อันนี้คือเจตนาในการโจมตีฮะดีษ และบิดเบือนศาสนาของ login มุนาฟิกแมทท์ ผู้ซึ่ง ปฏิเสธทั้งท่านนบีมุฮัมมัด และกุรอ่าน มาแล้งนั่นเอง
กระทู้นี้ก็เช่นกัน ทำให้เราเห็นว่ามีความพยายามในการบ่อนทำลายอิสลามอย่างไร และใครบ้าง ที่เห็นด้วยกับแนวทางนี้ ซึ่งก็เป็น พวกผู้ที่ไม่ชอบอิสลามกันทั้งนั้น
เรื่องนี้ คุณใจนิ่งอธิบายไปชัดเจนดีแล้วครับว่า
เป็นบทที่เตื่อนมุสลิมว่า อย่าเอาเรื่องที่ไม่ดีที่เค้าทำผิดไปนินทาหรือเปิดเผยจนทำให้เขาเกิดความอับอาย คือไม่ให้มุสลิมเป็นพวกขี่ฟ้องหรือนินทา แต่ถ้าเป็นความผิดที่ร้ายแรงในลักษณะที่กระทบต่อรัฐหรือบุคคลอื่นที่อยู่ในสังคม อิสลามก็บังคับให้มุสลิมยืนอยุ่บนฝ่ายที่ถูกต้อง โดยไม่เห็นแกพวกพ้อง คุณmac คงไปเจอจากในอัลกรุอานคำแปลที่เน้นสำนวนมากกว่าความละเอียดของเนื้อหาคงจะเข้าใจผิด เพราะปกติการศึกษาอัลกรุอานต้องศึกษาจากหนังสืออรรถาธิบายอีกที ไม่งันก็จะเข้าใจ ผิด เช่น หลายคนที่มักเขาใจผิดเรื่องบทที่กล่าวถึงการฟันคอ เรื่องทาศ เป็นต้น มันช่วยไม่ได้อยากเข้าใจผิดการศึกษาอัลกรุอานจากอัลกรุอานแปลความหมาย ที่มีอติจะทำให้เข้าใจผิดทันที แต่ถ้าใครที่อ่านเพื่อต้องการค้นหาศัจธรรมก็จะพบศัจธรรม ถ้าพระองค์ทรงประสงค์
...และพวกเจ้าจงให้ความเที่ยงธรรมเถิด แท้จริงอัลลอฮ์ทรงรักใคร่บรรดาผู้ให้ความเที่ยงธรรม. (พระคัมภีร์กุรอาน, 49:9)
...และจงอย่าให้การเกลียดชังพวกหนึ่งพวกใด ทำให้พวกเจ้าไม่ยุติธรรม จงยุติธรรมเถิด มันเป็นสิ่งที่ใกล้กับความยำเกรงยิ่งกว่า.... (พระคัมภีร์กุรอาน, 5:8)
อัลลอฮฺ มิได้ทรงห้ามพวกเจ้าเกี่ยวกับบรรดาผู้ที่มิได้ต่อต้านพวกเจ้าในเรื่องศาสนาและพวกเขามิได้ขับไล่พวกเจ้าออกจากบ้านเรือนของพวกเจ้าในการที่พวกเจ้าจะทำความดีแก่พวกเขา และให้ความยุติธรรมแก่พวกเขา แท้จริงอัลลอฮฺ ทรงรักผู้มีความยุติธรรม (ซูเราะฮฺ al-Mumtahanah 60 : 8)
ซึ่ง บทที่ว่านั้น ก็ไม่ต่างกับ บทนี้ครับ
ดูกร ศรัทธาชน! พวกเธอจงปลีกตัวให้พ้นจากการสงสัยส่วนมาก แท้จริงการสงสัยบางอย่างนั้นเป็นบาป และพวกเธออย่าสอดแนม และพวกเธออย่านินทาซึ่งกันและกัน มีพวกเธอสักคนไหมที่ชอบที่จะกินเนื้อพี่น้องของตนที่ตายไป? พวกเธอย่อมเกลียดมัน และจงยำเกรงอัลลอฮฺเถิด แท้จริงอัลลอฮฺคือพระผู้ทรงอภัยโทษ พระผู้ทรงปรานีเสมอ(49:12)
การนินทานั่นแหละครับ คือการเปิดเผยความชั่วของกันและกัน ไม่ว่าภาษาอาหรับจะว่าอย่างไร (น่าขบขันนะครับ ที่คนไม่รู้ภาษาอาหรับแบบแมทท์พยายามอ้างคำอาหรับเพื่อเพิ่มความน่าเชื่อถือของตน) แต่มันก็คือการนินทาชนิดหนึ่งอยู่ดี
นั่นเพราะการเปิดเผยความชั่วนั้น ถ้าไม่มีพยานยืนยัน ไม่มีหลักฐานชัดเจน การเปิดเผยความชั่วนั้น ย่อมไม่ต่างกับนินทา เพราะนำผู้กระทำผิดมาลงโทษไม่ได้ คนผิดไม่ได้รับการลงโทษ แต่เรื่องชั่วๆ ที่ทำไว้ ได้รับการเปิดเผย ได้รับการกล่าวถึงไปแล้ว
มันก็กลายเป็นตัวอย่าง หรือเรื่องชั่วๆ แพร่กระจายไปในสังคมโดยนำคนผิดมาลงโทษไม่ได้
ยกตัวอย่างเช่น เราไปเห็นคนละเมิดประเวณีกัน แต่เราไม่มีหลักฐาน เอาผิดไม่ได้ แล้วเอาไปพูดต่อว่า เนี่ยเมื่อวานเห็นคนนี้กับคนนี้ละเมิดประเวณีกันนะ ถามว่า นี้ไม่เรียกนินทาหรือ นี่ไม่ใช่การเปิดเผยความชั่วผู้อื่นหรือ? แล้วทำไปทำไมล่ะครับ มันไม่มีประโยชน์
เหมือนที่ผมยกตัวอย่างคือ
ครั้งนึง ท่านอุมัร ได้เดินผ่านที่บ้านหลังหนึ่ง และได้พบเห็น ชายหญิงกำลังสมสู่กันโดยการลักลอบประเวณี
ท่านอุมัรจึงมาที่ศาลของเมืองและได้พูดขึ้นว่า ท่านเห็นชายหญิงคู่หนึ่งทำซินากัน หลังจากประโยคนั้นจบก็มีซอฮาบะท่านนึงพูดขึ้นว่า ท่านอุมัรขอให้ท่านหยุดพูดนอกจากท่านจะหาพยานที่เห็นเหตุการณ์มาให้ครบ 4 คน หรือมิเช่นนั้น ท่านจะถูกเฆี่ยน 80 ครั้งฐานกล่าวเท็จ ถ้าหากท่านพูดชื่อเขาชายหญิงคู่นั้นออกมา
เมื่อไม่มีหลักฐาน พยาน เมื่อนำมาลงโทษไม่ได้ ก็ไม่ควรที่จะนำไปโพนทะนาครับ เพราะนั่นคือการนินทา มันไม่ก่อประโยชน์ แต่มันทำให้ความชั่วร้าย แพร่ขยายออกไป โดยนำคนผิดมาลงโทษก็ไม่ได้
ดังนั้น การตักเตือนโดยลับจึงจำเป็นถ้าเราไม่มีพยานนะครับ