(ว่่าจะอ่านเฉยๆ นานๆจะเห็นท่าน FOB มาเสียที)
(แต่อ่านท่านประดับดาวแล้วอด พิมพ์ต่อไม่ได้)
ขออภัยท่าน FOB ล่วงหน้า ในบางถ้อยคำนะครับ
--------------------
ถ้าอยู่ในพุทธแล้ว "มองโลกแง่บวก" ไม่เป็น
ลองไปอยู่กับคริสต์ดูสักพักครับ สิ่งดีๆที่เกิด คุณจะยกประโยชน์
ให้คุณความดีความรักที่เป็นต้นกำเนิดจักรวาล
จิตจะปล่อยวางขึ้น ผลักภาระไปให้คนอื่น(พระเจ้า)รับผิดชอบ
มันสงบกว่า นิ่งกว่า กังวลน้อยกว่า
จิตทางพุทธซึ่งสอนให้แบกกรรมตัวเอง
ไว้ในจิตใต้สำนึกตลอดเวลาอยู่แล้ว
"เมื่อยังไม่มีเรื่องดีๆเกิดขึ้น" หรือ "อยู่ในช่วงรอคอยสิ่งดีๆ ที่คิดว่าจะเกิดกับเรา"
มันคือช่วงเวลาแห่ง"ความหวัง" ที่จิตกำัลังคิดบวกโดยอัติโนมัติ
เพราะตอนนี้คุณเชื่อมจิตไว้กับความดีหนึ่งเดียวในจักรวาล
คลื่นความถี่ในสมองคุณจะแจ่มใสกว่า ไปที่ไหนก็มีสง่าราศีกว่า
ถูกตาถูกใจทั้งมิตรและไม่ใ่ช่มิตรมากกว่า
"โอกาสใหม่ๆ" จากคลื่นความคิดบวก เข้ามาหาได้ง่ายกว่ามาก
ต่างกับพุทธแบบไทยๆ ซึ่งถ้ามีปัญหามักจมอยู่กับชีวิต
เพราะโทษกรรมเก่าในอดีตชาติ ยิ่งเชื่อยิ่งเห็นโซ่ตรวนเส้นโต
รัดข้อเท้ายาวไปสุดลูกหู ลูกตา
จะหันหน้าเข้าพุทธศาสนาเวลาเจอมรสุม จับหน้าอริยสัจ ก็เจอคำว่า
"ทุกข์" ตัวแรก ยิ่งเบิ้ลซ้ำความทุกข์เดิม ที่พยายามแกล้งลืมมันซะอีก
หนีไปแก้กรรม ดูหมอ บูชาเทพเทวดา รู้สึกว่าหายทุกข์กว่า
ผ่าง!!
ทั้งๆ ที่คำสอนพุทธเราจริงๆ มีทั้งการมองโลกแง่บวก การควบคุมจิต
มีทั้งวิธีสู้อุปสรรค วิธีปล่อยวาง ทำสมาธิควบ ตำราพุทธเราก็พิชัยสงครามดีๆนี่เอง
มีครอบคลุมที่สุดแล้วนะครับ ในเชิงจิตวิญญาณ แง่อารมณ์ความรู้สึก
ตั้งแต่ธรรมชาติสรรพสิ่งขั้นหยาบ ถึงละเอียด
แต่อาจเพราะวัฒนธรรมไทยๆ เราเน้นอมทุกข์กันมากกว่าชนะทุกข์มั้งครับ
ให้ลองสังเกต องค์ดาไลลามะผู้นำทางจิตวิญญาณแห่งศาสนาพุทธสิครับ
ท่านยิ้มมมมม น่ารัก เหมือนคนคิดบวกอยู่ตลอดเวลา
-------------------
แก้ไขเมื่อ 12 เม.ย. 55 04:16:28
แก้ไขเมื่อ 12 เม.ย. 55 04:08:22