ความคิดเห็นที่ 1 เนื้อหา จากการศึกษาโครงการ ตักบาตรพระหนึ่งล้านรูป ถวายเป็นพุทธบูชา ฉลองพุทธชยันตี 2,600 ปีแห่งการตรัสรู้ธรรม วันที่ 10, 11, 17, 18, 24, 25 มีนาคม พ.ศ.2555 สะพานใหม่ ตลาดยิ่งเจริญ, เกษตร – รัชโยธิน, บริเวณห้าแยกลาดพร้าว – สี่แยกสะพานควาย, ประตูน้ำ เซ็นทรัลเวิลด์, เยาวราช และวงเวียนใหญ่ อย่างละเอียดนั้นทำให้พบข้อสงสัย ดังนี้  1.หน่วยงานที่รับผิดชอบ ที่อ้างถึง " คณะสงฆ์ " นั้น วัดพระธรรมกายพยามทำให้เกิดความคลุมเครือ ให้เข้าใจว่า คณะสงฆ์ที่ระบุไว้ หมายเอาคณะสงฆ์ ทั้งแผ่นดิน ( มีการอธิบายเช่นนี้จากพระ pr วัดพระธรรมกาย ) ทั้งๆที่จริงแล้วนั้น คณะสงฆ์ที่เป็นผู้ปกครองสูงสุดและคณะสงฆ์ที่เกี่ยวข้องไม่ได้เข้ามามีส่วนร่วมด้วยในกิจกรรมนี้เลย เมื่อถามว่าทำไม ก็ตอบว่า แม้ว่าจะมีประธานฝ่ายสงฆ์ ที่เป็นพระมหาเถรานุเถระ ชั้นผู้ใหญ่ มาร่วมกิจกรรม อาทิ - สมเด็จพระมหาวีรวงศ์ กรรมการมหาเถรสมาคม,เจ้าอาวาสวัดสัมพันธวงศ์ ( ถูกลูกศิษย์ลากมา ) - พระพรหมเมธี โฆษกมหาเถรสมาคม,กรรมการมหาเถรสมาคม,ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดสัมพันธวงศ์ - พระพรหมดิลก กรรมการมหาเถรสมาคม,เจ้าคณะภาค ๑๐,เจ้าอาวาสวัดสามพระยา - พระธรรมกิตติวงศ์ เจ้าอาวาสวัดราชโอรสาราม - พระเทพมุนี รองเจ้าคณะภาค ๘, วัดไตรมิตรวิทยาราม แต่นั่นก็มาในนาม " ส่วนตัว " ไม่ได้มีความเกี่ยวข้องใดใดหรือมีมติให้มาแทน " มหาเถรสมาคม " ซึ่งเป็นองค์กรปกครองสูงสุดของคณะสงฆ์ไทย อย่างนี้จะเรียกว่า คณะสงฆ์เป็นหน่วยงานรับผิดชอบนั้นไม่ได้ หากจะหมายเอาคณะสงฆ์ที่รับผิดชอบ ก็ต้องเป็นคณะสงฆ์วัดพระธรรรมกายเท่านั้น ไม่ใช่คณะสงฆ์ทั้งแผ่นดิน อย่างที่ว่าเอาไว้ เพราะถ้าหากจะให้ถูกต้องตามแบบธรรมเนียมปฏิบัติ และคำกล่าวที่ว่าคณะสงฆ์ เป็นผู้รับผิดชอบโครงการ ผู้รับผิดชอบโครงการจะต้องเป็นคณะสงฆ์ที่รวมไปถึงมหาเถรสมาคม ,คณะสงฆ์ภาคที่ ๑ และคณะสงฆ์กรุงเทพมหานคร ดังนั้นการจะนิมนต์พระมหาเถรานุเถระมาเป็นประธานฝ่ายสงฆ์ ถ้าจะให้ต้องโดยธรรมเนียมปฏิบัติแล้วก็จะต้องมีพระมหาเถรานุเถระเจ้าคณะปกครอง,เจ้าของพื้นที่ดังนี้  - สมเด็จพระพุฒาจารย์ วัดสระเกศ ฯ ประธานคณะผู้ปฏิบัติหน้าที่ สมเด็จพระสังฆราช ( เอาละเผื่อจะมาบอกว่าสมเด็จวัดสระเกศท่านอาพาธ ท่านไม่มาหรอก ก็มีเบอร์สองให้ครับ ) - สมเด็จพระพุทธชินวงศ์ เจ้าอาวาสวัดพิชยญาติการาม กรรมการมหาเถรสมาคม และ เจ้าคณะใหญ่หนกลาง เจ้าของพื้นที่เบอร์ ๑ - พระราชวิสุทธิเวที เจ้าอาวาสวัดชนะสงคราม และ เจ้าคณะภาคที่ ๑ เจ้าของพื้นที่เบอร์ ๒* - พระธรรมสิทธินายก เจ้าอาวาสวัดจันทาราม และเจ้าคณะกรุงเทพมหานคร เจ้าของพื้นที่เบอร์ ๓ นี่ครับจึงจะถือได้ว่า เป็นการให้เกียติและแสดงให้เห็นว่ามีคณะสงฆ์ที่เกี่ยวข้องเป็นผู้รับผิดชอบโครงการจริงๆ ไม่ใช่พอพระมาเยอะแยะ จะมาเหมารวมว่าคณะสงฆ์ทั้งแผ่นดินเป็นผู้รับผิดชอบโครงการแบบนี้จะเรียกว่าข้ามหน้าข้ามตาสายการบังคับบัญชาการปกครองคณะสงฆ์ ก็เพราะชอบทำกันแบบนี้ไงครับ พระเถระ พระมหาเถระผู้ใหญ่ หลายๆท่านจึงไม่เอาด้วย  สำหรับนี้ถือเป็นหลักฐานเด็ด เพราะมติมหาเถรสมาคม ที่ ๑/๒๕๕๕ เรื่องการจัดงานฉลองพุทธชยันตี ก็ไม่มีมติใดๆที่เกี่ยวข้องหรือพูดการจัดกิจกรรมของวัดพระธรรมกายหรือมีเรื่องที่วัดพระธรรมกายส่งมาเพื่อขอให้มหาเถรสมาคมรับผิดชอบโครงการดังกล่าว http://www.onab.go.th/attachments/5654_5522_1-55.pdf ปล.* แม้ว่าพระศรีศาสนวงศ์ เจ้าอาวาสวัดหงรัตนาราม,รองเจ้าคณะภาค ๑ จะไปร่วมกิจกรรม แต่อย่าเหมาว่าเจ้าคณะภาค ๑ จะส่งท่านไปเป็นตัวแทนนะครับ เพราะท่านไปในนามส่วนตัว ตามฏีกานิมนต์ เท่านั้นหล่ะ  จากคุณ : ราชมัล เขียนเมื่อ : วันมหาสงกรานต์ 55 13:12:14

ความคิดเห็นที่ 2 ประเด็น  จะว่าไปนะครับ " ศูนย์ปฏิบัติการพระวินยาธิการคณะสงฆ์กรุงเทพมหานคร " หรือเทียบเท่ากับ " กองบัญชาการตำรวจนครบาล " มีระเบียบ ข้อฏิบัติ ในการดูแล อาจาระ ของพระภิกษุสามเณร และการจัดกิจกรรมของคณะสงฆ์ภายในเขตการปกครองคณะสงฆ์กรุงเทพมหานครทั้งหมด ในส่วนของการจัดกิจกรรมตั้งบาตรพระหนึ่งล้านรูปของวัดพระธรรมกายนั้น หากมากางดูระเบียบของ ศูนย์ปฏิบัติการพระวินยาธิการคณะสงฆ์กรุงเทพมหานคร  ในบทที่ ๒ หมวดที่ ๑ " เรื่อง การบิณฑบาตรในลักษณะเรี่ยไร,ขอบิณฑบาตรข้าวสารอาหารแห้ง " ได้ระบุวิธีปฏิบัติในการจัดกิจกรรมบิณฑบาตรข้าวสารอาหารแห้งไว้เอาว่า ๑.ให้เจ้าอาวาสหรือเจ้าสำนักทำหนังสือยื่นขออนุญาตต่อเจ้าคณะเขตเจ้าของท้องที่ล่วงหน้าก่อน ๑ เดือน หรืออย่างน้อย ๑๕ วัน ๒.ให้บอกชื่อวัดชื่อสำนัก พร้อมด้วยสถานที่ เช่น ตำบล/แขวง อำเภอ/เขต จังหวัด ให้ชัดเจนพอที่เจ้าคณะเขตจะตอบให้ทราบได้ ๓.ให้แจ้ง วัน เดือน ปี เวลา สถานที่ที่จะบิณฑบาตรและจำนวนพระภิกษุ-สามเณร ที่แน่นอน พร้อมคฤหัสถ์ ( ถ้ามี ) ๔.ให้แนบเอกสารประชาสัมพันธ์ทั้งหมดที่จะโฆษณาประชาสัมพันธ์มา พร้อมหนังสือขออนุญาต และหนังสือยินยอมจากเจ้าของพื้นที่นั้นๆ ๕.การที่จะเห็นควรอนุญาต ไม่อนุญาตนั้น ให้อยู่ในอำนาจของเจ้าคณะเขตในท้องที่นั้นๆ ๖.เมื่อเจ้าคณะเขตท้องที่พิจารณาเห็นควรอย่างไรแล้ว ให้รายงานต่อเจ้าคณะกรุงเทพมหานคร เพื่อทราบโดยเป็นเอกสารลายลักษณ์อักษร  ๗.ในกรณีเห็นควรอนุญาตให้เจ้าคณะเขตท้องที่มีคำสั่งหรือสั่งมอบหมายให้พระภิกษุจำนวนหนึ่ง ( ควรเป็นเจ้าหน้าที่พระวินายาธิการ ) เป็นตัวแทนไปคอยควบคุมดูแลความเรียบร้อยรวมอยู่ด้วย ๘.ในกรณีเจ้าคณะเขตไม่เห็นควรอนุญาตให้ถือว่าเป็นอันสิ้นสุด ดังที่กล่าวมานี้ สำหรับเรื่องทำบุญไม่ว่ากัน เพราะอย่างไรเสียก็เป็นคนละส่วนกับเรื่องระเบียบข้อปฏิบัติ เพียงแค่จะชี้ให้เห็นถึงขั้นตอนการปฏิบัติของคณะสงฆ์ที่มีแบบแผนและวางเอาไว้อย่างเป็นระบบ วัดพระธรรมกายเอง อาจจะบอกว่า การจัดตักบาตรของตนนั้นก็วางเป็นระบบ มีระเบียบ นั่นก็ใช่ครับ แต่การอ้างถึงคณะสงฆ์ เป็นผู้ร่วมรับผิดชอบนั้นเล่า วัดพระธรรมกายได้ถามตามขั้นตอนการปฏิบัติเหล่านี้หรือยัง นี่คือข้อเสียของพวกที่นึกว่า ไม่เป็นไรหรอก เพราะพระผู้ใหญ่มา คงไม่มีใครว่าหรอก ใครจะกล้า เจ้าคณะเขต ตัวน้อยๆ จะกล้าหือหรืออย่างไร  สำหรับส่วนนี้หากผมกล่าวผิด ทางศิษยานุศิษย์วัดพระธรรมกายก็อย่ายอมเชียวครับ ท่านต้องแก้ต่างและชี้แจงให้เห็นชัดๆว่า วัดพระธรรมกายไม่ได้ปฏิบัติผิดขั้นตอน ไม่ได้ลักไก่ ด้วยการ 1.โชว์หนังสือขออนุญาตบิณฑบาตรอาหารแห้ง จาก วัดพระธรรมกายไปถึง  เจ้าคณะเขตบางเขน-จตุจักร  เจ้าคณะเขตพญาไท  เจ้าคณะเขตสัมพันธวงศ์ เจ้าคณะเขตธนบุรี  2.แสดงข้อเท็จจริงว่า เหตุไฉนจึงไม่มี " พระมหาเถระเจ้าคณะพระสังฆาธิการคณะสงฆ์ที่ปกครองในพื้นที่กรุงเทพฯ ในฐานะเจ้าของพื้นที่ " ไปร่วมกิจกรรมรับผิดชอบตามระบุในโครงการเลยครับ 3.แสดงข้อเท็จจริงว่า เหตุไฉน " มหาเถรสมาคม " ซึ่งเป็นองค์รปกครองสูงสุด ไม่ได้มีมติส่งผู้แทนมหาเถรสมาคมเข้าไปร่วมโครงการ ตามที่ระบุว่า " คณะสงฆ์ " เป็นผู้รับผิดชอบโครงการ  เอาพอหอมปากหอมคอก่อนนะครับ ไว้จะว่ากันอีกทีในประเด็นใหม่  จากคุณ : ราชมัล เขียนเมื่อ : วันมหาสงกรานต์ 55 13:17:14

ความคิดเห็นที่ 3 ท่าน ราชมัล ขอถามคำถามหลังไมค์ เป็น ชุดๆ เพื่อ ป้องกัน ไก่ ตื่น ขออภัยล่วงหน้า ที่รบกวน ..... ส่งไปเรียบร้อยแล้วครับ แก้ไขเมื่อ 13 เม.ย. 55 13:54:37 จากคุณ : buddy เขียนเมื่อ : วันมหาสงกรานต์ 55 13:28:36

ความคิดเห็นที่ 4 คุณ buddy ครับผมยินดีครับ จากคุณ : ราชมัล เขียนเมื่อ : วันมหาสงกรานต์ 55 13:34:18

ความคิดเห็นที่ 5   คุณ Buddy ข้อมูลวงในวัดพระธรรมกายระดับนโยบาย สนธิกำลัง คุณราชมัล ข้อมูลวงในระดับราชการและมหาเถรสมคม (กล่าวผิดขออภัย) จากคุณ : ปทุมฉัตรสหัสรังษี เขียนเมื่อ : วันมหาสงกรานต์ 55 14:33:07

ความคิดเห็นที่ 6 อนุโมทนาและขอบคุณคุณราชมัลครับ มาลงชื่อไว้ ติดตามอ่านครับ จากคุณ : ต่อmcu เขียนเมื่อ : วันมหาสงกรานต์ 55 14:45:20

ความคิดเห็นที่ 7 ถามคุณราชมัล 3.ข้อสอบถามจากหน่วยงานและผู้ที่เกี่ยวข้องเพิ่งปรากฎให้ทราบ แล้วทำไม หน่วยงานหรือผู้เกี่ยวข้อง เขาไม่ทักท้วงล่ะ ? แค่สงสัยนะครับ  ผมสนับสนุนให้ตรวจสอบวัดพระธรรมกายอยู่แล้ว จากคุณ : KOB ON KALA เขียนเมื่อ : วันมหาสงกรานต์ 55 14:45:31

ความคิดเห็นที่ 8 เข้ามารอดูข้อมูลจาก ธรรมกาย ครับ เห็นด้วยกับ # 7 นะครับ ทั้ง ๆ ที่ไม่ถูกไม่ควร แต่ยังปล่อยให้ลัทธินี้ทำในสิ่งที่ไม่ควรทำหลาย ๆ อย่าง จนพุทธศาสนาปั่นป่วน แต่ก็อย่างว่า เท่าที่ทราบมา ทั้งหมดทั้งมวลก็เพราะ ทร้ัพย์ ที่ใคร ๆ ก็คงอยากร่วมวงแบ่งปัน โดยเฉพาะฝ่ายการเืมือง.... จากคุณ : werayuta เขียนเมื่อ : วันมหาสงกรานต์ 55 14:58:31

ความคิดเห็นที่ 9 ผมมาตั้งข้อสังเกตนะครับ แล้วก็ขอเรียนถามคุณราชมัล นะครับ ผมไม่ได้มาแก้ต่างหรือมาแย้งแทนวัดฯ ด้วยประการใดเลย เท่าที่ผมทราบมา ในกระทู้นี้มุ่งตรงไปที่งานตักบาตรแสนกว่ารูปเดือนมีนาคม เป็นงานจัดตักบาตร 1 แสนกว่ารูปสุดท้าย ในโครงการตักบาตรพระล้านรูป 77 จว. โดยโครงการตักบาตรพระล้านรูป 77 จว. เป็นโครงการต่อเนื่อง ดังจะเห็นในสื่อ DMC ที่เสนอข้อมูลว่า " พิธีตักบาตรในครั้งนี้เป็นหนึ่งในโครงการตักบาตรพระ 1 ล้านรูป 77 จังหวัด ทุกวัดทั่วไทย   ได้เริ่มดำเนินโครงการตั้งแต่ต้นปี 2551 และได้ดำเนินการต่อเนื่องมาโดยตลอดทุกจังหวัดจนถึงปัจจุบัน  ด้วยความร่วมมือของคณะสงฆ์ องค์กรทางพระพุทธศาสนา  หน่วยงานทั้งภาครัฐ และเอกชน จนถึงปัจจุบัน (2555)  ได้จัดตักบาตรในจังหวัดต่างๆ กว่า 450 ครั้ง  จำนวนพระมารับบิณฑบาต ประมาณ 900,000 รูป  ในช่วงเดือนมีนาคมนี้ เครือข่ายองค์กรภาคีจึงได้ร่วมใจกันจัดตักบาตรพระ  จำนวน 6 ครั้ง กว่า 100,000 รูป ในเขตชุมชนของกรุงเทพมหานคร  เพื่อถวายเป็นพุทธบูชาและร่วมฉลองตักบาตรครบ 1,000,000 รูป    " อ้างอิง http://news.dmc.tv/%E0%B8%82%E0%B9%88%E0%B8%B2%E0%B8%A7%E0%B8%94%E0%B9%88%E0%B8%A7%E0%B8%99/%E0%B8%82%E0%B9%88%E0%B8%B2%E0%B8%A7%E0%B8%9B%E0%B8%A3%E0%B8%B0%E0%B8%8A%E0%B8%B2%E0%B8%AA%E0%B8%B1%E0%B8%A1%E0%B8%9E%E0%B8%B1%E0%B8%99%E0%B8%98%E0%B9%8C/20100814_give_alms_1,000,000.html และในกรณี การจัดตักบาตรพระแสนกว่ารูปสุดท้ายนั้น ทาง DMC ก็ได้นำเสนอข้อมูลว่า " โดยมีองค์กรภาคีที่ร่วมกันจัดงาน สำนักนายกรัฐมนตรี  กรุงเทพมหานคร  สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ  องค์การยุวพุทธศาสนิกสัมพันธ์แห่งโลก (ยพสล.)  วัดพระธรรมกาย  มูลนิธิธรรมกาย  และอีกกว่า 40 องค์กรภาคี "  1. อย่างแรก ก็คือ คุณราชมัล กล่าวชัดเจนใน #1ว่า   เพราะมติมหาเถรสมาคม ที่ ๑/๒๕๕๕ เรื่องการจัดงานฉลองพุทธชยันตี ก็ไม่มีมติใดๆที่เกี่ยวข้องหรือพูดการจัดกิจกรรมของวัดพระธรรมกายหรือมีเรื่องที่วัดพระธรรมกายส่งมาเพื่อขอให้มหาเถรสมาคมรับผิดชอบโครงการดังกล่าว  นั้นถูกต้องแล้ว ดังจะปรากฏในหลักฐานที่ได้นำมาแสดง  ดังจะเห็นได้จาก มติมหาเถรสมาคมตั้งแต่ ปี 2551 ถึงปัจจุบัน จะไม่ได้ปรากฏ โครงการตักบาตรพระ 1 ล้านรูปเลย แม้แต่มติเดียว อ้างอิง http://www.mahathera.org/mati.php  ผมจึงสามารถกล่าวได้ว่า " โครงการตักบาตรพระล้านรูปนี้ จึงไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องกับมหาเถรสมาคมเลย "  อ้าว.. ในเมื่อไม่เกี่ยวกับมหาเถรสมาคมแล้ว ใครจะรับผิดชอบในส่วนนี้ล่ะ องค์กรที่ดูแลในส่วนนี้ คือ สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ  แล้วอำนาจหน้าที่ของ พศ. ล่ะ .. มีอะไร? สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ มีภารกิจเกี่ยวกับการดำเนินงานสนองงานคณะสงฆ์และรัฐโดยการทำนุบำรุง  ส่งเสริมกิจการพระพุทธศาสนา ให้การอุปถัมภ์ คุ้มครองและส่งเสริมพัฒนางานพระพุทธศาสนา  ดูแล รักษา จัดการศาสนาสมบัติ พัฒนาพุทธมณฑลให้เป็นศูนย์กลางทางพระพุทธศาสนา  รวมทั้งให้การสนับสนุนส่งเสริม พัฒนาบุคลากรทางศาสนา โดยมีอำนาจหน้าที่ดังต่อไปนี้   (1) ดำเนินการตามกฎหมายว่าด้วยการคณะสงฆ์ กฎหมายว่าด้วยการกำหนดวิทยฐานะผู้สำเร็จวิชาการพระพุทธศาสนา รวมทั้งกฎหมายและระเบียบที่เกี่ยวข้อง   (2) รับสนองงาน ประสานงาน และถวายการสนับสนุนกิจการและการบริหาร การปกครอง คณะสงฆ์   (3) เสนอแนวทางการกำหนดนโยบายและมาตรการในการคุ้มครองพระพุทธศาสนา   (4) ส่งเสริม ดูแล รักษา และทำนุบำรุงศาสนสถานและศาสนวัตถุทางพระพุทธศาสนา   (5) ดูแลรักษา และจัดการวัดร้างและศาสนสมบัติกลาง   (6) พัฒนาพุทธมณฑลให้เป็นศูนย์กลางทางพระพุทธศาสนา   (7) ทำนุบำรุงพุทธศาสนศึกษา เพื่อพัฒนาความรู้คู่คุณธรรม   (8) ปฏิบัติการอื่นใดตามที่กฎหมายกำหนดให้เป็นอำนาจหน้าที่ของสำนักงานหรือนายกรัฐมนตรีหรือคณะรัฐมนตรีมอบหมาย อ้างอิง http://www.onab.go.th/index.php?option=com_content&view=article&id=77&Itemid=67 ซึ่งหน่วยงานทางพุทธศาสนานี้ ก็สามารถจัดงานตักบาตรได้เช่นกัน ถูกต้องไหมครับ? ไม่จำเป็นต้องไปถึง มหาเถรสมาคมก็ได้ถูกต้องไหมครับ? ในเมื่องานตักบาตรล้านรูปไม่ได้เกี่ยวข้องกับ มหาเถรสมาคม แล้วล่ะก็ จึงไม่จำเป็นต้องมีพระมหาเถระเจ้าของพื้นที่ไปร่วมกิจกรรม หรือแม้แต่จะให้มีการส่งผู้แทนมหาเถรสมาคมไปร่วม ผมเข้าใจถูกต้องไหมครับ? คุณราชมัล ตอบ ข้อ 2-3 #2 2. " คณะสงฆ์ทั้งแผ่นดิน " ในเมื่อผมมีทัศนคติเดิมที่ดีต่อวัดพระธรรมกายอยู่แล้ว ผมอาจตั้งข้อสังเกตได้ว่า ใช้คำนี้น่ะถูกต้องแล้ว เพราะงานนี้ตักบาตรทั้งประเทศทั้งแผ่นดินไทย 77 จว. นิครับ ไม่ใช้มีแต่พระวัดพระธรรมกายวัดเดียวเสียเมื่อไหร่ และอีกอย่างโครงการนี้เป็นโครงการที่ส่งเสริมกิจการงานพระพุทธศาสนา และถ้าคำนี้ใช้ผิดจริง ทาง มส. หรือแม้แต่ พศ. ก็ต้องออกมาติติง คัดค้านตั้งแต่เดือนแรกๆ ปีแรกๆ แล้วครับ แต่ในปัจจุบันก็ยังใช้คำๆ นี้อยู่.. คำๆ นี้จึงไม่แปลกอะไรที่จะนำมาประชาสัมพันธ์ในชาวพุทธได้รับรู้รับทราบ ผมเข้าใจถูกต้องไหมครับในกรณีนี้? 3. ในเมื่อ กรุงเทพมหานคร ร่วมจัดงานเองแล้ว  ทาง พศ. ซึ่งเป็นองค์ร่วมจัด จะส่งไปขออนุญาตไม่ดีกว่าหรือ ทาง สำนักนายกรัฐมนตรี จะส่งไปเองก็ไม่แปลกอะไร หรือแม้แต่ทางกรุงเทพมหานคร จะส่งไปขอเองก็ยังได้ เพราะเป็นองค์กรภาคีร่วมกันจัดงาน ดังนั้น ทางวัดพระธรรมกายมีความจำเป็นด้วยหรือครับที่จะต้องส่งหนังสือไปขออนุญาตครับ?  ตอบข้อ 1 #2 ผมเพียงแค่ตั้งข้อสังเกตนะครับ และตั้งคำถามบางประการ ถูก ผิด ประการใด โปรดช่วยชี้แนะ เด็กไม่รู้จักโต(เค้าว่ากัน) อย่างผมด้วยครับ อนุโมทนาบุญด้วยนะครับ คุณราชมัล  จากคุณ : สาธุ (รักษาบรรยากาศ) เขียนเมื่อ : วันมหาสงกรานต์ 55 15:16:21

ความคิดเห็นที่ 10 คุณ  KOB ON KALA  ความคิดเห็นที่ 7    ถามคุณราชมัล 3.ข้อสอบถามจากหน่วยงานและผู้ที่เกี่ยวข้องเพิ่งปรากฎให้ทราบ แล้วทำไม หน่วยงานหรือผู้เกี่ยวข้อง เขาไม่ทักท้วงล่ะ ? แค่สงสัยนะครับ  ผมสนับสนุนให้ตรวจสอบวัดพระธรรมกายอยู่แล้ว จากคุณ : KOB ON KALA   เขียนเมื่อ : วันมหาสงกรานต์ 55 14:45:31 - อันเหตุที่ไม่ทักท้วง ก็ด้วยเพราะ กิจกรรมดังที่ว่านั้นผ่านล่วงไปแล้ว โทษหรือบทลงโทษนั้น ก็มิได้หนักหนาสาหัสร้ายแรงใดๆ เพียงผมหยิบยกประเด็นของการจัดกิจกรรม ที่เที่ยวอ้างคณะสงฆ์ทั้งแผ่นดิน แต่ทั้งที่ในความเป็นจริงแล้วนั้นเป็นแค่เพียงส่วนหนึ่งหรือหยิบมือหนึ่งเท่านั้นเอง  จากคุณ : ราชมัล เขียนเมื่อ : วันมหาสงกรานต์ 55 16:11:39

ความคิดเห็นที่ 11 คุณ รักษาบรรยากาศ  ความคิดเห็นที่ 9    ผมมาตั้งข้อสังเกตนะครับ แล้วก็ขอเรียนถามคุณราชมัล นะครับ ผมไม่ได้มาแก้ต่างหรือมาแย้งแทนวัดฯ ด้วยประการใดเลย เท่าที่ผมทราบมา ในกระทู้นี้มุ่งตรงไปที่งานตักบาตรแสนกว่ารูปเดือนมีนาคม เป็นงานจัดตักบาตร 1 แสนกว่ารูปสุดท้าย ในโครงการตักบาตรพระล้านรูป 77 จว. โดยโครงการตักบาตรพระล้านรูป 77 จว. เป็นโครงการต่อเนื่อง ดังจะเห็นในสื่อ DMC ที่เสนอข้อมูลว่า " พิธีตักบาตรในครั้งนี้เป็นหนึ่งในโครงการตักบาตรพระ 1 ล้านรูป 77 จังหวัด ทุกวัดทั่วไทย   ได้เริ่มดำเนินโครงการตั้งแต่ต้นปี 2551 และได้ดำเนินการต่อเนื่องมาโดยตลอดทุกจังหวัดจนถึงปัจจุบัน  ด้วยความร่วมมือของคณะสงฆ์ องค์กรทางพระพุทธศาสนา  หน่วยงานทั้งภาครัฐ และเอกชน จนถึงปัจจุบัน (2555)  ได้จัดตักบาตรในจังหวัดต่างๆ กว่า 450 ครั้ง  จำนวนพระมารับบิณฑบาต ประมาณ 900,000 รูป  ในช่วงเดือนมีนาคมนี้ เครือข่ายองค์กรภาคีจึงได้ร่วมใจกันจัดตักบาตรพระ  จำนวน 6 ครั้ง กว่า 100,000 รูป ในเขตชุมชนของกรุงเทพมหานคร  เพื่อถวายเป็นพุทธบูชาและร่วมฉลองตักบาตรครบ 1,000,000 รูป    " อ้างอิง http://news.dmc.tv/%E0%B8%82%E0%B9%88%E0%B8%B2%E0%B8%A7%E0%B8%94%E0%B9%88%E0%B8%A7%E0%B8%99/%E0%B8%82%E0%B9%88%E0%B8%B2%E0%B8%A7%E0%B8%9B%E0%B8%A3%E0%B8%B0%E0%B8%8A%E0%B8%B2%E0%B8%AA%E0%B8%B1%E0%B8%A1%E0%B8%9E%E0%B8%B1%E0%B8%99%E0%B8%98%E0%B9%8C/20100814_give_alms_1,000,000.html และในกรณี การจัดตักบาตรพระแสนกว่ารูปสุดท้ายนั้น ทาง DMC ก็ได้นำเสนอข้อมูลว่า " โดยมีองค์กรภาคีที่ร่วมกันจัดงาน สำนักนายกรัฐมนตรี  กรุงเทพมหานคร  สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ  องค์การยุวพุทธศาสนิกสัมพันธ์แห่งโลก (ยพสล.)  วัดพระธรรมกาย  มูลนิธิธรรมกาย  และอีกกว่า 40 องค์กรภาคี "  ผมขอให้ภาพนี้เป็นคำตอบในส่วนนี้นะครับ แล้วค่อยมาแยกประเภทกันให้ชัดเจนอีกครั้ง ในลำดับถัดไป กับคำว่า " ร่วมจัดงาน " และ " รับผิดชอบโครงการ " จากคุณ : ราชมัล เขียนเมื่อ : วันมหาสงกรานต์ 55 16:26:39

ความคิดเห็นที่ 12 ภาพเกี่ยวข้องในความเห็นที่ 11 จากคุณ : ราชมัล เขียนเมื่อ : วันมหาสงกรานต์ 55 16:27:35

ความคิดเห็นที่ 13 1. ถ้าผมจะบอกว่า คำว่า " คณะสงฆ์ " ในภาพ #12 นี้ คือ  "คณะสงฆ์ที่เข้าร่วมงาน" จะผิดหรือไม่ครับ? 2. คำว่า "ร่วมจัดงาน" กับ " รับผิดชอบโครงการ " ถ้าผมจะกล่าวว่า " คณะสงฆ์และองค์กรภาคีที่มาให้การสนุนงานและร่วมจัดงาน ถือว่า เป็นผู้รับผิดชอบโครงการไปในตัวด้วย "   แบบนี้ ถือว่าถูกต้องไหมครับ? 3. ขอความกรุณาแสดงที่มาของภาพใน #12 ด้วยครับ จากคุณ : สาธุ (รักษาบรรยากาศ) เขียนเมื่อ : วันมหาสงกรานต์ 55 17:09:27

ความคิดเห็นที่ 14 คุณ รักษาบรรยากาศ ผมเกรงว่าคุณจะเข้าใจอำนาจหน้าที่ของสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ คลาดเคลื่อนนะครับ ดังที่คุณยกมานั้นจะมีส่วนถูกอยู่ตรงที่ งานใดๆ กิจการใดๆหรือกิจกรรมใดๆที่เกี่ยวข้องกับพระพุทธศาสนานั้น ล้วนแล้วแต่ต้องอยู่ในการดูแลของสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติทั้งสิ้น จะเป็นในทางตรงหรือทางอ้อม  แต่ข้อเท็จจริงแล้วไม่ได้เป็นอย่างนั้นครับ และส่วนที่คุณยกอำนาจหน้าที่ของสำนักงานพระพุทธศาสนามา 8 ข้อนั้น ผมเห็นจะขออธิบายให้เข้าใจตามที่คุณได้เน้นสีไว้ ในข้อที่ 2 และ 8 สำหรับข้อที่  1 คิดว่าคุณคงเน้นผิด เพราะไม่มีส่วนใดเกี่ยวข้องกัน  (2) รับสนองงาน ประสานงาน และถวายการสนับสนุนกิจการและการบริหาร การปกครอง คณะสงฆ์ คุณต้องทำความเข้าใจก่อนนะครับว่า สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาตินั้น เป็นส่วนราชการที่กำกับดูแลโดย "ฆาราวาส " เกิดมีกิจกรรม กิจการ หรืองานใดๆ หากออกจากสำนักงานพระพุทธศาสนาไปถึงพระ ก็อาจมีข้อครหาได้ว่า " ฆารวาสสั่งพระ " ดังนั้นจึงจำเป็นต้องมีหน่วยงาน ที่กำกับดูแลกิจการงานต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับพระ สั่งพระได้โดยตรง และนั่นจึงเป็นที่มาของ " สำนักงานเลขาธิการมหาเถรสมาคม " ซึ่งมีหน้าที่  1.ปกครองคณะสงฆ์ให้เป็นไปโดยเรียบร้อยดีงาม 2.ปกครองและกำหนดการบรรพชาสามเณร 3.ควบคุมและส่งเสริมการศาสนศึกษา การศึกษาสงเคราะห์ การเผยแผ่ การสาธารณูปการ และการสาธารณสงเคราะห์ของคณะสงฆ์ 4.รักษาหลักพระธรรมวินัยของพระพุทธศาสนา 5.ปฏิบัติหน้าที่อื่นๆ ตามที่บัญญัติไว้ในพระราชบัญญัตินี้หรือกฏหมาย นี่ครับ คือหน้าที่ของสำนักงานเลขาธิการมหาเถรสมาคม ซึ่ง ผู้อำนวยการสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ ทำหน้าที่เป็นเพียง " เลขาธิการมหาเถรสมาคม " โดยตำแหน่งเท่านั้น และมีประธานคือ สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปรินายก ( ปัจจุบัน มีประธานคณะผู้ปฏิบัติหน้าที่สมเด็จพระสังฆราช เป็นผู้ปฏิบัติหน้าที่แทน )  งานใดที่เกี่ยวข้องกับพระ ไม่ได้เกี่ยวกับ งานพระศาสนาที่หน่วยงานราชการจัด มหาเถรสมาคม เท่านั้นจะเป็นผู้ดูแลครับ คุณต้องไปศึกษาการแบ่งงานส่วนราชการในสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติให้ละเอียดกว่านี้นะครับ  อ้างอิง  http://www.mahathera.org/structure.php ผมยกตัวอย่างง่าย 2 กรณี เอาใกล้ๆตัวคุณก่อน ลองไปถามพระที่คุณสนิทๆในวัดพระธรรมกายดูซิว่า เวลาที่ท่านเดินทางไปปฏิบัติศาสนกิจต่างประเทศนั้น ท่านต้องไปขอ อนุญาตใคร ระหว่าง  สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ  ในฐานะที่เป็นหน่วยงาน รับสนองงาน ประสานงาน และถวายการสนับสนุนกิจการและการบริหาร การปกครอง คณะสงฆ์ ตามที่คุณว่า  หรือ   ศูนย์ควบคุมการไปต่างประเทศสำหรับพระภิกษุสามเณร  ที่อยู่ในความกำกับดูแลของสำนักงานเลขาธิการมหาเถรสมาคม กรณีที่ 2 เรื่องการจัดโครงการบรรพชา-อุปสมบท จะหมู่หรือจะเดียวก็ตามแต่ครับ แต่ถ้าไม่ใช่พระอุปัชฌาย์ในเขตการปกครองนั้น หากไม่ขออนุญาตเข้ามาปฏิบัติหน้าที่ ก็ไม่สามารถมาปฏิบัติได้ตามกฎมหาเถรสมาคม ฉบับที่ 17 ข้อที่ 23 ดังนั้น ทำไมพระธรรมกิตติวงศ์ ท่านจึงไม่ทำหนังสือขออนุญาต ไปยังสำนักงานพระพุทธศาสนา ในฐานะ หน่วยงาน รับสนองงาน ประสานงาน และถวายการสนับสนุนกิจการและการบริหาร การปกครอง คณะสงฆ์ ตามที่คุณว่า เพราะโครงการบรรพชาอุปสมบท ที่วัดพระธรรมกายจัดนั้น ก็มีรายชื่อสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ เป็นผู้ร่วมสนับสนุนโครงการ อยู่ด้วย แต่พระธรรมกิตติวงศ์ กลับทำหนังสือ ขออนุญาต ไปยังเจ้าคณะตำบลคลองสี่ ซึ่งเป็นพระสังฆาธิการปกครองตาม กฎมหาเถรสมาคมแทนครับ  สองตัวอย่างนี้คงจะทำให้คุณพอเข้าใจแล้วว่า ต่อให้เรื่องอะไรก็ตามแต่ เมื่อเป็นเรื่องของพระ สำนักงานพระพุทธศาสนาจะไม่เข้าไปก้าวล่วง จะถวายให้พระดำเนินการตามกฎและระเบียบคณะสงฆ์เองครับ (8) ปฏิบัติการอื่นใดตามที่กฎหมายกำหนดให้เป็นอำนาจหน้าที่ของสำนักงานหรือนายกรัฐมนตรีหรือคณะรัฐมนตรีมอบหมาย ข้อนี้ผมว่าจากการอธิบายในข้อ 2 คงกระจ่างชัดแล้วนะครับ สำนักนายกรัฐมนตรี ก็ดี รัฐมนตรีก็ดี หรือ คณะรัฐมนตรีก็ดี ต่างเข้าใจอำนาจหน้าที่ ของการแบ่งภารกิจของส่วนราชการ ตาม กฎกระทรวงแบ่งส่วนราชการสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ ดังนั้น จึงไม่มีการปฏิบัติที่ข้ามหน้าข้ามตากันเด็ดขาดครับ และถ้าเป็นอย่างที่คุณว่านั้นจริง ผมอยากทราบว่า " ฎีกานิมนต์พระมารับบิณฑบาตร " ใครเป็นผู้ออกครับ ใช่สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติหรือครับ  จากคุณ : ราชมัล เขียนเมื่อ : วันมหาสงกรานต์ 55 17:14:15

ความคิดเห็นที่ 15 คุณ รักษาบรรยากาศ 2. " คณะสงฆ์ทั้งแผ่นดิน " ในเมื่อผมมีทัศนคติเดิมที่ดีต่อวัดพระธรรมกายอยู่แล้ว ผมอาจตั้งข้อสังเกตได้ว่า ใช้คำนี้น่ะถูกต้องแล้ว เพราะงานนี้ตักบาตรทั้งประเทศทั้งแผ่นดินไทย 77 จว. นิครับ ไม่ใช้มีแต่พระวัดพระธรรมกายวัดเดียวเสียเมื่อไหร่ และอีกอย่างโครงการนี้เป็นโครงการที่ส่งเสริมกิจการงานพระพุทธศาสนา และถ้าคำนี้ใช้ผิดจริง ทาง มส. หรือแม้แต่ พศ. ก็ต้องออกมาติติง คัดค้านตั้งแต่เดือนแรกๆ ปีแรกๆ แล้วครับ แต่ในปัจจุบันก็ยังใช้คำๆ นี้อยู่.. คำๆ นี้จึงไม่แปลกอะไรที่จะนำมาประชาสัมพันธ์ในชาวพุทธได้รับรู้รับทราบ ผมเข้าใจถูกต้องไหมครับในกรณีนี้? อย่างที่ภาพประกอบหล่ะครับ คำว่า ผู้รับผิดชอบ กับ ร่วมกิจกรรม นั้น มันคนเรื่องกัน ตัวผมเองก็คิดว่าคุณเองก็ไม่น่าจะเป็นเด็กน้อยหอยสังข์ หรือเด็กกะโหลกกะลา และเชื่อแน่ว่าตัวคุณมีความรู้และวุฒิภาวะพอ ที่จะแยกแยะคำว่า " ผู้รับผิดชอบโครงการ " กับ " ร่วมโครงการหรือร่วมกิจกรรม " ได้ และถ้าแยกไม่ออกจริงๆผมจะอธิบายให้ครับ  ผู้รับผิดชอบโครงการ  หมายถึง  ผู้ที่จะทำหน้าที่จัดตั้งหรือบริหารงานรับผิดชอบในโครงการนั้น  ซึ่งอาจได้แก่  บุคคล  คณะบุคคล  หรือหน่วยงาน  ซึ่งจำแนกเป็นบุคคล  คณะบุคคล  หรือหน่วยงานผู้รับผิดชอบในโครงการ ในที่นี้วัดพระธรรมกาย ,มูลนิธิ วัดพระธรรมกาย ก็ระบุให้คณะสงฆ์ เป็นผู้รับผิดชอบโครงการด้วย  ดังนั้นคณะสงฆ์ที่ว่านั้นเป็นส่วนใดครับ จะมาเหมารวมเอาว่าพระที่มาบิณฑบาตรมาเป็นผู้รับผิดชอบไม่ได้หรอกครับ พระที่บิณฑบาตร มีเป็นพัน เป็นหมื่นรูป พระเหล่านั้นมาร่วมประชุม กับวัดพระธรรมกายหรือ มานั่งวางแผนงาน มานั่งจัดผัง มานั่งเตรียมงาน มานั่งกำกับดูแลภาพรวมของงาน มานั่งสั่งการ แจกจ่ายงาน ให้กับพวกคุณหรือครับ  ส่วนที่ว่าหากใช้คำผิด นั้นทำไมมหาเถรสมาคม ไม่ตำหนิ ติติง ผมถามกลับว่า ทำไมต้องรอให้มหาเถรสมาคมตำหนิติติงครับ บุคคลากรชั้นยอดสุมหัวกันอยู่ในวัดพระธรรมกาย การเขียนโครงการต่างๆมาจากบุคคลชั้นมันสมอง มีภูมิรู้ภูมิธรรม เข้าใจระเบียบแบบแผนงานกิจการคณะสงฆ์มากมาย ทำไมไม่ให้ถูกต้องตามแบบแผน ตามกรอบตามกติกาครับ แล้วคุณก็อย่าทึกทักไปเองว่าที่มหาเถรสมาคมไม่ติติง เพราะเขาเห็นดีเห็นงามด้วย จะเห็นได้จาก มหาเถรสมาคมไม่มีผู้แทนไปร่วมกิจกรรมดังกล่าว มีแต่พระเถระที่ดำรงตำแแหน่งกรรมการมหาเถรสมาคม ไปในนามส่วนตัว เท่านั้น  ไหนๆก็ถามผมแล้ว ผมขอถามบ้างนะครับ และถ้าหากอย่างนั้น ทำไม วัดพระธรรมกายจึงไม่อาราธนาเจ้าของพื้นที่มาร่วมกิจกรรม ไม่ว่าจะเป็น สมเด็จพระพุทธชินวงศ์ เจ้าคณะใหญ่หนกลาง พระราชวิสุทธิเวที เจ้าคณะภาค ๑ พระธรรมสิทธินายก เจ้าคณะกรุงเทพมหานคร  ทำไมพระมหาเถระเหล่านี้ไม่ได้รับอาราธนานิมนต์มาร่วมงาน คุณลองนึกเอาอย่างเป็นฆารวาสซิครับ เข้ามาในบ้านของคนอื่น มาทำนั่นทำนี่ในบ้านของเขา แต่กลับไม่เชิญเจ้าของบ้านไปร่วมงาน ธรรมเนียมไหนครับ บอกผมที จากคุณ : ราชมัล เขียนเมื่อ : วันมหาสงกรานต์ 55 17:35:35

ความคิดเห็นที่ 16 ผมอาจจะเข้าใจคลาดเคลื่อนจริงๆ อย่างที่คุณบอก เนื่องด้วยผมมิได้เกี่ยวข้องกับงานตรงส่วนนี้จริงๆจังๆ 1. ในข้อ 1 ที่ผมเน้นไว้นั้น   "  (1) ดำเนินการตามกฎหมายว่าด้วยการคณะสงฆ์ กฎหมายว่าด้วยการกำหนดวิทยฐานะผู้สำเร็จวิชาการพระพุทธศาสนา รวมทั้งกฎหมายและระเบียบที่เกี่ยวข้อง  " ผมเข้าใจไปว่า กิจการต่างๆ ของคณะสงฆ์ว่าด้วยเรื่องการดำเนินการทางโลก ทางกฏหมาย ทางกฏระเบียบที่เกี่ยวข้องนั้น เป็นส่วนของ พศ. ล้วนๆ โดยที่ มส. ไม่ได้ยุ่งเรื่องกฏหมายและทางโลกเลย ดังนั้น การเดินเรื่อง เดินหนังสือที่เกี่ยวกับกฏหมาย กฏระเบียบ จะเป็นส่วนงานของ พศ.  รวมถึงในหนังสือโครงการตักบาตรพระล้านรูปครั้งนี้ด้วย.. อย่างนี้เข้าใจถูกต้องไหมครับ? 2. ตัวอย่างในกรณีทั้ง 2 ชัดเจน.. ขอบคุณมากครับ 3. ใน ข้อ 8 นั้น.. ผมไม่ทราบว่า  " ฎีกานิมนต์พระมารับบิณฑบาตร " ใครเป็นผู้ออก .. แต่ผมเชื่อเหลือเกินว่า ทางกระบวนการการเดินฎีกานี้ คงจะเป็นไปตามกฏระเบียบที่ยอมรับยึดถือกันในทางราชการ อย่างที่คุณบอกว่า จะไม่มีการปฏิบัติหน้าที่ข้ามหน้าข้ามตากันเด็ดขาด ขอบคุณมากครับ.. คุณราชมัล สำหรับความรู้ใหม่ๆ จากคุณ : สาธุ (รักษาบรรยากาศ) เขียนเมื่อ : วันมหาสงกรานต์ 55 17:39:12

ความคิดเห็นที่ 17 คุณ รักษาบรรยากาศ นี่คือคำตอบที่ว่า ทำไมวัดพระธรรมกาย จะต้องทำหนังสือขออนุญาต ครับ หวังว่าคงจะเข้าใจ อ่านง่ายๆ มีตรงไหนที่เขาบอกให้หน่วยงานราชการ ส่งขอไป หน่วยงานราชการมีพระหรือครับ กทม.มีพนักงานเป็นพระหรือครับ สำนักนายกรัฐมนตรี มีพนักงานเป็นพระหรือครับ หรือแม้กระทั่ง สำนักงานพระพุทธศาสนาเอง มีเจ้าหน้าที่ ข้าราชการที่เป็นพระหรือครับ หน่วยงานเหล่านี้ มีฐานะเป็น " วัด หรือสำนัก " ทางพระพุทธศาสนาหรือครับ  จากคุณ : ราชมัล เขียนเมื่อ : วันมหาสงกรานต์ 55 17:42:46

ความคิดเห็นที่ 19 คุณ รักษาบรรยากาศ  ความคิดเห็นที่ 13    1. ถ้าผมจะบอกว่า คำว่า " คณะสงฆ์ " ในภาพ #12 นี้ คือ  "คณะสงฆ์ที่เข้าร่วมงาน" จะผิดหรือไม่ครับ? 2. คำว่า "ร่วมจัดงาน" กับ " รับผิดชอบโครงการ " ถ้าผมจะกล่าวว่า " คณะสงฆ์และองค์กรภาคีที่มาให้การสนุนงานและร่วมจัดงาน ถือว่า เป็นผู้รับผิดชอบโครงการไปในตัวด้วย "   แบบนี้ ถือว่าถูกต้องไหมครับ? 3. ขอความกรุณาแสดงที่มาของภาพใน #12 ด้วยครับ จากคุณ : สาธุ (รักษาบรรยากาศ)   เขียนเมื่อ : วันมหาสงกรานต์ 55 17:09:2 1.ผิดครับ คุณเข้าใจผิด ผมอธิบายความไปแล้ว  2.ไม่ถูกต้องครับ คณะสงฆ์ที่มาร่วมกิจกรรม ก็ส่วนมาร่วมกิจกรรม,ภาคีที่สนับสนุน ก็คนละส่วนกันครับ ไม่สามารถอนุมานให้เป็น ผู้รับผิดชอบโครงการได้ ครับ 3.ที่มาของภาพในความเห็น 12 ครับ http://www.dmc.tv/pages/scoop/%E0%B9%82%E0%B8%84%E0%B8%A3%E0%B8%87%E0%B8%81%E0%B8%B2%E0%B8%A3%E0%B8%95%E0%B8%B1%E0%B8%81%E0%B8%9A%E0%B8%B2%E0%B8%95%E0%B8%A3%E0%B8%9E%E0%B8%A3%E0%B8%B01%E0%B8%A5%E0%B9%89%E0%B8%B2%E0%B8%99%E0%B8%A3%E0%B8%B9%E0%B8%9B%E0%B8%9A%E0%B8%99%E0%B9%80%E0%B8%AA%E0%B9%89%E0%B8%99%E0%B8%97%E0%B8%B2%E0%B8%87%E0%B8%AD%E0%B8%B1%E0%B8%8D%E0%B9%80%E0%B8%8A%E0%B8%B4%E0%B8%8D%E0%B8%AB%E0%B8%A5%E0%B8%A7%E0%B8%87%E0%B8%9B%E0%B8%B9%E0%B9%88%E0%B8%97%E0%B8%AD%E0%B8%87%E0%B8%84%E0%B8%B3.html จากคุณ : ราชมัล เขียนเมื่อ : วันมหาสงกรานต์ 55 18:17:13

ความคิดเห็นที่ 20 #16 ตอบ #14  #อันนี้ ตอบ #15 จะได้ไม่สับสนครับ.. 1) โอเคครับ.. เกทแล้ว แสดงว่าข้อความ ใน #13 ข้อ 2   2. คำว่า "ร่วมจัดงาน" กับ " รับผิดชอบโครงการ " ถ้าผมจะกล่าวว่า " คณะสงฆ์และองค์กรภาคีที่มาให้การสนุนงานและร่วมจัดงาน ถือว่า เป็นผู้รับผิดชอบโครงการไปในตัวด้วย "   แบบนี้ ถือว่าถูกต้องไหมครับ? >>> ผมเข้าใจผิดไปเอง จากคำอธิบาย #15 2 )  ถ้า "คณะสงฆ์ที่มาร่วมงาน" ไม่ใช่ " คณะสงฆ์ในส่วนรับผิดชอบโครงการ " จากที่คุณราชมัลบอก ผมก็คงกล่าวได้ว่า " คณะสงฆ์ที่อยู่ในส่วนรับผิดชอบโครงการ คือ ที่มาร่วมประชุม วางแผนงาน  จัดผัง เตรียมงาน กำกับดูแลภาพรวมของงาน สั่งการ แจกจ่ายงาน ให้คำปรึกษา  " ก็คือ " คณะสงฆ์วัดพระธรรมกาย " และชุด " คณะสงฆ์ที่ปรึกษาโครงการ " ณ ตรงนี้คงจะเข้าใจไม่คลาดเคลื่อนแล้ว ถูกต้องไหมครับ แต่ก้ไม่ปรากฏ คำว่า " คณะสงฆ์ทั้งแผ่นดิน " ในส่วนของคณะสงฆ์ที่รับผิดชอบโครงการนิ.. จริงไหมครับ คำว่า " คณะสงฆ์ทั้งแผ่นดิน "  นี้จะไปปรากฏบ่อยครั้งในส่วนที่เป็น " คณะผู้ร่วมจัดงาน/ผู้เข้าร่วมงาน "  ดังนั้น การใช้คำว่า " คณะสงฆ์ทั้งแผ่นดิน " ของทางวัดฯและองค์กรภาคีที่ร่วมประสานงานและประชาสัมพันธ์ จึงถูกต้องตามธรรมเนียมปฏิบัติ..  หากไม่ถูกต้อง ทางวัดฯและองค์กรภาคีจะต้องมานั่งไล่บอกชื่อวัด ชื่อจังหวัดทีละชื่อ แต่กระนั้นก็ปรากฏว่า มีเกือบทุกตำบล อำเภอ จังหวัด จึงสามารถใช้คำว่า " คณะสงฆ์ทั้งแผ่นดิน " ได้ ไปโดยปริยาย โดยไม่ผิดธรรมเนียม ผมเข้าใจถูกต้องใช่ไหมครับ ? 3) ตอบคำถาม #15  ผมไม่สามารถตอบคำถามได้ เนื่องด้วยความไม่รู้ครับ และไม่ขอออกความเห็นในประเด็นที่ว่า เรื่องการอาราธนา แต่ผมเชื่ออย่างยิ่งว่า ทุกอย่างได้ดำเนินการไปตามแบบแผน กฏระเบียบ ทุกประการครับ ขอขอบคุณอีกครั้งครับ คุณราชมัล  จากคุณ : สาธุ (รักษาบรรยากาศ) เขียนเมื่อ : วันมหาสงกรานต์ 55 18:22:55

ความคิดเห็นที่ 21 ตอบ #17  หากกว่าการตักบาตรครั้งนี้เป็นไปตาม คู่มือปฏิบัติการพระวินยาธิการ คณะสงฆ์กรุงเทพมหานคร แล้ว ผมมีความเห็นว่า ทางวัดทุกวัดที่ไปบิณฑบาตร เค้าคงจัดการในเรื่องเอกสารต่างๆ เสร็จไปเรียบร้อยแล้วล่ะครับ ในเรื่องกฏระเบียบพื้นฐานอย่างนี้ หากไม่ได้ทำก็คงไม่ได้จัดแล้วครับ จริงไหมครับ และในเรื่องเอกสารต่างๆ นั้น ทางเจ้าหน้าที่คงดำเนินการจัดการกันไป และเค้าคงไม่มีหน้าที่ที่จะต้องนำมาเผยแผ่สู่สาธารณชน จริงไหมครับ? คุณราชมัล   วันนี้ ผมคิดว่าหลายๆคนคงได้ความรู้เพิ่มมากขึ้น ในส่วนของการปกครองคณะสงฆ์จากคุณราชมัล ขอบคุณครับ  จากคุณ : สาธุ (รักษาบรรยากาศ) เขียนเมื่อ : วันมหาสงกรานต์ 55 18:58:55

ความคิดเห็นที่ 22 ขออนุญาต ท่านราชมัล   ครับ ------------------------------------------------- ขออธิบายความนัย(ที่รุ้ชัดอยู่แล้ว)ของลัทธินอกพระศาสนา เพื่อให้สาวกลัทธินอกพระศาสนา  จะได้หยุดทำหน้าด้าน ไร้ยางอาย ทำเป็นไม่รู้  ไม่เข้าใจ  เข้าใจผิด  เข้าใจคลาดเคลื่อน   ทั้งที่รู้ว่า ลัทธิตนเอง หน้าด้าน เพื่อปิดบัง หลอกลวงประชาชน ทั้งประเทศมาแล้วหลายครั้ง หลายโครงการ เสียที                        ทั้งที่มีผุ้ทักท้วงแล้วไว้ก่อนหน้านี้แล้ว       การมาทำหน้าด้านพูดว่า  ว่าไม่เข้าใจ  เข้าใจผิด  จึงเป็นการโกหก เพื่อหลอกตัวเอง หลอกคนอื่น  เพื่อเอาหน้ารอดให้ลัทธินอกพระศาสนาและตนเอง เท่านั้นเอง                   ทำไม   ต้องใช้คำว่า สงฆ์ทั้งแผ่นดิน                 1 -------------- คำคำนี้ผู้ที่รับผิดชอบดำเนินการอะไรก็แล้วแต่   ถ้าจะใช้คำคำนี้  ต้องเป็นผู้ที่มีสิทธิ์มีอำนาจในการดำเนินกิจกรรมนั้นทั้งประเทศ                 ย่อมทราบอยู่แล้วว่าหมายความว่าอย่างไร   ได้เคยมีผู้ทักท้วงไว้แล้ว เมื่อองค์กรสงฆ์ที่รับผิดชอบทั้งประเทศ  ไม่ได้เป็นผู้จัด                  ผู้ที่บังอาจใช้ โดยไม่มีสิทธิ์ไม่มีอำนาจ  คือ ผู้เจตนาหลอกลวงคนทั้งประเทศ   และใครหละจะเป็นผู้บังอาจทำเช่นนี้ได้   นอกจากผู้ที่รู้ชัดว่าตนไม่มีสิทธิ์ไม่มีอำนาจที่จะทำ  แต่ต้องการหลอกให้คนทั้งประเทศเข้าใจผิด                       เรื่องแค่นี้   สาวกลัทธินอกศาสนา   ไม่เข้าใจหรือ  เข้าใจคลาดเคลื่อน  เพราะลัทธินอกศาสนาทำแล้วทำอีก  ทั้งที่มีผู้ทักท้วงแล้ว หรือ ?                    2  ทำไม ต้อง ทั้งแผ่นดิน   -------------------------- ก็เพราะว่า  จะส่งเสริม คำนี้ซึ่งเป็นคำที่ใช้ทางการเมือง  ซึ่งตนรู้อยู่แล้วว่าการเมืองใช้   เจตนาก็เพื่อส่งเสริมคำคำนี้    ให้สอดคล้องกับคำของการดำเนินการทางการเมืองว่า   แดงทั้งแผ่นดิน  ได้มีผู้ทักท้วงแล้ว                                   สาวกลัทธินี้คนไหน  จะกล้าออกมาปฏิเสธว่า                       ---- ลัทธิตน ไม่ได้เป็นการส่งเสริม คำทางการเมือง  คำนี้                       ---- ลัทธิตน ไม่รู้ว่าคำคำนี้  เป็นคำที่การเมืองใช้ เพื่อการต่อสู้ทางการเมือง                             ลองกล้าออกมา พูดซิ                     3. ทำไมเมื่อลัทธินี้ รู้แล้วว่าใช้ไม่ได้  ไม่ควรใช้  จึงใช้คำนี้                       3.1  เพื่อปิดบัง อำพลาง  ชื่อลัทธิตน  เพราะทราบชัดแล้วว่าพุทธศาสนิกชน  ไม่อนุโมทนา  ไม่สนับสนุน  ลัทธิตน                       3.2  เพื่อแอบอ้าง คณะสงฆ์  แม้มีผุ้ทักท้วงแล้วก็ไม่เปลี่ยน  เพราะเห็นว่าพรรคพวกทางการเมืองตนสนับสนุน  แม้จะผิดศีล ผิดคุณธรรม  ก็คงไม่มีใครมาเอาเรื่อง   ข้าจะทำ ใครจะทำไม   คุ้นๆมั๊ย  เพื่อหลอกลวงให้คนอื่นเห็นว่า คณะสงฆ์ทั้งแผ่นดิน สนับสนุนการดำเนินการของตน                       ------- เอาแค่นี้ก่อน  แต่ถ้ายังกล้าหน้าด้าน มาบอกว่า ไม่เข้าใจ  เข้าใจผิด  เข้าใจคลาดเคลื่อนอีก    จะได้พบกันอีก แก้ไขเมื่อ 13 เม.ย. 55 19:34:16 แก้ไขเมื่อ 13 เม.ย. 55 19:30:31 แก้ไขเมื่อ 13 เม.ย. 55 19:26:33 จากคุณ : วงกลม เขียนเมื่อ : วันมหาสงกรานต์ 55 19:20:34

ความคิดเห็นที่ 23 คุณ รักษาบรรยากาศ ในส่วนนี้ผมขอนุญาตทำความเข้าใจดังนี้นะครับ ที่คุณอธิบายความมานั้น 1. ในข้อ 1 ที่ผมเน้นไว้นั้น   "  (1) ดำเนินการตามกฎหมายว่าด้วยการคณะสงฆ์ กฎหมายว่าด้วยการกำหนดวิทยฐานะผู้สำเร็จวิชาการพระพุทธศาสนา รวมทั้งกฎหมายและระเบียบที่เกี่ยวข้อง  " เขาหมายเอาถึงการคณะสงฆ์ ระบบการศึกษาคณะสงฆ์มหาวิทยาลัยสงฆ์ การเรียนการสอน การเทียบโอนวิทยฐานะ ของการศึกษาและผู้สำเร็จการศึกษาทางพระพุทธศาสนา รวมไปถึงกฎ ระเบียบ ที่เกี่ยวข้องกับเรื่องดังข้างต้นเท่านั้นหล่ะครับ ผมเข้าใจไปว่า กิจการต่างๆ ของคณะสงฆ์ว่าด้วยเรื่องการดำเนินการทางโลก ทางกฏหมาย ทางกฏระเบียบที่เกี่ยวข้องนั้น เป็นส่วนของ พศ. ล้วนๆ โดยที่ มส. ไม่ได้ยุ่งเรื่องกฏหมายและทางโลกเลย ส่วนที่คุณเข้าในนั้นผมเองก็อธิบายไปแล้วในส่วนใดที่เกี่ยวข้องกับคณะสงฆ์ ก็จะมีระเบียบ พ.ร.บ.คณะสงฆ์ กฎมหาเถรสมาคม กำกับดูแล อยู่ และหากมีส่วนในที่เกี่ยวข้องกับกฎหมายอื่นๆ หากคณะสงฆ์ดำเนินการเองได้ก็จะดำเนินการเอง หากดำเนินการเองไม่ได้ก็จะมอบหมายให้ พ.ศ.เป็นผู้ดำเนินการครับ  ดังนั้น การเดินเรื่อง เดินหนังสือที่เกี่ยวกับกฏหมาย กฏระเบียบ จะเป็นส่วนงานของ พศ.  รวมถึงในหนังสือโครงการตักบาตรพระล้านรูปครั้งนี้ด้วย.. อย่างนี้เข้าใจถูกต้องไหมครับ? การเดินหนังสือนั้น ทางคณะผู้ดำเนินการควรจะทำหนังสือเชิญกรรมการมหาเถรสมาคมเป็นที่ปรึกษา และทำหนังสือเชิญเจ้าคณะพระสังฆาธิการเจ้าของพื้นที่เป็นคณะที่ปรึกษา จากนั้นเมื่อทางมหาเถรสมาคมตอบรับ เจ้าคณะพระสังฆาธิการเจ้าของพื้นที่ ตอบรับก็อาราธนานิมนต์ท่านมาเป็นประธาน สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาตินั้น ก็รับสนองงานมหาเถรสมาคมอยู่แล้วครับ ถึงคุณจะทำหนังสือมา พ.ศ. ทาง พ.ศ.ก็ส่งเรื่องมา มส.อยู่ดี มีค่าเท่ากัน เรื่องพระให้พระดำเนินการครับ อย่างที่บอกไป จากคุณ : ราชมัล เขียนเมื่อ : วันมหาสงกรานต์ 55 20:31:34

ความคิดเห็นที่ 24 คุณ รักษาบรรยากาศ 3. ใน ข้อ 8 นั้น.. ผมไม่ทราบว่า  " ฎีกานิมนต์พระมารับบิณฑบาตร " ใครเป็นผู้ออก .. แต่ผมเชื่อเหลือเกินว่า ทางกระบวนการการเดินฎีกานี้ คงจะเป็นไปตามกฏระเบียบที่ยอมรับยึดถือกันในทางราชการ อย่างที่คุณบอกว่า จะไม่มีการปฏิบัติหน้าที่ข้ามหน้าข้ามตากันเด็ดขาด งั้นรบกวนช่วยบอกผมทีครับ ว่าทำไมในฎีกานิมนต์จึงไม่มี เจ้าคณะพระสังฆาธิการ " เจ้าของพื้นที่ " อย่าง สมเด็จพระพุทธชินวงศ์ เจ้าคณะใหญ่หนกลาง พระราชวิสุทธิเวที เจ้าคณะภาค ๑ พระธรรมสิทธินายก เจ้าคณะกรุงเทพมหานคร ไหนว่ามาหน่อยครับ ทั้งในแง่ของระเบียบปฏิบัติ และแง่มารยาท จากคุณ : ราชมัล เขียนเมื่อ : วันมหาสงกรานต์ 55 20:35:52

ความคิดเห็นที่ 25 คุณ รักษาบรรยากาศ ตอบความเห็นที่ 20  ความคิดเห็นที่ 20    #16 ตอบ #14  #อันนี้ ตอบ #15 จะได้ไม่สับสนครับ.. 1) โอเคครับ.. เกทแล้ว แสดงว่าข้อความ ใน #13 ข้อ 2   2. คำว่า "ร่วมจัดงาน" กับ " รับผิดชอบโครงการ " ถ้าผมจะกล่าวว่า " คณะสงฆ์และองค์กรภาคีที่มาให้การสนุนงานและร่วมจัดงาน ถือว่า เป็นผู้รับผิดชอบโครงการไปในตัวด้วย "   แบบนี้ ถือว่าถูกต้องไหมครับ? >>> ผมเข้าใจผิดไปเอง จากคำอธิบาย #15 เป็นอันรู้เรื่องนะครับ จากคุณ : ราชมัล เขียนเมื่อ : วันมหาสงกรานต์ 55 20:42:43

ความคิดเห็นที่ 26 คุณ รักษาบรรยากาศ ตอบความเห็นที่ 20 2 )  ถ้า "คณะสงฆ์ที่มาร่วมงาน" ไม่ใช่ " คณะสงฆ์ในส่วนรับผิดชอบโครงการ " จากที่คุณราชมัลบอก ผมก็คงกล่าวได้ว่า " คณะสงฆ์ที่อยู่ในส่วนรับผิดชอบโครงการ คือ ที่มาร่วมประชุม วางแผนงาน  จัดผัง เตรียมงาน กำกับดูแลภาพรวมของงาน สั่งการ แจกจ่ายงาน ให้คำปรึกษา  " ก็คือ " คณะสงฆ์วัดพระธรรมกาย " และชุด " คณะสงฆ์ที่ปรึกษาโครงการ " ณ ตรงนี้คงจะเข้าใจไม่คลาดเคลื่อนแล้ว ถูกต้องไหมครับ ไม่ถูกต้องครับ ในกรณีนี้ต้องเป็นคณะสงฆ์วัดพระธรรมกายเท่านั้นครับ คณะสงฆ์ที่ปรึกษา ชื่อก็บอกอยู่แล้วว่าเป็นแค่ที่ปรึกษา และผมก็เชื่อโดยสนิทใจว่า คณะสงฆ์ที่ปรึกษาระดับพระมหาเถรานุเถระเหล่านี้  สมเด็จพระมหารัชมังคลาจารย์ วัดปากน้ำ ภาษีเจริญ สมเด็จพระมหาวีรวงศ์ วัดสัมพันธวงศารามวรวิหาร สมเด็จพระพุทธโฆษาจารย์ วัดสุทัศนเทพวรารามราชวรมหาวิหาร พระพรหมเวที วัดไตรมิตรวิทยารามวรวิหาร พระพรหมวชิรญาณ วัดยานนาวา พระพรหมโมลี วัดพิชยญาติการามวรวิหาร พระพรหมสุธี วัดสระเกศราชวรมหาวิหาร พระวิสุทธิวงศาจารย์ วัดปากน้ำ ภาษีเจริญ พระพรหมจริยาจารย์ วัดกะพังสุรินทร์ จ.ตรัง พระพุทธวรญาณ วัดเบญจมบพิตรดุสิตวนารามราชวรวิหาร พระธรรมวโรดม วัดทินกรนิมิต พระพรหมเมธี วัดสัมพันธวงศารามวรวิหาร พระพรหมดิลก วัดสามพระยาวรวิหาร พระธรรมกิตติวงศ์ วัดราชโอรสารามราชวรวิหาร พระธรรมราชานุวัตร วัดพระแก้ว จ.เชียงราย พระธรรมเจดีย์ วัดกัลยาณมิตรวรมหาวิหาร พระธรรมปัญญาภรณ์ วัดปากน้ำ ภาษีเจริญ พระธรรมปริยัติเวที วัดพระปฐมเจดีย์ราชวรมหาวิหาร พระธรรมปิฎก วัดพระพุทธบาทราชวรมหาวิหาร พระธรรมรัตนดิลก วัดสุทัศนเทพวรารามราชวรมหาวิหาร พระธรรมโกศาจารย์ วัดประยูรวงศาวาสวรวิหาร พระธรรมธีรราชมหามุนี วัดระฆังโฆสิตารามวรมหาวิหาร พระธรรมวิมลโมลี วัดชลประทานรังสฤษฎ์ พระธรรมปริยัติโมลี วัดบพิตรพิมุขวรวิหาร พระเทพวีราภรณ์ วัดโคกสมานคุณ จ.สงขลา พระเทพสุธี วัดไตรธรรมาราม จ.สุราษฏร์ธานี พระเทพรัตนสุธี วัดเขียนเขต เจ้าคณะจังหวัดปทุมธานี เจ้าคณะจังหวัดต่างๆ ทั่วประเทศ ไม่มีทางจะมาร่วมประชุม วางแผนงาน จัดผัง เตรียมงาน กำกับดูแลภาพรวมของงาน สั่งการ แจกจ่ายงาน กับคณะผู้รับผิดชอบอย่างแน่นอนครับ ถ้ามีภาพเบื้องหลังเหล่านั้นก็นำมาแสดงได้ครับ จากคุณ : ราชมัล เขียนเมื่อ : วันมหาสงกรานต์ 55 20:54:46

ความคิดเห็นที่ 27 ขออนุญาต ท่าน ราชมัล และ ท่าน วงกลม ขออนุญาต ตั้งข้อสังเกต ( ช่วงนี้ คำนี้ Hit ) เรื่องเดียว อย่าง ตักบาตร นี่ ............... สามารถ อธิบาย ได้จาก 3 ข้อสังเกต เลยเหรอ 1. ท่าน ราชมัล ในเรื่อง กฎ ระเบียบ ด้าน คณะสงฆ์ เช่น กระทู้นี้ (ยังไม่รู้ว่า จะถูกลากไปถึงไหน) 2. กระทู้ที่เรา แสดงความคิดเห็น เรื่อง ตักบาตร ในมุมมอง ของ การบริหาร / การตลาด ขององค์กร นั้น ที่มีความจำเป็น ในการ " การระดมทุน " เนื่อง จาก * รายได้ประจำปี จาก 2 โครงการ (กฐิน + ผ้าป่า) มีปัญหา * หารายได้จากคนใน จึงมี Event Marketing แบบ Sponsorship * ดูด คนใหม่ เข้าระบบ เนื่องจากมีคนไหลออก เช่น กระทู้นี้ วัดพระธรรมกาย บุก กรุงเทพ แล้ว มาดูเร็ว http://www.pantip.com/cafe/religious/topic/Y11822865/Y11822865.html (ความคิดเห็นที่ 55) ขอ สงวนสิทธิ์ ไม่คุย เรื่อง กระทู้นั้นแล้ว ...... เพราะ เก่าไปแล้ว (ใครอยากอ่าน หรือ แสดงความคิดเห็น เพิ่มเติม กระทู้ เก่าๆ ก็เรียนเชิญ ที่กระทู้ นั้น) เพื่อ ป้องกัน การ ลาก ลงทะเล 3. ท่าน วงกลม ในเรื่อง "การเมือง" ข้อสังเกต ของเรา ก็ ขอ สั้นๆ ง่ายๆ แค่นี้ก่อน จากคุณ : buddy เขียนเมื่อ : วันมหาสงกรานต์ 55 21:06:55

ความคิดเห็นที่ 28 คุณ รักษาบรรยากาศ ตอบความเห็นที่ 20 แต่ก้ไม่ปรากฏ คำว่า " คณะสงฆ์ทั้งแผ่นดิน " ในส่วนของคณะสงฆ์ที่รับผิดชอบโครงการนิ.. จริงไหมครับ คำว่า " คณะสงฆ์ทั้งแผ่นดิน "  นี้จะไปปรากฏบ่อยครั้งในส่วนที่เป็น " คณะผู้ร่วมจัดงาน/ผู้เข้าร่วมงาน "  ดังนั้น การใช้คำว่า " คณะสงฆ์ทั้งแผ่นดิน " ของทางวัดฯและองค์กรภาคีที่ร่วมประสานงานและประชาสัมพันธ์ จึงถูกต้องตามธรรมเนียมปฏิบัติ..  หากไม่ถูกต้อง ทางวัดฯและองค์กรภาคีจะต้องมานั่งไล่บอกชื่อวัด ชื่อจังหวัดทีละชื่อ แต่กระนั้นก็ปรากฏว่า มีเกือบทุกตำบล อำเภอ จังหวัด จึงสามารถใช้คำว่า " คณะสงฆ์ทั้งแผ่นดิน " ได้ ไปโดยปริยาย โดยไม่ผิดธรรมเนียม ผมเข้าใจถูกต้องใช่ไหมครับ ? คำว่า " คณะสงฆ์ทั้งแผ่นดิน " นั้น วัดพระธรรมกายเขาระบุในผู้รับผิดชอบโครงการจริงๆครับ ดังภาพประกอบที่ผมแนบมานี้หล่ะ เพียงแค่ตัวโครงการโยกมาเป็นธุดงคธรรมชัย ถ้าจะเอาเรื่องนี้ด้วยเดี๋ยวผมจัดให้ครับ  และพระสนิทวงศ์เอง ท่านก็มักจะบอกอยู่เสมอๆว่าพระสงฆ์ทั้งแผ่นดินมีส่วนร่วมรับผิดชอบกับโครงการนี้อยู่ และถ้าคุณจะหมายเอาสงฆ์ทั้งแผ่นดิน คือคณะผู้ร่วมงานหรือพระสงฆ์ที่ร่วมกิจกรรม นั้นก็อาจจะถูกต้อง พระสงฆ์ ที่คุณบอกว่า ทุกอาราม ทุกหมู่บ้าน ทุกตำบล ทุกอำเภอ ทุกจังหวัดนั้น จะหมายเอาเป็นสงฆ์ทั้งแผ่นดินนี้ผมว่า คงไม่ใช่ เพราะจากสถิติทะเบียนพระภิกษุ-สามเณร ในประเทศไทย มีจำนวน 349,041 รูป ข้อมูลล่าสุดจากสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ  คุณคิดว่า พระเณรจำนวน 3 แสนกว่ารูปนี้ เข้าร่วมกิจกรรมตักบาตรของวัดพระธรรมกายหมดทุกรูปหรือไม่ ครับ ถ้าคุณบอกว่าร่วมหมดทุกรูป ช่วยนำหลักฐานมาแสดงให้ผมดูในเคสเหล่านี้ว่าพระเหล่านี้มาร่วมตักบาตรกับวัดพระธรรมกาย  - วัดชูจิตรธรรมาราม - จิตภาวันวิทยาลัย  - มหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย  - มหามกุฏราชวิทยาลัย - วัดสระเกศ - วัดมหาธาตุยุวราษฎรังสฤษดิ์ - วัดชนะสงคราม - วัดพิชยญาติการาม  เอาเท่านี้ก่อนครับ และหากคุณบอกว่าคงไม่ร่วมทุกรูปหรอก แล้วอย่างนี้จะเป็นคณะสงฆ์ทั้งแผ่นดินหรือครับ ทีจะจะถูกหรือผิดธรรมเนียมก็ไปคิดเอาก็แล้วกันครับ อ้างอิง http://www.onab.go.th/DataMonk/Monk54.pdf  จากคุณ : ราชมัล เขียนเมื่อ : วันมหาสงกรานต์ 55 21:09:50

ความคิดเห็นที่ 29 อันนี้ผมแถมครับ จากคุณ : ราชมัล เขียนเมื่อ : วันมหาสงกรานต์ 55 21:11:44

ความคิดเห็นที่ 30 เรียนคุณราชมัล คห 29  ใช่ครับ ผมเคยอ่านเจอในหนังสือพิมพ์ด้วยที่เขียนว่า "คณะสงฆ์ทั้งแผ่นดิน" .....จะทั้งแผ่นดินได้อย่างไร ในเมื่อพระภิกษุสงฆ์ไม่เห็นด้วยกับกิจกรรมของสำนักวัดพระธรรมกายอีกตั้งมากมาย    เป็นการเขียนที่ิผิดจากความเป็นจริงครับ ---------------- ต้นเมษายนที่ผ่านมา ไปติดต่องานที่มหาวิทยาลัยสงฆ์แห่งหนึ่ง  พูดคุยกับพระคุณเจ้ารูปหนึ่ง องค์ท่านบอกว่า  หากมีคนมานิมนต์ ท่านก็ไม่ไป   ไปทำอย่างอื่นมีประโยชน์กว่า  และมีข้อมูลที่พูดคุยกันหลายเรื่อง  .....เรื่องพวกนี้  ชาวพุทธควรเฝ้าระวังกันเอาไว้นะครับ ......ระวังนะครับ ทำในสิ่งที่ไม่ถูกต้องโดยเจตนา จะก่อโทษให้กับตนเอง  ยิ่งทำกับพระพุทธศาสนา ยิ่งบาปหนัก....ยิ่งรุกหนักยิ่งเร่งให้ท่านเสื่อมลงเร็ว  เตือนไว้ครับ เผื่อท่านจะสำนึกตน...... แก้ไขเมื่อ 13 เม.ย. 55 21:29:47 แก้ไขเมื่อ 13 เม.ย. 55 21:26:59 แก้ไขเมื่อ 13 เม.ย. 55 21:22:36 จากคุณ : ต่อmcu เขียนเมื่อ : วันมหาสงกรานต์ 55 21:22:11

ความคิดเห็นที่ 31 ท่านราชมัลขอรับ ผมขอต่อรอง 3 วัน 1 เรื่องได้มั้ยครับ อย่างน้อยก็ให้คุณต่อ mcu ได้พักอีกซักระยะนึง เพราะกระทู้ท่านราชมัล ทุกท่านพร้อมกดโหวตกันอยู่แล้ว ปรกติเห็นจะมีแต่กระทู้คุณต่อ ขึ้นไปแขวนไว้ ให้พวกแร้งจานบินรุมจิก รุมแขวะ คุณต่อของผมยับเยิน ยู่ยี่ไปหมดแล้ว (อันหลังแซวเล่น อิอิ) จากคุณ : Zim-MorLuth- เขียนเมื่อ : วันมหาสงกรานต์ 55 21:52:05

ความคิดเห็นที่ 32 คุณ Zim-MorLuth ได้ครับผม ไม่มีปัญหา ให้ทั้งคุณต่อ และคณะศิษยานุศิษย์ ทางโน่น เขาหายใจหายคอกันหน่อย จากคุณ : ราชมัล เขียนเมื่อ : วันมหาสงกรานต์ 55 21:59:55

ความคิดเห็นที่ 33 ให้ผมได้หายใจหายคอ และพักสายตาด้วยครับ :) จากคุณ : msdossys เขียนเมื่อ : วันมหาสงกรานต์ 55 22:09:11

ความคิดเห็นที่ 34 ท่าน ราชมัล วันนี้ จะ นอนดึก อีกหรือไม่ครับ เผื่อ มีคำถาม แว๊บ ขึ้นมา จากคุณ : buddy เขียนเมื่อ : วันมหาสงกรานต์ 55 22:23:32

ความคิดเห็นที่ 35 ขอ Re-Post เพราะเป็น คน ขอ ลบความคิดเห็น ของตัวเอง ในความคิดเห็นที่ 18 ที่หายไป เพราะต้องการให้ผู้อ่าน จะได้ไม่ สะดุด ......... จะได้อ่าน อย่างต่อเนื่อง จากคุณ : buddy เขียนเมื่อ : วันมหาสงกรานต์ 55 22:29:03

ความคิดเห็นที่ 36 คุณ buddy  ความคิดเห็นที่ 34    ท่าน ราชมัล วันนี้ จะ นอนดึก อีกหรือไม่ครับ เผื่อ มีคำถาม แว๊บ ขึ้นมา จากคุณ : buddy  เขียนเมื่อ : วันมหาสงกรานต์ 55 22:23:32 ตามสะดวกเลยครับ จะโทรมาก็ได้ เดี๋ยวผมจะมอบเบอร์ให้ไว้  จากคุณ : ราชมัล เขียนเมื่อ : วันมหาสงกรานต์ 55 22:40:45

ความคิดเห็นที่ 37 #24 งั้นรบกวนช่วยบอกผมทีครับ ว่าทำไมในฎีกานิมนต์จึงไม่มี เจ้าคณะพระสังฆาธิการ " เจ้าของพื้นที่ "  อันนี้ผมไม่ทราบเรื่องการเดินหนังสือ และไม่สนับสนุนข้อความดังกล่าวครับ เพราะอาจจะมีปรากฏในฎีกานิมนต์ หรือไม่มี  เหตุเพราะผมไม่เคยเห็นฎีกานิมนต์ครับ จึงไม่สามารถกล่าวฟันธงได้ ทั้งในแง่ของระเบียบปฏิบัติ และแง่มารยาท ในความเห็นส่วนตัว ถ้าพูดในแง่ระเบียบปฏิบัติและธรรมเนียมมารยาทแล้ว ทางคกก.จัดงานก็น่าจะส่งฎีกาไปนิมนต์อยู่แล้วครับ แต่ท่านอาจจะติดกรณียกิจ หรือเหตุผลอื่นๆ ที่ทำให้ไม่สามารถมาร่วมงานได้  #25 ไม่ถูกต้องครับ ในกรณีนี้ต้องเป็นคณะสงฆ์วัดพระธรรมกายเท่านั้นครับ  คณะสงฆ์ที่ปรึกษา ชื่อก็บอกอยู่แล้วว่าเป็นแค่ที่ปรึกษา  และผมก็เชื่อโดยสนิทใจว่า คณะสงฆ์ที่ปรึกษาระดับพระมหาเถรานุเถระเหล่านี้  สมเด็จพระมหารัชมังคลาจารย์ วัดปากน้ำ ภาษีเจริญ สมเด็จพระมหาวีรวงศ์ วัดสัมพันธวงศารามวรวิหาร สมเด็จพระพุทธโฆษาจารย์ วัดสุทัศนเทพวรารามราชวรมหาวิหาร พระพรหมเวที วัดไตรมิตรวิทยารามวรวิหาร พระพรหมวชิรญาณ วัดยานนาวา พระพรหมโมลี วัดพิชยญาติการามวรวิหาร (ปัจจุบันเป็นที่ สมเด็จพระพุทธชินวงศ์ เจ้าคณะใหญ่หนกลาง) พระพรหมสุธี วัดสระเกศราชวรมหาวิหาร พระวิสุทธิวงศาจารย์ วัดปากน้ำ ภาษีเจริญ พระพรหมจริยาจารย์ วัดกะพังสุรินทร์ จ.ตรัง พระพุทธวรญาณ วัดเบญจมบพิตรดุสิตวนารามราชวรวิหาร พระธรรมวโรดม วัดทินกรนิมิต พระพรหมเมธี วัดสัมพันธวงศารามวรวิหาร พระพรหมดิลก วัดสามพระยาวรวิหาร พระธรรมกิตติวงศ์ วัดราชโอรสารามราชวรวิหาร พระธรรมราชานุวัตร วัดพระแก้ว จ.เชียงราย พระธรรมเจดีย์ วัดกัลยาณมิตรวรมหาวิหาร พระธรรมปัญญาภรณ์ วัดปากน้ำ ภาษีเจริญ พระธรรมปริยัติเวที วัดพระปฐมเจดีย์ราชวรมหาวิหาร พระธรรมปิฎก วัดพระพุทธบาทราชวรมหาวิหาร พระธรรมรัตนดิลก วัดสุทัศนเทพวรารามราชวรมหาวิหาร พระธรรมโกศาจารย์ วัดประยูรวงศาวาสวรวิหาร พระธรรมธีรราชมหามุนี วัดระฆังโฆสิตารามวรมหาวิหาร พระธรรมวิมลโมลี วัดชลประทานรังสฤษฎ์ พระธรรมปริยัติโมลี วัดบพิตรพิมุขวรวิหาร พระเทพวีราภรณ์ วัดโคกสมานคุณ จ.สงขลา พระเทพสุธี วัดไตรธรรมาราม จ.สุราษฏร์ธานี พระเทพรัตนสุธี วัดเขียนเขต เจ้าคณะจังหวัดปทุมธานี เจ้าคณะจังหวัดต่างๆ ทั่วประเทศ ไม่มีทางจะมาร่วมประชุม วางแผนงาน จัดผัง เตรียมงาน กำกับดูแลภาพรวมของงาน  สั่งการ แจกจ่ายงาน กับคณะผู้รับผิดชอบอย่างแน่นอนครับ  ถ้ามีภาพเบื้องหลังเหล่านั้นก็นำมาแสดงได้ครับ แต่ผมเชื่อแบบนี้นะครับ... จริงที่ว่า คณะสงฆ์ที่ในส่วนดำเนินการ คือ คณะสงฆ์วัดพระธรรมกายและกัลยาณมิตร ประชุม วางแผนงาน จัดผัง เตรียมงาน กำกับดูแลภาพรวมของงาน สั่งการ แจกจ่ายงาน จริง แล้วนำสิ่งที่ได้จัดเตรียมการมาทั้งหมด ไปปรึกษากับคณะสงฆ์ทางส่วนของที่ปรึกษาโครงการฯ ว่าเหมาะสม ว่าควรแก่การจัดงานหรือไม่ ถ้าเหมาะสมก็ดำเนินการประสานงานกับหน่วยงานต่างๆต่อไป หากไม่สมควรก็ปรับปรุงแก้ไข ท่านอาจแนะนำ ติติง ว่านี้ มากไป น้อยไป ทางคณะกรรมการจัดงานก็นำมาพิจารณาและแก้ไขไปสู่การพัฒนาต่อไป ผมขอยกการทำงานที่เนื่องด้วยการมีที่ปรึกษานะครับ เรื่อง โครงงานวิทยาศาสตร์น่ะครับ มีผู้จัดทำโครงงาน ต้องมีอาจารย์ที่ปรึกษาโครงงานเสมอ จะทำอะไรก็ต้องไปปรึกษาอาจารย์ อาจารย์จะช่วยให้คำแนะนำ ดังนั้นโครงงานจะอยู่ภายใต้การให้คำปรึกษาของอาจารย์ ถ้าโครงงานนี้ผ่านไปได้ด้วยดี เวิร์ค ได้รับรางวัล .. อาจารย์ก็ได้รับคำชมไปด้วยที่มีส่วนให้โครงงานสำเร็จลุล่วง หากโครงงานทำการทดลองผิดพลาด เกิดระเบิดขึ้นในห้องแลป .. อาจารย์ก็ต้องรับผิดชอบในด้วยเหตุเพราะเป็นที่ปรึกษาโครงงาน แล้วอย่างนี้ ทางคณะสงฆ์ของวัดพระธรรมกายต้องเป็นส่วนรับผิดชอบโครงการอย่างเดียวเลยหรือครับ แล้วทางคณะสงฆ์ที่ปรึกษาโครงการล่ะครับ? ไม่มีส่วนรับผิดชอบจริงๆหรือ เรื่องนี้ โยงไปถึงเรื่องด้านบน คือ #24 ในฐานะที่  ท่านเจ้าประคุณสมเด็จพระพุทธชินวงศ์ เจ้าคณะใหญ่หนกลาง  และ  พระเดชพระคุณพระธรรมสิทธินายก ท่านเจ้าคณะกรุงเทพมหานคร ท่านก็เป็นที่ปรึกษาโครงการอยู่แล้วครับ  เรื่องการนิมนต์ท่านนี้ ทางคณะสงฆ์และกัลยาณมิตรที่ร่วมจัดงาน ยิ่งจะต้องนำไปปรึกษาท่านอยู่แล้วตามสมควร ฉะนั้น จะทำให้ยิ่งทำให้มั่นอกมั่นใจได้เลยว่า ไม่มีการข้ามหน้าข้ามกันอย่างเด็็ดขาดครับ และผมเชื่อว่า เป็นไปไม่ได้หรอกครับ ที่ทางคณะกรรมการร่วมจัดงานจะขาดตกบกพร่องในส่วนงานของกฏระเบียบทางสงฆ์ หรือก้าวล้ำเขตปกครองทางสงฆ์ งานนี้เป็นงานใหญ่ระดับประเทศและการจะจัดแต่ละที่ได้นั้น หากเอกสารขาดตกบกพร่อง เป็นโมฆียะแม้เพียงฉบับเดียว งานคงไม่เกิดขึ้นหรอกครับ จริงไหมครับ #28 มีพระภิกษุสามเณรไม่ทุกรูป ไม่ทุกวัดครับ.. อันนี้ฟันธงได้แน่ ดังจะปรากฏรายนามตัวอย่างวัดที่คุณราชมัลนำแสดง ที่หลายๆคนคงเชื่อว่าไม่เข้าร่วมงานตักบาตรพระล้านรูปแน่ๆ โอเคครับ.. ใช้คำว่า " คณะสงฆ์ทั้งแผ่นดิน " ไม่ได้..  เพราะมีบางวัด ไม่เข้าร่วมโครงการ  นี่คือ เหตุผลของคุณราชมัลนะครับ เหมือนรายการเดอะสตาร์น่ะครับ.. ที่ชอบพูดกันว่า " ผลโหวตจากคนไทยทั้งประเทศ ... อยู่ในมือของผมแล้วครับ (พร้อมเสียงประกอบ) " ทั้งๆ ที ตาสีตาสา ยายมียายมา หรืออาจจะผมเอง ก็ไม่ได้มานั่งกดโหวตให้ .. แต่ก้ดันโดนเหมารวมไปซะงั้น แล้วอย่างนี้ละครับ.. ก็ใช่ไม่ได้เช่นกันใช่ไหมครับ คุณราชมัล หรือ ในกรณีเด็กได้ไปแข่งขันโอลิมปิควิชาในการต่างประเทศ เค้าเก่งจริงถึงได้ไป บางคนก้เหมาว่า เด็กทั้งโรงเรียนเก่งเหมือนเด็กคนนี้  แต่จริงๆแล้วก็ไม่ได้เก่งกันทั้งโรงเรียน มีเก่งบ้าง ปานกลางบ้าง เก่งน้อยๆบ้าง ปนๆกันไป หรือ กรณีวัยรุ่นตีกัน เรื่องนี้ก้เหมาไปว่าเด็กทั้งโรงเรียนไม่ดี ทั้งๆที่ก็มีดีอยู่เหมือนกัน ความเห็นส่วนตัว แต่ถ้ามองเป็นโดยรวม เป็นส่วนใหญ่ ล่ะครับ..  พระสงฆ์ สามเณรกว่า 77 จว. เกือบทุกวัดทั่วไทย ก็เข้าร่วมโครงการฯ น่าจะเหมารวมได้ว่า " คณะสงฆ์ทั้งแผ่นดิน " คิดแบบเด็กๆนะครับ และโครงการนี้ก็เป็นไปด้วยการกุศลที่มีคณะสงฆ์หลายต่อหลายรูปต่างก็ตั้งใจ ถวายข้าวปลาอาหารแห้งนี้ให้กับพระสงฆ์ที่เดือดร้อนอยู่ 4 ชายแดนใต้ ซึ่งสิ่งเหล่านี้ควรเป็นสิ่งที่จะอนุโมทนาสาธุการ ใช่ไหมครับ.. ขอบคุณครับที่กรุณามาตอบข้อสงสัยจากการตั้งข้อสังเกต และตอบกับผมในฐานะผู้ใหญ่คุยกับเด็ก โดยไร้อคติ    จากคุณ : สาธุ (รักษาบรรยากาศ) เขียนเมื่อ : วันเนา 55 03:40:02

ความคิดเห็นที่ 38 ขอโทษที่มาแทรก อ่านไปอ่านมา ก็คงจะยาวไปอีก เพราะ คุณราชมัลเขาต้องการเอกสาร เพื่อแก้ประเด็นคณะสงฆ์ทั้งแผ่นดิน ส่วนอีกฝ่ายก็ซํกค้านไปค้านมา ไม่ได้สักทีก็คิดว่าคงจะยาว   ขอบคุณสำหรับคำตอบครับ - อันเหตุที่ไม่ทักท้วง ก็ด้วยเพราะ กิจกรรมดังที่ว่านั้นผ่านล่วงไปแล้ว โทษหรือ บทลงโทษนั้น ก็มิได้หนักหนาสาหัสร้ายแรงใดๆ เพียงผมหยิบยกประเด็นของการ จัดกิจกรรม ที่เที่ยวอ้างคณะสงฆ์ทั้งแผ่นดิน แต่ทั้งที่ในความเป็นจริงแล้วนั้นเป็น แค่เพียงส่วนหนึ่งหรือหยิบมือหนึ่งเท่านั้นเอง ^^^^ ขอถามอีกนิดเดียว กิจกรรมดังกล่าวของวัดธรรมกายผ่านไปแล้วและโทษ หรือบท ลงโทษไม่ได้ร้ายแรงอะไร   ถ้าในกรณีนี้จะมีใครจัด ในลักษณะนี้อีก ตามรูป คห.17 โดยไม่ได้รับอณุญาติ จะอ้างว่าวัดธรรมกายยังจัดได้เลย (ไม่ทักท้วง) ได้หรือเปล่า จากคุณ : KOB ON KALA เขียนเมื่อ : วันเนา 55 05:40:06

ความคิดเห็นที่ 39 วิวาทะ(วาทะที่เห็นต่าง-ไม่ใช่ทะเลาะนะครับ)ระหว่างคุณราชมัลกับคุณรักษาบรรยากาศเข้าท่าดีครับ ข้อสังเกตของคุณราชมัลมีเหตุผลตามระเบียบ-บทบัญญัติต่างๆ ทางการปกครองซึ่งมีปรากฏชัดเจน ทางคุณรักษาบรรยากาศก็ตอบได้ตามสมควร ถึงแม้บางครั้งตรรกะที่ใช้จะไม่สนิทนักก็ตาม สำหรับผม ผมว่าเรื่องทั้งหลายแหล่มันเกิดจากความหย่อนยานของการปกครองของคณะสงฆ์ ย้ำนะครับว่า"การปกครอง" - มันก็เหมือนกับการปกครองทางโลกนั่นแหละ รู้ ๆ กันอยู่ว่าวงการคณะสงฆ์ท่านถึงกันหมดอยู่แล้ว คุณราชมัลน่าจะรู้ดีนะครับ ยิ่งมีสมณศักดิ์ระดับหิรัณยบัตร สุพรรณบัตร อยู่ในรายนามที่ปรึกษาด้วยแล้ว ไม่ต้องพูดกันเลย จะทำโครงการอะไรก็ได้ครับ เชื่อเถอะ... จากคุณ : วันวิสาข์ เขียนเมื่อ : วันเนา 55 10:11:01

ความคิดเห็นที่ 40 คุณ รักษาบรรยากาศ ตอบความเห็นที่ 37 งั้นรบกวนช่วยบอกผมทีครับ ว่าทำไมในฎีกานิมนต์จึงไม่มี เจ้าคณะพระสังฆาธิการ " เจ้าของพื้นที่ "  อันนี้ผมไม่ทราบเรื่องการเดินหนังสือ และไม่สนับสนุนข้อความดังกล่าวครับ เพราะอาจจะมีปรากฏในฎีกานิมนต์ หรือไม่มี  เหตุเพราะผมไม่เคยเห็นฎีกานิมนต์ครับ จึงไม่สามารถกล่าวฟันธงได้ ทั้งในแง่ของระเบียบปฏิบัติ และแง่มารยาท ในความเห็นส่วนตัว ถ้าพูดในแง่ระเบียบปฏิบัติและธรรมเนียมมารยาทแล้ว ทางคกก.จัดงานก็น่าจะส่งฎีกาไปนิมนต์อยู่แล้วครับ แต่ท่านอาจจะติดกรณียกิจ หรือเหตุผลอื่นๆ ที่ทำให้ไม่สามารถมาร่วมงานได้  นี่ขนาขอสงวนความเห็นนะครับ อย่างที่ผมแจ้งไปในขั้นต้น ผมได้สอบถามไปยัง ท่านเจ้าคุณวัดแก้วแจ้มฟ้า ในฐานะประธานศูนย์พระวินยาธิการกรุงเทพมหานคร ท่านกรุณาได้แจ้งว่าไม่เห็นทราบเรื่องที่ขออนุญาตมา เพื่อความชัดเจนก็ประสานไปยังพระเลขานุการ พระธรรมสิทธินายก วัดจันทราม เจ้าคณะกรุงเทพมหานคร ก็ทำให้ทราบว่า ไม่ได้มีฎีกานิมนต์ ไปยังท่าน สุดท้าย ก็สอบถามไปยังสำนักเลขานุการเจ้าคณะใหญ่หนกลาง ด้วยความสนิทส่วนตัว สมัยท่านเจ้าคุณสมเด็จเป็นเจ้าคณะภาค ๑ ก็ทำให้ทราบว่าไม่มีฎีกานิมนต์ไปเช่นกัน ปล.กรุณาใช้คำเขียนใหม่นะครับ " กรณียกิจ " เป็นคำราชาศัพท์ สำหรับพระใช้ " กิจนิมนต์ หรือ กิจธุระ " ก็ได้ จากคุณ : ราชมัล เขียนเมื่อ : วันเนา 55 10:40:57

ความคิดเห็นที่ 41 คุณ รักษาบรรยากาศ ตอบความเห็นที่ 37 แต่ผมเชื่อแบบนี้นะครับ... จริงที่ว่า คณะสงฆ์ที่ในส่วนดำเนินการ คือ คณะสงฆ์วัดพระธรรมกายและกัลยาณมิตร ประชุม วางแผนงาน จัดผัง เตรียมงาน กำกับดูแลภาพรวมของงาน สั่งการ แจกจ่ายงาน จริง แล้วนำสิ่งที่ได้จัดเตรียมการมาทั้งหมด ไปปรึกษากับคณะสงฆ์ทางส่วนของที่ปรึกษาโครงการฯ ว่าเหมาะสม ว่าควรแก่การจัดงานหรือไม่ ถ้าเหมาะสมก็ดำเนินการประสานงานกับหน่วยงานต่างๆต่อไป หากไม่สมควรก็ปรับปรุงแก้ไข ท่านอาจแนะนำ ติติง ว่านี้ มากไป น้อยไป ทางคณะกรรมการจัดงานก็นำมาพิจารณาและแก้ไขไปสู่การพัฒนาต่อไป นั่นเป็นความเชื่อของคุณครับ ผมไม่สามารถไปบังคับใครให้เชื่อตามที่ผมบอกได้ ทุกคนมีวิจารณญาณ เสพข้อมูลแล้วไปพินิจวิเคราะห์เอง ตามหลักกาลามสูตร และผมก็บอกแล้ว ว่ามีภาพเบื้องของการทำงาน ว่ามีการปรึกษาพระเถระที่เป็นที่ปรึกษาโครงการก็เอามาให้ชมให้ดูได้ครับ เพราะเท่าที่ผมดูคณะที่ปรึกษาโครงการที่ยกมาโดยมา ยกมาพอให้รู้เพราะนั่นเป็นตำแหน่งเจ้าคณะภาค,เจ้าคณะจังหวัดเฉยๆ อย่างไรก็ตามในมุมนี้ผมไม่เชื่อว่าคณะทำงานวัดพระธรรมกายจะไปปรึกษาพระเถระเหล่านั้น แม้จะเจ้าของพื้นที่อย่าง เจ้าคณะภาค ๑ วัดชนะสงคราม, เจ้าคณะกรุงเทพ วัดจันทาราม หรือกระทั่ง เจ้าคณะใหญ่หนกลาง วัดพิชยญาติการาม หรือจะให้ผมโทรประสานถามให้อีกครั้งก็ย่อมได้  ผมขอยกการทำงานที่เนื่องด้วยการมีที่ปรึกษานะครับ เรื่อง โครงงานวิทยาศาสตร์น่ะครับ มีผู้จัดทำโครงงาน ต้องมีอาจารย์ที่ปรึกษาโครงงานเสมอ จะทำอะไรก็ต้องไปปรึกษาอาจารย์ อาจารย์จะช่วยให้คำแนะนำ ดังนั้นโครงงานจะอยู่ภายใต้การให้คำปรึกษาของอาจารย์ ถ้าโครงงานนี้ผ่านไปได้ด้วยดี เวิร์ค ได้รับรางวัล .. อาจารย์ก็ได้รับคำชมไปด้วยที่มีส่วนให้โครงงานสำเร็จลุล่วง หากโครงงานทำการทดลองผิดพลาด เกิดระเบิดขึ้นในห้องแลป .. อาจารย์ก็ต้องรับผิดชอบในด้วยเหตุเพราะเป็นที่ปรึกษาโครงงาน แล้วอย่างนี้ ทางคณะสงฆ์ของวัดพระธรรมกายต้องเป็นส่วนรับผิดชอบโครงการอย่างเดียวเลยหรือครับ แล้วทางคณะสงฆ์ที่ปรึกษาโครงการล่ะครับ? ไม่มีส่วนรับผิดชอบจริงๆหรือ ต้องให้ผมอธิบายความหมายของคำว่าที่ปรึกษาอีกหรือครับ ดังที่คุณยกมานี้ ผมถามหน่อยถ้าโครงงานที่คุณว่าไม่ผ่าน ทำให้สอบตก ที่ปรึกษาที่คุรอ้างถึงจะต้องถูกปรับตก หรือถูกบทลงโทษหรือไม่ครับ แล้วที่มาบอกว่า ระเบิดในห้องแลป นั่น อาจารย์ที่ปรึกษา จะต้องรับผิดชอบด้วย อันนั้นคุณสำคัญผิดแล้วครับ เพราะถ้ามีการทดลองทางวิทยาศาสตร์ดังที่คุIกล่าว จะต้องมีอาจารย์ผู้ควบคุมดูแล นั่นคือ อาจารย์ผู้รับผิดชอบการทดลอง อาจารย์ผู้นี้ต่างหากที่ต้องมีหน้าที่ควบคุมดูแล การทดลอง ให้เป็นไปด้วยความเรียบร้อย ชื่อก็บอกอยู่แล้ว ว่าที่ปรึกษาโครงการ ไม่ได้เป็นผู้รับผิดชอบโครงการ อย่าไปข้างๆคูๆเลยครับ ถามตอบมาดีแล้ว ถ้าสุดทางก็เงียบเถอะครับ จะได้ไม่มีใครค่อนแคะ  งานนี้พระวัดพระธรรมกายเป็นผู้รับผิดชอบโครงการ ครับ อย่าไปเหมาให้ พระเถระที่ปรึกษาโครงการ มาเป็นผู้รับผิดชอบเลยครับ  ปล.นึกเล่นๆนะครับ เกิดมีพระเลขานุการ,หรือผู้เกี่ยวข้อง เข้ามาอ่านกระทู้เหล่านี้ แล้วนำส่ง สำนักเลขาธิการมหาเถรสมาคม อ้างว่า นี่ ชาวธรรมกายเข้าใจเอาว่า เหล่าที่ปรึกษาโครงการ ต้องเป็นผู้รับผิดชอบโครงการด้วย ผมว่าเรื่องมันจะไม่สวยเอานะครับ อยู่ๆจะให้ที่ปรึกษาโครงการมาเป็นผู้รับผิดชอบโครงการ จากคุณ : ราชมัล เขียนเมื่อ : วันเนา 55 10:59:59

ความคิดเห็นที่ 42 คุณ รักษาบรรยากาศ ตอบความเห็นที่ 37 เรื่องนี้ โยงไปถึงเรื่องด้านบน คือ #24 ในฐานะที่  ท่านเจ้าประคุณสมเด็จพระพุทธชินวงศ์ เจ้าคณะใหญ่หนกลาง  และ  พระเดชพระคุณพระธรรมสิทธินายก ท่านเจ้าคณะกรุงเทพมหานคร ท่านก็เป็นที่ปรึกษาโครงการอยู่แล้วครับ  เรื่องการนิมนต์ท่านนี้ ทางคณะสงฆ์และกัลยาณมิตรที่ร่วมจัดงาน ยิ่งจะต้องนำไปปรึกษาท่านอยู่แล้วตามสมควร ฉะนั้น จะทำให้ยิ่งทำให้มั่นอกมั่นใจได้เลยว่า ไม่มีการข้ามหน้าข้ามกันอย่างเด็็ดขาดครับ และผมเชื่อว่า เป็นไปไม่ได้หรอกครับ ที่ทางคณะกรรมการร่วมจัดงานจะขาดตกบกพร่องในส่วนงานของกฏระเบียบทางสงฆ์ หรือก้าวล้ำเขตปกครองทางสงฆ์ งานนี้เป็นงานใหญ่ระดับประเทศและการจะจัดแต่ละที่ได้นั้น หากเอกสารขาดตกบกพร่อง เป็นโมฆียะแม้เพียงฉบับเดียว งานคงไม่เกิดขึ้นหรอกครับ จริงไหมครับ คำตอบคำอธิบายอยู่ในความเห็นที่ 40 - 41 ครับ จากคุณ : ราชมัล เขียนเมื่อ : วันเนา 55 11:02:54

ความคิดเห็นที่ 43 คุณ รักษาบรรยากาศ ตอบความเห็นที่ 37 ผมดูคุณเริ่มโยงประเด็นให้อิรุงตุงนังนะครับ ประเด็นนี้ คุณยังอุส่าขีดเส้นใต้ ที่หลายๆคนคงเชื่อว่าไม่เข้าร่วมงานตักบาตรพระล้านรูปแน่ๆ เอาไว้ ผมก็บอกแล้วว่าถ้ามีหลักฐานว่าวัดสถาบันสงฆ์ที่ผมยกตัวอย่างไปนั้น ไปร่วมกิจกรรม ก็แสดงหลักฐานมาได้ ไม่มีปัญหา ให้ชัดๆกันไปเลย แต่นี่ผมเห็นคุณโยงไปนั่นไปนี้  #28 มีพระภิกษุสามเณรไม่ทุกรูป ไม่ทุกวัดครับ.. อันนี้ฟันธงได้แน่ ดังจะปรากฏรายนามตัวอย่างวัดที่คุณราชมัลนำแสดง ที่หลายๆคนคงเชื่อว่าไม่เข้าร่วมงานตักบาตรพระล้านรูปแน่ๆ โอเคครับ.. ใช้คำว่า " คณะสงฆ์ทั้งแผ่นดิน " ไม่ได้..  เพราะมีบางวัด ไม่เข้าร่วมโครงการ  นี่คือ เหตุผลของคุณราชมัลนะครับ เหมือนรายการเดอะสตาร์น่ะครับ.. ที่ชอบพูดกันว่า " ผลโหวตจากคนไทยทั้งประเทศ ... อยู่ในมือของผมแล้วครับ (พร้อมเสียงประกอบ) " ทั้งๆ ที ตาสีตาสา ยายมียายมา หรืออาจจะผมเอง ก็ไม่ได้มานั่งกดโหวตให้ .. แต่ก้ดันโดนเหมารวมไปซะงั้น แล้วอย่างนี้ละครับ.. ก็ใช่ไม่ได้เช่นกันใช่ไหมครับ คุณราชมัล หรือ ในกรณีเด็กได้ไปแข่งขันโอลิมปิควิชาในการต่างประเทศ เค้าเก่งจริงถึงได้ไป บางคนก้เหมาว่า เด็กทั้งโรงเรียนเก่งเหมือนเด็กคนนี้  แต่จริงๆแล้วก็ไม่ได้เก่งกันทั้งโรงเรียน มีเก่งบ้าง ปานกลางบ้าง เก่งน้อยๆบ้าง ปนๆกันไป หรือ กรณีวัยรุ่นตีกัน เรื่องนี้ก้เหมาไปว่าเด็กทั้งโรงเรียนไม่ดี ทั้งๆที่ก็มีดีอยู่เหมือนกัน ความเห็นส่วนตัว แต่ถ้ามองเป็นโดยรวม เป็นส่วนใหญ่ ล่ะครับ..  พระสงฆ์ สามเณรกว่า 77 จว. เกือบทุกวัดทั่วไทย ก็เข้าร่วมโครงการฯ น่าจะเหมารวมได้ว่า " คณะสงฆ์ทั้งแผ่นดิน " คิดแบบเด็กๆนะครับ และโครงการนี้ก็เป็นไปด้วยการกุศลที่มีคณะสงฆ์หลายต่อหลายรูปต่างก็ตั้งใจ ถวายข้าวปลาอาหารแห้งนี้ให้กับพระสงฆ์ที่เดือดร้อนอยู่ 4 ชายแดนใต้ ซึ่งสิ่งเหล่านี้ควรเป็นสิ่งที่จะอนุโมทนาสาธุการ ใช่ไหมครับ.. ผมบอกไปแต่ต้นแล้วว่าเรื่องทำบุญ อะไรนั่นเป็นคนละเรื่องกับเรื่อง มารยาท กฎ ระเบียบปฏิบัติ แบบแผน ที่ถูกต้องของคณะสงฆ์ แต่ถึงแม้ว่ากิจกรรมที่จัดจะไม่ต้องด้วยแบบแผนธรรมเนียมปฏิบัติ ถามว่าคนทำบุญได้บุญไหม ก็ตอบว่าได้ซิ เพราะเขาทำบุญกับพระ ไม่ได้ทำบุญกับแบบแผน กฎ กติกาคณะสงฆ์  เที่ยวมายกอนุโมทนาสาธุการไปเรื่องนึงซะงั้น  ก็เพราะแบบนี้ไงครับ เวลามีข้อตกบกพร่องก็ไม่คิดจะหันมาดูหรอกว่า เออจริงไหมที่เขาบอก เขาพูด ลองมาพิจารณาซิ ขั้นตอนตรงนี้ตกไปไหม งานหน้า ให้รอบคอบรัดกุม กว่านี้หน่อย มันก้เท่านั้น นี่อะไร ไม่หรอก ผมว่าต้องตรงตามแบบแผน ผมเชื่อแบบนั้น ไม่มีทางหรอกที่จะผิดพลาด ก็หลักฐานมันมีอยู่ทนโท่แจ้งประจักษ์แล้วนี้ครับ แถมยังอธิบายขยายความให้เข้าใจไม่ได้ถึงประเด็นข้อสงสัยเลย พอรุกมากเข้าก็บอก ไม่ใช่เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง แต่ก็มาโต้กลับทุกเม็ด แทนที่จะเอาปัญหานี้ไปปรึกษาว่า เออ โครงการหน้าผมว่าควรทำแบบนี้นะครับ เพื่อป้องกันข้อครหา มันก็จบ  ปล.อย่าเหมารวมนะครับ ไม่ว่าอะไรก็ตามอย่านึกทึกทักเอาเองว่าต้องเป็นอย่างนั้นอย่างนี้ ทุกอย่างต้องอยู่บนพื้นฐานของข้อเท็จจริง ปล.อย่าใช้คำว่า คณะสงฆ์หลายรูปต่างตั้งใจถวายอาหารแห่งให้พระสงฆ์ในจังหวัดชายแดนภาคใต้นะครับ อย่าใช้คำนั้น เพราะกิจกรรมนี้มีธงอยู่แล้ว  จากคุณ : ราชมัล เขียนเมื่อ : วันเนา 55 11:19:42

ความคิดเห็นที่ 44 คุณ KOB ON KALA   ความคิดเห็นที่ 38    ขอโทษที่มาแทรก อ่านไปอ่านมา ก็คงจะยาวไปอีก เพราะ คุณราชมัลเขาต้องการเอกสาร เพื่อแก้ประเด็นคณะสงฆ์ทั้งแผ่นดิน ส่วนอีกฝ่ายก็ซํกค้านไปค้านมา ไม่ได้สักทีก็คิดว่าคงจะยาว   ขอบคุณสำหรับคำตอบครับ - อันเหตุที่ไม่ทักท้วง ก็ด้วยเพราะ กิจกรรมดังที่ว่านั้นผ่านล่วงไปแล้ว โทษหรือ บทลงโทษนั้น ก็มิได้หนักหนาสาหัสร้ายแรงใดๆ เพียงผมหยิบยกประเด็นของการ จัดกิจกรรม ที่เที่ยวอ้างคณะสงฆ์ทั้งแผ่นดิน แต่ทั้งที่ในความเป็นจริงแล้วนั้นเป็น แค่เพียงส่วนหนึ่งหรือหยิบมือหนึ่งเท่านั้นเอง  ^^^^ ขอถามอีกนิดเดียว กิจกรรมดังกล่าวของวัดธรรมกายผ่านไปแล้วและโทษ หรือบท ลงโทษไม่ได้ร้ายแรงอะไร   ถ้าในกรณีนี้จะมีใครจัด ในลักษณะนี้อีก ตามรูป คห.17 โดยไม่ได้รับอณุญาติ จะอ้างว่าวัดธรรมกายยังจัดได้เลย (ไม่ทักท้วง) ได้หรือเปล่า จากคุณ : KOB ON KALA   เขียนเมื่อ : วันเนา 55 05:40:06 ขออนุญาตตอบอย่างนี้นะครับ ถ้าวัดเหล่านั้น มีแบ็คอัพดี อย่างพระมหาเถรานุเถระชั้นผู้ใหญ่ ระดับสมเด็จพระราชาคณะ ,พระราชาคณะชั้นผู้ใหญ่ เป็นกองหนุน พร้อมทั้งเหล่าทายกทายิกาที่มีอำนาจเรืองรองในการบริหารจัดการบ้านเมือง ก็ไม่น่าจะมีปัญหาครับ แต่ถ้าไม่ ก็โดน ไป  อุปมาเหมือนพวกข้าราชการทหารตำรวจ ที่ดูรงดูรุ่นกัน เออ นั่นรุ่นพี่ ไม่ยุ่งดีกว่า เรามันรุ่นน้อง อย่างพระมหาเถระชั้นผู้ใหญ่เขาก็ดูรุ่นกันเช่นกันครับ ก็เลยทำให้การคณะสงฆ์บ้านเราหย่อนยาน  จากคุณ : ราชมัล เขียนเมื่อ : วันเนา 55 11:24:52

ความคิดเห็นที่ 45 คุณ วันวิสาข์   ความคิดเห็นที่ 39    วิวาทะ(วาทะที่เห็นต่าง-ไม่ใช่ทะเลาะนะครับ)ระหว่างคุณราชมัลกับคุณรักษาบรรยากาศเข้าท่าดีครับ ข้อสังเกตของคุณราชมัลมีเหตุผลตามระเบียบ-บทบัญญัติต่างๆ ทางการปกครองซึ่งมีปรากฏชัดเจน ทางคุณรักษาบรรยากาศก็ตอบได้ตามสมควร ถึงแม้บางครั้งตรรกะที่ใช้จะไม่สนิทนักก็ตาม สำหรับผม ผมว่าเรื่องทั้งหลายแหล่มันเกิดจากความหย่อนยานของการปกครองของคณะสงฆ์ ย้ำนะครับว่า"การปกครอง" - มันก็เหมือนกับการปกครองทางโลกนั่นแหละ รู้ ๆ กันอยู่ว่าวงการคณะสงฆ์ท่านถึงกันหมดอยู่แล้ว คุณราชมัลน่าจะรู้ดีนะครับ ยิ่งมีสมณศักดิ์ระดับหิรัณยบัตร สุพรรณบัตร อยู่ในรายนามที่ปรึกษาด้วยแล้ว ไม่ต้องพูดกันเลย จะทำโครงการอะไรก็ได้ครับ เชื่อเถอะ... จากคุณ : วันวิสาข์  เขียนเมื่อ : วันเนา 55 10:11:01  เรื่องการปกครองคณะสงฆ์หย่อนยานอันนี้ผมเห็นจะจริงครับ เพราะยังมีระบบเกรงใจ ระบบอาวุโส กันอยู่มาก  ส่วนเรื่องรายนามที่ปรึกษาที่เป็นพระมหาเถรชั้นผู้ใหญ่ก็อย่างที่บอกหล่ะครับ เพราะระบบเกรงใจแล้วจึงทำให้พูดไม่ออกบอกไม่ได้ กระอักกระอ่วนกันเข้า ตอนนี้่ฝ่ายมหาเถรสมาคมเองก็วัดกำลังภายในกันอยู่ พยามดันทายาทตัวตายตัวแทนกันอยู่ ว่ากันว่า ถ้าหมดบุญ 2 สมเด็จพระราชาคณะชั้นผู้ใหญ่ ในฝ่ายที่สนันสนุนก็ดี ฝ่ายที่ไม่สนับสนุนก็ดี แล้วมีตัวตายตัวแทนใหม่ขึ้นมา ต้องจับตาดีๆว่าฝ่ายไหนจะได้ขึ้น ถ้าฝ่ายสนับสนุนได้ขึ้น ก็เอวัง แต่ถ้าฝ่ายไม่สนับสนุนได้ขึ้น รับรองครับ มีหนาวไปทั้งวัด เพราะมีการรวบรวมข้อมูลต่างเก็บไว้รอเคลียบิลทีเดียวอยู่แล้ว  จากคุณ : ราชมัล เขียนเมื่อ : วันเนา 55 11:33:52

ความคิดเห็นที่ 46 ขออนุญาตสอบถามท่าน ราชมัล 1. กรณี เราจัดตักบาตร ด้วย จะไม่รู้ หรือ รู้แต่แกล้งทำไม่รู้ ไม่สนใจ ใครจะทำไม ที่เป็น "ตักบาตร จริงๆ" แต่ไม่เข้าด้วย ระเบียบ ข้างต้น นั่นคือ กรณีหนึ่ง แต่ถ้า 2. เป็นการจัดตักบาตรเป็น "ข้ออ้าง" แต่ความเป็นจริง หลอกลวง ประสงค์ ต่อทรัพย์ เป็น จำนวนมาก โดยให้ สาธารณชน เข้าใจผิด ซึ่งเป็นการ "หลอกลวง" อย่างนี้ จะใช้กฎ ระเบียบ ใด อย่างอื่น หรือ ยังใช้กฎเดียวกัน ครับ 3. การจัดตักบาตร ที่ไม่เข้า กฎ ระเบียบ นั่นก็เรื่องหนึ่ง ............... แต่การโฆษณา ที่ไม่เป็นความจริง  ที่เกี่ยวข้องกับการตักบาตร เป็นกิจกรรมของ พระ   ซึ่ง "ล่อลวง" ให้สาธารณชน เข้าใจผิด ..... ถ้าเป็นกิจกรรมของหน่วยงานทางโลก และ เป็น "สิน ค้า ทาง โลก" ก็จะมีหน่วยงานดูแลอยู่แล้ว แต่ถ้าโฆษณา กิจกรรม ของ พระ ที่เข้าข่าย หลอกลวง ให้ เข้าใจผิด เป็นเท็จ / เกินจริง ที่เกี่ยวเนื่องกับการจัดตักบาตรของ พระ นี่ .................. มีหน่วยงานทาง พระ เขาจัดการดูแลโดยเฉพาะ ไหมครับ สรุปง่ายๆว่า ...... ถ้า  มีใคร ทำการจัดตักบาตรให้กลายเป็น " สิน ค้า ทาง ธรรม " แล้วมีการโฆษณา หลอกลวง เกินจริง เป็นเท็จ .............. หน่วยงานไหน จะดูแลครับ ขอบคุณครับ จากคุณ : buddy เขียนเมื่อ : วันเนา 55 14:22:55

ความคิดเห็นที่ 47 เห็นมีการพูดถึง " ที่ปรึกษา โครงการ" กันมาก ในความคิดเห็นที่ผ่านมา ทาง คนเข้ามา ถาม ก็ ทำเป็น อมโน่น อมนี่ เรื่อง ที่ปรึกษาโครงการ ...... จนจะพาเอา ที่ปรึกษาโครงการ ซวย ตาม องค์กร เพราะ ดันจะให้มา ร่วม รับผิดชอบด้วย เราขออนุญาตท่าน ราชมัล Share ข้อมูล จาก "คู่มือตักบาตรพระ 10,000 รูป" ในโครงการตักบาตรพระ 1,000,000 รูป 77 จังหวัดทั่วไทย ของวัด นั้นแหละ ที่ เราไม่อยากจะเอ่ยชื่อ  ดังนี้: บทบาท / หน้าที่ ของ คณะกรรมการที่ปรึกษา (มีทั้ง สงฆ์ และ ฆราวาส) คือ * เป็นที่ปรึกษา * กำหนดนโยบาย / แนวความคิด * ช่วยแก้ปัญหาให้ "คณะกรรมการ อำนวยการ" แล้ว คณะกรรมการ อำนวยการ มีบทบาท / หน้าที่ (บางส่วน) ดังนี้: * คิด ยุทธวิธีต่างๆให้บรรลุเป้าหมาย หลัก * พิจารณา สื่อ ที่จะเผยแพร่ * ประสานงาน กับ ผู้ใหญ่ ภาครัฐ / ภาคเอกชน ขอ แถม ฝ่ายกิจกรรมสงฆ์ มีบทบาท / หน้าที่ ดังนี้: * ดูแลทุกภารกิจที่เกี่ยวกับ สงฆ์ ในการจัดตักบาตร นอกนั้นก็เป็น ฝ่ายต่างๆ รวมทั้งสิ้น 15 ฝ่ายในการจัดตักบาตร (มีทีมแกน 5 คน / หัวหน้าฝ่าย 15 ฝ่าย / มี Head และ รอง 40 คน / มีผู้นำบุญ 200 คน / มีอาสาสมัคร 1,500 คน) มันไม่มีเหตุผล จะมา อ้างโน่น อ้างนี่ ว่า ไม่รู้ / เข้าใจผิด เพราะ การจัดตักบาตร ระดับนี้ เขาเรียกว่า ............. Full Team / Dream Team จากคุณ : buddy เขียนเมื่อ : วันเนา 55 15:06:03

ความคิดเห็นที่ 48 คุณ buddy ในชั้นนี้ผมขออนุญาตเรียนให้ทราบว่า หากเป็นอย่างที่คุณถามมานั้น  2. เป็นการจัดตักบาตรเป็น "ข้ออ้าง" แต่ความเป็นจริง หลอกลวง ประสงค์ ต่อทรัพย์ เป็น จำนวนมาก โดยให้ สาธารณชน เข้าใจผิด ซึ่งเป็นการ "หลอกลวง"  อย่างนี้ จะใช้กฎ ระเบียบ ใด อย่างอื่น หรือ ยังใช้กฎเดียวกัน ครับ ก็คงต้องใช้ระเบียบปฏิบัติในคู่มือพระวินยาธิการ ที่อ้างอิงนั้นหล่ะครับ แต่ถ้าหันมาดูทางด้านพระธรรมวินัยนั้นเล่า  ในจตุตถปาราชิกกัณฑ์ (ว่าด้วยปาราชิกสิกขาบทที่ ๔) ท่านว่าเอาไว้ว่า พระพุทธเจ้าประทับ ณ เรือนยอดในป่ามหาวัน ใกล้กรุงเวสาลี สมัยนั้นมีภิกษุหลายรูป ที่ชอบพอเป็นมิตรสหายกัน จำพรรษาอยู่ใกล้ฝั่งแม่น้ำวัคคุมุทา. สมัยนั้น เกิดทุพภิกขภัย๑ ในแคว้นวัชชี (ราชธานี ชื่อกรุงเวสาลี) ภิกษุทั้งหลายลำบากด้วยเรื่องอาหารบิณฑบาต จึงปรึกษากันว่า จะทำอย่างไรดี บางรูปเห็นว่า ควรช่วยแนะนำกิจการงานของคฤหัสถ์ บางรูปเห็นว่า ควรทำหน้าที่ทูต (คือนำความข้างนี้ไปบอกข้างนั้น นำความข้างนั้นมาบอกข้างนี้ (คล้ายบุรุษไปรษณีย์) บางรูปเห็นว่า ควรใช้วิธีสรรเสริญกันและกันให้คฤหัสถ์ฟังว่า ภิกษุรูปนั้นรูปนี้ มีคุณวิเศษอย่างนั้นอย่างนี้ เช่น ได้ฌานที่ ๑ ฌานที่ ๒ เป็นต้น จนถึงว่าได้เป็นพระโสดาบัน เป็นพระสกทาคามี เป็นพระอนาคามี เป็นพระอรหันต์ มีวิชชา ๓ มีอภิญญา ๖. เมื่อเห็นว่าวิธีหลังนี้ดี จึงเที่ยวสรรเสริญกันและกันให้คฤหัสถ์ฟัง จึงได้รับเลี้ยงดูจากคฤหัสถ์ชาวริมน้ำวัคคุมุทาเป็นอย่างดี มีผิวพรรณผ่องใส เอิบอิ่ม. เมื่อออกพรรษาแล้ว จึงเก็บเสนาสนะ เดินทางไปเฝ้าพระผู้มีพระภาค ณ กรุงเวสาลี. ปรากฏว่าภิกษุที่มาแต่ทิศทางอื่นล้วนซูบผอม ผิวพรรณทราม มีเส้นเอ็นขึ้นเห็นได้ชัด ส่วนภิกษุที่มาจากฝั่งน้ำวัคคุมุทา กลับอิ่มเอิบ อ้วนพี พระผู้มีพระภาคจึงตรัสถามทุกข์สุข และทรงทราบเรื่องนั้น จึงตรัสติเตียนและตรัสเรียกประชุมภิกษุทั้งหลาย ตรัสเรื่องมหาโจร ๕ ประเภท เปรียบเทียบกับภิกษุ คือ มหาโจร ๕ ประเภท                ๑. มหาโจรพวกหนึ่งคิดรวบรวมพวกตั้งร้อยตั้งพัน เพื่อจะเข้าไปฆ่า, ปล้น, เอาไฟเผาในคามนิคมราชธานี. ต่อมาก็รวบรวมพวกตั้งร้อยตั้งพันเข้าไปฆ่าปล้น เอาไฟเผาในคามนิคม ราชธานี เทียบด้วยภิกษุบางรูปคิดรวบรวมพวกตั้งร้อยตั้งพัน เพื่อจะจาริกไปในคามนิคม ราชธานี ให้คฤหัสถ์และบรรพชิตสักการะ เคารพ นับถือ บูชา อ่อนน้อม และได้จีวร บิณฑบาต ที่อยู่อาศัย ตลอดจนยารักษาโรค ต่อมาก็รวบรวมพวกตั้งร้อยตั้งพันจากริกไปในคามนิคม ราชธานี มีคฤหัสถ์บรรพชิตสักการะ เคารพ นับถือ บูชา อ่อนน้อม และได้จีวร บิณฑบาต ที่อยู่อาศัย ตลอดจนยารักษาโรค. นี้เป็นมหาโจรประเภทที่ ๑ (ซึ่งมีความปรารถนาลาภสักการะ แล้วก็ทำอุบายต่าง ๆ จนได้สมประสงค์). ๒. ภิกษุชั่วบางรูปเรียนพระธรรมวินัยที่ตถาคตประกาศแล้ว ก็โกงเป็นของตนเอง (แสดงว่าตนคิดได้เอง ไม่ได้เรียนหรือศึกษาจากใคร). นี้เป็นมหาโจรประเภทที่ ๒. ๓. ภิกษุชั่วบางรูปใส่ความเพื่อนพรหมจารีผู้บริสุทธิ์ ผู้ประพฤติพรหมจรรย์บริสุทธิ์ ด้วยข้อหาว่า ประพฤติผิดพรหมจรรย์ อันไม่มีมล. นี้เป็นมหาโจรประเภทที่ ๓. ๔. ภิกษุชั่วบางรูปเอาของสงฆ์ที่เป็นครุภัณฑ์ ครุบริขาร (ที่ห้ามแจกห้ามแบ่ง) เช่น อาราม ที่ตั้งอาราม วิหาร ที่ตั้งวิหาร เตียง ตั่ง เป็นต้น ไปสงเคราะห์คฤหัสถ์ ประจบคฤหัสถ์ (พราะเห็นแก่ลาภ). นี้เป็นมหาโจรประเภทที่ ๔. ๕. ภิกษุผู้อวดคุณพิเศษที่ไม่มีจริง ไม่เป็นจริง ชื่อว่าเป็นยอดมหาโจรในโลก เพราะบริโภคก้อนข้าวของราษฎรด้วยอาการแห่งขโมย. ครั้นแล้วทรงติเตียนภิกษุชาวริมฝั่งน้ำวัดคุมุทาด้วยประการต่าง ๆ พร้อมทั้งทรงบัญญัติสิกขาบท ห้ามอวดคุณพิเศษที่ไม่มีในตน เมื่ออวดไปแล้ว แม้จะออกตัวสารภาพผิดทีหลัง ก็ต้องอาบัติปาราชิก. อนุบัญญัติ (ข้อบัญญัติเพิ่มเติม) สมัยนั้น ภิกษุหลายรูปสำคัญผิดว่าตนได้บรรลุคุณพิเศษ จึงประกาศตนว่าเป็นพระอรหันต์ (พยากรณ์อรหัตตผล) สมัยต่อมา จิตของเธอน้อมไปเพื่อราคะ โทสะ โมหะ ก็เกิดความรังเกียจ สงสัยว่า การประกาศตนว่าได้บรรลุคุณวิเศษ ด้วยความสำคัญผิด จะทำให้ต้องอาบัติปาราชิกหรือไม่ ความทราบถึงพระพุทธเจ้าจึงทรงบัญญัติเพิ่มเติม ยกเว้นให้สำหรับภิกษุผู้สำคัญผิดว่าได้บรรลุ. ต่อจากนั้น เป็นคำอธิบายตัวสิกขาบทโดยละเอียดแล้วแสดงอนาบัติ (การไม่ต้องอาบัติ) ๖ ประการ คือ ๑. เพราะสำคัญผิดว่าได้บรรลุ ๒. ภิกษุมิได้มีความประสงค์โอ้อวด (เช่น บอกเล่าแก่เพื่อพรหมจารี) โดยมิได้มีความปราถนาจะได้ลาภ) ๓. ภิกษุเป็นบ้า ๔. ภิกษุมีจิตฟุ้งซ่าน (เป็นบ้าไปชั่วคราวเพราะเหตุใด ๆ) ๕. ภิกษุมีเวทนากล้า (ไม่รู้สึกตัว) และ ๖. ภิกษุผู้เป็นต้นบัญญัติ. วินีตวัตถุ (เรื่องที่ทรงวินิจฉัยชี้ขาด) ต่อจากนั้น แสดงตัวอย่างต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นเกี่ยวด้วยการกระทำของภิกษุที่เนื่องด้วยสิกขาบทนี้ ประมาณ ๗๕ ราย ซึ่งพระผู้มีพระภาคทรงไต่สวนเอง ทรงวินิจฉัยชี้ขาดว่า ต้องอาบัติปาราชิกบ้าง ไม่ต้องอาบัติปาราชิกบ้าง ต้องอาบัติถุลลัจจัยบ้าง อาบัติทุกกฏบ้าง ตามควรแก่กรณี. (สรุปความว่า อาบัติปาราชิกมี ๔ สิกขาบท ต้องเข้าแล้ว ต้องขาดจากความเป็นภิกษุ แม้สึกไปแล้ว จะมาบวชใหม่อีก ก็ไม่ได้) นี่ละครับในพระธรรมวินัย อาหารที่ใส่บาตรทุกชนิด พระวินัยบัญญัติไว้ให้พระภิกษุฉันได้เฉพาะในวันนั้น ทั้งนี้รวมไปถึงอาหารที่ท่านรับประเคนมาแล้วด้วยครับ กล่าวคือ ถ้าใส่อาหารกระป๋อง ข้าวสารอาหารแห้ง หรืออะไรก็ตามลงในบาตรของท่านแล้ว ท่านต้องนำไปฉันในวันนั้น ไม่หมดก็บริจาคให้ผู้อื่นได้ ที่ไม่ใช่พระสงฆ์ด้วยกัน หากท่านนำไปเก็บไว้เพื่อฉันในวันอี่นๆ ท่านถูกปรับอาบัติทุกคำที่ฉันครับ นั่นคือได้บาปกรรมต่อตัวท่านเองที่ละเมิดพระวินัย พระวินัยข้อนี้มักถูกละเลยกันมาก จนกระทั่งมีการจัดงานใส่บาตรข้าวสารอาหารแห้งเกิดขึ้นในยุคปัจจุบัน แต่หากจุดประสงค์ของงานเพื่อนำเอาของที่เหลือจากการฉันในวันนั้นไปจ่ายแจกแก่ผู้ยากไร้ ไม่ใช่เพื่อสะสมไว้ใช้้เองแล้ว ก็ไม่ผิดพระวินัย เห็นได้ชัดเจนว่า พระพุทธเจ้าท่านสนับสนุนให้พระภิกษุเป็นผู้มักน้อย ไม่สะสมลาภสักการะครับ  จากคุณ : ราชมัล เขียนเมื่อ : วันเนา 55 15:30:42

ความคิดเห็นที่ 49 คุณ buddy 3. การจัดตักบาตร ที่ไม่เข้า กฎ ระเบียบ นั่นก็เรื่องหนึ่ง ............... แต่การโฆษณา ที่ไม่เป็นความจริง  ที่เกี่ยวข้องกับการตักบาตร เป็นกิจกรรมของ พระ   ซึ่ง "ล่อลวง" ให้สาธารณชน เข้าใจผิด ..... ถ้าเป็นกิจกรรมของหน่วยงานทางโลก และ เป็น "สิน ค้า ทาง โลก" ก็จะมีหน่วยงานดูแลอยู่แล้ว แต่ถ้าโฆษณา กิจกรรม ของ พระ ที่เข้าข่าย หลอกลวง ให้ เข้าใจผิด เป็นเท็จ / เกินจริง ที่เกี่ยวเนื่องกับการจัดตักบาตรของ พระ นี่ .................. มีหน่วยงานทาง พระ เขาจัดการดูแลโดยเฉพาะ ไหมครับ สรุปง่ายๆว่า ...... ถ้า  มีใคร ทำการจัดตักบาตรให้กลายเป็น " สิน ค้า ทาง ธรรม " แล้วมีการโฆษณา หลอกลวง เกินจริง เป็นเท็จ .............. หน่วยงานไหน จะดูแลครับ หน่วยงานที่ดูแลในส่วนนี้ก็จะมีที่เกี่ยวข้องดังนี้ครับ ( ในกรณีนี้นะ ) 1.ศูนย์ปฏิบัติการพระวินยาธิการกรุงเทพมหานคร ( ถ้าเป็นตามต่างจังหวัด ก็เป็นศูนย์พระวินยาธิการประจำจังหวัด ) 2.ส่วนคุ้มครองพระพุทธศาสนา สำนักเลขาธิการมหาเถรสมาคม จากคุณ : ราชมัล เขียนเมื่อ : วันเนา 55 15:34:44

ความคิดเห็นที่ 50 ท่าน ราชมัล ในความคิดเห็น ที่ 49 ขอบคุณครับ ต้องใช้หลักฐาน อะไร บ้าง ครับ จะตอบในความคิดเห็น หรือ หลังไมค์ ก็ สุดแท้แต่จะพิจารณา ครับ จะดูว่า เรา พอมี หลักฐาน อะไร บ้าง ตอนนี้ ที่พอใช้ได้ อะไร ที่ ต้อง หาเพิ่มเติม จาก ข้างใน อีกที 1. ใครมีสิทธิ์ ยื่น 2. กว่าจะ จบ นาน ไม๊ 3. บทลงโทษ เป็น อะไร จากคุณ : buddy เขียนเมื่อ : วันเนา 55 15:44:53

ความคิดเห็นที่ 51 คุณ buddy  ความคิดเห็นที่ 50    ท่าน ราชมัล ในความคิดเห็น ที่ 49 ขอบคุณครับ ต้องใช้หลักฐาน อะไร บ้าง ครับ จะตอบในความคิดเห็น หรือ หลังไมค์ ก็ สุดแท้แต่จะพิจารณา ครับ จะดูว่า เรา พอมี หลักฐาน อะไร บ้าง ตอนนี้ ที่พอใช้ได้ อะไร ที่ ต้อง หาเพิ่มเติม จาก ข้างใน อีกที 1. ใครมีสิทธิ์ ยื่น 2. กว่าจะ จบ นาน ไม๊ 3. บทลงโทษ เป็น อะไร จากคุณ : buddy  เขียนเมื่อ : วันเนา 55 15:44:53 หลักฐานก็จำพวกเอกสารที่เกี่ยวข้อง,แผ่นประชาสัมพันธ์ ,คลิปเสียง ,คลิปภาพเคลื่อนไหว,ภาพถ่าย ที่แสดงให้เห็นถึงการกระทำความผิดตามข้อร้องทุกข์นั้น 1.ในส่วนผู้ยื่นทั่วไป ฆาราวาสญาติโยมก็ทำได้ครับ  2.หากมีการสอบสวนทวนความจริง ก็ไม่น่าจะเกิน ๒ เดือน 3.เจ้าอาวาสจะโดนพิจารณาโทษ ในฐานะเจ้าสำนักที่จัดกิจกรรม ในกรณีที่หลายๆวัดมารวมกัน ทางคณะกรรมการสอบสวนวินัยก็จะดูถึงผู้รับผิดชอบกิจกรรมว่า ส่วนหัวของผู้รับผิดชอบนั้นสังกัดวัดใด ครับ  ปล.ถ้าจะยื่นเรื่อง ขอแนะนำ 4 ที่ ครับ เพราะน้ำแถวคลองหลวงซึมไปไม่ถึง เนื่องด้วยมีบิ๊กแบ๊คแน่นหนา ดังนี้ - คณะ 3 ตำหนักสมเด็จ วัดสระเกศฯ - สำนักเลขานุการเจ้าคณะใหญ่หนกลาง วัดพิชยญาติการาม - สำนักงานเลขานุการเจ้าคณะภาค ๑ วัดชนะสงคราม - ศูนย์ปฏิบัติการพระวินยาธิการ วัดมหาธาตุฯ ท่าพระจันทร์ ที่ต้องบอกอย่างนี้ก็เพราะ เดี๋ยวถ้าส่งเรื่องไป ส่วนคุ้มครองฯ แล้ว พอเขาพิจารณาเรื่องต้องส่งเข้า มส.อาจจะสะดุด กับพระมหาเถระรูปหนึ่งที่มักออกตัวล้อฟรีอยู่เสมอว่า " เอาเถอะๆ แล้วผมจะปรามๆ เขาให้ ,เอาไว้ก่อนๆ อย่าเพิ่งนำเข้ามาเลยกระแสเขาแรง " ซึ่งก็เป็นรูปเดียวกันกับที่บอกว่า ไม่รู้จะเตือนเขาอย่างไรนั่นละครับ จากคุณ : ราชมัล เขียนเมื่อ : วันเนา 55 16:17:48

ความคิดเห็นที่ 52 วัดพี่ วัดน้อง วัดเดียวกัน นั่นเอง ..... พวกเขา อุตส่าห์มาโปรโมท 55555 ถ้าตอนนี้มีแต่ ผู้รักษาการแทนเจ้าอาวาส ......... แล้วจะเอาเจ้าอาวาส ไหนโดนพิจารณา ไม่ต้อง ตอบกลับ หรอกครับ เรา ขอ    ฮา    ของเรา คนเดียว จากคุณ : buddy เขียนเมื่อ : วันเนา 55 16:30:37

ความคิดเห็นที่ 53 ท่าน ราชมัล พอจะมี กรณีตัวอย่าง หรือ กรณีศึกษา ของเรื่องในความคิดเห็นที่ 51 แล้วถูกตัดสินว่า "ผิดจริง" ไม๊ครับ >>>>>>>> เพื่อมาศึกษาเป็น แนวทาง ล่วงหน้า ข้างบน นี้ ขอเป็น Link ก็ได้ครับ >>>>> ขอที่ หลังไมค์ นะครับ มีอายุความ เหมือน ทางโลก ไม๊ครับ ขอบคุณล่วงหน้า อีกครั้ง และ หลายๆครั้ง ครับ จากคุณ : buddy เขียนเมื่อ : วันเนา 55 16:39:11

ความคิดเห็นที่ 54 ติดตามค่ะ ! จากคุณ : อ้วนน้อยหอยสังค์ เขียนเมื่อ : วันเนา 55 18:27:09

ความคิดเห็นที่ 55 คุณ buddy โดยส่วนใหญ่ที่พระจำถูกดำเนินคดีเรื่องแบบนี้ ส่วนใหญ่จะบินเดี่ยวหรือไม่ก็เป็นหมู่คณะไม่กี่รูป ครับ อย่างในเคสตัวอย่างนี้ http://www.dailynews.co.th/thailand/18150 วันนี้ (20 มี.ค.) ร.ต.ต.นรินทร์ เข็มพรหมมา ร้อยเวร สภ.ขุนหาญ จ.ศรีสะเกษ รับแจ้งจากศูนย์วิทยุ 191 ว่า มีพระภิกษุเดินเรี่ยไรแจกซองผ้า ก่อความเดือดร้อยรำคาญให้กับชาวบ้าน ในเขตเทศบาลตำบลขุนหาญ อ.ขุนหาญ จึงนำกำลังสายตรวจออกทำการตรวจสอบ พบพระสถาพร จันทะสาโร อายุ 48 ปี พระลูกวัดแห่งหนึ่ง ใน อ.สุวรรณภูมิ จ.ร้อยเอ็ด กำลังเดินเรี่ยไรแจกซองผ้าป่า ให้กับบรรดาคนไข้อยู่ใน รพ.ขุนหาญ จึงควบคุมตัวพร้อมของกลางซองผ้าป่าจำนวนกว่า 100 ซอง และเงินสดที่บรรจุอยู่ในซองอีกจำนวนหนึ่ง นำส่งร.ต.ท.กองศรี ประจันทร์ พงส.(สบ 1) ทำการสอบสวนดำเนินคดีตามกฎหมาย การจับกุมดังกล่าวสืบเนื่องมาจาก ประชาชนในเขตเทศบาลตำบลขุนหาญ จำนวนหลายสิบราย ได้โทรศัพท์แจ้งสายด่วน 191 ว่ามีพระมาเดินสายเรี่ยไร โดยมีพฤติกรรมไม่ค่อยเหมาะสมกับกิจของสงฆ์ มีการตื๊อแจกซองผ้าป่ายัดเยียดให้ทำบุญ หากใครไม่ใส่ซองให้ ก็จะแสดงกริยาอาการดูหมิ่นเหยียดหยาม พูดกระแนะกระแหน ทำให้ชาวบ้านสงสัยว่า จะเป็นพระจริงหรือไม่ จึงแจ้งตำรวจให้มาตรวจสอบ และจับกุมได้ขณะเดินเรี่ยไร พร้อมซองผ้าป่าที่พิมพ์ข้อความระบุว่า เป็นของวัดบ้านหนองโค้ง ต.เมืองทุ่ง อ.สุวรรณภูมิ โดยที่ไม่มีเอกสารมาแสดงว่า ได้ขออนุญาตเดินเรี่ยไร อีกทั้งหน้าซองผ้าป่า ยังไม่มีการระบุวันทอดผ้าป่าอีกด้วย พระสถาพรให้การภาคเสธว่า ซองผ้าป่าดังกล่าวไม่ใช่ของวัดตน แต่มาช่วยแจกซองในฐานะ พระที่รู้จักกันชวนมาแจกซองเท่านั้น โดยเดินทางข้ามจังหวัดเป็นระยะทางเกือบ 200 กม. มากับพระวัดบ้านหนองโค้ง และชาวบ้านอีกจำนวนหนึ่ง เมื่อเห็นเจ้าหน้าที่ตำรวจมาตรวจสอบ ได้ไหวตัวหลบหนีไป ทิ้งให้ตนถูกจับกุมเพียงรูปเดียว ไม่รู้ว่าทางวัดได้ขออนุญาตเรี่ยไร กับทางเจ้าหน้าที่ถูกต้องหรือไม่ อย่างไรก็ตาม พระสถาพรได้พยายามขอบิณฑบาต กับเจ้าหน้าที่ตำรวจ ไม่ให้จับกุมดำเนินคดี แต่เจ้าหน้าที่ไม่สนใจ เพราะมีประชาชนหลายรายโทรศัพท์ร้องเรียน ว่าได้รับความเดือดร้อนรำคาญ กับการพฤติกรรมการเดินเรี่ยไร ของพระสถาพรกับพวก จึงได้นำตัวส่งเจ้าคณะตำบลขุนหาญ เพื่อดำเนินการตามวินัยสงฆ์ และดำเนินคดีในข้อหาก่อความเดือดร้อนรำคาญ และเรี่ยไรโดยไม่ได้รับอนุญาต. ในท้ายข่าวก็ระบุว่า จึงได้นำตัวส่งเจ้าคณะตำบลขุนหาญ เพื่อดำเนินการตามวินัยสงฆ์ " และดำเนินคดีในข้อหาก่อความเดือดร้อนรำคาญ และเรี่ยไรโดยไม่ได้รับอนุญาต " จากคุณ : ราชมัล เขียนเมื่อ : วันเนา 55 18:52:11

ความคิดเห็นที่ 56 ขอบคุณครับท่าน ราชมัล Keyword 1: เรี่ยไร Keyword 2: ขออนุญาตเรี่ยไร / เรี่ยไร โดยไม่ได้รับอนุญาต Keyword 3: ก่อความเดือดร้อนรำคาญ Keyword 4: ทำเอง หรือ เป็นผู้แทน หรือ ใช้ / วาน ให้กระทำ ------------------------------------------------------------------------------------------ Keyword 1. ในส่วน ของ มส. >>> มี คำจำกัดความ ของ คำว่า เรี่ยไร ไว้ว่า อย่างไร ครับ Keyword 2. การเรี่ยไร ทุกแบบ ทุกครั้ง ต้องขออนุญาต หรือ มีบางแบบ ที่ไม่ต้อง ขออนุญาต ครับ แล้ว ในส่วนของการตักบาตร ที่กำลัง พูดถึง >>> อะไร ที่ น่าจะ เข้าข่าย ของคำว่า เรี่ยไร แบบที่ต้อง ขออนุญาต แล้วถ้า ไม่ใช่ การตักบาตร แต่เป็น การเดินโชว์ บน เส้นทางกุหลาบทองคำ ที่มี ฆราวาส มาเดิน บอกบุญ ให้มีการ เสียเงิน ค่ากุหลาบ เพื่อเป็นอุปกรณ์ประกอบฉากการเดินโชว์ ...... อย่างนี้ ถือเป็นการ เรี่ยไร และ เป็น การเรี่ยไร แบบที่ต้องขออนุญาต หรือไม่ครับ ถามตรงๆ เพิ่มเติม ว่า .............. การออก จดหมายขอรับการสนับสนุนด้านการเงิน แบบ Sponsor ที่มี การให้ผลประโยชน์ตอบแทน ในโครงการตักบาตร ........... ถือเป็น การ เรี่ยไร และ เป็น แบบ การเรี่ยไร ที่ต้องขออนุญาต ไหม ในการดังกล่าว ถ้ามี การออก แถก แถ ว่า เอกชน ทำเอง ........ วัดไม่เกี่ยว ได้ไหมครับ Keyword 3. อย่างนี้ ถ้ามี การปิดถนน หรือ การใช้เสียงดัง หรือ ไม่ สามารถ ประกอบอาชีพ ที่สุจริต ดั่งที่ทำเป็น ประจำ ทำให้ สูญเสีย รายได้ หรือ ไปสอบไม่ทัน ทำให้มีผลต่อ การสอบ หรือ ไปทำงาน / สมัครงาน ไม่ทัน ทำให้สูญเสียรายได้ / โอกาส ทำงาน หรือ สร้างความเดือดร้อน ให้กับประชาชน ในมิติ อื่นๆ ..................... อย่างนี้ ฟ้องร้อง ดำเนินคดีความได้เหรอครับ แล้วการอ้างว่า ได้รับ อนุญาต จากหน่วยงาน ราชการ จะเป็น ข้ออ้าง หรือ เกราะ คุ้มภัย ได้ไหมครับ Keyword 4: การให้องค์กร ผู้แทน หรือ ฆราวาส ผู้ สนับสนุน องค์กร ของตน หรือ เจ้าหน้าที่ ขององค์กร ของตน ซึ่ง ทั้งหมด เป็น ฆราวาส ออกมา เรี่ยไร ตามคำจำกัดความ ข้างต้น .......... ทางวัด ต้นสังกัด ที่เป็นผู้ที่ได้รับผลประโยชน์ จะต้องรับผิด หรือ ใช้เป็น ข้ออ้าง ให้ "พ้นผิด" ได้ครับ ขออภัย ............ หากทำให้ เนื้อหา กระทู้ เบี่ยงเบน จาก ประเด็น จากคุณ : buddy เขียนเมื่อ : วันเนา 55 20:06:47

ความคิดเห็นที่ 57 ลุยได้ก็ลุยไปเลย....แต่ก้างขวางคอชิ้นใหญ่คือ  รัฐบาลชุดนี้เป็นพวกเดียวกับสำนักหัวนมฯ   ถ้าจะลุยต้องคิดหาวิธีทางอ้อมอื่นๆ  โดยผ่านสื่อให้คนได้รับรู้มากๆ กว้างขวาง นั่นแหละ ... จากคุณ : โขตาน เขียนเมื่อ : วันเนา 55 21:10:59

ความคิดเห็นที่ 58 คุณ buddy ผมขออนุญาตตอบ Keyword 1 Keyword 2 และ Keyword 4 ด้วยเอกสารชิ้นนี้นะครับ  http://pck.onab.go.th/download/lelai.pdf ลูกน้องที่เคยทำงานร่วมกัน จาก พ.ศ.จังหวัดพิจิตร เขาทำไว้ให้ดูเป็นระเบียบปฏิบัติอย่างเรียบร้อยครับ รับรองเข้าใจง่าย ได้คำตอบไว   สำหรับ Keyword 3 ถ้าหากว่ามีผลกระทบชัดเจน มีหลักฐานแน่ชัดว่าการจัดกิจกรรมดังกล่าวทำให้เกิดความเสียหาย ก็สามารถร้องทุกข์กล่าวโทษได้ เพราะมี " ผู้รับผิดชอบโครงการ " อยู่แล้ว จะอ้าง ส่วนราชการเห็นชอบนั้นไม่ได้ครับ จากคุณ : ราชมัล เขียนเมื่อ : วันเนา 55 21:13:37

ความคิดเห็นที่ 59 ขอบคุณท่าน โขตาน + ขอบคุณท่าน ราชมัล จากคุณ : buddy เขียนเมื่อ : วันเนา 55 21:24:06

ความคิดเห็นที่ 60 เรื่อง ก่อความเดือดร้อนรำคาญ กำลังชอบเพลงนี้ >>>>>> บาท สุดท้าย ขอยก บางท่อน จากเพลงนี้นะ ในวันคืนที่พระท้าทายใจคน ปิดถนน ไม่สนแม้ใครว่าอะไร ไม่เคยมีพุทธแท้ เป็นแสงนำใจ ได้แต่เดิน...หลง...ทาง http://www.youtube.com/watch?v=nEnasF3LdfY จากคุณ : buddy เขียนเมื่อ : วันเนา 55 21:41:23

ความคิดเห็นที่ 61 ท่าน ราชมัล ในความคิดเห็นที่ 58 ครับ 1. เรา ศึกษา แนวปฎิบัติเกี่ยวกับการเรี่ยไร ตาม Link ที่ท่าน แนบมาในความคิดเห็นแล้ว 2. เราเทียบกับ "คู่มือตักบาตรพระ 10,000 รูป" ในโครงการตักบาตรพระ 1,000,000 รูป 77 จังหวัดทั่วไทย" ที่ เรามีอยู่ และ เอ่ยถึง ในความคิดเห็นที่ 47 แล้ว คิดว่า ...... เอกสาร เขาไม่มี อีกเยอะ ............ ไม่งั้น จะ ต้องเคยเห็นแล้ว หรือ ได้ยิน คณะกรรมการ พูดถึง ตอนประชุม ทีมงานครับ ขอไป  " ค้น "  ดูอีกที >>>>>> กลัวพลาด จากคุณ : buddy เขียนเมื่อ : วันเนา 55 22:39:55

ความคิดเห็นที่ 62 อามิตพุทธ......เวรกรรม..ๆ สมัยพุทธกาลกับปัจจุบันช่างไม่ต่างกันเลยหนอ อามิตพุทธ จากคุณ : ครุฑแดง (ครุฑแดง) เขียนเมื่อ : วันเถลิงศก 55 15:44:17