ความคิดเห็นที่ 1 พระพุทธพจน์ . . "ภิกษุทั้งหลาย พรหมจรรย์นี้ เราประพฤติ มิ ใช่เพื่อหลอกลวงคน มิใช่เพื่อให้คนมานิยมนับถือ มิ ใช่เพื่ออานิสงค์ลาภสักการะและสรรเสริญ มิใช่อานิสงค์ เป็นเจ้าลัทธิอย่างนั้นอย่างนี้ฯ ที่แท้พรหมจรรย์นี้ เราประพฤติ เพื่อสังวระ-ความสำรวม เพื่อปหานะ-ความละ เพื่อวิราคะ-ความหายกำหนัดยินดี และเพื่อนิโรธะ- ความดับทุกข์" จากคุณ : บันทึก..การเดินทาง เขียนเมื่อ : 18 เม.ย. 55 17:09:05

ความคิดเห็นที่ 2 อนุโมทนาครับ โหวตครับ พอดีกิฟท์หมดพอดี ไม่งั้นก็จะให้กับ คุณ บันทึก..การเดินทาง คห 1  อนุโมทนาครับ แก้ไขเมื่อ 18 เม.ย. 55 19:41:24 จากคุณ : ต่อmcu เขียนเมื่อ : 18 เม.ย. 55 19:40:25

ความคิดเห็นที่ 3 สาธุ  เช่นกันครับ ท่านต่อ    เข้ามาอ่านก็ถือว่าให้แล้วละครับ  ท่านได้ปัญญา ท่านก็ให้บุญแก่ผมไงครับ. บุญรักษา จากคุณ : สาธุ... (kamnitnoom) เขียนเมื่อ : 18 เม.ย. 55 20:38:54

ความคิดเห็นที่ 4 เรื่องทุดงคอนกรีต นี้ยังไม่จบอีกหรือครับ ? ถ้ายังไม่จบ ผมก็จะช่วยให้ต่อไปอีกหน่อย ดีไหมครับ ? ผมขอถามในนามของผู้นับถือพระพุทธศาสนาคนหนึ่งครับ ..คือผมถือว่า คนที่บวชแล้ว เรียนแล้วรู้แล้วซึ่ง พระธรรม พระวินัย แล้วปฏิบัติ ตามพระธรรมพระวินัย เพื่อรักษาพระธรรมพระวินัย ให้ยืนยาวต่อไปเท่านั้น คือ พระภิกษุสงฆ์ สาวกของพระพุทธเจ้า ใช่ไหมครับ ? ภิกษุ ผู้เรียนมาก รู้มาก แต่เอาความรู้ มากอย่างรู้มากนี้  เพื่อหลบเลี่ยง หลีกบาลี ศรีธนนชัย ทำได้ยังไง ไม่อายฟ้าดิน  หรือครับ ? มีอย่างที่ไหน ป่าคอนกรีต ก็เหมือน กับป่าไม้ พระธุดงค์ ต้องอยู่ห่างจากบ้าน กี่ช่วงธนู ไม่รู้จัก  ท่านประมาท เกินไป คิดว่าท่านมียศใหญ่แล้ว จะพูดจะทำอย่างไรก็ได้ ชาวบ้านก็ต้องเชื่อและทำตาม  พระพุทธศาสนา จะเป็นอย่างไร ก็ช่างปะไร แค่มีคนแสดงแห่ร้องสร้องสรรเสริญก็ยิ่งใหญ่ ใช้ได้แล้ว ใช่ไหมครับ ? แล้ว เมื่อพระผู้ยิ่งใหญ่ทำธุดงค์ มันกลางป่าคอนกรีตได้ แล้วต่อมาถ้ามีพระผู้อื่น ปักกรดมันกลางกรุง ตามสนามหลวง ตามสวนสาธารณะ ตามอนุเสาวรีย์ ประฃาธิปไตย  ก็ได้ เพราะพระผู้ใหญ่ ทำ นำไว้ให้ ยังได้เลย ใช่ไหมครับ ? ถ้าไม่ได้ ก็แสดงว่าสังคมไทย ไม่ยุติธรรม ใช่ไหมครับ? ท่านคิดว่าชาวบ้านอ่านพระไตรปิฎก อ่านพระวิสุทธิมรรค ไม่เป็นใช่ใหมครับ  ? ธุดงค์วัตร อยู่ในพระวิสุทธิมรรค ท่านคิดว่าควรจะอ่าน ทบทวนใหม่ หรือ ฉีกทิ้งดีครับ ?...การท่องสวด ทุกเช้าค่ำ ขอขมาพระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ จะมีความหมายอะไร สวดไปทำไม ? ถ้าใจไม่ระลึก สำนึกผิดอะไรเลย...หรือท่องเล่น ๆ ก็ได้ ก็กินได้ถ่ายได้ เหมือนกันใช่ไหมครับ ? แล้วไม่ต้องเอานรกมาขู่นะครับ ให้ท่านที่เก่งวิชชาธรรมกาย รู้จักผมได้ แล้วค่อยมาขู่นะครับ.... จากคุณ : นิ่งหนอ (นิ่งหนอ) เขียนเมื่อ : 18 เม.ย. 55 23:46:18

ความคิดเห็นที่ 5 หากไม่ลำบาก จขกท จนเกินไป  จะรออ่านตอนต่อๆไป จขกท ช่วยนำมาลงด้วยนะครับ ผมจะส่งต่อให้ท่านอื่นๆอ่านด้วย  มีเพื่อนๆทางโซเชียลมีเดียหลายท่าน  รออ่านอยู่ด้วยครับ แก้ไขเมื่อ 19 เม.ย. 55 00:20:35 จากคุณ : ต่อmcu เขียนเมื่อ : 19 เม.ย. 55 00:19:27

ความคิดเห็นที่ 6 ขอบคุณมากครับ ท่านต่อที่ให้ความสนใจ  อ่านต่อตามไปเลยครับ http://www.pantip.com/cafe/religious/topic/Y11978664/Y11978664.html จากคุณ : สาธุ... (kamnitnoom) เขียนเมื่อ : 19 เม.ย. 55 07:53:57

ความคิดเห็นที่ 7 ในเรื่องการธุดงค์ ผมก็ได้เรียนรู้มาพอสมควร ขอออกความเห็นดังนี้ครับ พระพุทธองค์ตรัสว่า ธุดงค์ 13 นั้น หากภิกษุใด สมาทานแล้ว ทำให้มากแล้ว ย่อมมีคุณอนันต์ แม้จะเป็นเพียงข้อเดียวก็มีคุณกว่าการคุณทั้งหลาย และธุดงค์ 13 นั้น หากภิกษุใดล่วงละเมิดเสีย แม้สักเพียงข้อเดียวก็ถือว่ามีโทษมหันต์เช่นกัน ถึงขันเป็นโมฆบุรุษในชาตินี้ทีเดียว หากยังขืนกระทำก็ย่อมยังตนให้พินาศเสียหลุดจากพระศาสนาทีเดียว        ผมได้ทราบว่า มีเปรียญธรรม 9 ประโยคท่านหนึ่งให้ความเห็นว่า ไม่ผิด เพราะไม่อยู่ในธุดงค์ 13 แล้วสมมุติขึ้นว่าตึกเป็นป่า จึงธุดงค์ได้  แล้วการกล่าวตำหนิพระนั้นเป็นบาป ดังนี้        ในความคิดของผมเห็นว่า ท่านดูถูกพระศาสนามากเกินไปแล้วครับ คิดว่าท่านได้ ป.ธ.9 แล้วจะบิดเบื่อนคำสอนของพระพุทธเจ้าได้หรือครับ แม้พระอรหันต์ที่ได้เห็นพระพุทธเจ้า ยังไม่กล้าที่จะทูลขอแก้ไขในคำสอนได้ แล้วท่านเป็นใครจึงคิดเช่นนี้ได้ ป.ธ.9 เป็นเพียงกระดาษเปล่าที่ท่านได้มา ไม่มีความเป็นพุทธในนั้นเลย ท่านลืมคำสอนของพระพุทธเจ้าไปแล้ว ท่านได้ชื่อว่าเป็น "ภิกษุใบลานเปล่า" เสียแล้ว         และการตำหนิพระภิกษุที่ประพฤติไม่ดี ไม่ถือว่าเป็นบาป เพราะการดูแลพระศาสนาของพระพุทธเจ้านั้น จะประกอบด้วยบริษัท 4  เมื่อพบเห็นหนอนกินใบไม้ ชาวสวนต้องเอาหนอนออกเสีย ต้นไม้จึงจะเจริญ  หากพบเห็นเห็บที่เกาะกินเลือดสัตว์ตัวใด เจ้าของต้องเอาออก เพื่อรักษาชีวิตของสัตว์ตัวนั้น เช่นกัน หากพบเห็นพระภิกษุที่ประพฤติไม่ดี หากไม่ตำหนิให้รู้ตัว หรือไม่นำออกจากพระศาสนา ก็ถือว่า เราเป็นผู้ร่วมทำลายพระศาสนานี้ด้วย  การตำหนิในทางที่ชอบธรรม ถือว่าเป็นการสร้างบารมีอย่างหนึ่ง คือ ความเลื่อมใสศรัทธาในพระพุทธศาสนา เมื่อมีใครหรือภิกษุใดกระทำไม่ดีต่อศาสนา ต้องจับโยนออกจากพระศาสนานี้ไป         เช่นดัง ต้นไม้ใหญ่ เป็นที่อาศัยของหมู่ชนและสัตว์น้อยใหญ่ทั้งหลาย เมื่อมีหนอนมาเจะกินต้นไม้ หากปล่อยไว้ต้นไม้อาจตาย และหมู่ชนและสัตว์น้อยใหญ่ไม่อาจอาศัยร่มเงาได้ ความเดือดร้อนย่อมตามมา         ฉะนั้นสมควรแล้วที่จะช่วยกันดูแลพระพุทธศาสนาสืบต่อไป จากคุณ : อาภสฺสโร (กลุ่มพุทธบุตร) เขียนเมื่อ : 19 เม.ย. 55 12:00:34