาด้วย ผมก็เป็นสาธุชน ที่อยากเป็นเจ้าของบ้าน เจ้าของวัดฯ ต้อนรับสาธุชน ดูแลรักษาความสงบ รักษาบรรยากาศในการปฏิบัติธรรม เพื่อให้ภาพงานพระศาสนาที่ออกไปสามารถตรึงใจชาวพุทธทั่วโลกให้เห็นว่า นี้สิ พระพุทธศาสนาต้องแบบนี้..  มีระบบ แบบแผน ดูสงบ เสงี่ยม สง่างาม สมเป็น ชาวพุทธ สมานัตตา ธรรมข้อสุดท้ายที่ต้องมี คือ การรักษาความเสมอต้นเสมอปลายที่มีในตน ข้อนี้ ส่วนใหญ่สามารถรักษาได้ดีอยู่ มีน้อยมากที่จะรักษาไม่ได้ เช่น พี่.... ฯลฯ ใช่ครับ โลกนี้กำลังเข้าสู่สภาวะเสื่อมลง เนื่องด้วยขัยลงของโลก คนที่มีกิเลสหนาปัญญาหยาบมากขึ้นเรื่อยๆ  แต่ไม่ต้องกลัวหรอกครับ ยิ่งผมเห็นงานที่วัดฯทำ งานที่หลวงพ่อดำริแล้ว.. ทำให้ทุกคนอึ้ง แม้กระทั้งผู้ใหญ่หลายๆคน ยังบอกว่า มันเป็นไปไม่ได้ แต่หลวงพ่อท่านทำ จนสำเร็จเป็นรูปธรรมงดงาม... เป็นศรีแก่พระพุทธศาสนาโดยแท้ ภาพที่เกิดขึ้นสมเป็นประเทศที่อยู่ใน ดินแดนพระพุทธศาสนาของโลก ที่บอกว่า อยู่วัดนี้ไม่ใช้สมอง (จิงหรอ?) ผมนี่หัวปั่นทุกอาทิตย์เลยหน่ะ.. = =a รับข้อมูลที่เค้าป้อนมาฝ่ายเดียว (จริงหรอ?) วัดปากน้ำก้เพิ่งไปมา วัดพธก. ก้เพิ่งกลับมานะ.. พันทิพก้อ่านบ่อยนะ -*- คุณดูถูกคนอื่นมาเลยรู้ตัวไหมครับ คุณจะบอกว่าคนที่เข้าวัดไม่มีสมอง ไร้สมอง วิเคราะห์ไม่เป็น ไม่มีความคิดความอ่าน  แต่ขอโทษเถอะครับ..  คุณรู้ดีแค่ไหน จะอวดอ้างตนว่าฉลาดกว่าคนอื่นหรือ ก็ไม่ทราบ แล้วที่บอกว่าการทำแบบนี้ของพี่ เป็นประโยชน์ต่อพระศาสนานั้น..  ผมยังมองไม่เห็นเลยนะครับ มันเป็นประโยชน์ตรงไหน? ด่าด้วยคำหยาบ กิริยาหยาบๆ ไปว่า ด่าทออาจารย์คนอื่นอย่างเสียๆหายๆ นี้หรือประโยชน์ ไปเปลี่ยนชื่อท่านอย่างหยาบๆ ไปล้อเลียน ไปเรียกท่านเหมือนเพื่อนเล่น อย่างนี้หรอ เหอะ! ถ้าจะบอกว่า เป็นประโยชน์จริง  ก็ทำสิครับ ลงมือทำสิ  จะมาพล่ามทำไมกันครับ  จะมาแพล่มทำไมกัน สู้หลวงพ่อฯท่านสิครับ  สู้อย่างคนจริง ตัวจริง ให้เหมือนที่หลวงพ่อท่านทำตลอดมากว่า 40 ปีสิครับ... ทำอย่างเอาชีวิตเป็นเดิมพัน  ทำงานเพื่อพระศาสนาโดยไม่สนสุขภาพ สังขารตนเอง.. ถ้าทำไม่ได้ คุณก็ไม่มีสิทธิ์ที่จะมาว่า พระเดชพระคุณพระเทพญาณมหามุนี เช่นกันครับ... และก็กลับไปเขียนคคห.  ไปเขียนหนังสือด่าพระ ด่าวัดที่คุณสรรเสริญต่อไปเถอะ นี้แหละมั้ง... ที่คุณบอกว่ามันจรรโลงพระศาสนาน้ะ.. ที่บอกว่าเค้าไม่เอาด้วยนี้..  ไปได้ข้อมูลมาจากไหนหรอครับ.. = =* ผมเห็นงานหลวงพ่อฯ หลายวัดฯก็สนับสนุนกันมากมาย ก่ายกอง  จนตักบาตรครบล้านแล้วจ้า.. ผมว่าเหตุการณ์หลักๆ ที่ทำให้เข้าใจวัดฯผิดไปมาก คือ 2540-42 นั่นแหละครับ แต่ก็ได้ผลซะด้วย.. แต่เป็นเรื่องดีนะครับที่แยกคนที่ใช้ปัญญาพิจารณากับไม่ใช้ คือ คนใช้ปัญญาเค้าจะต้องพิสูจน์ให้ถึงที่สุด .. สุดๆ เลยนะ และ คนที่ไม่ใช้ นี่คือ แค่ฟังการป้อนข้อมูลฝ่ายเดียวก็พอแล้ว .. งี้ป่ะ  คนแอนตี้ เค้าด่ากัน ก้ไปรุมด่าด้วย.. จนลืมไปว่า เราใช้ปัญญาพิจารณาแล้วหรือไร? ผมไม่ทราบและไม่ค่อยจะสนใจว่า คนไทยจะว่ายังไง  เพราะตอนนี้ไทยติดอันดับ 1-5 อบายมุขอ่ะ  เมืองพุทธเถอะนะ..  จับยาเสพติดรายวัน อ่ะนะครับ เมืองพุทธครับ เมืองพุทธ.. แต่ต่างประเทศสิ WFBY รู้จักป่ะครับ .. องค์การยุวฯ , พระทางฝ่ายมหายานอีก ศรีลังกา(ประเทศนี้เคร่งกว่าไทยอีกนะ) เกาหลี(พระเถรวาทแห่งเดียวของที่นั้น มาเดินธุดงค์คราวที่แล้วด้วยนะ) เนปาล(บวชแบบงานแสนรูปเลย) มองโกเลีย(มี v-star ด้วยนะ) จีน ญี่ปุ่น ฯลฯ โอ้ย.. เยอะแยะ ที่สนับสนุนวัดพระธรรมกาย สนับสนุนงานพระเทพญาณมหามุนี สนับสนุนงานพระพุทธศาสนา  เรื่องอบายหรอ?  ผมว่าคนจะตกอบายได้นี่.. นอกจากวัดที่บุญบาปแล้ว ผมว่าวัดที่ความควร-ไม่ควรก็ด้วยนะครับ..  ผมชอบเพลงนี้ของวัดมากเลยครับ  " หากใครใจหมองต้องไปอบาย.. หากใครใจใสเพราะได้ทำบุญ บุญจะเกิดหนุนให้สู่ที่สุขสบาย" ถามว่ากลัวอบายไหม.. ไม่กลัวขนาดนั้นนะครับ ตายก้ไม่กลัว ผมกลัวเหมือนที่คุณยายกลัวน่ะครับ.. คุณยายฯ กลัวจะไม่ได้บุญ ผมก้กลัวแบบนั้น (บุญที่คุณยายฯหมายถึง คือ บุญกิริยาวัตถุ 10 ประการ มิใช่ เพียง ทานมัย นะครับ) มันก็กฏแห่งกรรมป่าวอ้ะครับ.. อยู่ที่บุญ บาปใช่ป้ะ? หลวงพ่อฯท่านก้สอนงี้นะ.. แต่ท่านไม่อยากให้ไปอบาย เพราะท่านเสียดายเวลาในการสร้างบุญบารมีน้ะ ไม่ใช่สอนให้กลัวหัวหด อย่างที่เข้าใจกันเลย.. =0= ผมไม่ทราบว่าคุณอัดอันตันใจอะไร ถึงเขียนกระทู้นี้ขึ้นมา..  ผมก็บอกที่ผมรู้ในฐานะ เด็กวัด คนนึงเน้อ.. ถ้าคิดว่าดีแล้ว คุณก้ทำต่อไปเถอะครับ สู้ๆนะ ครับ.. แต่ถ้าสู้ไม่เหมือนหลวงพ่อฯของผม ก็อย่ามาว่าหลวงพ่อฯนะครับ แค่ ใจ ต่างกัน.. ที่เหลือก้ไม่ต้องพูดถึงกันแล้ว พระศาสนาก้าวไกลขนาดนี้ "พระเทพญาณมหามุนี" ดำริไว้ หลายโครงการผ่านมาน่าอัศจรรย์ใจ ทำได้ไง? เกิดมาไม่เคยเจอ รักษาบรรยากาศ จากคุณ : สาธุ (รักษาบรรยากาศ) เขียนเมื่อ : 11 เม.ย. 55 04:48:40

ความคิดเห็นที่ 3 # ผมเห็นงานหลวงพ่อฯ หลายวัดฯก็สนับสนุนกันมากมาย ก่ายกอง จนตักบาตรครบล้านแล้วจ้า.. # แน่ใจเหรอครับ ว่าหลวงพี่หลวงพ่อหลายๆ วัดท่านสนับสนุนกันอย่างจริงๆ จังๆ อย่างที่ผมเคยบอกไว้ว่าตักบาตรครั้งละเป็นพันเป็นหมื่นรูป เขาก็ใส่บาตรกันเฉพาะหัวแถว เท่านั้นไม่เกินพันรูป แล้วเขาจะเอาของจากไหนมาใส่บาตรพระได้เป็นหมื่นๆ รูป ก็รุมใส่หัวแถวไปหมดแล้ว ที่เหลือท้ายๆ เดินบาตรเปล่า พระที่ไปส่วนใหญ่ก็ไปฉันข้าวกล่อง รับซอง และเป็น "ตัวประกอบฉาก" เท่านั้นแหละ และที่สำคัญ ไม่ใช่ว่าเอาเงินไปล่อท่านหรอกเหรอครับ ผมเห็นมาเยอะแล้ว อย่างน้อยวันที่ 22 เมษายน เฉพาะเจ้าอาวาส ก็จ่ายเช็ครูปละ 5,000 แล้ว ยิ่งไม่ต้องกล่าวถึงระดับเจ้าคุณต่างๆ ที่ได้รับหรอกครับ บอกตามตรงเลย หลวงพี่หลวงพ่อที่ไปร่วมงานส่วนใหญ่ ไม่ได้ใส่ใจในเรื่องวัดเลยครับ ไปเอาเช็คกันอย่างเดียว แก้ไขเมื่อ 11 เม.ย. 55 05:30:09 จากคุณ : ดินสอน้ำหมึก เขียนเมื่อ : 11 เม.ย. 55 05:21:50

ความคิดเห็นที่ 4 เห็นถึงเจตนาดีของ จขกท. หากดูตามวิบากของกาวปรามาสพระรัตนตรัยในอดีตให้ผล คนเหล่าที่เข้าไปสู่สำนักมิจฉาทิฏฐิ ก็ด้วยวิบาก กฎแห่งกรรมนั้น หากยังใช้กรรมไม่หมด หรือสร้างเหตุใหม่ๆ ขึ้นมา เขาเหล่านั้นก็ยังคงวนเวียนอยู่เช่นเดิม ในฐานะชาวพุทธด้วยกัน คงได้แต่อุทานว่า สัตว์โลกย่อมเป็นไปตามกรรม อย่างที่เห็นได้ชัดเช่น เขาเหล่านั้นเข้าใจว่า พระมีตำแหน่งสูงต้องดี หรือทำงานใหญ่ๆ ได้ต้องดี ก็ลองดูนักการเมืองไทยตำแหน่งสูง ทำงานใหญ่เป็นตัวอย่าง ดีตรงไหนหว่า ? พระพุทธองค์จึงทรงตรัสว่า ศาสนาของพระองค์จะเสื่อมลงก็เพราะพุทธบริษัท ผ่านมากึ่งพุทธกาล ก็คงใกล้ถึงเวลาแล้วกระมัง จากคุณ : Radiant, Archangel เขียนเมื่อ : 11 เม.ย. 55 07:38:08

ความคิดเห็นที่ 5 สาธุครับ  อนุโมทนาบุญกับพี่รักษาบรรยากาศครับ ไม่สู้่  ไม่หนี  ทำดีเรื่อยไป เนอะ พี่ เราเข้าใจทีมงานเขาน่ะ ที่โพส ๆ มาซ้ำ ๆ เป็น ปี ๆ ตั้งแต่ปี 2542 เรื่อยมา  เขาก็ทำหน้าที่ของเขา เขาเข้าใจเอาเอง ตามที่บางท่านเขียนหนังสือไว้ ซึ่งเจตนาอย่างไรก็ไม่รู้  ความรู้สมบูรณ์แค่ไหนก็ไม่ทราบ ปฏิบัติธรรมหรือเปล่าก็ไม่รู้  แต่ก็อ้างถึงอยู่เล่มเดียว เราก็รับฟังและพิจารณาทุก ๆ กระทู้ ยิ่งทบทวน ยิ่งรักวัดฯ ยิ่งเคารพหลวงพ่อฯ  ยิ่งซาบซึ้งในความอดทนของหมู่คณะ บุญรักษาทุกท่านครับ จากคุณ : ต้นธาร (ชัย-ต้นธาร) เขียนเมื่อ : 11 เม.ย. 55 10:30:10

ความคิดเห็นที่ 6 สงสัยเมื่อหลายสิบปีที่ผ่านมา ในใบบอกบุญแจ้งว่า ใครทำบุญมากจะได้ติดรูปตนเองไว้ที่ฐานพระที่จะสร้างใหม่องค์ใหญ่ที่สุด แต่ต้องหมื่นบาทขึ้นไปถึงจะรับ เราเป็นครอบครัวเงินเดือน เงินที่ส่งให้ท่านทุกเดือนส่วนหนึ่งท่านนำมาผ่อนเดือนละ 1,000 บาท มีเดือนหนึ่งเมื่อกลับบ้านไปเยี่ยมท่าน พบกับน้า ที่บ้านจึงทราบว่าน้าเป้นคนหาเงินส่งวัด ผมได้แต่อึ้งนี่ก็แม่ นี่ก็น้า น่าเป็นคนขยันหาเงินได้ตามเป้าหมาย น้าได้ไปเที่ยวชมวัดที่อินเดีย สิ่งที่สงสัยถึงทุกวันนี้คือ ได้สร้างพระองค์ที่ใหญที่สุดแล้วหรือยัง และมีการติดรูปคนที่ทำบุญทีฐานตามที่ว่าหรือไม่ สิ่งไม่เชื่อคือแจ้งว่าทำบุญมาก ได้บุญมาก เรื่องนี่ประสพกับตนเอง จากคุณ : คนผ่านเวบ เขียนเมื่อ : 11 เม.ย. 55 11:05:59

ความคิดเห็นที่ 7 คนไทยพุทธควรมีปัญญา วิเคราะห์ได้เองครับ ทุกอย่าง ได้ถูกวิเคราะห์ในแนวมิติแห่งผลประโยชน์ แม้ในองค์กรสงฆ์ ถ้าหากว่าคนไทยหูเบา องค์กรสงฆ์คงแตกแยก และ มลาย สิ้นแน่นอน เพราะว่า ขาดความน่าเชื่อถือทั้งสิ้น  แม้เสียเพียงหนึ่งก็พังเสียสิ้น ครั้งนี้ศาสนาพุทธเหมือนยังคงอยู่แต่คงจะสูญสิ้นไปอย่างช้า ๆ  พระที่อยู่ ป่าอยู่เขาที่บอกว่าตั้งใจปฏิบัติดี ไม่สนใจใคร ธุดงค์แต่ในป่า ท่านคงไม่มายุ่ง อยู่แล้ว แต่ได้รับผลกระทบแน่ ๆ เคยได้ยินพระ ที่อยู่ในป่า บ่นให้ฟังว่า อยู่ ในป่าไม่ได้แล้ว อยู่ ๆ เขาก็ประกาศเป็นเขต วนอุทยาน เลย ต้องลงมาจากป่า มาอยู่กัน ล่างภูเขา เหมือนวัดป่าสามแยก ก็ต้องถูกไล่ออกมาเหมือนกัน สมัยก่อนก็ไม่มีพุทธบัญญัติว่า พระต้องช่วยประเทศชาติอย่างไร แต่คราวเกิด ศึกสงครามพระก็ออกมา เป็นเสาหลักให้บ้านเมือง ต่อสู้กับศัตรู ดูหนัง สมเด็จ พระนเรศวร ( แม้จะเป็นหนัง ) ก็คงไม่ต่างจากความจริงเท่าไรนัก แนวการวิเคราะห์ปัจจุบันเน้นอย่างเดียวคือผลประโยชน์ แต่ ลืมไปว่าสิ่งที่ได้มาคือการเผยแพร่พุทธศาสนาและวิชชาธรรมกายไปทั่วโลก จากคุณ : KOB ON KALA เขียนเมื่อ : 11 เม.ย. 55 11:26:56

ความคิดเห็นที่ 8   พระเทพญาณมหามุนี เลิกเอา "...พระพุทธศาสนา..." "...วิชชาธรรมกาย..." และ "...หลวงพ่อวัดปากน้ำ..." มาหากินเมื่อไหร่ เราจะเลิกต่อต้านท่านเมื่อนั้น จากคุณ : ปทุมฉัตรสหัสรังษี เขียนเมื่อ : 11 เม.ย. 55 12:12:03