Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com  


 
เอ๊ะ มันเป็นอะไรไปแล้ว ถึง " แตะ " ไม่ได้ ติดต่อทีมงาน

ขออนุญาตเรียนว่า กระทู้นี้ไม่เกี่ยวข้องกับกระทู้ของสมาชิกท่านอื่นๆ ที่ยืนฝั่งตรงกันข้ามวัดพระธรรมกาย เพียงผมนั่งไล่ดู ความเห็น และการโต้ตอบกระทู้ ที่เกี่ยวข้องกับวัดพระธรรมกาย ทั้งจากคณะฝ่ายตรงข้าม และคณะศิษยานุศิษย์ของวัดพระธรรมกาย 

แม้แต่ท่านที่พยามแสดงให้เห็นว่าตนเองเป็นกลาง ( ไปทางข้างสนับสนุนวัดพระธรรมกายก็ตามที ) เพียงอ้าปากก็สามารถมองเห็นแล้วว่าท่านคิดอะไรอยู่ พอแสดงความเห็นออกมา โอ!! ชัดเลย ไม่ต้องพูดกันมาก 


ประโยคนี้มักพบเจอกับชาววัดพระธรรมกาย เมื่อเวลากล่าวตำหนิติติง หรือตั้งข้อสังเกตข้อสงสัยกับวัดกับพระวัดพระธรรมกาย

" คุณทำแบบนี้จะได้ประโยชน์อะไร "

" คุณกล่าวปรามาส พระสงฆ์มันบาปนะ "

" คุณมีเวลาว่างมากหรือ "

" คุณไม่มีอะไรทำใช่ไหม ถึงมาโจมตีวัด "

" เรื่องดีๆ เรื่องมีประโยชน์ ของวัดทำไม ไม่เอามาพูดหล่ะ "

" ก็ทำไม ผมก็เห็นวัดทำแต่เรื่องดีๆ "

" คุณขัดขวางทางบุญหรือ "

" มันได้มรรค ได้ผลอะไรถึงมาโจมตีวัด ด่าพระแบบนี้ "

และอีกมากมายสารพัดเรื่อง ที่สรรหากันเข้ามา แต่ " น้อยถึงน้อยที่สุด " ที่จะกล่าวให้ตรงประเด็นที่ เป็นที่คลางแคลงใจ แทบจะเป็นสัดส่วนที่น้อยมากที่เมื่อมาดูการตอบโต้ประเด็นข้อสงสัย ส่วนใหญ่จะลาก โน่น ลากนี้มา ที่ไม่เกี่ยวข้อง จนเนื้อหากระทู้ออกไปไกลมาก 

จะเป็นอะไรไหมครับ ถ้าตอบให้ตรงประเด็นที่กำลังเป็นข้อสงสัยหรือข้อถกเถียงกัน จะเป็นอะไรไหมครับถ้าไม่มีการแถกแถ หรือชักใบให้เรือเสีย เขาถามอะไร ก็ตอบไปอย่างนั้น ไม่ใช่ถามอย่าง ตอบอย่าง 

ผมว่าถ้าทำแบบนี้ภาพลักษณ์ของวัดพระธรรมกาย ภาพลักษณ์ของผู้ปกป้องวัดพระธรรมกาย ,พระเทพญาณมหามุนีจะดูดี มีสง่าราศรี เพราะด้วยใช้เหตุและผล ประกอบข้อเท็จจริง มีการอ้างอิงที่ถูกต้อง แบบนี้น่านิยมชมเชยมากกว่า พวกที่ไม่รู้หรือแกล้งไม่รู้ แล้วเฉไฉไปเรื่องอื่น 

ไม่ต้องออกรับแทนทุกเรื่องก็ได้ครับ เพราะท่านไม่ได้อยู่ในนั้นตลอด 24 ชม. บางเรื่องที่ดูแล้วผิดพลาด เมื่อเขาท้วงติง ก็ลองนำกลับไปพิจารณาดูนะครับ ไม่ใช่ไม่รู้เหนือรู้ใต้ ท่องอยู่แต่วัไม่เคยผิด ถูกเสมอ แล้วไม่ฟังคำท้วงติง แบบนี้ออกจะใจแคบไปหน่อย ห้ามใครเคลือบแคลง ห้ามใครตั้งข้องสังเกต ข้อสงสัยแบบนี้ผมดูแล้วไม่ไหวครับ เพราะ พระพุทธองค์เอง ท่านยังทรงให้ใช้หลัก " กาลามสูตร " ในการพิจารณาความเชื่ออยู่เลย 

มา อนุสฺสวเนน อย่าเพิ่งเชื่อโดยฟังตามกันมา
มา ปรมฺปราย อย่าเพิ่งเชื่อโดยถือว่าเป็นของเก่าเล่าสืบๆ กันมา
มา อิติกิราย อย่าเพิ่งเชื่อเพราะข่าวเล่าลือ
มา ปิฏกสมฺปทาเนน อย่าเพิ่งเชื่อโดยอ้างคัมภีร์หรือตำรา
มา ตกฺกเหตุ อย่าเพิ่งเชื่อโดยคิดเดาเอาเอง
มา นยเหตุ อย่าเพิ่งเชื่อโดยคิดคาดคะเนอนุมานเอา
มา อาการปริวิตกฺเกน อย่าเพิ่งเชื่อโดยตรึกเอาตามอาการที่ปรากฏ
มา ทิฎฐินิชฺฌานกฺขนฺติยา อย่าเพิ่งเชื่อเพราะเห็นว่าต้องกับความเห็น
ของตน
มา ภพฺพรูปตา อย่าเพิ่งเชื่อว่าผู้พูดควรเชื่อได้
มา สมโณ โน ครูติ อย่าเพิ่งเชื่อว่าผู้พูดนั้นเป็นครูของเรา

สรุปแล้ว พระพุทธเจ้าตรัสว่าอย่าเพิ่งเชื่อ เพราะเหตุ 10 ประการนี้ หรือจะบอกว่าหลักกาลามสูตรใช้ไม่ได้กับวัดพระธรรมกายหรือพระในวัดพระธรรมกายหรอครับ 

จากคุณ : ราชมัล
เขียนเมื่อ : วันเนา 55 18:36:09




ข้อความหรือรูปภาพที่ปรากฏในกระทู้ที่ท่านเห็นอยู่นี้ เกิดจากการตั้งกระทู้และถูกส่งขึ้นกระดานข่าวโดยอัตโนมัติจากบุคคลทั่วไป ซึ่ง PANTIP.COM มิได้มีส่วนร่วมรู้เห็น ตรวจสอบ หรือพิสูจน์ข้อเท็จจริงใดๆ ทั้งสิ้น หากท่านพบเห็นข้อความ หรือรูปภาพในกระทู้ที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งทีมงานทราบ เพื่อดำเนินการต่อไป



Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com