ความคิดเห็นที่ 1 สาธุ จากคุณ : plemarine เขียนเมื่อ : วันเนา 55 20:21:39

ความคิดเห็นที่ 2 เรียนถามคุณจักรแก้ว ว่า 1การธุดงค์ที่วัดธมก จัดนั้น เป็นการธุดงค์ที่ถูกต้องตามพระพุทธศาสนาหรือไม่คะ 2 ถ้าลูกหลานคุณจักรแก้ว จะเข้าร่วมเพราะเห็นว่าสวยงามยิ่งใหญ๋ดี คุณจักรแก้วจะสนับสนุนหรือไม่คะ จากคุณ : เอิงเอย เขียนเมื่อ : วันเนา 55 20:32:28

ความคิดเห็นที่ 3 ผมจะขอไม่ตอบคำถามตรงๆนะครับ แต่นำความรู้ที่ผม ชอบ ศรัทธา พอใจ นับถือ เป็นเนื้อนาบุญของผม และลูกหลาน มาเล่าสู่กันฟังดังนี้  นำมาจากอินเตอร์เนท ซึ่งผมเห็นด้วยตามนี้ ดังนี้ครับ ธุดงค์วัตร  1. ถือการนุ่งห่มผ้าบังสุกุลเป็นวัตร            2. ถือการนุ่งห่มผ้าสามผืนเป็นวัตร            3. ถือการบิณฑบาตเป็นวัตร            4. ถือการบิณฑบาตไปโดยลำดับแถวเป็นวัตร            5. ถือการฉันจังหันมื้อเดียวเป็นวัตร            6. ถือการฉันในภาชนะเดียวคือฉันในบาตรเป็นวัตร            7. ถือการห้ามภัตตาหารที่เขานำมาถวายภายหลังเป็นวัตร            8. ถือการอยู่ป่าเป็นวัตร            9. ถือการอยู่โคนต้นไม้เป็นวัตร            10. ถือการอยู่อัพโภกาสที่แจ้งเป็นวัตร            11. ถือการอยู่ป่าช้าเป็นวัตร            12. ถือการอยู่ในเสนาสนะตามมีตามได้เป็นวัตร            13. ถือเนสัชชิกังคธุดงค์ คือการไม่นอนเป็นวัตร            การถือธุดงคบำเพ็ญได้ด้วยการสมาทานคือด้วยอฐิษฐานใจ หรือแม้นด้วยการเปล่งวาจา   คุณประโยชน์ของธุดงควัตร คือ การยังชีพโดยบริสุทธิ์ มีผลเป็นสุข เป็นของไม่มีโทษ บำบัดความทุกข์ของผู้อื่นเสีย เป็นของไม่มีภัย เป็นของไม่เบียดเบียน มีแต่เจริญฝ่ายเดียว ไม่เป็นเหตุให้เสื่อม ไม่มีมารยาหลอกลวงไม่ขุ่นมัว เป็นเครื่องป้องกัน เป็นเหตุให้สำเร็จสิ่งที่ปรารถนา กำจัดเสียซึ่งศัสตราทั้งปวง มีประโยชน์ในทางสำรวมเป็นเครื่องสมควรแก่สมณะ ทำให้สงบยิ่ง เป็นเหตุให้หลุดพ้น เป็นเหตุให้สิ้นราคะ เป็นการระงับเสียซึ่งโทสะทำโมหะให้ พินาศไปเป็นการกำจัดเสีย ซึ่งมานะ เป็นการตัดเสีย ซึ่งวิตกชั่ว ทำให้ข้ามความสงสัยได้ กำจัดเสียซึ่งความเกียจคร้าน กำจัดเสีย ซึ่งความไม่ยินดีในธรรม เป็นเหตุให้มีความอดทน เป็นของชั่งไม่ได้เป็นของหาประมาณมิได้ และทำให้สิ้นทุกข์ทั้งปวง            อานิสงส์ การปฏิบัติธุดงควัตร ทำให้พระป่าที่จาริกไป ตามป่าเขา พำนักตามโคนไม้ เพิงผาและ ตามถ้ำเป็นอยู่อย่างสมถะ เสียสละ ลดละอุปโภคบริโภค ทำให้จิตของท่าน เป็นอิสระพ้นจาก พันธนาการเครื่องร้อยรัดขัดขวาง สู่ความเบาสบาย สงบเอื้อต่อการเจริญสมาธิภาวนา บำเพ็ญความเพียร การท่องไป ในป่าที่ดารดาษ ไปด้วยสิงสาราสัตว์ ภัยอันตราย เป็นการฝึกจิต หลอมใจ ให้เข้มแข็ง มีสติระลึกรู้ มีบทบริกรรม พุทโธ อยู่กับสายลมหายใจ  การเจริญสติ ก่อให้เกิดสมาธิ และจิตตานุภาพ พระธุดงคกรรมฐาน สายท่านพระอาจารย์มั่น ภูริทัตโตจะผ่านการประหารกิเลส ด้วยธุดงควัตร จิตของพระคุณเจ้า จึงมั่นคง เข้มแข็งด้วย ศีลสมาธิปัญญาศรัทธาความเพียร            พระป่า สายท่านพระอาจารย์มั่น ภูริทัตโต ผู้มอบกายถวายชีวิต ในพระพุทธศาสนา ดำเนิน เดินตามทางรอยธรรม พ่อแม่ครูอาจารย์ ธุดงคจาริกไป ตามวนาป่าเขา เพื่อผลานิสงส์ ในการเพิ่มพูน บารมีธรรมแห่งพระบรมศาสดา สัมมาสัมพุทธเจ้า เพื่อมรรคผล นิพพาน เพื่อสงเคราะห์โลก แลสรรพสัตว์ เป็นเนื้อนาบุญของพระพุทธศาสนา เป็นขุนพลกล้า แห่งกองทัพธรรมพระกรรมฐาน ที่มีคุณูปการ อเนกอนันต์ ตราบนิรันดร์สมัย ขอความเจริญในธรรม มีแด่ทุกท่านครับ จากคุณ : จักรแก้ว เขียนเมื่อ : วันเนา 55 20:46:22

ความคิดเห็นที่ 4 อันนี้ผมก็ชอบ นับถือ นำมาเล่าสู่กันฟังครับ ใช้ภาพแทนคำตอบ ในอนาคต นะครับ จากคุณ : จักรแก้ว เขียนเมื่อ : วันเนา 55 20:52:59

ความคิดเห็นที่ 5 ใครเขาจะโพสท์อะไรก็เป็นเรื่องของคนนั้นเช่นกัน จากคุณ : ซามูไรหมูตอน เขียนเมื่อ : วันเนา 55 20:59:59

ความคิดเห็นที่ 6 ตลอดเวลา 10 ปีที่ผ่านมา  ผมเข้าใจว่ามันเป็นหลักสูตร การตอบของลัทธิเขา A > กล่าวหา, พูดเกี่ยวกับการละเมิดธรรมวินัย B > ยกบาลี ยกธรรมวาที หอมหวานเคลิ้มไป 3 วัน พาออกนอกเรื่อง ประหนึ่งคนเกาะบาลี ธรรมวาที คือผู้มีบารมี ผู้อยู่ในธรรมเหนือธรรมทั้งปวง (ความจริงที่ควรจะทำ คือ นำธรรมวินัยข้อที่อนุญาตให้ทำอย่างนั้นๆ มาเปิดเผย ให้อีกกลุ่มรับฟัง) A > มีข้อสงสัย สอบถาม แนวคิดพระไตรปิฎก กับพฤติกรรมแบบรอดรูสุนัข หนีความผิด B > พูดถึง"กิจกรรมทำดี"ที่เป็น CSR (การนำรายได้เจียดจากกำไรส่วนน้อย(2-5%) คืนสู่ชุมชน) ยกมาอธิบาย ว่านี้คือ ที่สุดแห่งความดีทั้งหมด คือ บุญมหาศาลบนโลกมนุษย์ (ความสง่าผ่าเผย ในการตอบคำถามเยี่ยงผู้ศึกษา"ความจริง"ไม่เคยมีเลย) (ตอบนอกคำถามเสมอมา ภาพ CSR ที่ใช้เงินเพียง 5-10 ล้าน สร้างภาพให้สวยงาม) (สามารถกลบยอดเงินสปอนเซอร์จากภาครัฐ-เอกชน เงินบุญMLM เงินตำแหน่งโบว์ต่างๆ)  (ซึ่งได้เกิน 500-1,000 ล้านต่อ 1 อีเว้นท์ พฤติกรรมสงฆ์หรือ???) A > พูดถึงความไม่เหมาะควร ซึ่งภิกษุสงฆ์ควรตระหนัก มากกว่า ปุถุชน คือ "มโนสำนึกที่ควรสูงกว่า" B > พาออกไปเรื่อง การบริหารจัดการที่ดีขององค์กรตน ความรุ่งเรืองในการประชาสัมพันธ์ลัทธิสู่กระแสโลก (แต่อ้างว่า "โฆษณาพุทธศาสนา" ทั้งที่ไม่มีตรงไหน ในพุทธสัทธรรม สอดคล้องตรงกันกับแนวคิดลัทธิปลวก ซักจุดเดียว) A > พูดถึงพฤติกรรมไชยบูลย์จ้าวลัทธิ "ผู้ทำลายสัทธรรมองค์สมณโคดม" ก่อตั้งสัทธรรมเห็บ,ปลวกขึ้นมาแทน B > ดึงบูรพาจารย์สด มาเป็นเกราะกำบัง โพสภาพสงฆ์ทั้งแผ่นดิน  โพสภาพบูรพาจารย์สด เสมือนบูรพาจารย์เห็นดีเห็นงามกับกิจกรรมดึงแมงเม่าเข้ากองไฟนั้นๆ (ทั้งที่บูรพาจารย์ท่านไม่เคย มีพฤติกรรมละโมบในทรัพย์เท่า ปลวกไชยบูลย์เลย) (ก่อนปี2542ก่อนมีคดีความ จากปากคำคนในวัดเอง บอกเงินในบัญชีไชยบูลย์เป็นหมื่นล้าน) (ตอนนำสืบในชั้นศาลปี 2542-2549 พบในบัญชีไชบูลย์ เกือบ2 พันล้าน โอนเข้า-โอนออก) ---------------- ความจริง คือ การเปลี่ยนเรื่องตอบ* ตอบนอกประเด็น*  ใช้ได้ผลกับสังคมไทยมาตลอด 30 ปี เพราะคนไทยลืมประเด็นง่าย จากคุณ : เนื้อนาโจร หรือ เนื้อนาบุญ (Zim-MorLuth-) เขียนเมื่อ : วันเนา 55 21:04:34

ความคิดเห็นที่ 7 "พระไตรปิฎกกับพุทธบริษัท๔" จากหนังสือ"พระไตรปิฎก สิ่งที่ชาวพุทธต้องรู้" โดย พระพรหมคุณาภรณ์ http://www.watnyanaves.net/th/book_detail/275 จากคุณ : เอิงเอย เขียนเมื่อ : วันเนา 55 21:29:58

ความคิดเห็นที่ 8 คุณจักรแก้ว จขกท เป็นพุทธบริษัท สมดังที่พระศาสดา ได้ฝากให้ช่วยกันดูแลสืบทอด แล้วใช่หรือไม่คะ? แก้ไขเมื่อ 14 เม.ย. 55 21:33:16 จากคุณ : เอิงเอย เขียนเมื่อ : วันเนา 55 21:31:25

ความคิดเห็นที่ 9 แก้ไขเมื่อ 14 เม.ย. 55 21:44:17 จากคุณ : เอิงเอย เขียนเมื่อ : วันเนา 55 21:42:52

ความคิดเห็นที่ 10 จากต้นกระทู้ คุณจักรแก้วเขียนว่า บางทีเรารู้มาก ศึกษามาก ก็มา รู้ว่า อย่างนี้พระพุทธองค์ไม่ทรงสรรเสริญ ไม่ทรงสนับสนุน  แต่กลับสรุปว่า แต่เราก็ไม่ควรไปขัดศรัทธา ไปห้าม ไปขวางคนที่เขาศรัทธาจะทำ เพราะการขวางทางบุญ หรือขัดศรัทธา ก็เป็นบาปได้ แถมด้วย และเราก็ยังอนุโมทนาบุญกับเขาก็ได้  อีกต่างหาก และยัง ยกคำของ ลป มั่น ที่ท่านสอนว่า "ไม่ควรตำหนิผู้อื่น" ในคห 4 มารับรองการกระทำของตัวเอง!! คุณจักรแก้วทำเหมือนไม่เคยอ่านไม่เคยศึกษาว่า พระศาสดายังได้ทรงตำหนิภิกษุทุศีลมากมายหลายหน !! คุณจักรแก้ว ยังยืนยันที่จะสนับสนุน ธมก ต่อมา(นี่กี่ปีมาแล้ว?)และต่อไป จริงๆนะเหรอคะ? คุณไม่คิดจะยืนอยู่ข้างพระธรรมอย่างองอาจสง่างามผ่าเผย จริงๆ เหรอคะ?!?! จากคุณ : เอิงเอย เขียนเมื่อ : วันเนา 55 21:46:46

ความคิดเห็นที่ 11 คนที่ฝังใจกับสำนักนั้นมานาน  ชอบไปในแนวทางสวยงาม  โอ่โถง แบบนั้น  ยากที่จะถอนใจได้    เพราะความนิยมชมชอบลึกๆยังมีอยู่ .... จากคุณ : โขตาน เขียนเมื่อ : วันเนา 55 21:57:26

ความคิดเห็นที่ 12 ต้องเข้าใจคนที่เข้าวัดพระธรรมกายว่าการกล่าวโจมตีรุนแรงดูหมิ่นมิได้ช่วยให้หลายล้านคนเปลี่ยนใจ แก้ไขเมื่อ 14 เม.ย. 55 22:48:36 จากคุณ : venture เขียนเมื่อ : วันเนา 55 22:46:18

ความคิดเห็นที่ 13 เราไม่ได้หวังให้ คนในวัด เปลี่ยนใจ เสียหน่อย ก็ภักดี กันซะขนาดนั้น ขนาด Post ข้อมูลจริง พร้อม อ้าง แหล่งเอกสาร ข้อมูล จากในวัด ของตัวเอง แท้ๆ แบบ เฉลย ข้อสอบ ล่วงหน้า >>>> เพื่อให้ เขาค้นคว้า ว่า ข้อมูล ที่นำมาแสดง นั้น จริง หรือ เท็จ ..... ไม่ได้กล่าวอ้าง แบบ เลื่อนลอย ก็ไม่เห็นไปตรวจสอบ หรือ ไปตรวจสอบมาแล้ว ก็ไม่มาหักล้าง เพื่อให้ สาธารณชน เข้าใจ วัดตัวเอง ได้ถูกต้อง จะได้เลิก กล่าวหา เพราะ จนต่อหลักฐาน "เท็จ" ......... ก็ ไม่เห็น ทำ กลับทำอะไร ไม่รู้ ให้ทั้งตัวเอง และ องค์กร กลายเป็น "ตัวตลก" หนักเข้าไปใหญ่ กลับทำแบบ ที่ท่าน Zim-MorLuth- ได้ Post ไว้ในความคิดเห็นที่ 6 หลายๆ กระทู้ ของท่าน ราชมัล ที่เหล่า สาวก ตอบไม่ได้ ไปไม่เป็น จำนนต่อหลักฐาน แล้ว ทำไง * โกหก แก้ไข ความคิดเห็น ของตัวเอง เพื่อ แค่ "เอา ชนะ" * เกรียน * แกล้งตาย ....... ทำเป็น ลืม เหมือนไม่เคยมา Post อะไร ทิ้งเอาไว้ ประจาน ตัวเอง และ องค์กร และ อีก สารพัด วิธี ถ้า เขาเหล่านั้น ทำได้ถึง ขนาดนี้ >>>>>> ใครคิดจะไปเปลี่ยนใจเขา ทั้ง "หลาย ล้าน คน" หรือ แม้แต่ คนเดียว ละ ก็ ..................... เราว่า คนนั้น เข้าขั้น บ้า แล้ว ที่คิดเปลี่ยนใจพวกนั้น จากคุณ : buddy เขียนเมื่อ : วันเนา 55 23:54:59

ความคิดเห็นที่ 14 สาธุชนผู้เจริญ อะไรคือ ตัวแทนพระธรรม คำสอนของพระพุทธศาสดา  1.พระธรรมคำสอน ที่สืบทอดมาในพระไตรปิฏก หรือว่า 2.คำสอนที่ออกจาก ปาก นักบวช ท่านใดท่านหนึ่ง (หากตรงตามพระไตรปิฏก ก็เป็นที่ยอมรับ และหากไม่ตรง หรือผิดเพี้ยนไปจากพระไตรปิฏก จะเชื่อถือได้ไหม?) ............. ในยุคเก่าก่อน อาจหาแหล่งที่มา  ที่ศึกษาพระธรรมคำสอนได้ค่อนข้างยากลำบาก ต้องอาศัย การถ่ายทอด บอกสอน ต่อๆกันมา  จากพระเถระ ผู้ที่เรามีศรัทธา  ว่าท่านนั้นๆ ทรงธรรม ทรงวินัย...แล้วก็บอกต่อๆกันมา จึงเป็นการยากที่ พุทธศาสนิกชน   จะเปรียบเทียบ คำสอน การถ่ายทอดนั้นๆว่าถูกต้องหรือไม่ แต่ ในปัจจุบัน  มีแหล่งศึกษาข้อมูลเกี่ยวกับพระธรรมคำสอน ของ พระพุทธศาสดา ได้หลายทาง  เช่นจากหนังสือ พระไตรปิฏก ซึ่งมีจัดพิมพ์ออกมาหลายฉบับ หรือจากอินเตอร์เน็ท www.84000.org เป็นต้น เรา ผู้สนใจใฝ่ศึกษา และประสงค์จะเป็นผู้เดินตาม พระพุทธศาสดา  ก็ควรอย่างยิ่ง ที่จะหมั่นศึกษา  หลังจากศึกษาแล้วก็ควรที่จะมีท่าทีที่ถูกต้อง  ในการปฏิบัติตนเป็น พุทธบริษัท ที่ดี เมื่อศึกษาแล้ว ก็ควรนำสิ่งที่ถูกต้องออกมาเผยแพร่ สิ่งใหนที่ ใคร ไม่ว่าจะเป็นพระภิกษุ นักบวช  อุบาสก อุบาสิกา ฆราวาส ท่านใดๆ ได้กระทำผืดพระธรรม วินัย  ก็ควรช่วยกันออกมาทักท้วง ว่านี้ มิใช่ธรรม มิใช่วินัย ในพระพุทธศาสนา  ที่พระพุทธศาสดาได้กล่าวสอนไว้ มิใช่ เอออวยไปตาม สรัทธาที่ตนมีต่อ พระ  หรือนักบวช ที่กระทำ ผิดไปจากคำสอนนั้น นี้จึงจะเป็นการช่วยกัน ทำนุบำรุง รักษา พระพุทธศาสนาที่ถูกต้องดีงาม . หากจะมีคำถามว่า ธรรมแท้(เท่าที่รักษาไว้ได้)อยู่ที่ไหน  ถ้าเป็นพุทธเถรวาท ก็เป็นที่ยอมรับกันว่า อยู่ที่พระไตรปิฏก.. จึงควรเป็นว่า พระ นักบวช สำนักใดๆ ที่ถ่ายทอด บอกสอน มีพิธีกรรม ที่แตกต่างไปจากคำสอนที่มีในพระไตรปิฏก เราก็ควรช่วยกันทักท้วง  แนะนำ มิใช่หรือ ? ............... จากที่ติดตาม ผู้ที่เข้ามาให้ข้อมูล เกี่ยวกับ ธมก เช่น คุณ ราชมัล คุณ buddy และท่านอืนๆ ก็ยังไม่เห็นมีข้อความ ห้ามการไปทำบุญ กับ ธมก มีแต่ข้อมูลเพื่อชี้แจง ว่า การกระทำ ของ ธกม เป็นอย่างนี้ๆ   ในสมัยพุทธกาล ก็มีการทักท้วงกันเกี่ยวกับเรื่องการกล่าวตู่ กล่าวบิดเบือนคำสอน   กล่าวตักเตือนการกระทำผิดวินัย  ซึ่งมีปรากฏให้เห็นเป็นตัวอย่าง ในพระไตรปิฏก หรือว่า ท่าน จขกท มีความเห็นเพิ่มเติมอย่างไร ? ควรเอออวยไปตาม นักบวชนั้นๆ  หรือว่า ควรปรับท่าที ที่ถูกต้องตามพระธรรมคำสอนฯ ................... ผู้ที่จะเข้ามาแสดงความเห็นต่อ หรือเห็นแย้ง จากข้อความที่ผมเขียนนี้ โปรดนำความจริงมาแสดง พุทธพจน์... ดูกรราหุล เรากล่าวว่าบุคคลผู้ไม่มีความละอายในการกล่าวมุสา ทั้งที่รู้อยู่ ที่จะไม่ทำบาปกรรมแม้น้อยหนึ่งไม่มี  http://www.84000.org/tipitaka/pitaka_item/v.php?B=13&A=2383&Z=2540   จากคุณ : ยามประจำวัน เขียนเมื่อ : วันเถลิงศก 55 01:40:53

ความคิดเห็นที่ 15 ผมอยากจะเล่านิทานสักเรื่องหนึ่ง เรื่องของ อุบาสก  เรื่อง อนุโมทนา  กับสาธุการ อุบาสก มีบ้านอยู่ใกล้ วัดในชนบท แห่งหนึ่ง วัดนี้ไม่ร่ำรวย มีต้นไม้ใหญ่มาก มีวิหารเก่าๆ โบสถ์เก่า และซุ้มประตูเก่า ต่อมาวิหารหลังคารั่ว หลวงตา อยากจะซ่อมวิหาร ได้บอกบุญ ขณะที่ อุบาสกกำลังกวาดลานวัด ก็ได้เห็นลุงคำเดินเมาแอ๋ เซไปเซมา ลุงคำได้เดินโซเซ และถือขวดเหล้า ได้มาทักทาย ว่า เมื่อครู่ลุงได้ เอาตังไปหยอดตู้ทำบุญซ่อมวิหาร ยี่สิบบาท เองอนุโมทนานะ  อุบาสกสังเกตเห็นลุงคำ กินเหล้าอยู่ แต่ได้ทำบุญและมาให้อนุโมทนา อุบาสก ได้ยิ้มแย้มตอบ และบอกลุงว่า ผมขออนุโมทนาด้วยครับ ลุงคำยิ้มอย่างยินดี และเดินจากไป อุบาสก อนุโมทนา แต่ในเรื่องบุญของเขา ส่วนเรื่องกินเหล้า อุบาสกไม่ได้อนุโมทนาด้วย เลือกแต่อนุโมทนาบุญเท่านั้น จากคุณ : จักรแก้ว เขียนเมื่อ : วันเถลิงศก 55 06:17:48

ความคิดเห็นที่ 16 นิทานเรื่องที่สอง  หอระฆังที่สวยงาม ต่อมาหลวงพ่อ ได้มีดำริ จะสร้างหอระฆังให้สวยงาม  ระฆังเดิมเป็นของเก่า ใหญ่โต เสียงเพราะมาก หลวงพ่อจะไม่เปลี่ยน แต่อยากจะสร้างหอ ให้สวยงาม อุบากได้ไปดู ระฆังเดิม เห็นว่า แขวนกับต้น พิกุลใหญ่ และดูร่มรื่นงดงามมาก ไม่น่าจะต้องไปสร้างหอให้เปลืองเงินทอง แต่ เมื่อหลวงพ่อจะสร้าง ให้สวยและใหญ่โต ก็ต้องตามนั้น อุบาสกได้มาคิดว่า พระพุทธองค์ จะทรงสรรเสริญการสร้างหอระฆังที่ใหญ่โตสวยงามหรือไม่ เท่าที่อ่านตำรามา คิดว่าจะไม่ ต่อมาเมื่อ ลุงปันได้ไปหยอดตู้ สร้างหอระฆัง ที่สวยงาม ลุงปันได้บอกว่า ลุงไปทำบุญหอระฆังมาแล้ว เอง อนุโมทนา สาธุกับลุงนะ อุบาสก ได้กล่าวอย่างยิ้มแย้มว่า อนุโมทนาด้วยครับ ลุง ลุงปันดีใจ ได้เดินจากไป อุบากสกไม่ได้ กล่าวสาธุการ ซึ่งแปลว่า ชอบแล้ว เพราะเขาไม่ได้เห็นชอบด้วย ได้แต่กล่าวอนุโมทนา คือยินดีในบุญของลุงเท่านั้น เพราะเขาคิดว่า อย่างไรลุงคงได้บุญแน่นอน จากคุณ : จักรแก้ว เขียนเมื่อ : วันเถลิงศก 55 06:25:36

ความคิดเห็นที่ 17 ผมจะเล่านิทานเรื่องที่สาม นิทานเรื่องที่สาม พระแสดงธรรม ผิด อุบาสกได้ฟัง พระภิกษุบวชใหม่รูปหนึ่งแสดงธรรม ความตอนหนึ่งว่า เราควรทำบุญมากๆ ควรสะสมบุญไว้ ยิ่งทำบุญด้วยเงินมากๆ จะได้บุญมาก อุบาสกได้ไปอ่านตำราดู พบว่า ที่ถูกคือ ควรทำบุญมากๆด้วยการทำบ่อยๆ ไม่ได้ด้วยปริมาณมากๆ  และควรสะสมบุญจริง เมื่ออุบาสกรู้เช่นนั้น เมื่อชาวบ้าน มาถาม อุบาสกก็ตอบว่า ควรทำบุญบ่อยๆ ควรสะสมบุญ แต่พระพุทธเจ้า ไม่ได้สอนให้ทำบุญมากๆ อุบาสกก็พูดเช่นนี้เรื่อยๆ กับคนที่สงสัยและมาถาม หรือเมื่อเจอใครก็บอกเรื่อยๆ เพราะคิดว่า เราควรเผยแพร่พระธรรมวินัยที่ถูกต้อง แต่อุบาสกก็ไม่ได้ตำหนิว่า พระรูปนั้น แต่อย่างใด และไม่ได้ ทั้งอนุโมนา และสาธุการ ต่อการแสดงธรรมที่ผิดของพระรูปนั้นเลย และคิดว่า เมื่อมีโอกาสจะไปเล่าสิ่งที่ถูกต้องให้ท่านฟัง พระสูตรเพิ่มเติม [๑๑๔] ดูกรภิกษุทั้งหลาย ก็ภิกษุในธรรมวินัยนี้ พึงกล่าวอย่างนี้ว่า สงฆ์พร้อมทั้งพระเถระ พร้อมทั้งปาโมกข์ อยู่ในอาวาสโน้น ข้าพเจ้าได้ฟังมา ได้รับมาเฉพาะหน้าสงฆ์นั้นว่า นี้เป็นธรรม นี้เป็นวินัย นี้เป็นคำสั่งสอนของ พระศาสดา ดังนี้ พวกเธอไม่พึงชื่นชมไม่พึงคัดค้านคำกล่าวของภิกษุนั้น ครั้นแล้ว พึงเรียนบทและพยัญชนะเหล่านั้นให้ดี แล้วสอบสวนในพระสูตร เทียบเคียง ในพระวินัย ถ้าเมื่อสอบสวนในพระสูตร เทียบเคียงในพระวินัย ลงในพระสูตร ไม่ได้ ลงในพระวินัยไม่ได้ พึงถึงความตกลงในข้อนี้ว่า นี้มิใช่คำสั่งสอนของ พระผู้มีพระภาคแน่นอน และภิกษุสงฆ์นั้นจำมาผิดแล้ว ดังนั้น พวกเธอพึงทิ้ง คำกล่าวนั้นเสีย ถ้าเมื่อสอบสวนในพระสูตร เทียบเคียงในพระวินัย ลงในพระ สูตรได้ เทียบเคียงในพระวินัยได้ พึงถึงความตกลงในข้อนี้ว่า นี้เป็นคำสั่งสอนของ พระผู้มีพระภาคแน่นอน และภิกษุสงฆ์นั้นจำมาถูกต้องแล้ว ดูกรภิกษุทั้งหลาย พวกเธอพึงทรงจำมหาประเทศข้อที่สองนี้ไว้ ฯ เนื้อความพระไตรปิฎก เล่มที่ ๑๐  บรรทัดที่ ๑๘๘๘ - ๓๙๑๕.  หน้าที่  ๗๘ - ๑๕๙. http://84000.org/tipitaka/pitaka_item/v.php?B=10&A=1888&Z=3915&pagebreak=0 แก้ไขเมื่อ 15 เม.ย. 55 06:35:20 จากคุณ : จักรแก้ว เขียนเมื่อ : วันเถลิงศก 55 06:31:14

ความคิดเห็นที่ 18 นิทานเรื่องที่สี่ ขอทานผู้ใจบุญ ลุงชม เป็นขอทาน ที่วัดมานานแล้ว เขานั่งขอทานอยู่ใกล้วิหาร เมื่อประชาชนไปทำบุญ สร้างหอระฆังที่สวยงาม กับหลวงพ่อ ลุงชมก็นั่งกับพื้นอยู่ใกล้ เขามีเท้าสองข้างพิการ จึงต้องคลานไปมา ต่อมาวันหนึ่งลุงชมคิดว่า เราไม่มีเงิน จะทำบุญเลย แต่คนมาวัดย่อมได้บุญ เราจัดรองเท้าให้เขาดีกว่า เมื่อคนขึ้นวิหาร ลุงชมจะไปจัดรองเท้า โดยไม่ให้ใครเห็น เพราะเขาคิดว่า ถ้าใครเห็น จะหาว่าเราทำเพื่อหวังเงิน  เมื่อจัดเสร็จแกจะคลานไปไกลๆ ไปขอทานที่ไกลออกไป คนก็ไม่รู้ว่าใครจัดรองเท้า อยู่มาวันหนึ่งอุบาสกเห็น เขาได้ปราดเข้าไป จับมือลุง และพูดว่า ผมเห็นแล้ว ผมขออนุโมทนา กับสาธุการในสิ่งที่ลุงทำนะครับ ลุงทำชอบแล้วดีแล้ว และผมยินดีกับบุญของลุงครับ ลุงชมดีใจมาก อุบาสกก็ดีใจ ในที่สุด เขาได้อนุโมทนา และสาธุการเสียที จากคุณ : จักรแก้ว เขียนเมื่อ : วันเถลิงศก 55 06:40:06

ความคิดเห็นที่ 19 เราว่าการไม่ติเตียนคนไม่ดี เท่ากับการส่งเสริมคนไม่ดี ให้ทำไม่ดียิ่งๆ ขึ้นไป หรือการอนุโมทนาบุญเฉพาะสิ่งที่คนนั้นทำดี  แต่เพิกเฉยไม่เอาธุระกับสิ่งไม่ดีนั้น ก็ไม่ต่างกับบรรทัดบนค่ะ จากคุณ : น้องพี่อิ้ว เขียนเมื่อ : วันเถลิงศก 55 06:55:01

ความคิดเห็นที่ 20 เห็นด้วยกับคุณจักรแก้ว ในแนวทางปฏิบัติในเรื่องนี้ สิ่งใดที่ทำแล้วเป็นเหตุให้กุศลธรรมในตัวเราเจริญ อกุศลธรรมเสื่อม ต้องทำก่อน สิ่งใดที่ทำแล้วเป็นเหตุให้อกุศลธรรมเจริญ กุศลธรรมเสื่อม ต้องละไว้ เหมือนคนว่ายน้ำไม่แข็งยังไม่ทันข้ามถึงฝั่ง หากยังหันไปบอกคนข้างๆ ยังกระเตงคนอื่นไปด้วย โอกาสจมกลางน้ำมีเยอะ เพราะความเนิ่นช้า... จากคุณ : tiger18 เขียนเมื่อ : วันเถลิงศก 55 07:35:21

ความคิดเห็นที่ 21 นาน ๆ คุณจักรแก้ว  จะมาตั้งกระทู้ที่หน้าห้องหลักสักที มาครั้งนี้  มาตั้งถึง 2 กระทู้ ทั้งกระทู้นี้ Y11961789 เนื้อนาบุญของคนอื่น อาจจะไม่ใช่เนื้อนาบุญของเรา จักรแก้ว (19 - วันเถลิงศก 55 07:00) http://www.pantip.com/cafe/religious/topic/Y11961789/Y11961789.html และ Y11962884 เรื่องของ อุบาสก นิทานเรื่อง อนุโมทนา กับสาธุการ จักรแก้ว (3 - วันเถลิงศก 55 06:45) http://www.pantip.com/cafe/religious/topic/Y11962884/Y11962884.html ในมุมมองของผม   ผมมองว่า  คุณจักรแก้วมาตั้งกระทู้ทั้งสองเพียงเพื่อตีกรรเชียงอธิบายความในกระทู้ 2 กระทู้ต่อไปนี้น่ะครับ Y11952076 ฟังหลวงพ่อจรัลเล่าเรื่องหลวงพ่อสดวัดปากน้ำเรียนกรรมฐานกับเจ้าคุณโชดกวัดมหาธาตุ เต่ากินผักบุ้ง (118 - วันเนา 55 11:10) http://www.pantip.com/cafe/religious/topic/Y11952076/Y11952076.html กับกระทู้ Y11957815 เจ้าคุณโชดกบรรลุอรหันต์??? venture (92 - วันเนา 55 23:05) http://www.pantip.com/cafe/religious/topic/Y11957815/Y11957815.html แน่นอนว่า  ในความเห็นถัด ๆ ไป  คุณจักรแก้ว  ก็จะเข้ามาปฏิเสธ เหตุผลความเป็นจริงจะเป็นเช่นไร   เพื่อนสมาชิกพิจาณาเอาเองครับ เพราะคุณจักรแก้วทัวร์บุญร่วมรถ  นั่งรถร่วมคัน ฉันอาหารร่วมโต๊ะ กับคุณ ebusiness เป็นประจำ  จึงมีความจำเป็นในการตั้งกระทู้ตีกรรเชียงเบี่ยงเบน  นั่นประการหนึ่ง อีกประการหนึ่งคือ คุณจักรแก้วยังกลืนไม่เข้าคายไม่ออกกับวิชาธรรมกาย และวัดพระธรรมกาย คงเป็นเพราะสำนึกในคุณข้าวแดงแกงร้อนของบร๊ะเมพมารหมามุนีแห่งวัดพระธรรมกายที่เคยเป็นครูบาอาจารย์มาก่อน  ดั่งที่เพื่อนสมาชิกชาววัดพระธรรมกายมักเอามาเป็นข้ออ้างทวงบุญคุณอยู่เนือง ๆ ทั้ง ๆ ที่ข้าวแดงแกงร้อนอะไรเหล่านั้น   มาจากเงินทำบุญของพุทธศาสนิกชน  แต่กลับเอามาเป็นบุญคุณของบร๊ะเมพมารมหามุนี ก็คงจะทำนองเดียวกันกับที่อ้างว่า บรรดาที่ดินทั้งหลายทั้งปวงที่เป็นชื่อไชยบูลย์ สุทธิผล น่ะเป็นเพราะญาติโยมเขาถวายให้  ทั้ง ๆ ที่เบิกเงินจากบัญชีวัดพระธรรมกายไปซื้อมาทั้งนั้น จากคุณ : ทวนทอง เขียนเมื่อ : วันเถลิงศก 55 08:10:19

ความคิดเห็นที่ 22 *ขอนิทานเกี่ยวกับอลัชชี *เดียรถีย์พวกปล้นศาสนา *ที่พุทธองค์ตะเพิดออกจากผ้ากาสาวพัสตร์ซักเรื่องสิครับ หรือจะโรคตาบอดกำเริบ อ่านข้ามประโยค อ่านข้ามความเห็น เนียนๆกันไป กับทีมงานร่วมด้วยช่วยแถ หนุนโจรช่วยเผาสัทธรรมพุทธองค์ มันก็ไม่มีอะไรใหม่ ก็หวังว่าพี่ๆเพื่อนๆท่านอื่นจะ ขอเหมือนผมนะ อยากรู้ว่าจะขวัญอ่อน หลับตาปี๋ไปได้นานแค่ไหน จากคุณ : Zim-MorLuth- เขียนเมื่อ : วันเถลิงศก 55 08:11:11

ความคิดเห็นที่ 23 _/\_กราบสวัสดีท่านทวนทองยามเช้าขอรับ ยกหน้าที่ให้ท่านทวนทองละกัน เจริญอาหาร เจริญธรรมกันนะครับ จากคุณ : Zim-MorLuth- เขียนเมื่อ : วันเถลิงศก 55 08:12:55

ความคิดเห็นที่ 24 ให้กิฟคำสอนของพระอจ.มั่นในกท.4 แต่เชื่อว่าในคำสอนนั้น ไม่ได้หมายถึงให้พุทธบริษัทเพิกเฉยกับความชั่ว หรือการกระทำที่ไม่ถูกต้อง เพราะนั่นเท่ากับสนับสนุนให้คนชั่วหรือคนที่ ทำไม่ดีได้ใจมากขึ้น จากคุณ : sailsky เขียนเมื่อ : วันเถลิงศก 55 08:13:04

ความคิดเห็นที่ 25 ต้องขอบคุณ ที่ให้ความเห็นกันมามากมายครับ ทุกกระทู้ของผมเกี่ยวเนื่้องกัน ต้อง ขอออกตัว และขอโทษก่อน ที่มาบอกช้าไปว่า ผมจะไม่ตอบทุกคำถามนะครับ อยากจะให้เป็นบุญกับทุกคน และไม่อยากยุ่งกับบางเรื่องและหลายเรื่องน่ะครับ เรื่องที่คุณก็รู้อยู่ ผมมีเวลาน้อย อยากพูดแต่สิ่งที่ได้ตั้งกระทู้ไว้ แล้ว ก็เผยแพร่พระธรรม นะครับ ตอนนี้กำลังจะไป อุดร สกลนคร จะไปกราบหลวงตาแยงที่ภูทอก ไปใส่บาตรหลวงปู่อว่าน ที่วัดป่านาคนิมิตร ไปทอดผ้าป่าวัดห้วยหีบ และอาจจะไปเที่ยวอีกหลายวัด แล้วจะนำบุญมาฝากนะครับ ขอขอบคุณ เพื่อนๆ ทุกท่านที่ติดตามกระทู้ และตั้งคำถามมามากมาย ขออภัยถ้าผมทำให้ผิดหวังนะครับ ขอให้เจริญในธรรมทุกท่านครับ สักครู่ผมจะต้องไปแล้ว ครับ จากคุณ : จักรแก้ว เขียนเมื่อ : วันเถลิงศก 55 08:32:17

ความคิดเห็นที่ 26 จขกท.เขียนแบบนี้ แสดงว่ายังไม่เห็นภัยที่เกิดกับพระศาสนา มันก็เหมือนคนปล่อยวาง  แบบให้บ้านพังไปเรื่อยๆน่ะครับ ผมล่ะสงสัยว่าคุณบวชที่วัดหลวงพ่อชาได้อย่างไร ส่วนคห 20 คุณคิดว่าบุญกับกุศล  ต่างกันอย่างไรครับ แน่นอนว่าการอนุโมทนาอะไรก็ตาม  ผู้อนุโมทนาและผู้ทำบุญมีความสุข แต่คุณแน่ใจหรือว่าเค้าได้กุศลจริงๆน่ะ?? จากคุณ : Bitter Coffee เขียนเมื่อ : วันเถลิงศก 55 08:34:58

ความคิดเห็นที่ 27 ไม่ได้เลื่อมใสธรรมกาย  เพราะบิดเบือนคำสอนชัดเจน แต่เห็นด้วยกับท่านจักรแก้ว ครับ ขออนุโมทนากับท่านที่กล่าวว่าทำเพื่อปกป้องพระพุทธศาสนา การโจมตีธรรมกาย ไปโดยไม่เห็นหนทางชนะนั้น (เห็นด่ากันอะไรกันมากมาย ธรรมกายก็ยังอยู่ที่เดิม ไม่เห็นจะมีใครทำอะไรได้) ผมเห็นว่า รังจะทำให้อกุศลและอวิชชาเข้าครอบงำจิตใจ อันทำให้ห่างไกลทางพระนิพพาน ชาวพุทธที่ยังปฏิบัติไม่พ้นกิเลส ควรจะปฏิบัติเพื่อทางปลอดภัยจากอกุศลก่อนไม่ดีกว่าหรือครับ และการอยู่เฉยๆ จะปลอดภัยกับการเดินทางในสังสารวัฎอันยาวไกลมากกว่าหรือไม่ประการใดครับ จากคุณ : ทางปลอดภัยจากความตาย เขียนเมื่อ : วันเถลิงศก 55 08:49:46

ความคิดเห็นที่ 28 ตามที่เขียนว่า "แต่เราก็ไม่ควรไปขัดศรัทธา ไปห้าม ไปขวางคนที่เขาศรัทธาจะทำเพราะการขวางทางบุญ หรือขัดศรัทธา ก็เป็นบาปได้" คุณเอิงเอยเห็นว่าถ้อยคำถูกหรือผิดครับ? ในชัปปสูตร (๒๐/๔๙๗) ผมยกมาให้ดูส่วนหนึ่งพระผู้มีพระภาคเจ้าตรัสกับปริพาชกวัจฉโคตรว่า ผู้ใดห้ามคนอื่นที่ให้ทาน ผู้นั้นชื่อว่าย่อมกระทำอันตรายแก่วัตถุ ๓ อย่าง เป็นโจรดักปล้นวัตถุ ๓ อย่าง วัตถุ ๓ อย่างเป็นไฉน คือ ย่อมทำอันตรายแก่บุญของทายก ๑ (ผู้ให้) ย่อมทำอันตรายแก่ลาภของปฏิคาหก ๑ (ผู้รับทาน, ผู้รับของถวาย) ตนของบุคคลนั้น ย่อมเป็นอันถูกกำจัดและถูกทำลายก่อนทีเดียวแล ๑ ดูกรวัจฉะ ผู้ใดแลห้ามผู้อื่นซึ่งให้ทานอยู่ ผู้นั้นชื่อว่าย่อมทำอันตรายแก่วัตถุ ๓ อย่าง เป็นโจรดักปล้นวัตถุ ๓ อย่างนี้ ดูกรวัจฉะ ก็เราพูดเช่นนี้ว่าผู้ใดสาดน้ำล้างภาชนะ หรือน้ำล้างขันไป แม้ที่สัตว์ซึ่งอาศัยอยู่ที่บ่อน้ำครำ หรือที่บ่อโสโครกข้างประตูบ้านด้วยตั้งใจว่าสัตว์ที่อาศัยอยู่ในที่นั้นจงยังอัตภาพให้เป็นไปด้วยสิ่งนั้นเถิด ดังนี้ ดูกรวัจฉะเรากล่าวกรรมซึ่งมีการลาดน้ำล้างภาชนะนั้นเป็นเหตุว่า เป็นที่มาแห่งบุญ จะป่วยกล่าวไปไยถึงในสัตว์มนุษย์เล่า จากคุณ : ebusiness เขียนเมื่อ : วันเถลิงศก 55 09:11:01

ความคิดเห็นที่ 29 2.ตามที่เขียนว่า "และเราก็ยังอนุโมทนาบุญกับเขาก็ได้" คุณเอิงเอยเห็นว่า ถูกหรือผิดครับ? เขาทำบุญ และเราอนุโมทนาบุญกับเขาก็ได้ ไม่ถูกต้องตรงไหนครับ? จากคุณ : ebusiness เขียนเมื่อ : วันเถลิงศก 55 09:11:25

ความคิดเห็นที่ 30 3. คห. 4 ที่คุณเอิงเอยแสดงความคิดเห็นว่า  ลป มั่น ที่ท่านสอนว่า "ไม่ควรตำหนิผู้อื่น" ที่ผมเห็นในคติธรรมหลวงปู่มั่นนั้นเป็นคนละความหมายกันครับ หลวงปู่มั่นบอกตรงไหนครับ หรือที่จริงแล้วใครเป็นคนบอกครับ จากคุณ : ebusiness เขียนเมื่อ : วันเถลิงศก 55 09:13:23

ความคิดเห็นที่ 31  ความคิดเห็นที่ 26    จขกท.เขียนแบบนี้ แสดงว่ายังไม่เห็นภัยที่เกิดกับพระศาสนา เห็นด้วยค่ะ คุณจักรแก้วเห็นภัยเฉพาะเมื่อ ภัยจะเกิดกับตนและครอบครัว แต่ยังไม่เห็นภัยที่เกิดกับพระศาสนา เพราะ ไม่สามารถตอบคำถามข้าพเจ้า (คห2)ได้ว่า ถ้าลูกหลานเข้าร่วมกิจกรรมธมก คุณจักรแก้วจะอนุญาต หรืออนุโมทนาด้วยไหม  ถ้ายังศรัทธาวิธีการและอนุโมทนา กับการธุดงธ์แบบธมก ทำไมไม่ประกาศเลยว่า ยินดีให้ลูกหลาน เข้าร่วมและศึกษาธรรมกับวัดธมก ต่อไป จะแสดงตนในที่สาธารณะ ก็เอาให้ชัดๆ เพื่อนธมกของคุณจักรแก้วจะได้ทำตัวได้ถูก แสดงจุดยืนให้เพื่อนเหล่านี้ได้ประจักษ์ ebusiness, plemarine, ยัยก้อย, chiwat, พอใจใจดี, สีหมึก, nan97, ทางปลอดภัยจากความตาย คำสอนของลป มั่น กับของธมก มีจุดมุ่งหมายตรงกันข้าม  และ ธมก เจตนาทุจริต  เทียบไม่ได้ กับวัตรปฏิบัติ ของ ลปมั่น ดังนั้น คุณจะควบสองไม่ได้หรอกค่ะ ถ้าคุณรักเพื่อนคุณจริง คุณควรแสดงจุดยืนค่ะ อย่างน้อย อาจมีบางคนตาสว่างขึ้นมาบ้าง ทั้งๆ ที่คุณก็รู้อยู่เต็มอก ว่าข้างในธมก ทุจริตกันอย่างไร คุณก็ยังสนับสนุนการหลอกเอาเงินของชาวบ้านต่อไปได้?? ยกเว้นว่า คุณจะทุจริตไปเสียด้วย  คือมีประโยชน์จากการคบหากันทางโลกอยู่?? ขออภัยหาก ข้อความของข้าพเจ้าตรงและแรงเกินไป อะไรคือความหวังดีต่อเพื่อนๆ และพระศาสนากันแน่!! จากคุณ : เอิงเอย เขียนเมื่อ : วันเถลิงศก 55 09:19:47

ความคิดเห็นที่ 32 ผมจะขอโอกาสชี้แจงความชัดเจนว่าจากการที่ผมได้ร่วมเดินทางไปกับพี่จักรแก้วไปเที่ยววัด ทำบุญที่ต่างๆ เมื่อพบพระกระทำผิดวินัยหรือกระทำสิ่งไม่สมควร ขอเป็นพยานยืนยันได้ว่าพี่จักรแก้วได้ชี้แจงแก้ไขพระไปแล้วหลายครั้ง หลายรูปครับ อีกประเด็นหนึ่ง บางคนบอกว่าเห็นข้อความ ยกตัวอย่าง เป็นต้นว่า "คุณจักรแก้วทำเหมือนไม่เคยอ่านไม่เคยศึกษาว่าพระศาสดายังไดทรงตำหนิภิกษุทุศีลมากมายหลายหน !! ฯ อ่านแล้วไม่สบายใจ จึงขอย้ำเรื่องการแสดงความคิดเห็นเพื่อความสงบเรียบร้อยต่อสังคมส่วนรวมPANTIP.COM จึงกำหนดกติกาขึ้นมาเพื่อเป็นแนวทางปฏิบัติที่http://www.pantip.com/cafe/rules.html เช่นข้อ6. พึงตระหนักอยู่เสมอว่า การเสนอคำถามหรือความเห็นต่อสังคม ควรจะมีความรับผิดชอบต่อทุกข้อความที่ได้เสนอไป เพื่อไม่ให้เกิดความเสียหายต่อบุคคลที่เกี่ยวข้อง เพื่อให้เกิดบรรทัดฐานอันดีต่อสังคมอินเตอร์เนตสืบไป พันทิปได้ออกคำแนะนำเกี่ยวกับการโพสต์แสดงความคิดเห็นที่เข้าข่ายเป็นการหมิ่นประมาท  แสดง highlight ส่วนบนของหน้าเว็บไซด์ห้องศาสนา อ้างอิง http://www.pantip.com/watchout/ เนื้อหาทำนองว่า ...ตั้งสติ ก่อนตอบกระทู้ การโพสต์ข้อความในอินเตอร์เน็ต ไม่ว่าคนโพสต์จะเป็น "ผู้ใด" หากทำให้ผู้อื่นเสียหายก็เป็นความผิดตามกฎหมายได้... ท่านสมาชิกทุกคนจำเป็นต้องใช้ปัญญาพิจารณาถึงขอบเขตในการตั้งกระทู้หรือแสดงความคิดเห็นของตนให้รอบคอบอยู่เสมอ ถ้าสิ่งใดไม่เป็นความจริง หรือเป็นเพียงการโจมตีบุคคลลอยๆ นอกจากขาดความชอบธรรมตามหลักพุทธศาสนาแล้ว ความคิดเห็นเหล่านั้นอาจจะได้รับการดำเนินการไปตามกฎหมาย ถ้าแสดงความคิดเห็นถูกต้องชอบธรรมดังที่กล่าวไว้แล้ว ย่อมไม่มีปัญหาอย่างแน่นอนครับ ห้องศาสนาหรือสังคมใดก็ตามจะเป็นสังคมที่สงบ สว่าง สะอาดได้ ไม่ใช่จากการวางอุเบกขาแบบปล่อยปะละเลย  ห้องห้องศาสนาจะเป็นสังคมที่สงบ สว่าง สะอาดได้เพราะสมาชิกดีต้องมีวินัย ต้องอาศัยคุณธรรม จริยธรรม ของหมู่สมาชิกต่างหาก จงช่วยกันทำหน้าที่ในการช่วยกันดูแลไม่ให้มีกระทู้หรือความคิดเห็นที่ผิดกฎพันทิป และผิดกฎหมาย ในห้องนี้ ใจของคนนั้น เป็นใหญ่ เป็นประธาน คนที่เต็มไปด้วยความร้อนใจจากไฟกิเลส คือโลภะ โทสะ โมหะ หากจะดับร้อนใจย่อมต้องแก้ด้วย ความถูกต้องทางทิฎฐิ ความถูกต้องทางความดำริ ความถูกต้องทางวาจา  ความถูกต้องการทำงาน ความถูกต้องทางการดำรงชีวิต ความถูกต้องในความเพียร ความถูกต้องในความมีสติ และความถูกต้องในความมีสมาธิ แก้ด้วยธรรมเหล่านี้แล้วจิตใจก็จะสงบเยือกเย็นด้วยกุศลธรรม ที่จะเป็นขั้นตอนในการนำไปสู่หนทางแห่งสันติและความสุขที่แท้จริง จากคุณ : ebusiness เขียนเมื่อ : วันเถลิงศก 55 09:23:18

ความคิดเห็นที่ 33 ตอบ คห 30 ข้าพเจ้าขอแก้ข้อความใหม่ค่ะ ข้าพเจ้าเขียน ข้อความใน คห 10  สั้นเกินไป (แต่คิดว่าความหมายไม่เปลี่ยนนะคะ) แต่เพื่อความถูกต้องที่สุด ขอแก้ไขเป็นว่า -------------------------------------------- และยัง ยกคำของ ลป มั่น ที่ท่านสอนว่า "การตำหนิผู้อื่นถึงเขาจะผิดจริง ก็เป็นการก่อกวนจิตใจ ของตนเองให้ขุ่นมัวไปด้วย" มารับรองการกระทำของตัวเอง!! คุณจักรแก้วทำเหมือนไม่เคยอ่านไม่เคยศึกษาว่า พระศาสดายังได้ทรงตำหนิภิกษุทุศีลมากมายหลายหน !! คุณจักรแก้ว ยังยืนยันที่จะสนับสนุน ธมก ต่อมา(นี่กี่ปีมาแล้ว?)และต่อไป จริงๆนะเหรอคะ? คุณไม่คิดจะยืนอยู่ข้างพระธรรมอย่างองอาจสง่างามผ่าเผย จริงๆ เหรอคะ?!?! ------------------------------------ เป็นไงคะ คุณอีบู อ้อ ขอโทษ ต้อง อีบูสิเนท อ้อ ขอโทษเอาใหม่ คุณอีบียู อ้อ ขอโทษ เอาใหม่อีกที คุณอี บัส สิเหนท อ้อ เอาอีกที คุณebusiness  เขียนไม่เหมือนกัน เดี๋ยวจะคนละความหมาย ขอโทษที คุณจักรแก้ว เขาไม่เอาธมก แล้ว คุณไม่รู้เหรอ เขาไม่กล้าพูดตรงๆ กับคุณ น่ะ เพราะกลัวเสียความสัมพันธ์น่ะ นี่เป็นความเห็นส่วนตัวของข้าพเจ้านะคะ ถ้าไม่เชื่อ คุณลองถามเขาตรงๆ สิ!! แก้ไขเมื่อ 15 เม.ย. 55 09:33:21 จากคุณ : เอิงเอย เขียนเมื่อ : วันเถลิงศก 55 09:32:44

ความคิดเห็นที่ 34 รบกวนคุณebusiness ศึกษาบุญกิริยา 10 ข้อใหม่นะครับ ทำไมจึงต้องมีข้อ 10 ด้วย  ข้อสิบสำคัญไฉน บางคนทำบุญแทบตาย  แต่ไม่เคยเห็นสัจธรรมตามความเป็นจริง ถามว่าทำบุญไปทำไมครับ?? จากคุณ : Bitter Coffee เขียนเมื่อ : วันเถลิงศก 55 09:52:11

ความคิดเห็นที่ 35 คุณ อีบูสิเนท  ความคิดเห็นที่ 29    2.ตามที่เขียนว่า "และเราก็ยังอนุโมทนาบุญกับเขาก็ได้" คุณเอิงเอยเห็นว่า ถูกหรือผิดครับ? เขาทำบุญ และเราอนุโมทนาบุญกับเขาก็ได้ ไม่ถูกต้องตรงไหนครับ? คำว่า " เขา" ก็คือ "ธมก" นั่นเอง ก่อนจะตอบคำถามว่า เห็นว่าถูกหรือผิด ก็ต้องตอบคำถามให้ชัด ๆ  ว่า  1คุณ ebusiness เป็นชาวธมก และ เห็นด้วยกับกิจกรรมของธมก ว่าเป็นไปเพื่อบุญใช่หรือไม่ 2 คุณ จักรแก้ว เป็นชาวธมก และ เห็นด้วยกับกิจกรรมของธมก ว่าเป็นไปเพื่อบุญใช่หรือไม่ เราเดานะ สองข้้อนี้คุณอีบู ตอบไม่ได้หรอก เดาว่านะ!! จากคุณ : เอิงเอย เขียนเมื่อ : วันเถลิงศก 55 09:52:13

ความคิดเห็นที่ 36 ผมจะขอโอกาสชี้แจงความชัดเจนว่าจากการที่ผมได้ร่วมเดินทางไปกับพี่จักรแก้วไปเที่ยววัด ทำบุญที่ต่าง ๆ เมื่อพบพระกระทำผิดวินัยหรือกระทำสิ่งไม่สมควร ขอเป็นพยานยืนยันได้ว่าพี่จักรแก้วได้ชี้แจงแก้ไขพระไปแล้วหลายครั้ง หลายรูปครับ ถ้าคุณจักรแก้ว   แนะนำต่ออลัชชีเดียรถีย์ธัมมี่ได้ก็จะได้บุญกุศลมหาศาลเลยน่ะครับ อืมมม์  แปลกจัง ในกระทู้อื่น ๆ ที่มีการวิพากย์วิจารณ์กิจกรรมของอลัชชีเดียรถีย์ธัมมี่   บรรดาสานุศิษย์อลัชชีเดียรถีย์ธัมมี่  ออกมาแก้ต่างแทนธัมมี่เสมอ ๆ ว่า เป็นฆราวาส ถือศีล 5 ครึ่ง ๆ กลาง ๆ บังอาจไปแนะนำพระวิจารณ์พระ   แต่กระทู้เหล่านั้น  ไม่ใช่คุณ ebusiness หรือคุณมหอจักแก้วเป็นคนกล่าวหรอกครับ  เป็นสานุศิษย์คนอื่น ๆ หลายต่อหลายคนด้วยกันครับ อืมม์  แต่ก็นะ  คุณหมอจักรแก้วชี้แจงแก้ไขพระ  ไม่ได้วิพากย์วิจารณ์พระนี่นานะ มันคนละอย่างกันน่ะนะ !!!!!! ต้องทำความเข้าใจว่า   มันเป็นคนละอย่างกัน เช่นเดียวกับ ไชยบูลย์  สุทธิผล ก็อย่างหนึ่ง ธัมมชโย  ก็อย่างหนึ่ง ราชภาวนาวิสุทธิ์ ก็อย่างหนึ่ง เทพยานมหามุนี ก็อย่างหนึ่ง ธัมมี่ ก็อย่างหนึ่ง อลัชชี  ก็อย่างหนึ่ง เดียรถีย์  ก็อย่างหนึ่ง อลัชชีเดียรถีย์  ก็อย่างหนึ่ง อลัชชีเดียรถีย์ธัมมี่  ก็อย่างหนึ่ง บร๊ะเมพยานหมามุนี ก็อย่างหนึ่ง ฯลฯ ใช่ไหมครับ จากคุณ : ทวนทอง เขียนเมื่อ : วันเถลิงศก 55 11:11:28

ความคิดเห็นที่ 37 ความเห็นส่วนตัว 1. หลายครั้งที่  คุณอีบิสสิเนส  ตั้งกระทุ้เมื่อ มี กระทู้วิพากษ์ลัทธิธรรมกาย  แสดงว่าทำด้วยเจตนา                ทำไม่คุณอีบิสสิเนส  ไม่ปล่อยให้เขาวิพากษ์ลัทธิธรรมกายให้ชัดเจนไป            ถ้าผิดจะได้รู้ว่าผิด  ถ้าถูกจะได้ไม่มีใครมาว่าอีก               ทั้งความจริง คุณอีบิสสิเนส  ควรจะให้ข้อธรรม ว่า ลัทธิธรรมกายทำถูกหรือผิดด้วยซ้ำไป   2. ลัทธิธรรมกาย  บิดเบือน  แปรผัน การปฏิบัติธรรมในพระพุทธศาสนาให้เป็นการตลาด    เพียงเพื่อแสดงความยิ่งใหญ่ให้คนทั้งประเทศเห็น  โดยไม่รู้ว่าคนจะต่อต้าน  เพราะหลงไปว่าพวกตนทำใหญ่ได้  พวกตนจะได้ความยิ่งใหญ่   เมื่อผิดคาด  แทนที่จะยอมรับผิด    กลับมาว่าคนทักท้วง           การกระทำเช่นนี้  ควรส่งเสริม ควรให้ทำอีก  ควรจะให้ทำให้มากๆ หรือไม่ ? จากคุณ : วงกลม เขียนเมื่อ : วันเถลิงศก 55 11:25:40

ความคิดเห็นที่ 38 จาก ความคิดเห็นที่ 28    ....จากที่ท่านได้กรุณา นำพุทธพจน์นี้มาแสดง ดูกรวัจฉะ ก็เราพูดเช่นนี้ว่าผู้ใดสาดน้ำล้างภาชนะ หรือน้ำล้างขันไป แม้ที่สัตว์ซึ่งอาศัยอยู่ที่บ่อน้ำครำ  หรือที่บ่อโสโครกข้างประตูบ้านด้วยตั้งใจว่าสัตว์ที่อาศัยอยู่ในที่นั้นจงยังอัตภาพให้เป็นไปด้วยสิ่งนั้นเถิด ดังนี้  ดูกรวัจฉะเรากล่าวกรรมซึ่งมีการลาดน้ำล้างภาชนะนั้นเป็นเหตุว่า เป็นที่มาแห่งบุญ จะป่วยกล่าวไปไยถึงในสัตว์มนุษย์เล่า เพื่ออะไรครับ  เพื่อให้พุทธศาสนิกชนยังต้องหลงมัวเมา ในการ ให้ทาน แก่ ธมก  อย่างนั้นหรือครับ จริงอยู่ พระพุทธศาสดาได้ทรงตรัสสอนไว้อย่างนั้น แต่ คราวนี้ เรา ควรเปรียบเทียบต่อไปอีกสิครับว่า  การประพฤติ ปฏิบัติตน ของนักบวช ธมก นั้น ถูกต้องตามพระธรรมวินัยไหม ในครั้งพุทธกาล นักบวช หรือภิกษุที่กระทำผิดพระวินัย ทรงถูกลงโทษอย่างไรบ้าง? ...................... ...ไปเทน้ำล้างภาชนะลงในที่อื่นๆ จะได้ บุญกุศล กว่าไหม กรณีนี้ ก็ควรนำ เปรียบเทียบกับ เวลามสูตร เรา ท่านทั้งหลาย คงพอจะเปรียบเทียบได้ว่า  คุณค่าที่เกิดขึ้นหลังจากที่ได้ให้ทานไปแล้ว  ว่าสิ่งใดมีค่ามากน้อยกว่ากัน ควรเลือกที่จะให้ทาน อย่างไร จึงจะเหมาะสม เวลามสูตร http://www.84000.org/tipitaka/pitaka_item/sutta_name.php?name=%E0%C7%C5%D2%C1%CA%D9%B5%C3&book=9&bookZ=33 จากคุณ : ยามประจำวัน เขียนเมื่อ : วันเถลิงศก 55 11:27:47

ความคิดเห็นที่ 39 เรื่องกระโหลกกระลาแค่นี้ต้องถึงครูอังคณาด้วยเหรอ ? จากคุณ : ทวนทอง เขียนเมื่อ : วันเถลิงศก 55 11:36:41

ความคิดเห็นที่ 40 ^ ^ ^ จากคุณ : เอิงเอย เขียนเมื่อ : วันเถลิงศก 55 11:54:41

ความคิดเห็นที่ 41 การที่ผู้อื่นเค้าไม่แสดงความคิดเห็นตรงใจกับคุณ  ไม่เห็นจะต้องให้เรื่องยาวๆเลย   เราเองก็ได้  เรานะ ไม่เคยไปวัดธมก.เลย  เคยได้ยินประมาณสิบกว่าปีก่อน เรื่องการสร้างองค์พระ เราก็เคยคิด อยากจะมีพระประจำตัว  แต่เราก็ลืมๆไปแล้ว  จนปัจจุบันเรายังไม่รู้ด้วยซ้ำว่าวัดธมก.อยู่จังหวัดไหน   ต่อมาเราก็ได้รู้จักห้องศาสนา รู้จักวัดธมก. มากขึ้น   แต่เราก็ไม่อยากพูดถึงนัก  เพราะมีทั้งคนชม คนไม่ชอบ เดี๋ยวจะได้ไปนิพพานซะปล่าวๆ     เราเข้าใจความหวังดีที่คุณมีต่อพระพุทธศาสนา   แค่คุณแสดงความคิดเห็นก็เพียงพอแล้ว มันเป็นเรื่องที่คิดได้แต่พูดพาดพิงไม่ได้ ^^! แก้ไขคำผิด อ่านจนมึนหัวไปหมดแล้ว   แก้ไขเมื่อ 15 เม.ย. 55 12:25:49 แก้ไขเมื่อ 15 เม.ย. 55 12:24:23 จากคุณ : มองดูเพลิน เขียนเมื่อ : วันเถลิงศก 55 12:00:16

ความคิดเห็นที่ 42 "...ใจของคนนั้น เป็นใหญ่ เป็นประธาน คนที่เต็มไปด้วยความร้อนใจจากไฟกิเลส คือโลภะ โทสะ โมหะ หากจะดับร้อนใจย่อมต้องแก้ด้วย ความถูกต้องทางทิฎฐิ ความถูกต้องทางความดำริ ความถูกต้องทางวาจา  ความถูกต้องการทำงาน ความถูกต้องทางการดำรงชีวิต ความถูกต้องในความเพียร ความถูกต้องในความมีสติ และความถูกต้องในความมีสมาธิ แก้ด้วยธรรมเหล่านี้แล้วจิตใจก็จะสงบเยือกเย็นด้วยกุศลธรรม ที่จะเป็นขั้นตอนในการนำไปสู่หนทางแห่งสันติและความสุขที่แท้จริง..." ขออนุโมทนากับบทความ/ความเห็นอันไพเราะเพราะพริ้งกินใจนี้ด้วยนะครับคุณ ebusiness  ทุก ๆ ครั้งทีผมแสดงความเห็นไม่เคยมีอารมณ์โกรธ ไม่มีอารมณ์โมโห เลยนะครับคุณฯ ebusiness จิตใจผมสงบเยือกเย็นเป็นปกติ แต่คุณ ebusiness คงยังต้องฝึกสงบจิตสงบใจอีกมาโขอยู่ทีเดียว   เพราะ เห็นใคร ๆ นำถ้อยวิลีของท่านเจ้าคุณโชดี /หลวงพ่อจรัญ ที่เทศนาถึงหลวงพ่อสดแห่งวัดปากน้ำภาษีเจริญครั้งใด  คุณ ebusiness เป็นต้องเข้าไปแสดงความประกอบรูปภาพหลวงพ่อสดทุกครั้งไปสิน่ะ (เว้นเสียแต่ว่า คุณ ebusiness ไม่เห็นกระทู้เหล่านั้นมันก็ผ่านเลยไป)   ทั้ง ๆ ที่ท่านเจ้าคุณโชดก และหลวงพ่อจรัญไม่ได้กล่าวอะไรให้หลวงพ่อสดเสียหาย  ไม่ได้กล่าวว่าร้ายให้วิชาธรรมกายเสียหาย  และแม้แต่ตัวผู้ตั้งกระทู้ก็ไม่ได้กล่าวให้ร้ายทั่งต่อหลวงพ่อสด และวิชาธรรมกาย เลยแม้แต่น้อย Y11952076 ฟังหลวงพ่อจรัลเล่าเรื่องหลวงพ่อสดวัดปากน้ำเรียนกรรมฐานกับเจ้าคุณโชดกวัดมหาธาตุ เต่ากินผักบุ้ง (118 - วันเนา 55 11:10) http://www.pantip.com/cafe/religious/topic/Y11952076/Y11952076.html#2 เข้าไปดูกระทู้ตามลิงค์ข้างบนเนี่ยะ  จะเห็นอารมณ์คุณ ebusiness ได้ชัด ๆ ตอบผิด ตอบถูก โยงผิด โยงถูก  อ่านและตอบความเห็นเลี่ยง ๆ ไม่ค่อยตรงประเด็นนัก คุณหมอจักรแก้วก็อีกคนหนึ่งที่ตอบเลี่ยง ๆ ไม่ค่อยตรงประเด็นนัก เพราะกลัวลูบหน้าปะจมูก  นั่นก็พระอาจารย์  นี่ก็เพื่อนร่วมทริปทัวร์บุญ  ความคิดเห็นจึงอยู่บนข้อธรรมที่เอื้อกับการประสานประโยชน์ร่วมกัน   มากกว่าที่จะยืนอยู่บนหลักการ/หลักธรรมที่ถูกต้อง ในหลาย ๆ ส่วน   ผมก็นิยมชมชอบคุณหมอจักรแก้ว บางส่วนที่ไม่นิยมชมชอบ  ก็ขอติ ขอกล่าวแสดงความคิดเห็นให้ได้รับรู้  แล้วคุณหมอจักรแก้วจะแก้ไขรูปแบบการแสดงความคิดเห็นหรือไม่นั้น  ก็สุดแล้วแต่คุณหมอจักรแก้วน่ะครับ แต่ยังไง ๆ ก็อย่าให้เรื่องนี้ถึงคุณครูอังคณาเลยครับ !!!!! จากคุณ : ทวนทอง เขียนเมื่อ : วันเถลิงศก 55 12:18:51

ความคิดเห็นที่ 43 .....:).....อ่านข้อมูลแล้วก็พอจะเข้าใจว่าเกิดอะไรขึ้น..... ....หากทำใจเป็นกลาง....ซื่อสัตย์ต่อคำสอนของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า...แล้วท่านจะเข้าใจว่า   ชาวพุทธกำลังปกป้องพระพุทธศาสนา จากลัทธิ หรือ จากสำนักที่สอนไม่ถูกหลักพระพุทธศาสนา ... ส่วนเรื่องอนุโมทนาบุญที่ช่วยประโยชน์ต่อสังคม ชาวพุทธอนุโมทนาอยู่แล้วครับ   "แยกแยะให้ออก" ... .....ทำใจเป็นกลาง  บอกความจริงว่าเกิดอะไรขึ้น...(สละลาภ ยศ สรรเสริญออกไป แล้วท่านจะกล้าหาญมากขึ้น).... ......กาลเวลาหัวเลี้ยวหัวต่อแห่งยุคส่งผ่านพระพุทธศาสนาไปสู่อีกรุ่นหนึ่ง ใกล้เข้ามาแล้ว  ชาวพุทธจะร่วมกันทำบุญกุศลต่อพระศาสนากัน........ (ปล.ไม่เฉพาะแต่ พระพรหมคุณาภรณ์(ป.อ.ปยุตโต)ที่องค์ท่านเขียนหนังสือเพื่อพระธรรมวินัยปกป้องพระศาสนาจากอลัชชี   แต่ครูบาอาจารย์ทางสายวัดป่า และสายหลวงพ่อเทียน และสายอื่นๆ ก็พูดถึงลัทธิธรรมกาย โดยส่วนใหญ่เท่าที่สังเกต องค์ท่านจะพูดกันเฉพาะวงในที่รู้จักกัน ท่านจะไม่ออกสื่อมากนัก เพราะมีชาวพุทธที่ร่วมกันปกป้องอยู่จำนวนหนึ่งแล้ว  ส่วนครูบาอาจารย์องค์ท่านใช้เวลาส่วนใหญ่สอนวิปัสสนากรรมฐานให้กับชาวพุทธ  แยกกันทำหน้าที่ )) ----------------- ปล.ในสมัยพุทธกาล เมื่อมีภัยกับพระพุทธศาสนา พระภิกษุที่ปฏิบัติดีปฏิบัติชอบ เหล่าท่านจะสะสางให้เรื่องเข้าสู่ความถูกต้อง.......เพื่ออะไร?.... "เพื่อชนรุ่นหลัง (ผม จขกท  เพื่อนร่วมห้อง  และชาวพุทธรุ่นหลัง)"  .....:)... . "ปล่อยวางได้แต่อย่าปล่อยปละละเลย" แก้ไขเมื่อ 15 เม.ย. 55 20:52:47 แก้ไขเมื่อ 15 เม.ย. 55 20:50:04 แก้ไขเมื่อ 15 เม.ย. 55 20:49:09 แก้ไขเมื่อ 15 เม.ย. 55 20:41:04 จากคุณ : ต่อmcu เขียนเมื่อ : วันเถลิงศก 55 20:40:36

ความคิดเห็นที่ 44 สวัสดีครับ แหมความจริงเป็นเรื่องเนื้อนาบุญนะ ไม่มีปัญหาหรอกครับ ใครที่ไม่ชอบผมมาต่อว่า ผม ขอให้มีความสุขครับ ใครที่ชอบ มาอนุโมทนา ก็ขอให้มีความสุขเช่นกันครับ ผมเข้าใจ เรื่องที่ใครๆ ก็พยายามจะบอก เรื่องที่คุณก็รู้อยู่ ขออนุโมทนา กับคุณอีบียูด้วย นำพระธรรมมาแสดงมากมาย และขอบคุณ เพื่อน ๆทุกท่านที่กระตุ้นเตือน ทั้งดึงดัน ยัน แหลก ผมขอใคร่ครวญสักพักนะครับ  เพราะทำทีไร ผมรู้สึกได้บุญปนบาป ต้องขอขมาพระรัตนตรัยทุกทีเลย บุญหาที่ไหนก็ได้ บาปที่ปนมา สิ ผมไม่อยากรับ พระพุทธเจ้า สอนให้กลัวบาป ไม่กล้าหาญต่อบาป และให้ละอาย กลัวให้มากไว้ เวลาสนอง แรงมากๆครับ บุญก็แรง บาปก็แรง ดังนั้น ผมขอเวลาสักพักจะคิดเรื่องนี้ให้ลึกซึ้งก่อนสักพักนะครับ จากคุณ : จักรแก้ว เขียนเมื่อ : วันเถลิงศก 55 21:25:06

ความคิดเห็นที่ 45 ข้าพเจ้า ไม่เคยไม่ชอบ ไม่เคยคิดร้ายต่อคุณจักรแก้ว ถ้าการเข้ามาตรงๆ ของข้าพเจ้า ในกระทู้นี้แล้วทำให้คุณจักรแก้วรู้สึกได้บาป ข้าพเจ้าก็เสียใจ ข้าพเจ้าไม่นึกว่า คุณจักรแก้วผู้ซึ่งข้าพเจ้าคาดว่าจะมีศักยภาพที่จะช่วยเหลือค้ำชู พระศาสนามาก   จะตอบสนองอย่างนี้!! จากคุณ : เอิงเอย เขียนเมื่อ : วันเถลิงศก 55 21:46:14

ความคิดเห็นที่ 46 สาธุ คุณจักรแก้ว    ผมยังชื่นชมการทำบุญ (โดยเฉพาะอย่างยิ่งการถวายพระไตรปิฎกยังสำนักและวัดต่างๆ)ในสมาชิกกลุ่มห้องทำบุญ และนึกอนุโมทนาสิ่งที่ดีเหล่านี้    ...............การสืบทอดพระพุทธศาสนาต่อไป คัมภีร์ที่มีข้อมูลเป็นทั้งหลักธรรมและหลักการปฏิบัติ คือ พระไตรปิฎกฉบับเถรวาท........ ปล.การตำหนิ หรือติเตียนผู้ที่ควรติเตียน  หาใช่การมาโจมตี หรือ มาใส่ร้ายกัน ก็หามิได้       ....คนในองค์กรของท่าน ออกนอกวินัยตามกฎระเบียบที่องค์กรท่านกำหนด  ดื้อดึงไม่ยอมรับกฎระเบียบที่เคยตั้งมานาน...ท่านทำอย่างไรกับคนๆนั้น.... -ปล่อยเขาเถอะ?  เขาทำอย่างไรก็เรื่องของเขา?  อย่าไปยุ่งกับเขาเลย? ตำหนิเขาแล้วเดี๋ยวใจ "เรา" จะไม่สบายใจ  เดี๋ยวขัดแย้งกระทบกับท่านอื่นๆต่อไปอีก จะยิ่งทำให้องค์กร "เรา" เกิดความขัดแย้ง แตกความสามัคคี......แล้วกฎระเบียบที่ตั้งขึ้นมา "เพื่ออะไร?" อยู่ในบุญดีกว่าสบายใจกว่า ? ...พระพุทธศาสนาไม่เคยสอนให้มีการ "หลีกเลี่ยง" จากทุกข์  แต่ "เผชิญหน้า"กับสิ่งที่กระทบใจ แก้้ไขปัญหาด้วย...."ความกล้าหาญ(ซึ่งต้องมีปัญญาและคุณธรรมประกอบ)".... ความไม่สบายใจก่อตัวขึ้น สามารถนำมาสร้างให้เกิด "ปัญญา" ได้ อันจะส่งผลทำให้่เกิดความสุขในอนาคต -------------------------- .............เหตุการณ์ในปัจจุบัน ...พระพุทธศาสนาในประเทศไทยกำลังตกอยู่ในสภาวะที่ "ผิดปรกติ"......ถูกรุกและล้ำจากสิ่งใด...ท่านทราบแก่หัวจิตหัวใจดี.......ปัญญาและบารมีระดับนี้...ท่านทราบดี.....:)..... แก้ไขเมื่อ 15 เม.ย. 55 22:10:18 จากคุณ : ต่อmcu เขียนเมื่อ : วันเถลิงศก 55 22:08:00

ความคิดเห็นที่ 47 ไม่ใช่ทั้งสิ้น ครับ อย่าได้ร้อนใจไป เรื่องบางเรื่อง บางวัด เป็นเรื่องละเอียดอ่อนของผม ซึ่ง เมื่อผมให้ความคิดเห็นไป ในอดีต ผมมักรู้สึก ผิด อย่างบอกไม่ถูก ไม่ได้เกี่ยวกับคุุณเอิงเอยแต่อย่างใด อย่างไรก็ตามสิ่งที่หลายคนอยากได้ความเห็นจากผม ผมได้ทำไปมากมายตั้งหลายปีแล้ว เพียงแค่เอากระทู้เก่า ๆของผมมาดู เช่น บางคนได้ยกมาเรื่องการใส่บาตร ก็เห็นได้ชัดว่า ผมได้ให้ความรู้มามากมายแล้วครับ ตอนให้ความรู้เหล่านั้น ผมรู้สึกได้บุญปนบาปเสมอ  เนื่องจาก อะไรๆ ที่คุณก็รู้อยู่ ผมต้องขอขมาพระรัตนตรัยประจำเลย จนคิดจะวางมือแล้ว เท่านั้นเองครับ อีกประการ คนสมัยนี้ก็เก่งกันแล้วในห้องนี้ มีคนทำแทนผมได้เกือบทั้งห้องอยู่แล้ว อย่างไรก็ตาม ผมจะใคร่ครวญอีกที ครับ ส่วนคุณเอิงเอย สองคำถามนั้นชัดเจน คำตอบคือไม่ ทั้งสองข้อนะครับ ไม่ใช่เนื่อนาบุญของผมครับ ซึ่ง ความจริง คุณหรือใครๆ ก็รู้คำตอบนี้ของผมแล้วแหละ ผมขอเคลียร์ไปเลยว่า ในกลุ่มมีตติ้ง ผมเพียงพาเขาไปมีตติ้ง ไปทำบุญที่ผมคิดว่า น่าจะได้บุญที่ดี่ที่สุด เช่น ถืออริยอุโบสถ แล้วทำสมาธิ เจริญสติ ถวายพระไตรปิฎก แต่ผมไม่เคยก้าวก่ายในความคิดของเแต่ละท่านเลย ซึ่งแต่ละคนคิดไม่เหมือนกันหรอก แต่ละคนหลายอาจารย์ เราไม่เคยคุยกัน และปรับเข้ากันได้หมด เพราะไม่จำเป็นสำหรับกลุ่ม เราเพียงไปทำบุญด้วยกันเท่านั้นเองได้บุญร่วมกัน ผมพาไป ในที่ทีที่ ทุกคนมีความสุข ได้บุญมาก ผมมีความสุขแล้ว ส่วนเพื่อน ที่ความคิดตรงกันอย่างมากก็มีอยู่ ไม่กี่ท่าน เท่านั้นเองครับ  อย่างที่บอก เนื้อนาบุญของแต่ละคน อาจจะไม่เหมือนกัน จึงเป็นที่มาในกระทู้นี้ส่วนนึง ดังนั้น จักรขวด ก็คิดแบบจักรขวด จักรแก้ว ไม่เคยไปยุ่งได้เลย เป็นต้น ส่วนคุณอีบียู นั้นมีความคิดที่ลึกซึ้งเป็นอันมาก จนผมเองก็ต้องยอมรับ และเป็นกัลยาณมิตรที่ดีต่อกันครับ เขามีความคิดอย่างไร ต้องถามเขาเอาเองนะครับ ขอให้เจริญในธรรมทุกท่านนะครับ จากคุณ : จักรแก้ว เขียนเมื่อ : วันเถลิงศก 55 22:23:52

ความคิดเห็นที่ 48 .. แก้ไขเมื่อ 15 เม.ย. 55 22:40:09 แก้ไขเมื่อ 15 เม.ย. 55 22:38:59 จากคุณ : จักรแก้ว เขียนเมื่อ : วันเถลิงศก 55 22:29:31

ความคิดเห็นที่ 49 .......ผมจำได้เคยอ่านเนื้อเรื่องนี้ในพระไตรปิฎก........มีผ้าขาวคนหนึ่งซึ่งนับถือลัทธินอกพระพุทธศาสนา  ได้เข้าไปท้าทายพระผู้มีพระภาค  พระองค์ "ทรงเมตตา" โต้ตอบ และบรรยายธรรมะ จนกระทั้งผ้าขาวคนนั้นยอมรับและขอเป็นอุบาสกในพระพุทธศาสนาและได้กราบทูลกับพระผู้มีพระภาคว่า  ผมจะเลิกนับถือลัทธิที่ผมเคยนับถือโดยเด็ดขาด  จะไม่ไปทำบุญ จะไม่ทำความเคารพ....:)...พระผู้มีพระภาคได้ตรัสเตือนสติกับอุบาสกนั้นว่า...ให้ใคร่ครวญให้ดีเสียก่อน และควรที่จะยังคงทำบุญกับเจ้าลัทธิต่อไป(คือยังคงเป็นคนคุ้นเคยกันต่อไป).... ----------------------------------- .....อุบาสกนั้น แม้จะยังคงทำบุญกุศลกับเจ้าลัทธิเดิมแต่ก็รู้อยู่แก่ใจว่า  "คำสอนใดคือคำสอนที่แท้ในพระพุทธศาสนา" .......ความกตัญญูเป็นสิ่งที่ดี   แต่ควรแยกแยะความจริงกับสิ่งที่เข้ามาปลอมปน   .....ควรมีการป้องกันไว้ล่วงหน้า  ปกป้องกันตั้งแต่วันนี้..:)... บางทีนายตำรวจนั้นอาจจะได้ตอบแทนบุญคุณคุณพ่อในคุก โดยการส่งข้าว ส่งน้ำ และความรักกับคุณพ่อในคุก เพราะก่อนหน้านั้นเขาไม่เคยมีเวลาให้กับพ่อ  ไม่เคยกล่าวเตือนพ่อว่าสิ่งใดถูก สิ่งใดผิด  ทำให้พ่อ "หลงผิด" กับเส้นทางนั้น....:)... --------------- ปล  ทั้งนี้ทั้งนั้น การกล่าวเตือนสติของชาวพุทธด้วยกันให้ร่วมปกป้องพระพุทธศาสนา  คงหาใช่เป็นการทำความผิด หรือ เกิดตราบาปในใจใดๆ ก็หามิได้ --------- ผมเข้าใจความรู้สึกของท่านดีที่ท่านลบ คห ทิ้ง ..ไม่เป็นไรครับ.... แก้ไขเมื่อ 15 เม.ย. 55 22:52:10 จากคุณ : ต่อmcu เขียนเมื่อ : วันเถลิงศก 55 22:51:11

ความคิดเห็นที่ 50 เคยไปมีตติ้งกับกลุ่มคุณหมอ  ทีแรกก็กลัวๆว่า เป็ฯ ธมก. เพราะเพื่อนๆในห้องศาสนาเตือนไว้   แต่ ไม่เคยเห็นคุณหมอพูดถึง คุณหมอพาไปแต่วัดที่มีการปฏิบัติ  พยายามให้ผู้ร่วมทริป ถือ อุโบสถ ไม่เคยโฆษณาขายของ ขายบุญ   และไม่เคยเห็นคุณหมอเป็น ธมก แต่อย่างที่คุณหมอเทเหล้า เทไวน์ทิ้ง จากคนที่นำมามอบให้ ถ้าบอกกล่าวผู้ให้ ว่าไม่รับของผิดศีล จะดีกว่าไม๊ค่ะ  สอนคนให้ ให้รู้จัก สิ่งที่ควรให้ สอนให้เขารู้จักใช้ปัญญา  แต่จริงๆแล้ว เราก็ต้องแยกแยะ ผู้ศรัทธาใน ธมก  ซึ่งตัวเองเชื่อว่า  ธมก ทุกคนไม่เหมือน ธมก แห่งคลอง๒ เท่าที่อ่านประวัติหลวงพ่อสด  ไม่เคยเห็นท่านสอนให้ซื้อสวรรค์ เห็นแต่ท่านแจกพระโดยไม่ได้คิดว่าต้องทำบุญเท่าใด มีแค่ ธมก.คลอง๒เท่านั้นที่สอน เมื่อตอนเริ่มสร้าง ธมก เจดีย์ มีคนชวนให้สร้งพระประจำตัว ด้วยความเคยชิน เราใส่ซองให้ ๑๐๐บาท  แต่เขาไม่ยอมรับ บอก ต้อง ๑๐๐๐๐บาท ผ่อนได้  เราเรียนพุทธศาสนามาแต่เด็ก ก็ถามว่า ทำบุญมีผ่อนด้วยเหรอ เขาบอกคนอย่างเราผ่อนได้อยู่แล้ว  แต่เราก็ไม่ยอม   ต่อมาก็ได้ถามครูอาจารย์ ท่านสอนว่า ทำบุญให้ใช้ปัญญา จากคุณ : ศศพินธุ์ เขียนเมื่อ : 16 เม.ย. 55 00:06:09

ความคิดเห็นที่ 51 ที่พี่จักรแก้วเค้าเททิ้ง ก็เพราะเป็นการถอดชนวนระเบิดครับ เพราะถ้าไม่ถอดชนวน ไม่รับของขวัญ นอกจากจะเสียมารยาท เสียน้ำใจคนให้แล้ว เค้าอาจจะเอาไปให้คนอื่นแทน  หรือไม่ก็เก็บไว้ดื่มเอง สุดท้ายระเบิด มันก็จะระเบิดอยู่ดี แก้ไขเมื่อ 16 เม.ย. 55 02:46:56 จากคุณ : จักรขวด เขียนเมื่อ : 16 เม.ย. 55 02:46:17

ความคิดเห็นที่ 52 ขอบคุณคุณจักรแก้วสำหร้บคำตอบ#47 ค่ะ จากคุณ : เอิงเอย เขียนเมื่อ : 16 เม.ย. 55 05:21:58

ความคิดเห็นที่ 53 เข้ามายืนยัน ว่าพี่จักรแก้ว มิเคยชักจูง หรือหาผลประโยชน์ ใดๆในทริป มิตติ้งเลย ทั้งมิให้ใคร ขายของ หรือหาประโยชน์ใดๆ กับคนมาทริป และเคยมีโอกาส ถามพี่หมอ จากปาก ทราบว่าเมื่อพี่หมอ จักรแก้ว สงสัย ในข้อวัตรสำนักเดิม  ก้อ และได้ทราบว่า พี่หมอได้ สอบถาม  และกราบนมัสการลาจากเจ้าสำนัก(ส่วนตัว คิดว่า พี่จักรแก้ว ทำเหมือนพระสารีบุตรเถระ ที่ไปชวนสัญชัยปริพาชก) มาทำบุญในนาบุญอันดี ในพระภิกษุสายหลวงปู่มั่น หรือ วัดมหานิกายเล็กๆในต่างๆจังหวัดที่ถูกจริต มากกว่า เพิ่ม จากคนที่เล่น พันทิปตั้งแต่ ศาสนายังอยู่ในห้องสมุด  อมยิ้มยังไม่ยิ้มแฉ่ง พันทิปยังแบลกกราวด์ดำๆ แก้ไขเมื่อ 17 เม.ย. 55 13:20:51 แก้ไขเมื่อ 16 เม.ย. 55 14:24:07 แก้ไขเมื่อ 16 เม.ย. 55 14:08:47 จากคุณ : เปลี่ยนชื่อล๊อคอินมาหลายอัน (กอบัวสวรรค์) เขียนเมื่อ : 16 เม.ย. 55 14:02:37

ความคิดเห็นที่ 54 ถามเจ้าของกระทู้ คุณจักรแก้ว  ในคห.47 "...อีกประการ คนสมัยนี้ก็เก่งกันแล้วในห้องนี้ มีคนทำแทนผมได้เกือบทั้งห้องอยู่แล้ว..." อั้ยยะ!  มันหมายความว่าอะไรอ่ะ คุณจักรแก้วเป็นไผ  ใหญ่ เอ๊ยไม่ใช่ มีความสำคัญอย่างไรในห้องศาสนา จึงสามารถกล่าวได้ว่า "..มีคนทำแทนผมได้เกือบทั้งห้องอยู่แล้ว "  ?!!? จากคุณ : Bg-view เขียนเมื่อ : 16 เม.ย. 55 17:37:59

ความคิดเห็นที่ 55 ^  ^ คุณจักรแก้ว ถือเป็นผู้เข้าใจพระศาสนาอย่างลึกซึ้ง จนสามารถ นำพระธรรมคำสั่งสอน มาเขียนเป็นหนังสือ   และพิมพ์แจก  เป็นที่ไว้วางใจของพ่อแม่ครูอาจารย์ ยอมรับหนังสือที่พิมพ์ อนุญาตนำไปแจกชาวบ้านต่อได้ และเมื่อ พาคณะไปรักษาศีล อุโบสถ  ก้อจะเมตตา เป็นกรณีพิเศษ หลายครั้ง  เช่น เปิดถ้ำผาปล่องให้ เนสัชชิกทั้งคืน   หรือ เปิดโบสถ์ และ หอ พระธาตุ วัดป่าโนนนิเวศน์ ให้ปฏิบัติธรรมทั้งคืน  ทั้งๆที่มีป้าย ปิดปรับปรุง   และ วัดหนองผือ อนุญาตแม้นกระทั้งสตรี มาถือศีล และเนสัชชิก ปฎิบัติธรรม ใต้ กุฎิหลวงปู่มั่น ซึ่งเป็นเขตสงฆ์ เพิ่ม http://topicstock.pantip.com/religious/topicstock/2012/02/Y11730166/Y11730166.html นึกขึ้นได้ เพิ่มเติม ครูบาอาจารย์เมตตา เปิดภูทอกใหญ่ ชั้นห้าให้ อยู่ปฎิบัติธรรมข้างบน ทั้งคืน   ให้เจ้าหน้าที่เปิด ปัจเจกพุทธวิหาร  เจดีย์พระธาตุหลวงปู่จวน ไว้ให้ปฏิบัติ ธรรม แก้ไขเมื่อ 16 เม.ย. 55 22:22:37 แก้ไขเมื่อ 16 เม.ย. 55 21:16:51 จากคุณ : กอบัวสวรรค์ เขียนเมื่อ : 16 เม.ย. 55 21:12:29

ความคิดเห็นที่ 56 และการจะไป จะมี กติกา  กฎระเบียบ http://www.dhammajak.net/forums/viewtopic.php?f=10&t=37906 ครูบาอาจารย์ ให้พิมพ์ถวาย ตามความเจตน์จำนงค์ http://topicstock.pantip.com/religious/topicstock/2012/02/Y11744907/Y11744907.html จากคุณ : กอบัวสวรรค์ เขียนเมื่อ : 16 เม.ย. 55 21:32:06

ความคิดเห็นที่ 57 http://topicstock.pantip.com/religious/topicstock/2011/02/Y10257947/Y10257947.html#26 จากคุณ : กอบัวสวรรค์ เขียนเมื่อ : 16 เม.ย. 55 21:53:24

ความคิดเห็นที่ 58 ขณะที่คุณหมอจักรแก้ว  กับ คุณ ปทุมฉัตร(ขออภัยที่เอ่ยนาม) เคยเป็นศิษย์วัด จานบินมาก่อน  โดยทั้งสอง ออกจากวัดเหมือนกัน  แต่ คุณหมอจักรแก้ว เดินเข้าไปหา กราบนมัสการลา  และมิได้โพสต์ให้ร้าย สำนักเดิม ตั้งแต่เลือกสวมคอนเวิร์ส(ทางใครทางมัน) แต่ มักเป็นเป้าโจมตี ของสมาชิกในห้องศาสนา อนึ่ง ข้าพเจ้า มิได้เป็นศิษย์ วัดพระธรรมกาย ไม่เคยไปสำนักจานบิน แห่งเชียงราก เลยแม้น แต่ครั้งเดียว   การเริ่มมาสนใจในพระศาสนา เพราการแนะนำจากน้าเขย เป็นศิษย์คณะ ห้า วัดมหาธาตุ ของเจ้าคุณโชดกมาก่อน   ดิฉันรู้ความไม่ทัน ท่านละสังขารไปนะก่อน ดิฉันจึงเริ่มฝึกมหาสติปัฎฐาน จาก วัดอัมพวัน ของ พระเดชพระคุณหลวงพ่อจรัญ เป็น แห่งแรก  ต่อมา  ดิฉัน รู้จัก ญาติธรรมท่านหนึ่ง บอกว่า  หลวงตามหาบัว ญาณสัมปัณโณ มาพัก ที่ สวน แสงธรรม พุทธมณฑลสาย ๓  ดิฉันจึงไป กราบ เพราะไม่ไกลจากบ้าน เท่าไหร่  หลวงตามหาบัว ญาณสัมปัณโณ ถือ เป็นพ่อแม่ครูอาจารย์ ของดิฉัน  ท่านเป็นพระสายหลวงปู่มั่น รูปแรก ที่ดิฉันได้กราบ ได้ ฟังเทศน์  และเมื่ออ่านประวัติ หลวงปู่มั่น จากหนังสือ พุทโธหาย  ก้อรู้สึก รัก และศรัทธา จึงมาหาประวัติ อ่านในอินเตอร์เน็ต    หลังจากนั้นมีอยู่ครั้ง ช่วงหนึ่งดิฉันท้อใจในความเป็นจีนแท้ ของ ครอบครัว และพ่อแม่ครูบาอาจารย์อยู่ อีสาน อยู่บ้านตาดไม่มีโอกาสกราบอีกแล้วเพราะหลวงตาไม่ลงมาสวนแสงธรรม ไม่มีโอกาส ไปวัดป่าบ้านตาดแน่คนเดียว เพราะครอบครัวบอกไกลไป  จึงรำพึงอธิษฐานหลังสวดมนต์ ไม่นานถึงเดือนคุณพ่อไปงานฌาปนกิจ ผู้ใหญ่ของอำเภอท่านหนึ่ง  ได้รับ หนังสือประวัติ หลวงปู่ เจี๊ยะ จุนโท พระผู้เป็นดังผ้าขี้ริ้ว ห่อทอง  ท่านเดิมชื่อ โอวเจี๊ยะ แซ่อึ้ง    เหมือนถูก หลวงตาเคาะกะโหลก ท่านจีนกว่า เราแค่ หลานจีน  ลูกจีนอย่างหลวงปู่เจี๊ยะบวช และทำที่สุดแห่งพรหมจรรย์ได้ พระธรรมไม่เลือกเชื้อชาติ  และ ไม่นานนัก คุณหมอจักรแก้ว จัดทริป ไป ภูทอก วัดป่าบ้านตาด ดิฉันจึงได้ไปกราบหลวงตา ที่บ้านตาด ครั้งแรก ในชีวิต  คุณไม่รู้หรอกว่าดิฉันดีใจ  ปิติ สุขใจ  มากเท่าใด เพิ่ม http://topicstock.pantip.com/religious/topicstock/2010/03/Y8935977/Y8935977.html?ref=nf แก้ไขเมื่อ 16 เม.ย. 55 23:31:20 จากคุณ : กอบัวสวรรค์ เขียนเมื่อ : 16 เม.ย. 55 23:28:54

ความคิดเห็นที่ 59 การที่พ่อแม่ครูอาจารย์ไว้วางใจ ถึงกับยอมรับหนังสือของคุณจักรแก้ว อนุญาตให้นำไปแจกชาวบ้านต่อได้ ไม่ได้เป็นตรรกะอะไรเลย ที่แสดงว่า หนังสือนั้น ถูก ตรง กับหลักการพระธรรมคำสอนของพระพุทธเจ้า และยิ่งไม่ได้พิสูจน์อะไรเลยว่า ผู้เขียนนั้น เข้าใจพระศาสนาอย่างลึกซึ้ง ต่อให้เป็น พ่อแม่ครูอาจารย์ มีสถานะของพ่อแม่ครูอาจารย์ ก็ไม่ได้หมายความว่า คำสอนของพ่อแม่ครูอาจารย์ จะถูกตรง และแสดงถึง ความเข้าใจพระศาสนาอย่างลึกซึ้ง ไม่ได้หมายความแม้กระทั่งว่า พ่อแม่ครูอาจารย์ จะต้องเป็นพระอรหันต์เลยด้วยซ้ำ คุณคงไม่รู้ว่าคุณจักรแก้วนั้น เขาไม่เข้าใจแม้กระทั่งว่า สัสสตทิฏฐิ คืออะไร จึงได้หลงยึดอย่าง สัสสตทิฏฐิ อย่าว่าแต่คุณกอบัวสวรรค์เลย.. กระทั่งคุณจักรแก้วเองก็ยังไม่รู้ตัวว่า เขาเป็น สัสสตทิฏฐิ ซึ่งเป็น มิจฉาทิฏฐิ อย่างไร ถ้าเขาอยากรู้ เขาก็ถามผมเองแหละ ถ้าคุณได้ฟังปุจฉาวิปัสสนา คุณก็อาจจะเข้าใจ แต่คุณจักรแก้วไม่มีวันอยากรู้อะไรจากผมหรอก เขายิ่งใหญ่ออกปานนั้น .. พาคณะไปรักษาศีลอุโบสถ ก็ได้รับสิทธิพิเศษ ถึงกับ ถ้ำผาปล่องต้องเปิดให้เนสัชชิกทั้งคืน ! วัดป่าโนนนิเวศน์ ทั้งๆ ที่มีป้าย "ปิดปรับปรุง" แท้ๆ ก็ยังไม่อาจปิดกั้นบังฟ้า ต้องเปิดโบสถ์ เปิดหอพระธาตุ ให้เข้าไปปฏิบัติธรรมทั้งคืน !! วัดหนองผือ อนุญาตให้แม้นกระทั่งผู้หญิง ให้เข้ามาปฎิบัติธรรมใต้กุฎิหลวงปู่มั่น ซึ่งเป็นเขตสงฆ์ เขตหวงห้าม !!! ภูทอกใหญ่ ต้องเปิดให้เข้าไปปฎิบัติธรรมข้างบน "ชั้นห้า" ทั้งคืน !!!! เจ้าหน้าที่ต้องเปิด ปัจเจกพุทธวิหาร เจดีย์พระธาตุหลวงปู่จวน ไว้ให้คณะจักรแก้วปฏิบัติธรรม !!!!! คิดดูก็แล้วกันว่ายิ่งใหญ่อย่างน่าตื่นตะลึงแค่ไหน !!!!!! การประกาศบุญญาภินิหาร จากคุณกอบัวสวรรค์ผู้ปลาบปลื้ม.. ทำให้มุมมองความรู้สึกของผม ที่มีต่อการดั้นด้นทำบุญสั่งสมบุญของคุณจักรแก้ว ที่เคยมีต่ำต้อยยังไง (มุมมอง) ก็ยิ่งต้อยต่ำซ้ำหนักไปอีก แทนที่จะขนพองสยองเกล้าต่อบุญบารมีอันล้ำฟ้าสะเทือนดินของจักรแก้ว ทำไมผมรู้สึกว่ามันคือการอวดความยิ่งใหญ่ อย่างพวกไอ้ทุดงทำมะไช ก็ไม่รู้เหมือนกันว่ะ ! ทำไมผมคิดอยู่ได้ว่า "อะไร" ที่ทำให้จักรแก้วได้ "สิทธิพิเศษ" จากอาณาจักรของพ่อแม่ครูจารย์เหล่านั้น การประกาศของคุณกอบัวฯ ก็คือการสำแดง "อะไร" ของจักรแก้ว ใช่หรือไม่ !! ถ้าจักรแก้วไม่ค่อยมี "อะไร" จักรแก้วก็ไม่ต่างจากประชาชนคนเดินดินที่ไม่สู้จะมี "อะไร" ใช่ไหม ?! จะอวดไปทำไม มันน่าภูมิใจนักรึ ไอ้การอวดร่ำอวดอะไรนี่น่ะ !! แต่เอาเถอะ เข้าใจว่า คงจะอั้นไว้นานนะครับ ได้ปลดปล่อยเต็มพรวดอย่างนี้.. ต้องติ๊บให้คุณ bg-view หนักๆ เลย โทษฐานที่หยิบยื่น "ช็อกโกแลตแห่งความรัก" ให้อย่างไม่ดูตาม้าตาเรือ !! จากคุณ : ระนาดเอก เขียนเมื่อ : 17 เม.ย. 55 06:23:48

ความคิดเห็นที่ 60 ที่เขียน เพื่อให้เห็นความเมตตาของ ครูอาจารย์ ที๋มีต่อลูกหลาน ที่นั่งรถเป็นวันๆ เพื่อมาปฏิบัติบูชา ไม่ได้เขียน เพื่อให้เห็นว่า คุณหมอจักรแก้วยิ่งใหญ่ อย่างคุณระนาดเขียนไว้ และดิฉันไม่เข้าใจ ว่าคุณระนาดเอก บอกว่าคุณหมอมีมิจฉาทิฐิ ว่าเที่ยงได้อย่างไร ในเมื่อพระบรมศาสดาสอน ไตรลักษณ์ ดิฉันรู้สึกถึงกระแสร้อน ด้วยอคติจากงานเขียน ของคุณระนาดเอก ค่ะ จากคุณ : กงจู้ (กอบัวสวรรค์) เขียนเมื่อ : 17 เม.ย. 55 07:45:52

ความคิดเห็นที่ 64 เหตุที่ถามใน คห.54 เพราะสะดุดกับข้อความคุณจักรแก้ว ในคห.47 ที่ว่า "...อีกประการ คนสมัยนี้ก็เก่งกันแล้วในห้องนี้ มีคนทำแทนผมได้เกือบทั้งห้องอยู่แล้ว... " คือ Bg-view จะแสดงความคิดเห็นอะไรใด ๆ เวปบอร์ดนี้ ไม่ได้ตกอยู่ภายใต้อิทธิพลทางความคิดของใครทั้งสิ้น มีสาระบ้าง ไม่มีสาระบ้าง โง่บ้างไรบ้าง ไม่มีที่ปรึกษา ตูทำของตูเอง! ก็ให้คิดเลยไปว่า ท่านอื่น ๆ ที่มาแสดงความเห็นที่เป็นประโยชน์มากมายนั้น มีใคร "ทำแทน" คุณจักรแก้วหรือ?   ก็เลยอยากจะฟังทัศนะคุณจักรแก้วสักหน่อย แบบว่าไม่อยากตกเป็นผู้ต้องสงสัยอ่ะ จากคุณ : Bg-view เขียนเมื่อ : 17 เม.ย. 55 09:01:10

ความคิดเห็นที่ 65 อ้าว จขกท ไปไหนอ่ะ ตั้งกระทู้อย่างกะขี้ในน้ำเลยแฮะ หย่อนแล้วก็กรรเชียงหนีไป ให้อาหารปลาเหรอจ๊ะ แก้ไขเมื่อ 19 เม.ย. 55 15:26:16 จากคุณ : Yogi Playgirl เขียนเมื่อ : 19 เม.ย. 55 15:25:26

ความคิดเห็นที่ 66 "ไม่มีสัญญาณตอบรับจากหมายเลขที่ท่านเรียก"  ตู๊ด ๆ ๆ ๆ จากคุณ : Bg-view เขียนเมื่อ : 20 เม.ย. 55 04:45:37