ความคิดเห็นที่ 1 พระคริสต์เทียมคือใคร  ??? ซาตานแปลว่าผู้ต่อต้านพระเจ้า หัวหน้าของซาตานคือ ลูซิเฟอร์ แต่มีอีกชื่อหนึ่งซึ่งแตกต่างออกไปคือ ผู้เป็นปฏิปักษ์ต่อพระคริสต์ หรือ Antichrist คำนี้มีความหมายสองอย่างคือ ผู้เป็นปฏิปักษ์ของพระคริสต์ และพระคริสต์เทียม ผู้เป็นปฏิปักษ์ของพระคริสต์คือบุคคลซึ่งไม่เชื่อพระเจ้าหรือครั้งหนึ่งเป็นคริสเตียนแต่ได้ตั้งตัวเป็นปฏิปักษ์ต่อพระเยซูคริสต์ ท่านอัครสาวก ยอห์นกล่าวเตือนว่า ซาตานตนนี้ใช้ร่างของมนุษย์คนหนึ่งซึ่งเกิดมา เขาทำตัวคล้ายพระเยซูคริสต์ แต่ต่อต้านพระเยซูคริสต์ในช่วงสุดท้ายของมนุษยโลก พระธรรมดาเนียลในพระคัมภีร์เดิมได้ทำนายถึงพระคริสต์เทียม ในชื่อลักษณะต่างๆกัน เช่น 1.สัตว์ตัวที่สี่ พระธรรมดาเนียลได้ทำนายว่า จะมีสัตว์สี่ตัวและ “พระเจ้ากล่าวดังนี้ว่า เรื่องสัตว์ตัวที่สี่จะมีราชอาณาจักรบนพิภพซึ่งจะผิดกับราชอาณาจักรทั้งสิ้นและจะกินทั้งพิภพนี้เสียและเหยียบพิภพลงและทำให้เป็นชิ้นๆ” (ดาเนียล 7:23) แสดงว่า พระคริสต์เทียมจะมาทำลายอาณาจักรอื่นๆ จนสิ้น 2.เขาเล็กของแพะ พระธรรมดาเนียลได้ทำนายถึงแพะผู้ตัวหนึ่งมีเขาใหญ่วิ่งเข้าใส่แกะผู้ มันเหวี่ยงแกะผู้ลงที่ดินและเหยียบเสีย แต่เมื่อมันแข็งแรงขึ้น เขาใหญ่ของมันก็หัก มีเขาเด่นอีกสี่เขางอกขึ้นแทนที่ “และมีเขาเล็กงอกออกมาจากเขาหนึ่งในพวกเขาเหล่านี้ ซึ่งงอกขึ้นใหญ่โตเหลือเกิน มันยังเหวี่ยงบริวารดวงดาวลงมายังพิภพเสียบ้างแล้วเหยียบย่ำเสีย มันพองตัวขึ้นอีก แม้กระทั่งถึงจอมของบริวารและเครื่องบูชาเนืองนิตย์ ก็ถูกชิงไปเสียจากพระองค์ และสถานศักดิ์สิทธิ์ของพระองค์ก็ถูกเหวี่ยงลง และได้สถาปนาการบูชาแบบหนึ่งขึ้น ซึ่งละเมิดต่อการเผาบูชาเนืองนิตย์ และความจริงก็ถูกเหวี่ยงลงที่ดิน และเขานั้นก็ปฏิบัติงานและเจริญขึ้น” (ดาเนียล 8:9-12) แสดงว่าพระคริสต์เทียมนี้มีพลังอำนาจมากและจะมาต่อสู้กับพระเจ้าได้ เพราะพระเจ้าคือจอมของบริวารและเครื่องบูชาเนืองนิตย์ และเป็นเจ้าของสถานศักดิ์สิทธิ์ 3.ผู้ที่น่าสะอิดสะเอียน พระธรรมดาเนียลทำนายว่า คนนี้จะมาให้เลิกเครื่องเผาบูชาเนืองนิตย์ และให้ตั้งสิ่งที่น่าสะอิดสะเอียนซึ่งกระทำให้เกิดความวิบัติขึ้น (ดาเนียล 9:27, 11:31, 12:11) พระคริสต์เทียมจะมาทำให้คนเลิกการนมัสการพระเจ้าแต่ให้มานมัสการสิ่งที่สะอิดสะเอียนแทนคือพระคริสต์เทียม ในพระคัมภีร์ใหม่ อัครสาวกยอห์นกล่าวถึงพระคริสต์เทียมว่าเป็นสัตว์ร้ายตัวหนึ่งขึ้นมาจากทะเล “และข้าพเจ้าได้เห็นสัตว์ร้ายตัวหนึ่งขึ้นมาจากทะเล มันมีเจ็ดหัวและสิบเขา ที่เขาทั้งสิบมีมงกุฎสิบอัน และมีชื่อที่เป็นคำหมิ่นประมาทพระเจ้าจารึกไว้ที่หัวของมัน สัตว์ร้ายที่ข้าพเจ้าได้เห็นนั้น ตัวเหมือนเสือดาว และตีนเหมือนตีนหมี และปากเหมือน ปากสิงห์ และงูใหญ่ได้ให้ฤทธิ์อำนาจอันยิ่งใหญ่และที่นั่งของมันแก่สัตว์ร้ายนั้น หัวหัวหนึ่งของมันดูหมือนถูกฟันปางตาย แต่แผลที่ถูกฟันนั้นรักษาหายแล้ว คนทั้งโลกติดตามสัตว์ร้ายนั้นไปด้วยความอัศจรรย์ใจ เขาทั้งหลายได้บูชางูใหญ่ เพราะงูใหญ่ได้ให้อำนาจแก่สัตว์ร้ายนั้น เขาได้บูชาสัตว์ร้ายนั้น กล่าวว่า ใครจะเปรียบปานสัตว์นี้ได้ และใครสามารถจะสู้รบกับสัตว์นี้ได้” (วิวรณ์ 13:1-4) ก่อนที่พระเยซูคริสต์จะเสด็จกลับมาอีกครั้ง พระคริสต์เทียมลูกน้องของลูซิเฟอร์จะมา เกิด และจะเติบโตขึ้น ในช่วงนี้โลกเข้าสู่วิกฤตการณ์ คือมีความอดอยากแผ่ไพศาลไป ทั่วโลก มีสงครามทุกแห่งหน มีโรคระบาดทั่วไป มีคนตายเป็นอันมาก มีภัยธรรมชาติ เช่น แผ่นดินไหว ภูเขาไฟระเบิด ลมพายุรุนแรง น้ำท่วม พระคริสต์เทียมจะเข้ามามี บทบาทในการสร้างความสงบสุขเทียมเท็จในโลก (วิวรณ์บทที่ 6) ก่อนที่พระคริสต์เทียมจะปกครองโลก ผู้เชื่อพระเจ้าและคริสเตียนทั้งหลายที่ตายไป และที่ยังอยู่จะถูกรับขึ้นไป (Rupture) หลังจากนั้นโลกจะเข้าสู่มหากลียุค 7 ปี พระคริสต์เทียมจะหลอกลวงมนุษย์ที่เหลืออยู่ให้ ตกอยู่ใต้อำนาจของมัน มันจะใช้วิธีหลอกลวงด้วยการแสดงให้เห็นว่า มันดูเหมือนถูกฆ่า ตายแต่จะฟื้นขึ้นมาใหม่คล้ายพระเยซูคริสต์ ทำให้มนุษย์เห็นความอัศจรรย์และติดตาม มัน ในสามปีครึ่งแรก มันมาสร้างสันติสุขจอมปลอมให้แก่มวลมนุษย์ในโลก แต่สามปีครึ่งหลัง มันจะประกาศตนเป็นพระเจ้า ใครที่ต่อต้านมันจะถูกฆ่าตายหมด เมื่อหมดยุคมหากลียุค 7 ปี พระเยซูคริสต์จะนำธรรมิกชนลงมาต่อสู้กับพระคริสต์เทียมและพรรคพวกของมัน พระคริสต์เทียม (สัตว์ร้าย) และผู้เผยพระวจนะเทียมถูกจับและทิ้งทั้งเป็นลงในบึงไฟที่ไหม้ด้วยกำมะถัน (Gehenna หรือเกเฮนนา) (วิวรณ์ 19:20-21) โดย ศจ.นพ.สิริชัย ชยสิริโสภณ จากคุณ : ศรัทธาพลัง เขียนเมื่อ : 17 เม.ย. 55 20:20:13

ความคิดเห็นที่ 2 ปฏิปักษ์พระคริสต์ (Antichrist) 1. Antichrist เมื่อกล่าวถึง Antichrist เชื่อว่ามีพี่น้องคริสเตียนหลายท่านให้ความสนใจ นักตีความพระคัมภีร์ก็ได้ให้ทัศนะ เกี่ยวกับเรื่องนี้ ต่างๆไม่ว่าจะเป็นรูปแบบเอกสารหรือทางเว็บไซต์ การตีความ ให้แง่คิดที่น่าสนใจ ถ้าเรา พิจารณาจากคำว่า “ปฏิปักษ์พระคริสต์” โดยตรง ภาษากรีกของคำนี้คือ “ANTICHRISTOS” แปลว่า ผู้ที่ต่อต้านพระคริสต์ และจะพบว่าปรากฏในพระธรรม 1 ยอห์น และ 2 ยอห์น รวม 4 ครั้งด้วยกัน คือ1 ยน.2:18;22,1 ยน.4:2-3 ,2 ยน.2:7 ข้อพระคัมภีร์ดังกล่าวแสดงให้เห็นว่า ปฏิปักษ์พระคริสต์ มีปรากฏมานานแล้ว อย่างน้อยก็ ตั้งแต่คริสตจักรสมัยแรก และจากข้อพระคัมภีร์ข้างต้น ยอห์นได้บอกลักษณะของคนกลุ่มนี้แบบ กว้างๆ ว่าคือ กลุ่มคนที่ไม่ยอมรับว่าพระเยซูคริสต์ทรงเป็นพระบุตรของพระเจ้า ที่มาบังเกิดเป็นมนุษย์และตั้งใจปฏิเสธพระเจ้าพระบิดา ซึ่งมีทั้งในรูปของ วิญญาณ ระบบ และตัวบุคคล ในหมู่ผู้เชี่ยวชาญพระคัมภีร์มองเรื่องนี้ ว่า ปฏิปักษ์พระคริสต์ น่าจะเป็นระบบมากกว่าเป็นบุคคล แต่หากเราพิจารณา พระคัมภีร์ในตอนที่เกี่ยวข้องทั้งที่กล่าวโดยตรงและอ้อมได้ให้ภาพลักษณ์ว่ามี การกระทำแบบเจาะจงแสดงว่ามีความเป็นบุคคลไม่ใช่ระบบ แต่จะมีการ ใช้ระบบที่ชั่วร้ายด้วยหรือไม่ก็เป็นอีกประเด็นที่อาจเป็นไปได้ และจากพระธรรม(1ยน.2:18) เราพบว่าอัครทูตยอห์นได้ใช้คำนี้ในรูปพหูพจน์ แสดงว่ามี ปฏิปักษ์พระคริสต์ที่มีลักษณะแบบเป็นกลุ่มด้วยไม่ใช่เป็นบุคคลคน เดียว อย่างไรก็ตามก็ยังพบคำที่พระคัมภีร์ใช้ในหลายตอนที่ให้ ความหมายว่ามีตัวบุคคลที่เด่นชัดที่เป็นหัวหน้าใหญ่ที่จะ เป็นปฏิปักษ์พระคริสต์ที่จะรวบรวมกลุ่มคนที่มีวิญญาณแบบนี้มาอยู่รวมกัน จากคุณ : ศรัทธาพลัง เขียนเมื่อ : 17 เม.ย. 55 21:08:50

ความคิดเห็นที่ 3 2. คำในพระคัมภีร์ที่เกี่ยวข้องกับปฏิปักษ์พระคริสต์ มีคำอยู่หลายคำที่ถูกใช้เรียกแทน ปฏิปักษ์พระคริสต์ ซึ่งแต่ละคำก็สะท้อนความหมายในแง่ลักษณะต่างๆ เราจะมาดูว่ามีคำใดบ้าง "เขาเล็ก" พบใน ดนล.7:8 ดาเนียลได้รับการอธิบาย จากบุคคลที่เขาพบในความฝัน(ข้อ16-20)ว่า เขาเล็กที่ปรากฏ อยู่บนศีรษะของสัตว์ร้ายตัวที่สี่นี้มีอานุภาพยิ่ง ใหญ่กว่าเขาอื่นๆอีก 10 เขาที่มีขึ้นก่อนหน้านี้ และเขาเล็กจะเป็นสัญลักษณ์ที่เล็งถึงกษัตริย์ที่จะมา ภายหลังกษัตริย์สิบองค์แรก ซึ่งกษัตริย์องค์นี้จะโค่นล้ม กษัตริย์สามองค์แรกลง และมันมีอำนาจเหนือกว่าเขา อื่นๆที่เล็งถึงผู้ปกครองหรือกษัตริย์ที่มีในโลก(ข้อ20ข,24) มันจะกล่าวร้ายต่อพระเจ้าและกระทำให้คนของพระเจ้า รู้สึกทุกข์ยากลำบากตลอดสามวาระครึ่ง (ข้อ 25) มันจะทำสงครามกับคนของพระเจ้าและได้รับชัย ชนะ(ข้อ 21) มันพูดจาด้วยความโอ้อวดและเย่อหยิ่ง (ข้อ11,20ก) "กษัตริย์ที่ทำตามใจตนเอง" ปรากฏใน ดาเนียล 11:36 ในพระคัมภีร์ตอนนี้ก็บรรยายว่า ปฏิปักษ์พระคริสต์จะมีอำนาจทางการปกครองอย่างมาก และจะมีนิสัยเอาแต่ใจตนเอง หลงมัวเมาในอำนาจ และหยิ่งจองหองอีกทั้งยังมีวาทศิลป์ แต่คำพูดนั้นจะเป็นคำพูด ที่ขัดแย้งกับหลักการของพระเจ้าและพระองค์จะปล่อยให้เขามีความสำเร็จอยู่ชั่วขณะหนึ่ง คนนอกกฎหมาย และลูกแห่งความพินาศพบใน 2ธส.2:3 ในข้อนี้บ่งบอกว่า ปฏิปักษ์พระคริสต์จะล่อลวง ให้คนของพระเจ้าหลงไปจากความจริงของพระองค์ ยอห์นจึงเรียกว่า คนนอกกฏหมาย และไม่เพียงเท่านั้นในข้อ เดียวกันก็บรรยายสภาพว่า เขาจะนำคนมากมายให้ไปสู่ความพินาศ ซึ่งอาจหมายถึง การสูญเสียความรอดที่น่ากลัวกว่าความตายฝ่ายร่างกาย จึงเรียกอีกชื่อหนึ่งว่า ลูกแห่งความพินาศ แก้ไขเมื่อ 17 เม.ย. 55 21:10:46 จากคุณ : ศรัทธาพลัง เขียนเมื่อ : 17 เม.ย. 55 21:10:22

ความคิดเห็นที่ 4 "สัตว์ร้ายตัวที่ 1" ใน วิวรณ์ 13:1-2 พระคัมภีร์ตอนนี้ ให้ภาพที่น่าสะพรึงกลัวของปฏิปักษ์พระคริสต์ ว่า เป็นเหมือนสัตว์ร้าย และเขาจะได้รับอำนาจจาก ซาตานที่ถูกเปรียบภาพเป็นงูใหญ่หรือมังกร และพระคัมภีร์ยังบรรยายต่อไปว่า เขาจะเต็มไปด้วยความสามารถดังจะเห็นจากที่พระคัมภีร์บรรยายว่า มีลักษณะต่างๆที่ผสมผสานระหว่าง เสือดาว หมีและสิงห์และอำนาจ การปกครองที่สะท้อนความหมายจากภาพมงกุฎที่ปรากฏอยู่บนเขาทั้งสิบเขา ลักษณะนิสัยของปฏิปักษ์พระคริสต์ จากข้อพระคัมภีร์มากมายที่กล่าวถึงปฏิปักษ์ สามารถช่วยให้เราเห็นนิสัยบางอย่างของเขา ซึ่งเป็นสิ่งที่คริสเตียนควรเรียนรู้ เพื่อเตรียมชีวิตของตนให้พร้อม เราจะมาดูว่าปฏิปักษ์พระคริสต์ มีนิสัยอย่างไร "มีความหยิ่งยโส" เมื่อปฏิปักษ์พระคริสต์ปรากฏขึ้น เขาจะเปิดเผยโฉมหน้าที่แท้จริงโดยจะพูดจาหมิ่นประมาท พระเจ้าอย่างตรงไปตรงมาด้วยความเย่อหยิ่ง อีกทั้งจะยกตัวเองขึ้นด้วยความจองหอง ดังที่ กล่าวไว้ใน(ดาเนียล11:36-37) และเขาจะทำตัวให้เทียบเทียมพระเจ้า โดยคนมากมายจะตกอยู่ ภายใต้อำนาจของเขา เขาจะไม่สนใจต่อพระใดๆ ทั้งสิ้นที่ชนชาติต่างๆกราบไหว้อยู่ (2เธสะโลนิกา 2:3-4 ) และสาเหตุที่เขามีความหยิ่งผยองขนาดนี้ก็เป็นเพราะ เขาได้รับการสนับสนุนทางอำนาจจากซาตาน (วว.13:2,4)(2ธส.2:9-10) ซึ่งอาจจะเป็นอำนาจในการทำหมายสำคัญและการอัศจรรย์ หรือเป็นอำนาจทางเศรษฐกิจหรือการทหาร สิ่งนี้ไม่อาจระบุได้ชัดเจนว่าเป็นอำนาจในรูปแบบใดกันแน่แต่พระคัมภีร์ก็กล่าวถึงสิ่งเหล่านี้ไว้ว่า เขาได้รับอำนาจตรงและโดยผ่านทางอำนาจของสัตว์ร้ายตัวที่ 2 ที่จะมาสนับสนุนเขา(วว.13:11-18) และด้วยอำนาจนี้เองจะทำให้เขา ไม่กลัวเกรงสิ่งใดเลย จากคุณ : ศรัทธาพลัง เขียนเมื่อ : 17 เม.ย. 55 21:12:22

ความคิดเห็นที่ 5 "เจ้าเล่ห์ และโกหกหลอกลวง" หากเราสังเกตจากพระคัมภีร์ ที่กล่าวถึงเรื่องบางตอนเราจะพบว่า เขาต้องเป็นคนที่มีความ ฉลาดเป็นอย่างมากจึงจะสามารถมีอิทธิผลต่อคนในโลก และพระคัมภีร์กล่าวว่าเขาจะเผยโฉมว่า เป็นปฏิปักษ์พระคริสต์หลังจากมีการทรยศเสียก่อน จึงเป็นที่น่าสังเกตได้ว่าเขาอาจจะทำสัญญา ไว้กับคนมากมายจนได้รับความไว้วางใจ เขาจึงได้รับการอำนาจบางอย่างจากคนในโลก จนในที่สุดเขากลายเป็นบุคคลที่ทรงอิทธิผล แต่ฉับพลันกับทรยศหรือปิดพริ้วต่อคำสัญญาหรือข้อตกลง (2ยน.1.7) (2ธส.2:3) ไม่เพียงเท่านั้นเขาจะเต็มไปด้วยอุบายอธรรม ที่ไม่ใช่การเผชิญแบบซึ่งๆหน้าในการทำงานของเขา(2ธส.2:9-10) ซึ่งถ้าคริสเตียนคนใดที่ไม่รักความจริงแห่งพระวจนะ จะหลุดร่วงไปจากความจริงได้ง่าย ในที่นี้รวมไปถึงคนของพระเจ้าที่ทรงเลือกไว้ด้วย เหมือนอย่างที่พระธรรมมัทธิวเตือนถึงเหตุการณ์เช่นนี้ไว้(มธ.24:4-5,24) และคนที่รู้พระวจนะแต่รู้แบบผิวเผินก็จะถูกล่อลวงให้หลงไป(1ทธ.4:1) ดังนั้นคริสตจักรที่ฉลาดต้องสอนพระวจนะอย่างครบถ้วนและเข้มข้น และคริสเตียนที่ฉลาดต้องเข้าร่วมและเรียนพระวจนะที่คริสตจักรไว้อย่าง สม่ำเสมอ เพื่อเราจะไม่ชักจูงไปจนหลางหรือซัดไปเซมาด้วยลมปากและคำสั่งสอนของมนุษย์ (อฟ.4:14) พร้อมทั้งสามารถต่อสู้กับสิ่งยั่วเย้าด้วยวัตถุสิ่งของ เกียรติยศชื่อเสียง ตัณหาความใคร่ เพื่อจะไม่ยอมแลกกับความเชื่อในพระคริสต์ที่เรายึดถืออยู่ (2ปต.2:14) "โหดร้าย" ปฏิปักษ์พระคริสต์จะมามีนิสัยโหดร้าย และตั้งตัวเป็นศัตรูกับผู้ที่ติดตามพระเจ้า (วว.13:7,10) ความโหดร้ายที่มีจะเป็นสิ่งที่ไม่มีใครคาดคิดได้ มีการประเมินกลุ่มที่ต้องแลกชีวิต เพราะต้องการรักษาความเชื่อว่า จะมีจำนวนมากมาย โดยจำนวนของผู้ตายในกลียุคนี้ น่าจะมีมากกว่าสมัยสงครามนาซีเยอรมัน หรือการกวาดล้างจากพวกคอมมิวนิสต์ในศตวรรษที่ 20 นี้อีก 1 (วว.6:9)(วว.7:9,14)ซึ่งมีการคาดกันว่า การกระทำทุกอย่างมีรากมาจากความเกลียดชังที่มีต่อ พระเยซูคริสต์ และเราทั้งหลายก็ไม่ควรกลัว เพราะสำหรับคนที่ยอมสละชีวิต เพื่อยืนหยัดในการติดตามพระองค์ พระคัมภีร์ได้เปิดเผยให้เรารู้ว่า คนเหล่านั้นจะได้อยู่ใกล้ชิดกับพระองค์และ เขาจะได้ครอบครองอยู่อย่างเป็นสุข ร่วมกับพระองค์ (วว.7:14-17)(วว.20:4-6) จากคุณ : ศรัทธาพลัง เขียนเมื่อ : 17 เม.ย. 55 21:14:47

ความคิดเห็นที่ 6 "บ้าอำนาจ เผด็จการ" เมื่อเขาครอบครองอำนาจเหนือทุกประชาชาติ เขาจะใช้อำนาจในการบังคับ กดขี่ข่มเหงให้ กระทำตามกฏเกณฑ์ของเขา(วว.13:16-17) และผู้ใดที่ไม่ทำตามก็ต้องถูกลงโทษโดยอาจถึงแก่ ความตายหรือถูกตัดสิทธิ์บางอย่างการบังคับขู่เข็ญจะครอบคลุมไปถึงคน ทุกสถานะ อำนาจที่เขามีจะมาในรูปแบบการ ทำการอัศจรรย์และเกี่ยวกับความเป็นอยู่ รวมไปถึงอำนาจทางการทหารที่จะมีกองทัพ ที่เต็มไปด้วยแสนยานุภาพ ในโลกปัจจุบันเราพบเห็น ข่าวคราวหรือเทคโนโลยีที่แทรกซึมและมีอิทธิผล เหนือคนในโลก ไม่ว่าจะเป็นอำนาจที่มาจากสื่อ ดังจะเห็นจากภาพยนต์ในปัจจุบันที่ใช้เทคนิคพิเศษ จนแยกไม่ออกว่าอะไรเป็นความจริงอะไรเป็นภาพ มายา หรือสภาพทางเศรษฐกิจที่บังคับพฤติกรรมของผู้บริโภค โดยไม่รู้ตัว อีกทั้งเทคโนโลยีอาวุธ สงครามที่มีกรพัฒนาอย่างต่อเนื่องเสมอ สิ่งเหล่านี้ล้วนเป็นรูปแบบของอำนาจที่ ปฏิปักษ์พระคริสต์สามารถใช้เป็นเครื่องมือได้ทั้งสิ้น ดังนั้นเราจึงต้องระมัดระวังไม่ยึดติด และหลงมัวเมาอยู่ กับสิ่งต่างๆโดยขาดวิจารณญาณของหลักการพระคัมภีร์ เพื่อเราจะไม่เป็นทาสของสิ่งเหล่านี้ อยู่ภายใต้อำนาจของสิ่งนี้ อย่างไม่รู้ตัว (รม.6:16) ขอให้เราอยู่ภายใต้พระคุณ ของพระเยซูคริสต์เพียงผู้เดียวเถิด "ไร้ศีลธรรม" ปฏิปักษ์พระคริสต์จะปฏิเสธ ศีลธรรมอันดีทุกอย่างที่มีในพระคัมภีร์ พระคัมภีร์ให้ชื่ออีกชื่อ หนึ่งของปฏิปักษ์พระคริสต์ว่าเป็น “คนนอกกฎหมาย” (2ธส.2:3) เขาไม่นับถือพระเจ้าของบรรพบุรุษของเขา เขาจะนับถือแต่ตนเองและซาตาน(วว.13:4,12) สภาพที่เต็มไปด้วยความชั่วร้ายนี้ จะเกิดขึ้นอย่างมากมายเพื่อจะนำโลกนี้เข้าสู่กลียุค ที่เลวร้ายจริงๆ เราพบสภาพที่เปาโลได้ บรรยายจิตใจของคนในยุคสุดท้ายว่า เต็มไปด้วยความเห็นแก่ตัว เห็นแก่เงิน เย่อหยิ่ง ยโส ชอบด่าว่า ไม่เชื่อฟังคำบิดามารดา อกตัญญู ไร้ศีลธรรม ไร้มนุษยธรรม ไม่ให้อภัยกัน ใส่ร้าย กัน ไม่ยับยั้งชั่งใจ ดุร้าย เกลียดชังความดี ทรยศ มุทะลุ หัวสูง รักความสนุกยิ่งกว่ารักพระเจ้า ถือศาสนาแต่เปลือกนอก ส่วนแก่นแท้ของศาสนา เขาไม่ยอมรับ และจะเที่ยวล่อลวงคน มากมาย และหลงใหลในตัณหาต่างๆ ปฏิปักษ์พระคริสต์ จะเป็นผู้ที่จุดฉนวนให้ความบาปแผ่ กว้างออกไปทั่วโลก สิ่งที่ปฏิปักษ์พระคริสต์จะทำ เมื่อเราเรียนรู้จักนิสัยใจคอของปฏิปักษ์พระคริสต์ ที่ผ่านมา ก็ทำให้เราตระหนักว่า ต้องเตรียมชีวิตโดยไม่ประมาท แต่ก็ยังไม่เพียงพอ หากเราต้องการปกป้องชีวิตของตัวเราไม่ให้เพลี่ยงพล้ำ และดำเนินชีวิตด้วยความชาญฉลาด เหมือนอย่าง หญิงพรหมจารีที่มีสติปัญญาในพระธรรม(มธ.25:1-12) ดังนั้นเราจึงควรรู้สิ่งที่ปฏิปักษ์พระคริสต์จะทำด้วย มีสิ่งใดที่ปฏิปักษ์พระคริสต์จะกระทำ ใช้อำนาจบังคับคนในโลกให้ไหว้รูปเคารพของตัวเขา และนับถือมารซาตาน เขาจะนำพาคนมากมายให้นมัสการ กราบไหว้บูชาตัวของเขาและซาตาน ซึ่งเป็นการกระทำตัวให้เสมอเหมือนพระเจ้า (วว.13:4,12) ซึ่งไม่จำเป็นต้องมีรูปแบบเป็นการบูชาบวงสรวงก็ได้ แต่อาจเป็นการยกย่องสรรเสริญให้เกียรติ ยอมรับลักษณะของเขาด้วยใจประนีประนอม เพราะเชื่อว่าลักษณะของปฏิปักษ์พระคริสต์ คงมีหลายสิ่งที่เมื่อดูเผินๆแล้วน่าเลื่อมใส หรือดูมีเหตุมีผล น่าเชื่อถือศรัทธาตามสายตาของคนในโลก แต่หากเราพิจารณา ตามหลักการพระคัมภีร์แล้ว เราจะพบว่าเป็นสิ่งที่ผิดและไม่น่าศรัทธาเลย ดังนั้นเราจึงต้องพิจารณาทุกสิ่งตามทัศนคติพระคัมภีร์ จากคุณ : ศรัทธาพลัง เขียนเมื่อ : 17 เม.ย. 55 21:23:59

ความคิดเห็นที่ 7 "ขึ้นครองอำนาจในเศรษฐกิจ" อำนาจการซื้อขายสินค้าจะตกอยู่ในมือของเขา ดังนั้นแรงกดดันด้านความเป็นอยู่จะเกิดขึ้น แน่เพราะเขาจะใช้สิ่งนี้ในการต่อรองเพื่อให้คนมากมาย ทำตามกฏเกณฑ์ที่เขาคิดขึ้นมา หนึ่งในตัวเลขที่เขาจะใช้คือ 666 (เป็นสัญลักษณ์ของบุคคล  หรือองค์กร หรือ คำสอนของคนคนหนึง) (วว.13:16-18) ซึ่งมีการตีความตัวเลขนี้กันมากมาย ไม่ว่าจะเป็นโดยตรงหรือโดยสัญลักษณ์ แต่ประเด็นที่เราถูกย้ำจากยอห์นผู้เขียนพระธรรมวิวรณ์คือ ต้องใช้ สติปัญญาเพื่อคิดไตร่ตรองจะได้ไม่ถูกหลอกด้วยเพราะถูกกดดัน จากเรื่องความเป็นอยู่ ณปัจจุบันมีการพยายาม เชื่อมระบบเศรษฐกิจให้เหลือน้อยลงจนมีแนวโน้มว่า ระบบเศรษฐกิจโลกอาจจะรวมกันจนเป็นเศรษฐกิจระบบเดียวกันทั่วโลก ซึ่งนั่นเป็นสิ่งที่เอื้อให้เกิดการยึดครองอำนาจไว้ให้อยู่ในกลุ่ม ผู้มีอิทธิผลกลุ่มใดกลุ่มหนึ่งได้ ดังนั้นคริสเตียนต้องวางแผนการดำเนิน ชีวิตไม่ให้เป็นทาสของเงินและทอง เพราะพระคัมภีร์เตือนเราว่าการรักสิ่งเหล่า นี้จะเป็นมูลรากของการกระทำสิ่งชั่วทั้งปวงได้(1ทธ.6:9-10) ขึ้นครองอำนาจในการปกครองและการทหารอำนาจหนึ่งที่ปฏิปักษ์มีคือ อำนาจทางการปกครอง ซึ่งแน่นอนย่อมต้องมีการใช้กองกำลัง ทางทหาร เพราะพระคัมภีร์ได้กล่าวถึงสงคราม ที่ปฏิปักษ์พระคริสต์ใช้เพื่อต่อสู้กับคนของพระเจ้า(วว.13:7;19:19) ตรงกับที่พระเยซูก็ได้กล่าวถึงยุคสุดท้าย ว่าจะมีข่าวลือเรื่องสงคราม(มธ.24:6) แสดงว่าจะต้องมีการสูญเสียเกิดขึ้นเป็นแน่ จากการรวบรวมสถิติเกี่ยวกับสงครามตั้งแต่อดีตประมาณ 3,600 ปี ก่อนคริสตกาลจนถึงปี ค.ศ.1980 ปรากฏว่ามีสงครามใหญ่เกิดขึ้นในโลกเฉลี่ย 2.87 ถึง 3.06 ครั้งต่อปี และนับตั้งแต่ปี ค.ศ.1945ซึ่งมีการเจรจาสันติภาพหลังสิ้น สงครามโลกครั้งที่ 2 จนถึง ค.ศ.1993 มีสงครามคิดเป็นความถี่ 3.125 ถึง 3.33 ครั้งต่อปี 2จากสถิติดังกล่าวทำให้เราเห็นว่า แนวโน้มของสงครามไม่มีทีท่าว่าจะลดลงเลย และสงครามที่จะ เกิดขึ้นในยุคนี้จะมีทั้งรูปแบบที่ใช้อาวุธและไม่ใช้อาวุธก็ได้ ซึ่งอาจจะมาในรูปแบบการทำลายด้วยสติปัญญาและเทคโนโลยีมากขึ้น ดังนั้นเราจึงต้องตระหนักและดำเนินชีวิต ด้วยการสังเกตเหตุการณต่างๆที่เกิดขึ้น ในโลกด้วยมุมมองของคนที่รู้พระวจนะพระเจ้า อย่าประมาทในการใช้ชีวิตด้วยเพราะคิดว่าสิ่งนี้ เป็นเรื่องที่ห่างไกลจากชีวิตของเรา เหมือนอย่างคนในสมัยโนอาห์ที่คิดเช่นนั้น จึงทำให้เมื่อเผชิญกับภัยพิบัติ ก็เผชิญอย่างไม่รู้ตัว(มธ.24:37-39) "นำโลกเข้าสู่กลียุค 3 ปีครึ่ง" สิ่งสำคัญที่สุดที่เราจะมองข้ามสิ่งที่ปฏิปักษ์พระคริสต์ทำไม่ได้คือ "การนำโลกเข้าสู่กลียุคครับ"                       ขอพระเจ้าอวยพรทุกท่าน แก้ไขเมื่อ 17 เม.ย. 55 22:28:34 จากคุณ : ศรัทธาพลัง เขียนเมื่อ : 17 เม.ย. 55 21:29:22

ความคิดเห็นที่ 8 ด้วยความเคารพครับ ผมสมาธิสั้นอะ งงเรื่องสัตว์ร้ายนะครับ มันเป็นมายังไงหรือ? จากคุณ : itoursab เขียนเมื่อ : 18 เม.ย. 55 10:00:29