เปิดหนังสือขออนุญาตเป็นพระอุปัชฌาย์ข้ามเขต
จากพระธรรมกิตติวงศ์ถึงเจ้าคณะตำบลคลองสี่
ฉบับจริงหรือปลอมก็ไม่รู้สิ
แต่ถ้าจริง ก็จะเป็นโจ๊กระดับโลกเลย
Take a look !
เชิญทัศนาดูหนังสือข้างต้น ไม่ลงวันที่หนังสือออก บอกแค่ "เดือน" กับ "ปี" จะว่าเป็นหนังสือรายเดือนก็ใช่ที่ นี่หรือคือหนังสือที่ออกจากวัดราชโอรสาราม พระอารามหลวงประจำรัชกาลที่ 3 และผู้ออกหนังสือคือ พระธรรมกิตติวงศ์ ราชบัณฑิต อดีตกรรมการมหาเถรสมาคมและเจ้าคณะภาค 16
ในตอนท้ายของหนังสือยิ่งสนุก เพราะพระธรรมกิตติวงศ์นั้นเป็นพระราชาคณะชั้นสูง แถมยังเป็นเจ้าอาวาสพระอารามหลวง เป็นพระอุปัชฌาย์วิสามัญ ท่านได้มีหนังสืออันทรงเกียรติไปหา "เจ้าคณะตำบลคลองสี่" ซึ่งมียศเป็นเพียง "พระมหา 4 ประโยค" ทีนี้เมื่อได้รับหนังสือแล้ว น่าที่พระมหานิวัตร จะได้ทำหนังสือกราบเรียนพระเดชพระคุณพระธรรมกิตติวงศ์ เจ้าอาวาสวัดราชโอรสาราม พระอุปัชฌาย์ของเหล่าธรรมทายาททั่วประเทศไทยนับแสนนับล้านรูป ให้สมเกียรติสมยศ ท่านเจ้าคณะตำบลคลองสี่ได้ทำการสลักลายมือลงบนจดหมายเพียง 1 บรรทัด ซึ่งการสลักหนังสือเช่นนี้ ตามธรรมเนียมแล้ว ต้องเป็นการมอบงานจากผู้ใหญ่ถึงผู้น้อย หรือจากเบื้องบนลงเบื้องล่างเท่านั้น ก็จึงไม่รู้ว่า ระหว่าง "พระธรรมกิตติวงศ์" กับ "พระมหานิวัตร" นั้น ใครใหญ่กว่าใคร หรือใครสูงกว่าใคร ?
แต่ก็เชื่อได้ว่า พระธรรมกิตติวงศ์ต้องใหญ่กว่า เพราะท่านสามารถปิดถนนกลางกรุงเทพฯ นั่งเป็นประธานงานบิณฑบาตพระล้านรูป และเคยรับจ็อบ เป็นหัวหน้าคาราวานพระธุดงค์ธรรมชัย ขนทองคำหนักตั้ง 1 ตัน ไปวัดปากน้ำสำเร็จอย่างงดงามมาแล้ว ใช้เวลาตั้ง 5-6 วัน โดยไม่มีใครจี้ปล้นเลย เซฟยิ่งกว่ารถขนเงินของธนาคารแห่งประเทศไทยเสียอีก
มิหนำ ในการสลักหนังสือนั้น ก็ยังไม่ลงวันเดือนปีอีกเช่นกัน จึงเป็นเรื่องอัศจรรย์ที่การไปนั่งเป็นพระอุปัชฌาย์ข้ามเขตของพระธรรมกิตติวงศ์ ราชบัณฑิต จะเป็นพิธีรีตรองอันยิ่งใหญ่สมเกียรติ เหมือนที่วัดพระธรรมกายซึ่งจัดอะไรต้อง "ยิ่งใหญ่ระดับโลก" ทั้งสิ้น ส่วนเบื้องหลังการทำงานนั้นก็ดูเอาเองว่า "ยิ่งใหญ่สมเกียรติและยศ" หรือไม่เพียงไร หรือพระธรรมกิตติวงศ์ท่านอาจจะอธิบายด้วยสำนวนธุดงค์ศรีธนญชัยก็ได้ว่า "มีเกียรติ" เท่ากับ "ไร้เกียรติ" เพราะทุกวันนี้ท่านก็มิได้รักษาเกียรติคุณอะไรของท่านไว้อีกแล้ว ขนาดตีความ "ธุดงควัตร" เสียกระจุยกระจาย เป้าหมายเพียงเพื่อให้ได้รับใช้ธัมมชโยอย่างสุดชีวิตจิตใจ ท่านก็ทำมาแล้ว นับประสาอะไร ก็เหมือน "เพลิน พรมแดน" ร้องเพลงไว้ในเพลงอาจารย์ใบ้หวยนั่นแหละว่า "ขนาดเหาะเหินเดินอากาศกูก็ทำมาแล้ว แล้วนับประสาอะไรกะอีแค่-วิ่งหนีอีโต้ กูจะทำไม่ได้"
ที่มา : DMC-Pantip
13 เมษายน 2555