ขออนุญาต จขกท ลงธรรมะขององค์ท่านอีกเรื่องนะครับ
ธรรมะใสใส โดย ′พระอารยะวังโส′ ชี้สังคมแตกแยก-วุ่นวาย เพราะ "ศีลธรรมมันเสื่อม ... "
ดือนมกราคมยังถือว่ามีกลิ่นอายของปีใหม่อยู่ไม่น้อย เพราะพึ่งผ่านพ้นช่วงปีใหม่มาไม่นาน บางคนก็ยังรู้สึกว่าความสุขในช่วงปีใหม่ยังพึ่งเกิดขึ้น ขณะที่บางคนอาจจะบอกว่าความสุขช่วงวันปีใหม่ช่างผ่านพ้นไปนานเหลือเกิน อย่างไรก็ตามสิ่งที่ขาดไม่ได้นั่นก็คือการอวยพรซึ่งกันและกันหรือการมอบความมสุขผ่านการอวยพร ด้วยความสุขนานับประการคงจะไม่เท่าชีวิตที่เป็นมงคล ทั้งที่อาจจะไม่จริงเสมอไป ซึ่งหลายคนก็ต่างเลือกแสวงหาไม่เหมือนกัน และในช่วงที่ผ่านมาหากใครที่ยังไม่รับคำอวยพรที่ประเสริฐอย่างเช่นการฟังธรรมะ เพื่อใช้เป็นแนวทางในการดำเนินชีวิต วันนี้เราได้นำความสุขเล็ก ๆ น้อย ๆ ที่ถือว่าเป็นกลิ่นอายของปีใหม่มาฝาก
พระอาจารย์อารยะวังโส เจ้าอาวาสวัดป่าพุทธพจน์หริภุญไชย จังหวัดลำพูน ได้ให้เกียรติมาร่วมเสวนาธรรม ในหัวข้อ "พระพุทธศาสนาในสถานการณ์ปัจจุบัน" เมื่อวันที่วันที่ 7 มกราคม พ.ศ.2554 ณ หอประชุมศรีบูรพา มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ท่าพระจันทร์ ที่จัดโดยกองทุนทำบุญวันเกิดกับธรรมศาสตร์ ท่ามกลางการให้ความสนใจของพุทธศาสนิกชน และบรรยากาศการสนทนาธรรม "มติชนออนไลน์"เก็บความว่านำเสนอดังนี้
พระอาจารย์อารยะวังโส เสวนาธรรมว่า ทุกคนต้องยอมรับร่วมกันว่าพระพุทธศาสนาให้ความสันติ ซึ่งถือว่าเป็นปรากฎการณ์อันหนึ่ง ให้ความสงบสุข อนุเคราะห์โลก เอาอย่างประเทศเรา ถ้าเรายังดำเนินวิถีชีวิตในพระพุทธศาสนาอย่างถูกต้องและเข้มแข็ง เราก็จะก้าวสู่ความเจริญเติบโตอย่างมีระบบ และความสุขของประชาชาติก็ต้องย่อมมี เราต้องมามองความหมายว่าวันนี้พวกเรารู้คุณค่าของพระพุทธศาสนามากน้อยแค่ไหนก่อน
ก่อนจะตอบปัญหาว่าประเทศเราจะสงบสุขได้อย่างไร เพราะหากถ้าตอบลึกไป ปรากฎว่าคนฟังทั้งหลายยังไม่รู้คุณค่าของพระพุทธศาสนา ก็ย่อมตอบยาก หรือปัญหาอยู่ที่ว่าเรายอมรับหรือไม่ว่าพระพุทธศาสนาเป็นหลักธรรมที่บริสุทธิ์จริง ๆ และยอมรับได้หรือไม่ว่าพระพุทธศาสนาเกิดขึ้นในโลกนั้นโลกนี้แล้วนำไปสู่ความสุข ความสงบได้ หรือแม้กระทั่งเรายอมรับได้หรือไม่ว่าพระพุทธศาสนาเกิดในเขตแดนเวลานี้แล้วเป็นมงคลอันยิ่งแก่เด็กทั้งหลาย เรายอมรับได้หรือไม่ว่าเราเกิดมาชาตินี้แล้วเรามีบุญ มีวาสนา สิ่งเหล่านี้เป็นตัวตั้งเพราะความรู้สึกเหล่านี้มันถูกตั้งขึ้นมาให้เข้าใจ และรู้เห็นทางจิตวิญญาณ
พระพุทธศาสนาในอินเดียนั้นมันเป็นเรื่องของจิตวิญญาณ คนที่นับถือศาสนาฮินดูที่หันมานับถือศาสนาพุทธก็ใช่ว่าจะมาจับทันที ต้องเข้ามาฝังตัวอยู่กับพุทธศาสนา 7-8 ปี เขาทุ่มเทมากที่จะให้กลุ่มของเขาได้เรียนรู้ความบริสุทธิ์ ได้เห็นคุณประโยชน์ของพระพุทธ ศาสนา เพราะโครงสร้างของคนที่นับถือพระเจ้าในชมพูทวีปนั้นมันยากที่จะเปลี่ยนได้ แต่เขาก็เชื่อว่าเขาเกิดมาอย่างนี้ เป็นทุกข์ เพราะฉะนั้นการเปลี่ยนแปลงมันจึงค่อยเปลี่ยนความรู้สึก ความรู้สึกดังกล่าวก็คือการเรียนรู้ในสิ่งที่ให้เห็นว่าพระพุทธศาสนานั้น มุ่งไปที่หลักธรรม หนีเรื่องเทวนิยม เอาเรื่องพระพุทธศาสนาเข้ามาแก้ความเชื่อของฮินดู จะให้มาแก้เรื่องความเชื่อในเร็ววันนั้นก็ยาก
ในบ้านเรา เราเป็นประเทศพระพุทธศาสนา ตั้งแต่พุทธศตวรรษที่ 17 หรือยุคสุโขทัยเป็นต้นมาจนถึงปัจจุบัน เราเป็นเถรวาทสืบเนื่องมายามนานหลายร้อยปี สิ่งหนึ่งที่น่าสนใจก็คือว่าเราเข้าวัด เราปฏิบัติ อยู่ใกล้วัด เห็นพระมากมาย การสร้างความสำนึกในพระพุทธศาสนาเรามีหรือยังในฐานะชาวพุทธ ความสำนึกตรงนี้ถ้ามันไม่เกิดขึ้นแล้วจะมาทำอย่าวนั้นอย่างนี้ก็เป็นไปไม่ได้ เพราะมันเป็นเรื่องของจิตวิญญาณ คนในชมพูชวีปเขาจะพูดชัดเลยว่า "การอยู่อย่างไม่มีศาสนาไม่ใช่ฐานะของมนุษย์"
ฉะนั้นศาสนาจึงให้ความเสมอภาค และสิ่งที่จะนำไปสุ่ความสุขอย่างสันติก็คือพุทธศาสนา เมื่อเราปลูกฝังความรู้สึกเหล่านี้ลงไปกระบวนการปฏิบัติก็ย่อมเกิดขึ้นตามรูปแบบว่าจะทำอย่างไรให้คนกลับมาสู่ความเป็นชาวพุทธ ถอยออกจากการบูชาเทพ มาเป็นพุทธศาสนิกชน ทิ้งการบรวงสรวง ความเชื่อในภาวะแห่งการยึดถือภายนอกมาเป็นพัฒนาจิตภายใน อันที่จริงคนไทยเรามันอยู่ที่จิตสำนึก และคำถามเหล่านี้อันที่จริงก็ตอบไม่ยากด้วย
อย่างไรก็ตามก็ต้องตั้งคำถามว่าเราสำนึกในพระพุทธศาสนาหรือไม่ และความสำนึกที่เกิดขึ้นได้อีกอย่างหนึ่งคือการรู้และเข้าใจด้วยปัญญา อีกอย่างก็คือเมื่อเราเห็นทุกข์เราต้องการเครื่องอาศัย ถ้าเราเห็นโทษของโลก เราเห็นโทษของวิกฤตการณ์ของประเทศไทยที่เกิดขึ้น เราต้องกลับมาคิดว่าวิกฤตการณ์ที่เกิดขึ้นในเขตแดนที่สังคมแตกแยก มีแต่ปัญหา เกิดความวุ่นวาย นั่นก็คือ "ศีลธรรมมันเสื่อม"
สำหรับ พระอาจารย์อารยะวังโส ท่านได้เดินทางไปยังที่ต่าง ๆ ในดินแดนชมพูทวีป เพื่อแสดงธรรมและศึกษาธรรมะตามรอยของพระพุทธเจ้า รวมถึงการร่วมกิจกรรมทางพระพุทธศาสนาในเมืองไทยจนเป็นที่เคารพสักการะของพุทธศาสนิกชนอย่างกว้างขวาง
อ้างอิง
http://www.matichon.co.th/news_detail.php?newsid=1294540821&grpid=01&catid=&subcatid
แก้ไขเมื่อ 19 เม.ย. 55 11:06:57
จากคุณ |
:
ต่อmcu
|
เขียนเมื่อ |
:
19 เม.ย. 55 11:05:45
|
|
|
|